เธอคือลมหายใจของฉัน

เธอคือลมหายใจของฉัน

ณัฏฐินี แก้วมณีงาม

สมัยใหม่ | 1  บท/วัน
4.8
ความคิดเห็น
18.5M
ชม
1476
บท

"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน

บทที่ 1 หนังสือข้อตกลงการหย่า

“ลุงโจว๋คะ นี่ค่ะ หนังสือข้อตกลงการหย่า ฉันเซ็นชื่อเรียบร้อยแล้วค่ะ รบกวนลุงโจว๋ เอาให้โฮว่หลิงเฉินด้วยนะคะ”

เป็นเรื่องไม่ง่ายเลยที่เหนียนหย่าเสวียน จะตัดสินใจเซ็นชื่อลงในหนังสือข้อตกลงการหย่า ก่อนจะนำมาให้อี้จูน พ่อบ้านประจำตระกูล

อี้จูนอ่านเอกสารดูคร่าว ๆ แต่อ่านได้เพียงแค่สองสามคำก็ถึงกับถอนหายใจออกมา “เฮ้อ หย่าเสวียน! ทำไมคุณถึงได้ซื่อขนาดนี้นะ? ผมเข้าใจ ถ้าคุณต้องการหย่ากับคุณชาย เพราะตลอดระยะเวลาสามปีมานี้คุณก็ไม่เคยเจอคุณชายเลยสักครั้ง แต่ทำไมคุณถึงเลือกที่จะไปตัวเปล่า ไม่เรียกร้องอะไรเลยล่ะ?”

หย่าเสวียนเป็นเพียงนักศึกษามหาวิทยาลัยเท่านั้น พ่อของเธอเสียชีวิตในขณะที่เธอไม่รู้ว่าแม่ของเธอเป็นใคร อี้จูนคิดว่า การที่เธอตัดสินใจหย่า เป็นการตัดสินใจที่ผิด แล้วนี้เธอยังเลือกที่จะไม่เรียกร้องอะไรเลย

หย่าเสวียนเกาหัวอย่างเขิน ๆ อี้จูนดูแลเธอเหมือนเป็นลูกสาวแท้ ๆ ดังนั้นเธอจึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องปิดบังอะไรเขา “ฉัน... ฉันอยากลาออกจากมหาวิทยาลัยค่ะ” เธอพูดตะกุกตะกัก

“อะไรนะ? หย่าเสวียน ทำไมจู่ ๆ ถึงอยากลาออกล่ะ? มีอะไรรึป่าว? หรือว่ามีอะไรที่ทำให้เธอลำบากใจ ?” อี้จูนเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ

“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ! ลุงโจว๋คิดมากไปได้ ลุงก็รู้อยู่แล้วว่า ฉัน...ไม่ชอบเรียนหนังสือ ฉันแค่ไม่อยากเสียเวลาก็เท่านั้น” เธออธิบาย

แท้ที่จริงแล้ว การลาออกจากมหาวิทยาลัยนั้นเป็นแค่ข้ออ้างที่เธอกุขึ้นมาเท่านั้น เหตุผลที่แท้จริง มีแต่เธอเท่านั้นที่รู้

เธอเงียบไปครู่หนึ่ง ความคิดหลายอย่างแล่นเข้ามาในหัวของเธอ พรุ่งนี้เป็นวันเกิดอายุยี่สิบเอ็ดปีของเธอ และยังเป็นวันครบรอบวันแต่งงานปีที่สามของเธออีกด้วย

เธออายุเพียงแค่ยี่สิบเอ็ดปี ถือว่ายังเด็ก เธอไม่อยากเสียเวลา ไปกับการแต่งงานเพียงแค่ในนามอีกต่อไป

เธอไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้าสามีของเธอ เพราะงั้นเธอก็ไม่ได้รู้สึกอาลัยอาวรณ์อะไร ตอนแรกที่เธอตัดสินใจแต่งงาน เป็นเพราะความประสงค์ของพ่อเท่านั้น

ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ต้องการพูดอะไรอีก อี้จูนจึงรับปาก “ถ้าคุณคิดดีแล้ว ผมจะ...” เขาหยุดรอให้เธอพูด “พรุ่งนี้ผมจะเอาใบหย่าไปให้คุณชายหลิงเฉิน” อี้จูนพูดพลางถอนหายใจ เมื่อเธอไม่พูดอะไรต่อ

