Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
(*PWP*) มังกรขย่มมังกร

(*PWP*) มังกรขย่มมังกร

Bunmeebooks

5.0
ความคิดเห็น
13K
ชม
18
บท

ข้าจะใช้มังกรพลิกบัลลังก์มังกร ! // ยาจกหนุ่มหน้าหวานหวังจะพลิกชะตากรรมของตน แม้ว่าต้องแลกมาด้วยความบริสุทธิ์ของตนก็ตาม

บทที่ 1 ผู้แทนพระองค์

ณ เมืองเห่อหนาน

เมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองหลวง แห่งแคว้นเป่ยหนาน เป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญ เพราะหากจะเดินทางจากทางใต้ไปเมืองหลวงต้องผ่านเมืองนี้ จึงทำให้เมืองนี้เจริญรุ่งเรืองด้านการค้าขายเป็นอย่างมาก

“สาลี่กรอบ ๆ พุทราป่าสด ๆ มาแล้วขอรับ ถุงละอีแปะเท่านั้นขอรับ”

หวังหลง ชายหนุ่มสวมเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งเฉกเช่นยาจก ร้องตะโกนขายผลไม้ป่าที่เขาเพิ่งจะไปเก็บมาจากบนภูเขา

แม้ว่าเขาจะอายุสิบแปดหนาวแล้ว แต่รูปร่างเขากลับตัวเล็กบอบบางกว่าบุรุษทั่วไปมาก จึงทำให้คนอื่น ๆ มักเข้าใจผิดคิดว่าเขายังเป็นเด็กชายอายุไม่ถึงสิบห้าปีด้วยซ้ำ

“หลงหลง ข้าเอาหนึ่งถุง”

นางจางเฮ่อที่ขายดอกไม้สดกวักมือเรียกชายหนุ่ม ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มกว้างอย่างเป็นกันเอง

หวังหลงรีบสาวเท้าเข้ามาหา พร้อมกับเอ่ยอย่างดีใจว่า

“วันนี้ป้าจางจะกินอะไรขอรับ”

“เอาทั้งสาลี่ และพุทราอย่างละถุง”

เมื่อวานนางจางเฮ่อก็ช่วยซื้อลูกท้อป่าจากเขาไปหลายถุง วันนี้ก็ช่วยซื้ออีกเพราะสงสารหวังหลงที่เกิดมาไร้พ่อแม่ดูแล แม้ว่าหวังหลงจะไร้ที่พึ่ง แต่เขาก็ไม่เคยขอใครกิน มักจะเข้าไปเก็บผักผลไม้ในป่านำมาขายเพื่อเลี้ยงชีพ

“ขอบคุณป้าจางมากขอรับ”

หวังหลงยื่นถุงผลไม้ให้นางจางเฮ่อ แล้วรับเงินมาใส่อกเสื้อไว้อย่างทะนุถนอม

“ขอให้ขายดีขายหมดนะ ได้เงินแล้วก็ซื้อเสื้อผ้าหนา ๆ ใส่หน่อย นี่ก็ใกล้จะถึงฤดูหนาวแล้ว เสื้อที่เจ้าใส่อยู่ตอนนี้ทั้งเก่าทั้งขาดกันความหนาวไม่ได้หรอกเดี๋ยวจะไม่สบายเอา”

นางจางเฮ่อบอกด้วยความเป็นห่วง เพราะนางเห็นหวังหลงวิ่งขายของ บางครั้งช่วยงานเล็ก ๆ น้อย ๆ แถวนี้มาตั้งแต่เด็ก จึงเอ็นดูเขาเหมือนลูกหลาน

“ขอบคุณป้าจางมากขอรับที่เป็นห่วง”

เขาตอบกลับโดยไม่ปฏิเสธความห่วงใยของหญิงชรา ซึ่งความจริงแล้ว เงินที่เขาขายของได้ และเก็บสะสมไว้มากพอที่จะซื้อเสื้อสวย ๆ ได้มากกว่า 10 ตัว แต่ที่เขาไม่ซื้อก็เพราะว่าต้องการสะสมเงินทองให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อกระทำการใหญ่ในวันหน้า

หม่อง..... หม่อง.... หม่อง....

