Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
945
ชม
11
บท

แค่เมาแล้วพลาดท่า ไม่ได้หมายความว่าง่ายซะหน่อย

บทที่ 1 สัมภาษณ์งาน1 3

ตึกๆ ตึกๆ เสียงรองเท้าย้ำไปกับพื้นถนน ก่อนที่ร่างบอบบางสวมแว่น จะขึ้นไปยืนบนฟุตบาททันทีที่ข้ามถนนได้ ยืดอกให้ดูผ่าเผยขึ้น มือกำเอกสารสำคัญของตัวเองไว้แน่น สูดลมหายใจลึกๆ จึงก้าวเดินอย่างมาดมั่น เข้าไปในตึกขนาดใหญ่ เพื่อไปสัมภาษณ์งาน “สวัสดีค่ะ มาตามนัดสัมภาษณ์งานค่ะ” นิรายกมือไหว้คนที่เคยเจอแล้วตอนมากรอกใบสมัคร

“ตอนนี้ท่านไม่อยู่ มีธุระด่วน เดี๋ยวติดต่อไปใหม่ หรือไม่ก็ไปสมัครที่อื่นเถอะ” คนสวยตรงหน้าพูดด้วยรอยยิ้มเหยียด ใช่ รอยยิ้มเหยียดหยัน! ที่นิรามองเห็นชัดเจน

“แต่พี่คนที่อยู่ข้างๆ เมื่อวานนัดมานะคะ หนูขอรอได้ไหมคะ” เธอเอ่ยขอร้องอีกครั้ง ถ้าเธอกลับไป เธออาจจะพลาดงานนี้ก็ได้ ทั้งที่เมื่อวานพี่คนที่รับเรื่องเธอ พูดเหมือนว่าจะรับเธอเข้าทำงานแล้วด้วยซ้ำ

“ท่านไม่กลับเข้ามาง่ายๆหรอก น่าจะอีกนานอะ” เธอพูดอย่างหงุดหงิด เมื่อยัยเฉิ่มข้างหน้าดูท่าจะเข้าใจอะไรยาก

“งั้นเหรอคะ งั้นหนูลาเลยนะคะ” นิรารีบยกมือไหว้แล้วเดินออกไปทันที เธอเสียเวลามามากแล้ว ไม่ได้ที่นี่ก็ต้องหาที่ใหม่ต่อ แต่ในใจก็นึกโกรธคนเป็นเจ้าของที่นี่ ถ้าไม่พร้อมจะสัมภาษณ์เธอ ไม่รู้จะนัดเธอมาทำไมแต่เช้าแบบนี้

“โอ้ย! !” นิราเดินออกมาตะโกนหน้าตึกขนาดใหญ่ ไม่สนใจรอบข้างเลยสักนิด ตอนนี้เพิ่งจะ 07.50 น. เธอมาก่อนเวลาตั้งชั่วโมง แต่กลับไม่ได้งาน มันทำให้เธอหงุดหงิดมาก แต่ก่อนที่จะอารมณ์เสียไปมากกว่านี้ เสียงเครื่องมือสื่อสารของนิราก็ดังขึ้น

Tru Tru Tru

[ยัยนิรา~ มาอยู่กรุงเทพทำไมไม่บอกเพื่อนสักคำ] เสียงตะโกนอย่างดีใจดังลอดออกมา จนนิราแทบไม่ต้องแนบโทรศัพท์ไปกับหูเลย

“ก็เพิ่งมา เลยยังไม่ได้บอก” นิรายืมเจื่อนๆ ให้โทรศัพท์ เธอลืมบอกเพื่อนไปเลย

[แล้วนี่มาอยู่คนเดียวเหรอ ได้งานทำหรือยัง มาทำกับเราไหม มีตำแหน่งว่าง เย็นนี้มาเจอกันหน่อยไหม คิดถึง] ปลายสายพูดอย่างอารมณ์ดี

