Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ทอมโน (ลำดับที่ 1 ใน ซีรี่ส์ทอรักปักสวาท)

ทอมโน (ลำดับที่ 1 ใน ซีรี่ส์ทอรักปักสวาท)

ณิการ์

5.0
ความคิดเห็น
2K
ชม
48
บท

ทอมโน (ลำดับที่ 1 ใน ซีรี่ส์ทอรักปักสวาท) “ก็แค่นางบำเรอถูกกฎหมาย อย่าสะเออะมาตีฝีปากกับฉัน” มโนยืนปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตทีละเม็ดอยู่หน้ากระจกโดยไม่ยี่หระต่อสายตาของคนที่นั่งบนเตียงด้านหลังตน“อย่างน้อยฉันก็มาแบบถูกกฎหมายไม่ใช่เหรอคะสามีขา...”

บทที่ 1 นามสกุลลิเก nc 35+

** “****เอ้า! ชนแก้วเว้ย!"**หนึ่งกลุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมกับยกแก้วบรั่นดีตกหน้าขึ้นมารอให้เพื่อน ๆ ยกขึ้นมาชนกับแก้วของตน

“ชนเหี้ยสิวะ! กูเครียดอยู่นะเว้ยไอ้ฝัน”

น้ำเสียงเข้มเปล่งออกมา แสดงให้รู้ว่าเจ้าของน้ำเสียงนั้นกำลังอารมณ์ไม่ดี มือใหญ่ยกแก้วบรั่นดีเข้ม ๆ กระดกเข้าปากรวดเดียวหมดแก้ว โดยไม่สนใจจะชนแก้วกับเพื่อน ๆ ในกลุ่ม เมื่อหมดแก้วก็คว้าขวดบรั่นดีตรงหน้าขึ้นมายกขวดให้หนำใจ

"เฮ้ย! พอก่อนไอ้โน มึงจะเครียดทำไมวะ ก็แค่แต่งงานเองเว้ย! คิดว่าเป็นกำไรชีวิตสิวะ”

ลวงร้อยแย่งขวดบรั่นดีในมือเพื่อนรักมาเก็บไว้ ขืนปล่อยให้ดื่มแบบนี้มีหวังเมาเละเหมือนหมาก่อนที่จะคุยกันรู้เรื่องแน่ ๆ เลยวันนี้ คนรึอุตส่าห์เปิดห้องเลี้ยงสละโสดให้ แทนที่จะสนุก แต่นี่อะไร มานั่งหน้าตึงเครียดอยู่ได้

“มึงเข้าใจกูจริงไหมวะไอ้เพ้อ”

มโนมองเพื่อนข้างตนที่มีสีหน้ายิ้มระรื่นไม่เหมือนกับคำที่พูดออกมาจากปากเลย ท่าทางกับคำพูดช่างสวนทางกันเสียเหลือเกิน แล้วสายตาคมก็เหลือบไปมองเพื่อน ๆ อีกสามคนและทุกคนก็เหมือนกำลังสนุกสนานบนความทุกข์ของเขา

มโนกับทั้งสี่คนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยมัธยม จนตอนนี้อายุ 37 ปีแล้ว เป็นเพื่อนกิน เพื่อนเที่ยวเคล้านารีมาด้วยกันตั้งแต่แตกเนื้อหนุ่ม แต่ตกมาปีนี้ปี 2560 เป็นปีที่เขาไม่คาดคิด ไม่คาดคิดว่า

นายมโน เหลืองอร่ามทองคำส่องแสงระยิบระยับรุ่งเรืองพราวฟ้า

หรือ โน วัย 37 ปี ทายาทรุ่นที่ 47 ของบริษัทเส้นใหญ่โภชนาการ ซึ่งธุรกิจของเขานั้นเป็นบริษัทแม่และมีโรงงานลูกผลิตพวกอาหารแห้ง โดยเฉพาะมาม่าเป็นอาหารยอดฮิตของคนไทยในปัจจุบัน

