Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เจ้าสาวสายละมุน

เจ้าสาวสายละมุน

Gen-B

5.0
ความคิดเห็น
20K
ชม
29
บท

‘เณศรา’ สาวโสดไม่สนิทวัยย่างเข้ายี่สิบหกปี ยืนหนึ่ง! เรื่องกิริยามารยาทงาม นานถึงสามปีที่เธอมีความสัมพันธ์สนิทสนมกับพี่ชายเพื่อนสาว ทว่าเขากลับทำให้เธอผิดหวังและไม่กล้ารักใครจนบุพเพอาละวาดอีกครั้ง

บทที่ 1 บทนำ

บทนำ

“เนยว่าตัวนี้สวยไหม?” เสียงทุ้มถามพลางลอบมองแก้มสีซับเลือด เมื่อสองสายตาสบประสานกันโดยบังเอิญ คนหนึ่งนิ่งอึ้งไปเพราะมัวแต่ให้ความสนใจขนตาเป็นแพสวยเหนือดวงตาคู่คม มากกว่าเสื้อผ้าชุดสวยในมือถือของชายหนุ่มในฝั่งตรงข้ามกันจนเขาต้องย้ำถาม

“ว่าไงครับ... เนยชอบไหม?”

“เนยก็ชอบ... เอ้อ... เนยว่าระบายลูกไม้ดีเหมือนกันค่ะ”

“พี่ว่าระบายลูกไม้ชายยาวลากพื้น สม็อกเอวรัดช่วงกลางตัวทำให้ดูผอมขึ้นเนอะ เนยว่ามันควรมีถุงมือด้วยมั้ยอะ?”

“เนยว่ามีถุงมือด้วยคงหรูหราไปอีกแบบเหมือนนางเอกเรื่อง... อะไรนะ? ที่เนยไปดูกับพี่”

“แวมไพร์...”

“ใช่ ๆ นั่นแหละ แต่ว่าชุดนั้นเปิดหลังเดินบนพรมแดงเข้าโบสถ์ เนยว่าเก๋ดีนะคะแต่เอ...” คิ้วเรียวสวยเหนือดวงตาคู่กลมโตชนชิดติดกันเกือบจะเป็นเส้นตรง “พี่ปัดอารมณ์ไหนคะ มาชวนเนยดูชุดแต่งงานเนี่ยนะ?”

“ไม่แต่งงานดูไม่ได้รึไงครับ? พี่แค่ดูเพราะอยากดูเฉย ๆ พี่ว่าเนยน่าจะชอบชุดเดียวกับที่พี่ชอบ...” คนพูดเลิกคิ้วเลียนแบบกิริยาของหญิงสาวที่มีสีหน้างุนงงสงสัยแม้รู้ดีว่าเขาคงหยอกล้อเธอเล่นเหมือนทุกครั้ง

“หรือว่าเนยคิดอะไร?”

“เปล่านี่คะ ใครบอกว่าเนยคิด...”

ใบหน้าแดงซ่านเลื่อนมองผ่านกระจกบานสูงจรดเพดานออกไปด้านนอกซึ่งถนนเต็มไปด้วยรถยนต์ในช่วงเวลาเร่งด่วน เพื่อกลบเกลื่อนอาการประหม่าอาย ค่อยหันกลับมาพูดกับเขาใหม่

“เนยว่า... แปลก วันนี้พี่ปัดทำตัวแปลกมากเลยค่ะ โทรมาปลุกตั้งแต่เช้าเอาดอกไม้มาใส่แจกันในร้านให้ สงสัยต้องแอบถามยัยวิละว่าพี่ชายมีลับลมคมในอะไร”

“ถามไปก็ไม่รู้ครับ ยัยวิน่ะวัน ๆ ทำแต่งาน กลับมาจากออฟฟิศก็สี่ห้าทุ่มแล้วพี่เคยเจอหน้าน้องสาวที่ไหน ขนาดคนในบ้านยังเห็นนางนับวันได้”

“แต่เนยแช็ตคุยกับนางทุกวันนะจะบอกให้ วันก่อนยัยวิยังมานอนห้องเนยเลยค่ะ”

พูดถึง ‘ปวิมล’ เพื่อนสาวป่านนี้ได้ดิบได้ดี ทำงานในบริษัทยักษ์ใหญ่ นาน ๆ ครั้งถึงว่างมาหา แต่เณศราก็โทรหาเพื่อนตลอดไม่เคยขาดการติดต่อ