“ขอบคุณมาก ๆ นะคะลุงโจว๋” หย่าเสวียนถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ก่อนจะส่งยิ้มหวานให้เขา

อี้จูนลุกขึ้นยืน และพูดกับเธอด้วยความหวังดีว่า “หย่าเสวียน คุณชายหลิงเฉินเขาเป็นคนดีนะ ผมว่าพวกคุณเหมาะสมกันมาก ผมหวังว่าคุณจะคิดให้รอบคอบอีกครั้งนะ ถ้าคุณเปลี่ยนใจเมื่อไหร่ โทรหาผมได้เสมอนะ”

คำพูดของเขาทำให้เธอรู้สึกแปลกใจ เหมาะสมกันงั้นเหรอ? วันนั้นโฮว่หลิงเฉินกำลังร่วมรับประทานอาหารกับท่านประธานาธิบดีอยู่ที่ต่างประเทศ ตัวเขาแทบไม่ต้องทำอะไร ทะเบียนสมรสก็ถูกจัดการเรียบร้อย รวมทั้งรูปคู่ในทะเบียนสมรสของพวกเขา ก็เป็นรูปที่ตัดต่อขึ้น

ในช่วงเวลาสามปีที่ผ่านมา มันชัดเจนแล้วว่า เขาเองก็ไม่ได้อยากจะแต่งงานกับเธอ ทำไมลุงโจว๋ถึงพูดว่าเหมาะสมกัน? หย่าเสวียนรู้สึกสับสนไปหมด

หลังจากได้สติ เธอก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะพูดต่อ เธอตั้งใจจะพูดว่า “ฉันคิดดีแล้ว” แต่เธอกลับไม่ได้พูดมันออกมา เพราะไม่ต้องการให้อี้จูนต้องเป็นห่วง เธอจึงตอบสั้น ๆ ว่า “ค่ะ” แทน

อี้จูนรอเธอจนถึงบ่ายของวันถัดมา แต่เขาก็ต้องผิดหวังเมื่อหย่าเสวียนไม่ได้โทรหาเขา เขาจึงค่อย ๆ หยิบมือถือออกมา แล้วต่อสาย “คุณชายครับ ผมมีเอกสารต้องการส่งให้คุณเซ็นครับ” เขากล่าวอย่างนอบน้อม

“เอกสารอะไร” โฮว่หลิงเฉินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ที่แฝงไปด้วยความเย็นชา อี้จูนรู้สึกได้ถึงน้ำเสียงที่เรียบเฉยของหลิงเฉิน

เขาลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนจะตอบว่า “ข้อตกลงการหย่าครับ”

มือที่กำลังง่วนอยู่กับการจัดการเอกสารได้หยุดชงักลง หลิงเฉินหลับตาลงพลางขมวดคิ้วราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบ้างอย่าง

ทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ว่าเขามีภรรยาแล้ว ถ้าอี้จูนไม่เตือน เขาคงลืมแล้วด้วยซ้ำว่าเขาแต่งงานและมีภรรยาแล้ว

“เอาไปวางไว้ที่ห้องทำงานผม ผมจะกลับเมืองเยว่อีกสองสามวันนี้” หลิงเฉินพูดอย่างเย็นชา

“ครับ คุณชาย” อี้จูนรับคำแล้ววางสาย

ในขณะเดียวกัน ณ บลูไนท์บาร์ในเมืองเยว่ บาร์นั้นสว่างไสวและเต็มไปด้วยผู้คน

เมื่อท้องฟ้าเริ่มมืดมิดหนุ่มสาวต่างพากันมารวมตัวที่บาร์แห่งนี้

ภายในห้องห้าศูนย์หนึ่ง

บนโต๊ะเต็มไปด้วยเบียร์ เหล้าขาว แชมเปญ รวมไปถึงของกินเล่นต่าง ๆ โดยเจ้าของงานก็คือหย่าเสวียน ซึ่งมีอายุครบยี่สิบเอ็ดปีในวันนั้น

เมื่อก่อนเพื่อน ๆ มักจะเรียกเธอว่า “เฮียเหนียน” เนื่องจากวันนี้เป็นวันเกิดของเธอ เธอเลยสวมชุดลูกไม้สีชมพู เป็นอะไรที่ไม่ค่อยเห็นได้บ่อยนัก เพราะปกติเธอมักจะใส่เสื้อเชิ้ตและกางเกงยีนส์ เลยมีผู้มาร่วมงานจำนวนมากหยิบมือถือขึ้นมา เพื่อต้องการที่จะถ่ายรูปกับหย่าเสวียน

