one night stand (คืนหวามรัก)

one night stand (คืนหวามรัก)

B.J.BEN

5.0
ความคิดเห็น
3.4K
ชม
15
บท

โปรย คืนหวามรัก เขาเป็นเจ้านายจอมดุ ในขณะที่เธอเป็นเลขาจอมเฉิ่มเชย ตัวอย่างบางช่วงบางตอน ปลายดาวใช้มือปิดตาเอาไว้ ก่อนจะแอบแยกนิ้วออกมาเพื่อลอบมอง เหมือนมีคนมาช่วยตัวเองให้เธอดู ทั้ง ๆ ที่เธอแอบเข้ามาในห้องทำงานของเขา จริง ๆ ควรจะบอกว่าเธอมาแอบดูเจ้านายช่วยตัวเองเสียมากกว่า เจอหนังสดจะ ๆ ลูกกะตาแบบนี้ จะเป็นตากุ้งยิงหรือเปล่าหนา... คชากรเร่งมือหนักขึ้น ในขณะที่ปลายดาวเอามือออกจากการปิดตาตัวเอง เธอลุ้นตามเขาไปด้วย เพื่อให้เขาเสร็จสมเร็ว ๆ อาจจะมีช่วงที่เขาไปเข้าห้องน้ำและเธอจะสามารถหนีไปจากตรงนี้ได้ เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ปลายดาวอยากจะกรีดร้องให้กับความโชคร้ายมากมายมหาศาลของตัวเอง เธอรีบควานมือหาโทรศัพท์ในกระเป๋า เสียงครางของเจ้านายหนุ่มหยุดลง พร้อมกับเสียงดุ ๆ ที่เอ่ยถามออกมาว่าใคร “โอ๊ย!” ปลายดาวเผลอตัวทำท่าจะยืนขึ้นสารภาพว่าเธอเอง แต่ลืมไปว่าหลบอยู่ใต้โต๊ะทำงานของเขา ทำให้ศีรษะของเธอกระแทกเข้าไปเต็มแรง จนรู้สึกมึนไปหมด คชากรรีบรูดซิปกางเกง เขาก้มลงมาใต้โต๊ะ ก็เห็นเลขาสาวกำลังทำหน้าเหยเกส่งมาให้ เขาหน้าแดงก่ำร้อนผ่าว ไม่คิดว่าหล่อนจะมาเห็นช็อตเด็ดของเขาแบบนี้ เขามัวแต่สาว หน้าก็แหงนขึ้นไปบนเพดานเลยไม่ได้ก้มดูว่าแม่เลขาสาวมาอยู่ใต้โต๊ะทำงานของเขาตอนไหน แต่จำได้ว่าหล่อนกลับไปแล้ว และชั้นบนนี้ก็เงียบสงบ เพราะไม่มีพนักงานคนใดขึ้นมาอีก นอกเหนือจากเวลางาน “คุณเข้ามาทำอะไรในห้องทำงานของผม” เสียงดุเข้มทำให้ปลายดาวคลานออกมาจากใต้โต๊ะอย่างลนลาน แถมยังชนแก้วกาแฟชนหกเลอะเทอะไปหมด กาแฟที่หกเต็มพื้น ทำให้คชากรสบถยาวเหยียด ปลายดาวตัวสั่น ก้มงุด มือที่ถือกระเป๋าสั่นเทา เสียงโทรศัพท์มือถือเงียบไปแล้ว อาจเพราะไม่มีคนรับ เลยเลิกโทร. ไปโดยปริยาย เวรแล้วไงยายปลาย จะทำไงต่อดีล่ะ!!! จะหนีตอนนี้ก็หนีไม่ทันแล้ว!!!

