5.0
ความคิดเห็น
1.8K
ชม
30
บท

สวัสดีค่ะใครจำเพื่อนสนิทของต้องตาในรักติดเรทได้บ้างคะ วันนี้หล่อนกลับมาพร้อมกับผู้ชายที่ขี้เก๊ก หน้านิ่ง หน้าตาย ผีดิบจอมหื่น และอ่อนโยน(มั้ง) ฝากกิ่งมณีกับพี่ขุนพิทักษ์ด้วยนะคะ ทั้งหื่น และฮาไม่แพ้หมอเผือกกับต้องตาเลยค่ะ เรื่องนั้นเขาตรวจเชื้อรา เรื่องนี้เขาจะดำน้ำทะเลไปให้ปลิงดูดเลือดนะคะ ฝากรักติดเรท 2 ด้วยนะคะ

บทที่ 0 บทนำ

“ไอ้บ้า! ถามอะไรก็ไม่ตอบ ไม่รู้เลยว่าพ่อคิดอะไรตอนร่วมหุ้นกับไอ้บ้าเนี่ย!”

ปัง!

วางกระแทกแฟ้มเอกสารบนโต๊ะทำงานของตนแรง ๆ ด้วยความหัวเสีย เมื่อคิดเห็นหน้าของหุ้นส่วนรายใหญ่ของบริษัทตนแล้วก็ทำให้หงุดหงิด

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

เสียงเคาะประตูห้องเรียกเตือนสติของคนอารมณ์ร้อนให้กลับมา ก่อนจะปรับเปลี่ยนสีหน้าเป็นปกติแล้วร้องอนุญาตให้คนหน้าห้องเข้ามาได้

“เชิญค่ะ”

สิ้นคำพูดประตูห้องก็เปิดออกพร้อมกับร่างสูงใหญ่ของหนุ่มเลือดผสมไทย-สเปน เดินหน้านิ่งเข้ามา

“มีอะไรอีกคะคุณขุนพิทักษ์” หล่อนแสร้งเอ่ยถามเสียงนุ่ม ทั้ง ๆ ใจจริงอยากกระชากเสียงถามมากกว่า

คนถูกถามไม่ตอบแต่เดินมาหยุดหน้าโต๊ะทำงานของหญิงสาว กวาดสายตามองข้าวของที่กระจัดกระจายบนโต๊ะก็กระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วก็กลับมาหน้านิ่งเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไร ในมือใหญ่มีของถือติดมาด้วยเขาจึงวางมันบนโต๊ะ

เมื่อได้เห็นว่าคนตัวโตมาเพราะอะไรเจ้าหล่อนก็เลยเอ่ยขอบคุณอีกฝ่าย

“ขอบคุณค่ะ”

หล่อนหยิบผ้าเช็ดหน้าของตนมาใส่ในลิ้นชักทำงานไว้ ด้านคนถูกขอบคุณก็ทำแค่เพียงพยักหน้าแล้วก็เดินจากไป การกระทำของชายหนุ่มทำให้กิ่งมณีฉุนอย่างแรง เมื่อร่างสูงใหญ่ลับประตูหล่อนก็แทบดิ้นพล่านด้วยความอึดอัดที่ทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้

“แค่พูดว่า ‘คุณทำผ้าเช็ดหน้าตก ผมเลยเอามาให้’ พูดแค่นี้จะตายรึไง หา!"

ด้านคนหนุ่มหน้านิ่งเดินออกมาจากห้องสาวเจ้าก็ได้แต่ยิ้มมุมปากเดินล้วงกระเป๋ากางเกงกลับห้องทำงานของตน ชายหนุ่มเป็นเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทขายส่งผลไม้อบแห้ง ขุนพิทักษ์ โลเปซ หรือ ขุน วัย 40 ปี หนุ่มเลือดผสมไทย-สเปน ผิวสีแทน ใบหน้าเคร่งขรึมดูดีในแบบของหนุ่มลูกครึ่ง รูปร่างสูงใหญ่เป็นที่หมายปองของสาวเล็กสาวใหญ่ แต่กับกิ่งมณีแล้ว เขาเป็นสิ่งที่หล่อนรังเกียจก็ว่าได้ ทำไมจะดูไม่ออกว่าเจ้าหล่อนไม่ชอบขี้หน้าเขา

ตึ๊ด! ตึ๊ด! ตึ๊ด!

