Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
27
ชม
14
บท

เรื่อง “มังกรกัณฐ์” นามปากกา “ยักษ์” ภาคต่อ “นาสูร” ด้วยนะคะ นิยายชุดนี้จะมี 3 เรื่องนะคะ นาสูร(อีบุ๊กพร้อมโหลด),มังกรกัณฐ์(อีบุ๊กพร้อมโหลด) และกลืนกิน(กำลังเขียน) วันนี้ฝากเรื่อง “มังกรกัณฐ์” ด้วยนะคะ เป็นเรื่องของลุกชายพ่อนาสูรมาลุ้นไปกับความรักความหื่นและความเอาแต่ใจของหนุ่มลูกครึ่งยักษ์กันนะคะ

บทที่ 0 บทนำ มังกรกัณฐ์

นานมาแล้วมีนิทานพื้นบ้านเล่าขานกันมา และตัวร้ายในนิทานพื้นบ้านส่วนใหญ่มักเป็น ‘ยักษ์’ ที่ฆ่าคนฆ่าสัตว์กินเป็นอาหาร แต่หารู้ไม่ว่าในปัจจุบันจะมียักษ์ที่เป็นตัวร้ายในนิทานพื้นบ้านแอบแฝงอยู่กับมนุษย์ คุณไม่อาจรู้ได้เลยว่าคนที่คุณคุยด้วยและเดินสวนจะเป็นมนุษย์หรือยักษ์ หรืออาจเป็นเผ่าพันธุ์อื่นที่จำแลงแปลงกายมาใช้ชีวิตร่วมกับมนุษย์

‘มังกรกัณฐ์’ คือชื่อของเขา ปีนี้ชายหนุ่มอายุได้ 108 ปี และไม่ใช่ยักษ์เต็มสายเลือด ในร่างกายของเขามีเลือดของมนุษย์ไหลเวียนอยู่ครึ่งหนึ่ง แม่ที่รักที่ให้กำเนิดเป็นมนุษย์ ถึงแม้แม่ของเขาจะเป็นมนุษย์ แต่ก็มีชีวิตที่เป็นอมตะ ไม่เจ็บ ไม่ป่วย หลังจากที่ท่านฟื้นจากอุบัติเหตุตอนที่ตั้งครรภ์เขา ตอนนี้พ่อและแม่ได้ย้ายไปอยู่กลางภูเขา ไปใช้ชีวิตส่วนตัวแยกตัวออกจากคนหมู่มากและทิ้งทุกอย่างไว้ให้เขาดูแลบริหารฟาร์มและโรงงานผลิตแปรรูปสัตว์ในฟาร์ม

“คุณมังกรกัณฐ์ นี่คือเอกสารข้อมูลส่วนตัวของเจ้าหน้าที่กรมที่ดินที่จะเข้ามาตรวจดูที่ดินของเราครับ”

พาทีส่งยื่นแฟ้มเอกสารให้นายน้อยตัวเอง เมื่อก่อนพาทีรับหน้าที่ดูแลและติดตามนาสูร พ่อของมังกรกัณฐ์ แต่ตอนนี้เขาถูกถ่ายโอนมาดูแลนายน้อยอย่างมังกรกัณฐ์ แม้ว่าตอนนี้จะผ่านมาสามสิบกว่าปี แต่พาทีก็ยังหนุ่มแน่นเหมือนเดิม คนงานเก่าๆ ก็ถูกจ้างออกแล้วรับคนงานใหม่หมุนเวียนเข้ามาทำงานในฟาร์มและโรงงานแปรรูปสัตว์ในทุกๆ สิบปี เพื่อที่จะไม่ให้เกิดความสงสัยในตัวของพาทีและนายใหญ่ของฟาร์มอย่างนาสูรและนายหญิงของฟาร์ม

“ขอบคุณครับลุงพาที” เขาขอบคุณพร้อมรับแฟ้มเอกสารข้อมูลส่วนตัวของเจ้าหน้าที่กรมที่ดินคนใหม่ที่จะเข้ามาดูแลเรื่องที่ดินของเขาซึ่งมีมากมายหลายพันไร่ เมื่อก่อนมีหนึ่งพันสามร้อยไร่ ตอนนี้มีหนึ่งพันหกร้อยไร่ เพิ่มมาอีกสามร้อยไร่

“เธอจะมาที่ฟาร์มเราพรุ่งนี้ใช่ไหมครับลุงพาที”

“ครับ คุณมังกรกัณฐ์” พาทีตอบ

“ลุงพาทีไปพักเถอะครับ”

“ครับ” แล้วพาทีก็เดินออกจากห้องพักส่วนตัวของนายน้อย ทิ้งให้นายน้อยเปิดอ่านแฟ้มประวัติส่วนตัวของเจ้าหน้าที่กรมที่ดินคนใหม่เพียงลำพัง

“เจณิสา อวดสกุล อายุยี่สิบห้าปี เป็นคนจังหวัดนครปฐม เป็นลูกคนเดียว พ่อกับแม่เป็นครู อืม...เกิดมาในครอบครัวข้าราชการสินะ” ดวงตาสีเขียวมรกตไล่สายตาอ่านประวัติของหล่อนที่ได้รับมาอย่างละเอียด และอ่านแค่รอบเดียวข้อมูลของเธอก็ถูกเก็บในคลังสมองของเขาเรียบร้อย

ตุ้บ!

เมื่ออ่านประวัติของหล่อนจบก็โยนแฟ้มในมือไปไว้ยังโต๊ะตรงหน้าตัวเองแล้วหยิบซองบุหรี่ออกมาถือเล่นแล้วก็ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วตวัดมือโบกหนึ่งครั้ง ภาพของเจณิสาก็ฉายขึ้นบนอากาศตรงหน้าตัวเอง ถึงจะเป็นลูกครึ่งมนุษย์และยักษ์ แต่เขาก็ได้เวทมนตร์ทุกอย่างจากคนเป็นพ่อเพื่อเสกสรรทุกอย่างตามใจที่ปรารถนา และตอนนี้เขาก็อยากรู้จักผู้หญิงคนนี้ เพียงแค่เห็นรูปถ่ายที่ติดแนบมาในประวัติ เขาก็รู้สึกว่ามันมีอะไรดึงดูดจนอยากจะรู้จักหล่อนก่อน

ภาพเปลือยเปล่าของเจณิสาฉายบนอากาศทำให้มังกรกัณฐ์เลิกตาโตกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ ไม่คิดว่าการที่เขาแอบส่องหล่อนจะทำให้เห็นภาพอะไรแบบนี้ ร่างเปลือยเปล่าเดินออกมาจากห้องน้ำและเต็มไปด้วยคราบน้ำเกาะตามตัว เขาขยับมือซูมภาพเข้าไปใกล้ยังสองเต้าอวบอูมของเจ้าหล่อนที่มีเม็ดน้ำเกาะที่ยอดอกสีชมพูหวานนั้นของหญิงสาว

อึก!

