Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
หมัดรักสังเวียนหัวใจ

หมัดรักสังเวียนหัวใจ

วรนิษฐา / Miss sexy

5.0
ความคิดเห็น
26.1K
ชม
119
บท

‘ดาร์กช็อกโกแลตที่ว่าขม ยังต้องพ่ายแพ้ให้รสจูบที่แสนหวาน’ ---------------------------------------- “ทำไมให้ผมทานนี่ละครับ” กษิดิศเอ่ยถามอย่างสงสัย ไอริสาจึงอธิบายชนิดไม่ตกหล่น “ช็อกโกแลตมีคุณค่าทางโภชนาการ ทำให้คุณมีแรงและตื่นตัว แถมยังเป็นอาหารต้านโรคซึมเศร้า ช่วยแก้เครียดได้ดีในระดับหนึ่ง” ชายหนุ่มฟังไปก็พยักหน้าหงึกหงักไป เวลาที่ไอริสาพูดถึงเรื่องโภชนาการอาหารแต่ละอย่างหญิงสาวมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก และดูเหมือนมีคำพูดของเธอประโยคหนึ่งที่กษิดิศดูจะสนใจเป็นพิเศษ กษิดิศส่งช็อกโกแลตอีกชิ้นเข้าปาก ความอุ่นภายในโพรงปากทำให้ช็อกโกแลตละลาย ความที่อยากให้ไอริสาชิมด้วยจึงรั้งตัวเธอมาจูบ สัมผัสที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของช็อกโกแลตหอมๆ อบอวลอยู่ภายใต้จูบอันอบอุ่น แม้จะเป็นดาร์กช็อกโกแลตที่มีรสขมแต่ตอนนี้มันกลับเปลี่ยนเป็นหอมหวานละมุนละไม ดวงตากลมโตของไอริสากระพริบไปมาหลายครั้งอย่างตกใจก่อนที่จะค่อยๆ หลับลง เธอสัมผัสจูบนี้ด้วยหัวใจ ชายหนุ่มละเล็มริมฝีปากอิ่มอย่างอ่อนโยน เพื่อถ่ายทอดคำว่ารักให้เธอได้สัมผัสและรับรู้ถึงความรู้สึกเขา ช็อกโกแลตค่อยๆ ละลายไปกับการจูบที่กำลังทวีความร้อนแรงขึ้น มือทั้งสองข้างของชายหนุ่มยกขึ้นสัมผัสใบหน้านวลเนียนของคนในอ้อมกอด ไอริสาล่องลอยอยู่ในที่ไหนสักแห่ง เธอรู้สึกเหมือนกำลังบินได้จริงๆ สมองมึนงงไปหมด แถมยังเผลอจูบกษิดิศกลับไปอย่างคนไม่ประสาเสียด้วย นั่นทำให้กษิดิศแทบคลั่ง จากเพียงแค่จูบก็เริ่มสัมผัสปลุกเร้าอารมณ์ให้ลุกโชน ไอริสาหอบหายใจหนักๆ อยู่ในอ้อมกอดคนที่เธอมอบหัวใจให้ กษิดิศไม่อาจยับยั้งความต้องการได้อีกแล้ว ชายหนุ่มช้อนตัวเธอขึ้นมาอุ้ม ก่อนจะเดินกลับไปยังห้องนอนของเขา วางหญิงสาวลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา

บทที่ 1 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

เสียงอื้ออึงของกองเชียร์รอบข้างเริ่มลดน้อยลงไปตั้งแต่เมื่อไหร่ นี่คือคำถามที่เกิดขึ้นกับนักมวยมุมน้ำเงิน ซึ่งกรรมการกำลังนับเพื่อตัดสินใจจะให้เขาชกต่อไปหรือหยุดเพียงแค่นี้ เขามาที่นี่เพื่อเงินรางวัลจากการชนะและเขาก็ได้มาแล้วก้อนหนึ่ง ขณะที่กำลังจะกลับ เสียงที่ได้ยินก็ทำให้เขาหวนกลับขึ้นมาบนเวทีนี้อีกครั้ง เงินรางวัลของผู้ชนะครั้งนี้มากกว่าก้อนแรกที่ได้หลายเท่าตัวนัก

“นับเจ็ด นับแปด…ยังโอเคไหม สติยังอยู่หรือเปล่า” นี่เป็นคำถามจากกรรมการบนเวที นักมวยผู้ถูกนับแปดเป็นครั้งที่สองส่ายศีรษะแรงๆ เพื่อไล่ความมึนงงกับหมัดฮุกขวาของคู่ต่อสู้เมื่อครู่ เขาจะแพ้ตอนนี้ไม่ได้ แพ้ไม่ได้เด็ดขาด

“ไหว ผมยังไหว” เสียงแหบแห้งเอ่ยตอบกรรมการไป แม้จะฟังดูอู้อี้เพราะกัดฟันยางอยู่ก็ตามที ก่อนจะมองไปยังมุมแดงซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ในครั้งนี้ เขาต้องชนะเท่านั้น เพราะคำว่าชนะมาพร้อมด้วยเงินค่าเดิมพัน ที่เขาต้องใช้เพื่ออนาคตของน้องสาวที่รออยู่