หลังจากที่ปลีกตัวออกมาจากกลุ่มผู้หญิงพวกนั้นได้ หย่าเสวียนก็ไปดื่มกับเพื่อน ๆ ของเธออย่างมีความสุข ของขวัญที่หย่าเสวียนได้รับจากเพื่อน ๆ นั้นมีจำนวนมาก วางซ้อนกันอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง

ห้วยหมิงที่เริ่มจะมึน ๆ เล็กน้อย เขาเอื้อมมือไปโอบไหล่เพื่อน แล้วร้องเพลง “รักเกลียดพลิกผันเพียงพริบตา ยกจอกตั้งสัตย์ต่อจันทร์เฉกฟ้า...” เสียงร้องของเขา

นั้นแหลมเล็ก ทำเอาสาว ๆ หลายคนถึงกับปิดหู

“นี่ ห้วยหมิง มานี่มา เลิกร้องเพลงก่อน เรามาเล่นเกมกันดีกว่า” เสี่ยวเคอเป็นคนอัธยาศัยดี เขาเรียกเพื่อนที่กำลังร้องเพลงอยู่ทั้งสองให้มานั่ง

คนในหอพักของหย่าเสวียนต่างเรียกเธอว่าพี่ใหญ่ เพราะว่าเธอมีอายุมากกว่าคนอื่น

เสียงตะโกนของเธอทำให้ภายในห้องเงียบลง หนุ่มสาวกว่าสิบคนต่างพากันไปล้อมวงอยู่ที่โต๊ะตัวยาวสองตัวพลางมองเสี่ยวเคออย่างใจจดใจจ่อ

เธอเป็นสาวสายปาร์ตี้ และฮอตที่สุดในบรรดาเพื่อนร่วมชั้น

เสี่ยวเคอมองทุกคนอย่างมีเลศนัยก่อนจะพูดขึ้นว่า “เรามาเล่นเกมพูดความจริงหรือเลือกรับคำท้า กันเถอะ!”

เพื่อน ๆ หลายคนมองเธอด้วยสายตาผิดหวัง “พี่เสี่ยวเคอ เกมนี้เล่นจนเบื่อแล้ว!” ขณะเดียวกันห้วยหมิงทายาทมหาเศษฐีผู้ร่ำรวย ก็หันมามองเสี่ยวเคอ เขาเหลือบตาทั้งสองขึ้นด้านบนอย่างเบื่อหน่อย เขาคิดว่ามันเป็นเกมที่ไม่สร้างสรรค์เอาซะเลย

เสี่ยวเคอจ้องห้วยหมิงกลับอย่างท้าทาย และพูดต่อ “วันนี้เป็นวันเกิดปีที่ยี่สิบเอ็ดของ หย่าเสวียน เพราะงั้นเรามาเล่นอะไรที่น่าตื่นเต้นกันเถอะ!” เธอยิ้มเหมือนมีลับลมคมใน ทำเอาคนอื่น ๆ ต่างรู้สึกหวาดกลัวไปตาม ๆ กัน

เนื่องจากทุกคนในงานยังเป็นนักศึกษา หลายคนจึงยังไร้เดียงสาอยู่ เมื่อก่อนหากเล่มเกมพูดความจริง หรือเลือกรับคำท้า ถ้าเลือกรับคำท้าอย่างมากก็แค่ ท้าให้ร้องเพลงเสียงสูง หรือแบกเพื่อนที่เป็นเพศตรงข้ามไปรอบ ๆ ห้อง ไม่ก็ร้องเพลงรักกับเพื่อนที่เป็นเพศตรงข้ามอะไรทำนองนี้

เกมพูดความจริงหรือเลือกรับคำท้า ที่ทุกคนรอคอยกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว เสี่ยวเคอเห็นหย่าเสวียนที่กำลังถือแก้วไวน์ในมือ เขาได้ขยิบตาให้คนอื่น ๆ ซึ่งทุกคนก็เข้าใจอย่างรวดเร็วว่าเธอกำลังวางแผนอะไรอยู่

