Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
สุดที่รักของกันต์ธี

สุดที่รักของกันต์ธี

Ocean Books

5.0
ความคิดเห็น
490
ชม
20
บท

เรื่องราวนี้ได้เริ่มจากการที่ “ที่รัก” สาวสวยพนักงานใหม่ ตกลงยินยอมแกล้งเป็นแฟนปลอม ๆ ให้ “กันต์ธี” ประธานบริษัทหนุ่มสุดหล่อมาดนิ่ง เจ้าของธุรกิจมากมายรวมทั้งบริษัทที่เธอได้ทำงานอยู่ แต่จากแค่แกล้งเป็นแฟนปลอม ๆ หลายสิ่งหลายอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อทั้งคู่เริ่ม “แอบมีใจให้กัน” เพราะตอนที่ใช้เวลาร่วมกันนั้นได้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย ทั้งวายป่วงน่าปวดหัว สนุก มีความสุข และอบอุ่นหัวใจ แต่ด้วยเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ในตอนต้น ด้วยสถานะทางสังคมที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง พวกเขาจะกล้าก้าวข้ามเส้นความแตกต่างนั้นหรือไม่? ความรักของทั้งสองจะก่อเกิดขึ้นมาได้จริงหรือ?

บทที่ 1 อะไรนะ ประธานบริษัทงั้นเหรอ

“ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ได้กันล่ะเนี่ย!?” ที่รัก หญิงสาววัย 23 ปีอดไม่ได้ที่จะบ่นอย่างหัวเสียเมื่อหลายสิ่งหลายอย่างไม่เป็นไปตามที่เธอคิดไว้

วันนี้เป็นวันที่เธอจะต้องไปทำงานวันแรก ด้วยความที่อยากให้หัวหน้าประทับใจ ที่รักจึงวางแผนจัดสรรเวลาไว้ดิบดี แต่แผนของเธอก็พังเละไม่เป็นท่าตั้งแต่เมื่อคืนและลามมาถึงตอนนี้

อย่างแรกเลยที่ไม่เป็นไปตามแผนคือเวลานอนและเวลาตื่นของเธอ เพราะตื่นเต้นและแอบเป็นกังวล ที่รักจึงนอนดึกกว่าที่วางแผนไว้ และผลของมันก็ทำให้เธอตื่นสาย

ส่วนอย่างที่สองคือฟ้าฝนและการคมนาคม ทั้งที่พยากรณ์อากาศบอกว่าวันนี้อากาศจะแจ่มใส ท้องฟ้าปลอดโปร่งโล่งสบาย แต่พอเธอมาถึงป้ายรถเมล์ฝนก็กระหน่ำตกลงมาห่าใหญ่อย่างกับพายุเข้า

และเท่านั้นยังไม่พอ รถเมล์สายที่เธอตั้งใจจะใช้เดินทางไปทำงานก็ยังไม่โผล่มาสักทีอีก ทั้งที่นี่ก็เลยเวลาไปกว่าสิบนาทีแล้ว

“ทำไงดีเนี่ย จะสายแล้ว ๆ ” ที่รักลนลานจนนั่งไม่ติดที่ เวลานี้เธอเริ่มคิดแล้วว่าการนั่งรอรถเมล์อย่างไร้ความหวังไม่ใช่เรื่องดี เธอจึงสอดส่ายสายตามองไปโดยรอบ

และหลังจากใช้เวลาสำรวจอยู่ครู่เดียวที่รักก็เห็นวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างกำลังหลบฝนอยู่ไม่ไกลจากเธอ

“นั่นไง!” ที่รักเหมือนเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เธอตัดสินใจทันทีเลยว่าจะเปลี่ยนไปเดินทางด้วยวิธีนี้ แต่แม้จะตัดสินใจได้แล้วเธอก็ต้องนั่งรออยู่ต่อจนกว่าฝนจะซาลง

หลังจากผ่านไปราวห้านาทีฝนก็หยุดตกอย่างไม่น่าเชื่อ ที่รักไม่รอช้ารีบวิ่งไปแล้วกระโดดขึ้นนั่งบนวินมอเตอร์ไซค์ทันที

ทุกอย่างดูเหมือนจะกำลังไปได้สวย เพราะหลังจากดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือ ที่รักพบว่าเธอน่าจะยังไปทันอยู่ แต่เหมือนสวรรค์ตั้งใจเล่นตลก เพราะแค่เธอดีใจได้ครู่เดียวเธอก็ซวยอีกหนแล้ว