บทที่ 1 1

“คุณแต่งตัวอะไรของคุณนี่” คชากรมองเลขาตรงหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ เสียงดุ ๆ ของเขาทำให้ปลายดาวที่ไม่มีความมั่นใจอยู่แล้ว ยิ่งไม่มีความมั่นใจเข้าไปใหญ่

“ปลายแต่งชุดนี้ไม่เข้ากับงานเหรอคะ” เธอก้มมองชุดของตัวเอง พลางเม้มปากจิกมือกับกระโปรงสีขาวอย่างประหม่า

“โคตรไม่เข้ากันเลย ไปเปลี่ยนชุดใหม่เลย ไม่อย่างนั้นผมไล่คุณออก” คชากรแกล้งว่า เขาเกลียดผู้หญิงสวยทุกคน เพราะพวกหล่อนคิดว่าตัวเองสวยจึงคบเผื่อเลือก หวังหลอกผู้ชายไปวัน ๆ เขาไม่อยากให้คนที่ชอบทำตัวสวยให้ใครมอง นอกจากสวยให้เขาดูคนเดียว

คนไม่รู้อีโหน่อีเหน่ได้ทำทำสีหน้าเหลอหลา เธอคิดว่าชุดนี้ดูดีและสวยที่สุดแล้วนะ เพราะไม่อยากให้เขาต้องอายใครที่ต้องควงเธอมาออกงาน แม้จะมาในตำแหน่งเลขาก็ตามที

“เจ้าของร้านบอกว่าชุดนี้สวยมากเลยนะคะ ปลายก็ลงทุนเช่าไปตั้งหลายตังค์” ปลายดาวพูดเสียงอ่อย เธอก็อยากแต่งตัวให้ดูดีบ้าง เพราะโดนหาว่าเฉิ่มเชยมาตั้งแต่เด็ก

ตอนที่เธอมาสมัครงานเป็นเลขาของคชากร เธอคิดว่าเขาจะไม่รับเธอเข้ามาทำงานเสียแล้ว อาจเพราะเธอแต่งตัวเชยที่สุดในบรรดาผู้สมัครทุกคน และหลายคนก็แกล้งขัดขาเธอจนล้ม ไหนจะแกล้งเบียดเธอให้ไปอยู่รั้งท้ายในการสัมภาษณ์อีก

พ่อเป็นแค่คนขับรถรับจ้าง แม่เป็นแค่แม่บ้านและมีอาชีพตัดเย็บเสื้อผ้าธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้น เธอด้อยกว่าคนอื่นเรื่องฐานะ และคิดเสมอว่าโคตรจน แต่ก็ไม่เคยย่อท้อ ช่วยแบ่งเบาภาระของบิดามารดาโดยการทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย ครอบครัวของเธออบอุ่น บิดามารดารักกัน และพวกท่านก็รักเธอมากด้วย ไม่เคยมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกัน แม้คนข้างนอกจะพูดจะว่าหรือวิจารณ์เธอเช่นไร แต่บิดามารดารักเธอ เข้าใจเธอ ปลายดาวคิดว่าแค่นี้ก็คงเพียงพอแล้ว

แม้เธอจะโดนเพื่อนแกล้ง เพื่อนล้อว่าเป็นยายเฉิ่มเชย และยากจน แต่เธอก็เป็นที่รักของคุณครู และเรียนเก่งจนสอบชิงทุนได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยดังๆ และสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง

“ผมจะเสียเงินเช่าชุดให้คุณใหม่เอง ขอเพียงแค่คุณถอดชุดเฮงซวยนี่ออกไปจากตัวของคุณ” ประโยคของเขาทำให้เธอต้องขึ้นรถไปกับเขาอีกครั้งเพื่อไปซื้อชุดใหม่มาสวมใส่ไปงานแต่งงานของเพื่อนสนิทของเขา

เธอคิดว่าชุดของตัวเองไม่สวย แต่ที่ไหนได้ เขาเช่าชุดมิดชิดเหมือนคุณยายให้เธอสวมใส่ บวกกับแว่นตาหนาเตอะของเธอก็ทำให้เธอดูเฉิ่มเชยไม่เข้ากับงานแต่งงานเอาเสียเลย แต่เขากลับยิ้มพึงพอใจเป็นอันมาก

หลังจากที่เจ้านายของเธอนำของขวัญไปให้เพื่อนของเขา เขาก็พาเธอออกมารับประทานอาหาร มีผู้หญิงมากมายทอดสะพานให้เขา โดยการชม้ายชายตาให้ แต่เขากลับไม่สนใจเลยสักนิด