พอก้าวเท้าเดินออกมาจากห้องกิ่งมณียังไม่ทันได้เปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของตน เสียงสั่นเตือนเครื่องมือสื่อสารในกระเป๋ากางเกงก็ดังขึ้น เขาจึงล้วงออกมาดูว่าใครโทร.มา

“สวัสดีครับคุณน้า”

“สวัสดีพ่อขุน วันนี้มาทานข้าวบ้านน้าไหมลูก” ชาตรีเอ่ยชวนชายหนุ่ม จริง ๆ ก็ไม่ได้อยากเชิญชวนหรอก แต่ภรรยาเขาเขารบเร้าให้ชวนขุนพิทักษ์ไปทานข้าวเย็นที่บ้านด้วย ซึ่งเป็นแบบนี้ประจำเวลาลูกสาวกลับไปค้างบ้าน

“ครับคุณน้า”

ตอบรับเสียงสุภาพก่อนจะวางสายเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋ากางเกงแล้วผลักเปิดประตูห้องทำงานเข้าไป จริงอยู่เขามาอยู่เมืองไทยได้ 6 ปีแล้ว ต้องมาประจำการที่บริษัทส่งออกผลไม้อบแห้งที่พ่อของเขาลงทุนกับเพื่อนสนิทอย่างชาตรี เขาจึงต้องมาอยู่เมืองไทย ส่วนพ่อกับแม่นั้นอยู่สเปน ขุนพิทักษ์จะไปเยี่ยมพวกท่านทุก ๆ สองเดือน

หนึ่งทุ่มครึ่ง กิ่งมณีกลับมาถึงบ้านให้เด็กรับใช้เอาของไปเก็บแล้วเดินไปยังห้องรับประทานอาหาร เมื่อสาวใช้เดินมาบอกว่าทุกคนรอหล่อนที่ห้องรับประทานอาหารครู่ใหญ่แล้ว พอเดินมาถึงก็ต้องเบ้ปากเล็กน้อยแล้วเดินไปนั่งที่ประจำของตน

“สวัสดีค่ะคุณขุนพิทักษ์ ชักจะมาทานข้าวที่บ้านฉันบ่อยเกินไปแล้วนะคะ หรือว่าไม่มีเงินซื้อกินคะ”

เอ่ยทักทายชายหนุ่มอีกคนทันทีเมื่อหย่อนก้นลงนั่งเรียบร้อยดี ด้านคนหน้าตายก็ทำได้แค่เพียงหยักยิ้มให้หล่อนเท่านั้น กิ่งมณียิ่งเดือดเข้าไปใหญ่ เมื่อคำพูดของตนทำอะไรชายหนุ่มไม่ได้

“รักษามารยาทด้วยลูก” กานดาเอ็ดลูกสาวที่นั่งตรงข้ามกับตนพร้อมกับส่งสายตาตำหนิไปให้ ทำให้ขุนพิทักษ์เผลอยิ้มเอ็นดูเจ้าหล่อน แต่ก็แค่เพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น

“ก็มันจริงนี่คะแม่ กิ่งกลับบ้านทีไรก็เจอแต่เขาทุกที แม่นะแม่ จะเชิญเขามาทำไมก็ไม่รู้ นาน ๆ ทีลูกกลับบ้านแม่ก็น่าจะทำให้ลูกกินข้าวอร่อย เจริญหูเจริญตา แต่นี่อะไรเจอที่ทำงานทุกวันก็ว่าเบื่อแล้วยังต้องกลับมาเจอที่บ้านอีก แม่เกดไม่เข้าใจหนูกิ่งเลยค่ะ” หล่อนโต้ตอบกลับพร้อมส่งสายตาเศร้าให้ผู้เป็นแม่

“ไม่ต้องพูดเลย ขอโทษพี่เขาเดี๋ยวนี้ พี่เขาจากบ้านมาไกลต้องมาอยู่ที่แปลก ๆ แม้จะหลายปีแต่พี่เขาก็ต้องคิดถึงบ้าน ครอบครัวเรากับครอบครัวพี่เขาสนิทกันมาก ฉะนั้นครอบครัวเราก็เหมือนครอบครัวเขา ใช่ไหมจ๊ะพ่อขุน” ท้ายประโยคกานดาเอ่ยถามชายหนุ่มลุกครึ่งนั่งนิ่งข้างลูกสาวของตน

“ครับคุณน้า ขอบคุณมาก ๆ นะครับที่เอ็นดูคนไกลบ้านแบบผม”

“แหวะ! ป้าแต้วคะ ตักข้าวค่ะ กิ่งหิวแล้วค่ะ” กิ่งมณีเบื่อจะพูดต่อเลยร้องเรียกแม่บ้านมาตักข้าว

