Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ศาสตราจารย์คลั่งรัก

ศาสตราจารย์คลั่งรัก

อัณณากานต์

5.0
ความคิดเห็น
1.5K
ชม
18
บท

ผมชื่อปรีชาเป็นศาสตราจารย์ที่ “เอาจริงเอาจัง”

บทที่ 1 ตอนที่ 1 สายรุ้ง

คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหม ?

สำหรับผมที่เป็นศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายครอบครัว มีชีวิตมาสี่สิบสามปีไม่เคยเชื่อเรื่องนี้เพราะมันไร้เหตุผลจับต้องไม่ได้ ถ้าจะให้เชื่อต้องมีวิทยานิพนธ์ยืนยันสักสิบเล่มเป็นอย่างต่ำ

ดังนั้นการจะรักใครต้องค่อยๆ เรียนรู้ ยิ่งจะเลือกมาเป็นคู่ชีวิตต้องดูให้ดีจนแน่ใจไม่ใช่เจอหน้าแล้วตกหลุมรักเหมือนคนเมา ภรรยาของผมจึงเป็นเพื่อนร่วมงานในมหาวิทยาลัยเดียวกัน

เลขสามเป็นเลขนำโชคของผมมาเสมอแต่ดูเหมือนตอนนี้มันจะสร้างความปั่นป่วนให้มากกว่า

สามเดือนก่อน

“ดร. ปรีชามาถึงแล้วนะคะ อดใจรออีกแปบเดียวค่ะ” พิธีกรบอกผู้ฟังที่นั่งรอด้วยใจจดจ่อมาร่วมชั่วโมง แถวหน้ามีเด็กสาวคนหนึ่งตื่นเต้นกว่าใครเพราะในที่สุดก็จะได้พบขวัญใจแบบใกล้ชิดสักที

ศาสตราจารย์ปรีชา แสงโชติ คืออาจารย์และนักเขียน ชายหนุ่มมีผลงานหลายเล่มแต่ละเล่มได้รับการตอบรับดีเยี่ยมและครั้งนี้ก็เช่นกัน

สำหรับคนที่เรียนจบปริญญาเอก ผู้คนในสังคมมักจะเรียก ดร. นำหน้าชื่อเพื่อเป็นการให้เกียรติ

เมื่อเจ้าตัวมาถึงก็เริ่มแนะนำหนังสือเล่มล่าสุดที่เกี่ยวกับสถิติการหย่าร้างในวัยต่างๆ แม้เนื้อหาจะดูน่าเบื่อแต่ปรีชาก็ใช้สำนวนที่ง่ายต่อการเข้าใจ จึงไม่แปลกที่นักศึกษาวิชากฎหมายจะซื้อหนังสือของเขาไปอ่านเสริม

“เซ็นหน้าปกได้ไหมคะ” เด็กสาวถามเชิงขออนุญาตเมื่อหนังสือที่ยื่นให้โดนเปิดไปสองสามหน้า

“หน้าปกเลยเหรอ มันจะเลอะนะ” ปรีชาถาม

“ไม่เลอะค่ะ จะได้เห็นลายเซ็นอาจารย์ตลอด”

“ขอบคุณค่ะ หนูมีของเล็กๆ มาฝากด้วยค่ะ หนูให้ได้ไหมคะ”

“ได้ครับ อะไรเหรอ”

“นี่ค่ะ หนูถักเองทั้งหมดเลย ขอบคุณอีกครั้งนะคะ” สายรุ้งยื่นพวงกุญแจโครเชต์ที่ถักเป็นรุ้งเจ็ดสีให้ปรีชาแล้วขอตัวออกมาเพราะคนรอด้านหลังมีอีกเป็นร้อย

สามเดือนต่อมา

ปรีชารู้มาตลอดว่าโลกกลมตามที่นักวิทยาศาสตร์และตำราต่างๆ อ้างอิง สำนวนโลกกลมผมก็ไม่เชื่อพอๆ กับเรื่องพรหมลิขิตนั่นแหละแต่ดูเหมือนตอนนี้ผมจะโดนพรหมลิขิตท้าทายซะแล้ว

เด็กสาวที่ให้กุญแจสายรุ้งเมื่อสามเดือนก่อนตอนนี้เธอนั่งห่างไปแค่โต๊ะเดียวแถมกำลังอ่านหนังสือของผมด้วยและที่ทำให้อึ้งกว่าเดิมก็คือมันเป็นเล่มแรกที่เขียน ดูจากสภาพแล้วเธอคงได้จากร้านมือสองแน่ๆ เพราะผ่านมาเกือบสิบปีไม่น่าจะมีจำหน่ายตามร้านทั่วไป