มังกรกัณฐ์กลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอด้วยความยากลำบาก รู้สึกคอแห้ง หายใจไม่สะดวกเมื่อเจณิสาที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จยังคงเดินตัวเปลือยไปทั่วห้อง ไม่มีแม้แต่ผ้าสักชิ้นปกปิดร่างกาย เขามองดูมันอย่างเพลิดเพลิน ใช่...เพลิดเพลินและทรมานความเป็นบุรุษที่กลางหว่างขา

“อ่า...ให้ตายสิเจณิสา”

เขาก้มมองความปวดร้าวที่กลางหว่างขาตัวเองพร้อมมองร่างเปลือยเปล่าที่กำลังเคลื่อนไหวในอากาศตรงหน้าแล้วก็ยิ่งปวดร้าวทรมานจนต้องรูดซิปล้วงนำความใหญ่โตของตัวเองออกมาจากข้างใน เขาไม่เคยอดอยากหิวโหยกามและไม่เคยอดทนมัน แล้วทำไมเขาต้องอดทนมันด้วย

“อ่า...ฉันจะไม่มีวันใช้แก” ปากหนาเม้มเป็นเส้นตรงพร้อมก้มมองมือสากกร้านของตนที่ล้วงนำเอ็นเนื้อออกมาจากด้านในกางเกงแล้วมองเจณิสาที่ตอนนี้ใส่ชุดนอนตัวบางเรียบร้อยแล้ว

“นรก!” มังกรกัณฐ์สบถออกมาด้วยความหงุดหงิดแล้วก็หายตัวไปยังสถานที่ในภาพอากาศตรงหน้า พอมาอยู่ในสถานที่ไม่คุ้นเคยห้องเล็กคับแคบของทางราชการ เขาก็มองไปยังคนที่ตอนนี้ปิดไฟขึ้นไปบนเตียงขนาดเล็กเรียบร้อยและไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังถูกจับตามองในความมืด แม้ในห้องจะมืดสนิท แต่ดวงตาสีเขียวมรกตก็มองเห็นชัดราวกับว่าเป็นกลางวันก็มิปาน

ปากหนาขยับพึมพำร่ายเวทมนตร์แล้วคนที่เพิ่งคลานขึ้นไปนอนบนเตียงก็หลับสนิท แล้วผู้บุกรุกก็เคลื่อนไหวขึ้นไปบนเตียงขนาดเล็กสามฟุตครึ่งที่เจณิสาหลับอยู่ ร่างใหญ่มังกรกัณฐ์เคลื่อนขึ้นไปนอนคร่อมทับคนตัวเล็กเปราะบางในความมืดที่ตนมองเห็นชัดเจนราวกับเป็นเวลากลางวัน

“หอม!” ปลายจมูกโด่งซุกไซ้ซอกคอระหงขูดไถเคราสากพร้อมขบเม้มลำคอระหงของหล่อนให้เกิดรอยพร้อมกับมือใหญ่สอดเข้าไปในใต้เสื้อนอนตัวบางของเจณิสาเพื่อกอบกุมสองเต้าที่เห็นก่อนหน้านี้

“อ่า...นุ่มมือ” ความนุ่มนิ่มของเต้าเจณิสาทำให้มังกรกัณฐ์อยากดูดกลืนกินและอยากระรัวปลายลิ้นหยอกเย้ายอดอกสีระเรื่อที่มองเห็นก่อนหน้านี้ เสื้อนอนตัวบางถูกถลกถอดออกโดยเจ้าตัวหลับสนิท เพราะเวทมนตร์ของบุรุษองอาจเหนือร่าง

เพียงแค่อยากอ่านประวัติผู้ที่จะมาตรวจที่ดินของตัวเองเท่านั้น แต่สุดท้ายตอนนี้เขากลับมานอนคร่อมทับบนร่างของเจ้าหล่อนและกำลังจะลักหลับผู้หญิงที่เพิ่งเคยเจอหน้า และแปลกเขาเกิดอารมณ์ปรารถนารุนแรงกับเรือนร่างเปลือยเปล่าของเจ้าหล่อนอย่างแรงกล้า

ความอวบอูมและความสวยงามของสองเต้าที่เปิดเผยตรงหน้าหลังจากถลกดึงเสื้อนอนตัวบางของเธอออกสองเต้าก็เด้งอวดโฉม ยิ่งไปกว่านั้นยอดอกสีหวานของเจณิสากำลังแข็งชันให้ดูดดื่มลิ้มรสของมัน ปากหนาก้มลงไปกลืนกินยอดอกแข็งตึงของหญิงสาวพร้อมดูดเลียและอีกเต้าก็มีมือใหญ่คลึงเฟ้นหนักหน่วงพร้อมกับบดบี้ขยี้ขยุ้มขยำเล่นกับเต้านุ่มนิ่มขนาดพอดีมือใหญ่ของตนเอง

“อ่า...เจณิสา”

มังกรกัณฐ์เอ่ยครางชื่อของคนหลับสนิทใต้ร่าง แต่ทุกการสัมผัสเล้าโลมของเขา เจ้าหล่อนก็ร้องครางตอบสนองแม้จะหลับสนิท แต่หล่อนก็รับรู้ได้ถึงสัมผัส อาจจะรู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นคือความฝันก็ได้ มือใหญ่ข้างที่กอบกุมเคล้นคลึงเต้าเคลื่อนมาสอดเข้าไปในขอบกางเกงเอวยืดของเจณิสาแล้วไปกอบกุมเนินสวาทที่กลางหว่างขาของหญิงสาว

“อวบอูมน่าคลอเคลีย” เขาพึมพำเสียงพร่าเมื่อได้ลูบไล้เนินสตรีอวบอูมของเจณิสาแล้วก็ผละหน้าจากหน้าอกอวบอูมมายังหน้าท้องแบนราบแล้วถลกดึงกางเกงนอนตัวบางของเธอออกทิ้ง

อือ!

เจณิสาบิดตัวร้องครางทั้งๆ ที่ยังหลับสนิท มือน้อยปัดป้องสิ่งน่ารำคาญที่กำลังรบกวนตัวเองเวลานอน ทุกอย่างเป็นไปอัตโนมัติ และนั่นทำให้คนหน้าตายอย่างมังกรกัณฐ์ยิ้มตามกับสัญชาตญาณของหญิงสาว แม้จะหลับเพราะมนตร์สะกดของเขา แต่เจ้าหล่อนก็ยังมีการปกป้องตัวเอง

“สวย...สวยมากเจณิสา” เขาพึมพำกับเนินสวาทอวบอูมกลางหว่างขาของหญิงสาวพร้อมกับก้มหน้าลงไปซุกซบความอวบอูมที่มีสนามหญ้าขึ้นปกคลุมบางๆ ของหญิงสาว มือใหญ่จับรั้งเอวเล็กคอดที่กำลังบิดส่ายหนีรั้งไว้

“อ่า...คืนนี้ฉันจะทำให้เธอเคลิ้มฝันและลิ้มรสความหวานของกามราคะ” เขาพึมพำกับความเป็นสาวของเธอที่ก้มหน้าซุกซบสูดดมกลิ่นความหอมของหล่อน