หนนี้มันคือการที่ขณะเธอนั่งบนวินมอเตอร์ไซด์อยู่ดี ๆ ก็มีรถสปอร์ตคันหรูขับแซงไปด้วยความเร็วสูงแล้วเหยียบน้ำที่เจิ่งนองอยู่บนท้องถนนสาดกระเซ็นใส่เธอ จนชุดตัวเก่งที่หญิงสาวลงทุนซื้อมาใหม่เปียกไปกว่าครึ่ง

ถึงแม้ว่าจะเจอเรื่องซวยไปชุดใหญ่ สุดท้ายที่รักก็มาถึงบริษัทได้ทันเวลา เธอรีบวิ่งเข้าลิฟต์ที่มีคนน้อยที่สุดไป จากนั้นก็กดยิก ๆ ตรงปุ่มเลือกชั้นก่อนจะผละออกมายืนรอ

“ในที่สุดก็มาถึงสักที เฮ้อ... ทำไมวันนี้ฉันถึงได้ซวยขนาดนี้กันล่ะเนี่ย” พอมีเวลาให้ได้พักหายใจหายคอที่รักก็เริ่มบ่นออกมา

“มันควรจะเป็นวันที่สดใสมีแต่เรื่องดี ๆ สิ ไม่ใช่แบบนี้ โอ๊ยย... น่าปวดหัวชะมัด” ที่รักบ่นอย่างหัวเสีย เธอหยิบกระดาษทิชชูออกมาเช็ดคราบน้ำที่เปียกเลอะตามตัวหวังให้มันซับน้ำซับคราบออกไป แต่มันไม่ได้ช่วยอะไรมากเท่าไหร่เลย

จากแค่บ่นที่รักก็เริ่มทำท่าทีฟึดฟัด เวลานี้เธอมัวแต่ยุ่งอยู่กับตัวเองจนลืมคิดไปเลยว่าตนจะเสียงดังรบกวนคนอื่นไหม แต่ก็มีเสียงทุ้ม ๆ ดังขึ้นมาเรียกสติของเธอ

“ไปโดนอะไรมาเหรอครับ?”

“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ!” ที่รักโพล่งคำขอโทษออกไปในทันทีพร้อมยกมือไหว้ หลังจากที่เห็นอีกฝ่ายและตระหนักได้ว่าเมื่อครู่ตัวเองลืมตัวจนลืมสังเกตรอบข้างไป

เธอไม่รู้หรอกว่าอีกฝ่ายเป็นใคร แต่ด้วยชุดสูททรงภูมิฐานที่อีกฝ่ายสวมใส่เธอก็มั่นใจว่าเขาต้องทำงานที่นี่เหมือนกันแน่นอน และก็คงจะตำแหน่งใหญ่กว่าเธอด้วย

“ไม่เป็นไรครับ” ชายวัยกลางคนว่าด้วยเสียงทุ้มพร้อมยิ้มอ่อนให้ ก่อนจะกล่าวต่อ

“ว่าแต่ตกลงไปโดนอะไรมาเหรอครับ? ทำไมถึงได้เปียกขนาดนี้ล่ะ?”

“อ๋อ... นี่... เอ่อ...” ที่รักอ้ำอึ้งไปชั่วขณะไม่รู้ว่าจะตอบอะไรดี แต่พอนึกถึงเรื่องซวย ๆ ที่เธอเจอมา โดยเฉพาะเรื่องที่ทำให้เธอเปียกแบบนี้เธอก็ตัดสินใจเล่าออกไป

ที่รักบ่นเป็นต่อยหอยอย่างคับข้องใจจนแทบเห็นเป็นฉาก ๆ เลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เริ่มแรกมันก็ไม่ได้ใส่อารมณ์มากเท่าไหร่ แต่พอพูดมาถึงเรื่องที่มีคนขับรถสปอร์ตคันหรูเหยียบน้ำใส่ความไม่พอใจก็ถูกร่ายออกมาเต็ม ๆ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำให้เธอหัวเสียมากที่สุด

“คนอะไรก็ไม่รู้นิสัยไม่ดีชะมัด ขับรถไม่คิดถึงคนใช้รถใช้ถนนคนอื่นเลย”

ที่รักยังคงว่าด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ โดยที่เธอไม่ได้สังเกตคู่สนทนาและอีกคนซึ่งยืนเงียบอยู่ข้าง ๆ เลยว่ามีสีหน้ายังไงในตอนนี้

“ผมเข้าใจที่คุณจะโกรธ แต่ผมคิดว่าเขาไม่ได้ตั้งใจหรอกมั้งครับ บางทีเขาอาจจะรีบเหมือนกันกับคุณก็ได้”

คำกล่าวของชายวัยกลางคนช่วยยั้งความไม่พอใจของที่รักไว้ เพราะพอคิดตามแล้วมันก็อาจจะจริง ขนาดเธอยังรีบเลย บางทีเขาคนนั้นก็อาจจะรีบเหมือนกันก็ได้

“ก็... อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้มั้งคะ ฉันไม่เคยคิดมุมนี้เลย...”