เสียงตีฆ้องนำขบวนดังขึ้น ไม่นานนักขบวนรถม้าหรูหราของผู้แทนพระองค์ก็ปรากฏขึ้น

องครักษ์ควบม้านำขบวน 4 นาย เบื้องหลังมีขบวนทหารเดินเรียงแถวกว่าสิบนาย กลางขบวนเป็นรถม้าของผู้แทนพระองค์

“นั่นรถม้าของผู้ใดหรือขอรับ”

หวังหลงมองดูขบวนที่กำลังเลื่อนผ่านหน้าเขาไปอย่างสนใจ

“อ่อ... นั่นขบวนรถม้าของใต้เท้าเฟิงโหย่ว ผู้แทนพระองค์ที่เดินทางมาตรวจเยี่ยมราษฎรทางใต้น่ะสิ สงสัยจะตรวจเสร็จแล้ว และกำลังจะกลับเมืองหลวงก็เลยผ่านมายังเมืองของเรา”

นางจางเฮ่อตอบ

หวังหลงมองตามขบวนผู้แทนพระองค์ไปอย่างเหม่อลอย คล้ายกับคิดสิ่งใดอยู่ในใจ

.............................................................................

ภายในรถม้า

ใต้เท้าเฟิงโหย่ว ผู้แทนพระองค์ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์

เขาเลิกผ้าม่านหน้าต่างขึ้นทอดสายตามองดูเมืองหน้าด่านที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนทั้งค้าขาย ทั้งเดินทางไปมา รถม้าวิ่งกันขวักไขว่ บ้านเรือนร้านค้าเรียงรายตามสองฝั่งถนน ถนนในตัวเมืองใหญ่ไม่มาก แต่ก็กว้างพอให้รถเทียมม้า และรถบรรทุกของสองคันแล่นสวนกันได้ ยามบ่ายแก่ ๆ เช่นนี้ยิ่งคึกคักเป็นพิเศษ

ภาพเหล่านั้นทำให้รอยยิ้มจาง ๆ ผุดขึ้นที่ริมฝีปาก ใบหน้าหล่อเหลาราวกับเทพเซียน

“หลางจิ่ว เมืองนี้คึกคักนัก ก่อนเข้าเมืองหลวงเราก็พักที่นี่เถิด”

เฟิงโหย่วร้องสั่งคนที่เป็นทั้งเลขา และที่ปรึกษา

“ขอรับใต้เท้า”

หลางจิ่วซึ่งนั่งคู่กับคนขับรถม้า ผินหน้าไปตอบรับเจ้านายอย่างชัดถ้อย ชัดคำ

เมื่อมาถึงโรงเตี๊ยมที่ใหญ่ที่สุดในเมือง เลขาผู้แทนพระองค์ก็ร้องสั่งให้หยุดขบวน

หยุด !

จากนั้นก็รายงานกับผู้เป็นนายว่า

“ใต้เท้าเฟิงโหย่ว ถึงโรงเตี๊ยมแล้วขอรับ”

“อืม”

ใต้เท้าเฟิงโหย่วก้าวลงมาจากรถม้า แล้วเอ่ยว่า

“ข้าจะไปเดินดูชาวบ้านแถวนี้เสียหน่อย”

“ใต้เท้าจะให้ข้า หรือองครักษ์ติดตามไปดูแลความปลอดภัยหรือไม่ขอรับ”

“ขอบใจที่เป็นห่วง แต่ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวชาวบ้านจะแตกตื่นตกใจ”

“ขอรับ”

เลขารับคำอย่างรู้ใจ เพียงแค่สบตาผู้เป็นนายเขาก็รู้ว่าเหตุใดใต้เท้าหนุ่มถึงอยากจะเดินเล่นคนเดียว

..............................