“อืม...หอม อ่า...อื้ม” เขาลากลิ้นตวัดเลียเนินสวาทอวบอูมพร้อมกับมืออีกข้างที่ว่างก็เอื้อมไปจับกุมเต้าอวบอูมบีบเคล้นไปด้วย เรียวลิ้นอุ่นร้อนสอดแทรกตวัดเลียตามซอกกลีบกุหลาบอวบอูมที่ปิดแนบสนิท เพียงแค่ได้สอดเร่าปลายลิ้นร้อนแทรกถูไถไปตามกลีบสวาทอวบของเจณิสา มังกรกัณฐ์ก็รู้ว่าหล่อนยังไม่เคยผ่านการชอนไชมาก่อน และเขาเป็นคนแรก

“อืม...หวาน” น้ำหวานที่กำลังไหลอาบออกมาจากปากทางรักคับแน่นของเจ้าหล่อนทำให้เขารู้สึกอิ่มเอมอย่างบอกไม่ถูก ปลายลิ้นสากตวัดกลืนกินน้ำหวานสวาทเหนียวข้นของเจ้าหล่อนที่หลั่งไหลออกมาให้ตนเองพร้อมกับดุนดันปลายลิ้นร้อนชำนาญทแยงปากทางของน้ำ

“อะ...อื้อ” เจณิสาบิดเอวส่ายหนีปลายลิ้นที่รุกเร่าตัวเอง สองมือน้อยกำเกร็งแน่นข้างลำตัว

หึหึ

มังกรกัณฐ์มองมือน้อยทั้งสองที่กำแน่นและเจ้าของมือก็นอนเกร็งยิ่งทำให้รู้สึกตื่นเต้นและยิ่งไปกว่านั้นความใหญ่โตอลังการที่กลางหว่างขามันตื่นนอนก่อนหน้านี้ยิ่งตื่นกว่าเดิมและเหยียดกายขยายท่อนลำเนื้ออวบใหญ่ที่อัดแน่นไปด้วยเส้นเลือดฝอยขดตัวตามลำกาย

“อ่า...ฉันรู้ว่านายกำลังต้องการอะไรตอนนี้” มังกรกัณฐ์บอกเอ็นเนื้ออวบใหญ่ตัวเองที่เหยียดขยายพร้อมจะทแยงกระแทกเร่าความคับแน่นของเจณิสา ยิ่งได้สัมผัสลิ้มรสความหวานของหญิงสาว มังกรกัณฐ์ก็ยิ่งคลั่งไคล้ในความหวานและความไร้เดียงสาของเจ้าหล่อน มือกอบกุมเต้าทั้งสองด้วยมือเดียว บีบเร่าหนักหน่วงดุดันพร้อมกับปลายลิ้นร้อนระรัวแตะสวาทเม็ดเกสรกลางหว่างขาที่อวบอูมเต่งตึง มันทั้งหวานและสวยจนไม่อาจจะผละหน้าห่างจากตรงนี้ไปได้

“อะ...อ่อย” แม้จะหลับสนิท แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเจณิสาตอนนี้เหมือนอยู่ในห้วงความฝัน เธอร้อนไปทั้งตัวจนไม่อาจนอนนิ่งเป็นผักปลาได้ ร่างน้อยบิดเร่าส่ายหนีความทรมาน สองมือน้อยที่กำเกร็งแน่นก็เคลื่อนมาผลักไสหัวของบุรุษที่ซุกกลางหว่างขาตัวเอง แต่ก็ไม่ได้ผล แรงผลักของเธอเป็นแรงสัมผัสมากกว่าจะผลักไส

“อ่า...หวานมากเจณิสา เธอทำให้ฉัน ‘หิว’ และควบคุมตัวเองไม่ได้รู้ไหม อื้ม...”

มันแปลก แปลกที่เกิดความรู้สึกกับหล่อนรุนแรงมากมายขนาดนี้ ปกติจะไม่เป็นแบบนี้ เขาไม่เคยขาดผู้หญิงและหิวผู้หญิงเลยสักครั้ง เมื่อวานพาทีก็พาผู้หญิงมาปรนเปรอปลดปล่อยไฟราคะไปแล้ว แต่ทำไมวันนี้ถึงได้รู้สึกรุนแรงขนาดนี้เหมือนกับว่าอดอยากมานับสิบปีก็มิปาน

“อือ...อ่า” เจณิสาหลับตาครางในความมืดพร้อมดิ้นถอยหนีหาทางเอาตัวรอดจากห้วงสวาทของตนเอง แต่ก็ถูกท่อนแขนแข็งแรงของบุรุษแปลกหน้าเหนือร่างกอดรัดแน่นรั้งไว้

หึหึ

เสียงขำแห้งดังลอดออกมาจากริมฝีปากหนาของมังกรกัณฐ์เมื่อเขาผละเปลี่ยนมาคร่อมทับเจ้าหล่อน และกางเกงของเขาก็ถูกถอดทิ้งไปกองกับพื้นห้องของเธอเรียบร้อย ตอนนี้เจณิสาพร้อมแล้วและเขาเองก็พร้อมมาก พร้อมตั้งแต่นั่งดูหล่อนที่ห้องแล้ว

เอวสอบบดเบียดเสียดสีท่อนเนื้อที่แข็งของตัวเองกับหน้าท้องแบนราบเคลื่อนไหวไปมาแล้วถูไถไปยังเนินสวาทอวบอูมพร้อมฟังเสียงครางกระเส่าของสาวเจ้าใต้ร่างไปด้วย สองมือน้อยของเจณิสาที่กำเกร็งตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นจับรั้งหัวไหล่ของเขาไว้แน่น

ขนาดความเป็นบุรุษกับความเป็นสาวที่อาบฉ่ำร่องสวาทของคนตัวเล็กที่แสนจะเล็กนั้นทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นและเสียวคลั่งทั้งๆ ที่ยังไม่ได้สอดใส่ฝากฝังตัวเองในกายหญิงสาว แต่มังกรกัณฐ์ก็อดใจเต้นแรงไปกับสิ่งตรงหน้าไม่ได้ เขาเหมือนโจรที่กำลังลักหลับ ใช่...เขาลักหลับ แต่เขาไม่ใช่โจร เพราะเขาคือมังกรกัณฐ์

“อะ...อื้อ” เจณิสาร้องครางกระเส่าบิดกายอ่อนระทวยเสียวซ่านเมื่ออยู่ใต้ร่างใหญ่ของชายแปลกหน้าที่กำลังกดคร่อมทับร่างตัวเองไม่ให้ขยับดิ้นหนีจากเตียงน้อยของตัวเอง

“ครั้งแรกของเราสองคนกำลังจะเริ่มขึ้นเจณิสา” เขาพึมพำเสียงพร่าเสียวพร้อมกดแก่นเนื้อร้อนที่ดุนดันอยู่ที่เนินสวาทอวบอูมของสาวเจ้ากรีดกรายดุนดันเอ็นเนื้อแข็งร้อนทแยงเข้าไปในร่างสาวเพื่อหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน

