Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
แม่บ้านวัยกระเตาะ

แม่บ้านวัยกระเตาะ

อัณณากานต์

5.0
ความคิดเห็น
3.4K
ชม
15
บท

♡ แรกๆ ก็เอ็นดู หลังๆ ก็อยากให้ดูเอ็น ♡ บางส่วนจากนิยาย: กิตตินอนมองเอมิลี่แต่งตัวอย่างเพลิดเพลินแล้วความคิดซุกซนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่อยากให้เธอใส่เสื้อผ้าเลยให้ตายสิ อยากถอดเสื้อจัง อยากถอดกางเกงด้วย ชุดชั้นในก็ไม่ต้องใส่หรอกบดบังของสวยๆ ทำไม “แล้วพี่โก้ไม่แต่งตัวเหรอคะ” “แต่ง … แต่งครับ รอเดี๋ยวเดียวนะ” กิตติต้องหยุดความคิดฟุ้งซ่านลงก่อน “พี่โก้ไม่อยากไปใช่ไหมคะ” เอมิลี่เดินกลับไปหาคนที่ยังไม่ลงจากเตียง “อยากครับ ไปสิไปกันเลย พี่แต่งตัวอึดใจเดียวก็เสร็จแล้ว” “ไม่จริงหรอกค่ะ ทำอยู่ตั้งนานกว่าพี่โก้จะเสร็จ” คำเตือน: มีการสูญเสีย มีเหตุการณ์สะเทือนใจ

บทที่ 1 ตอนที่ 1 วันพิเศษ

โต๊ะม้าหินอ่อนตั้งอยู่ใต้ต้นหูกวางแผ่กิ่งก้านร่มรื่น แม้ใบของมันจะร่วงหล่นให้เก็บกวาดอยู่ตลอดแต่ก็คุ้มค่ากับแรงกายที่ลงไป มันเป็นไม้ยืนต้นที่ให้ร่มเงาแก่บ้านหลังน้อยมาหลายสิบปี ที่ตรงนี้มีความทรงจำมากมายโดยเฉพาะกับเด็กหญิงคนหนึ่ง

“จะห้าโมงแล้ว ยัยหนูคงใกล้จะถึงบ้านแล้วมั้ง” บิดามองเวลาแล้วกล่าวด้วยความตื่นเต้น

เขาลางานครึ่งวันเพื่อวันพิเศษโดยเฉพาะ หนึ่งปีมีแค่ครั้งเดียวก็ต้องทำให้มันแตกต่างจากวันอื่นสักหน่อยแถมไม่เคยลาไม่เคยสายขอแค่ปีละหนึ่งวันเท่านั้นจริงๆ

“คงใกล้แล้วค่ะ ไม่น่าเกินห้าโมงครึ่ง เอมกลับเวลานี้ตลอด” มารดาเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม ลูกสาวของเธอเป็นเด็กเรียบร้อย ไม่เคยสร้างเรื่องให้ปวดหัวปวดใจ เมื่อเลิกเรียนก็ตรงกลับบ้านไม่มัวเถลไถล

“คุณไม่เหนื่อยเหรอคะ วิ่งวุ่นทั้งวัน ไปนั่งพักข้างในก่อนก็ได้นะคะ” ภรรยาถามสามีที่นั่งไม่ติดตั้งแต่มาถึงบ้าน ดูเหมือนคนจัดงานจะตื่นเต้นกว่าเจ้าของงานเสียอีก

“ไม่เหนื่อยเลย คุณว่าลูกจะชอบไหม”

“ชอบแน่นอนค่ะ ลูกไปยืนดูร้านนี้ทุกครั้งตอนไปตลาด”

เอมอรเคยเป็นครูแต่พอมีลูก สามีก็ให้ลาออกจะได้ดูแลลูกได้เต็มที่ เอ็ดการ์เป็นพนักงานระดับปฏิบัติการทั่วไปไม่มีสิ่งใดพิเศษแต่เงินที่หาได้ก็พอเลี้ยงครอบครัวให้อยู่สบายตามอัตภาพ เขาพบเอมอรตอนไปประชุมที่โรงแรมแห่งหนึ่งแล้วติดต่อกันเรื่อยมาเพราะถูกชะตากัน

