วางใจเถอะ ข้าไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น
ได้แต่ประคองชายที่หมดสติแต่หลุดปากครางอย่างเจ็บปวดตลอดเวลาให
นมามากนัก นางลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบากแต่เมื่อทรงตัวได้ก็ออกก้าวเดิน เคยคิดว่าตัวเองผอมบางมากแล้ว ชายผู้นี้ผอมก
บบอก ราวกับน้ำเสียงของนางเข้าไปสู่อีกฝ่าย เสียง
บเดิ
อื
างนี้ แม้เห็นชัด ๆ ว่าพี่สาวยังคงเป็นเหมยซิงคนเดิมที่คอยดูแลเขาเขาและน
ี่ยนแปลงที่เขา
คนพูดคุยกันอยู่ไม่ไกลนัก กลิ่นอาหารหอมกรุ่นลอยคลุ้งในอากาศ ดวงที่ปิดสนิทมาหลายวันก็ค่อ
ี่ส
้องหลับตาไปอีกครั้ง รู้สึกเหมือนคนวิ่งออ
ง แล้วก็อย่าวิ่งด้วย
ู้นี้ลืม
มตาแ
หน้าคือใบหน้าอ่อนเยาว์ของเด็กสาวมีเหงื่อเกาะพราว ดวงตาดำดุจนิลกระจ่างสุ
้นแล
ฟื
ียงถาม แต่กลับมีเสียงครางครือในลำคอ เขาพยายามขยับตัวแต่ทำไม่ได้
ไฉนจึงขยับตัว
ให้มันขยับ แต่กลับทำไม่ได้ รู้สึกเพียงมีแค่ปลาย
ช้ปลายแขนเสื้อซับเหงื่อให้เขาก่อนมองตามสายตาคู่นั่นที่มองแขนของตน เห็นเพียงปลายน
วล แต่กลับได้ยินเพียงเสียงครางครือในคอ
จ็บจนเป็นอ
กับกิ่งไม้ร่วง นางสบตากับดวงตาที่มีแววตื่นตระหนกคู่นั้นแล้วหันไปบอกน้อง ๆ ที่รุมล้อมอยู่ให้ถอย
นิ้วที่หน้าตัวเองประกอบคำพูด “เจ้าได้ยินที่ข้าพูดหรือไ
หมินจำเป็นต้องทำตาม เขาฝืนพยักหน้าได
รับ “คราวนี้ลองเป
.อ..อ
องรางวัล “ข้าชื่อเหมยซิง
อือ...
ไรชื่อ
สียงหลายครั้งก็ยังเป็นเสียงอือ ๆ อา ๆ อยู่ นางเ
่ได้” นางไม่อยากให้คนป่วยต้องวิตกกังวลจนเกินไปนัก “หิวน้ำห
าหิว ซุนเว่ยหมินที่ไม่เคยรู้จักคำว่าอดยากเวลานี้ต
ๆ จะให้เขานั่งแต่หลังงองุ้มเหมือนคนไม่มีแรงจะทรงตัวให้หลังตั้งตรงได้ เหมยซิงเห็นเขานั่งได้โดยไม่ล้มแล้วจึงเอี้ยวตัวไปรินน้ำแล้ว
ห้ เจ้าค่อย ๆ ดื่ม ใช่
ราะความกระหายทำให้อีกฝ่ายสำลัก แต่นางไม่
หน่อย ในบ้านของเรามีพ่อบุญธรรมกับน้องชายสามค
เคยทำงานพิเศษดูแลผู้ป่วยติดเตียงเมื่อโลกโน้น นางจึงไม่รู้สึกรังเกียจสิ
ยติดเตียง ลูกหลานคอยดูแลจ้างพยาบาลประจำ แต่อย่างไรไม่รู้ ลูกหลานดูแลกันเอง ตอนนั้นนางอยู่ใกล้ ๆ รั้วบ้านติดกัน แรก ๆ ก็แค่ถูกเพื่อนบ้านไหว้วานซื้อของใช้เล็ก ๆ น้อย ๆ จนบ่อย ๆเข้าก็ให้นางมาช่วยดู
ป็นสิ่งผลักดันให้นางไปข้างหน้า นางทำงานแทบทุกอย่างที่ทำได้ ขอเป็นเพียงงานที่สุจริตไม่ผิดศีลธร