“นิวอยู่กับพี่ที่เคยทำงานด้วยจ้า คอนโดพี่เขาต้องการคนเช่าพอดี นิวกำลังหางานอยู่ แต่คืนนี้นิวไม่ว่างจ้า” บอกเพื่อนสาวไปเสียงเบา ตอนนี้กำลังก้าวเท้าออกเดิน จากหน้าตึกที่มีเจ้าของเฮงซวยนี้

[งั้นวันไหนที่นิว หางานด้วยตัวเองแล้ว แต่ยังไม่ได้ ติดต่อมานะ เรายินดีช่วยเสมอ] ปลายสายพูดด้วยความหวังดี รู้ดีว่าเพื่อนไม่อยากพึงพาเธอ เพราะเกรงใจเธอมาตลอด แต่เธอกลับอยากช่วยด้วยความเต็มใจเสมอ

“ขอบคุณจ้าทับทิม เดี๋ยวถ้านิวหางานไม่ได้ นิวจะให้ทับทิมช่วยคนแรกเลย” นิรายิ้มแย้มขึ้นมาทันที ทับทิมคือเพื่อนสมัยเด็ก ที่พ่อแม่พาย้ายมาอยู่กรุงเทพตอนเข้ามหาลัย แม้จะเรียนคนละที่ แต่ความรักและหวังดีก็ยังมีให้นิราไม่เปลี่ยนแปรง

[จ้า ว่างๆ เข้ามาหาที่บ้านบ้างนะ คิดถึง พ่อกับแม่ก็บ่นหานิวทุกวันเลย] ทับทิมเจ้าของเสียงหวานๆ ที่เข้ากับใบหน้าพูดอย่างอารมณ์ดี นี่ถ้าเธอไม่อ่านเจอสตอรี่ของนิรา ก็คงไม่มีทางรู้ว่าเพื่อนกำลังลำบากหางานอยู่ในเมืองกรุงคนเดียว

“จ้า โอ้ย!” เพราะมัวแต่คุย นิราเลยสะดุดล้มเพราะพื้นต่างระดับ แว่นตาหลุดกระเด็นไปที่ไหนสักที่ทันที กร๊อบ!

“อ๊า~ แว่นจ๋า” นิรามองแว่นของตัวเอง อยากจะร้องไห้ออกมาเสียงดัง ให้แว่นสุดรักของตัวเองที่มันไปกองอยู่แทบเท้าของใครสักคน แถมอยู่ในสภาพที่แหลกละเอียดเป็นที่เรียบร้อย

“เป็นอะไรไหมครับ” ชายคนนั้นไม่สนใจแว่นของนิราเลย เพราะเขารีบเข้ามาพยุงร่างของนิราให้ลุกขึ้น ก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมามอง

“คุณ ฮือ แว่นฉัน” เธอไม่ได้ด่าแต่คำพูดเหมือนฟ้องผู้ชายรูปหล่อที่เอาแต่ยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน

“ผมไม่ได้ตั้งใจ แว่นคุณมันวิ่งเข้ามาใต้เท้าผมเองนะ” เขาทอดสายตาลงมองใบหน้าที่ปราศจากแว่นยิ้มๆ ทำไมคนตรงหน้าเขา ถึงเลือกใส่แว่นอันใหญ่บดบังดวงตาสีสวยขนาดนี้ด้วยนะ

“ฉันสะดุดเถอะ ใครมันจะไปตั้งใจให้แว่นวิ่งไปอยู่ใต้เท้าคุณละ” นิรายังคงเถียงใบหน้าที่อยู่ใกล้ๆ ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าถูกร่างสูงประคองไว้ เพราะมัวแต่เถียงกับเขา เรื่องแว่นของเธอที่ถูกเขาเหยียบจนมันแตกละเอียด