“ทำไงดีเนี่ย ฉันเผลอหัวเสียใส่อารมณ์มากไปซะได้ ขอโทษด้วยนะคะ” พออารมณ์โกรธหายไปที่รักเปลี่ยนเป็นอายแทน ที่อยู่ ๆ เธอบ่นชุดใหญ่ใส่เต็มกับคนที่ตัวเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นใครอย่างออกรสออกชาติ

“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ ถ้าโมโหก็ควรจะระบายมันออกมาบ้างน่ะถูกแล้ว” ชายวัยกลางคนยังคงว่าด้วยท่าทียิ้ม ๆ ตามเดิม

“ค่ะ... ขอบคุณที่เข้าใจนะคะ แต่ฉันก็ต้องขอโทษอยู่ดีที่บ่นใส่อารมณ์ไปเต็มที่แบบนี้ ทั้งที่คุณไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลยแท้ ๆ แหะ ๆ ” ที่รักว่าพร้อมเกาท้ายทอยเขิน ๆ

ในตอนที่ที่รักพูดคำนี้ประตูลิฟต์ได้เปิดออกพอดี เธอจึงหลีกทางให้ทั้งสองออกไปก่อน ก่อนที่เธอจะตามออกมาด้วยเวลาไล่เลี่ยกัน

“สวัสดีค่ะหัวหน้า---” ทันทีที่ออกมาสายตาของที่รักก็เห็นคนคุ้นหน้า คนนั้นคือยี่หวา หัวหน้าของเธอ เธอจึงยกมือขึ้นไหว้พร้อมกล่าวทักทาย แต่เธอยังไม่ได้พูดจบอีกฝ่ายก็เอ่ยสวนมาก่อน

“สวัสดีค่ะท่านประธาน สวัสดีค่ะคุณเด่นชัย”

“ฮะ?” ที่รักหลุดปากส่งเสียงประหลาดใจ เธอหันไปมองสองคนข้างกายโดยเฉพาะคนที่นิ่งเงียบไม่พูดอะไรด้วยตาที่เบิกโต

ด้วยการแต่งกายก็ดี มาดที่อีกฝ่ายมีก็ดี ที่รักก็คิดไว้แล้วล่ะว่าสองคนนี้คงมีตำแหน่งไม่ธรรมดา แต่เธอก็ไม่คิดเลยว่าหนึ่งในนั้นจะเป็นประธานบริษัทของเธอ

“อ้าว ที่รัก เธอก็มาแล้วเหรอ?”

“เดี๋ยวนะ ว่าแต่ทำไมเธอขึ้นลิฟต์ตัวนี้มาล่ะเนี่ย?”

“เอ่อ... คือ...” ที่รักอ้ำอึ้งตอบออกไปไม่ได้ เพราะเธอยังตกใจกับสถานะของสองคนเมื่อครู่ไม่หาย

“อ๋อ เธอไม่รู้สินะ” เห็นที่รักไปต่อไม่ถูกและทำหน้าตื่นตกใจยี่หวาก็แก้สถานการณ์โดยการตอบแทนให้ พร้อมหันไปขอโทษขอโพยประธานบริษัทของเธอ

“ขอโทษนะคะท่านประธาน เด็กคนนี้ชื่อที่รักค่ะ เป็นพนักงานใหม่ที่จะมาเป็นผู้ช่วยฉันเอง มาทำงานวันแรกเธอคงจะไม่รู้ว่าลิฟต์นี้เอาไว้แค่ให้ผู้บริหารใช้... ฉันต้องขอโทษแทนเธอด้วยนะคะ”

“ไม่เป็นไร” ชายร่างสูงตอบห้วน ๆ ด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่งพร้อมพยักหน้าให้ เขาหันหลังทำท่าคล้ายจะเดินจากไป แต่เดินได้ก้าวเดียวเขาก็หันกลับมาแล้วพูดกับที่รักว่า