“ชก” เมื่อสัญญาณมือจากกรรมการเกิดขึ้น การต่อสู้ครั้งนี้ก็กลับมาเริ่มต้นอีกครั้ง ผู้ชมรอบข้างต่างส่งเสียงเชียร์นักมวยมุมที่ตนเลือกว่าจะได้รับชัยชนะในครั้งนี้ แต่เสียงนับของกรรมการก็ดังขึ้นเป็นครั้งที่สาม เมื่อมุมน้ำเงินถูกหมัดเสยเข้าไปเต็มหน้าจนเซถลาไปยืนพิงเชือก

“นับเจ็ด” ในความคิดของมุมน้ำเงิน ทุกอย่างรอบตัวค่อยๆ เลือนหาย เกิดภาพซ้อนจนมองเห็น ไม่ชัดเจน ตอนนี้รู้สึกได้เพียงว่ารอบข้างนั้นมืดไปหมด ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วยังมีแสงไฟเจิดจ้าอยู่รอบๆ เวทีมวย ตัวเขาเองนั้นแม้สายตาจะเบลอแต่ใจก็สู้ไม่ถอย

“นับแปด” ร่างกายเริ่มโอนเอนแต่ไร้ซึ่งพละกำลังที่จะทรงตัว ขาทั้งสองข้างสั่นเทาด้วยความอ่อนแรง แม้จิตใจอันเข็มแข็งนั้นอยากที่จะสู้ต่อ บอกตัวเองว่าไหวแต่กลับพ่ายแพ้ร่างกายซึ่งกำลังต่อต้าน

“นับเก้า” เสียงตึงเพราะร่างไร้สติล้มกระแทกพื้นเวทีดังไปทั่วบริเวณ แต่ทว่าเสียงตะโกนโห่ร้องของผู้ชมรอบข้างที่ยังไม่อยากให้เกมการแข่งขันครั้งนี้จบลง กลับกลบเสียงนั้นเสียหมด ก่อนจะตามมา ด้วยแรงยุส่งและคำสบประมาทต่อผู้พ่ายแพ้

“ลุกขึ้นสิ ลุกขึ้นสิวะ ไอ้เวรเอ้ย อ่อนฉิบหาย” ผู้ชมข้างเวทีมวยซึ่งอารมณ์ลุกโชนด้วยความไม่พอใจเอ่ยขึ้น คำผรุสวาทนี้ช่างเสียดแทงหัวใจยิ่งนัก

“นับสิบ” เมื่อกรรมการนับสิบนั่นหมายถึงยุติการแข่งขัน ผู้ชนะชูมืออย่างมีชัยท่ามกลางเสียงชื่นชม ผู้คนมากหน้าหลายตาต่างรายล้อมเข้ามาเอ่ยคำยินดี เพราะนั่นหมายถึงพวกเขาชนะพนันในครั้งนี้เช่นกัน ในขณะที่ผู้แพ้นอนราบกับพื้นไร้ซึ่งผู้คนมาสนใจ นานเท่าไหร่ก็ไม่ทราบได้จนกระทั่งสายตาของผู้ชนะที่กำลังเดินลงจากเวทีเหลือบไปเห็นภาพนั้นเข้า

“ทำไมเขายังนอนอยู่ตรงนั้น” เสียงทุ้มเอ่ยถามกับคนที่พาเขามาชกที่นี่ หลังได้ปล่อยหมัด เขาก็รู้สึกผ่อนคลายได้มากกว่าที่คิด

“คงอายที่แพ้ ก็เลยไม่อยากลุกมั้ง” ผู้ได้รับชัยชนะขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจในคำตอบที่ได้ยิน เพราะคู่ชกเขานอนแน่นิ่งเกินไป ก่อนจะก้าวลงจากเวทีจึงเดินเข้าไปหาเพื่อดูอาการ เนื่องจากเอะใจบางอย่าง

“คุณ คุณ!” มือหนาที่แข็งกระด้างจากการชกมวยยื่นไปเขย่าร่างที่นอนฟุบอยู่กับพื้นเวทีแต่ก็ไร้ซึ่งการตอบสนอง เมื่อพลิกตัวให้หงายขึ้นกลับเห็นเลือดสดๆ ไหลออกมาจากจมูกและอีกมากที่ซึมอยู่กับพื้นเวที น้อยคนจะสนใจนักมวยผู้พ่ายแพ้ แต่ถึงอย่างไรนั้นก็ถือว่าโชคดีที่ร่างของผู้ไร้สติยังถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล

“เรย์…กลับกันเถอะค่ะ มากิง่วง เหนื่อยมากด้วย” เสียงๆ หนึ่งเอ่ยขึ้น นั่นคือเสียงของมากิซึ่งเธอนั่งอยู่ข้างๆ เขา ก่อนเกิดเรื่องวุ่นๆ หญิงสาวเห็นว่ากษิดิศเครียดเรื่องที่พ่อพึ่งเสียอย่างกะทันหันจึงชวนมาเที่ยวพักผ่อนซึ่งก็ไม่ได้ไปไหนไกลจากตัวเมืองมากนัก และบังเอิญใกล้ๆ กันนั้นกำลังจัดงานคล้ายงานวัดและมีเวทีมวยให้คนกล้าขึ้นประลองฝีมือ ซึ่งค่าตอบแทนของผู้ชนะในค่ำคืนนี้ก็มากโข มากิรู้ว่ากษิดิศชื่นชอบการชกมวย เขามีฝีมือแต่กลับไม่เคยได้ขึ้นชกจริงๆ สักครั้ง ยามใดที่ชายหนุ่มเครียดเขาก็มักจะออกแรงด้วยการชกมวยกับคู่ต่อสู้จริงๆ ไม่ใช่กระสอบทรายหรือเป้าล่อ