“ท่านค่ะ เดี๋ยวต้องเข้าประชุมแทนท่านประธานนะคะ” ขณะที่นิรากำลังจะเค้นหาคำมาเถียงคนตรงหน้า ก็ได้ยินเสียงหวานๆ เรียกอยู่ไม่ไกลนัก เห็นผู้ชายคนนี้พยักหน้าหงึกหงัก ทั้งยังปล่อยมือออกจากร่างนุ่มนิ่มของเธอ

“มาสมัครงานที่นี่เหรอ” ชายหนุ่มถามเธอนิ่งๆ เห็นเธอกอดเอกสารไว้แน่น เธอไม่ใช่คนในบริษัทเขาแน่ๆ เขาไม่เคยเห็นเธอ เพราะเขาไม่มีทางพลาดจากของสวยๆ งามๆ ตรงหน้านี้แน่

“อืม แต่ไม่ได้งานหรอก คนที่นัดสัมภาษณ์เทฉันไปแล้ว” นิราแค่อยากบ่นให้ใครสักคนฟัง ถึงความไม่ยุติธรรมที่เธอได้รับ และพอดีชายหนุ่มคนนี้ยืนอยู่ตรงนี้ก็แค่นั้น

“งั้นไปกับผม ผมจะสัมภาษณ์เอง ชดเชยที่ทำแว่นคุณพัง”

พูดจบก็จับมือนิรา เดินเข้าไปในตึกใหญ่นี่ทันที ตามด้วยผู้หญิงสวยๆ ที่ทำหน้าเรียบนิ่ง เดินตามคนทั้งคู่ไป

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

The devil's Lover  เล่ห์รักยัยตัวร้าย

The devil's Lover เล่ห์รักยัยตัวร้าย

Me'JinJin
5.0

ภีม ภีมวัจน์ อภิรักษ์วัฒนกุล ทายาทรุ่นที่ 3 แห่ง AK Group นักธุรกิจหนุ่มที่ได้รับรางวัลผู้บริหารหน้าใหม่ไฟแรงถึง 4 ปีซ้อน อายุ 26 ปี หล่อ รวย รักสนุกแต่ไม่คิดจะหยุดที่ใคร ใบหน้าหล่อเหลาที่แสนเย็นชาคือเสน่ห์ที่ดึงดูดสาวๆให้เข้ามาพัวพันกับเขาอยู่เสมอ ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าจบลงเพียงชั่วข้ามคืนเพียงเพราะเขายังไม่เจอคนที่ ถูกใจ จนกระทั่งวันหนึ่งที่โชคชะตาเล่นตลกให้เขาได้พบกับเธอ แม่สาววันไนท์ที่ใช้ลิปสติกเขียนบนใบหน้าของเขาด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย แถมยังเซ็นเช็คให้เขาถึงหนึ่งร้อยล้านบาทพร้อมยิ้มมุมปากบอกเขาว่าคือ ค่าตัว หลังจากวันนั้นเขาได้แต่ I told พระแม่ว่าขออย่าให้ได้พบ ได้เจอกับผู้หญิงคนนี้อีกเลยแต่ใครเลยจะรู้ว่าพระแม่ไม่แยแสต่อคำขอร้องของเขาด้วยซ้ำถึงได้ส่ง ตัวแม่ ตัวมัม มาล่อลวงหัวใจของ เขาให้สั่นไหวและตกหลุมรักเธอจนโงหัวไม่ขึ้น กอหญ้า การต์รวี พิสิฐกุลวัตรดิลก / เกียรติมงคลรัตน อายุ 21 ปี ลูกสาวฝาแฝดคนเล็กของแก้มใส พิสิฐกุลวัตรดิลก สาวน้อยแสนแสบและแสนซน ใครดีมาเธอดีตอบ ใครร้ายมาเธอฟาดกลับคืนหมดไม่สนลูกใครหน้าไหนทั้งนั้น ตัวแม่ ตัวมัมเรื่องความใจกล้า เสียตัวแล้วเสียไปเธอไม่เสียใจแถมเธอยังใจดีเซ็นเช็คค่าตัวให้เขาถึงหนึ่งร้อยล้านบาท พร้อมภาวนาต่อพระแม่ว่าเธอ I told ผู้ชายคนนี้พียงคนเดียวเท่านั้น และใช่พระแม่เห็นใจและเข้าใจเธอถึงได้ส่งเธอให้มาเจอกับเขา ผู้ชายปากร้ายแต่หน้าตาหล่อเหลาที่ทำให้เธอหลงเสน่ห์ของเขาจนอยากจะชวนขึ้นเตียงวันละหลายหน จากความคิดที่เพียงแค่อยากเล่นสนุกกลับกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ยากจะตัดใจและเธอเองก็ไม่เคยคิดที่จะตัดใจ ถ้าเธอล่อลวงหัวใจของเขามาเป็นของเธอไม่ได้ก็อย่ามาเรียกเธอว่าตัวแม่ตัวมัมอีกเลย คำเตือน ⚠️ Trigger Warning นิยายเรื่องนี้มีเนื่อหาการร่วมเพศอย่างชัดเจนรบกวนผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการเสพ

เจ้าสาวไม่ผ่านรัก

เจ้าสาวไม่ผ่านรัก

dexnarak
5.0

"คุณเข้ามาในห้องของฉันทำไม" "นี่อะไร" ศิวัฒน์ชูเอกสารในมือขึ้น "คุณก็เห็นว่ามันคืออะไร" เธอตอบโดยไม่ใส่ใจมากนัก เพราะเกี่ยวกับเขาถึงยังไงเขาก็ต้องรู้ "หึ" เขาเดินเข้าไปใกล้เธอ "เธอคิดว่าเล่นขายของอยู่หรือไง ที่จะเลิกเล่นตอนไหนก็ได้" "คุณเองไม่ใช่เหรอที่อยากหย่าตั้งแต่แรก ตอนนี้ฉันก็ยอมเซ็นใบหย่าให้คุณแล้วเราไปอำเภอกันพรุ่งนี้เลยฉันเตรียมเอกสารครบแล้ว" "มันสายไปแล้ว" เขาบีบต้นแขนเธอแน่น "อยากเป็นเมียก็จะให้เป็น" "ฉันเจ็บนะคุณไตร" เธอพยายามแกะมือของเขาออก "อยากหย่ากับฉันมากละสิ เสียใจด้วยตอนนี้ฉันไม่อยากหย่าแล้ว" น้ำเสียงของเขาเหมือนคนที่กำลังโกรธ ซึ่งฉัตรนลินทร์ก็ไม่เขาใจว่าทำไมเขาถึงได้โกรธขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอพยายามทำในสิ่งที่เขาต้องการตั้งแต่แรกแล้วแท้ ๆ "คุณจะทำอะไร" ฉัตรนลินทร์ร้องถามพลางเอามือดันอกเขาไว้ เมื่ออยู่ ๆ เขาก็พยายามกอดเธอ ความกลัวเริ่มเข้าครอบงำจิตใจของเธอ "ทำหน้าที่สามีไง จะทำทุกคืนให้คุ้มค่ากับเงินที่แม่ของฉันจ่ายให้เธอ" แม้จะเห็นใบหน้านวลตรงหน้านั้นกำลังซีดเผือดแต่เขาก็ไม่ได้สนใจ "ไม่นะ...ปล่อยฉันลงสิคุณไตร" เธอร้องสุดเสียงเมื่อโดนศิวัฒน์อุ้มขึ้นพาดบ่าแล้วพาไปที่เตียงนอน อึก!! ................................ "เธออยากหย่าขนาดนั้นเลย" "ใช่ค่ะ ไม่หย่าวันนี้วันหน้าก็ต้องหย่าอยู่ดี" ................................. "ถอยไปดิ อย่ามาขวาง" เธอไม่สนใจลูกชาย "อ้อ เอกสารของบริษัททั้งหมดอยู่ในห้องทำงานนะ ฉันยกให้แกหมดเลย" "แม่!!" "ไม่ต้องเรียก ฉันไม่มีลูกโง่อย่างแก" ................................. "เราไม่ใช่เด็ก ๆ กันแล้วนะ เรามาแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดกันเถอะ" เธอหันไปเผชิญหน้ากับศิวัฒน์ "ฉันขอโทษที่ไม่ยอมปฏิเสธแม่ของคุณในวันนั้น ขอโทษที่ไม่ยอมรับข้อเสนอของคุณ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ฉันไม่อยากให้เรารู้จักกันด้วยซ้ำ แต่เมื่อมันย้อนไม่ได้เราก็เดินไปข้างหน้าเพื่อลืมเรื่องราวของกันและกันเถอะ" ....................................

