Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
อุ้มรักเมียลับมหาเศรษฐีเถื่อน

อุ้มรักเมียลับมหาเศรษฐีเถื่อน

B.J.BEN

4.0
ความคิดเห็น
8.8K
ชม
34
บท

ในวันที่เธอกำลังตั้งครรภ์ชีวิตน้อยๆ อันเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา เขากลับไล่เธอออกจากชีวิตเหมือนผู้หญิงไร้ค่าคนหนึ่ง เธอรักเขานั้นคือเรื่องจริง แต่เขานั้นรักเธอจริงตามปากพูดไหม เธอชักไม่แน่ใจ เพราะแค่ความไว้วางใจที่จะสืบหาความจริงเขากลับไม่ทำ เธอทิ้งทุกอย่างเพื่อยอมเป็นเมียลับให้แก่เขา ยอมให้แม่และน้องของเขาโขกสับสารพัด หากเขาไม่เห็นค่า เธอก็พร้อมที่จะเดินออกมาไม่เหลียวหลัง แต่หากในวันที่เธอเข้มแข็ง ยืนหยัดได้ เขากลับมาอีกครั้งพร้อมขอโอกาส และครั้งนี้เธอไม่ใช่คนที่เป็นฝ่ายถูกเลือก แต่เธอจะเป็นฝ่ายเลือกว่าจะตัดสินใจเช่นไร และเธอจะไม่ยอมให้เขาทำร้ายเธอเป็นครั้งที่สองอีก ตัวอย่างบางช่วงบางตอน “มีที่หมายใหม่เร็วดีนะ นายเข้มคงชั่วคราวเพราะไม่รวยเท่านายพีรพลอะไรนั่นสินะ” ประโยคที่พูดขึ้นลอย ๆ ทางด้านหลังทำให้เธอหันขวับไปมอง ก่อนที่พรนัชชาจะเดินหนีออกไปจากหน้าห้องน้ำ ไม่อยากเสวนากับคนแบบเขาอีก แดนไทยตามมากระชากแขนของเธอเอาไว้ พรนัชชาก็สะบัดจนหลุด “อย่ามาแตะต้องตัวฉัน” ประโยคแสนห่างเกินนั้นทำให้แดนไทยหน้าตึง “ทำไมพูดกับผัวเก่าห่างเหินขนาดนั้นล่ะ” แดนไทยเอ่ยถามอย่างเยาะหยัน “ก็แค่ผัวเก่า เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว” เธอตอกกลับพลางเชิดหน้าขึ้น อย่างเย่อหยิ่ง แดนไทยถึงกับชะงักไป เพราะเธอดูเปลี่ยนไปมาก “ตกลงจะเอาคนนี้เหรอ แต่จริง ๆ ฉันก็รวยไม่แพ้นายพีนี่นะ ถ้ายอมมาเป็นนางบำเรอของฉัน ฉันจะให้มากกว่ามัน ให้แบบถึงใจทั้งเรื่องเงินและเรื่องบนเตียง ไม่ต้องลักลอบไปหานายเข้มอีก” เพี้ยะ!!! เสียงเพี้ยะดังขึ้น ใบหน้าของแดนไทยหันไปตามแรงตบ “นี่เธอกล้าตบฉันอย่างนั้นเหรอ” “นี่ยังน้อยไปกับปากโสโครกอย่างคุณ ฉันตัดสินใจถูกแล้วที่เดินออกมาจากชีวิตของคนที่ไม่เห็นคุณค่าของฉัน คุณรู้จักฉันมานานหลายปีแล้วแต่คุณไม่รู้จริงๆ น่ะเหรอคุณแดนไทยว่าฉันเป็นคนยังไง” “ฉันเคยคิดว่าเธอดีไง เลยเชื่อว่าเธอเป็นคนดี แต่ใจของคนเรายากแท้หยั่งถึง ความดีที่แสดงออกมาอาจจะเป็นการเสแสร้งแกล้งทำก็ได้ไม่ใช่เหรอ ฉันเชื่อในสิ่งที่เห็น ถ้าฉันไม่เชื่อนี่แหละแสดงว่าฉันทั้งบ้าและโง่”

บทที่ 1 1

“ชื่นใจจัง” แดนไทยหอมแก้มเมียรักฟอดใหญ่อย่างแสนคิดถึง

“อุ๊ย!” พรนัชชาอุทานออกมาเมื่อได้รับอ้อมแขนอันแสนอบอุ่นกอดรัดมารอบร่างน้อยของเธอ

“คุณแดนกลับมาเมื่อไหร่แล้วคะ”