จากที่คุยแค่เรื่องงานก็ค่อยๆ ขยับหัวข้อเป็นเรื่องส่วนตัวมากขึ้นจนสุดท้ายก็กลายเป็นความรัก

ทุกอย่างดูราบรื่นแต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด เมื่อตกลงปลงใจสร้างครอบครัว พ่อแม่ของเอมอรเห็นด้วยและอวยพรลูกสาวด้วยคำมงคลส่วนพ่อแม่ของเอ็ดการ์ไม่มาเหยียบเมืองไทยไม่มาร่วมงานแต่งแถมยังด่าทออีกหลายคำ

เอ็ดการ์เสียใจที่พ่อแม่ไม่เข้าใจและกีดกันความรักแต่เขาเลือกเอมอรกับลูก สักวันพวกท่านจะเห็นเองว่าเอมอรไม่ใช่ผู้หญิงหน้าเงินแบบที่เข้าใจกัน

น่าเสียดายที่ท่านไม่ได้เห็นความน่ารักของหลานสาว ถ้าท่านยังอยู่ต้องหลงเอมิลี่จนโงหัวไม่ขึ้นแน่ๆ

เอ็ดการ์อยู่ประเทศไทยมาหลายสิบปี จึงพูดอ่านเขียนภาษาไทยได้อย่างคล่องแคล่วไม่แพ้เจ้าของภาษา ต้องขอบคุณภรรยาที่เป็นครูประจำตัวคอยแนะนำพร่ำสอนอยู่ตลอด สมกับเป็นครูเหลือเกิน

เอมิลี่มีความทรงจำเกี่ยวกับตายายไม่มากนัก เธอเคยพบพวกท่านตอนยังเด็กเหลือเกิน แม่เล่าว่าทั้งสองรับขวัญหลานด้วยกำไลข้อเท้าหนักหนึ่งบาทแถมเงินขวัญถุงด้วย เงินนั้นไม่อยู่แล้วเพราะแม่นำไปฝากธนาคารเหลือไว้แค่ถุงกำมะหยี่สีแดงที่ตากับยายใส่เงินมาให้

ยังไม่ทันจะรู้ความดีตากับยายก็จากไป เอมิลี่จึงโตมากับพ่อและแม่โดยแท้จริง

ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดที่ลูกจะโตมากับพ่อและแม่แต่สำหรับเอมิลี่แตกต่างนิดหน่อยเพราะเธอเป็นลูกครึ่ง หน้าตาผิวพรรณร่างกายจึงไม่เหมือนเด็กคนอื่น เธอตัวสูงบอบบาง ผิวขาวเหมือนไข่ปอก นัยน์ตาสีเทา ผมสีน้ำตาลอ่อน

ความต่างนี้ทำให้เธอแปลกแยกจากคนอื่น เอมิลี่ไม่มีเพื่อนสนิทเพราะเพื่อนผู้หญิงชังน้ำหน้าเธอทุกคน เพื่อนผู้ชายคอยแต่ล้อเลียนและฉวยโอกาสทำรุ่มร่ามใส่ ทั้งหมดไม่ใช่ความผิดของเธอสักนิด

เอมิลี่จึงสบายใจกับการอยู่คนเดียวและเธอดีใจมากที่ยังมีพ่อกับแม่เพราะทั้งสองคนคือเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ

วันหนึ่งเธอไปตลาดกับแม่ตามปกติแล้วเห็นว่า ตึกหลังหนึ่งที่ปิดร้างไม่มีคนเช่าหลายปีวันนี้เปิดพร้อมบริการ กระจกบานใหญ่ใสแจ๋ว มีผ้าม่านลูกไม้แขวนประดับ

“แม่จ๋า ดูสิ สวยจังเลย” เอมิลี่ไปยืนชิดริมกระจกเพราะอยากเห็นขนมสีสวยให้ชัดๆ

“สวยจริง เค้กของพวกฝรั่งจริงๆ”

“เค้กก็เป็นของฝรั่งอยู่แล้วนี่จ๊ะ”

“เจ้าของร้านเป็นชาวฝรั่งเศส เขาว่ากันแบบนั้นนะ แม่ก็ไม่มั่นใจ”