“อาจารย์ !” สายรุ้งเงยหน้าจากหนังสือเล่มโปรดก็สบตากับคนเขียนพอดี

“สวัสดีค่ะอาจารย์” ฉันยกมือไหว้เมื่อเขามานั่งฝั่งตรงข้าม

“ผมอยากแน่ใจว่าเป็นหนังสือตัวเองเลยขอมาดูใกล้ๆ”

“หนังสืออาจารย์ค่ะ หนูซื้อจากร้านมือสอง เล่มนี้กว่าจะหาได้ตั้งเกือบปี”

“เป็นไง เข้าใจยากไหมแล้วทำไมเราถึงชอบอ่านหนังสือวิชาการพวกนี้ล่ะ เรียนกฎหมายเหรอ”

“เปล่าค่ะหนูชอบอาจารย์ คือ หนูหมายความว่าชอบหนังสือที่อาจารย์เขียนค่ะ ได้ความรู้เยอะมาก จริงๆ หนูอ่านหนังสือทุกแนวอยู่แล้วค่ะ”

“ดีจังที่เด็กสมัยนี้ยังรักการอ่านอยู่”

“อาจารย์ไม่มีสอนเหรอคะวันนี้”

“กำลังจะกลับไปสอนนี่แหละ”

“เอ่อ … ก่อนไปหนูรบกวนขอลายเซ็นได้ไหมคะ”

“ครั้งก่อนก็ได้ไปแล้วนี่ ที่ให้เซ็นหน้าปก”

“อาจารย์จำหนูได้ด้วยเหรอคะ” สายรุ้งถามด้วยความตื่นเต้น

“จำได้เพราะพวงกุญแจสีรุ้ง น่ารักดี ถักเองหมดเลยเหรอ”

“ใช่ค่ะ ถักเอง ประกอบเป็นพวงเอง ทำมือทั้งหมดเลยค่ะ”

“ทำขายได้เลยนะเนี่ย” ปรีชายังจำพวงกุญแจแสนน่ารักพวงนั้นได้ขึ้นใจ

“ไม่หรอกค่ะ หนูทำให้คนพิเศษเท่านั้น”

“ขอบคุณที่ให้ผมเป็นคนพิเศษนะ แล้วเล่มนี้เซ็นที่เดิมไหม”

“ที่เดิมค่ะ คราวนี้เขียนชื่อหนูด้วยได้ไหมคะ”

“ได้สิ เราชื่ออะไรล่ะ”

“สายรุ้งค่ะ”

ผมเขียนชื่อเธอแล้วก็ขอบคุณที่ติดตามผลงานจากนั้นก็ลงลายเซ็นตัวเอง

พอเดินออกจากร้านกาแฟ ทั้งที่ฟ้าแสนจะหม่นหมองแต่ปรีชากลับเห็นสีรุ้งเต็มไปหมด

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ อัณณากานต์

ข้อมูลเพิ่มเติม
แม่บ้านวัยกระเตาะ

แม่บ้านวัยกระเตาะ

มหาเศรษฐี

5.0

♡ แรกๆ ก็เอ็นดู หลังๆ ก็อยากให้ดูเอ็น ♡ บางส่วนจากนิยาย: กิตตินอนมองเอมิลี่แต่งตัวอย่างเพลิดเพลินแล้วความคิดซุกซนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่อยากให้เธอใส่เสื้อผ้าเลยให้ตายสิ อยากถอดเสื้อจัง อยากถอดกางเกงด้วย ชุดชั้นในก็ไม่ต้องใส่หรอกบดบังของสวยๆ ทำไม “แล้วพี่โก้ไม่แต่งตัวเหรอคะ” “แต่ง … แต่งครับ รอเดี๋ยวเดียวนะ” กิตติต้องหยุดความคิดฟุ้งซ่านลงก่อน “พี่โก้ไม่อยากไปใช่ไหมคะ” เอมิลี่เดินกลับไปหาคนที่ยังไม่ลงจากเตียง “อยากครับ ไปสิไปกันเลย พี่แต่งตัวอึดใจเดียวก็เสร็จแล้ว” “ไม่จริงหรอกค่ะ ทำอยู่ตั้งนานกว่าพี่โก้จะเสร็จ” คำเตือน: มีการสูญเสีย มีเหตุการณ์สะเทือนใจ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก

บอสเถื่อน

บอสเถื่อน

B.J.BEN
5.0

“อุ๊ย! คุณสิง” เธออุทานเมื่อโดนอ้อมแขนแกร่งสวมกอดเอาไว้และหอมแก้มของเธอซ้ายขวา “ทำไมมาช้า แบบนี้ต้องทำโทษคนมาช้า” เขาตวัดแขนอุ้มร่างน้อยของเธอขึ้นสู่อ้อมแขน “คุณสิง” เธอเรียกเขา ไม่รู้จะพูดอะไรดี ก็รู้ดีว่าเขาจะทำอะไร “ไหนแกะเสื้อคลุมออกหน่อย” เขาวางให้นั่งบนขอบเตียง ขยับร่างสูงออกไปเล็กน้อยเพื่อมองเธอเปลื้องผ้า “หรือจะให้ฉันถอดให้” เขาขยับเข้ามาใกล้เธอหลับตาปี๋ เลื่อนไปปลดเสื้อคลุมของตัวเองออกด้วยมืออันสั่นเทา สิงหลมองอย่างเอ็นดูไม่น้อย เธอแกะปมเชือกเสื้อคลุมออก แล้วหยุดนิ่งหลับตาหนี เขาเลยจุ๊บปากน้อยเบาๆ “อุ๊ย!” น้ำอิงลืมตาหลังจากอุทาน หน้าแดงเมื่อใบหน้าของเขาอยู่ในระยะกระชั้นชิด เขาแหวกเสื้อคลุมออกทำให้เห็นชุดนอนซีทรูตัวสั้นสีชมพูบางเบา “ไม่ต้องใส่บราแล้วนะ” เขาดึงบราออกไป ในขณะที่ชุดนอนเนื้อบางเบายังติดอยู่กับเรือนร่าง สายเสื้อร่วงลงไปติดอยู่ตรงข้อศอกทั้งสองข้าง “ไหนดูท่อนล่างหน่อยสิ เลิกให้ดูหน่อยสิ” “คุณสิง” เธอครางแล้วใบหน้าก็ร้อนผ่าว “หรือจะให้ฉันเปิดเอง ฉันถนัดเปิดนะ” เขาจับเธอยืนขึ้น รั้งสายเสื้อขึ้นไปไว้บนบ่าเหมือนเดิมแล้วจับมือเธอมาดึงรั้งชายกระโปรงชุดนอนเนื้อบางเบาขึ้นไป

กู๊ดบาย นายสุดที่รัก

กู๊ดบาย นายสุดที่รัก

Glad Rarus
5.0

หลังจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เจียงหว่านฉือตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด ทีแรกเธอยังคิดว่าสามีของเธอที่แต่งงานกันมาเป็นเวลาสามปีนั้นมาที่นี่เพื่อดูอาการของเธอ แต่ไม่คิดเลยว่า ชายคนนั้นกลับเดินไปที่ห้องผู้ป่วยข้างๆ เพื่อดูแลผู้หญิงอีกคนหนึ่ง และเพื่อผู้หญิงคนนั้นแล้ว เขายังต้องการส่งเธอเข้าคุกด้วย "2500 ล้าน เพื่อแลกกับการตบผู้หญิงของคุณหนึ่งฉาด"เจียงหว่านฉือมองไปที่เขาอย่างเย็นชา "เราหย่ากันเถอะ"" เธอรับใช้เขาอย่างอดทนมาเป็นเวลาตั้งสามปี ตอนนี้ เธอขอไม่ทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว เธอจะกลับไปสืบทอดมรดกมหาศาลของตระกูล