การขึ้นชกครั้งนี้กษิดิศเพิ่มเงินรางวัลให้อีกเท่าตัวแต่กลับไม่มีใครขึ้นชกกับเขา กระทั่งชายคนหนึ่งเดินออกมาและบอกว่าเขาจะขึ้นชกเพื่อเงินรางวัลนั่น มวยคู่ดุดันจึงเริ่มขึ้นยิ่งเงินรางวัลของผู้ชนะมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งดึงดูดผู้ชม การพนันเสี่ยงโชคว่าฝ่ายใครจะชนะในค่ำคืนนี้ก็มีมากขึ้นตามไปด้วย เมื่อได้คู่ชกครบเสียงระฆังข้างเวทีจึงดังขึ้นกษิดิศปล่อยอาวุธแบบไม่ยั้งมือ กระทั่งทุกอย่างมาจบที่หน้าห้องฉุกเฉินแบบนี้

“มากิกลับไปก่อน ผมขอรอดูอาการเขาสักพัก”

“อะไรกันคะ แค่คุณพาเขามาส่งโรงพยาบาล ไม่ปล่อยให้ตายคาเวทีมวยนั่น แค่นี้ก็ดีแค่ไหนแล้ว”น้ำเสียงไม่พอใจของมากิดังขึ้น เธอชักสีหน้าอย่างหงุดหงิด

“มากิ!” น้ำเสียงดุดันและแววตาที่แข็งกร้าวของกษิดิศยามสบตาเธอ ทำให้มากิหน้าเสียทันที กษิดิศไม่เคยทำแบบนี้กับเธอมาก่อน แต่ในเวลานี้ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าเขาไม่เหมือนคนที่เธอเคยรู้จัก

“เอ่อ…งั้นมากิกลับก่อนดีกว่า ไว้พรุ่งนี้มากิจะมาหาเรย์ใหม่นะคะ” มากิยอมถอย น้ำเสียงของเธอฟังดูอ่อนลงมาก

“ไม่ต้อง ผมอยากอยู่คนเดียว” คำตอบแบบไร้เยื้อใยของกษิดิศทำให้มากิคิ้วขมวด และคิดว่าที่เขาพูดแบบนี้ออกมาก็คงเพราะกำลังตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นแต่ความน้อยอกน้อยใจก็ทำให้นางแบบสาวพูดในสิ่งที่ไม่ควรออกไป

“อยากอยู่คนเดียว หมายความว่ายังไง เรย์จะเลิกกับมากิอย่างนั้นเหรอหรือจะโทษว่านี่เป็นความผิดของมากิที่ชวนคุณไปชกมวยที่นั่นจนทำให้ผู้ชายคนนั้นเข้าไอซียูแบบนี้”

“มากิ ตอนนี้ผมไม่มีกะจิตกะใจจะมาคุยเรื่องแบบนี้กับคุณนะ ผมอยากอยู่คนเดียว!” ชายหนุ่มเน้นประโยคหลังชัดเจน หลายวันมานี้เขาต้องพบเจอกับการสูญเสียและในวันนี้เขามัวแต่ทำอะไรอยู่ เขาทำอะไรลงไป

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ วรนิษฐา / Miss sexy

ข้อมูลเพิ่มเติม
สวาทรักนายเหมืองภูภูมิ (ซีรีส์เมียข้าใครอย่าแตะ)

สวาทรักนายเหมืองภูภูมิ (ซีรีส์เมียข้าใครอย่าแตะ)