“ชื่อที่รักงั้นสินะ... ผมขอโทษด้วยแล้วกันที่เป็นคนนิสัยไม่ดี ขอโทษที่ขับรถไม่สนใจเพื่อนร่วมทางแล้วไปเหยียบน้ำใส่คุณ” ว่าเสียงเรียบจบชายที่ที่รักรู้แล้วว่าเป็นใครก็หันหน้ากลับแล้วเดินจากไป ปล่อยทิ้งให้เธอได้แต่ยืนหูอื้อตาลายแขนขาไร้เรี่ยวแรงจนแทบจะล้มพับไปอยู่เบื้องหลัง

มีแต่เรื่องให้น่าตกใจ เรื่องก่อนยังตกใจไม่หายเรื่องใหม่ก็ตามมาแล้ว แถมเรื่องนี้ยังใหญ่กว่าชนิดที่ว่าเรื่องเดิมเทียบไม่ติดอีก

มาทำงานวันแรกก็บ่นด่าประธานไปชุดใหญ่ ดูท่าแล้วชีวิตการทำงานของฉันคงจะไม่ได้สดใสแบบที่คิดไว้ แต่เต็มไปด้วยความหมองหม่นแทนแล้วล่ะมั้ง... ที่รักคิดในใจ

พอได้เริ่มคิดแล้วที่รักก็ไม่สามารถสลัดความคิดลบ ๆ นี้ออกจากหัวได้เลย ทำให้ตลอดทั้งวันที่ทำงานไปที่รักไม่สามารถสนุกกับงานแบบที่คิดไว้ได้เลยจนจบวัน...

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ Ocean Books

ข้อมูลเพิ่มเติม
สวี่กงเหมย ดวงใจท่านแม่ทัพ

สวี่กงเหมย ดวงใจท่านแม่ทัพ

โรแมนติก

5.0

สวี่กงเหมย บุตรสาวบุญธรรมของปรมาจารย์หมื่นพิษ ต้องคอยเป็นผู้ดูแลและปรุงยาให้กับเขา ท่านแม่ทัพแห่งแดนเหนือ ตั้งแต่อยู่บนหุบเขาหมื่นพิษ แล้วยังต้องตามไปดูแลถึงชายแดนเหนือและในเมืองหลวงจนกว่าจะครบหนึ่งปี เซวียนจางหย่ง แม่ทัพแห่งชายแดนเหนือ ผู้ที่มีศักดิ์และฐานะอันสูงส่ง ในชีวิตนี้ คุณหนูนางใด หญิงสาวคนไหน ที่ว่ามีความเพียบพร้อมในทุกด้าน ตัวเขากลับมิเคยชายตาแล แต่คงใช้ไม่ได้กับสาวน้อยบ้านป่าคนนี้ เจอกันครั้งแรกนางก็หมายยิงเขาด้วยธนูเสียเเล้ว จากนั้นตัวเขาและนางก็กลายเป็นเหมือนน้ำมันกับไฟ ถึงแม้นางจะกลั่นแกล้งเขาไว้มากน้อยเพียงไหนในตอนที่อยู่ในหุบเขาหมื่นพิษ เขากลับมิเคยโกรธ และไม่รู้ว่านานเพียงใด ที่ไม่ว่ายามหลับหรือยามตื่น สายตาของเขาก็มีไว้เพียงมองนางเท่านั้น

สามีข้าช่างน่าแกล้ง เล่ม 2 (จบ)

สามีข้าช่างน่าแกล้ง เล่ม 2 (จบ)

