5.0
ความคิดเห็น
260.4K
ชม
193
บท

“คนไม่มีค่า ไม่จำเป็นต้องถนอม เหมือนกับเธอยังไงล่ะแคท เธอมันก็แค่ก้อนกรวดเม็ดทรายไร้ค่า ไร้ราคา เป็นได้แค่ตุ๊กตามีชีวิตที่ดิ้นระริกอยู่ใต้ระหว่างขาของฉันเท่านั้น” ถ้อยคำของชายร่างใหญ่ที่คร่อมร่างเปลือยของเธอ ช่างเป็นคำพูดที่สร้างความเจ็บปวดให้กับนันท์นภัสมากเหลือเกิน หัวใจดวงน้อยเต้นเร่าด้วยความเสียใจ ร่างกายเย็นเฉียบประหนึ่งเธอฝังตัวอยู่ในหิมะขาวโพลน “คุณอูโก้...” เสียงเจ็บช้ำกล่าวออกไป “ใช่...ฉันคืออูโก้ จำชื่อเจ้าของเธอให้ขึ้นใจ แม่สัตว์เลี้ยงตัวน้อยๆ ของฉัน สร้อยที่ฉันให้เธอใส่มันก็เปรียบเสมือนปอกคอที่สวมให้สัตว์เลี้ยงตัวโปรด ให้คนอื่นเขารู้ว่า เธอมีเจ้าของแล้ว และฉันก็จะไม่ยอมให้ใครมาแย่งสัตว์เลี้ยงของฉันไปได้ นอกเสียจากว่า ฉันจะปล่อยมันไปเอง แล้วก็จำใส่กะโหลกกลวงๆ ของเธอเอาไว้ด้วยว่า ร่างกายของเธอทุกสัดส่วน อย่าให้ใครมาแตะต้อง ไม่อย่างนั้นเธอได้แหลกคามือฉันแน่ วันนี้ฉันจะลงโทษเธอเบาะๆ ที่ริอ่านให้ไอ้แจ็คมันจับมือ ไม่หนักไม่หนาอะไรหรอก...แค่คางเหลืองเดินลงจากเตียงไม่ได้เท่านั้นเอง”

บทที่ 1 1

1

เสียงพูดคุย เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้น เสียงร้องขอความช่วยเหลือของหญิงสาวหลายคน ปลุกให้สตรีนางหนึ่งที่นอนสลบอยู่บนพื้นห้องตื่นขึ้นมา เธอเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างเชื่องช้า ดวงตาที่หลับยาวนานพร่าปรือจนต้องกะพริบตาหลายครั้งเพื่อปรับสภาพดวงตาให้เข้ากับแสงนีออน พลางสะบัดศีรษะไล่ความมึนงง ใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างยันร่างกายให้ลุกขึ้นนั่ง

“ที่นี่ที่ไหน เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”

คำถามแรกเกิดขึ้นในใจ เมื่อสายตาของเธอมองไปรอบๆ ห้องที่ไม่คุ้นเคย มองดูสตรีหลายสิบคนที่นั่งร้องไห้บ้าง ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือบ้าง บางคนก็ทุบประตูเหล็กจนเกิดเสียงดังแข่งกับเสียงต่างๆ ในห้อง สีหน้าของหญิงสาวเหล่านั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ตื่นตระหนกตกใจ

“พวกเธอร้องไห้กันทำไม แล้วที่นี่ที่ไหน”

นันท์นภัสหันไปถามหญิงสาวผมทองที่นั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่ข้างๆ ด้วยความสงสัยระคนตกใจ คนที่ถูกถามเงยหน้ามามองผู้ถามน้ำตานองหน้า

“ที่นี่มันคือนรก เธอไม่รู้เหรอมันคือนรก”

สาวจากเมืองผู้ดีอังกฤษตวาดตอบ ร้องไห้ออกมาดังลั่นระบายความทุกข์ที่อัดแน่นในใจ นันท์นภัสยังรู้สึกงงกับคำตอบที่ได้รับ ความชัดเจนยังไม่เกิดขึ้นในสมอง

“เธอพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง บอกฉันหน่อยสิ” สาวชาวไทยถามอีกรอบ

สาวคนเดิมจึงหันมาตอบให้ความสงสัยของนันท์นภัสหายไป

“ที่นี่มันคือซ่องยังไงล่ะ ผู้หญิงทุกคนที่นี่กำลังจะถูกส่งไปขายตัวที่อื่น ได้ยินไหมที่นี่มันคือนรก มันคือนรก”

คนที่ได้รับคำตอบนิ่งอึ้ง ดวงตาเบิกโพลงด้วยความตกใจสุดขีด ใจเต้นระส่ำหาจังหวะไม่ได้ ความงวยงงจากการเพิ่งลืมตาตื่นหายเป็นปลิดทิ้ง ความตระหนกตกใจเข้ามาแทนที่ และเป็นความรู้สึกที่รุนแรงเข้ามาในจิตใจของเธอเป็นอย่างมากด้วย

‘เธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร’

เป็นคำถามที่ก้องอยู่ในหัว นันท์นภัสใช้สติที่เหลืออยู่น้อยนิดคิดไตร่ตรอง หญิงสาวจำได้ว่าตนเองกำลังเดินไปยังลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ตอนกำลังจะถึงรถอยู่ไม่กี่ก้าว เธอก็รู้สึกเหมือนกับว่ามีใครบางคนมายืนซ้อนทับแผ่นหลัง ก่อนที่ลำแขนจะตวัดรัดตรงเอวเล็ก ต่อมาก็มีผ้าผืนหนึ่งปิดทับกึ่งปากกึ่งจมูก มันเป็นช่วงเวลาที่เร็วมาก เร็วจนนันท์นภัสไม่ทันได้ต่อต้านหรือร้องขอความช่วยเหลือ ร่างกายก็อ่อนแรงลง ดวงตาปรือ ไม่กี่วินาทีทุกอย่างก็มืดสนิท มารู้สึกตัวอีกทีเธอก็มาอยู่รวมกันกับหญิงสาวหลายคน หลากเชื้อชาติซึ่งแต่ละคนใบหน้าอาบไปด้วยน้ำตาทั้งสิ้น

‘เราถูกจับตัวมา’ สาวชาวไทยคิดในใจหลังจากเรียบเรียงเหตุการณ์ครั้งล่าสุดที่ตนจำได้ คำถามต้องมาก็คือ ใครกันที่เป็นคนจับตนมาที่นี่หรืออาจเป็นพวกค้ามนุษย์ข้ามชาติที่มักจับตัวผู้หญิงหญิงสาวเข้าไปในรถชนิดที่แตกต่างกันไปตามข่าวที่นันท์นภัสรับรู้มา แต่ก็ไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง

นันท์นภัสมองไปรอบๆ ห้องที่เธอกับหญิงเคราะห์ร้ายหลายทั้งน้ำตา ห้องนี้เป็นห้องสี่เหลี่ยมจัตุรัสไม่มีหน้าต่างสักบ้าน จะมีเพียงช่องระบายอากาศที่อยู่ด้านบนสุดของผนัง ให้อากาศถ่ายเทเท่านั้น ตรงหน้าเธอจะเป็นประตูบานใหญ่ที่ทำจากเหล็กแข็งแรงทนทานและคงพังออกไปได้ยาก ผนังสามด้านทำจากปูน แต่อีกด้านครึ่งหนึ่งเป็นกระจกหนาทึบที่มองไม่เห็นด้านนอก

เสียงดังเหมือนมีคนไขประตูดังขึ้น เรียกความสนใจให้กับหญิงสาวทั้งหลายในห้อง ก่อนที่พวกเธอจะพุ่งสายตาไปยังบานประตูเหล็กที่ค่อยๆ เปิดออก ชายรูปร่างสูงใหญ่สวมถุงน่องอำพรางใบหน้าสามคนเดินเข้ามาในห้อง โดยมีอีกสองคนยืนถือปืนคุมเชิงด้านนอก