“ก็พวกกูเข้าใจมึงไงถึงได้เปิดห้องชุดหม้อรวมให้มึงส่งท้ายก่อนที่มึงจะมีเจ้าของเป็นตัวเป็นตนไงวะเพื่อน”

"ฮ่า ๆ ๆ" เสียงหัวเราะตามมาเป็นพรวน

“เออ! ไอ้เพ้อพูดถูหูกูดีว่ะวันนี้ เรียกเด็ก ๆ เข้ามาเลยไอ้ฝัน” รักษ์หัวเราะชอบใจพร้อมกับบอกสั่งเพื่อนรักให้โทร.เรียกเด็ก ๆ เข้ามาปลอบใจว่าที่เจ้าบ่าว

“สนุกดีกว่าไอ้โน มึงควรดีใจที่จะมีคนมาร่วมใช้นามสกุลลิเกของมึงนะเว้ย!" เพ้อภพเอ่ยบอก พร้อมกับลุกขึ้นเดินกลับไปนั่งที่เดิมของตน

“แล้วมันไปหนักหัวมึงรึไงไอ้เพ้อ นามสกุลนี้ทวดกูเป็นคนไปต่อเติมให้ดูหรูหราขึ้นมาเว้ย! สาวเห็นสาวเป็นมอง สาวเจอเป็นต้องถอดผ้าเข้าหา แต่ตอนนี้กูเครียดเว้ย! กูจะกลับแล้ว เชิญพวกมึงสนุกกับชุดรวมไปเถอะ ระวังเถอะ ระวังพวกมึงจะติดโรค” พูดให้เพื่อนทั้ง ๆ ที่ตนก็ไม่ต่างจากเพื่อนของตนเลย ตอนนี้มโนไม่มีอารมณ์จะเที่ยวจะสนุกกับผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น เพราะเขาเครียดกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นอีกสองวันข้างหน้านี้

“กูนึกว่าลิเก” ฝันดีเอ่ยลอย ๆ

“เอ้า! ไอ้ห่านี้ พวกกูอุตส่าห์จัดแจ่ม ๆ มาให้มึงเลยนะเว้ย” ลวงร้อยเห็นเพื่อนลุกขึ้นเตรียมท่าจะกลับ

“เอาไปต้มยำกินที่บ้านพวกมึงเถอะ กูเครียดเว้ย!" ว่าแล้วมโนก็เดินตรงไปยังประตูห้องกระชากเปิดออกทันที

ปัง!

เสียงประตูห้องที่มโนกระแทกปิดดังลั่นทำให้สี่หนุ่มที่เหลือมองหน้ากันแล้วหัวเราะเพื่อนรัก

“พวกมึงว่าเจ้าสาวไอ้โนจะเป็นผู้หญิงแบบไหนวะ” รักษ์เอ่ยถามเพื่อน

“แบบไหนกูไม่รู้ กูรู้แต่ว่าตอนนี้กูหิวนมว่ะ!" เพ้อภพเอ่ยพลางมองไปยังประตูที่ตอนนี้มีสาวอกตูมกำลังเรียงรายกันเข้ามาในห้อง

“นั่นสิวะ รอดูวันแต่งงานดีกว่า ตอนนี้ต้มยำน้ำข้นกันดีกว่าว่ะ” ฝันดีเอ่ยขึ้นบ้าง แล้วลูกเดินไปโอบกอดสาว ๆ มานั่งกับตน

เพื่อน ๆ ของเขากำลังสนุกกันอยู่

แต่มโนขับรถกลับบ้านด้วยสีหน้าเครียดขรึม พอมาถึงบ้านเขาก็รีบขึ้นไปบนห้องนอนทันที แต่ยังไม่ทันได้หย่อนก้นลงนั่งบนเตียงก็มีเสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้น และก็ไม่ต้องเดายากเมื่อตอนนี้คนที่เคาะประตูได้เปิดผลักเข้ามาก่อนที่เจ้าของห้องจะอนุญาตแล้ว