มหาเศรษฐี

5.0

ภูตะวัน นายหัวแห่งอาณาจักรยางพาราทางปักษ์ใต้ที่จู่ๆ ก็ถูกมารดาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเกย์ ถึงขนาดไหว้วานลูกน้องของชายหนุ่มให้ตามสืบข่าวแต่ก็ถูกจับได้เสมอๆ เมื่อคนใกล้ตัวถูกจับได้จึงต้องส่งคนไกลตัวเข้าไปทำหน้าที่แทน นั่นจึงทำให้ภูตะวันได้พบกับสาวน้อยที่ชื่อว่านับพันดาว หญิงสาวตัวเล็กผมประบ่าแววตาซุกซนและอยากรู้อยากเห็น ที่จู่ๆ ก็ทำให้หัวใจของนายหัวหนุ่มเต้นด้วยจังหวะแปลกๆ เธอมาเพื่อจับผิดเขา แต่ไปๆ มาๆ กลับเป็นมีใจให้กันอย่างไม่รู้ตัว เพราะมีใจจึงปกป้องได้แม้กระทั่งชีวิต "จูบของนับพอจะทำให้พี่ลืมจูบคุณไมค์ได้ไหมคะ" น้ำเสียงกระเส่าเอ่ยถาม "เหมือนจะยังไม่ได้" คนเจ้าเล่ห์ยิ้มตอบแล้วจูบปากอิ่มอย่างดุดันอีกครั้ง เรียวลิ้นของทั้งคู่ตะหวัดหยอกเย้าสลับดูดเม้มอย่างเป็นจังหวะ ทุกอย่างเกิดขึ้นเนิ่นนานก่อนที่ภูตะวันจะถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง ทั้งคู่สบตากันและกันและนั่นก็คือคำตอบโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยอะไร "นับดีใจจังที่ได้รักพี่" นับพันดาวเอ่ยรับพร้อมกับซุกตัวเข้าหาภูตะวันมากขึ้น ชายหนุ่มปัดปอยผมที่ชื้นด้วยเหงื่อออกจากหน้าผากเธอแล้วจุมพิตหนักๆ อย่างเอาใจ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่หยุดแค่นั้น "อย่ารุ่มร่ามนะคะ พอแล้ว" นับพันดาวตีมือที่เริ่มซุกซนของภูตะวันเบาๆ นอกจากบ้ากามแล้วเขายังบ้าพลังอีกด้วย เธอยังไม่ทันหายเหนื่อยเขาก็จะเริ่มใหม่อีกแล้ว "ยังไม่พอ" เขาว่าอย่างติดตลกพลอยทำให้คนฟังค้อน เขาสูบพลังไปจากเธอจนหมดยังจะบอกว่าไม่พออีกหรือไง สำหรับภูตะวันแล้วเซ็กซ์แต่ล่ะวันแต่ล่ะคืนไม่เคยมีคำว่าครั้งเดียว "คนบ้ากาม" คำพูดของนับพันดาวทำให้คนฟังหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ "มีเมียน่ารักแบบนี้ใครที่ไหนจะอดใจไหว" เพราะเขินอายทำให้นับพันดาวทุบแผงอกของภูตะวันไปแรงๆ ก่อนที่เขาจะทำให้เธอครางกระเส่าออกมาอีกครั้ง ซึ่งนับพันดาวก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด จูบที่อ่อนหวานกลายเป็นเร่าร้อนดุดันชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร

 สวาทรักนายหัวภูตะวัน (ซีรีส์เมียข้าใครอย่าแตะ)

สวาทรักนายหัวภูตะวัน (ซีรีส์เมียข้าใครอย่าแตะ)

โรแมนติก

5.0

ภูตะวัน นายหัวแห่งอาณาจักรยางพาราทางปักษ์ใต้ที่จู่ๆ ก็ถูกมารดาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเกย์ ถึงขนาดไหว้วานลูกน้องของชายหนุ่มให้ตามสืบข่าวแต่ก็ถูกจับได้เสมอๆ เมื่อคนใกล้ตัวถูกจับได้จึงต้องส่งคนไกลตัวเข้าไปทำหน้าที่แทน นั่นจึงทำให้ภูตะวันได้พบกับสาวน้อยที่ชื่อว่านับพันดาว หญิงสาวตัวเล็กผมประบ่าแววตาซุกซนและอยากรู้อยากเห็น ที่จู่ๆ ก็ทำให้หัวใจของนายหัวหนุ่มเต้นด้วยจังหวะแปลกๆ เธอมาเพื่อจับผิดเขา แต่ไปๆ มาๆ กลับเป็นมีใจให้กันอย่างไม่รู้ตัว เพราะมีใจจึงปกป้องได้แม้กระทั่งชีวิต "จูบของนับพอจะทำให้พี่ลืมจูบคุณไมค์ได้ไหมคะ" น้ำเสียงกระเส่าเอ่ยถาม "เหมือนจะยังไม่ได้" คนเจ้าเล่ห์ยิ้มตอบแล้วจูบปากอิ่มอย่างดุดันอีกครั้ง เรียวลิ้นของทั้งคู่ตะหวัดหยอกเย้าสลับดูดเม้มอย่างเป็นจังหวะ ทุกอย่างเกิดขึ้นเนิ่นนานก่อนที่ภูตะวันจะถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง ทั้งคู่สบตากันและกันและนั่นก็คือคำตอบโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยอะไร "นับดีใจจังที่ได้รักพี่" นับพันดาวเอ่ยรับพร้อมกับซุกตัวเข้าหาภูตะวันมากขึ้น ชายหนุ่มปัดปอยผมที่ชื้นด้วยเหงื่อออกจากหน้าผากเธอแล้วจุมพิตหนักๆ อย่างเอาใจ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่หยุดแค่นั้น "อย่ารุ่มร่ามนะคะ พอแล้ว" นับพันดาวตีมือที่เริ่มซุกซนของภูตะวันเบาๆ นอกจากบ้ากามแล้วเขายังบ้าพลังอีกด้วย เธอยังไม่ทันหายเหนื่อยเขาก็จะเริ่มใหม่อีกแล้ว "ยังไม่พอ" เขาว่าอย่างติดตลกพลอยทำให้คนฟังค้อน เขาสูบพลังไปจากเธอจนหมดยังจะบอกว่าไม่พออีกหรือไง สำหรับภูตะวันแล้วเซ็กซ์แต่ล่ะวันแต่ล่ะคืนไม่เคยมีคำว่าครั้งเดียว "คนบ้ากาม" คำพูดของนับพันดาวทำให้คนฟังหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ "มีเมียน่ารักแบบนี้ใครที่ไหนจะอดใจไหว" เพราะเขินอายทำให้นับพันดาวทุบแผงอกของภูตะวันไปแรงๆ ก่อนที่เขาจะทำให้เธอครางกระเส่าออกมาอีกครั้ง ซึ่งนับพันดาวก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด จูบที่อ่อนหวานกลายเป็นเร่าร้อนดุดันชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร

สวาทรักพ่อเลี้ยงภูเมฆ (ซีรีส์เมียข้าใครอย่าแตะ)

สวาทรักพ่อเลี้ยงภูเมฆ (ซีรีส์เมียข้าใครอย่าแตะ)

โรแมนติก

5.0

สวาทรักพ่อเลี้ยงภูเมฆ “นี่คุณจะใจดีจ่ายหนี้แทนณดลอย่างนั้นเหรอ” เพราะไม่พอใจกับการตัดสินใจของเภตราทำให้เสียงของภูเมฆนั้นห้วนไม่น่าฟัง “ฉันจ่ายเพื่อซื้ออิสรภาพของตัวเองต่างหากแล้วค่อยไปเอาคืนผู้ชายห่วยๆ นั่น คุณอยากได้เท่าไหร่ก็ว่ามา” มีหรือที่เภตราจะจ่ายหนี้ให้ณดลกลับกันเธอจะเอาคืนอีกฝ่ายให้สาสมต่างหาก “ผมไม่รับเงินสดไม่รับเช็คหรืออะไรทั้งนั้น สิ่งเดียวที่ผมอยากได้คือแรงและเวลา ถ้าคุณทำตัวดีๆ สามสี่ปีก็น่าจะใช้หนี้ผมได้หมด” “แล้วสิ่งที่คุณทำกับฉันเมื่อคืนมันมีค่าเท่าไหร่ ไม่พอใช้หนี้เลยหรือไง” เภตราเอ่ยถามเสียงสั่นพร้อมกับน้ำตาที่จู่ๆ ก็เอ่อออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง ภูเมฆสบตาที่แดงก่ำของเธอแล้วเอ่ยขึ้น “ไม่พอ” คำตอบของเขาช่างแสนเลือดเย็นจนทำให้เภตราจุกไปทั้งอกก่อนจะกล้ำกลืนน้ำตาลงคอ เพราะไม่อยากให้มันไหลออกมาประจานตัวเอง ในเมื่อเขาไม่เห็นค่าของมันเธอไปเก็บมาใส่ใจแล้วจะได้อะไร

ระบำรักคนพาล

ระบำรักคนพาล

โรแมนติก

5.0

งานทำบุญครบร้อยวันยังมาไม่ถึงด้วยซ้ำ แต่จู่ๆ อดีตคนรักของน้องสาวก็ประกาศจะแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่ แถมเธอคนนั้นยังเคยเป็นอดีตคนรักของเขาอีกด้วย นั่นทำให้คริสบินตรงกลับมาที่เมืองไทยเพื่อสะสางความแค้นให้เขาและน้องผู้จากไป +++++++++++++++++ “คุณ” ลลิตาอุทานออกมาอย่างตกใจ เพราะไม่คิดว่าคนที่ยืนกดออดอยู่หน้าบ้านเป็นคริส ชายหนุ่มรู้ได้ยังไงว่าเธออยู่ที่นี่ “ขอเข้าไปหน่อย” แขกที่ไม่ได้รับเชิญเอ่ยบอกแต่เจ้าบ้านสาวกลับไม่ยอมทำตามเช่นกัน “ฉันไม่สะดวก คุณมีอะไรก็พูดมาได้เลย” “แน่ใจหรอกว่าจะให้ผมพูดตรงนี้” “แน่ใจ” ลลิตาเชิดหน้าขึ้นสูง เธอต้องเอาชนะผู้ชายคนนี้ให้ได้ จะไม่ยอมให้เขาเห็นความอ่อนแอแน่นอน “โอเค แน่ใจก็แน่ใจ บังเอิญว่าผมยังเก็บคลิปเซ็กซ์ของเราไว้ดูต่างหน้า” “ว่าอะไรนะ!” คำพูดของคริสทำให้ลลิตารู้สึกเย็นวาบไปถึงตัว เพราะอารมณ์ในตอนนั้นมันพาไปเธอจึงยอมให้เขาถ่ายทุกอย่างเก็บไว้ ไม่คิดว่าวันนึงคลิปบ้าๆ นั่นจะตามมาหลอกหลอนเธอ “ได้ยินชัดแล้วนี่” “แต่ฉันลบมันไปแล้วกับมือ” ลลิตามั่นใจว่าเธอลบคลิปที่ว่ากับมือแล้วทำไมคริสถึงยังมีอีกหรือว่าเขาหลอกให้เธอตายใจ “ลบเสียเมื่อไหร่เพราะก่อนหน้านั้นผมสำรองไฟล์ไว้ดูหลายไฟล์ คิดถูกจริงๆ ที่ทำแบบนั้น” “สารเลว” “นอกจากมีคลิปแล้วผมยังเปิดดูมันบ่อยๆ ด้วยนะ คุณไม่อยากดูบทรักของเราหน่อยเราเหรอ” คริสเอ่ยอย่างไม่ไยดีราวกับเรื่องที่เขาทำนั้นเป็นสิ่งปกติ “คุณมาหาฉันเพื่อเอาคลิปอุบาทว์ๆ นั่นมาขู่อย่างนี้นะเหรอ” “ผมไม่ได้ขู่” “แล้วต้องการอะไร” “วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ช่วยหาเวลาให้ผมหน่อย ขอแค่สามวันเท่านั้น” นั่นคือหนึ่งในแผนที่จะทำลายผู้หญิงตรงหน้าของคริส “ถ้าฉันปฏิเสธล่ะคะ” ลลิตาจ้องตาเขากลับมาอย่างไม่กลัวเช่นกัน “คุณก็น่าจะเดาได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง คลิปในมือผมมันคงทำให้คุณดังกระฉ่อนทีเดียวล่ะ” ชายหนุ่มยิ้มมุมปากพร้อมหัวเราะออกมาเล็กน้อย คำขู่ของเขายังคงได้ผลกับลลิตาเรื่องแบบนี้คนที่เสียหายที่สุดคงเป็นผู้หญิงแบบเธอ “ถ้าคลิปนั่นหลุดขึ้นมา คุณเองก็จะดังกระฉ่อนไปด้วยไม่ใช่หรอ หน้าที่การงานที่คุณโหยหาและสร้างมันของคุณจะพังทลายไปเหมือนกัน” “มันคือเรื่องส่วนตัวฝรั่งเขาไม่แคร์เรื่องนี้หรอกอีกอย่างในคลิปนั้นก็ไม่เห็นหน้าผมด้วยสิ”