ยามซวี

ใต้เท้าเฟิงโหย่วก็เดินออกมาจากหอคณิกาเลื่องชื่อ

“คุณชายเฟิง ไม่น่ารีบกลับเลยเจ้าค่ะ”

สตรีคณิกาที่กอดแขนเขาอยู่เบื้องซ้ายส่งเสียงออดอ้อนขึ้น นาน ๆ ครั้งจะมีบุรุษรูปงามกระเป๋าหนักมาเยือนสักครั้ง นางจึงอยากจะรั้งให้เขาอยู่เพื่อปรนนิบัตินาน ๆ

“จริงด้วยเจ้าค่ะ คุณชายเฟิงเพิ่งจะมาที่หอคณิกาแห่งนี้ครั้งแรกก็ทำเอาหอแทบแตก สาวงามต่างก็แย่งกันปรนนิบัติท่านทั้งนั้น”

สตรีคณิกาที่กอดแขนเขาอยู่เบื้องขวาเอ่ยสนับสนุน

ใต้เท้าเฟิงโหย่วได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มพรายออกมา แล้วเอ่ยลาแฝงด้วยน้ำเสียงหยอกเย้าว่า

“เจ้าสองคนอ่อนหวานช่างเอาใจปานนี้ แม้นตัวข้ากลับ แต่ใจก็ยังคะนึงหาพวกเจ้า หากข้าว่างวันใด ข้าย่อมกลับมาหาพวกเจ้าทั้งสองแน่นอน”

“จริงนะเจ้าคะ”

ทั้งสองนางเอ่ยขึ้นพร้อมกัน

“จริงสิ”

“คุณชายเดินทางกลับด้วยความปลอดภัยเจ้าค่ะ”

“พวกข้าทั้งสองจะรอท่าน”

ใต้เท้าเฟิงโหย่วส่งยิ้มอำลา แล้วก้าวเท้าจากไปอย่างเบิกบานใจ

เขารับหน้าที่เป็นผู้แทนพระองค์ตรวจเยี่ยมราษฎรทางใต้ตั้งหลายเดือนกว่าจะแล้วเสร็จ ดังนั้น เมื่อราชกิจเสร็จสิ้นเขาจึงมาหาความสำราญผ่อนคลายความเครียดเสียหน่อย

ใต้เท้าเฟิงโหย่วกำลังจมอยู่ในความคิดของตนจึงไม่ได้สังเกตว่ามีเงาดำสายหนึ่งวูบไหวแอบตามเขามาตั้งแต่หอคณิกาแล้ว

เมื่อเขาเลี้ยวเข้าถนนสายรองซึ่งค่อนข้างเปลี่ยว เงาสีดำที่ตามหลังเขาก็พุ่งเข้าไปดึงถุงเงินข้างเอวใต้เท้าเฟิงโหย่ว

พรึบ !

“อ๊ะ นี่เจ้าหัวขโมย ส่งถุงเงินของข้ามานะ”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ Bunmeebooks

ข้อมูลเพิ่มเติม
ท่านแม่ทัพ หยุดแทงข้าเสียที

ท่านแม่ทัพ หยุดแทงข้าเสียที

นิยายวาย

5.0

บิดามันเถอะ ! ข้าหนีการอภิเษกแต่กลับต้องมาเป็นทาสบำเรอกามแม่ทัพเถื่อน เรื่องราวขององค์ชายผู้ดื้อรั้นหนีการแต่งงาน จนถูกจับไปขายในหอนายโลม แล้วแม่ทัพก็นำตัวเขาไปเป็นทาสกาม เขาจะหนีพ้นจากความโชคร้ายนี้ได้หรือไม่ ไปติดตามกัน ................................................................................ ❌ จับมาเป็นทาส ✅ จับมาทำเมีย ——————————————— 😈“ข้าซื้อเจ้ามาก็เพื่อสิ่งนี้ ‼️ เจ้าจะเล่นตัวไปไย แต่ตอนนี้เจ้าทำให้ข้าเจ็บ เจ้าต้องรับผิดชอบ” สิ้นคำมือแกร่งก็กระชากเสื้อคลุมขององค์ชายน้อยออก แล้วผลักร่างบางเข้าชิดผนังห้อง 😡“จะทำอะไรข้า ถ้าท่านแตะต้องตัวข้าอีก ข้าฆ่าท่านแน่‼️” องค์ชายน้อยขู่ฟ่อ มือทั้งสองถูกเขารวบตรึงไว้เหนือหัว ร่างกายท่อนล่างแทบทุกสัดส่วนถูกเรือนร่างกำยำร้อนฉ่าทาบทับเอาไว้ 😈“ฮ่า ฮ่า คนที่ขู่ฆ่าข้า ไม่เคยมีใครตายดีสักคน แต่สำหรับเจ้า...” แม่ทัพหนุ่มมองสบตาหนุ่มน้อย เขาแตะปลายนิ้วลงที่ริมฝีปากบางด่าทอเขาไม่หยุด 😈 “ข้าจะทรมานจนต้องร้องขอชีวิตเชียวหล่ะ” เขาไล้ปลายนิ้วไปตามผิวเนื้อเนียนนุ่ม แล้วลูบต่ำลงมาจนถึงเม็ดทับทิมสีสวย จากนั้นก็ลูบคลึงหัวทับทิมเล่นอย่างหยอกล้อ 🥴“อื้อ อา เจ้าคนชั่วช้า งื้ออ อา” ฝ่ามือร้ายของท่านแม่ทัพทำให้เสียงองค์ชายน้อยเริ่มสั่นพร่าด้วยความเสียวซ่าน ทุกอณูสัมผัสของเขาทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นโครมคราม 😈“ชั่วช้าอย่างไร ก็เป็นสามีเจ้า”