“ลุกขึ้น” เสียงชายตัวโตพูดพร้อมกับกระชากร่างสตรีผิวดำให้ลุกขึ้นยืน

“ไม่...ปล่อยนะ ปล่อยฉัน” สตรีคนนั้นขืนตัวเต็มที่ ปากร้องลั่น ชายคนดังกล่าวจึงฟาดฝ่ามือลงไปบนแก้มของเธอเต็มแรง

“ถ้าไม่อยากตาย หุบปาก”

ชายคุมซ่องตะโกนใส่หน้าหญิงสาวที่ตนเพิ่งทำร้าย ทว่าเธอก็ยังดิ้นรนขัดขืนไม่หยุด แต่ก็ไม่อาจต้านทานแรงของมันได้ ในที่สุดเธอก็ถูกลากออกไปจากห้องเป็นคนแรก

และเมื่อหญิงสาวคนแรกถูกลากตัวออกไป เสียงกรีดร้องของผู้หญิงที่เหลือในห้องก็ดังขึ้น ตามด้วยเสียงร้องขอและขอความช่วยเหลือที่ดังไม่หยุด นันท์นภัสเองก็ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่า ชายทั้งสามคนนั้นจะไม่สนใจ ใครร้อง ใครดิ้นรน ใครขัดขืนมีอันต้องถูกทำร้ายด้วยการตบ นำพาความหวาดกลัวมาให้หญิงสาวเคราะห์ร้ายทั้งหลายเป็นอย่างมาก

หญิงสาวที่ถูกลักพาตัวหรือถูกหลอกมาถูกนำตัวออกไปจากห้อง 6 คน จำนวนที่พวกชายคุมซ่องต้องการตามคำสั่งของผู้เป็นนายคือ 7 คน และคนสุดท้ายที่พวกเขาต้องการคือ นันท์นภัส

“ไม่นะ ปล่อย ปล่อย”

นันท์นภัสพูดเป็นภาษาสากล ใช้มือปัดป้องมือสกปรกของชายใจโฉดที่พยายามจะจับลำแขนของตัวเอง เท้าเล็กที่มีแรงไม่มากกระแทกไปยังลำขาของชายคนดังกล่าวหลายครั้ง ทว่าขาของมันก็เหมือนแข็งดุจหินไม่สะดุ้งสะเทือน

“ถ้าไม่อยากเจ็บตัวไปมากกว่านี้ อย่าขัดขืน” ชายคุมซ่องร่างใหญ่กล่าวเตือนคว้าหมับตรงลำแขนเล็กแล้วบีบ เป็นเชิงเตือนอีกทางหนึ่ง

“ไม่นะ ไม่ ปล่อย...ช่วยด้วย”

ปากสาวขยับเปิดร้องลั่นไม่สนใจคำเตือนของชายนิสัยเลว ขืนตัวเต็มที่ไม่ให้ตนถูกลากออกไปจากห้องนี้ ทว่ามันไม่ได้เป็นไปตามที่เธอคิด ในที่สุดร่างเล็กก็ถูกลากถูออกไปจากห้องนั้นสำเร็จ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ อัญญาณี

ข้อมูลเพิ่มเติม
สวาทรัก อสูรร้าย

สวาทรัก อสูรร้าย

มหาเศรษฐี

5.0

"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน

ชิงรัก

ชิงรัก

มหาเศรษฐี

5.0

ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน

ลิขิตรักพญามาร

ลิขิตรักพญามาร

มหาเศรษฐี

5.0

“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

มหาเศรษฐี

5.0

จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง

ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง

Nadia Lada
5.0

เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

Arvin Bikoff
5.0

หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

Thalia Frost
5.0

กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