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ข้อเสนอหัวใจ

ข้อเสนอหัวใจ

Nichole Venzo
5.0

หนานซ่งเป็นภรรยาที่ดีมาสามปีแล้ว แต่เธอก็ยังไม่สามารถทำให้หยูจินเหวินตกหลุมรักเธอได้ และยังต้องการหย่ากับเธอเพื่อผู้หญิงตีสองหน้าเก่งคนหนึ่งด้วยซ้ำ ช่างเถอะ จะหย่าก็หย่าเลย ฉันไม่เล่นด้วยแล้ว เธอลบร่องรอยของตัวเองทั้งหมด หายไปจากโลกของเขาโดยสิ้นเชิง จากนั้นพลิกผันกลับอย่างสง่างามและกลายเป็นคู่หูในฝันของเขา หนานซ่งมองสามีเก่าของเธออย่างเย็นชา "อยากร่วมมือกับฉันเหรอ คุณเป็นใครกัน" มีผู้ชายจะมีประโยชน์อะไร ฉันจะโดดเด่นคนเดียว ต่อมาหยูจินก็ตามจีบภรรยาเก่าของเขาจากนั้นพบว่า - หัวหน้าแฮ็กเกอร์คือเธอ เชฟชื่อดังระดับนานาชาติคือเธอ หมอระดับนานาชาติชื่อดังคือเธอ ปรมาจารย์การแกะสลักหยกคือเธอ... ล้วนเป็นเธอ! เมื่อเห็นว่าเส้นทางตามจีบภรรยาของเขายิ่งลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ หยูจินเหวินก็สติแตก! คุณมีตัวตนอีกมากเท่าไรที่ฉันไม่รู้? - - หนานซ่ง: ใจเย็นๆ ฉันเก่งในทุกๆ ด้าน ตามจีบต่อเลย

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

Charlton Buccafusco
5.0

ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"

