Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
อ้อมกอดสุภาพบุรุษ

อ้อมกอดสุภาพบุรุษ

ชัญญาณ์ภัช

5.0
ความคิดเห็น
14K
ชม
79
บท

“กิ่งคะ ชีวิตที่เหลืออยู่ของกิ่งให้พี่เป็นคนดูแลได้ไหม” “พี่นนท์...” คนถูกขอแต่งงานถึงกับพูดไม่ออกและบอกไม่ถูกว่าตอนนี้กำลังรู้สึกเช่นไรกันแน่เลยได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อรู้เพียงแต่ว่าร่างกายด้านชาไปหมดทั้งตัว “แต่งงานกับพี่นะคะ” ร่างสูงที่คุกเข่าอยู่ยื่นกล่องกำมะหยี่สีแดงซึ่งภายในใส่แหวนเงินเกลี้ยงเรียบ ๆ ไว้ เขาหยิบแหวนเงินออกมาสวมนิ้วนางข้างซ้ายให้กับว่าที่เจ้าสาวก่อนเพื่อไม่ให้เธอปฏิเสธ แบบนี้เขาเรียกว่ามัดมือชกหรือเปล่านะ ว่าที่คู่หมั้นสาวที่ยังไม่ตอบตกลงได้แต่ตั้งคำถามถามตัวเองในใจ “ค่ะ กิ่งแต่งกับพี่นนท์” กรรณิกาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทา พยักหน้ารับอย่างดีใจ เธอไม่คิดว่าเขาจะเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานในสถานที่แห่งความทรงจำอย่างนี้ เลยอดที่จะน้ำตาคลอออกมาด้วยความซึ้งใจไม่ได้

บทที่ 1 1

เสียงเพลงรักที่เปิดภายในงานและแสงสว่างจากหลอดไฟทางตั้งเรียงรายเป็นทิวแถวตามแนวถนนเริ่มส่องประกายเป็นสีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสีขาว น้ำเงิน แดง สีเหลือง ตั้งแต่ทางเข้าไปจนถึงบริเวณจัดงาน ซึ่งเป็นลานกว้างภายในรีสอร์ตแห่งหนึ่งที่เป็นของตระกูลดังประจำจังหวัดที่ใช้สถานที่จัดงานในวันนี้ บอกให้ผู้คนที่อยู่รอบ ๆ บริเวณรู้ว่าตรงนี้มีการจัดงานแต่งงานกัน

ด้านหน้ามีซุ้มไว้ต้อนรับแขกเหรื่อที่ติดป้ายชื่อของเจ้าบ่าวเจ้าสาว ทั้งยังจัดมุมถ่ายรูปให้คนที่ชื่นชอบถ่ายรูปได้มีภาพถ่ายไปลงโซเชียลของตัวเอง ตกแต่งด้วยดอกไม้สดโทนขาวชมพูอย่างดอกกุหลาบสลับชมพูอ่อนของดอกลิลลี่ จากช่างมากฝีมือที่ถูกจ้างมาให้ทำงานนี้ ซึ่งจัดได้สวยถูกใจตามแบบที่ลูกค้ารีเครวส จนได้รับคำชมอย่างล้นหลามจากแขกที่ได้รับเชิญมางาน

ใกล้กันนั้นมีภาพถ่ายพรีเวดดิ้งตั้งโชว์บนขาตั้งไว้กว่าสิบรูป แต่ละภาพบอกเล่าความรู้สึกต่างกัน อย่างภาพแรกเป็นรูปที่นนทภัทรอยู่ในชุดราชปะแตน เสื้อสีครีม มีสไบลายจกสีฟ้าน้ำทะเลพาดบนบ่าข้างซ้าย เข้าชุดกันกับโจงกระเบนสีแดงเลือดหมู ส่งผลให้ชายหนุ่มดูดีมีสง่าราศี ยืนโอบกอดว่าที่เจ้าสาวที่เชิดหน้ามาทางซ้ายเล็กน้อยคอยส่งยิ้มให้กล้องตามแต่ช่างภาพจะบอก ใบหน้าเรียวงามถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางเพียงบางเบา ผมที่มัดรวบเป็นประจำ ถูกเกล้าเป็นมวยรวบเก็บไว้กลางกระหม่อมปักด้วยปิ่นลายไทยที่มารดามอบให้ หญิงสาวอยู่ในชุดไทยประยุกต์เย็บลายลูกไม้อย่างดี ตัวชุดเป็นแบบคอตั้งแขนยาวเข้าชุดกันกับผ้าซิ่นสีแดงซึ่งทำจากผ้าอินเดียสีทอง