โรแมนติก

5.0

สูงศักดิ์ดั่งจักรพรรดิ หรือสามัญชนเช่นบัณฑิต ล้วนถูกพิชิตด้วยภรรยาตัวน้อย สามีจวนอื่นข้านั้นไม่รู้ แต่สองอาหลานราชวงศ์จิ่งล้วนถูกภรรยากลั่นแกล้ง ชุนเสี่ยวป๋าย จะให้ทำอย่างไรได้เล่า บัณฑิตเฒ่าผู้นั้นมิเคยมีท่าทีพึงใจในสตรีนางใด หากชุนเสี่ยวป้ายเฝ้ารอให้เขาเข้ามาทำความรู้จักนางเองแล้วนั้นคงไม่มีวันได้ครองรักกันแน่ ดังนั้นนางจึงต้องบอกกล่าวด้วยตัวเองเสียเลย บัณฑิตเฒ่าผู้แสนหล่อเหลาเจ้าคะ ข้าจะไปเกี้ยวท่านเอง... อู่ซุนต้าเอ้อร์ นางถูกเขาจับพลิกแพลงตะแคงคว่ำอยู่นาน เขาก็ยังมิยอมสงบ พายุรักโหมกระหน่ำดูดแรงกายของอู่ซุนต้าเอ่อร์จนแทบหมดสิ้น ทนแทบมิไหว พลั่ก!! โครม!! รู้ตัวอีกทีทั้งห้องก็เงียบสงัดไร้เสียงหอบกระเส่าและครวญครางเหมือนเมื่อครู่ ร่างเปลือยเปล่าล่อนจ้อนของจักรพรรดิน้อยลงไปกองอยู่ข้างตั่งเตียงโดยมีปลายเท้าของนางยื่นออกไป เหลียนไช่ บัณฑิตเหลียนไช่ซุกไซร้ลำคอขาวของภรรยา เขาสูดดมและขบเม้ม ไล้มือไปทั่วกายนุ่มของนางอย่างหลงใหล มิไหวแล้ว... เขามิอาจทนความน่ารักของชุนเสี่ยวป๋ายได้อีกแล้ว.... “ข้าพลาดแล้วจริงๆ ที่สัญญาว่าจะอ่อนโยนกับเจ้า” จิ่งซานหวง “มิใช่ว่าหม่อมฉันต้องปรนนิบัติพระองค์เหมือนสามีภรรยาหรอกหรือเพคะองค์จักรพรรดิ” “ก็มิใช่ว่าข้าให้เจ้าปรนนิบัติอยู่หรอกหรือ” เขาว่าพลางหลับตาลงไม่อยากมองหน้าสนมโจว นางจึงต้องจำใจอ่านตำราให้เขาฟังอย่างเสียมิได้ คิดมิถึงว่าจักรพรรดิน้อยจะหาทางหลบเลี่ยงการร่วมเตียงกับนางจนได้ ล่วงรู้ไปถึงไหนอับอายไปถึงนั่น ท่ามกลางความซ่านเสียวอู่ซุนต้าเอ่อร์ก็อดถอนใจให้กับตนเองมิได้ คราแรกคิดว่าคืนนี้นางจะได้นอนสบายมิต้องโดนเขาเคี่ยวกรำอยู่แล้วแท้ ๆ แล้วเหตุใดนางจึงยังถูกเขาจับกินได้อีกเล่า!!

สามีข้าช่างน่าแกล้ง เล่ม 1

สามีข้าช่างน่าแกล้ง เล่ม 1

โรแมนติก

5.0

สูงศักดิ์ดั่งจักรพรรดิ หรือสามัญชนเช่นบัณฑิต ล้วนถูกพิชิตด้วยภรรยาตัวน้อย สามีจวนอื่นข้านั้นไม่รู้ แต่สองอาหลานราชวงศ์จิ่งล้วนถูกภรรยากลั่นแกล้ง ชุนเสี่ยวป๋าย จะให้ทำอย่างไรได้เล่า บัณฑิตเฒ่าผู้นั้นมิเคยมีท่าทีพึงใจในสตรีนางใด หากชุนเสี่ยวป้ายเฝ้ารอให้เขาเข้ามาทำความรู้จักนางเองแล้วนั้นคงไม่มีวันได้ครองรักกันแน่ ดังนั้นนางจึงต้องบอกกล่าวด้วยตัวเองเสียเลย บัณฑิตเฒ่าผู้แสนหล่อเหลาเจ้าคะ ข้าจะไปเกี้ยวท่านเอง... อู่ซุนต้าเอ้อร์ นางถูกเขาจับพลิกแพลงตะแคงคว่ำอยู่นาน เขาก็ยังมิยอมสงบ พายุรักโหมกระหน่ำดูดแรงกายของอู่ซุนต้าเอ่อร์จนแทบหมดสิ้น ทนแทบมิไหว พลั่ก!! โครม!! รู้ตัวอีกทีทั้งห้องก็เงียบสงัดไร้เสียงหอบกระเส่าและครวญครางเหมือนเมื่อครู่ ร่างเปลือยเปล่าล่อนจ้อนของจักรพรรดิน้อยลงไปกองอยู่ข้างตั่งเตียงโดยมีปลายเท้าของนางยื่นออกไป เหลียนไช่ บัณฑิตเหลียนไช่ซุกไซร้ลำคอขาวของภรรยา เขาสูดดมและขบเม้ม ไล้มือไปทั่วกายนุ่มของนางอย่างหลงใหล มิไหวแล้ว... เขามิอาจทนความน่ารักของชุนเสี่ยวป๋ายได้อีกแล้ว.... “ข้าพลาดแล้วจริงๆ ที่สัญญาว่าจะอ่อนโยนกับเจ้า” จิ่งซานหวง “มิใช่ว่าหม่อมฉันต้องปรนนิบัติพระองค์เหมือนสามีภรรยาหรอกหรือเพคะองค์จักรพรรดิ” “ก็มิใช่ว่าข้าให้เจ้าปรนนิบัติอยู่หรอกหรือ” เขาว่าพลางหลับตาลงไม่อยากมองหน้าสนมโจว นางจึงต้องจำใจอ่านตำราให้เขาฟังอย่างเสียมิได้ คิดมิถึงว่าจักรพรรดิน้อยจะหาทางหลบเลี่ยงการร่วมเตียงกับนางจนได้ ล่วงรู้ไปถึงไหนอับอายไปถึงนั่น ท่ามกลางความซ่านเสียวอู่ซุนต้าเอ่อร์ก็อดถอนใจให้กับตนเองมิได้ คราแรกคิดว่าคืนนี้นางจะได้นอนสบายมิต้องโดนเขาเคี่ยวกรำอยู่แล้วแท้ ๆ แล้วเหตุใดนางจึงยังถูกเขาจับกินได้อีกเล่า!!

