รอยรักรอยร้าว
สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน
คุณกู้ คุณนายทอดทิ้งท่านไปแล้ว
ธิดาแค้นต้องเอาคืน
เกิดใหม่ในเงามืด
ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ
สัญญารักลวงใจ
คู่ทาสของกษัตริย์ผู้โหดร้าย
เมียผมน่ารักจัง
เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ
วรากร วิ่งออกจากห้องนอนด้วยความเร่งรีบมัวแต่เขียนนิยาย วันนี้มีการลดราคาหนังสือ เที่ยงวันยันเที่ยงคืน แต่ประเด็นคือเธอดันจำวันผิดนี่ก็เหลืออีกไม่ถึงสองชั่วโมงจะหมดเวลาแล้ว คว้ากระเป่าถือวิ่งเร็วรี่ แต่ยังไม่ทันจะไปถึงไหน ก็ก้าวพลาด กลิ้งลงมาจากบันไดชั้นบนเสียงโครมคราม
“โอ๊ยเจ็บจังเลย ขาหักไหมนี่”
คลำขาตัวเองปรอยๆ รู้สึกเจ็บแปลบๆ กระแทกลงมาอย่างจังขนาดนั้นก้นกบพังไปแล้วม้างงงT_T ก้มลงมองขาตัวเองใช้มือบีบเบาๆ สายตานับสิบคู่มองมาที่วรากร ตอนนี้เองที่เธอรู้แล้วว่าไม่ใช่ที่บ้าน
“นางเป็นใคร ใครกัน ใครเนี๊ยะ” กวาดตามองรอบๆ
“เฮ้ย ที่ไหนเนี๊ยะ”
ลองหลับตาดูลืมตายังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนไปผู้คนที่แต่งกายด้วยชุดชาวจีนโบราณ รายล้อมรอบตัวเริ่มทะยอยเดินหายไปที่ละคนสองคน เสียงฝีเท้าม้าควบตรงเข้ามา วรากรเตรียมลุกแต่ไปไม่รอด ดันไปขว้างทางม้าแรงฉุดจากคนบนม้า ดึงร่างเล็กของวรากรลอยละลิ่วขึ้นไปนั่งบนหลังม้า
“เฮ้ย” หันหน้าหันหลังร่างแนบชิดกับคนบนหลังม้าใบหน้าเฉยชาแต่หล่อลากไส้ ใครวะ@_@
“เฮ้ยนี่มันพระเอกนิยายชัดๆ O_O”
ใบหน้าหล่อเหลาราวรูปวาด ริมฝีปากเรียวบาง คิ้วดกหนา ตาคมเข้มมือเรียวบางเหมือนผู้หญิงที่กระตุกบังเหียนม้าให้วิ่งช่างดูมีเสน่ห์ ผมยาวสลวยถูกมัดรวบไว้ด้านหลัง แพ้ผู้ชายผมยาว หน้าขาวปากสีขมพู ซิกแพ็คโผล่ออกมาจากอกเสื้อ มาถูกทางแล้วพระเอกหล่อ แต่…..
“เฮ้ยไม่ได้กำลังเขียนนิยายจีนย้อนยุค กำลังจะไปงานหนังสือแต่ทำไมมาอยู่ตรงนี้”
ขยี้ตาแรงๆ คนบนหลังม้า กำลังพยายามหนีมือสังหารแต่วรากรกลับ มองสำรวจรอบๆ หันซ้ายหันขวา
“นั่งนิ่งๆ ไม่อย่างนั้นข้าจะเหวี่ยงเจ้าลงไป”
เสียงทุ้มนุ่มหูทว่าน้ำเสียงแกมหยิ่งนิดๆ
“ฆ่ามัน!”
เสียงฝีเท้าม้านับสิบไล่ตาม วรากรหันไปมองพวกข้างหลัง นี่มันถ่ายซีรีส์จีนหรืออย่างไร
ม้าพาวรากรและ คนหล่อเข้าไปในป่าไผ่ม้าเดินวนไปมาไม่กล้าวิ่งต่อ เมื่อถูกล้อมกรอบด้วยมือสังหารนับสิบ คนบนหลังม้าทะยานขึ้นไปซ่อนตัวบังใบไผ่ไว้ วรากรร่วงตุบลงกับพื้นก็เธอ ขี้ม้าไม่เป็น ก็เจ้าม้าตัวดีดันยกขาหน้าขึ้นปล่อยวรากรไหลลงจากหลังม้าแม้จะพยายามจับหางม้าไว้ก็ตาม ยิ่งทำให้เจ้าม้าตกใจวิ่งหนีเตลิดไปไกล ฉากการต่อสู้เริ่มขึ้นอย่างดุเดือดเมามันส์ เสี่ยงกระบี่ในมือของแต่ละคนกระทบกันดังจนแสบแก้วหู คนหล่อของวรากรเก่งเหลือเกิน สามารถต่อกรกับมือสังหารได้นับสิบ ขบวนท่าสวยงามพลิ้วไหวเหมือนกับนักแสดงชื่อดังที่ฝึกฝนมาอย่างดี วรากรปรบมือชอบใจรู้สึกเหมือนเชียร์มวย หายไปหมดจนเหลือคนสุดท้ายกำลังประจันหน้ากัน พระเอกนิยายของวรากร สะบัดกระบี่เป้าหมายคือลำคอของฝ่ายมือสังหารแต่ฉับพลันนั้นเองร่างบางสวยของใครบางคน ถูกดึงเข้ามาเป็นเกราะกำบัง ใบหน้างดงามหวานละมุนตา เอวคอดกิ่วผมยาวพลิ้วไสวตามแรงสะบัด นางเอกนิยาย
พระเอกนิยายไม่กล้าลงมือ
“ปล่อยนาง”
สุดท้ายก็เปล่งคำพูดออกมาหลังจากที่สงวนท่าทีตั้งนาน
“อย่าเข้ามาไม่อย่างนั้นนางตาย”
“ข้าไม่รู้จักนาง ไม่ใยดีว่านางจะอยู่หรือตาย”
ยังคงจี้กระบี่ไปที่มือสังหารถึงจะพูดแบบนั้นก็ตาม วรากรใจเต้นต้องแก้ไขสถานะการตามแบบของเธอมองหาก้อนหิน
หญิงงามเชิดหน้า ไม่มีอาการหวาดกลัว อย่างนี้สินางเอกของเรา พระเอกของเราจ้องตาไม่กระพริบทะยานขึ้นไปข้างบนวรากรขว้างก้อนหินแม่นเหมือนจับวางตรงเป้ากางเกงของมือสังหารพอดี กระบี่หลุดมือลงไปนั่งคลำเป้า พระเอกใช้กระบี่แทงฉึกเข้าที่อกไม่รอด นางเอกจะเป็นเพราะเห็นเลือดหรืออะไรไม่ทราบได้เป็นลมหมดสติร่างทรุดลงไปแต่ยังไม่ทันกองกับพื้นคนหล่อรับไว้ทัน หันมา กล่าวคำขอบคุณวรากร
“ขอบคุณแม่นาง”
วรากรยิ้มแหยๆ เดินกระเผลกๆ เจ็บขาเหมือนกันไหนจะตกบันไดไหนจะตกม้า รวบร่างบางของคนสวยที่หมดสติไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะพาไปวางบนพื้น จัดแจงปฐมพยาบาลวรากรมองคนทั้งสอง
“ข้า หลวนคุนมือปราบของวังหลวง ยินดีที่รู้จัก แม่นางแซ่อะไร”