รูปที่สอง หญิงสาวในชุดเกาะอกหันหน้าเข้าหาชายหนุ่มที่โน้มใบหน้าลงมาเล็กน้อย ทำให้ปลายจมูกของทั้งคู่สัมผัสกันท่ามกลางแสงของพระอาทิตย์ที่ใกล้ลาลับขอบฟ้า พลางส่งยิ้มกันอย่างสื่อความหมาย แสดงถึงความรักที่มีให้แก่กันและกัน

อีกรูปเป็นชุดไพรเวตที่แม้จะดูเป็นชุดที่ธรรมดา เรียบง่าย ทว่าหรูหราด้วยเป็นของแบรนด์เนมชื่อดัง เดินอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกหญ้าเป็นภาพที่เธอและเขาชอบมากที่สุดในบรรดาภาพถ่ายทั้งหมด เพราะหมายถึงตัวตนของเขาและเธอจริง ๆ

“เป็นยังไงบ้าง ทุกอย่างเรียบร้อยดีใช่มั้ย” คุณนันทวัฒน์ เกรียงไกร บิดาของเจ้าบ่าวถามคนงานถึงความเรียบร้อยของงาน เมื่อท่านเดินมาตรวจดูด้วยตัวเอง

“เรียบร้อยดีครับ”

“ถ้ามีอะไรขาดเหลือบอกนะ”

“ครับ” คนงานตอบสั้น ๆ ก่อนเดินเลี่ยงไปทำอย่างอื่นต่อ

ชายวัยกลางคนที่เกษียณอายุก่อนกำหนด มองภาพรวมของงานแต่งงานของลูกชายและลูกสะใภ้ก็รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก โต๊ะเก้าอี้ถูกจัดวางไว้สำหรับรองรับแขก ทุกโต๊ะถูกปูด้วยผ้าสีขาวลายลูกไม้ บนโต๊ะทั้งมีแก้วน้ำ ถ้วยใบเล็ก ๆ พร้อมทั้งช้อนและตะเกียบ ตามจำนวนเก้าอี้ที่จัดไว้แปดตัวคุมด้วยผ้าคลุมสีครีมคาดด้วยโบสีเหลืองทองสำเร็จรูปผูกไว้ด้านหลัง

มองไปด้านหน้าจะเห็นว่ามีโพรเจกเตอร์ขนาดใหญ่สองฟากฝั่งกำลังฉายภาพความเป็นไปของคนในงาน ใกล้ ๆ กันมีเวทีชุดใหญ่ตั้งอยู่ด้วยความสูงประมาณเมตรครึ่ง เครื่องดนตรีหลากหลายชนิดถูกวางไว้บนนั้น เพื่อรอการแสดงสดในไม่กี่นาทีข้างหน้า

ใครเห็นต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าช่างเป็นงานใหญ่งานช้างของปี สมเป็นลูกของคนมีอันจะกิน ซึ่งความคิดของคนเหล่านั้นก็ถูกเสียด้วย เพราะเจ้าบ่าวเจ้าสาวเป็นลูกหลานของคนมีชื่อเสียงในจังหวัดและยังติดท็อปเท็นที่ทรงอิทธิพลและชื่อเสียงดังกระฉ่อนไปทั่วทั้งจังหวัดและต่างอำเภอที่อยู่ใกล้เคียงกัน