“ไปไหนมาลูก จะแต่งงานอยู่แล้วนะทำไมต้องไปเที่ยวข้างนอก ไปลงอ่างมาใช่ไหมลูก” นางเพ็ญศรีเดินหน้าบึ้งเข้ามาหาลูกชายคนเดียวของตนด้วยสีหน้าไม่พอใจ

“โธ่! แม่ ให้ลูกได้เที่ยวบ้างเถอะ ดีแค่ไหนแล้วที่โนไม่ไปผูกคอตาย”

“ตบปากตัวเองเดี๋ยวนี้โน ทำไมต้องพูดแบบนี้ด้วย” นางสั่งเสียงแข็ง และเห็นว่าลูกชายชักช้าไม่ทำตาม มือเหี่ยวย่นก็ยกขึ้น

เผียะ!

“แม่ตบปากลูกเพียงเพราะลูกจะหนีตายเนี่ยนะ แม่เห็นยัยเจ้าสาวนั่นดีกว่าลูกได้ยังไง” มโนยกมือกุมปากตัวเองด้วยความน้อยใจผู้เป็นแม่

“มึงไม่เข้าใจกูหรอกไอ้ลวง มึงก็รู้ว่ากูยังไม่อยากมีพันธะตอนนี้ แต่แม่ง! พันธะเสือกวิ่งมาหากู” มโนพูดออกมาด้วยความน้อยใจโชคชะตา ใบหน้าคมเข้มประดับหนวดเคราเสริมเสน่ห์จ้องมองบรรดาเพื่อนรักด้วยสายตาขอความช่วยเหลือ

ลวงร้อย เพ้อภพ ฝันดี

และ

รักษ์

หันมาสบตากัน ก่อนจะพูดออกมาพร้อมเพียงกัน

“เรื่องนี้พวกกูช่วยมึงไม่ได้จริง ๆ ว่ะ” ทั้งสี่คนประสานเสียงกันพูดออกมา

มโนเอนหลังพิงพนักโชฟาด้วยความอ่อนแรง เมื่อคิดว่าอีกสองวันก็ต้องเข้าพิธีแต่งงานสายฟ้าแลบในครั้งนี้ แม้แต่หน้าของเจ้าสาวก็ไม่เคยเห็น ไม่รู้ว่าสวยหรือขี้เหร่ จะสวยหรือขี้เหร่เขาก็ไม่มีวันให้หล่อนได้ใช้ชีวิตหลังแต่งงานอย่างมีความสุขหรอก เขาจะโรยหนาม ตะปูและเรือใบให้หล่อนเดินไม่ได้แล้วล่าถอยออกไปจากชีวิตของเขาเอง

"เฮ้อ!"

เพ้อภพถอนหายใจแรง ๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินมาทิ้งตัวนั่งข้างมโน แล้วยกมือขึ้นตบไหล่เพื่อนแรง ๆ

“เอาเถอะน่า...ไหน ๆ ก็จะมีเมียก็ฉลองกันเถอะ จะเครียดทำไมกะอีแค่แต่งงานก่อนเพื่อน ๆ เองไอ้โน” เหมือนจะปลอบแต่ทำไมคนฟังถึงรู้สึกว่าเพื่อนรักกำลังเยาะเย้ยอยู่ในที

“มึงเข้าใจกูจริงไหมวะไอ้เพ้อ”

มโนมองเพื่อนข้างตนที่มีสีหน้ายิ้มระรื่นไม่เหมือนกับคำที่พูดออกมาจากปากเลย ท่าทางกับคำพูดช่างสวนทางกันเสียเหลือเกิน แล้วสายตาคมก็เหลือบไปมองเพื่อน ๆ อีกสามคนและทุกคนก็เหมือนกำลังสนุกสนานบนความทุกข์ของเขา มโนกับทั้งสี่คนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยมัธยม จนตอนนี้อายุ 37 ปีแล้ว เป็นเพื่อนกิน เพื่อนเที่ยวเคล้านารีมาด้วยกันตั้งแต่แตกเนื้อหนุ่ม แต่ตกมาปีนี้ปี 2560 เป็นปีที่เขาไม่คาดคิด ไม่คาดคิดว่า

