หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว
รื่องที่ศ
ัง ไม่ยื่นมือช่วยเหลือผู้อื่นเกินความจำเป็น นั่นเพราะนางมาอยู่ในร่างนี้ในวัยเด็ก ที่มีอายุเพียงห้าปีเท่านั้น แต่ละวันจึงผ่านไปอย่างเชื่องช้
คราวนี้ นับว่าเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของนางในโลกนี้ก็ว่าได้ จะว่าไปแล้วพ
ก็โต้แย้งอยู่บ้าง ต่อมาถึงรู้สิ่งใดที่คุณหนูรองผู้นี้เอ่ยออกมา มักกลายเป็นเรื่องจริงในภายหลัง โดยเฉพาะหลังออกจากอำ
ื้อกันหนาวไปให
ู่ด้านหลังรถม้า นำชุดกันหนาวของบุรุษออกมามอ
ยู่ในตระกูลหลินเขาได้รับแต่เสื้อผ้าเก่า ๆ ของผู้อื่น เนื่องจากไม่กล้าใช้เงินซื้อสวมใส่ ทางบ้า
เสื้อผ้าหน้าหนาว อาหารการกินของเขาก็ดีขึ้นด้วย
่อนไม่ได้ “รู้ความเช่นนี้ก็ดีแล้ว เ
ไม่กล
หิมะสีขาวโปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย ขอทานหลายคนเริ่มก่อไฟบรรเทาความหนาว ผู้คนเก็บ
กของเจ้าได้แล้ว คุณ
าหน้าหนาวพร้อมกับผ้าห่มนวมผืนใหญ่ อีกทั้ง
งยังแก้ไขไม่ได้” เผิงฉือส่ายหน้าไปบ่นไปด้วย “หากเกิดเจอโจรผู้ร้ายระหว่างทาง ใครจะช่วยเหลือใครก็ยังไม่รู
่ผิงกวนถึงสิบปีเต็ม ท่านหวัง
งนางทั้งงดงามและมากฝีมือ เหตุใดถึงไม่มาเยี่ยมหาเลยสักครั้ง นางมีใบหน้าเดียวคือคว
งแล้วมานอนเถอะเจ้าค่ะ
ง มุมปากยิ้มนิด ๆ เมื่อเห็นเผิงฉือรีบร้อน
ต่งกายใหม่ จะใส่เพียงเสื้อผ้าเนื
ใหญ่” นางเอ่ยสั้น ๆ แล้ว
กษณ์และความสูงส่งของหลินซือเยว่ ทำให้นางนั้นไม่อาจเอื้อมถึงได้จริง ๆ พึงพอใจที่จะเ
เมื่อไม่อาจไปถึงโรงเตี๊ยมได้ก่อนเวลาพระอา
้วมีแต่ชาวบ้านเนื้อตัวสกปรก นั่งเบียด ๆ กันเต็มไปหมด เกรงว่าคุณหนูรองจะอยู่ไม่สะดวก” หลินอ้ายเกิ
ผิงตั้
อ้าย
หลินอ้ายมาช่วยข้าตั้งกระโจมกัน
ไปที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ซึ่งบริเวณนั
ินอ้ายใต้ต
จของหลินซือเยว่ เขารีบจูงม้าไปยังใต้
หนักเพียงนี้ ที่แท้พวกท
ไม่รอบคอบ ป่านนี้เจ้าได้ห
ินซือเยว่ กระโจมเล็กของ
ข้าไปหาเผิงฉือใกล้ ๆ “ท่านป้าเผิงข้าถามจริง ๆ เถอะ คุณหนูรอง
มตรง เพราะนางเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่าเรื่องที่หลินซือเยว่ล่วงรู้นั้นมา
ะซื้อระหว่างทาง หลินอ้ายได้กินอาหารร้อน ๆ ท้องอิ่มหนังตาเริ่มหย่อน หลินซือเยว่ให้เขาเข้าไปนอ
่บนเก้าอี้ตัวน้อย ดวงตามองไปยังศาลาพักม้าอยู่เป็น
ะเจ้าค่ะ ทางนี้ข้า
่อยตื่นอีกทียามโฉ่ว(01.00-02.59)ก็แล้วกัน” สีหน้าของ
ช้าเก็บหม้อไหทุกอย่างขึ้นไว้บนรถม้าอย่างรวดเร็ว กลับมาเข้
่แน่ใจ เตรีย
าค่ะค
าว
ือวิ่งออกมาจากกระโจมพร้อม ๆ กัน กลับเห็นแผ่นหลังของห
ากที่นี่ดีหรือไม่” หลินอ้ายไม่เคยเจอเหตุการณ์น่ากล
งยามนี้โอกาสรอดมีน้อยยิ่งนัก ไม่เพียงแค่นางที่รู้ คนในศาลาพักม้าเองก็รู้
ิลปะการต่อสู้ได้ ยามเมื่
ฝึกวรยุทธ์ แต่นี่นางผ่านพ้นวัยปักปิ่นมาได้หนึ่งปีแล้ว เหตุใดน
นึ่ง มุ่งหน้ามาทางที
ทางนี้เจ
องข้านะ !” หลินอ้ายส่ายไม้ฟืนในมือไปยังค
ากตะเกียง จึงรีบวิ่งมาทางนี้ ไหนเลยจะคิดว่า
น ขอพักอยู่ตรงนี้สักครู่ได้หรือไม่ พวกเราไม่มีที่อื่นให้ไปอีกแล้ว” บ่า
ไม่” คนผู้นี้ดูไม่เหมือนบ่าว มองไปแล้
นซูเหวินหรือต่งฮูหยิน เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียง
นาง คนคุ้มกันอีกสองคนต่างตระหนักถึงความยากลำบากนี้ พวกเขาคนหนึ่งมอง
ปมองเผิงฉือเล็กน
าไปดูอีกคน ทว่าความมืดทำให้มองเห็นไม่
นางหนึ่งสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ ขณ
วณนี้ถึงกับสูดลมหายใจเข้าได้ไม่เต็มปอด “พานางเข้าไปในกระโจม หลินอ้ายก่อไฟต
่งคำนี้ถูกเอ่ยออกมา พวกเขาถึงกระจายตัวกันไปทำงานตา
่วนเจ้าสองคนคอยอยู่ด้านนอก” นางหันไป
ยังได้ยินเสียงต่อสู้กันอยู่ อีกทั้งบางแห่งยังมีไฟไหม้ลุกลามขึ้น ชาวบ้านคนอื่น ๆ กร