ความลับของท่านประธาน

ความลับของท่านประธาน

ปีศาจชอนซา
5.0

นายพายุ ศิระภาคิณ อายุสามสิบปี นักธุรกิจหนุ่มประธานบริษัทส่งออกผ้าไทย วีรกรรมที่เขาทำไว้เมื่อสิบกว่าปีก่อน กำลังจะย้อนกลับมา เมื่อนางสาวแพรไหม โภสิกุล ดีไซเนอร์สาวอายุยี่สิบเก้าปี ได้ปรากฏตัวขึ้นหลังจากที่เธอนั้นหายออกไปจากมหาวิทยาลัย กว่าสิบปี โดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งทำให้ท่านประธานหนุ่มเริ่มอยากรู้ชีวิตของเธอ เมื่อครั้งหนึ่งเรือนร่างอันบอบบางอรชรเคยหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวกับเขามาแล้ว ถ้าหากเขาต้องการสานสัมพันธ์กับเธออีกครั้ง มันก็ไม่แปลกหากเธอนั้นยังโสดแพรไหมจะยังต้องการเขาอยู่หรือไม่ ในเมื่อเธอคิดว่าพายุนั้นเป็นแค่ผู้ชายที่พรากความบริสุทธิ์ไปจากเธอเท่านั้น ซึ่งเวลานี้เธอก็ยังคงมองเขาในด้านลบอยู่ดี แม้ว่าเวลาจะผ่านไปเป็นสิบปีแล้วก็ตาม "แม่ของหนูชื่ออะไร ตอนนี้อยู่ที่ไหน บอกฉันได้ไหม" พายุถามพร้อมกับจ้องลงไปที่ดวงตาแป๋วของเด็กหญิงตรงหน้า เมื่อเขามั่นใจว่าสายตาจะไม่โกหก "แม่ของหนูชื่อแพรไหม!" เด็กหญิงพูดออกมา พร้อมกับจ้องสายตาคมของผู้เป็นบิดาอย่างไม่กะพริบตา เพื่อยืนยันว่าเธอนั้นไม่ได้โกหก “ฮ่ะ!” พายุอุทานออกมาเสียงดัง ขณะที่หัวใจของเขานั้นเต้นแรง ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจที่สุดในชีวิต "ถ้าคุณไม่เชื่อ พาหนูไปตรวจดีเอ็นเอก็ได้นะคะ" เด็กหญิงพูดออกมาพร้อมกับมีใบหน้าที่เศร้าหม่น เมื่อเธอคิดว่าบิดาคงไม่เชื่อในสิ่งที่เธอนั้นพูดออกมา "ไม่จำเป็น!" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็ง เพื่อยืนกรานที่จะตรวจดีเอ็นเอ จนทำให้คนฟังนั้นหวาดกลัว เพราะใยไหมคิดว่าบิดานั้นไม่เชื่อใจเธอ "หนูขอโทษที่มารบกวน หนูขอตัวกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ" ใยไหมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอยกมือขึ้นไหว้ผู้เป็นบิดาอย่างนอบน้อม ประหนึ่งว่าจะไม่ได้เจอเขาอีกแล้วในชีวิตนี้ เมื่อเธอได้สัญญากับผู้เป็นมารดาเอาไว้ หากถูกปฏิเสธแล้วไซร้ จะขอกลับไปไม่กลับมาหาชายตรงหน้าอีกเลยตราบชั่วชีวิต "แล้วหนูจะไปไหน นั่งลงก่อนสิ" พายุพูดพร้อมกับจับร่างเล็กของลูกสาวนั่งลงข้าง ๆ อีกครั้ง "ที่บอกว่าไม่จำเป็น นั่นเป็นเพราะว่าพ่อเชื่อว่าหนูเป็นลูกของพ่อโดยไม่ต้องตรวจดีเอ็นเอ!" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ใยไหมไม่รอช้าโผเข้าไปกอดผู้เป็นบิดาอีกครั้งในทันที ก่อนจะร้องไห้ออกมาเพราะความดีใจ "ไม่ร้องนะครับคนเก่งของพ่อ" พายุพูดพร้อมทั้งเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาที่แก้มใสของลูกสาวออกจนสิ้น ในขณะที่ตัวของเขาเองก็น้ำตาคลอเช่นกัน "หนูขอเรียกพ่อว่าคุณป๋านะคะ" เสียงเจี๊ยวจ๊าวพูดออกมาอย่างรื่นหู คุณป๋าที่เด็กหญิงพูดนั้น ทำให้พายุอดที่จะหัวเราะออกมาอย่างชอบใจไม่ได้ "ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! ทำไมถึงต้องเรียกพ่อว่าคุณป๋าด้วยละ หืม" พายุเอ่ยถามลูกสาวออกมา ขณะที่เขายังคงกอดเด็กหญิงเอาไว้ ด้วยความรักความผูกพันของสายใยระหว่างพ่อลูก ที่มันพันผูกจนมาสามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ "มาดาม ไม่ชอบให้หนูมีพ่อ หนูก็จะมีคุณป๋าแทนยังไงล่ะคะ" คำตอบของลูกสาวทำให้พายุยิ้มไม่หุบครั้งแล้วครั้งเล่า เธอช่างเป็นเด็กฉลาดและร่าเริง ผิดกับแพรไหมมารดาของเธอ ที่ชอบทำหน้าเหมือนแบกโลกทั้งใบเอาไว้ตลอดเวลา "ทำไมถึงเรียกแม่ว่ามาดาม ตอนนี้แม่แต่งงานไปแล้วหรือยัง" เวลานี้พายุลุ้นคำตอบจากลูกสาว หรือแพรไหมจะแต่งงานกับฝรั่งตาน้ำข้าวไปแล้ว ใยไหมถึงได้เรียกเธอว่ามาดาม "แม่ยังไม่มีใคร มีแค่ลุงดนัยที่ชอบมาข้องแวะ แต่หนูไม่ชอบเขาเลย เพราะเขาชอบทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของมาดามอยู่เรื่อย" คำตอบของลูกสาวช่างอิ่มเอมใจ เมื่อแพรไหมไม่มีใครเขาก็พร้อมจะสานสัมพันธ์ แต่งานนี้คงจะยากหากผู้ชายคนนั้นมาข้องแวะ แต่เขามีลูกสาวที่ยืนเคียงข้างแล้วจะกลัวอะไร "ถ้าพ่ออยากจะจีบแม่ต้องทำยังไง" "โอ้! เจ๋งเป้งมากค่ะคุณป๋า เดี๋ยวหนูจะช่วยเอง" ใยไหมพูดออกมาด้วยความดีใจ นั่นคือสิ่งที่เธอปรารถนามาแสนนาน อยากให้บิดามารดาได้ลงเอยกันสักที "ลูกรับปากพ่อแล้วน๊า... " พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่น่ารัก "แต่เราต้องมาทำข้อตกลงกันก่อนค่ะ คุณป๋า" ใยไหม ผละออกจากอกกว้างของผู้เป็นบิดา พร้อมกับหยิบคุกกี้ตรงหน้าเข้าปาก "หิวหรือยัง ไปทานข้าวก่อนดีไหม" พายุเอ่ยถามออกมาด้วยความห่วงใย เมื่อเห็นลูกสาวนั้นหยิบคุกกี้เข้าปากคำโต "เดี๋ยวค่อยไปทานก็ได้ค่ะ แต่เราต้องมาทำข้อตกลงกันก่อน เรื่องที่หนูเป็นลูกสาวของคุณป๋า ห้ามให้ใครรู้ ทุกอย่างจะเป็นความลับระหว่างเราได้ไหมคะ" พายุทำหน้าสงสัยกลับไปให้เด็กหญิง เธอกำลังคิดจะทำอะไร ใครหลายคนคงดีใจหากได้เป็นลูกสาวของท่านประธาน "ทำไมเป็นลูกสาวพ่อมันไม่ดีตรงไหนเหรอ ลูกถึงไม่อยากให้ใครรู้" พายุเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความน้อยใจ เมื่อลูกสาวไม่อยากให้ใครรับรู้ว่าเขาเป็นบิดาของเธอ "เป็นลูกสาวของป๋าดีที่สุดแล้ว แต่หนูไม่อยากให้ใครมองมาดามในทางไม่ดี ทุกคนต้องรู้แน่ สาเหตุที่มาดามต้องออกจากมหา'ลัยกลางคัน" คำบอกเล่าของใยไหมเป็นเหมือนดังคมหอก ที่ทิ่มแทงเข้ามาในหัวใจของพายุ เด็กหญิงตรงหน้าช่างมีความคิดแบบผู้ใหญ่ เธอถูกเลี้ยงมาแบบไหนทำไมถึงได้ฉลาดอย่างนี้ แพรไหมคงดูแลอบรมลูกสาวมาอย่างดี ต่างจากเขาผู้เป็นบิดาที่ไม่เคยได้เหลียวแล "พ่อขอโทษนะ ที่ไม่เคยได้ดูแลหนูเลย ต่อจากนี้ไปพ่อจะไม่ทิ้งหนูกับแม่ให้อยู่กันตามลำพังอีกแล้ว" คำพูดของผู้เป็นบิดากำลังทำให้เด็กหญิงหัวใจพองโต เธอดีใจที่ผู้เป็นพายุไม่ปฏิเสธ แถมเขายังคิดที่จะสานสัมพันธ์กับมาดามของเธออีกครั้ง คงไม่มีอะไรทำให้เด็กหญิงมีความสุขเท่าสิ่งนี้มาก่อนเลยในชีวิต "ก่อนอื่นคุณป๋า ต้องจีบมาดามให้ติดก่อน หนูบอกเลยว่างานหิน มาดามดื้อจะตาย ขนาดลุงดนัยตามจีบหลายปี มาดามยังปฏิเสธทุกครั้ง แต่ลุงดนัยก็ตื้ออยู่ได้" ใยไหมพูดพร้อมกับทำหน้างอ ออกมาได้อย่างน่ารัก "ป๋ามีลูกสาวคอยช่วยจะกลัวอะไร ไปทานข้าวกันดีกว่า เดี๋ยวป๋าจะไปส่งที่บ้าน" พายุพูดออกมาด้วยสายตาที่มีความหวัง เขาคงไม่ต้องใช้นักสืบ ในเมื่อโชคชะตากำหนดให้หญิงสาวเดินเข้ามาในชีวิตของเขาเอง แถมอยู่ดี ๆ ก็ได้ลูกสาวมาหนึ่งคน ที่น่ารักซะจนทำให้เขานั้นอยากไว้หนวด