“จริงเหรอจ๊ะ หนูอยากเห็นจัง”

“คุณเขาไม่ใช่ตัวประหลาดสักหน่อย จะอยากพบอยากเจอไปทำไม เรามาตลาดแทบทุกวัน จะเห็นเดี๋ยวก็เห็นเองแหละลูก”

“จ้ะแม่” เอมิลี่ตอบเสียบอ่อยๆ เธอควรจะเข้าใจดีที่สุดว่าการโดนมองว่าเป็นตัวประหลาดรู้สึกแย่เพียงใด

“ไปกันเถอะลูก เราค่อยแวะวันหลังดีกว่า เปิดวันแรกๆ น่าจะวุ่นวายอยู่”

“จ้ะแม่” เอมิลี่รับคำแต่เสียดายอยู่ในใจ เธออยากเข้าไปดูในร้านใจจะขาด

“สวัสดีค่ะ เปิดวันแรกมีเค้กให้ชิมฟรีด้วยค่ะ แวะก่อนได้นะคะ” เจ้าของร้านเปิดประตูออกมาเชื้อเชิญลูกค้าที่ยืนลังเลอยู่ข้างหน้า

“ขอบคุณค่ะ” เอมิลี่แอบกระโดดตัวลอยอยู่ในใจแต่ความจริงก็คือเดินอย่างเรียบร้อยให้สมเป็นกุลสตรีตามที่แม่พร่ำสอน

มาดามมักซีมคือเจ้าของร้านเค้ก เธอถูกชะตากับเอมิลี่เด็กหญิงผมเปียเอามากๆ อาจเพราะเป็นลูกครึ่งลูกค่อนเหมือนกันแถมนัยน์ตายังสีเดียวกันอีก

“วันนี้ไม่ต้องจ่ายเงินค่ะ เปิดวันแรกอยากให้มาชิมกันก่อนว่าถูกใจไหม” มาดามมักซีมบอกเอมอรเมื่อเห็นเธอเตรียมหยิบกระเป๋าเงิน

“คนไทยเขาถือกันค่ะว่าลูกค้าคนแรกต้องซื้อ ฉันเดาว่าเราสองแม่ลูกน่าจะเป็นลูกค้ารายแรกแน่ๆ ยังเช้าอยู่เลย”

“เหรอคะ แย่จัง ฉันไม่น่ารบกวนคุณเลย”

“ไม่รบกวนเลยค่ะ ฉันว่าจะแวะอยู่แล้วแต่เห็นยังเช้าอยู่คิดว่าคงยังวุ่นๆ ว่าจะแวะวันหลังแต่วันนี้แวะแล้วก็ต้องประเดิมค่ะ เอมเลือกสิลูก หนูอยากกินชิ้นไหน” เอมิลี่อยากรับประทานทุกอย่างที่อยู่ในตู้แต่เธอรู้ว่าแม่ไม่ได้มีเงินเหลือเฟือจึงเลือกชิ้นที่ถูกที่สุด

“มาดามคะ เอมเลือกแค่ชิ้นสีฟ้าค่ะ” เอมอรบอกเมื่อเห็นมาดามมักซีมหยิบเค้กสีชมพูขึ้นมา

“ชิ้นนี้แถมค่ะ พิเศษสำหรับลูกค้าคนแรก”

หลังจากวันนั้นสองแม่ลูกก็แวะร้านนี้เรื่อยๆ แต่เอมิลี่ก็ไม่เคยเลือกขนมที่แพงเกินกำลังที่แม่จะจ่ายไหว เธอสัญญากับตัวเองว่าเมื่อมีเงินมากพอจะซื้อเค้กก้อนใหญ่สีชมพูประดับด้วยผลไม้และครีมหลากสีให้พ่อกับแม่ได้รับประทาน

แต่สาวน้อยเอมิลี่ในวัยสิบห้าปีไม่รู้ตัวเลยว่าเค้กแสนสวยก้อนนั้นกำลังรอท่าอยู่ใต้ต้นหูกวาง