รักร้ายจอมทระนง

รักร้ายจอมทระนง

มาชาวีร์
5.0

“แหวนไปไหน” “คะ” หญิงสาวรีบหดมือหนีในทันที “พี่ถามว่าแหวนไปไหน” คริษฐ์ยังย้ำคำถามเดิมแล้วจ้องหน้าคู่หมั้นสาวแบบไม่พอใจ “คืออยู่ที่ออฟฟิศมันต้องล้างแก้วกาแฟบ่อย ๆ รุ้งก็เลยถอดเก็บเอาไว้ค่ะกลัวมันจะสึกเสียก่อน” คำตอบของหญิงสาวค่อยทำให้คริษฐ์รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย “ถ้าถอดออกพี่จะถือว่ารุ้งขอถอนหมั้นพี่นะ” “ก็ไม่ได้ถอนสักหน่อย แค่ถอดเก็บเอาไว้เฉย ๆ” “งั้นก็ใส่เสียสิ เดี๋ยวนี้เลย” คริษฐ์ถลึงตาใส่แกมบังคับ “ใส่ก็ใส่ค่ะ” คนพูดตัดพ้อเล็กน้อย แล้วหันไปหยิบกระเป๋าด้านข้างมาเปิดเพื่อหยิบแหวนหมั้นของตนออกมาสวมใส่ จากนั้นก็หันหลังมือให้เขาดู “พอใจหรือยังคะ” “ดี” “ว่าแต่พี่คริษฐ์มานั่งรอรุ้งทำไมคะ มีธุระสำคัญหรือเปล่า” หญิงสาววกมาหาคำถามแรกที่เธออยากรู้ แต่เขาดันจุดประเด็นเรื่องแหวนขึ้นมาแทรกเสียก่อน “แม่ให้พี่มาหาคู่หมั้นตัวเองบ้าง” ฟังเขาพูดแล้วรุ้งพรายชักเครียดขึ้นมาหน่อย ๆ “ถ้าคุณป้าพิมพ์ไม่บอกพี่คริษฐ์ก็คงไม่มาหารุ้งใช่ไหมคะ” “แล้วทำไมรุ้งถึงไม่ไปหาพี่เองบ้างล่ะ” “ก็รุ้งกลัวพี่คริษฐ์รำคาญ” บทสนทนาสิ้นสุดลงด้วยความเงียบด้วยกันทั้งสองฝ่าย คริษฐ์ถอนหายใจเบา ๆ ส่วนรุ้งพรายก็ก้มหน้าต่ำลง ทำไมถึงได้รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก “พี่ไลน์หาอ่านแล้วทำไมไม่ตอบ” คริษฐ์เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนหลังจากเงียบมาเกือบหนึ่งนาที “พอดีรุ้งมาอ่านตอนดึกแล้วไม่อยากรบกวนพี่คริษฐ์ค่ะ” “ตอบมาสักคำก็ยังดี อย่าทำเหมือนพี่ไม่มีตัวตนนะรุ้ง จำเอาไว้ด้วยว่าพี่เป็นคู่หมั้นของรุ้ง” “มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้นะคะพี่คริษฐ์” “อะไรกันที่ว่าไม่น่าจะเป็นแบบนี้” “รุ้งว่าเราถอนหมั้นกันดีกว่าไหมคะ ดูพี่คริษฐ์อึดอัดกับการหมั้นของเราเหลือเกิน ขนาดจะมาหารุ้งก็ต้องให้คุณป้าพิมพ์บังคับมาเลย” “แม่ไม่ได้บังคับพี่” “ไม่บังคับก็เหมือนบังคับนั่นแหละค่ะ ตั้งแต่ตอนเด็กแล้วพี่ คริษฐ์แทบไม่เคยขัดใจคุณป้าพิมพ์ได้เลย ถ้ามันเหนื่อยและยุ่งยากมากรุ้งขอถอนหมั้นไปเลยก็ได้ค่ะ” รุ้งพรายดึงแหวนออกจากนิ้วนางข้างซ้าย แล้ววางแหมะอยู่ตรงหน้าของเขา คริษฐ์มองแหวนมองคนแล้วอารมณ์ของเขาก็เดือดดาลขึ้น บทจะอยากได้ก็วิ่งตามติดเป็นเงา บทจะสลัดทิ้งก็ง่าย ๆ แบบนี้เหรอรุ้งพราย “ใส่กลับไปเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มแทบจะกัดฟันพูดออกมา “ไม่ค่ะ อ๊ะ! พี่คริษฐ์จะทำอะไรรุ้งไม่ใส่” รุ้งพรายถูกคริษฐ์กระชากมือมาแล้วจัดการสวมแหวนกลับที่เดิม “ใส่แล้วห้ามถอด ห้ามทำให้แม่พี่เสียใจรู้ไหม” “พี่คริษฐ์!” (รักร้ายจอมทระนง)

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ศาสตราจารย์คลั่งรัก
1

บทที่ 1 ตอนที่ 1 สายรุ้ง

04/09/2023

2

บทที่ 2 ตอนที่ 2 โลกกลม

04/09/2023

3

บทที่ 3 ตอนที่ 3 สายฝน

04/09/2023

4

บทที่ 4 ตอนที่ 4 พิษรัก

04/09/2023

5

บทที่ 5 ตอนที่ 5 ทำต่อให้เสร็จ

04/09/2023

6

บทที่ 6 ตอนที่ 6 สุขสม

04/09/2023

7

บทที่ 7 ตอนที่ 7 อยู่กับหนูนะ

04/09/2023

8

บทที่ 8 ตอนที่ 8 แอบหวานตอนเที่ยง

04/09/2023

9

บทที่ 9 ตอนที่ 9 เร่าร้อนตอนดึก

04/09/2023

10

บทที่ 10 ตอนที่ 10 ออกเดทกับสาวน้อย

04/09/2023

11

บทที่ 11 ตอนที่ 11 ให้หนูทำนะคะ

04/09/2023

12

บทที่ 12 ตอนที่ 12 ง้อเมียเด็ก

04/09/2023

13

บทที่ 13 ตอนที่ 13 นางร้ายเสียงดี

04/09/2023

14

บทที่ 14 ตอนพิเศษ เซอร์ไพรส์

04/09/2023

15

บทที่ 15 ตอนที่ 14 แต่งค่ะ

04/09/2023

16

บทที่ 16 ตอนที่ 15 ดวงใจของพี่

04/09/2023

17

บทที่ 17 ตอนพิเศษ คลั่งรักไม่หยุด

04/09/2023

18

บทที่ 18 ตอนพิเศษ

04/09/2023