คนเป็นพี่ชายถึงกับหน้าเจื่อน เก็บมือถือลงกระเป๋าหนังสะพายใบโปรดที่เธอซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด ประสานมือทั้งสองไว้บนโต๊ะพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม

“พี่ปัดก็น่ารักเหมือนทุกวันอะ... จะไปมีเรื่องอะไรล่ะครับ?” แล้วเลื่อนมือไปหยิกแก้มนุ่มอย่างมันเขี้ยว จนคนทำแก้มป่องต้องยกมือลูบตามรอยแดงที่ค่อย ๆ จางหายไป มันคงไม่เจ็บแต่ให้ความรู้สึกแสนซาบซ่านหวั่นไหว

ยากจะจำได้ว่าเจอหน้ากันบ่อยเท่าไร ปัถฐพลขยันมาหาเธอเป็นกิจวัตร เช้าถึงเย็นถึงด้วยเหตุผลว่าเขาต้องไปรับไปส่งน้องสาวและบ้านของเธอก็อยู่ละแวกเดียวกัน ทางผ่านไปมหาวิทยาลัย ถึงมันจะเป็นข้ออ้างเพียงฝ่ายเดียวเพราะจนกระทั่งเรียนจบแล้ว ทั้งเธอและปวิมลมีรถยนต์เป็นของตัวเอง เขาก็ยังมาช่วยยกขนมปังขึ้นรถตอนเช้า มาขับรถให้บ้างถ้าหากว่าวันไหนเธอทำงานเหนื่อยจนหมดเรี่ยวหมดแรง

ใช่เท่านั้น หากว่ามีหนุ่ม ๆ มาจีบหยอดทอดสะพานเมื่อไร พี่ชายเพื่อนคนนี้แหละ! ออกตัวเป็นไม้กันหมาไล่เตลิดเปิดเปิงเสียทุกราย เณศราจึงต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากกับการทำความเข้าใจในความสัมพันธ์ที่ไม่มีใครพูดกล่าว... ว่าควรเป็นแฟนหรือเปล่า

เธอแค่วางตัวดีในแบบของเธอที่ไม่ได้เหมาะสมกับเขานัก

“แล้ววันนี้จะรับอะไรดีคะ?”

“พี่ปัดคนแปลกขอสตรอว์เบอร์รีชีสเค้กเหมือนเดิมครับ”

“ค่ะ... รอสักครู่นะคะคุณลูกค้า” พูดพลันเลื่อนมือลงลูบกระโปรงบานฟูฟ่องสีชมพูให้เรียบลงค่อยลุกขึ้นอย่างระวัง ด้วยท่าทางเรียบร้อยสมเป็นกุลสตรี

Bakery By Ne’Sara ตัวหนังสือใหญ่โตบนป้ายสีชมพูบอกถึงความเป็นสาวสายละมุน โลโก้สัญลักษณ์ลายตุ๊กตาผมหยิกหยอย ดวงตากลมโตเหมือนตุ๊กตาบลายธ์มากกว่าที่จะเหมือนเจ้าของร้านซึ่งนั่นทำให้เธอหัวเราะกับมันอยู่บ่อย ๆ กระโปรงฟูฟ่องบนสติ๊กเกอร์ที่แปะหน้าสินค้าทุกชิ้นหน้าตาน่ารักเหมาะสำหรับเป็นของฝาก เหมาะสมกับเณศรา

ด้วยสไตล์การแต่งตัวสุดมุ้งมิ้งตามเทรนด์แฟชั่น เสื้อยืดเอวลอยออกแนวสวยซ่อนแซ่บไม่น่าเกลียดจนเกินไปธีมเดียวกับร้านเบเกอรี่ กระเป๋าสะพายพาดบ่าหนังสีขาว รองเท้าส้นสูงสองนิ้วก็มักจะประดับประดาด้วยงานแฮนด์เมดที่เต็มไปด้วยดอกไม้

เป็นอันรู้กันว่านอกเหนือจากเรื่องเจ้าของร้านสวยน่ารัก! เบเกอรี่ร้านนี้ยังสดใหม่ อบร้อนจากเตาทุกวัน