“อะ...เจ็บ!” เจณิสาบิดกายดิ้นเร่าถอยหนีแต่ถูกกอดแน่น เธอทั้งเจ็บทั้งทรมานเหมือนถูกจับแยกฉีกร่างออกจากกัน แต่ปากน้อยก็ถูกปากหนาของคนเหนือร่างปิดกลืนกินเสียงร้องเจ็บทรมานไว้

“อ่า...อื้อ” เสียงครวญครางและเสียงหอบลมหายใจของทั้งสองดังประสานกัน ปากหนาบดเร่าดุนดันปลายลิ้นเข้าไปในโพรงปากเล็กของคนตัวเล็ก มังกรกัณฐ์รู้ว่าตัวเองใหญ่โตมากแค่ไหนเมื่อเทียบกับช่องสวาทที่อุ่นร้อนของเจ้าหล่อน ชายหนุ่มหยุดนิ่งไม่ขยับเอวหนาไหวโยกปล่อยให้ความเป็นสาวที่คับแน่นกลืนกินท่อนเนื้อตัวเองพร้อมทำความคุ้นชินกับตัวเองยามฝากฝังกายอยู่ภายในร่างของหล่อน

“อ่า...อื้อ” น้ำตาที่ไหลอาบทางหางตาของเจณิสาได้แห้งเหือด ความเจ็บปวดทรมานกลางกายความเป็นสาวได้ทุเลาลง แต่มีความรู้สึกร้อนรุ่มที่อธิบายไม่ถูกเข้ามาแทนที่ เธอเผลอจูบตอบปากหนาของคนแปลกหน้าในห้วงฝันตัวเองในขณะที่ยังหลับตาสนิทอยู่

“อ่า...อื้อ” เรียวลิ้นร้อนของมังกรกัณฐ์กำลังล่อลวงปลายลิ้นน้อยที่ต้อนจนจนมุมพร้อมกับตวัดดูดกลืนกินเรียวลิ้นเล็กของหญิงสาว ความหวานของโพรงปากหล่อนทำให้เขาเคลิ้มและหลงไปโดยไม่รู้ตัว เอวหนาก็เริ่มขยับเคลื่อนไหวโยกเร่าคลึงสวาทเมื่อรับรู้ได้ถึงความสุขที่เจ้าหล่อนกำลังโหยหา ความเจ็บปวดที่ถูกบดเบียดในตอนแรกได้เปลี่ยนเป็นความปรารถนาต้องการเอ็นเนื้อมังกรของเขาไปเสียแล้ว

“อ่า...เก่งมากเจณิสา” เขาผละปากหนาออกมาจูบระหว่างคิ้วที่ชื้นเหงื่อของหญิงสาวแล้วก็เริ่มเคลื่อนไหวความร้อนรุ่มของเนื้อตัวเองขูดไถขยับโยกเข้าออกเป็นจังหวะในร่างน้อยที่คับแน่นตอดรัดตัวเอง ไม่ใช่แค่หล่อนที่ทรมาน ท่อนเนื้ออวบใหญ่ของเขาเองก็ทรมานที่ก่อนหน้านี้แช่ตัวนิ่งให้หล่อนตอดรัดคลึงเอาแต่ใจ

“อ่า...ไม่ไหวแล้ว เธอทำให้ฉันอดทนไม่ได้อีกแล้วเจณิสา” เขาอยากจะกระแทกดุดันเอาแต่ใจ แต่ก็ทำแบบนั้นยังไม่ได้ หล่อนยังใหม่และยังไร้ประสบการณ์ เขาต้องถนอมความรู้สึกแรกของหล่อนไว้ และแปลกที่ทำไมเขาต้องใส่ใจความรู้สึกของเจ้าหล่อนด้วย หากเป็นคนอื่น เขาไม่สนใจด้วยซ้ำว่าจะเจ็บยังไง แต่ตอนนี้เขาอยากให้เธอมีความสุขและโหยหาในตัวเขาพอๆ กับที่เขากำลังโหยหากายอุ่นร้อนของหล่อนในตอนนี้

“อ่า...ลึกแค่ไหนฉันก็ไม่พอเจณิสา” แม้จะกระแทกกายลึกมากแค่ไหน แต่ก็ยังรู้สึกไปไม่ถึง มังกรกัณฐ์กอดรัดร่างน้อยอ่อนปวกเปียกขึ้นหาตัวเองจนสองเต้าอวบอูมบดเบียดกับหน้าอกตัวเองที่ยังมีเสื้อปิดขวางกั้นไม่ให้เสียดสีเนื้อกันอยู่ของตนเองและหญิงสาวพร้อมกับบิดเอวซอยถี่จนเนื้อกระทบกันหนักหน่วง

พั่บ! พั่บ! พั่บ!

ในค่ำคืนที่มืดสนิท นาสูรตื่นนอนกลางดึกเดินออกมาดูดาวประจำตัวของลูกชายแล้วก็อมยิ้มน้อยๆ เมื่อมันเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นและเป็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี

“ทำไมตื่นมากลางดึกคะคุณนาสูร” พุดซ้อนตื่นและเดินตามสามีมายังระเบียงห้อง

“ทำไมไม่ใส่เสื้อคลุมฮึ” เขาไม่ตอบ แต่ดุแม่ยอดขมองอิ่มของตัวเองแทนแล้วเดินมาโอบสวมกอดเธอจากด้านหลังให้ความอบอุ่น พุดซ้อนแหงนเงยหน้าขึ้นยิ้มหวานให้สามีพร้อมเอนตัวพิงซบอกแกร่ง

“น้องรู้ว่าคุณนาสูรจะกอดให้ความอบอุ่นน้อง น้องเลยไม่ใส่ค่ะ” เธอบอกสามีพร้อมกับกอดท่อนแขนแข็งแรงของเขาที่กอดรัดใต้ราวนมตัวเองแล้วมองดาวบนฟ้า

“เกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมถึงตื่นกลางดึก”

“ดูนั่นสิน้อง ดาวประจำตัวของมังกรกัณฐ์” เขาบอกภรรยาพร้อมกับมองจ้องดวงดาวประจำตัวลูกชายที่ส่องแสงเรืองรองสว่างไสวกว่าดาวดวงอื่น

“ทำไมคะ เกิดอะไรกับลูกรึเปล่าคะคุณนาสูร”

“เกิดสิ แต่เป็นเรื่องดี”

“ยังไงคะ?”