“ฉันถึงบ้าน กลับมาก็มาหาน้ำเลยนะ” แดนไทย เขมกรหนุ่มวัยสามสิบห้าปีเอ่ยกับเมียสาวที่เขารักสุดหัวใจ

พรนัชชาเป็นเด็กสาวในบ้านที่เขาเห็นมาแต่เล็กแต่น้อย หล่อนเป็นลูกสาวแม่บ้านเก่าแก่ของครอบครัว

เขาหลงรักเธอจึงเฝ้าตามจีบตามหวงและได้เธอเป็นเมียในที่สุด แม้การได้เธอเป็นเมียจะไม่ถูกต้องนัก เพราะมารดาไม่ยอมรับเธอ ด้วยว่าเธอฐานะต่ำต้อยเป็นแค่เพียงลูกสาวแม่บ้านเท่านั้น เขาทนไม่ไหวอีกต่อไปเพราะมีผู้ชายมาตามจีบเธอมากมาย จึงจับเธอรวบหัวรวบหางเสียตั้งแต่ที่เธอเพิ่งเรียนจบปริญญาตรี

เขาได้เธอเป็นเมียในวันนั้น ถึงแม้ว่ามารดาจะไม่ยอมรับแต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับจนได้ เมื่อเขายื่นคำขาดว่าหากมารดาจะไล่พรนัชชาออกจากบ้าน เขาก็จะตามไปอยู่กับเธอด้วย แล้วจะไม่กลับมาเหยียบบ้านหลังนี้อีก

“คุณดูสิคะ ตาแดนกลับมาแทนที่จะมาไหว้พ่อแม่ กลับไปกกนังเมียยาจกนั่น” ดรุณีกระแทกก้นนั่งลงบนโซฟาราคาแพงด้วยท่าทีหงุดหงิดใจ

“เขาเป็นผัวเป็นเมียกันก็ต้องคิดถึงกันเป็นธรรมดา คุณให้ลูกไปทำงานต่างจังหวัดตั้งหลายวัน”

“คิดถึงยังไงก็ควรต้องมาหาพ่อแม่ก่อนไหมคะ”

“จริงด้วยค่ะคุณแม่ ไม่รู้จะรักจะหลงอะไรนักหนา สงสัยยายน้ำทำเสน่ห์ยาแฝดใส่พี่แดนแน่ ๆ เลยค่ะ” ดาริกาแสดงความคิดเห็น

“เสน่ห์ยาแฝดอะไรกัน เหลวไหล”

“คุณก็อีกคนนะคะ เข้าข้างนังนั่นอยู่ได้ เพราะคุณแอบกิ๊กกั๊กกับแม่ของมันก่อนที่จะแต่งงานกับฉันใช่ไหม”

“จะไปกันใหญ่แล้วคุณ เกดแก้วเขาตายไปตั้งนานแล้วนะคุณ”

“มันตายแล้ว แต่คุณก็ยังคิดถึงมัน ใช่ไหมล่ะคะ คุณตอบฉันมาสิ”

“ผมไปทำงานดีกว่า คุยกับคุณแล้วทะเลาะกันเสียเปล่าๆ” ดรัณเอ่ยขอตัวเพราะไม่อยากทะเลาะกับภรรยาอีก

“ดูคุณพ่อสิคะ ไม่เข้าข้างเราเลย” ดาริกากอดอกเม้มปากอย่างขัดใจแทนมารดา

“แม่อุตส่าห์ส่งตาแดนพี่ของเราไปเรียนต่อเมืองนอกเมืองนา นึกว่าจะได้กับสาวสวยไฮโซ ลูกคุณหนูมีชาติตระกูลฐานะทัดเทียมกัน ที่ไหนได้กลับมาคว้านังน้ำ นังลูกคนใช้เป็นเมีย ดีหน่อยนังนั่นยังไม่เรียกร้องอะไร ถ้าเพื่อน ๆ คุณหญิงคุณนายของแม่รู้ว่าพี่เราน่ะไปคว้าลูกคนใช้มาทำเมียแม่คงเอาปี๊บคลุมหัว” คุณดารุณีถอนใจอย่างหงุดหงิดเพราะลูกชายไม่ได้ดั่งใจ