“สตรอว์เบอร์รีชีสเค้กหนึ่งที่ค่ะน้องพลอย อย่าลืมลูกค้าโต๊ะนู้นด้วยนะคะ คิดเงินออเดอร์นี้แล้วเราจะกลับไปอ่านหนังสือกลับได้เลยนะ พี่ปิดร้านเองค่ะ”

“ค่ะพี่เนย”

พอนักศึกษาตอบรับพยักหน้า หญิงสาวดันสังเกตเห็นบางคนยกปลายนิ้วชี้ปากอ้ากว้างทำหน้าทะเล้น เขานั่งคอยอยู่บริเวณโต๊ะแรกใกล้เคาน์เตอร์คิดเงิน เธอยิ้มอ่อนมองอย่างนึกขัน อมแก้มกลมตุ่ยขณะก้มตัวลงกวาดสายตามองขนมในตู้กระจกใสเพื่อดูสินค้าที่เหลือ

ครึ่งก้อนเป็นสตรอว์เบอร์รี สองก้อนที่เหลือเป็นวานิลลากับพายอีกไม่กี่ชิ้น...

“เค้กหน้าช็อกกะสตรอว์เบอร์รีขายดีค่ะพี่ มีอาจารย์เหมาไปสามก้อนเลยค่ะ”

“จ้ะ งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าพี่ทำเพิ่มเนอะ เราว่างมาช่วยก็มานะ... มาทำเค้กอร่อย ๆ ให้ลูกค้าทานกัน”

“พวกหนูจะมาแต่เช้าเลยค่ะพี่เนย!”

นักศึกษาสาวร่างท้วมยิ้มหน้าระรื่นหากว่าจะได้เป็นลูกมือเรียนการทำเค้กโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย คนสอนเองก็น่ารักใจเย็นไม่หวงวิชา ไม่เคยดุว่าน้อง ๆ คนไหน

เมื่อลูกค้าเดินมาสั่งซื้ออาหารว่างไปทานทั้งสองคนรีบช่วยกันคิดเงิน ยกถาดขนมเค้กและกาแฟไปบริการให้ถึงโต๊ะ สำหรับคนพิเศษอย่างปัถฐพล เธอใช้ที่คีบตักเค้กทีละชิ้นวางลงบนจานใบเล็กแซมขอบสีทองอย่างเอาใจใส่ เสิร์ฟอาหารให้เขาด้วยตัวเอง

“ครีมคัสตาร์ดหนึ่ง เค้กสตรอว์เบอร์รีหนึ่ง หนึ่งแถมหนึ่งเพราะว่าก้อนนี้เนยทำ ทานให้อร่อยนะคะคุณลูกค้า”

จานสีขาวน่ารักตกแต่งด้วยตุ๊กตาไอซิ่งรูปหญิงสาวในกระโปรงพองสีขาว รู้เลยว่าหน้าเหมือนใคร

เณศราหย่อนก้นนั่งลงที่เดิม ขณะใบหน้าหล่อเหลาเผยรอยยิ้มเศร้าหมอง

“เป็นวันสุดท้ายหรือเปล่า? จะได้กินเค้กอร่อย ๆ ของเนย...”

“คะ?” เธอเลิกคิ้วขึ้นมองสงสัย ชายหนุ่มจึงฉีกยิ้มกลบเกลื่อน

“เอ่อ... ไม่มีอะไร พี่กินเสร็จพี่ไปเลยนะ ไม่อยู่ช่วยเก็บร้านนะครับ”

“ค่ะไม่เป็นไร เนยเก็บร้านคนเดียวได้ พี่ปัดมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”

“ไม่มี...” เขาตอบก่อนเลื่อนสายตาลงมองเค้กครีมหนาฟูแต่งแต้มด้วยผลไม้ ใช้ซ้อมตักทานมันอย่างช้า ๆ ซึมซับรสชาติกลมกล่อมพอดี ไม่หวานเลี่ยนจนเกินไป

ตลอดระยะเวลาหลายปีที่หญิงสาวสร้างเนื้อสร้างตัวเปิดร้านเบเกอรี่ สร้างแบรนด์เป็นของตัวเองสำเร็จ ปัถฐพลรู้ดีว่าเขาไม่ต่างจากเพื่อนร่วมเดินทางฝัน

