วางใจเถอะ ข้าไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น
ยปะชุน แต่นางกลับยิ้มได้อย่างสดใส นางผละจากเขาไปครู่หนึ่งกลับมาพร้อมผ้าชุบน้ำเช็ดใบหน้าให้เขา เพราะเมื่อครู่รีบดื่มน้ำเร็วเกินไปจนสำลัก นางจึงจำเป็
มื่อรู้สึกได้ทันทีว่าเขาตัวเกร็ง
กายส่วนที่นางเลื่อนเสื้อเนื้อหยาบออก ผิวกายของเขาคว
ร่างของเขาต้องกำยำแข็งแ
ึ้น ก่อนหน้านี้.... ก่อนหน้านี้กี่วันกัน เขาไม่อาจจดจำได้แม่นยำนัก ถ้าไม่นับรวมวันที่หมดสติไปนั้น เขาเดินทางมาที่หมู่บ้านชนบทแห่งนี้ เขาถือราชโองการอ
นนั้นไม่คณามือของคนอย่างซุนเว่ยหมินเป็นแน่ สุดท้ายที่จำได้คือเสียงระเบิดดังสน
ายผอมบางผิวขาวซีดดุจคนป่วยใกล้ตายเช่นนี้ ซ้ำยังไม่อา
ก นางไม่รู้ว่าคนรอบข้างเป็นใครและอยู่ที่ใด ยังโชคดีที่พ่อบุญธรรมกับน้อง ๆ เป็นคนจิตใจดี แม้นางเปลี่ยนไป จำอะ
มานี้อาการดีขึ้นจึงพอลุกขึ้นเดินเหินได้บ้าง แต่ก็ยังต้องมีคน
คองให้เขาเอนหลังผิงผนังห้อง เพราะสภาพเห
มุมปากจะยกยิ้มแต่ก็เหมือนไม่ได้ยิ้ม เขาไม่พูดอะไร แต่จากสภาพของชายแปลกหน้าที่นอนหมดสติมาห
ย่าเพิ่งคิดมากไปเลย” ติงเชาพูดขึ้นแล้วหันไปพูดกับเด็ก ๆ รอบตัว
็กก็อดมองแบบอยากรู้อยากเห็นไม่ได้ เมื่อเห็นอีกฝ่ายใบหน้าเหยเกดูน่ากล
ก็บไว้ให้นะ” เหมยซิงเอ่ยขึ้น เห็นพ่อบุญธร
า ๆ ยังดีที่สามารถสื่อสารกันได้บ้าง “รอสั
ออกไป ไม่นานนักนางก็กลับเข้ามาพร้อมชามบิ่น
๊กเปล่าชามนี้ แต่กินเสียหน่อ
กินไปแล้วจึงจ่อที่ปากของเขา แม้ต้องใช้ความพยายามมากกว
รสชาติเสียเหลือเกิน เ
้เนื้อข้าวลงสู่กระเพาะทำให
เราเป็นเด็กกำพร้าที่พ่อติงเชารับมาเลี้ยงเมื่อสิ้นสุดสงคราม บ้านนี้ก็ไม่ใช่ของพวกเราหรอก เจ้าของบ
ับชะตากรรมของตัวเองเป็นเรื่องตลกขบขัน นางป้อนโจ๊กหมดก
ไรค่อยว่ากัน” นางส่งยิ้มให้ “ข้าจะให้เหม่ยลี่มานั่งอยู่ใกล้ ๆ หากต้องการอะไรส่งส
อกไปแล้วถอนหายใจเบา ๆ ครู่ต่อมาเด็กหญิงตัวน
อก มันเกิดอะไรกับชีวิต