“ดีที่มันเชื่อคุณแม่ ยอมเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่ในที่ของมัน ถ้ามันขืนบอกใคร ๆ หนูคนแรกละค่ะจะตบมันให้คว่ำเลย หน็อย... มีอย่างที่ไหนเป็นแค่ลูกคนใช้ กินบนเรือนขี้รดบนหลังคาริจะเอาลูกชายเจ้าของบ้านทำผัว น่ารังเกียจที่สุดเลยค่ะ ไม่เจียมกะลาหัว”

“แต่แม่หวั่นใจว่ามันอาจจะไม่หยุดแค่นี้แน่ ตอนนี้มันอาจจะแค่ทำเป็นยอมไปก่อน แต่ถ้าตาแดนรักมันหลงมัน เดี๋ยวมันก็มาเหยียบหัวเรา แม่สังหรณ์ใจว่าจะเป็นแบบนั้นจ้ะ”

“หนูก็คิดเหมือนคุณแม่ค่ะ เราจะต้องทำให้มันกระเด็นออกไปจากบ้านหลังนี้ค่ะ ไหน ๆ มันก็เรียนจบแล้ว จะอยู่เป็นภาระให้เราเลี้ยงดูอยู่อีกทำไม”

“เมื่อก่อนแม่ไม่ไล่มันไปเพราะจะให้มันอยู่คอยรับใช้ แต่แม่ไม่คิดว่าตาแดนจะไปคว้านังชั้นต่ำนี่มาเป็นเมีย”

“เราจะต้องหาทางเฉดหัวมันออกไปจากบ้านหลังนี้ค่ะคุณแม่ ทำให้มันทนไม่ได้ ให้มันไปเองโดยที่ไม่ให้พี่แดนตามมันไปด้วยนะคะ”

“ทำยังไงเหรอลูก แม่ยังคิดไม่ออกเลย”

“ก็กลั่นแกล้งมันไงคะคุณแม่ ให้มันทำงานหนัก ๆ เข้าไว้ เหนื่อยทนไม่ไหวก็ออกไปเองแหละ”

“ดีจ้ะ แต่ต้องทำตอนตาแดนไม่อยู่นะ ขานั้นรักเมียหลงเมียยิ่งกว่าอะไรดี ไม่เห็นหัวพ่อแม่”

“เรื่องนั้นหนูจะจัดการเองค่ะคุณแม่”

รุ่งเช้าของวันใหม่ สองแม่ลูกรอให้สองพ่อลูกออกไปทำงานกันก่อน จึงไปหาเรื่องพรนัชชาที่บ้านหลังน้อย

บ้านหลังน้อยหลังนี้เป็นบ้านหลังที่แดนไทยต้องระเห็จพาเมียรักมาอยู่ด้วย เพราะคุณดรุณีไม่ยอมรับพรนัชชา รังเกียจไม่อยากได้เป็นสะใภ้ จึงไม่อยากให้อยู่ร่วมบ้านด้วย

“สวัสดีค่ะ คุณแม่มาถึงที่นี่มีอะไรให้น้ำรับใช้เหรอคะ”

“ฉันไม่ใช่แม่ของแก อย่าสะเออะมานับญาติกับฉัน ฉันไม่ชอบ”

“ขอบโทษค่ะคุณผู้หญิง”

“แกควรรู้จักที่ต่ำที่สูงด้วย อย่าตีตัวเสมอเจ้านาย คนบ้านนี้เป็นเจ้านายของแกทุกคน ไม่ใช่ว่าลูกชายของฉันเอาแกมากกกอดนอนด้วยไม่กี่ครั้ง แล้วจะมาคิดว่าตัวเองเป็นเมีย เขาก็นอนกับผู้หญิงคนอื่นตามประสาผู้ชาย ถ้านับเป็นเมียเขาก็คงมีเมียเป็นร้อยแล้วกระมัง” ประโยคของแม่สามีที่ไม่ยินดีรับเธอเป็นสะใภ้ทำให้พรนัชชาต้องกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ

ทุกวันนี้เธอทนเพราะแดนไทย หากไม่เพราะรักเขาเธอคงหนีไปอยู่ที่อื่นแล้ว เขาเองก็บอกว่าให้เธออดทน ความดีจะชนะทุกอย่าง ชนะใจมารดาและน้องสาวของเขา

“น้ำขอโทษค่ะ”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ

ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ

แหวนก้อย
5.0

‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

Thacher
5.0

ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"

พระชายาสารพัดพิษ

พระชายาสารพัดพิษ

เกาะครีต
5.0

"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"

ฉันนี่แหละเศรษฐี

ฉันนี่แหละเศรษฐี

Abelard Evans
5.0

ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