“ผู้แพ้ในรอบนี้ ต้องเดินออกไปที่ประตู เลี้ยวขวา แล้วจูบเพศตรงข้ามที่เจอเป็นคนแรก ต้องจูบปากเท่านั้นนะ หากใครไม่ยอมทำละก็ ต้องดื่มเหล้านี่ทั้งหมดสิบแก้วเป็นการลงโทษ” เสี่ยวเคอกล่าวขึ้น

ทุกคนต่างพากันตื่นเต้นกับเกม บรรยากาศก็เริ่มคึกคักขึ้นมา ในสายตาของพวกเขา มันช่างน่าตื่นเต้นซะเหลือเกิน ห้วยหมิงยิ้มออกมา และไม่ได้กล่าวอะไรต่อ เขารู้ดีว่าคนพวกนี้เป็นยังไง

หลังจากที่เป่ายิ้งฉุบกันเสร็จแล้ว สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่หย่าเสวียนที่กำลังงุนงงอยู่

เธอเหลือบมองตัวเองที่ออกกรรไกร และมองไปที่เสี่ยวเคอที่กำลังยิ้มอย่างมีเลศนัย เธอออกค้อน และคนที่แพ้ก็คือเธอนั่นเอง เธอเบิกตากว้างด้วยความอึ้ง

“ฉันเกลียดเธอ เสี่ยวเคอ!” เธอตะโกนออกมา เมื่อนึกถึงสิ่งที่ต้องทำ มันทำให้เธอรู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมา ตอนนี้เธอเมาจนแทบจะเดินตรงไม่ไหว คงไม่สามารถจะดื่มเหล้าได้ถึงสิบหรอกนะ

ทุกคนกำลังหัวเราะ มองหย่าเสวียนที่กำลังเดินไปที่ประตูอย่างมึน ๆ เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะเปิดประตูออกไป

เธอเลี้ยวขวาตามที่บอก

แล้วก็พบกับผู้ชายคนหนึ่ง เขาค่อนข้างสูง สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวสบาย ๆ กางเกงสแล็คสีดำ และรองเท้าหนังสีดำที่เงาวับ

เขาน่าจะอายุยี่สิบต้น ๆ และสูงประมาณร้อยแปดสิบเซนติเมตร ดวงตาของเขาดำขลับ คิ้วเข้มและหนา จมูกของเขาโด่งเป็นสัน ริมฝีปากสวยได้รูป ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารูปลักษณ์ของเขานั้นโดดเด่นและดูสง่ายิ่งนัก

ทว่า แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา จนคนที่ไม่เคยกลัวอะไรอย่างหย่าเสวียน รู้สึกกลัวและอดไม่ได้ที่จะถอยหลังกลับมา

“ว้าว เขาหล่อมาก! เฮียเหนียน เร็วเข้า! พวกเรากำลังดูอยู่นะ” เสี่ยวเคอที่แอบอยู่หลังประตูกระซิบเบา ๆ หย่าเสวียนยืนตัวแข็งอยู่ครู่หนึ่ง เธอรู้สึกว่า ผู้ชายคนนี้ดูคุ้นมาก เหมือนว่าจะเคยเจอกันที่ไหนมาก่อน?

เมื่อได้ยินเสียงของเสี่ยวเคอ เธอจึงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ รวบรวมความกล้าและเข้าไปขวางเขาไว้

พอเริ่มเข้าไปใกล้ ๆ ก็รู้สึกว่า ‘ตัวเองเคยเจอกับผู้ชายคนนี้มาก่อน แต่ก็ช่างเถอะ ฉันควรจะรีบทำให้มันจบ ๆ ไป’

เธอเดินเข้าไปหาผู้ชายคนนั้นอย่างกล้าหาญ ยิ้มหวานให้เขา ยืนเขย่งปลายเท้าและโน้มคอของเขาลงมา กลิ่นโคโลญจน์ของเขาเตะจมูกเธออย่างจัง

หลิงเฉินกำลังมองหาที่เงียบๆเพื่อโทรศัพท์ แต่กลับถูกผู้หญิงคนนึงขวางไว้

เขาขมวดคิ้วขึ้นเมื่อเธอเริ่มจะเข้าใกล้เขา

และก็มีบางอย่างแล่นเข้ามาในใจเขา ‘ผู้หญิงคนนี้ ทำไมช่างคุ้นเหลือเกิน? ดวงตาคู่นั้น...! หลิงเฉินพยายามคิด