นายมโน เหลืองอร่ามทองคำส่องแสงระยิบระยับรุ่งเรืองพราวฟ้า

หรือ โน วัย 37 ปี ทายาทรุ่นที่ 47 ของบริษัทเส้นใหญ่โภชนาการ ซึ่งธุรกิจของเขานั้นเป็นบริษัทแม่และมีโรงงานลูกผลิตพวกอาหารแห้ง โดยเฉพาะมาม่าเป็นอาหารยอดฮิตของคนไทยในปัจจุบัน

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ณิการ์

ข้อมูลเพิ่มเติม
กลืนกิน

กลืนกิน

โรแมนติก

5.0

เกือบหนึ่งพันปีที่เฝ้ามอบถวายชีวิตของตัวเองคอยรับใช้นายท่านนาสูร และเมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือกอนาคตตัวเอง เขากลับเคว้งคว้างเดินไม่ถูก และยิ่งไปกว่านั้นเมื่อโชคชะตาส่งเด็กน้อยตัวเล็กอายุไม่กี่เดือนมาให้เขาได้ดูแล ‘เดหลี’ เขาดูแลเด็กน้อยไม่ต่างจากลูก แม้จะรู้ดีว่าอนาคตเด็กคนนี้จะเปลี่ยนชีวิตของตัวเอง ‘พาที’ นั่งใช้ความคิดอยู่คนเดียวในห้องนั่งเล่นของบ้านที่ตนเองและเดหลีอาศัยอยู่ด้วยกัน เพลานี้เด็กน้อยอายุเจ็ดขวบ เผลอแป๊บเดียวจากเด็กน้อยงอแงเอาแต่ใจ นอนตัวแดงแบเบาะ ตอนนี้รู้ความและขี้อ้อนมาก “คุณพาทีคะ คุณพาทีคะ” “หืม! เด็กน้อย” คนถูกเรียกหันมาหาเจ้าของเสียงเล็กสดใสของหนูน้อยวัยเจ็ดขวบ “แต่งงานคืออะไรคะ?” หนูน้อยเกาะแขนของผู้เปรียบเสมือนพ่อของตนเอง “คือคนสองคนรักกัน แล้วก็แต่งงานกัน เดี๋ยวโตขึ้นเดหลีก็จะเข้าใจเอง” พาทีลูบหัวหนูน้อยหน้ากลมที่แนบแขนตัวเองและกำลังแหงนเงยหน้าขึ้นมองจ้องหน้าตัวเอง เหมือนเขาที่กำลังก้มมองหน้ากลมๆ อ้วนๆ ของหนูน้อย “งั้นโตขึ้นเดหลีจะแต่งงาน และคุณพาทีต้องแต่งงานกับเดหลีด้วยนะคะ” “แต่งงานน่ะแต่งได้ แต่กับฉันไม่ได้เดหลี” “ทำไมไม่ได้คะ เดหลีรักคุณพาที ถ้าไม่แต่งกับคุณพาทีจะให้หนูแต่งกับใครคะ” หนูน้อยเจ็ดขวบตอบอย่างฉะฉาน ทั้งๆ ที่ไม่เข้าใจความหมายของคำว่า ‘รัก’ และ ‘แต่งงาน’ “โตขึ้นเธอจะรู้เองเดหลี ตอนนี้ได้เวลานอนแล้วนะ ไปนอนได้แล้ว เดี๋ยวฉันเอานมร้อนไปให้ดื่มก่อนนอนนะ” “อุ้มค่ะ” หนูน้อยยอมผละแขนสั้นๆ ที่กอดแขนใหญ่ออกมากางให้อีกฝ่ายอุ้มตัวเองกลับห้องนอน พาทียกยิ้มเอ็นดูท่าทางของหนูน้อยแล้วก็ช้อนอุ้มเด็กน้อยขึ้นแนบอกแล้วลุกขึ้นจากโซฟาพาเดินกลับห้องนอนด้วยเวลานี้ดึกมากแล้ว