“ก็น้องอยากมีสะใภ้ไม่ใช่เหรอ”

“สะใภ้ อย่าบอกนะคะว่า...อะ...อื้อ” ยังพูดไม่ทันจบประโยคก็ถูกปากหนาของสามีก้มลงมาบดจูบกลืนกินเสียงพูดเสียแล้ว

“อือ...ใช่ อีกไม่นานเราสองคนจะเป็นคุณปู่คุณย่าแล้ว” เมื่อจูบดื่มความหวานของภรรยาจนพอใจก็ผละออกมาเอ่ยตอบ

“แล้วเธอจะรับที่ลูกเราเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งยักษ์ได้เหรอคะ” นี่คือสิ่งที่เธอกังวลมาตลอด

“ความรักจะทำให้ผู้หญิงคนนั้นมองข้ามตัวตนที่แท้จริงของมังกรกัณฐ์ได้” เขาบอกภรรยาเสียงหนักแน่นและก็พูดต่อ “เหมือนที่ฉันกับน้องยังไงล่ะ น้องยังรับตัวตนที่แท้จริงของฉันได้เลย”

“ก็น้องรักคุณนาสูรนี่คะ”

“เห็นไหม และผู้หญิงคนนั้นก็เหมือนกัน”

“แต่น้องก็อดกังวลไม่ได้อยู่ดีค่ะ น้องอยากกลับไปอยู่กับลูก” เธอบอกสามี

“ได้สิ ฉันจะพาเธอกลับ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ รอให้มังกรกัณฐ์จัดการทุกอย่างก่อน เราค่อยไปแนะนำตัวเองกับลูกสะใภ้” เขาบอกภรรยา เพราะอยากให้ลูกชายจัดการทุกอย่างก่อน อยากให้ผู้หญิงคนนั้นยอมรับตัวตนของลูกชายก่อน

“แต่...” พุดซ้อนยังกังวลอยู่ดี แต่สามีก็พูดแทรกขึ้นอีกครั้ง

“อย่าห่วงเลย ที่นั่นมีพาทีอยู่ อย่าลืมสิ พาทีสามารถจัดการได้ทุกอย่าง”

“ค่ะ งั้นไปนอนกันนะคะ น้องนอนไม่หลับถ้าไม่มีคุณนาสูรนอนกอด” เธอบอกอ้อนสามี แม้ตอนนี้อายุจะร้อยกว่าปี แต่ผิวพรรณของเธอก็หยุดไว้ที่ยี่สิบต้นๆ และสามีเองก็เช่นกันยังคงหนุ่มแน่นและยังสามารถมีลูกได้อีก แต่เธอไม่อยากมีลูกอีกแล้ว ซึ่งนาสูรเองก็เคารพการตัดสินใจของเธอจึงมีแค่มังกรกัณฐ์แค่คนเดียว

“ผมก็นอนไม่หลับถ้าไม่มีคุณนอนด้วย” แล้วนาสูรก็ช้อนอุ้มร่างเล็กของภรรยาพาเดินกลับเข้าไปในห้องเพื่อนอนต่อ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ณิการ์

ข้อมูลเพิ่มเติม
กลืนกิน

กลืนกิน

โรแมนติก

5.0

เกือบหนึ่งพันปีที่เฝ้ามอบถวายชีวิตของตัวเองคอยรับใช้นายท่านนาสูร และเมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือกอนาคตตัวเอง เขากลับเคว้งคว้างเดินไม่ถูก และยิ่งไปกว่านั้นเมื่อโชคชะตาส่งเด็กน้อยตัวเล็กอายุไม่กี่เดือนมาให้เขาได้ดูแล ‘เดหลี’ เขาดูแลเด็กน้อยไม่ต่างจากลูก แม้จะรู้ดีว่าอนาคตเด็กคนนี้จะเปลี่ยนชีวิตของตัวเอง ‘พาที’ นั่งใช้ความคิดอยู่คนเดียวในห้องนั่งเล่นของบ้านที่ตนเองและเดหลีอาศัยอยู่ด้วยกัน เพลานี้เด็กน้อยอายุเจ็ดขวบ เผลอแป๊บเดียวจากเด็กน้อยงอแงเอาแต่ใจ นอนตัวแดงแบเบาะ ตอนนี้รู้ความและขี้อ้อนมาก “คุณพาทีคะ คุณพาทีคะ” “หืม! เด็กน้อย” คนถูกเรียกหันมาหาเจ้าของเสียงเล็กสดใสของหนูน้อยวัยเจ็ดขวบ “แต่งงานคืออะไรคะ?” หนูน้อยเกาะแขนของผู้เปรียบเสมือนพ่อของตนเอง “คือคนสองคนรักกัน แล้วก็แต่งงานกัน เดี๋ยวโตขึ้นเดหลีก็จะเข้าใจเอง” พาทีลูบหัวหนูน้อยหน้ากลมที่แนบแขนตัวเองและกำลังแหงนเงยหน้าขึ้นมองจ้องหน้าตัวเอง เหมือนเขาที่กำลังก้มมองหน้ากลมๆ อ้วนๆ ของหนูน้อย “งั้นโตขึ้นเดหลีจะแต่งงาน และคุณพาทีต้องแต่งงานกับเดหลีด้วยนะคะ” “แต่งงานน่ะแต่งได้ แต่กับฉันไม่ได้เดหลี” “ทำไมไม่ได้คะ เดหลีรักคุณพาที ถ้าไม่แต่งกับคุณพาทีจะให้หนูแต่งกับใครคะ” หนูน้อยเจ็ดขวบตอบอย่างฉะฉาน ทั้งๆ ที่ไม่เข้าใจความหมายของคำว่า ‘รัก’ และ ‘แต่งงาน’ “โตขึ้นเธอจะรู้เองเดหลี ตอนนี้ได้เวลานอนแล้วนะ ไปนอนได้แล้ว เดี๋ยวฉันเอานมร้อนไปให้ดื่มก่อนนอนนะ” “อุ้มค่ะ” หนูน้อยยอมผละแขนสั้นๆ ที่กอดแขนใหญ่ออกมากางให้อีกฝ่ายอุ้มตัวเองกลับห้องนอน พาทียกยิ้มเอ็นดูท่าทางของหนูน้อยแล้วก็ช้อนอุ้มเด็กน้อยขึ้นแนบอกแล้วลุกขึ้นจากโซฟาพาเดินกลับห้องนอนด้วยเวลานี้ดึกมากแล้ว