ขณะที่เขากำลังคิดว่าเธอเป็นใคร หย่าเสวียนก็จูบไปที่ริมฝีปากของเขาเบา ๆ โดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ณัฏฐินี แก้วมณีงาม

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ยากที่จะเอาใจ

ยากที่จะเอาใจ

Charlotte
5.0

มีข่าวลือว่า ลูกเลี้ยงของตระกูลเสิ่นทำทุกอย่างเพื่อเข้าวงการแต่งงานกับตระกูลหลิน หลังจากถูกหลินอี้ฟานทิ้ง เธอก็เล็งไปที่หลินเหยียนเซิง แต่ไม่มีใครรู้ว่า ก่อนแต่งงาน เบ่ยหลินถูกหลินเหยียนเซิงวางแผนอย่างไร้ปรานี เมื่อเป็นคุณนายหลินในขณะตั้งครรภ์ เบ่ยหลินเพียงหวังว่าจะได้คลอดลูกอย่างปลอดภัย แม้วันแต่งงานวันแรกหลังจากนั้น จะมีข่าวลือกับรักเก่าของเขาเป็นที่พูดถึงกันทั่วเมือง เธอก็ยังคงเฉยเมย และยังส่งข้อความไปเตือนให้เขาระวังเรื่องปิดม่านครั้งหน้า แต่คืนนั้น เบ่ยหลินก็ถูกเขาดักไว้ที่มุมกำแพง “ภรรยาที่รัก ผมผิดไปแล้ว...” หลังแต่งงาน หลินเหยียนเซิงถึงได้รู้ว่า ที่แท้เมียของเขานั้นยากที่จะเอาอกเอาใจขนาดไหน

หลังจากออกจากงานก็โดนเจ้านายเก่ารังควาน

หลังจากออกจากงานก็โดนเจ้านายเก่ารังควาน

Sebastian
5.0

ซ่งเซียงทำสิ่งที่น่าอายที่สุดในชีวิต คือการเป็น "เลขานุการส่วนตัว" ให้กับเหยียนลี่หานนานถึงห้าปี เธอมอบทุกสิ่งให้เขา แต่ผู้ชายที่น่ารังเกียจกลับบอกว่าเบื่อ แล้วส่งเธอไปอยู่ในที่ที่ห่างไกลไม่มีใครสนใจ ชีวิตที่ถูกส่งไปอยู่ที่ห่างไกลนั้นไม่ง่าย แต่โชคดีที่เคราะห์ร้ายได้ผ่านพ้นไป เมื่อซ่งเซียงมาถึงระดับล่าง ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ปวดหลังปวดขาก็หายเป็นปลิดทิ้ง เธอจึงอดทนทำงานหนักจนประสบความสำเร็จ มีหนุ่มน้อยมาไล่ตาม ผู้ใหญ่ใจดีมอบผลงานให้ พ่อที่ไม่เคยพบหน้าเป็นมหาเศรษฐีใกล้ตาย พยักหน้าก็ได้รับมรดก ชีวิตมีขึ้นมีลงอยู่เสมอ เหยียนลี่หานคนโชคร้ายแน่ๆ! ในงานเลี้ยงเหยียนลี่หานถือแก้วไวน์ มองไปที่อดีตเลขานุการที่ไม่ได้เจอหลายวันด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย "ยังคิดถึงฉันจนต้องมาที่งานเลี้ยงนี้ใช่ไหม?" ซ่งเซียงยิ้มเยาะ "คุณเหยียน ฉันไม่ได้เชิญคุณนะ" เหยียนลี่หานตอบ "เธอคิดอะไรอยู่?"