“กลับมาแล้วค่ะแม่” ห้าโมงยี่สิบนาที เอมิลี่ก็มาถึงบ้าน เธอถอดรองเท้านักเรียนวางไว้ที่ตู้หน้าบ้านแล้วเดินเข้ามาด้านในแต่ไม่พบใครเลย ปกติแม่จะนั่งเย็บผ้าอยู่ที่มุมห้องนั่งเล่นหรือไม่ก็อยู่ในห้องครัว

“แม่คะ” เธอเดินไปที่บันไดแล้วเรียกอีกครั้งแต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบ แม่ต้องอยู่บ้านแน่นอนเพราะประตูไม่ได้ล็อก

“กระเป๋าของพ่อนี่นา” เมื่อเดินไปที่เก้าอี้หวายก็พบกระเป๋าเอกสารของพ่อวางอยู่ เธอเริ่มรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล

พ่อไม่เคยกลับบ้านเร็วขนาดนี้และที่สำคัญไม่มีทางมาถึงบ้านแน่ๆ เพราะพ่อเลิกงานห้าโมง ถ้าถึงบ้านพร้อมๆ กับเธอ พ่อต้องเหาะมาแน่นอน

แต่พ่อกลับมาแล้วแน่ๆ กระเป๋าของพ่อวางอยู่และเมื่อเช้าไม่มีแน่ๆ เพราะเธอนั่งตรงนี้เพื่อใส่ถุงเท้าส่วนพ่อออกไปแล้ว

“ลูกเห็นรึยัง” เอ็ดการ์ถามภรรยาที่แอบมองอยู่ข้างหน้าต่าง

“เห็นกระเป๋าคุณแล้วค่ะ มองหาใหญ่เลยว่าคุณอยู่ไหน” เอมอรรายงานให้สามีฟัง

เอมิลี่มองไปรอบๆ แล้วพบว่าประตูหลังบ้านไม่ได้ปิด

“พ่อ ! ทำไมกลับเร็วคะ ไม่สบายเหรอ”” เมื่อชะโงกหน้าออกไปก็เห็นพ่อกับแม่ยืนยิ้มหวานอยู่

“วันเกิดลูกสาวทั้งคน จะกลับช้าได้ยังไง” เอ็ดการ์ตอบ

“หนูตกใจหมดเลย แล้วมาทำอะไรกันตรงนี้คะ”

เอมิลี่บอกพ่อกับแม่ว่า งานวันเกิดค่อยจัดทีหลังก็ได้เพราะวันเกิดของเธอตรงกับวันทำงาน จัดช้าไปวันสองวันไม่ใช่ปัญหาเธออยากให้อยู่พร้อมหน้ากันมากกว่า

“ขอบคุณมากนะคะ แม่ทำอะไรคะ หนูกำลังหิวเลย”

“ของโปรดหนูทั้งนั้นแต่แม่ว่า วันนี้เรากินของหวานก่อนดีกว่า” เอมอรถอยไปด้านข้างเพื่อให้เค้กแสนสวยได้อวดโฉม

เอมิลี่พูดไม่ออกได้แต่เอามือปิดปาก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเค้กจากร้านไหน เธอเฝ้าฝันถึงมันมาเป็นปีๆ อยากเห็นใกล้ๆ อยากลิ้มชิมรสว่าเนื้อเค้กก้อนนั้นจะอร่อยแค่ไหน

“ขอบคุณนะคะ หนูดีใจมากเลยแต่เกรงใจจัง พ่อกับแม่หมดเงินเยอะเลยเพื่อซื้อเค้กก้อนนี้”

“มาดามมักซีมลดให้สิบห้าเปอร์เซ็นต์จ้ะ ตามอายุหนู กินเลยไหมจ๊ะ”

