รวมเรื่องสั้น
กลัวของ
ของแข็ง/ของเหลว/แก๊ส/พลาสม่า สสารประกอบด้วยอนุภาคมูลฐานสองประเภท ควาร์กและเลปตอน สสารธรรมดาในเอกภพส่วนใหญ่เป็นสิ่งที่มองไม่เห็นเนื่องจากดาวฤกษ์และก๊าซที่มองเห็นได้ภายในกาแล็กซีและกระจุกดาวมีสัดส่วนน้อยกว่า10%ของสสารธรรมดาที่ก่อให้เกิดความหนาแน่นของมวล-พลังงานของเอกภพ สสารธรรมดาและแรงที
วกาศอีก เพื่อที่คิดทฤษฎีผมออกมานอนบนพื้นหญ้าโล่งๆที่ไม่มีต้นไม้เลยในตอนกลางคืน มองท้องฟ้ายามค่ำคืนผมชอบท้องฟ้าที่ดวงดาวเต็มทั้งท้องฟ้าผมชอบเห็นทางช้างเผือกและกาแล็กซีผมชอบแสงเหนือหรือออโรร่าแต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปดู สมองผมแล่นตลอดเวลาอยู่แล้วสมองผมไม่เคยหยุดพักจริงๆจะพูดงั้นผมก็ไม่รู้ว่าถูกไหมแต่ถ้าผมบอกว่าสมองผมไม่เคยหยุดคิดผมมั่นใจว่าถูกแน่ และกำลังคิดทฤษฎีใหม่
่เป็นเรื่องหลักๆของทฤษฎีสัมพัทธภาพ ดังนั้นในเวลาที่แตกต่างกันก็ควรจะมองเห็นเหตุการณ์ที่ต่างกันด้วย แต่ดูเหมือนเวลาทุกเวลามันจะมารวมกันที่จุดเดียวกันหมด ที่ผม เพราะผมสามารถมองเห็นเหตุการณ์เดียวกันที่แตกต่างกันทุกรูปแบบได้ในเวลาเดียวกันพร้อมๆกัน ผมเห็นแสงแปลกประหลาดบนท้องฟ้าและบนพื้นโลกด้วยผมมองเห็นวัตถุดำๆแปลกประหลาดบนท้องฟ้าด้วย จากนั้นเทหวัตถุทั้งหมดก็เคลื่อนที่ออกห่างจากกันแต่ไม่ได้หมายความว่าพื้นที่ว่างบนท้องฟ้าจะเพิ่มขึ้นมีเทหวัตถุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเป็นจำนวนมากในพื้นที่ว่างเหล่านั้น ทั้งๆที่ไม่มีอะไรแต่ผมสัมผัสได้ว่ามีอะไรบางอย่างชนกับตัวผมผมมองไม่เห็นอะไรเลยถ้าอะไรในทางวิทยาศาสตร์ที่มองไม่เห็นแล้วล่ะก็มันน่าจะเป็นพลังงานมืดไม
านได้ควบคุมสร้างและทำลายโฟตอนรังสีแม่เหล็กไฟฟ้าพลังงานพลังงานมืดสสารธรรมดาควาร์กเลปตอนได้สัตว์ประหลาดตัวนั้นสามารถปล่อยพลังงานมืดสสารมืดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากตัวมันได้ ขยายหรือลดขนาดและควบคุมอวกาศได้ ย้อนเวลาไปอนาคตได้ทำให้เวลาเดินช้าลงหรือเดินเร็วขึ้นได้ทำให้เวลาเดินถอยหลังก็ได้ มันควบคุมกาลอวกาศทั้งหมดได้ และควบคุมแรงโน้มถ่วง แรงนิวเคลียร์ แรงแม่เหล็กไฟฟ้าได้ รู้สึกต้นไม้แต่ละต้นมันจะสูงเกินความสูงเฉลี่ยของมันยังกับมันโตไวเท่าต้นไผ่แน่ะ น้ำจากก๊อกก็รู้สึกว่ามันจะไหลแรงขึ้นกว่าปกติทุกวันทุกวัน ไม่มีใครมากวาดถนนเลยหรือไงนะ?