รักร้ายจอมทระนง

รักร้ายจอมทระนง

มาชาวีร์
5.0

“แหวนไปไหน” “คะ” หญิงสาวรีบหดมือหนีในทันที “พี่ถามว่าแหวนไปไหน” คริษฐ์ยังย้ำคำถามเดิมแล้วจ้องหน้าคู่หมั้นสาวแบบไม่พอใจ “คืออยู่ที่ออฟฟิศมันต้องล้างแก้วกาแฟบ่อย ๆ รุ้งก็เลยถอดเก็บเอาไว้ค่ะกลัวมันจะสึกเสียก่อน” คำตอบของหญิงสาวค่อยทำให้คริษฐ์รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย “ถ้าถอดออกพี่จะถือว่ารุ้งขอถอนหมั้นพี่นะ” “ก็ไม่ได้ถอนสักหน่อย แค่ถอดเก็บเอาไว้เฉย ๆ” “งั้นก็ใส่เสียสิ เดี๋ยวนี้เลย” คริษฐ์ถลึงตาใส่แกมบังคับ “ใส่ก็ใส่ค่ะ” คนพูดตัดพ้อเล็กน้อย แล้วหันไปหยิบกระเป๋าด้านข้างมาเปิดเพื่อหยิบแหวนหมั้นของตนออกมาสวมใส่ จากนั้นก็หันหลังมือให้เขาดู “พอใจหรือยังคะ” “ดี” “ว่าแต่พี่คริษฐ์มานั่งรอรุ้งทำไมคะ มีธุระสำคัญหรือเปล่า” หญิงสาววกมาหาคำถามแรกที่เธออยากรู้ แต่เขาดันจุดประเด็นเรื่องแหวนขึ้นมาแทรกเสียก่อน “แม่ให้พี่มาหาคู่หมั้นตัวเองบ้าง” ฟังเขาพูดแล้วรุ้งพรายชักเครียดขึ้นมาหน่อย ๆ “ถ้าคุณป้าพิมพ์ไม่บอกพี่คริษฐ์ก็คงไม่มาหารุ้งใช่ไหมคะ” “แล้วทำไมรุ้งถึงไม่ไปหาพี่เองบ้างล่ะ” “ก็รุ้งกลัวพี่คริษฐ์รำคาญ” บทสนทนาสิ้นสุดลงด้วยความเงียบด้วยกันทั้งสองฝ่าย คริษฐ์ถอนหายใจเบา ๆ ส่วนรุ้งพรายก็ก้มหน้าต่ำลง ทำไมถึงได้รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก “พี่ไลน์หาอ่านแล้วทำไมไม่ตอบ” คริษฐ์เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนหลังจากเงียบมาเกือบหนึ่งนาที “พอดีรุ้งมาอ่านตอนดึกแล้วไม่อยากรบกวนพี่คริษฐ์ค่ะ” “ตอบมาสักคำก็ยังดี อย่าทำเหมือนพี่ไม่มีตัวตนนะรุ้ง จำเอาไว้ด้วยว่าพี่เป็นคู่หมั้นของรุ้ง” “มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้นะคะพี่คริษฐ์” “อะไรกันที่ว่าไม่น่าจะเป็นแบบนี้” “รุ้งว่าเราถอนหมั้นกันดีกว่าไหมคะ ดูพี่คริษฐ์อึดอัดกับการหมั้นของเราเหลือเกิน ขนาดจะมาหารุ้งก็ต้องให้คุณป้าพิมพ์บังคับมาเลย” “แม่ไม่ได้บังคับพี่” “ไม่บังคับก็เหมือนบังคับนั่นแหละค่ะ ตั้งแต่ตอนเด็กแล้วพี่ คริษฐ์แทบไม่เคยขัดใจคุณป้าพิมพ์ได้เลย ถ้ามันเหนื่อยและยุ่งยากมากรุ้งขอถอนหมั้นไปเลยก็ได้ค่ะ” รุ้งพรายดึงแหวนออกจากนิ้วนางข้างซ้าย แล้ววางแหมะอยู่ตรงหน้าของเขา คริษฐ์มองแหวนมองคนแล้วอารมณ์ของเขาก็เดือดดาลขึ้น บทจะอยากได้ก็วิ่งตามติดเป็นเงา บทจะสลัดทิ้งก็ง่าย ๆ แบบนี้เหรอรุ้งพราย “ใส่กลับไปเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มแทบจะกัดฟันพูดออกมา “ไม่ค่ะ อ๊ะ! พี่คริษฐ์จะทำอะไรรุ้งไม่ใส่” รุ้งพรายถูกคริษฐ์กระชากมือมาแล้วจัดการสวมแหวนกลับที่เดิม “ใส่แล้วห้ามถอด ห้ามทำให้แม่พี่เสียใจรู้ไหม” “พี่คริษฐ์!” (รักร้ายจอมทระนง)