“อย่าถือสาน้องเลยนะคะ น้องยังเด็ก”

“เด็กอะไรกันคุณเกด ลูกสาวเราจะ 31 แล้วนะปีหน้านี้” ชาตรีเอ่ยบ้างหลังจากเป็นผู้ฟังที่ดีมาตลอดการสนทนา

"หึ หึ"

คำพูดของพ่อหญิงสายทำให้ขุนพิทักษ์อดขำในลำคอไม่ได้ และเสียงขำของเขาทำให้คนข้างกายได้ยินตวัดหางตามองด้วยความไม่พอใจ

“คุณพ่ออยู่เงียบ ๆ ก็ได้นะคะ ทำไมต้องพูดเรื่องอายุของลูกด้วยคะ”

กิ่งมณีเอ่ยตัดพ้อผู้เป็นพ่อพร้อมกับก้มหน้าก้มตารับประทานอาหาร เพราะตอนนี้หล่อนอยากหนีกลับขึ้นห้องเหลือเกิน ไม่ชอบเลยสายตาของคนข้างกาย เวลาหล่อนเหลือบมองแล้วสบกับตาคมนั้นมันช่างน่ากลัวพิลึก ทำให้ขนในกายหล่อนลุกชันแปลก ๆ

“กิ่งลูก ตักผัดเต้าหู้ไข่ให้พี่เขาหน่อยสิลูก” กานดาบอกสั่งลูกสาว

กิ่งมณีเงยหน้าขึ้นมองหน้าของผู้เป็นแม่ก็ต้องจำใจทำตาม เพราะสายตาดุ ๆ นั้นเป็นคำสั่งที่หล่อนไม่อาจปฏิเสธได้

“ค่ะแม่เกด” แล้วหล่อนก็ตัดผัดเต้าหู้ไข่ใส่ถั่วงอกให้ชายหนุ่ม

“ขอบคุณครับ” ขุนพิทักษ์เอ่ยขอบคุณหญิงสาวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

แล้วการกินข้าวในค่ำคืนนี้กิ่งมณีก็ได้คอยตักอาหารให้แขกตลอดจนอิ่ม และตามด้วยของหวาน เมื่ออาหารเย็นจบลง สาวเจ้าก็ขอตัวออกไปเดินเล่นริมสระว่ายน้ำเพื่อย่อยอาหาร

ขุนพิทักษ์อยู่คุยกับเจ้าของบ้านข้างในบ้านจนดึก พอท่านทั้งสองบอกง่วงแล้วเขาจึงขอตัวกลับ ระหว่างทางเดินไปยังที่จอดรถเขาก็เหลือบไปเห็นคนตัวเล็กช่างเหน็บแหนมยืนคุยโทรศัพท์อยู่ริมสระว่ายน้ำ เท้าใหญ่จึงเปลี่ยนทิศทางการเดินทันที

“แกไปนอนเถอะตา เดี๋ยวพี่หมอเผือกบอกแกเลิกคบฉัน ข้อหาชวนเมียเขาคุยจนลืมเวลาทำการบ้าน”

“ยัยกิ่งบ้า แค่นี้แหละ”

“อือ!” แล้วก็ตัดสายจากต้องตา พอหมุนตัวจะเดินกลับเข้าไปในบ้านก็ชนเข้ากับร่างสูงใหญ่

“อุ๊ย! อะไรเนี่ย! มายืนอยู่ตรงนี้ทำไมไม่บอกกันบ้าง หา!” หล่อนตะคอกอีกฝ่ายพร้อมกับยกมือขึ้นลูบหน้าผากตนเองแรง ๆ ด้วยความหงุดหงิด

“เกลียดขี้หน้ากันขนาดนั้นเลยเหรอน้องกิ่ง” น้ำเสียงเข้มเอ่ยถาม โดยไม่สนใจคำตะคอกของสาวเจ้า

“ก็เออน่ะสิ! แล้วก็เรียกดิฉันเหมือนอยู่ที่ทำงานด้วยค่ะ เพราะเรา...อะ! อื้อ!”

น้ำคำสาวกลืนหายเข้าไปในลำคอ เมื่อปากหนาฉกลงมาทาบทับ บดจูบจาบจ้วงเอาแต่ใจ มือใหญ่บังคับท้ายทอยสาวไม่ให้เบี่ยงหลบตน เรียวลิ้นร้ายสอดแทรกควานหาความหวานในโพรงปากช่างพูดก่อนจะผละออกมายิ้มเยาะ เมื่อเจ้าหล่อนน้ำตาคลอและเผลอจูบตอบไม่ไร้เดียงสากลับ

เผียะ!