รู้สึกว่าใบไม้มันจะรกถนนขึ้นมากกว่าแต่ก่อนอีก ดินเริ่มแปลกต้นไม้เริ่มแปลกพวกสัตว์ที่ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงก็ดูเริ่มแปลกไป คุณว่าแปลกผิดปกติไหม? แล้วลมแรงมากๆก็เริ่มพัดจนทุกอย่างสั่นไหวไปหมด แสงดูจะแปลกประหลาดเหมือนแสงสะท้อนจากเพชร ทุกอย่างดูสว่างสุกใสแต่ก็มืดครึ้มในเวลาเดียวกัน "เงา
มขับรถยนต์ออกไปไกลแสนไกล เ
มกลางทะเลดาวกว้างใหญ่ไพศาล พร้อมๆกับเหตุก
มีแผนที่ ผมไม่มีโทรศ
ใครมาช่
ไปเรื่อยๆเร่
ข้อมือไว้ที่แขนซ้าย ผม
งแต่ทะเลดาว
จนแทบมองนา
อตรงไหน โทรหาใครไม่ได
าตรงเข้าหาผมประหนึ่งขบวนรถติดยาวในยามที่รถติดที่สุดและแสนแน่
ลงสาบที่แสนใ
ั้นหนวดของมันขยับดูเหมือนกับว่ามัน
น ตอนนี้อวัยวะภายในของมัน
ยๆ ทับมันอีก ทับมันอีก อวัยวะภาย
ัยวะที่แยกออกจากกันขอ
นทั้งหมดโดยเว้นหนวดของมันไ
รงเข้ามาเรื่อยราวกับว่าแมลงสา
ถทับพวกมัน เครื่อ
เต็มพื้นดินเหมือนกับกระดาษ
ว่าผมจะท
ันทร์ มีแต่ดวงดา
อนถูกอะไรบางอย่
ตัวของมันใหญ่กว่าเด็ก ขายาวเ
ตะขาบยักษ์ ถ้าถนนสายไหนที่ยาวซักร้อยเมตรบรรดาตะขาบย
ขับรถทับบรรดาแมงมุมและตะขาบยักษ์เหล่านั้น ฝ่าพวก
้แล้ว.ผมมองไม่เห็นดวงดาว คุณมองไม่เห็นอะ
พราะผมมองทางไม
คุณระคายเคืองคอ
ริ่มจางลง จากนั้น
ังคงอยู่ในรูปทรงเดิมของมัน
งเป็นต้นแต่มันกล
นกลายเป็นถ่านสี
้นก็ยังเป็นสีด
ยู่เลย ไม่มีคนอ
นแม่น้ำนั้นก็เป็นน้ำเน่า ที่นี่บ้านคนตั้งร
รถขึ้
่ต่อหน้าคุณถล่มลงน้ำเน่าทีละห
ันห
มลงไปในน้ำเน่าเรียง
น้ำถล่มลงไปในน้ำเน่าหมดแ
ขึ้นฝั่งไม่ได้ พวกเขาทุกคนในน้ำเน่าเหมือนถูกอะไรบางอย่
งน้ำ
รถข้ามสะพานนั้น
สึกบา
ันห
ลังผมกำลังถล่
้วยความเ
นถึงอีกฝั่ง ผมหันหล
่า จนตอนนี้สะพานก็ถล่มลงน
านทิ้งขยะขนาดใหญ่พร้อมด้วยกอ
ียงระเ
บไปมอง เปลวไ
อยู่ในกองขยะ เขาพยายามจะเดินออกม
ขยะ พวกเขาพยายามเรียกให้ช่วยแต่พวกเขาก
นบนก็ไถลถล่มล
งขยะเกลื่อนกลา
กิดขึ้น ผมมองไปที่
งสัตว์ประหลาดตัวที่อยู่บ
ละท้องฟ้าก็บิดเบี้ยว จากนั้นทั้งจักรวาลก็บิดเบี้ย