“กินค่ะ ขอบคุณนะคะ” เอมิลี่กอดพ่อกับแม่แล้วหลับตาขอพร

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ อัณณากานต์

ข้อมูลเพิ่มเติม
กรรมกรอ้อนรัก

กรรมกรอ้อนรัก

สมัยใหม่

5.0

“เชิญจ้ะ ตามสบายนะ” กอบสุขบอกด้วยเสียงสั่นๆ เพราะดำรงไม่ได้มาคนเดียวแต่พาเพื่อนมาอีกสองคน “คุณกอบจำเรื่องที่เคยบอกผมได้ไหมครับ” ดำรงถาม “จำได้จ้ะ เรื่องนั้นใช่ไหม” “คุณกอบต้องพูดให้ชัดเจนนะครับ กระซิบบอกผมคนเดียวก็ได้เพราะทุกอย่างจะเกิดขึ้นเพียงทางเดียวเท่านั้นคือคุณกอบยินยอม” “ฉันอยาก xxx” กอบสุขสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วเชิดหน้าบอกอย่างมั่นใจ เธอต้องการมันและไม่ใช่เรื่องผิดบาปใดๆ ที่ผู้หญิงอยากทำแบบนี้ หากมันไม่เดือดร้อนใคร ทำไมจะทำไม่ได้ เพื่อนๆ ของดำรงไม่รีรอเมื่อคนชวนมาพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เมียแต่งท่านประธาน [ตอนง้อเฮียหอนหนักม้าก]

เมียแต่งท่านประธาน [ตอนง้อเฮียหอนหนักม้าก]

สนพ. อิ่มรัก
5.0

ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------

หย่าให้รักร้าวราน

หย่าให้รักร้าวราน

คุณธิดา
5.0

หากความรักของเราเปรียบเหมือนแก้วใบหนึ่ง แก้วใบนี้คงร้าวจนใกล้แตกเต็มที อีกฝ่ายต้องการประคองรักนี้ไว้อย่างอดทน แต่อีกคนกลับทำลายจนหัวใจของเธอย่อยยับแหลกลาน ความอดทนของคนเรามีวันที่สิ้นสุดน่ะ “หย่า” คงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ถ้าอย่างนั้นก็เชิญเขาไปในที่ชอบ ๆ ทางใครทางมัน แต่เมื่อเวลาพัดผ่าน ด้วยเหตุผลของกามเทพ ทั้งคู่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง และเมื่อได้พบหน้าเธอ เขาขอแก้ตัว และบอกเธอว่า เขายังรักเธอ ทว่าในวันที่เธอเดินจากไป เธอมีลูกน้อยติดท้องมาด้วย และปัญหาของคนเป็นแม่ เจ้าเด็กน้อยหนูอยากจะมีพ่อครับ แล้วเธอควรทำอย่างไรต่อไป ++++++++++ คำโปรย เมื่อเข้าไปถึง และเห็นภาพตรงหน้า ปริญเขาไม่ได้อยู่คนเดียว ในอ้อมกอดและวงแขนของเขา มีร่างผู้หญิงคนหนึ่ง และสิ่งที่ทำให้หัวใจของทอดาวสลาย ทั้งสองคนกำลังจูบกัน เพล้ง... ข้าวของในมือร่วงลงไป พร้อมกับร่างของทอดาวที่แทบทรุด เธอเซไปจนปะทะกับฝาบ้าน คนสองคนที่กำลังจูบกันอยู่รีบผละออกจากกันแล้วหันมามอง ทอดาวแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองด้วยซ้ำไป เธอไม่เคยคิดเลยว่าปริญเขาจะทำแบบนี้กับเธอ ทำอะไรที่แสนทุเรศในบ้านที่เป็นเรือนหอของเธอกับเขา ทอดาวน้ำตาคลอ เธอพยายามประคองสติโดยใช้ฝาผนังเป็นที่พึ่ง ‘แล้วลูกของเราล่ะ และนี่คืออะไร มันหมายความว่ายังไง ทำไมเขาทำแบบนี้กับฉัน’ ความคิดอันแรก ครอบครัวของเธอต้องแตกแยกแล้ว พร้อมกับคำถามเกิดขึ้นมามากมายในหัวของทอดาว เธอหน้าถอดสีซีดจางจนไม่มีสีเลือด สิ่งที่น่าเจ็บปวด เมื่อผู้หญิงคนนั้นเห็นเธอที่เป็นภรรยาของปริญแล้วจะกระดากอายถอยห่างจากสามีของชาวบ้าน แต่ไม่เลย สองมือของหล่อนคนนั้นยังสอดรัดเอาลำตัวและหน้าอกของตัวเองเบียดไปกับผิวแขนของปริญ