พวกเจ้าคอยดู ข้าไม่ปล่อยไว้แน่

พวกเจ้าคอยดู ข้าไม่ปล่อยไว้แน่

Ellary Delossa
5.0

หยุนม่านชิง บุตรสาวของฮูหยินเอกจากจวนโหวหวยอัน ซึ่งถูกสลับตัวตอนอายุยังน้อย และเติบโตในชนบท เมื่อนางได้กลับมาที่จวนท่านโหวหวยอัน นางคาดหวังความรักและความอบอุ่นจากครอบครัว แต่ไม่คาดคิดว่าเป็นเพียงภาพลวงตาจวนโหวถูกยึดครองโดยหยุนโหรวเจียที่เป็นลูกสาวปลอม ในการวางแผนของลูกสาวปลอมและคู่หมั้นของนาง หยุนม่านชิงต้องแต่งงานในฐานะอนุภรรยา ต้องทำตัวนอบน้อมและก้มหัวให้ทุกคนเพื่อเอาใจคนในบ้าน นางคิดว่าจะได้ความรักและความสามัคคีในครอบครัว แต่กลับต้องถูกทำร้ายอย่างต่อเนื่องจนถึงแก่ชีวิตเมื่อนางลืมตาขึ้นอีกครั้ง นางกลับมาสู่วันที่เปลี่ยนโชคชะตาของนาง หยุนม่านชิงไม่ยอมอดทนอีกต่อไป นางค่อยๆ เผยโฉมหน้าที่แท้จริงของลูกสาวปลอม ไม่ได้ต้องการความรักที่เป็นเพียงภาพลวงอีก และได้เรียกคืนทุกสิ่งที่เป็นของนางทีละนิดเมื่อนางตัดสินใจที่จะตัดขาดจากจวนท่านโหวอย่างสิ้นเชิง คนทั้งจวนกลับคุกเข่าขอร้องไม่ให้นางจากไป!

อาญารักเจ้าพ่อกาสิโน

อาญารักเจ้าพ่อกาสิโน

pimchan publication
5.0

นิโคลาส อัครวินธ์ ปีเตอร์สัน แทบอยากแหงนหน้าหัวเราะก้องฟ้าเมื่อได้ยินถ้อยคำจากผู้หญิงตัวเล็กเท่าเมี่ยงที่เป็นเพียงลูกจ้างตำแหน่งกระจอกๆ ในโรงแรมหรูติดอันดับโลกของเขา... หล่อนกล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่า เขาเป็นผู้ชายที่ห่วยไม่น่าเอามาทำพันธุ์เป็นที่สุด พูดต่อหน้าเขาเสียด้วย โอ้พระเจ้า... หล่อนช่างกล้า หรือว่านั่นจะเป็นเพียงการเรียกร้องให้คนอย่างเขาสนใจหล่อนมากขึ้นกันแน่ เมื่อสาวค่อนโลกไม่ได้คิดว่าเขาห่วยอย่างที่หล่อนคิด ผู้บริหารโรงแรมและกาสิโนในเครือปีเตอร์สันกรุ๊ปที่ได้รับเชิญเป็นอาจารย์สอนพิเศษที่เคมบริจด์ซ้ำยังมีมีรูปร่างหน้าตาระดับนายแบบระดับท๊อปเท็นของอเมริกันอย่างเขาจะเป็นผู้ชาย ห่วย ได้อย่างไร “ผมขอโทษที่ผมห่วยครับคุณผู้หญิง แต่ผมก็ต้องการบอกให้คุณทราบว่าถึงผมจะห่วย แต่ผมก็มีมารตรฐานสูง สูงมากกว่าคุณหลายเท่า... ไม่มีทางที่ผมจะเข้าไปข้องแวะกับคุณให้คุณต้องปฏิเสธผมแน่นอนเบบี๋ ได้โปรดอย่าใฝ่ฝันถึงวันนั้น เพราะมันไม่มีทางมาถึง” ถ้อยคำตอกกลับที่เหมือนจะเหยียบย่ำพนักงานระดับล่างสุดของโรงแรมเขาให้เลิกใช้วาจาของหล่อนล่วงเกินเขาอย่างเหิมเกริมนั้นกลับกลายมาเป็นเหตุให้เขาต้องกลืนน้ำลายตัวเองอย่างเสียไม่ได้ เมื่อมีเหตุให้ต้องไปตอแยหล่อนถึงเนื้อถึงตัวหลายหน แต่นั่นไม่ใช่เพราะว่าเขาพิศวาสหล่อนแม้แต่น้อย แต่เพราะความจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้มันบังคับ ไม่อย่างนั้นเขาไม่ลงทุนไปคลุกคลีกับผู้หญิงที่ห่างไกลสเป็คเขาเป็นล้านโยชน์เช่นหล่อนแน่นอน เขาเอาใจหล่อนราวกับหล่อนเป็นเจ้าหญิงได้ไม่กี่วันหรอก ได้สิ่งที่ต้องการแล้วเขาจะสลัดหล่อนทิ้งเหมือนรองเท้าเก่าๆ ให้ได้เป็นผู้ชาย ห่วย สมใจหล่อนแน่