นาสูร

นาสูร

โรแมนติก

5.0

“อ่ะ...อื้อ” เธอเบิกตากว้างในความมืดสลัวเมื่อรู้ว่าตอนนี้ตัวเองถูกคุกคามยามดึก “ชูว์! ฉันเองเด็กน้อย” เขายกมือมาปิดปากเธอพร้อมบอกให้รู้ว่าคือเขา “คุณนาสูร” “ใช่ ฉันเอง ก็บอกแล้วไงว่าเจอกัน” “ฟ้าอยู่” “เธอไม่ตื่นหรอก” เขาบอกตอบกลับ “แต่ไม่ได้นะคะ เราจะ...” “ทำไมจะไม่ได้ ก็ฉันหิวมาหลายวันแล้วน้อง เธอก็รู้ว่าฉันต้องการเธอมากแค่ไหน” เขารีบบอกสวนกลับโดยที่เธอยังพูดไม่สุดประโยคความ “พรุ่งนี้ฟ้าก็กลับแล้ว” เธอบอกพร้อมดันเขาไปนอนข้างๆ ตัวเองที่ยังมีพื้นที่ว่างอยู่ “ไม่มีพรุ่งนี้ทั้งนั้น ฉันต้องการวันนี้เด็กน้อย ขอเถอะนะ เพื่อนเธอไม่มีทางตื่นถ้าฉันไม่สั่งให้ตื่น เรามามีความสุขกันเถอะนะ ฉันรู้ว่าเธอเองก็โหยหาฉัน” มือใหญ่สอดเข้าไปในใต้ผ้าห่มแล้วบีบเคล้นเต้าของเธอ “อ่ะ...อื้อ คะ...คุณนาสูร ยะ...อย่าทำแบบนี้ค่ะ น้องอาย ถึงฟ้าจะไม่ตื่น แต่ฟ้าก็นอนอยู่ข้างๆ นะคะ” พึ่บ! แล้วผ้าห่มที่เธอแบ่งกันกับเพื่อนห่มนั้นก็ถูกถลกดึงรั้งขึ้นไปคลุมหัวของฟ้าใสทันที --- สวัสดีนักอ่านทุกคนค่ะ ณิการ์ขอฝากรูปเล่มนิยายเรื่อง “นาสูร” ภายใต้นามปากกา “ยักษ์” ด้วยนะคะ เป็นเรื่องราวของยักษ์ที่มาอายุนับพันกว่าปีกับมนุษย์สาวคนหนึ่ง แน่นอนว่าเป็นนิยายแฟนตาซีอีโรติกค่ะเรื่องนี้ “นาสูร” เป็นยักษ์ที่หิวกามมาก กินดุมาก เขาไม่สนใจเนื้อเท่ากับลีลารักบนเตียง และ “พุดซ้อน” ก็สนองตัณหาของเขาได้ดีทีเดียว แล้วเขาทั้งสองจะรักกันได้ยังไง เมื่อทั้งสองต่างแตกต่างกัน มาลุ้นไปกับความรักของยักษ์และมนุษย์ด้วยกันนะคะ