กิ่งมณียกมือขึ้นตวัดใส่หน้าคมคร้ามทันทีเมื่อสติกลับมา แล้วยกมือขึ้นเช็ดถูปากตัวเองแรง ๆ ด้วยความรังเกียจ

“หึ หึ จูบแรกสินะ” ขุนพิทักษ์เอ่ยพลางหันกลับมาจ้องมองใบหน้าที่อาบไปด้วยน้ำตา แล้วยกมือหยาบกร้านเช็ดคราบน้ำตาให้เจ้าหล่อน

“ขอบคุณนะ” แล้วก็เดินจากไป ทำให้คนถูกฉวยโอกาสยืนกำมือแน่นตัวเกร็ง ไม่เข้าใจกับคำพูดของเขาก่อนจะเดินจากไป

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ณิการ์

ข้อมูลเพิ่มเติม
กลืนกิน

กลืนกิน

โรแมนติก

5.0

เกือบหนึ่งพันปีที่เฝ้ามอบถวายชีวิตของตัวเองคอยรับใช้นายท่านนาสูร และเมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือกอนาคตตัวเอง เขากลับเคว้งคว้างเดินไม่ถูก และยิ่งไปกว่านั้นเมื่อโชคชะตาส่งเด็กน้อยตัวเล็กอายุไม่กี่เดือนมาให้เขาได้ดูแล ‘เดหลี’ เขาดูแลเด็กน้อยไม่ต่างจากลูก แม้จะรู้ดีว่าอนาคตเด็กคนนี้จะเปลี่ยนชีวิตของตัวเอง ‘พาที’ นั่งใช้ความคิดอยู่คนเดียวในห้องนั่งเล่นของบ้านที่ตนเองและเดหลีอาศัยอยู่ด้วยกัน เพลานี้เด็กน้อยอายุเจ็ดขวบ เผลอแป๊บเดียวจากเด็กน้อยงอแงเอาแต่ใจ นอนตัวแดงแบเบาะ ตอนนี้รู้ความและขี้อ้อนมาก “คุณพาทีคะ คุณพาทีคะ” “หืม! เด็กน้อย” คนถูกเรียกหันมาหาเจ้าของเสียงเล็กสดใสของหนูน้อยวัยเจ็ดขวบ “แต่งงานคืออะไรคะ?” หนูน้อยเกาะแขนของผู้เปรียบเสมือนพ่อของตนเอง “คือคนสองคนรักกัน แล้วก็แต่งงานกัน เดี๋ยวโตขึ้นเดหลีก็จะเข้าใจเอง” พาทีลูบหัวหนูน้อยหน้ากลมที่แนบแขนตัวเองและกำลังแหงนเงยหน้าขึ้นมองจ้องหน้าตัวเอง เหมือนเขาที่กำลังก้มมองหน้ากลมๆ อ้วนๆ ของหนูน้อย “งั้นโตขึ้นเดหลีจะแต่งงาน และคุณพาทีต้องแต่งงานกับเดหลีด้วยนะคะ” “แต่งงานน่ะแต่งได้ แต่กับฉันไม่ได้เดหลี” “ทำไมไม่ได้คะ เดหลีรักคุณพาที ถ้าไม่แต่งกับคุณพาทีจะให้หนูแต่งกับใครคะ” หนูน้อยเจ็ดขวบตอบอย่างฉะฉาน ทั้งๆ ที่ไม่เข้าใจความหมายของคำว่า ‘รัก’ และ ‘แต่งงาน’ “โตขึ้นเธอจะรู้เองเดหลี ตอนนี้ได้เวลานอนแล้วนะ ไปนอนได้แล้ว เดี๋ยวฉันเอานมร้อนไปให้ดื่มก่อนนอนนะ” “อุ้มค่ะ” หนูน้อยยอมผละแขนสั้นๆ ที่กอดแขนใหญ่ออกมากางให้อีกฝ่ายอุ้มตัวเองกลับห้องนอน พาทียกยิ้มเอ็นดูท่าทางของหนูน้อยแล้วก็ช้อนอุ้มเด็กน้อยขึ้นแนบอกแล้วลุกขึ้นจากโซฟาพาเดินกลับห้องนอนด้วยเวลานี้ดึกมากแล้ว