นาสูร

นาสูร

โรแมนติก

5.0

“อ่ะ...อื้อ” เธอเบิกตากว้างในความมืดสลัวเมื่อรู้ว่าตอนนี้ตัวเองถูกคุกคามยามดึก “ชูว์! ฉันเองเด็กน้อย” เขายกมือมาปิดปากเธอพร้อมบอกให้รู้ว่าคือเขา “คุณนาสูร” “ใช่ ฉันเอง ก็บอกแล้วไงว่าเจอกัน” “ฟ้าอยู่” “เธอไม่ตื่นหรอก” เขาบอกตอบกลับ “แต่ไม่ได้นะคะ เราจะ...” “ทำไมจะไม่ได้ ก็ฉันหิวมาหลายวันแล้วน้อง เธอก็รู้ว่าฉันต้องการเธอมากแค่ไหน” เขารีบบอกสวนกลับโดยที่เธอยังพูดไม่สุดประโยคความ “พรุ่งนี้ฟ้าก็กลับแล้ว” เธอบอกพร้อมดันเขาไปนอนข้างๆ ตัวเองที่ยังมีพื้นที่ว่างอยู่ “ไม่มีพรุ่งนี้ทั้งนั้น ฉันต้องการวันนี้เด็กน้อย ขอเถอะนะ เพื่อนเธอไม่มีทางตื่นถ้าฉันไม่สั่งให้ตื่น เรามามีความสุขกันเถอะนะ ฉันรู้ว่าเธอเองก็โหยหาฉัน” มือใหญ่สอดเข้าไปในใต้ผ้าห่มแล้วบีบเคล้นเต้าของเธอ “อ่ะ...อื้อ คะ...คุณนาสูร ยะ...อย่าทำแบบนี้ค่ะ น้องอาย ถึงฟ้าจะไม่ตื่น แต่ฟ้าก็นอนอยู่ข้างๆ นะคะ” พึ่บ! แล้วผ้าห่มที่เธอแบ่งกันกับเพื่อนห่มนั้นก็ถูกถลกดึงรั้งขึ้นไปคลุมหัวของฟ้าใสทันที --- สวัสดีนักอ่านทุกคนค่ะ ณิการ์ขอฝากรูปเล่มนิยายเรื่อง “นาสูร” ภายใต้นามปากกา “ยักษ์” ด้วยนะคะ เป็นเรื่องราวของยักษ์ที่มาอายุนับพันกว่าปีกับมนุษย์สาวคนหนึ่ง แน่นอนว่าเป็นนิยายแฟนตาซีอีโรติกค่ะเรื่องนี้ “นาสูร” เป็นยักษ์ที่หิวกามมาก กินดุมาก เขาไม่สนใจเนื้อเท่ากับลีลารักบนเตียง และ “พุดซ้อน” ก็สนองตัณหาของเขาได้ดีทีเดียว แล้วเขาทั้งสองจะรักกันได้ยังไง เมื่อทั้งสองต่างแตกต่างกัน มาลุ้นไปกับความรักของยักษ์และมนุษย์ด้วยกันนะคะ

วิวาทรัก

วิวาทรัก

โรแมนติก

5.0

จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคนสองคนไม่เคยเจอกัน ไม่เคยรู้จักกัน แต่ต้องมาแต่งงานกัน แน่นอนว่าการคลุมถุงชนครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะคนแก่ทั้งสองที่ให้คำมั่นสัญญากัน พวกเขาที่เป็นหลานจึงจำต้องแต่งงานกัน "น่านน้ำ" หนุ่มเจ้าของไร่กาแฟ กับสาวมั่น "พิมพ์มาดา" ที่ต้องมาเจอกัน ทั้งสองไม่ใช่คนที่จะเชื่อฟังใครง่ายๆ ต่างคนต่างดื้อ และการคลุมถุงชนครั้งนี้จะต้องไม่เกิดขึ้น แล้วเรื่องราววุ่นวายจึงเกิดขึ้น หนี....ใช่ต้องหนีเท่านั้น....แต่หนีไปไงมาไงมา "รัก" กันได้ไง ที่สำคัญหนีไปหนีมามาเจอพ่อคน "เซ็กส์จัด" ใช่ค่ะว่าที่เจ้าบ่าวของเธอเซ็กส์จัดจนต้องยอมแพ้....และเธอก็ชอบความหื่น ห่าม ถ่อย ของคนที่ชังหน้าแบบไม่รู้ตัว......และน่านน้ำก็หลงเจ้าสาวจอมดื้อแบบไม่ตั้งใจรักเช่นกัน...... ------------ “นายทำบ้าอะไรของนาย” “ลงโทษเมีย” น้ำคำห้วนๆ ตอบกลับทันควัน พร้อมกับจ้องหน้าสวยที่ตอนนี้แสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจในตัวเขาอยู่ในที แล้วเรื่องอะไรเขาต้องสนใจสายตาเกลียดชังที่หล่อนส่งมาให้ด้วยเล่า ในเมื่อพิมพ์มาดาเป็นของเขาและต้องเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นายน่าน” เธอสั่งเสียงแข็งไม่ยอมเช่นกัน พร้อมดิ้นหนีจากแรงกดของบุรุษที่คร่อมเหนือตัวเองอยู่ในตอนนี้ เขาบังคับให้เธอพิงไปกับพนักโซฟาและตัวเขาก็คร่อมกักร่างเธอไว้ โดยมีสองมือใหญ่กดหัวไหล่เธอให้อิงพิงไปกับพนักเก้าอี้ สองมือทุบตีไปกับหน้าอกแกร่งแต่เหมือนกับว่าทุบกำแพงหินผาเจ็บมือเสียแรงเปล่า “ทำไมฉันต้องปล่อยด้วย เธอคิดยังไงถึงไปคบกับไอ้ปลัดธนูนั่นทั้งๆ ที่มีฉันเป็นผัวทั้งคน หรือฉันคนเดียวไม่พอฮึดา” โน้มหน้าลงไปเอ่ยข้างหูเธอพร้อมกับกัดดึงหูเธอแรงๆ ด้วยความโมโห “โอ๊ย! ฉันเจ็บนะไอ้ซาดิสม์!” “ก็กัดให้เจ็บ ถ้าไม่เจ็บจะกัดทำไมวะ บอกฉันมาไปถึงไหนต่อไหนกับมันแล้ว” เงียบ! ปากช่างเจรจาของสาวจอมพยศเม้มแน่นไม่ปริปากตอบเมื่อเขาถาม และนั่นยิ่งกระตุ้นไฟโทสะในอกของน่านน้ำไปใหญ่ “ฉันถามเธออยู่ทำไมไม่ตอบ” เขากระชากเสียงถามเธอดังกว่าเดิม และครั้งนี้ก็บีบหัวไหล่ของเธอที่กดไปกับพนักโซฟาด้วย “เจ็บนะเว้ย! นายมันบ้าไปแล้วนายน่าน นายมันคนซาดิสม์ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ฉันเจ็บ” ทุบตีแขนของเขาให้นำพามือที่บีบหัวไหล่ตัวเองออก ตอนนี้ดวงตาสวยสดใสได้อาบล้นไปด้วยน้ำตาแห่งความเจ็บปวด เมื่อเขาไม่ยอมปล่อยมือจากหัวไหล่แต่เขากลับทำตรงกันข้ามคือบีบแรงกว่าเดิม “ฉันไม่ใจอ่อนกับน้ำตาของผู้หญิงอย่างเธอหรอกนะดา อย่ามาบีบน้ำตาปัญญาอ่อนต่อหน้าฉัน” น้ำเสียงเฉียบขาดเอ่ยขึ้นพร้อมกับผละมือข้างขวามาบีบคางเล็กของเธอให้แหงนเงยเชิดหน้าขึ้นสบตาตนเอง แล้วเขาก็โน้มลงไปบดขยี้ปากอวบอิ่มสีระเรื่อที่เม้มแน่นของหล่อนจริงๆ ในเมื่อไม่ยอมพูดไม่ยอมตอบเขาก็ไม่คิดจะสนใจแล้ว เพราะตอนนี้สิ่งที่ต้องการคือการทำให้พิมพ์มาดาจำ จำว่าร่างกายของหล่อนคือของเขา นายน่านน้ำไม่ใช่ของใครอื่นที่ไหน ผู้ชายหน้าไหนก็ห้ามแตะ เพราะเนี่ยคือสมบัติของเขา ถ้าเขาไม่ยกให้ใครหน้าไหนก็ห้ามพาหล่อนหนี “อ่ะ อื้อ.....