ฝืนชะตาหวนคืนมารัก

ฝืนชะตาหวนคืนมารัก

โรแมนติก

5.0

กู้เฟยหลง หัวหน้าหน่วยอวี้หลิน ขุนนางผู้ซึ่งทำงานขึ้นตรงต่อองค์ฮ่องเต้ เสียชีวิตจากการตามสืบราชการลับ ทั้งที่ได้ให้สัญญาไว้กับฮูหยินของตนเองว่าจะรีบกลับมาฉลองเทศกาลหยวนเซียวด้วยกัน หยางลี่อิน หญิงสาวที่เข้มแข็ง มีความรู้ทางด้านการแพทย์ ต้องสูญเสียสามีไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ แต่ด้วยความสามารถพิเศษ ทำให้นางรู้ว่าสามีของนางยังไม่จากไปไหน แต่จะทำเช่นไร เมื่อสามีกลับจำนางไม่ได้ เพราะรักจึงท้าทายสวรรค์ ฝืนหวนกลับคืนมายังโลกเบื้องหลัง แต่สวรรค์ใช่ว่าใครก็สามารถท้าทายได้ ราคาที่ต้องจ่าย มักแพงกว่าเสมอ…

บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง 5

บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง 5

โรแมนติก

5.0

อานนท์ ชายหนุ่มโสดอายุ 25 ปี หน้าตาดาษดื่น เติบโตมาจากบ้านเด็กกำพร้าอุ่นไอรัก อาชีพหลักคือการขายอาหารตามสั่งในฟู๊ดเซนเตอร์ห้างดัง อาชีพรองเป็นผู้ช่วยนักเขียนนิยาย รับจ้างหาข้อมูลต่าง ๆ ส่งให้กับนักเขียน งานไหนได้เงิน อานนท์ทำทั้งหมด ในวันหยุดยาว กลางวันนอกจากต้องไปยืนทำอาหารตามสั่ง กลางคืนยังต้องมานั่งหาข้อมูลส่งให้ผู้ว่าจ้างงานด่วนอีก ทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ วิญญาณจึงบ๊ายบายจากโลกเก่า ไปเกิดใหม่ในร่างของจางอี้หมิง บุตรชายตัวน้อยอายุ 5 ขวบของบัณฑิตจาง ที่ถูกบ้านหลักมอบหนังสือแยกบ้าน พร้อมขับไล่ครอบครัวให้มาอยู่บ้านนอก อุตส่าห์ได้กลับมาเกิดใหม่ทั้งทีในครอบครัวที่อบอุ่น มีพ่อ แม่ และย่าตามที่อานนท์เคยฝันไว้ แต่ทำไมถึงแถมความยากจนมาให้เขาด้วย ชาติก่อนก็สู้ชีวิตจนตาย มาชาตินี้ชีวิตสู้กลับยิ่งกว่านิยายที่เขาเคยอ่านเสียอีก  นี่สินะ!!! ของฟรีไม่มีในโลก มันต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยนกันอย่างสมน้ำสมเนื้อ

บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง 4

บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง 4

โรแมนติก

5.0

อานนท์ ชายหนุ่มโสดอายุ 25 ปี หน้าตาดาษดื่น เติบโตมาจากบ้านเด็กกำพร้าอุ่นไอรัก อาชีพหลักคือการขายอาหารตามสั่งในฟู๊ดเซนเตอร์ห้างดัง อาชีพรองเป็นผู้ช่วยนักเขียนนิยาย รับจ้างหาข้อมูลต่าง ๆ ส่งให้กับนักเขียน งานไหนได้เงิน อานนท์ทำทั้งหมด ในวันหยุดยาว กลางวันนอกจากต้องไปยืนทำอาหารตามสั่ง กลางคืนยังต้องมานั่งหาข้อมูลส่งให้ผู้ว่าจ้างงานด่วนอีก ทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ วิญญาณจึงบ๊ายบายจากโลกเก่า ไปเกิดใหม่ในร่างของจางอี้หมิง บุตรชายตัวน้อยอายุ 5 ขวบของบัณฑิตจาง ที่ถูกบ้านหลักมอบหนังสือแยกบ้าน พร้อมขับไล่ครอบครัวให้มาอยู่บ้านนอก อุตส่าห์ได้กลับมาเกิดใหม่ทั้งทีในครอบครัวที่อบอุ่น มีพ่อ แม่ และย่าตามที่อานนท์เคยฝันไว้ แต่ทำไมถึงแถมความยากจนมาให้เขาด้วย ชาติก่อนก็สู้ชีวิตจนตาย มาชาตินี้ชีวิตสู้กลับยิ่งกว่านิยายที่เขาเคยอ่านเสียอีก  นี่สินะ!!! ของฟรีไม่มีในโลก มันต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยนกันอย่างสมน้ำสมเนื้อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

แรงเสน่หาของอดีตภรรยา

แรงเสน่หาของอดีตภรรยา

โรแมนติก

4.8

นรีรัตน์ตอบตกลงทำตามสัญญาที่ว่าเธอจะแต่งงานกับชยุดและต้องมีลูกกับเขาภายในเวลาหนึ่งปี มิเช่นนั้น เธอจะต้องสูญเสียทุกอย่างในชีวิตของเธอไป แต่การกระทำมักทำยากกว่าคำพูดเสมอ การที่เธอต้องเผชิญกับการถูกกลั่นแกล้งให้ขายหน้าวันแล้ววันเล่า จนที่สุดเธอหมดความอดทนและไม่อยากจะยอมก้มหัวอย่างคนพ่ายแพ้อีกต่อไป ในวันที่เขาประสบอุบัติเหตุ เธอได้อุทิศเสียสละโดยไม่ได้นึกถึงความปลอดภัยของตนเองเพื่อช่วยชีวิตของเขาไว้ ถึงแม้ว่าในตอนนี้เธอยังคงมีชีวิตอยู่ แต่ในอีกไม่ช้าเธอจะหายตัวไปจากชีวิตของเขา ตราบจนถึงเวลาที่ลูกของพวกเขาเติบโตขึ้นมา และเมื่อถึงเวลานั้นโชคชะตาจะพัดพาให้พวกเขากลับพันผูกกันอีกครั้ง เดิมทีเธอจะกลับไปหาเขาก็ได้ แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่จะอุทิศทุกสิ่งอย่างเพื่อความรักในตัวเขาอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เธอพร้อมแล้วที่จะต่อสู้เพื่อลูกชายของตัวเอง