วิวาทรัก

วิวาทรัก

โรแมนติก

5.0

จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคนสองคนไม่เคยเจอกัน ไม่เคยรู้จักกัน แต่ต้องมาแต่งงานกัน แน่นอนว่าการคลุมถุงชนครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะคนแก่ทั้งสองที่ให้คำมั่นสัญญากัน พวกเขาที่เป็นหลานจึงจำต้องแต่งงานกัน "น่านน้ำ" หนุ่มเจ้าของไร่กาแฟ กับสาวมั่น "พิมพ์มาดา" ที่ต้องมาเจอกัน ทั้งสองไม่ใช่คนที่จะเชื่อฟังใครง่ายๆ ต่างคนต่างดื้อ และการคลุมถุงชนครั้งนี้จะต้องไม่เกิดขึ้น แล้วเรื่องราววุ่นวายจึงเกิดขึ้น หนี....ใช่ต้องหนีเท่านั้น....แต่หนีไปไงมาไงมา "รัก" กันได้ไง ที่สำคัญหนีไปหนีมามาเจอพ่อคน "เซ็กส์จัด" ใช่ค่ะว่าที่เจ้าบ่าวของเธอเซ็กส์จัดจนต้องยอมแพ้....และเธอก็ชอบความหื่น ห่าม ถ่อย ของคนที่ชังหน้าแบบไม่รู้ตัว......และน่านน้ำก็หลงเจ้าสาวจอมดื้อแบบไม่ตั้งใจรักเช่นกัน...... ------------ “นายทำบ้าอะไรของนาย” “ลงโทษเมีย” น้ำคำห้วนๆ ตอบกลับทันควัน พร้อมกับจ้องหน้าสวยที่ตอนนี้แสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจในตัวเขาอยู่ในที แล้วเรื่องอะไรเขาต้องสนใจสายตาเกลียดชังที่หล่อนส่งมาให้ด้วยเล่า ในเมื่อพิมพ์มาดาเป็นของเขาและต้องเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นายน่าน” เธอสั่งเสียงแข็งไม่ยอมเช่นกัน พร้อมดิ้นหนีจากแรงกดของบุรุษที่คร่อมเหนือตัวเองอยู่ในตอนนี้ เขาบังคับให้เธอพิงไปกับพนักโซฟาและตัวเขาก็คร่อมกักร่างเธอไว้ โดยมีสองมือใหญ่กดหัวไหล่เธอให้อิงพิงไปกับพนักเก้าอี้ สองมือทุบตีไปกับหน้าอกแกร่งแต่เหมือนกับว่าทุบกำแพงหินผาเจ็บมือเสียแรงเปล่า “ทำไมฉันต้องปล่อยด้วย เธอคิดยังไงถึงไปคบกับไอ้ปลัดธนูนั่นทั้งๆ ที่มีฉันเป็นผัวทั้งคน หรือฉันคนเดียวไม่พอฮึดา” โน้มหน้าลงไปเอ่ยข้างหูเธอพร้อมกับกัดดึงหูเธอแรงๆ ด้วยความโมโห “โอ๊ย! ฉันเจ็บนะไอ้ซาดิสม์!” “ก็กัดให้เจ็บ ถ้าไม่เจ็บจะกัดทำไมวะ บอกฉันมาไปถึงไหนต่อไหนกับมันแล้ว” เงียบ! ปากช่างเจรจาของสาวจอมพยศเม้มแน่นไม่ปริปากตอบเมื่อเขาถาม และนั่นยิ่งกระตุ้นไฟโทสะในอกของน่านน้ำไปใหญ่ “ฉันถามเธออยู่ทำไมไม่ตอบ” เขากระชากเสียงถามเธอดังกว่าเดิม และครั้งนี้ก็บีบหัวไหล่ของเธอที่กดไปกับพนักโซฟาด้วย “เจ็บนะเว้ย! นายมันบ้าไปแล้วนายน่าน นายมันคนซาดิสม์ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ฉันเจ็บ” ทุบตีแขนของเขาให้นำพามือที่บีบหัวไหล่ตัวเองออก ตอนนี้ดวงตาสวยสดใสได้อาบล้นไปด้วยน้ำตาแห่งความเจ็บปวด เมื่อเขาไม่ยอมปล่อยมือจากหัวไหล่แต่เขากลับทำตรงกันข้ามคือบีบแรงกว่าเดิม “ฉันไม่ใจอ่อนกับน้ำตาของผู้หญิงอย่างเธอหรอกนะดา อย่ามาบีบน้ำตาปัญญาอ่อนต่อหน้าฉัน” น้ำเสียงเฉียบขาดเอ่ยขึ้นพร้อมกับผละมือข้างขวามาบีบคางเล็กของเธอให้แหงนเงยเชิดหน้าขึ้นสบตาตนเอง แล้วเขาก็โน้มลงไปบดขยี้ปากอวบอิ่มสีระเรื่อที่เม้มแน่นของหล่อนจริงๆ ในเมื่อไม่ยอมพูดไม่ยอมตอบเขาก็ไม่คิดจะสนใจแล้ว เพราะตอนนี้สิ่งที่ต้องการคือการทำให้พิมพ์มาดาจำ จำว่าร่างกายของหล่อนคือของเขา นายน่านน้ำไม่ใช่ของใครอื่นที่ไหน ผู้ชายหน้าไหนก็ห้ามแตะ เพราะเนี่ยคือสมบัติของเขา ถ้าเขาไม่ยกให้ใครหน้าไหนก็ห้ามพาหล่อนหนี “อ่ะ อื้อ.....