นาสูร

นาสูร

โรแมนติก

5.0

“อ่ะ...อื้อ” เธอเบิกตากว้างในความมืดสลัวเมื่อรู้ว่าตอนนี้ตัวเองถูกคุกคามยามดึก “ชูว์! ฉันเองเด็กน้อย” เขายกมือมาปิดปากเธอพร้อมบอกให้รู้ว่าคือเขา “คุณนาสูร” “ใช่ ฉันเอง ก็บอกแล้วไงว่าเจอกัน” “ฟ้าอยู่” “เธอไม่ตื่นหรอก” เขาบอกตอบกลับ “แต่ไม่ได้นะคะ เราจะ...” “ทำไมจะไม่ได้ ก็ฉันหิวมาหลายวันแล้วน้อง เธอก็รู้ว่าฉันต้องการเธอมากแค่ไหน” เขารีบบอกสวนกลับโดยที่เธอยังพูดไม่สุดประโยคความ “พรุ่งนี้ฟ้าก็กลับแล้ว” เธอบอกพร้อมดันเขาไปนอนข้างๆ ตัวเองที่ยังมีพื้นที่ว่างอยู่ “ไม่มีพรุ่งนี้ทั้งนั้น ฉันต้องการวันนี้เด็กน้อย ขอเถอะนะ เพื่อนเธอไม่มีทางตื่นถ้าฉันไม่สั่งให้ตื่น เรามามีความสุขกันเถอะนะ ฉันรู้ว่าเธอเองก็โหยหาฉัน” มือใหญ่สอดเข้าไปในใต้ผ้าห่มแล้วบีบเคล้นเต้าของเธอ “อ่ะ...อื้อ คะ...คุณนาสูร ยะ...อย่าทำแบบนี้ค่ะ น้องอาย ถึงฟ้าจะไม่ตื่น แต่ฟ้าก็นอนอยู่ข้างๆ นะคะ” พึ่บ! แล้วผ้าห่มที่เธอแบ่งกันกับเพื่อนห่มนั้นก็ถูกถลกดึงรั้งขึ้นไปคลุมหัวของฟ้าใสทันที --- สวัสดีนักอ่านทุกคนค่ะ ณิการ์ขอฝากรูปเล่มนิยายเรื่อง “นาสูร” ภายใต้นามปากกา “ยักษ์” ด้วยนะคะ เป็นเรื่องราวของยักษ์ที่มาอายุนับพันกว่าปีกับมนุษย์สาวคนหนึ่ง แน่นอนว่าเป็นนิยายแฟนตาซีอีโรติกค่ะเรื่องนี้ “นาสูร” เป็นยักษ์ที่หิวกามมาก กินดุมาก เขาไม่สนใจเนื้อเท่ากับลีลารักบนเตียง และ “พุดซ้อน” ก็สนองตัณหาของเขาได้ดีทีเดียว แล้วเขาทั้งสองจะรักกันได้ยังไง เมื่อทั้งสองต่างแตกต่างกัน มาลุ้นไปกับความรักของยักษ์และมนุษย์ด้วยกันนะคะ