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

โรแมนติก

5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

อุ้มรักซุปตาร์ตัวพ่อ

อุ้มรักซุปตาร์ตัวพ่อ

โรแมนติก

5.0

“ท้อง! อย่าบอกนะว่าลูกผม!” ราวกับถูกลากไปตบกลางสี่แยก จารุพัชรรู้สึกหน้าชาเห่อไปทั้งแถบแม้จะยังไม่โดนตบก็เถอะ เธอมีอะไรกับเขาตั้งหลายยกขนาดนั้นแล้วจะให้เป็นลูกใครล่ะ “ลูกแมวมั้งคะ” พอเห็นสายตาเขียวปั๊ดที่พร้อมจะขย้ำหัวเธอได้ทุกเมื่อ “อยู่ในท้องฉันก็ต้องเป็นลูกฉันสิคะ! ลูกฉันคนเดียว” “คุณเป็นปลากัดหรือไง ถึงได้จ้องตากันแล้วท้องเองได้” ก็ถ้ากัดได้ เธอก็อยากกัดหัวเขาเนี่ยแหละคนแรก กวนประสาทดีนัก “ก็คุณบอกฉันเองเมื่อกี้ว่า...อย่าบอกนะว่าท้องลูกผม ฉันก็ไม่บอกแล้วนี่ไงจะเอาอะไรอีกคะ” พูดมาขนาดนี้ เธอก็พอรู้แล้วล่ะว่าเขาไม่ได้ต้องการเธอกับลูก ยังดีที่เขาไม่ใจร้ายบอกให้เธอไปเอาเด็กออก แค่นี้ก็บุญแล้ว “เฮ้อ...ถ้าคุณห่วงว่าฉันกับลูกจะมาทำให้ชื่อเสียงพระเอกซุปเปอร์สตาร์ของคุณต้องพังพินาศล่ะก็ ขอให้คุณสบายใจได้ เพราะฉันไม่ทำอะไรสิ้นคิดแบบนั้นแน่ ต่อไปฉันจะไม่มาให้คุณเห็นหน้าอีก คราวนี้ฉันรับรองได้ ส่วนลูกในท้อง ฉันจะเลี้ยงเขาเอง ไม่ไปรบกวนคุณหรือทำให้แฟนสาวไฮโซของคุณเข้าใจผิดแน่ๆ ไม่ต้องห่วงนะคะ” “พูดจบหรือยัง” ธิเบศเอ่ยด้วยเสียงเย็นเฉียบ ตาเหยี่ยวคมจัดของเขาจ้องหน้าเธอราวกับจ้องเหยื่อพร้อมขย้ำได้ทุกเมื่อ “จบก็ได้ค่ะ เป็นอันว่าคุณเข้าใจแล้วเนอะ งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ” จ้องอะไรเบอร์นั้นนะ ตาดุชะมัด รีบชิ่งหนีก่อนจะโดนกินหัวดีกว่า “เดี๋ยว!” มือที่เตรียมเปิดประตูรถชะงักกึก “คะ...คุณมีอะไรอีกคะ” “ผมบอกคุณซักคำหรือยังว่าจะไม่รับผิดชอบลูก” “หา!” เธอหูฝาดไปใช่ไหม เขาจะรับผิดชอบลูกในท้องเธองั้นเหรอ เป็นไปได้หรือเนี่ย “ถ้าเขาเป็นลูกผมจริงๆ ผมจะรับผิดชอบเขาแน่” “หืม...” หมายความว่าไงวะเนี่ย ยิ่งฟังก็ยิ่งงง “เดี๋ยวนะคะ คุณบอกว่าถ้าเขาเป็นลูกคุณจริงๆ แปลว่าคุณไม่เชื่อว่าเด็กในท้องฉันเป็นลูกคุณงั้นสิ ฉันเข้าใจถูกไหม” “อืม...ก็ทำนองนั้น” คราวนี้ยิ่งกว่าโดนลากไปตบกลางสี่แยก แต่เหมือนโดนเขาสาดหน้าด้วยน้ำกรดซ้ำเข้าไปอีกถังใหญ่ จนหัวใจปวดแสบปวดร้อนไปหมด ตาบ้านี่คิดว่านอกจากเขา เธอยังไปนอนกับคนอื่นจนท้องแล้วมาโมเมว่าเป็นลูกเขาอย่างนั้นเหรอ… ++++++++++++++++++++++++++++

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
สุดที่รักของกันต์ธี
1

บทที่ 1 อะไรนะ ประธานบริษัทงั้นเหรอ

14/08/2023

2

บทที่ 2 แปลกใหม่ แต่น่าสนใจดี

14/08/2023

3

บทที่ 3 คำแนะนำที่คาดไม่ถึง

14/08/2023

4

บทที่ 4 แฟนจำเป็น

14/08/2023

5

บทที่ 5 เดตแรก

14/08/2023

6

บทที่ 6 สานสัมพันธ์ครอบครัว

14/08/2023

7

บทที่ 7 ฉันเตือนเธอแล้วไม่ใช่หรือไง

14/08/2023

8

บทที่ 8 แตกต่างเหลือเกิน

14/08/2023

9

บทที่ 9 หลงอยู่ในภวังค์

14/08/2023

10

บทที่ 10 เป็นแฟนจริง ๆ กันแทนไหม

14/08/2023

11

บทที่ 11 อย่ายุ่งกับสุดที่รักของกันต์ธี

14/08/2023

12

บทที่ 12 ผมไม่โกรธคุณเลย

14/08/2023

13

บทที่ 13 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ

14/08/2023

14

บทที่ 14 เปลี่ยนบทบาท

14/08/2023

15

บทที่ 15 แผนลับของแม่

14/08/2023

16

บทที่ 16 มีคุณอยู่มันดีมากเลย

14/08/2023

17

บทที่ 17 ตอนพิเศษที่ 1 วิวาห์สายฟ้าแลบ

14/08/2023

18

บทที่ 18 ตอนพิเศษที่ 2 เจ้าตัวเล็ก

14/08/2023

19

บทที่ 19 ตอนพิเศษที่ 3 เด็กชายกวินอยากมีน้อง...

14/08/2023

20

บทที่ 20 ตอนพิเศษที่ 4 เพื่อลูกชาย

14/08/2023