อาจารย์หมอ(พี่เข้ม)

อาจารย์หมอ(พี่เข้ม)

โรแมนติก

5.0

เขาเป็นหมอที่มีรักเดียวมาตลอดหลายสิบปี แอบเฝ้ามองน้องน้อยตั้งแต่แรกเกิด ส่วนน้องน้อยก็หาได้รักเขาแบบชู้สาวไม่ สำหรับจงกลนีแล้วเขาคืออาจารย์หมอหน้านิ่งหน้าเดียว ไร้อารมณ์ทางสีหน้า แม้แต่ยิ้มเขาก็ยิ้มไม่เป็น แต่ก็ตกใจเมื่อเขายิ้มให้ตัวเองคนเดียว จะบ้าเหรอเขาเป็นอาจารย์ของเธอ และเธอกก็เคารพเขามาตลอด จะให้รักได้ยังไงกัน ++++++ “เอ้า...ปากกา เซ็นเอกสารแล้วค่อยนอนต่อก็ได้” “ค่ะ” เธอรับปากกาที่เขายื่นให้พร้อมกับเซ็นชื่อตรงที่เขาชี้มือ “เรียบร้อย ตอนนี้เธอเป็นเมียฉันแล้วนะ” “ยังไงคะ?” ถามทั้งๆ ที่นั่งหลับ “ก็เราจดทะเบียนสมรส..

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ทวงสวาท ทายาทเมียเก็บ

ทวงสวาท ทายาทเมียเก็บ

ภัคร์ภัสสร
5.0

+++++++++++++ “อือ... พริบีนา... จะ...เจ็บค่ะ” “ฉันชอบ... เวลาเธอเจ็บเพราะฉัน” สิ้นคำเขาก็ขบอีกครั้ง จนร่างของเธอเต็มไปด้วยรอยแดงๆ เหมือนกลีบกุหลาบช้ำๆ “คนบ้า!” “ฉันดูดเธอได้ทั้งคืน... ดูดแรงๆ ตลอดทั้งเนื้อทั้งตัว...” ‘รวิสรา’ ต้องตกใจจนแทบสิ้นสติ เมื่อจู่ๆ ‘พริบีนา เอล เชสตัค’ มกุฎราชกุมารผู้หล่อเหลาแห่งเอล มอร์เรเวีย ก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า และบอกว่าเขาคือเจ้าของที่แท้จริงของเพนต์เฮาส์หรูใจกลางปารีส ที่แม่ของเธอทิ้งเอาไว้ให้ ก่อนจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หากเรื่องกลับวุ่นวายยิ่งกว่าเดิม... เมื่อรู้ว่าน้องชายวัยขวบเศษของเธอ คือทายาทที่เกิดจากการขโมยสเปิร์มของเขา หญิงสาวจึงจำใจสุ่มเสี่ยงต่อความหวั่นไหว แล้วยอมใช้ชีวิตร่วมชายคาเดียวกัน กับเจ้าชายหนุ่มผู้เร่าร้อนตลอดหนึ่งสัปดาห์ เพื่อแย่งกรรมสิทธิ์ในตัวเด็กน้อย โดยไม่ให้สูญเสียพรหมจรรย์ของตัวเอง

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

Odey Jagoe
5.0

เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"

