“หากเจ้ากล้าแลกทุกอย่างตามที่ท่านจิ้งจอกต้องการ เจ้าจะได้สมปรารถนา แต่ข้าขอเตือนไว้ก่อนนะ เจ้าต้องเลือกให้ดีๆ ว่าต้องการอะไร พรจากจิ้งจอกมันมาพร้อมกับคำสาป หากเจ้าเลือกผิดชีวิตก็จะพบกับความวิบัติ ข้าเตือนเจ้าได้เท่านี้”
จงเหลียงบอกกับหม่าจิ้งหยวน ก่อนจะนำทางสหายรักมายังถ้ำแห่งความลับซึ่งอยู่ด้านหลังศาลเทพธิดาจิ้งจอก ที่แห่งนี้เป็นที่กราบไหว้บูชาตั้งขึ้นโดยผู้ศรัทธาในเทพธิดาจิ้งจอก และผู้ที่ได้รับคัดเลือกจะทำหน้าที่สื่อสารกับเทพธิดาจิ้งจอก
จงเหลียงเป็นผู้ที่ได้รับคัดเลือก เขาได้รับโอกาสขอพรจากเทพธิดาจิ้งจอก และได้รับพรนั้นจนทำให้ชีวิตพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากคนยากไร้เขาได้กลายมาเป็นคหบดีของเมือง ในที่สุดได้เป็นผู้ดูแลศาลเทพธิดาจิ้งจอก มีชีวิตที่สุขสบายและยังคงเก็บรักษาความลับเรื่องการขอพรจากเทพธิดาจิ้งจอกเอาไว้ หม่าจิ้งหยวนเคยมีบุญเจ้าช่วยจงเหลียงไว้ครั้งหนึ่งในตอนที่อีกฝ่ายยากจน ดังนั้นเพื่อตอบแทนบุญเจ้าจงเหลียงจึงบอกความลับเรื่องเทพธิดาจิ้งจอกให้หม่าจิ้งหยวนรับรู้ จงเหลียงปล่อยให้สหายเข้ามาภายในถ้ำแห่งนี้ เพื่อขอพรจากเทพธิดาจิ้งจอกด้วยตนเอง
“ข้าต้องได้ในสิ่งที่อยากได้ ต่อให้ต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม ข้าจะแลกทุกอย่าง”
หม่าจิ้งหยวนบอกกับตัวเอง เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้กลับคืน ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาพาตัวเองเข้าไปด้านในลึกขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่รออยู่จะน่ากลัวแค่ไหน ขอเพียงมันสามารถทำให้เขาสมปรารถนา เขายินดีเผชิญหน้ากับมัน
เขาดั้นด้นมาที่นี่เพราะความปรารถนาส่วนตัวที่ไม่อาจไขว่คว้ามาได้ง่ายๆ หวังเพียงปาฏิหาริย์บางอย่างจากสิ่งที่อยู่ภายในถ้ำ จะช่วยให้เขาสมหวัง และเขาเคยเห็นคนที่สมหวังเพราะมันมาแล้ว นั่นก็คือจงเหลียงสหายของเขา
บรรยากาศภายในถ้ำจิ้งจอกแห่งนี้ ช่างวังเวงชวนขนลุกไม่น้อย หากจิตไม่แข็งก็ยากจะพาตัวเองก้าวเข้ามาด้านในไหว เมื่อเขาตัดสินใจแล้วว่าต้องขอพรจากเทพธิดาจิ้งจอก เขาต้องไม่กลัวอะไร หม่าจิ้งหยวนสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ ก้าวขาเดินต่อไปอย่างมุ่งมั่น
ในที่สุดเขาก็เดินมาถึงโถงถ้ำด้านใน ซึ่งกว้างขวางแตกต่างจากทางเข้ามากนัก ผนังถ้ำมีคบไฟติดไว้จนทั่ว ทำให้โถงถ้ำสว่างจนมองเห็นบริเวณนั้นชัดเจน ตรงมุมด้านในสุดมีม่านสีดำโปร่งบางกางกั้นไว้หลายชั้น แต่สายตาของเขาก็สามารถมองเห็นด้านในได้สลัวลาง หลังม่านกั้นมีเตียงวางไว้ บนเตียงมีร่างระหงของสตรีคนหนึ่งนั่งทอดกายเอนอิงหมอนใบใหญ่ นางสวมเสื้อผ้าโปร่งบางสีดำไม่ต่างกับผ้าม่าน ชุดของนางกรุยกรายยาวระพื้น ทว่าเจ้าตัวกับแหวกช่วงกระโปรงให้ผ่ากว้างอวดเรียวขาสวย จากที่เห็นลางๆ รูปร่างของคนที่นั่งอยู่บนเตียงงดงามไม่น้อย ขาขาวเรียวยาวเอวคอดกิ่ว ข้ายาวสลวยสีดำสนิทเงางามราวกับขนกายาวระแผ่นหลังบอบบาง หม่าจิ้งหยวนเขม้นมองลอดผ่านผ้าม่านโปร่งเข้าไป แต่ไม่อาจมองเห็นใบหน้าของสตรีผู้นั้นชัดเจนเพราะอีกฝ่ายใช้ผ้าคลุมหน้าไว้ครึ่งหน้า เขาดับคบไฟเมื่อเห็นว่าที่นี่สว่างมากพอ ร่างกำยำทรุดกายนั่งลงคุกเข่าด้านหน้าม่าน
“ท่านคือ ท่านเทพธิดาจิ้งจอกใช่หรือไม่ ข้าชื่อหม่าจิ้งหยวน เป็นเพื่อนของจงเหลียง ที่เคยมาขอพรจากท่านเทพธิดาจิ้งจอกเมื่อ สี่ปีก่อน จงเหลียงแนะนำให้ข้ามาขอพรจากท่านเทพธิดาจิ้งจอกขอรับ”
หม่าจิ้งหยวนค้อมศีรษะทำความเคารพเทพธิดาจิ้งจอกสาว ที่นั่งอยู่หลังม่าน เขาเงยหน้าขึ้นมองเมื่อได้ยินเสียงกะพรวนดังกรุ๋งกริ๋งแว่วมา ร่างอรชรขยับตัวเปลี่ยนท่านั่งจากนั่งเหยียดเท้า มาเป็นนั่งชันเข่าข้างหนึ่ง กระโปรงผ่าคลุมเรียวขายาวขาวผ่องแทบไม่มิด คนเห็นลอบกลืนน้ำลายอย่างลืมตัว ความหวั่นเกรงในตอนแรกเลือนหายไป เหลือเพียงความตื่นเต้นที่ได้พบกับเทพธิดาจิ้งจอกสาวตัวเป็นๆ ดวงตาคมจดจ้องเรือนร่างงามล่มเมืองนั้นแทบไม่วางตา
แม้ไม่ได้เห็นหน้าชัดๆ ไม่ได้มองเรือนร่างเต็มตาเพราะมีม่านกั้น เขาก็รู้สึกแข็งชันจนปวดร้าวไปหมด
แค่นางขยับตัวนิดเดียว คนเห็นแทบคุมตัวเองไว้ไม่ไหว ถ้าเห็นชัดๆ ได้จับตัวเป็นๆ สวรรค์คงลอยมาหาเขาแล้ว หม่าจิ้งหยวนกลืนน้ำลายหลายอึก สายตาจ้องมองเรือนร่างงดงามแทบไม่กะพริบตา
“เจ้าชื่อหม่าจิ้งหยวนหรือ”