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ธิดาแค้นต้องเอาคืน

ธิดาแค้นต้องเอาคืน

Casey Haag
5.0

ตระกูลซูล่มสลาย จวนเจิ้นกั๋วทั้งตระกูลถูกประหารชีวิตในคืนเดียว ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งถูกน้องสาวหลอกใช้ ถูกชายเจ้าชู้เล่นตลก ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งใช้ชีวิตอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่แคว้นเป่ยเหลียงสิบกว่าปี แต่กลับถูกกล่าวหาว่าคบคิดกับศัตรู คนทั้งแคว้นเซิ่งถังต่างก็ด่าทอยกใหญ่ ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งต้องยืนมองน้องสาวกับรักแรกของตนสนิทสนมกัน ครองโลก ส่วนตัวเองกลับโดนประหารชีวิต เลือดสาดตะวัน เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้ง… ซูเฉิงอิ้งถือดาบกลับมา ฟาดแรก… ตัดสายเลือด ฟันน้องสาวอกตัญญู ฟาดที่สอง… ตัดความรัก ฟันรักแรกที่หน้าเนื้อใจเสือ ฟาดที่สาม… ตัดคำพูด ฟันทุกเสียงนินทาของเป่ยเหลียงที่บิดเบือนความจริง ฟาดที่สี่… ตงฟางไป๋เยว่ “หรือว่าฮูหยินอยากจะฆ่าสามีผู้นี้ด้วยหรือ” ซูเฉิงอิ้ง“หุบปาก…”

ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง

ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง

Nadia Lada
5.0

เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

เกาะครีต
4.9

วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม

เกิดใหม่ในเงามืด

เกิดใหม่ในเงามืด

Orson Erickson
5.0

ครอบครัวเสิ่นเลี้ยงดูเซี่ยซางหนิงเป็นเวลา 20 ปี และเธอเองก็ถูกเอาเปรียบมาเป็นเวลา 20 ปีเช่นกัน วันหนึ่ง พวกเขาตามหาลูกสาวตัวจริงพบ และเซี่ยซางหนิงก็ถูกไล่ออกจากตระกูลเสิ่น ได้ยินมาว่าพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของเธอกำลังเผชิญกับความยากลำบากอย่างหนัก แต่ความเป็นจริง พ่อแม่ทางสายเลือดของเธอเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองไห่ เป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดที่ตระกูลเสิ่นไม่สามารถเอื้อมถึงได้ ตระกูลเสิ่นที่คอยดูว่าเซี่ยซางหนิงจะต้องตกอับอย่างน่าสมเพช แต่กลับต้องตกตะลึงซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับตัวตนของเซี่ยซางหนิง ผู้มีอิทธิพลในการเงินระดับโลก วิศวกรระดับแนวหน้า นักแข่งรถอันดับหนึ่งของโลก... เธอยังมีความสามารถที่ซ่อนอยู่อีกกี่อย่างกันแน่ คู่หมั้นยกเลิกการหมั้นกับเซี่ยซางหนิง อย่างไรก็ตาม เมื่อเซี่ยซางหนิงไปออกเดทกับพี่ชายฝาแฝดของเขา เขากลับปรากฏตัวขึ้นและสารภาพรักกับเธอ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