Happy ที่โสดอีกครั้ง
ตอนที่เซินชูตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็เจ็ดโมงกว่าของเช้าวันต่อมาแล้ว หนึ่งวันหนึ่งคืนที่เธอสลึมสลือ หลังจากที่เธอตื่นขึ้น ก็รู้สึกว่าร่างของเธอเหมือนถูกดึงกระดูกออก เธอรู้สึกร่างกายของเธอไร้เรี่ยวแรง
พอดีกับที่เฉินเซียวถืออาหารเช้าเข้ามา เมื่อเห็นว่าเซินชูตื่นแล้ว เธอก็รีบเดินไปตรงหัวเตียง “เป็นยังไงบ้าง? ยังไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า? ”
เซินชูส่ายหน้า “ดีขึ้นมากแล้ว”
“ฉันซื้อซาลาเปาที่เธอชอบกินมาด้วย ไปล้างหน้าแปรงฟัน กินอาหารเช้าแล้วเราจะได้ออกจากโรงพยาบาลกัน ตอนนี้อากาศที่มอริเชียสกำลังดี ฉันมีเพื่อนกำลังจะไปที่นั่นพอดี เราไปด้วยกันนะ เธออยากไป...”
“หยิบโทรศัพท์ให้ฉันหน่อย”
เซินชูตื่นมาก็ขวานหาโทรศัพท์ แต่หาไม่เจอ เธอคิดว่าเฉินเซียวคงจะเก็บไว้
เฉินเซียวไม่ได้เอาโทรศัพท์ให้เธอทันที “เธอจะเอาโทรศัพท์ไปทำไม? ”
เซินชูชำเลืองมองเธอแวบหนึ่ง “ข่าวบนอินเทอร์เน็ตน่าจะเต็มไปหมดแล้ว? ”
เธอรู้จักเฉินเซียวดี เมื่อคืนเธอออกมาจากบ้านตระกูลป๋อ หลังจากเธอตื่นขึ้นมาเฉินเซียวก็ไม่ได้บ่นเธอแม้แต่คำเดียว และไม่แม้แต่จะพูดถึงเรื่องคนของตระกูลป๋อเลยด้วยซ้ำ เซินชูไม่ต้องคิดก็พอจะรู้ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ คงจะดังกระฉ่อนไปทั่วทั้งอินเตอร์เน็ตแล้ว
เฉินเซียวถูกมองจนรู้สึกผิด “มันไม่มีอะไรน่าดูหรอก ชาวเน็ตพวกนั้น แต่ละคนไม่รู้อะไรก็พูดไปตามกระแสเพื่อด่าคนอื่นเพื่อปิดปมด้อยของตัวเอง! ”
เซินชูหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วยิ้มขึ้น “ในเมื่อเป็นแบบนี้ แล้วเธอจะกังวลอะไร? ”
พูดพลาง เซินชูก็นิ่งไป “หลายปีมานี้ฉันถูกคนในตระกูลป๋อด่ามาน้อยไปงั้นเหรอ? ”
เมื่อนึกถึงช่วงเวลาสามปีที่ผ่านมา เฉินเซียวก็โมโหจนถอดสี เธอเบะปากอย่างไม่พอใจ “พวกตระกูลป๋อหน้าโง่เหล่านั้น หากไม่เพราะเธอห้ามฉันไว้ ฉันคงด่ากลับไปตั้งนานแล้ว! ”
เซินชูไม่เถียงเธอ เธอกำลังก้มหน้าดูโทรศัพท์ แฮชแท็กยอดนิยมก็คือเป็นเรื่องที่เธอผลักหลินเซียงหยาลงไปในสระว่ายน้ำเมื่อคืน
คอมเม้นต์ด้านล่างสามารถพูดได้ว่าเป็นไปในทางเดียวกัน ทั้งหมดต่างกำลังด่าเซินชู นอกจากจะว่าเธอเป็นหนูตกถังข้าวสารแล้ว ยังว่าเธอหน้าด้าน เป็นนางแม่มด
ดี สามปีที่เธอแต่งงานกับป๋อมู่เหนียน ก็ไม่ถือว่าไม่ได้รับอะไรกลับมาเลย
เซินชูยิ้มเยาะให้กับตัวเอง “ฉันจะไปล้างหน้าแปรงฟัน”
เฉินเซียวมองเธอ และถามขึ้นอย่างระมัดระวังว่า :“เซินชู เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ”
“ฉันโอเค”
เฉินเซียวพูดต่อว่า “ไปล้างหน้าแปรงฟันเถอะ กินอิ่มแล้วถึงจะมีแรงเสียใจต่อ”
“...”