ความลับของท่านประธาน

ความลับของท่านประธาน

ปีศาจชอนซา
5.0

นายพายุ ศิระภาคิณ อายุสามสิบปี นักธุรกิจหนุ่มประธานบริษัทส่งออกผ้าไทย วีรกรรมที่เขาทำไว้เมื่อสิบกว่าปีก่อน กำลังจะย้อนกลับมา เมื่อนางสาวแพรไหม โภสิกุล ดีไซเนอร์สาวอายุยี่สิบเก้าปี ได้ปรากฏตัวขึ้นหลังจากที่เธอนั้นหายออกไปจากมหาวิทยาลัย กว่าสิบปี โดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งทำให้ท่านประธานหนุ่มเริ่มอยากรู้ชีวิตของเธอ เมื่อครั้งหนึ่งเรือนร่างอันบอบบางอรชรเคยหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวกับเขามาแล้ว ถ้าหากเขาต้องการสานสัมพันธ์กับเธออีกครั้ง มันก็ไม่แปลกหากเธอนั้นยังโสดแพรไหมจะยังต้องการเขาอยู่หรือไม่ ในเมื่อเธอคิดว่าพายุนั้นเป็นแค่ผู้ชายที่พรากความบริสุทธิ์ไปจากเธอเท่านั้น ซึ่งเวลานี้เธอก็ยังคงมองเขาในด้านลบอยู่ดี แม้ว่าเวลาจะผ่านไปเป็นสิบปีแล้วก็ตาม "แม่ของหนูชื่ออะไร ตอนนี้อยู่ที่ไหน บอกฉันได้ไหม" พายุถามพร้อมกับจ้องลงไปที่ดวงตาแป๋วของเด็กหญิงตรงหน้า เมื่อเขามั่นใจว่าสายตาจะไม่โกหก "แม่ของหนูชื่อแพรไหม!" เด็กหญิงพูดออกมา พร้อมกับจ้องสายตาคมของผู้เป็นบิดาอย่างไม่กะพริบตา เพื่อยืนยันว่าเธอนั้นไม่ได้โกหก “ฮ่ะ!” พายุอุทานออกมาเสียงดัง ขณะที่หัวใจของเขานั้นเต้นแรง ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจที่สุดในชีวิต "ถ้าคุณไม่เชื่อ พาหนูไปตรวจดีเอ็นเอก็ได้นะคะ" เด็กหญิงพูดออกมาพร้อมกับมีใบหน้าที่เศร้าหม่น เมื่อเธอคิดว่าบิดาคงไม่เชื่อในสิ่งที่เธอนั้นพูดออกมา "ไม่จำเป็น!" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็ง เพื่อยืนกรานที่จะตรวจดีเอ็นเอ จนทำให้คนฟังนั้นหวาดกลัว เพราะใยไหมคิดว่าบิดานั้นไม่เชื่อใจเธอ "หนูขอโทษที่มารบกวน หนูขอตัวกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ" ใยไหมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอยกมือขึ้นไหว้ผู้เป็นบิดาอย่างนอบน้อม ประหนึ่งว่าจะไม่ได้เจอเขาอีกแล้วในชีวิตนี้ เมื่อเธอได้สัญญากับผู้เป็นมารดาเอาไว้ หากถูกปฏิเสธแล้วไซร้ จะขอกลับไปไม่กลับมาหาชายตรงหน้าอีกเลยตราบชั่วชีวิต "แล้วหนูจะไปไหน นั่งลงก่อนสิ" พายุพูดพร้อมกับจับร่างเล็กของลูกสาวนั่งลงข้าง ๆ อีกครั้ง "ที่บอกว่าไม่จำเป็น นั่นเป็นเพราะว่าพ่อเชื่อว่าหนูเป็นลูกของพ่อโดยไม่ต้องตรวจดีเอ็นเอ!" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ใยไหมไม่รอช้าโผเข้าไปกอดผู้เป็นบิดาอีกครั้งในทันที ก่อนจะร้องไห้ออกมาเพราะความดีใจ "ไม่ร้องนะครับคนเก่งของพ่อ" พายุพูดพร้อมทั้งเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาที่แก้มใสของลูกสาวออกจนสิ้น ในขณะที่ตัวของเขาเองก็น้ำตาคลอเช่นกัน "หนูขอเรียกพ่อว่าคุณป๋านะคะ" เสียงเจี๊ยวจ๊าวพูดออกมาอย่างรื่นหู คุณป๋าที่เด็กหญิงพูดนั้น ทำให้พายุอดที่จะหัวเราะออกมาอย่างชอบใจไม่ได้ "ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! ทำไมถึงต้องเรียกพ่อว่าคุณป๋าด้วยละ หืม" พายุเอ่ยถามลูกสาวออกมา ขณะที่เขายังคงกอดเด็กหญิงเอาไว้ ด้วยความรักความผูกพันของสายใยระหว่างพ่อลูก ที่มันพันผูกจนมาสามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ "มาดาม ไม่ชอบให้หนูมีพ่อ หนูก็จะมีคุณป๋าแทนยังไงล่ะคะ" คำตอบของลูกสาวทำให้พายุยิ้มไม่หุบครั้งแล้วครั้งเล่า เธอช่างเป็นเด็กฉลาดและร่าเริง ผิดกับแพรไหมมารดาของเธอ ที่ชอบทำหน้าเหมือนแบกโลกทั้งใบเอาไว้ตลอดเวลา "ทำไมถึงเรียกแม่ว่ามาดาม ตอนนี้แม่แต่งงานไปแล้วหรือยัง" เวลานี้พายุลุ้นคำตอบจากลูกสาว หรือแพรไหมจะแต่งงานกับฝรั่งตาน้ำข้าวไปแล้ว ใยไหมถึงได้เรียกเธอว่ามาดาม "แม่ยังไม่มีใคร มีแค่ลุงดนัยที่ชอบมาข้องแวะ แต่หนูไม่ชอบเขาเลย เพราะเขาชอบทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของมาดามอยู่เรื่อย" คำตอบของลูกสาวช่างอิ่มเอมใจ เมื่อแพรไหมไม่มีใครเขาก็พร้อมจะสานสัมพันธ์ แต่งานนี้คงจะยากหากผู้ชายคนนั้นมาข้องแวะ แต่เขามีลูกสาวที่ยืนเคียงข้างแล้วจะกลัวอะไร "ถ้าพ่ออยากจะจีบแม่ต้องทำยังไง" "โอ้! เจ๋งเป้งมากค่ะคุณป๋า เดี๋ยวหนูจะช่วยเอง" ใยไหมพูดออกมาด้วยความดีใจ นั่นคือสิ่งที่เธอปรารถนามาแสนนาน อยากให้บิดามารดาได้ลงเอยกันสักที "ลูกรับปากพ่อแล้วน๊า... " พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่น่ารัก "แต่เราต้องมาทำข้อตกลงกันก่อนค่ะ คุณป๋า" ใยไหม ผละออกจากอกกว้างของผู้เป็นบิดา พร้อมกับหยิบคุกกี้ตรงหน้าเข้าปาก "หิวหรือยัง ไปทานข้าวก่อนดีไหม" พายุเอ่ยถามออกมาด้วยความห่วงใย เมื่อเห็นลูกสาวนั้นหยิบคุกกี้เข้าปากคำโต "เดี๋ยวค่อยไปทานก็ได้ค่ะ แต่เราต้องมาทำข้อตกลงกันก่อน เรื่องที่หนูเป็นลูกสาวของคุณป๋า ห้ามให้ใครรู้ ทุกอย่างจะเป็นความลับระหว่างเราได้ไหมคะ" พายุทำหน้าสงสัยกลับไปให้เด็กหญิง เธอกำลังคิดจะทำอะไร ใครหลายคนคงดีใจหากได้เป็นลูกสาวของท่านประธาน "ทำไมเป็นลูกสาวพ่อมันไม่ดีตรงไหนเหรอ ลูกถึงไม่อยากให้ใครรู้" พายุเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความน้อยใจ เมื่อลูกสาวไม่อยากให้ใครรับรู้ว่าเขาเป็นบิดาของเธอ "เป็นลูกสาวของป๋าดีที่สุดแล้ว แต่หนูไม่อยากให้ใครมองมาดามในทางไม่ดี ทุกคนต้องรู้แน่ สาเหตุที่มาดามต้องออกจากมหา'ลัยกลางคัน" คำบอกเล่าของใยไหมเป็นเหมือนดังคมหอก ที่ทิ่มแทงเข้ามาในหัวใจของพายุ เด็กหญิงตรงหน้าช่างมีความคิดแบบผู้ใหญ่ เธอถูกเลี้ยงมาแบบไหนทำไมถึงได้ฉลาดอย่างนี้ แพรไหมคงดูแลอบรมลูกสาวมาอย่างดี ต่างจากเขาผู้เป็นบิดาที่ไม่เคยได้เหลียวแล "พ่อขอโทษนะ ที่ไม่เคยได้ดูแลหนูเลย ต่อจากนี้ไปพ่อจะไม่ทิ้งหนูกับแม่ให้อยู่กันตามลำพังอีกแล้ว" คำพูดของผู้เป็นบิดากำลังทำให้เด็กหญิงหัวใจพองโต เธอดีใจที่ผู้เป็นพายุไม่ปฏิเสธ แถมเขายังคิดที่จะสานสัมพันธ์กับมาดามของเธออีกครั้ง คงไม่มีอะไรทำให้เด็กหญิงมีความสุขเท่าสิ่งนี้มาก่อนเลยในชีวิต "ก่อนอื่นคุณป๋า ต้องจีบมาดามให้ติดก่อน หนูบอกเลยว่างานหิน มาดามดื้อจะตาย ขนาดลุงดนัยตามจีบหลายปี มาดามยังปฏิเสธทุกครั้ง แต่ลุงดนัยก็ตื้ออยู่ได้" ใยไหมพูดพร้อมกับทำหน้างอ ออกมาได้อย่างน่ารัก "ป๋ามีลูกสาวคอยช่วยจะกลัวอะไร ไปทานข้าวกันดีกว่า เดี๋ยวป๋าจะไปส่งที่บ้าน" พายุพูดออกมาด้วยสายตาที่มีความหวัง เขาคงไม่ต้องใช้นักสืบ ในเมื่อโชคชะตากำหนดให้หญิงสาวเดินเข้ามาในชีวิตของเขาเอง แถมอยู่ดี ๆ ก็ได้ลูกสาวมาหนึ่งคน ที่น่ารักซะจนทำให้เขานั้นอยากไว้หนวด

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

Pinkygirl
4.8

ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!

ซีอีโอผู้อ่อนแอต้องง้อเธอทุกวัน

ซีอีโอผู้อ่อนแอต้องง้อเธอทุกวัน

Elsworth Underwood
5.0

เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