แขกเหรื่อทยอยมากันบ้างแล้ว เป็นผลให้เจ้าภาพอันประกอบไปด้วยบิดามารดาของเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ออกมาต้อนรับก่อน เนื่องด้วยนนทภัทรและกรรณิกายังแต่งองค์ทรงเครื่องยังไม่แล้วเสร็จ

“สวัสดีครับ” คุณกรรชัย รุ่งโรจน์ บิดาของเจ้าสาวกล่าวทักทายผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ซึ่งสนิทสนมกันพอควร เดินควงแขนภรรยาเข้างานมา

“สวัสดีครับคุณชัย คุณวัฒน์” พร้อมกับเดินยกมือไหว้ตอบ เมื่อเดินมาถึงตัว พลางถามสารทุกข์สุขดิบกันอย่างสนิมสนม

“สบายดีนะครับ” บิดาของเจ้าบ่าวถามบ้าง

“ก็ตามวัยแหละครับ เราต่างก็อยู่วัยนี้กันแล้ว สุขภาพก็เป็นธรรมดาอย่างคนรุ่นเรานั่นแหละ” ท่านเอ่ยเย้าแหย่อย่างอารมณ์ดี

“ท่าจะจริงครับ จะลุกจะนั่งทีต้องระวัง” ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างหัวเราะออกมากับประโยคของคุณกรรชัย

พูดคุยกันพอหอมปากหอมคอ คุณกรรชัยถึงได้เชิญให้แขกคนสำคัญเข้าไปนั่งยังโต๊ะที่เตรียมไว้ ยิ่งมืดเท่าไรผู้คนต่างหลั่งไหลเข้ามาร่วมงานมามากขึ้นเรื่อย ๆ บ้างก็มาเป็นกลุ่ม บ้างก็มาคนเดียวหรือมาเป็นคู่ แล้วนัดมาพบปะกันที่นี่เพื่อรวมกันให้ได้ครบจำนวนเก้าอี้ที่จัดรอไว้

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หงส์ขย่มมังกร(นิยายรักสำหรับผู้ใหญ่)

หงส์ขย่มมังกร(นิยายรักสำหรับผู้ใหญ่)

โรแมนติก

5.0

รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน

พระชายาสารพัดพิษ

พระชายาสารพัดพิษ

โรแมนติก

5.0

"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

เมืองแฟนตาซี

5.0

คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน

พระชายาของข้าคนเดียว

พระชายาของข้าคนเดียว

โรแมนติก

5.0

เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

โรแมนติก

5.0

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

ทัณฑ์รักรอยน้ำตา

ทัณฑ์รักรอยน้ำตา

โรแมนติก

5.0

เมื่อสามีตะโกนใส่หน้า “ผมต้องการหย่ากับเธอ!! คนที่ผมรักเขากลับมาหาผมแล้ว” เมษาเซ็นจำใจชื่อบนใบหย่าพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลพรู เธอตัดสินใจเก็บงำความลับไว้กับตัว พร้อมกับจากไปโดยไม่ปริปากบอกคีรินเลยสักคำ ผ่านไป 5 ปี เด็กชายคนหนึ่งมาตามหาพ่อ... “ผมจะไปหาพ่อผม ปล่อยผมนะ!!” เสียงแผดก้องบริเวณหน้า ล็อบบี้ แม้แต่คีรินเองยังอดสนใจไม่ได้ เด็กชายคนหนึ่งถูก รปภ. รั้งตัวไว้ เขาดิ้นกระแด๋วๆ ตะโกนลั่น ผิวทั้งหน้าแดงก่ำ มีเม็ดเหงื่อผุดเต็มไปหน้า และเมื่อเด็กชายวิ่งตรงมาหาเขา “พ่อคร๊าฟฟฟฟฟ” คิรินเข่าอ่อน สัญชาตญาณบางอย่างเตือน เด็กชายตรงหน้าเขานี่ เป็นเลือดเนื้อส่วนหนึ่งของเขาร้อยเปอร์เซ็นต์

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