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

ข้าคือฮองเฮาที่ฮ่องเต้ไม่รัก

ข้าคือฮองเฮาที่ฮ่องเต้ไม่รัก

เด็กน้อยคว้าฝัน
4.8

เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
หมัดรักสังเวียนหัวใจ
1

บทที่ 1 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

2

บทที่ 2 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

3

บทที่ 3 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

4

บทที่ 4 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

5

บทที่ 5 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

6

บทที่ 6 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

7

บทที่ 7 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

8

บทที่ 8 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

9

บทที่ 9 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

10

บทที่ 10 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

11

บทที่ 11 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

12

บทที่ 12 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

13

บทที่ 13 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

14

บทที่ 14 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

15

บทที่ 15 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

16

บทที่ 16 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

17

บทที่ 17 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

18

บทที่ 18 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

19

บทที่ 19 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

20

บทที่ 20 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

21

บทที่ 21 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

22

บทที่ 22 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

23

บทที่ 23 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

24

บทที่ 24 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

25

บทที่ 25 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

26

บทที่ 26 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

27

บทที่ 27 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

28

บทที่ 28 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

29

บทที่ 29 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

30

บทที่ 30 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

31

บทที่ 31 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

32

บทที่ 32 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

33

บทที่ 33 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

34

บทที่ 34 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

35

บทที่ 35 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

36

บทที่ 36 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

37

บทที่ 37 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

38

บทที่ 38 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

39

บทที่ 39 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024

40

บทที่ 40 หมัดรักสังเวียนหัวใจ

22/02/2024