“เป็นผู้หญิงอย่าทำตัวแบบนี้ เล่นหูเล่นตากับผู้ชาย ทอดสะพานให้ผู้ชาย น่าเกลียดที่สุด” ปากคอเราะรายคือเขา ปลายดาวคุ้นชินกับนิสัยขึ้น ๆ ลง ๆ ของเขา เขาเกลียดผู้หญิงสวยทุกคน ปลายดาวคิดเช่นนั้น

ปลายดาวตักอาหารกินอย่างเกรงใจ แต่ยอมรับว่าอาหารอร่อยมาก

“กินเยอะ ๆ เลยคุณไม่ต้องกลัวอ้วนหรอก อ้วนผอมไม่สำคัญเท่าเป็นคนดีหรอกคุณ” เคยมีแฟน แล้วพวกหล่อนกระแดะว่ากลัวอ้วน กินอะไรนิดอะไรหน่อยก็กลัวหุ่นไม่ดี น่ารำคาญเป็นที่สุด

เขาจำได้ว่าตอนที่ปลายดาวมาสมัครงาน เธอโดนแกล้งจากผู้หญิงสวย ๆ คนอื่น ๆ ที่มาสมัครงานด้วย เขาแอบมองพฤติกรรมของทุกคน แต่พอพวกหล่อนเข้ามาในห้องสัมภาษณ์ก็พูดจาดี ดูเป็นคนดี แต่งตัวดี ตอนเขาถามว่าคิดอย่างไรกับการกลั่นแกล้งบูลลี่คนอื่น ก็ตอบเสียเกือบจะหลงเชื่อว่าเป็นคนดีจริง หากไม่เห็นจากกล้องบันทึกภาพที่เขาแอบติดเอาไว้ดูพฤติกรรมพวกหล่อนก่อนสัมภาษณ์

เขาจึงตัดสินใจรับปลายดาวเข้าทำงาน เพราะหล่อนไม่มีพิษมีภัยกับใคร มีแต่จะโดนคนอื่นแกล้ง อีกทั้งก่อนเข้าสัมภาษณ์ หล่อนยังแสดงน้ำใจกับผู้สมัครรายอื่นแม้แต่เรื่องเล็กน้อย ไปจนถึงเรื่องสำคัญ เช่นยอมให้คนที่ท้องแซงคิวก่อน ยอมให้คนที่ท้องนั่งก่อน ให้ยืมปากกา และช่วยเหลือเรื่องเอกสารที่บางคนทำมาไม่เรียบร้อย

“ผู้หญิงบางคนทำเป็นไม่กล้ากิน พอกลับบ้านไปหิวเกือบตายซัดมาม่าเข้าไปอีกสองห่อใหญ่”

“แค่ก ๆ ๆ” ปลายดาวถึงกับสำลักเมื่อได้ยินประโยคนั้นของเจ้านายหนุ่ม ปากร้ายนี่คือนิยามของคชากรเขาละ

“คุณว่าจริงไหมล่ะ”

“ไม่ทราบค่ะ” เธอตอบแล้วมองเขาตาปริบ ๆ กำลังจะตักอาหารเพิ่ม แต่ร่างของใครคนหนึ่งก็เดินมาชนหล่อนจนกระเด็น

“โอ๊ย!” ปลายดาวร้องด้วยความเจ็บ แต่แทนที่อีกฝ่ายจะเอ่ยขอโทษหรือสำนึกผิด กลับด่าเธอกลับว่ายืนเกะกะขวางทาง

“ยืนเกะกะเหลือเกินยายเฉิ่ม แถมยังตะกละอีก ฉันเห็นเธอตักของกินไม่หยุดมือ ไม่สงสัยเลยว่าทำไมถึงได้อ้วนเป็นหมูแบบนี้” ประโยคนั้นของจิตดีทำให้ปลายดาวอ้าปากค้างตาโต

เธอยืนของเธออยู่ดี ๆ หล่อนมาชนเธอ แถมยังมาพูดจาหมาไม่แดกแบบนี้อีก ตลกสิ้นดี ถ้าเธอฮาร์ดคอกว่านี้ คงจะหยุมหัวและตบซ้ายตบขวาให้หน้าหันไปแล้ว