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
เธอคือลมหายใจของฉัน
1

บทที่ 1 หนังสือข้อตกลงการหย่า

10/01/2022

2

บทที่ 2 โฮว่หลิงเฉิน

10/01/2022

3

บทที่ 3 ศาสตราจารย์สุดโหด

10/01/2022

4

บทที่ 4 คุณไม่มีปัญญาจ่าย

10/01/2022

5

บทที่ 5 แผนใหญ่

10/01/2022

6

บทที่ 6 คุณคิดว่าคุณเป็นเจ้าของหรือไง

11/01/2022

7

บทที่ 7 ฉันไม่อยากเป็นคุณนายโฮว่แล้ว

11/01/2022

8

บทที่ 8 ผมจะกลับเมืองเย่แล้ว

11/01/2022

9

บทที่ 9 ทางเลือกที่สาม

11/01/2022

10

บทที่ 10 พิธีมอบรางวัล

12/01/2022

11

บทที่ 11 หลิงเฉิน ฉันรักคุณ

12/01/2022

12

บทที่ 12 คนทั้งโลกรู้

13/01/2022

13

บทที่ 13 อธิการบดีผู้น่ารัก

14/01/2022

14

บทที่ 14 เธอดูเหมือนเป็นผู้หญิงซะจริง!

14/01/2022

15

บทที่ 15 แสร้งทำเป็นบริสุทธิ์

14/01/2022

16

บทที่ 16 ไวน์

15/01/2022

17

บทที่ 17 เอาเธอไปโยนให้ฉลามกินซะ

16/01/2022

18

บทที่ 18 คุณหลิงเฉินซวยซะแล้ว

17/01/2022

19

บทที่ 19 สมน้ำหน้าที่เธอไม่มีแฟน

18/01/2022

20

บทที่ 20 คู่ต่อสู้ที่แท้จริง

19/01/2022

21

บทที่ 21 เรื่องระหว่างสามีภรรยาเขา

19/01/2022

22

บทที่ 22 หลิงเฉินรู้ความจริง

19/01/2022

23

บทที่ 23 ย้ายเข้ามาอยู่

19/01/2022

24

บทที่ 24 ขับรถไปส่งที่มหาวิทยาลัย

19/01/2022

25

บทที่ 25 ฉันไม่ใช่ผู้ชายสักหน่อย

19/01/2022

26

บทที่ 26 พี่ชาย

19/01/2022

27

บทที่ 27 สำนักงานใหญ่ของเซิ่งหมิง กรุ๊ป

19/01/2022

28

บทที่ 28 ขอโทษหรือยั่วโมไหกันแน่

19/01/2022

29

บทที่ 29 โดนเปล่า ๆ

19/01/2022

30

บทที่ 30 ของขวัญ

19/01/2022

31

บทที่ 31 ใครรังแกแฟนผม?

19/01/2022

32

บทที่ 32 เฮียเหนียนงั้นเหรอ?

19/01/2022

33

บทที่ 33 ฉันขอโทษสำหรับเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น

19/01/2022

34

บทที่ 34 มันอาจมีอะไรที่น่าอับอายก็เป็นได้

19/01/2022

35

บทที่ 35 เขาสมควรโดน

19/01/2022

36

บทที่ 36 ดื้อเหมือนเด็ก

19/01/2022

37

บทที่ 37 อยู่ให้ห่างจากอาจารย์หลิงเฉินไว้

19/01/2022

38

บทที่ 38 ที่รัก

19/01/2022

39

บทที่ 39 การลงโทษ

19/01/2022

40

บทที่ 40 ในสุสาน

19/01/2022