“พี่ภูมิใจในตัวเนยนะ... ถึงพ่อแม่พี่จะไม่ชอบเนยเพราะว่าเนยไม่รวย พี่ขอให้เนยมีความสุขกับการทำเค้กอร่อยแบบนี้ไปเรื่อย ๆ”

“เนยมีความสุขกับการทำอาหารทุกอย่างค่ะ เนยชอบเบเกอรี่เป็นพิเศษ มันฟูฟ่อง นุ่มนิ่ม เด้งดึ๋ง ๆ เวลาเห็นมันออกจากเตาแล้วคนกินยิ้มเพราะว่าเค้กอร่อย เนยหายเหนื่อย เนยรู้สึกภูมิใจค่ะ”

คำพูดนั้นทำคนฟังใจชื้นไม่น้อย ปัถฐพลก้มหน้าทานขนมในจานจนเกลี้ยง ในสายตาของเจ้าของร้านที่นั่งยิ้มอย่างเอ็นดู น้องนักศึกษาเดินผ่านมาแซวสองสามคำ จนกลับบ้านกันไปหมดเหลืออยู่แค่สองโต๊ะคือกลุ่มอาจารย์ นักศึกษาและโต๊ะของเจ้าของร้าน

“อิ่มละพี่ไปก่อนนะ ตังค์จ่ายแล้วนะครับ” คนพูดหัวเราะอย่างไม่ลืมว่าไม่ทอนด้วย! สำหรับฐานะระดับเขาคงมาทิปน้อง ๆ ได้ทุกวัน ช่วยอุดหนุนกันไป มือหนาวางส้อมเล็กลงบนจานเบา ๆ เลื่อนมือไปกุมมือของเธอเอาไว้

“พี่... ชอบ... เค้กเนยมากนะ อร่อยมาก ๆ อร่อยสุดยอด”

“ขอบคุณค่ะ ไว้ค่อยคุยกันนะคะ ขับรถดี ๆ”

หญิงสาวพยักหน้ารับคำชมที่ได้ยินอยู่บ่อยครั้งด้วยใจเป็นสุข ขณะที่เขาค่อย ๆ ปล่อยมือของเธอ

มันให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนกับว่าเขายังคงกุมมือของเธอเอาไว้ คอยให้กำลังใจเหมือนทุกครั้ง ทว่าพอร่างสูงลุกขึ้นยืนและเดินจากไป หัวใจดวงน้อยกลับสั่นไหวประหลาด

เณศราแน่ใจว่าเขาทำตัวแปลก ๆ และด้วยความไม่แน่ใจว่าอีกคนมีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าถึงได้พูดจาไม่เป็นตัวของตัวเอง เธอพลอยเป็นกังวลขนาดว่านำจานไปล้างทางด้านหลังร้าน ยังเผลอพึมพำหน้าอ่างล้างมือคนเดียว กระทั่งเสียงโทรศัพท์สั่นดังจากกระเป๋าสะพายใบน่ารักลายตุ๊กตาหมี และเป็นเพราะว่าห้อยพวงกุญแจรถยนต์ไว้ด้วยกันมันเลยสั่นไปทั้งกระเป๋า

บางคนไม่ยอมขึ้นรถกลับบ้านไปสักที โทรมาทำอึก ๆ อัก ๆ ผิดวิสัยของปัถฐพลที่ไม่ใช่คนทำตัวมีความลับมากมาย เธอคุยกับเขาไม่กี่คำก็จำเป็นต้องวางสายเพราะปวิมลโทรสวนเข้ามาพอดี

[เนย... พี่ชายฉันไปร้านแกปะ?]

“มานั่งเล่นอยู่สักพักแล้วล่ะ นี่พี่เขาเพิ่งออกไปเอง... โทรมาจะพูดอะไรก็ไม่พูด มีอะไรเปล่าแก?”

ความเป็นคนซื่อไร้พิษภัยมาแต่ไหนแต่ไร เณศราคงนึกไม่ออกจริง ๆ คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่นมองกำแพงสีขาวครีมในร้านเงียบเชียบ ซึ่งเธอต้องตกใจอีกครั้งเพียงได้ยิน...

[คือ... งี้นะเนย... พี่ปัดจะแต่งงานอาทิตย์หน้านี้แล้ว ฉันสงสัยว่าเขายังไม่เอาการ์ดแต่งงานไปให้แกอีกเหรอ?]

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ Gen-B

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