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

Charlton Buccafusco
5.0

ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

โชคชะตาของพระชายา

โชคชะตาของพระชายา

Raff Madison
3.8

ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ทอมโน (ลำดับที่ 1 ใน ซีรี่ส์ทอรักปักสวาท)
1

บทที่ 1 นามสกุลลิเก nc 35+

25/01/2023

2

บทที่ 2 ใช่ว่าจะเป็นเมียที่ดี nc 35+

25/01/2023

3

บทที่ 3 สร้างภาพหรือชอบใจ nc 35+

25/01/2023

4

บทที่ 4 เพื่อนกันแบ่งได้ nc 35+

25/01/2023

5

บทที่ 5 ห้องหอ nc35+

25/01/2023

6

บทที่ 6 หย่า! nc 35+

25/01/2023

7

บทที่ 7 แรงกับแรง nc 35+

25/01/2023

8

บทที่ 8 เกลียด nc35+

25/01/2023

9

บทที่ 9 โบราณเขาถือ nc 35+

25/01/2023

10

บทที่ 10 อวดดี nc 35+

25/01/2023

11

บทที่ 11 เจ็บ! nc 35+

25/01/2023

12

บทที่ 12 แสบร้อนเหลือเกิน

03/04/2024

13

บทที่ 13 โทร.ตามรถโรงพยาบาล

03/04/2024

14

บทที่ 14 ก็แค่แต่งงานเอง

03/04/2024

15

บทที่ 15 ก็ไม่ได้เป็นหนักถึงตาย

03/04/2024

16

บทที่ 16 ไร้เดียงสา

03/04/2024

17

บทที่ 17 ตั้งสองอาทิตย์ที่เราห่างกัน

03/04/2024

18

บทที่ 18 ร้อน NC+++

03/04/2024

19

บทที่ 19 แบบนี้ใช่ไหม NC+++

03/04/2024

20

บทที่ 20 เพลงรักทำนองที่สอง

03/04/2024

21

บทที่ 21 เรามีเรื่องต้องพูดคุยกัน

03/04/2024

22

บทที่ 22 เบื่อนางบำเรอที่บ้าน

03/04/2024

23

บทที่ 23 พี่เป็นเพื่อนไอ้โน

03/04/2024

24

บทที่ 24 ไปทักทายเมีย

03/04/2024

25

บทที่ 25 แม่นางบำเรอถูกกฎหมาย

03/04/2024

26

บทที่ 26 ฝันที่แสนวิเศษ

03/04/2024

27

บทที่ 27 คุณก็รู้จักธรรมชาติของชายหญิง

03/04/2024

28

บทที่ 28 ควรไปฮันนีมูนนะ

03/04/2024

29

บทที่ 29 มัดมือชก

03/04/2024

30

บทที่ 30 ฮันนีมูน

03/04/2024

31

บทที่ 31 แสบ

03/04/2024

32

บทที่ 32 เป็นแค่ผัวที่จดทะเบียน

03/04/2024

33

บทที่ 33 เซ็นใบหย่าส่งไปให้เขา

03/04/2024

34

บทที่ 34 อ้าปาก! NC+++

03/04/2024

35

บทที่ 35 คิดถึง NC+++

03/04/2024

36

บทที่ 36 กายปรารถนา 1

08/04/2024

37

บทที่ 37 กายปรารถนา 2

08/04/2024

38

บทที่ 38 ความจริงอยู่ในคลิป

08/04/2024

39

บทที่ 39 สักครั้งก่อนจาก

08/04/2024

40

บทที่ 40 หมายความยังไงอดีตสามี

08/04/2024