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม
วิวาห์คลั่งรัก

วิวาห์คลั่งรัก

สมัยใหม่

5.0

เมื่อโชคชะตาบังคับให้เขาและเธอซึ่งเป็นคู่กัดต้องกลายเป็นคู่แต่งงานแบบสายฟ้าแลบ! ระหว่างอดีตที่เต็มไปด้วยการปะทะคารม กับปัจจุบันที่ต้องใช้ชีวิตร่วมชายคา... เรื่องวุ่น ๆ จึงเริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่แปรงสีฟันยันหัวใจ เขา...ผู้ชายเจ้าเล่ห์ ขี้แกล้ง และขี้หวงอย่างหนัก เธอ...หญิงสาวปากแข็ง ขี้ประชด แต่แอบอ่อนโยนในทุกความใส่ใจ จากบ้านไม้ริมคลอง กลายเป็นสนามรักและสงครามขนาดย่อม ที่ไม่มีใครยอมใคร แต่หัวใจสองดวงกลับเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด... เพราะบางที...โชคชะตาอาจไม่ได้บังคับ แต่มันอาจกำลังพาเขาและเธอ... กลับมายังที่ที่เรียกว่า "บ้าน" ด้วยกัน

คู่หมั้นไร้เสน่หา

คู่หมั้นไร้เสน่หา

โรแมนติก

5.0

เมื่อข่าวฉาวบิดเบือนเปลี่ยนหญิงสาวให้กลายเป็นคนที่เขาเกลียด และเมื่อคำสัญญาเก่าของผู้ใหญ่ พาเธอกลับมาในฐานะ ‘คู่หมั้น’ ที่เขาไม่ต้องการ ลลิล สาวสวยผู้สง่างามและเข้มแข็ง ต้องเผชิญแรงกดดันจากคนในครอบครัว รวมถึง กวิน ชายหนุ่มผู้เย็นชา ผู้มองเธอด้วยสายตาดูแคลน…แต่ไม่อาจละสายตาได้เลย ในความเงียบงันระหว่างพวกเขา...กลับมี ‘หัวใจ’ ที่ค่อย ๆ เรียนรู้กันอย่างไม่รู้ตัว จากความเข้าใจผิด กลายเป็นความผูกพัน จากการดูแคลน กลายเป็นการปกป้อง และจาก ‘คู่หมั้นไร้เสน่หา’ กลายเป็น ‘ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารัก’

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คุณสามีเป็นผู้พิการ

คุณสามีเป็นผู้พิการ

Devocean
4.9

"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง

ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง

Nadia Lada
5.0

เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"

เธอคนนี้ ไม่ใช่สาวส้มหล่น

เธอคนนี้ ไม่ใช่สาวส้มหล่น

Livia
5.0

ตอนเด็กถูกทอดทิ้งให้โดดเดี่ยว แม่ถูกทำร้าย ฉือเนี่ยนสาบานว่าจะเอาทุกอย่างที่เป็นของตัวเองกลับคืนมา!ครั้งแรกที่กลับมาที่เมืองจิง เธอถูกมองว่าเป็นผู้หญิงที่ไร้การศึกษาและสำส่อนหลายคนบอกว่าลู่เหยียนสือต้องตาบอดแน่ๆ ถึงได้มาสนใจฉือเนี่ยนแต่มีแค่ลู่เหยียนสือเท่านั้นที่รู้ ว่าเธอที่เขารักและทะนุถนอมนั้นมากความสามารถ สามารถสร้างความวุ่นวายให้ทั้งเมืองจิงได้ด้วยตัวคนเดียวเธอคือหมอมือหนึ่ง เธอคือแฮ็กเกอร์มือทอง และยังเป็นนักปรุงน้ำหอมชั้นยอดที่ได้รับการยกย่องจากบุคคลสำคัญคนภายนอก: "คุณลู่ คุณจะเอาใจภรรยาจนไม่มีขอบเขตเลยเหรอ ทำไมแม้แต่ประชุมยังต้องอุ้มเธอไว้ด้วย!"ลู่เหยียนสือ "ต้องเอาใจภรรยาถึงจะรุ่งเรืองเฟื่องฟู"ต่อมาความลับของเธอถูกเปิดเผย ทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนหันมาชื่นชมและยกย่องเธอ...

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