เซินชูไม่เสียใจแล้ว เพราะนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ถึงเธอจะรู้สึกแย่ แต่เธอก็สามารถควบคุมความรู้สึกของเธอได้
ตอนนี้เธอก็เหมือนเด็กที่กำลังรอลูกอม หลังจากไม่ได้รับครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ไม่มีความหวังต่อไปอีก
น้ำประปาเย็นเฉียบทำให้เซินชูมีสติมากขึ้น แรงกดเมื่อคืนของป๋อมู่เหนียนนั่น ราวกับว่ามีบางอย่างถูกกดจนแตกละเอียดแล้ว
สามปีแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องตัดให้ชัดเจนสักที
แต่เฉินเซียวก็พูดถูก กินอิ่มแล้วถึงจะมีแรง
ขณะที่ทั้งสองคนทานอาหารเช้า พยาบาลสองคนจากห้องตรงข้ามก็เพิ่งออกมา ทางเดินเงียบมาก เสียงซุบซิบของทั้งสองไม่ดังมาก แต่เซินชูกับเฉินเซียวกลับได้ยินอย่างชัดเจน
“คุณนายใหญ่ของตระกูลป๋อนี่ก็น่าสงสารนะ? คุณนายรองช่างโหดร้ายจริง ๆ ! คุณใหญ่เพิ่งประสบอุบัติเหตุได้ไม่นาน ลูกในท้อง ก็ถูกเธอทำร้ายไม่มีโอกาสได้เกิดมา! ”
“ถึงว่านะ แต่งงานทั้งทีก็ควรจะหาคนที่ฐานะเหมาะสมกัน! คุณนายรองเป็นแค่คนธรรมดา พอเธอแต่งเข้ามาในตระกูลที่ร่ำรวยก็คงจะหน้ามืดตามัว เทียบชั้นกับคุณนายใหญ่ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย! ก็ไม่รู้ว่าในสมองของเธอเก็บอะไรไว้ ขนาดตระกูลป๋อมีอำนาจขนาดนี้ เธอยังกล้าทำร้ายทายาทเพียงคนเดียวของพวกเขาได้ ผู้หญิงคนนี้ก็เลวเกินไปแล้ว…”
“น้องห้าอย่าห้ามฉัน พวกนั้นไม่ได้เห็นกับตาตัวเองสักหน่อย ยังพูดราวกับเห็นมาเองกับตา! แบบนี้มันปล่อยข่าวมัวซั่วชัด ๆ ! ”
เซินชูมองออกไปนอกประตูแวบหนึ่ง “พวกเขาอยากพูดอะไรก็ปล่อยให้พวกเขาพูดกันไปเถอะ”
“เซินชู! เธอกลายเป็นคนที่ยอมให้ใครที่ไหนก็ได้รังแก ไปตั้งแต่เมื่อไร? ”
เซินชูเม้มปาก “ฉันมีทางออกแล้ว”
“ทางออกอะไรของเธอ พูดมาซิ...”
เซินชูกระซิบข้างหูเธอ เฉินเซียวผงะไปชั่วขณะ หลังจากได้สติกลับมา เธอก็จิปาก “นี่ถึงจะเป็นน้องห้าที่ฉันรู้จัก! ”
เซินชูยิ้ม :ช่วยทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลให้ฉันทีนะ ฉันต้องไปหย่า”