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

Tann Aronson
5.0

เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"

รักซ้ำรอย

รักซ้ำรอย

มาชาวีร์
4.9

“ก่อนทำเรื่องนี้พี่ขอถามน้องภาสักข้อได้ไหม” ธาวิศพูดแล้วก้าวเท้าเข้าไปหาคนบนเตียง “ได้ค่ะ” นิภาก้มหน้ายามตอบ ธาวิศทิ้งสะโพกลงนั่งด้านข้าง พร้อมกับดันปลายคางของหญิงสาวให้ขึ้นมองหน้าเขา “น้องภาเต็มใจใช่ไหม” แววตาของคนถูกถามสั่นระริกไปมา ปากจิ้มลิ้มก็ขยับขึ้นลงเหมือนคนคิดไม่ออกว่าควรตอบอย่างไร “น้องภาพี่ถามว่าเต็มใจใช่ไหม หรือว่าถูกคุณยายบังคับ” คราวนี้ธาวิศเน้นน้ำหนักเสียงมากขึ้นกว่าเดิม “ภาเต็มใจค่ะ” หญิงสาวตอบเขาแล้ว แต่เป็นคำตอบที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจในตัวเอง “ไม่ได้ถูกบังคับแน่นะ” “ค่ะ ภาไม่ได้ถูกบังคับ ภาเต็มใจค่ะพี่ภูมิ” ธาวิศกัดฟันกรอดในคำตอบที่เขาไม่ปรารถนาจะได้ยิน ออกแรงผลักหน้าอกนิภาจนล้มลงไปนอนอยู่บนเตียง ปลดกระดุมเสื้อนอนของตนเองออกทีละเม็ด โดยที่สายตาก็ยังจดจ้องอยู่กับคนตรงหน้า “ระหว่างเรามันจะไม่มีความผูกพันอะไรกันทั้งนั้น เราทำเรื่องนี้ก็เพื่อคุณยาย เสร็จจากนี้ไปพี่ก็จะกลับกรุงเทพฯ ไปใช้ชีวิตกับคนรักของพี่ตามเดิม ภายังรับได้อยู่ใช่ไหม” ชายหนุ่มพูดจบก็ทิ้งเสื้อนอนลงบนพื้น คนบนเตียงก็ยังเม้มริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น คำตอบไม่มาสักทีเขาเลยต้องเลิกคิ้วขึงตาใส่ “ค่ะภารับได้” คำพูดที่เปล่งออกมาช่างเบาหวิว คงไม่ต่างไปจากอารมณ์ของคนพูด “รับได้ก็ดี อย่ามาเรียกร้องอะไรทีหลังก็แล้วกัน ไม่งั้นพี่เอาตายแน่” ธาวิศทาบร่างตัวเองลงบนลำตัวของนิภา มองจุดหมายแรกที่จะเริ่มต้นทำรัก ประทับจูบลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มของหญิงสาว สัมผัสแรกของทั้งคู่ช่างตราตรึงในความรู้สึก จากที่จะจูบเพียงแผ่วเบากลายเป็นแทรกลึกดูดดื่มขึ้นตามอารมณ์ (รักซ้ำรอย)

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