ภรรยากระดูกเหล็ก

ภรรยากระดูกเหล็ก

Kaleb Mugnai
4.9

[แนวลูกเด็กน่ารัก+สาวเก่ง+แก้แค้น]ฉวี่ชิงเกอแต่งงานกับฟู่หนานจิ่นมาเป็นเวลา 5 ปี เธอใช้ชีวิตเหมือนแม่บ้าน เธอคิดว่าตัวเองท้องแล้วจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาดีขึ้น แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้มาคือ ข้อตกลงการหย่า เมื่อคลอดลูก ฉวี่ชิงเกอแทบจะไม่รอดเพราะมีคนทำร้าย เธอถึงรู้สํานึก ห้าปีต่อมา เธอกลายเป็น"ท่านประธานฉวี่"แล้วกลับมาแก้แค้น คนที่เคยรังแกเธอต่างก็ได้รับการสั่งสอนอย่างสะหัส และความจริงที่ถูกปิดบังไว้ก็ค่อย ๆ ถูกเปิดเผยออกมาก อดีตสามีคิดจะขอคืนดีกับเธอเหรอ คิดง่ายไปหน่อยไหม? ฟู่หนานจิ่นอ้อนวอน"ที่รัก ลูกต้องการหม่ามี๊ ขอแต่งงานใหม่ได้ไหม?"

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

Odey Jagoe
5.0

เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

โสเภณียอดรัก

โสเภณียอดรัก

อัญญาณี
4.9

ธาริกาทนเห็นน้ำตาของวาติยาแฝดน้องไม่ได้ เธอจึงสลับตัวกับน้องสาว เพื่อมาจัดการ นายราเชนทร์ สามีจอมปลอมของวาติยา ให้รู้ซะบ้างว่า ผู้หญิงไม่ได้อ่อนแอทุกคน ...... “เธอออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้ ไป!” ราเชนทร์ไล่หญิงสาวความโมโห “ไม่ไป แก้วเพิ่งมาจะไล่แก้วไปไหนล่ะคะ คืนนี้แก้วจะทวนความจำให้พี่เชนทร์ รับรองพรุ่งนี้พี่เชนทร์ไม่มีทางไล่แก้วออกจากบ้านแน่นอนค่ะ” “ไป! ฉันบอกให้เธอออกไปจากบ้านของฉัน แม่โสเภณี!” ราเชนทร์เริ่มตัวสั่นเพราะความโกรธ เขาไม่เคยโกรธใครเท่าผู้หญิงคนนี้เลย ทั้งโกรธทั้งเกลียด ทั้งขยะแขยง “คำก็โสเภณี สองคำก็โสเภณี ถามหน่อยเถอะว่าถ้าเมียเป็นโสเภณีแล้วผัวจะเป็นอะไร ก็เป็นแมงดาไง แสดงว่าพี่เชนทร์เป็นแมงดา ส่วนบ้านหลังนี้ก็เป็นซ่อง ” ธาริกาสวนกลับอย่างเจ็บแสบ ทำให้ราเชนทร์ถึงกับอึ้ง ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธ แล้วเดินเข้ามาหาหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างบันได เขาเงื้อมือขึ้นสูงหมายจะตบใบหน้านวล แต่เสียงหวานใสของธาริกาก็ดังขึ้นมาเสียก่อน “ตบสิ คุณตบฉัน ฉันจะตบคุณด้วยรองเท้าข้างนี้ เอาสิ! ตบสิ!” ธาริกาถือรองเท้าส้นสูงสีดำขึ้นเหนือศีรษะ ตั้งท่าจะฟาดกับใบหน้าของเขาทันทีที่เธอถูกทำร้าย ราเชนทร์ไม่คิดว่าวาติยาคนใหม่จะกล้าทำกับเขาแบบนี้ เพราะที่ผ่านมาวาติยาคนเดิมไม่กล้าขึ้นเสียงกับเขา เขาว่าแรงๆ ก็เอาแต่ร้องไห้ แต่วาติยาคนนี้เถียงเขาทุกคำ แถมยังสู้ถ้าหากเขาคิดทำร้ายเธอ ร้ายมาร้ายกลับ...ไม่โกง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