วิวาทรัก

วิวาทรัก

โรแมนติก

5.0

จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคนสองคนไม่เคยเจอกัน ไม่เคยรู้จักกัน แต่ต้องมาแต่งงานกัน แน่นอนว่าการคลุมถุงชนครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะคนแก่ทั้งสองที่ให้คำมั่นสัญญากัน พวกเขาที่เป็นหลานจึงจำต้องแต่งงานกัน "น่านน้ำ" หนุ่มเจ้าของไร่กาแฟ กับสาวมั่น "พิมพ์มาดา" ที่ต้องมาเจอกัน ทั้งสองไม่ใช่คนที่จะเชื่อฟังใครง่ายๆ ต่างคนต่างดื้อ และการคลุมถุงชนครั้งนี้จะต้องไม่เกิดขึ้น แล้วเรื่องราววุ่นวายจึงเกิดขึ้น หนี....ใช่ต้องหนีเท่านั้น....แต่หนีไปไงมาไงมา "รัก" กันได้ไง ที่สำคัญหนีไปหนีมามาเจอพ่อคน "เซ็กส์จัด" ใช่ค่ะว่าที่เจ้าบ่าวของเธอเซ็กส์จัดจนต้องยอมแพ้....และเธอก็ชอบความหื่น ห่าม ถ่อย ของคนที่ชังหน้าแบบไม่รู้ตัว......และน่านน้ำก็หลงเจ้าสาวจอมดื้อแบบไม่ตั้งใจรักเช่นกัน...... ------------ “นายทำบ้าอะไรของนาย” “ลงโทษเมีย” น้ำคำห้วนๆ ตอบกลับทันควัน พร้อมกับจ้องหน้าสวยที่ตอนนี้แสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจในตัวเขาอยู่ในที แล้วเรื่องอะไรเขาต้องสนใจสายตาเกลียดชังที่หล่อนส่งมาให้ด้วยเล่า ในเมื่อพิมพ์มาดาเป็นของเขาและต้องเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นายน่าน” เธอสั่งเสียงแข็งไม่ยอมเช่นกัน พร้อมดิ้นหนีจากแรงกดของบุรุษที่คร่อมเหนือตัวเองอยู่ในตอนนี้ เขาบังคับให้เธอพิงไปกับพนักโซฟาและตัวเขาก็คร่อมกักร่างเธอไว้ โดยมีสองมือใหญ่กดหัวไหล่เธอให้อิงพิงไปกับพนักเก้าอี้ สองมือทุบตีไปกับหน้าอกแกร่งแต่เหมือนกับว่าทุบกำแพงหินผาเจ็บมือเสียแรงเปล่า “ทำไมฉันต้องปล่อยด้วย เธอคิดยังไงถึงไปคบกับไอ้ปลัดธนูนั่นทั้งๆ ที่มีฉันเป็นผัวทั้งคน หรือฉันคนเดียวไม่พอฮึดา” โน้มหน้าลงไปเอ่ยข้างหูเธอพร้อมกับกัดดึงหูเธอแรงๆ ด้วยความโมโห “โอ๊ย! ฉันเจ็บนะไอ้ซาดิสม์!” “ก็กัดให้เจ็บ ถ้าไม่เจ็บจะกัดทำไมวะ บอกฉันมาไปถึงไหนต่อไหนกับมันแล้ว” เงียบ! ปากช่างเจรจาของสาวจอมพยศเม้มแน่นไม่ปริปากตอบเมื่อเขาถาม และนั่นยิ่งกระตุ้นไฟโทสะในอกของน่านน้ำไปใหญ่ “ฉันถามเธออยู่ทำไมไม่ตอบ” เขากระชากเสียงถามเธอดังกว่าเดิม และครั้งนี้ก็บีบหัวไหล่ของเธอที่กดไปกับพนักโซฟาด้วย “เจ็บนะเว้ย! นายมันบ้าไปแล้วนายน่าน นายมันคนซาดิสม์ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ฉันเจ็บ” ทุบตีแขนของเขาให้นำพามือที่บีบหัวไหล่ตัวเองออก ตอนนี้ดวงตาสวยสดใสได้อาบล้นไปด้วยน้ำตาแห่งความเจ็บปวด เมื่อเขาไม่ยอมปล่อยมือจากหัวไหล่แต่เขากลับทำตรงกันข้ามคือบีบแรงกว่าเดิม “ฉันไม่ใจอ่อนกับน้ำตาของผู้หญิงอย่างเธอหรอกนะดา อย่ามาบีบน้ำตาปัญญาอ่อนต่อหน้าฉัน” น้ำเสียงเฉียบขาดเอ่ยขึ้นพร้อมกับผละมือข้างขวามาบีบคางเล็กของเธอให้แหงนเงยเชิดหน้าขึ้นสบตาตนเอง แล้วเขาก็โน้มลงไปบดขยี้ปากอวบอิ่มสีระเรื่อที่เม้มแน่นของหล่อนจริงๆ ในเมื่อไม่ยอมพูดไม่ยอมตอบเขาก็ไม่คิดจะสนใจแล้ว เพราะตอนนี้สิ่งที่ต้องการคือการทำให้พิมพ์มาดาจำ จำว่าร่างกายของหล่อนคือของเขา นายน่านน้ำไม่ใช่ของใครอื่นที่ไหน ผู้ชายหน้าไหนก็ห้ามแตะ เพราะเนี่ยคือสมบัติของเขา ถ้าเขาไม่ยกให้ใครหน้าไหนก็ห้ามพาหล่อนหนี “อ่ะ อื้อ.....

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

Pinkygirl
4.8

ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!

หย่าแล้วก็ไม่ต้องขอคืนดี

หย่าแล้วก็ไม่ต้องขอคืนดี

Chandra Spin
5.0

... ในวันครบรอบแต่งงาน ฮั่วเยี่ยนสือ สามีผู้มั่งคั่งทิ้งเธอไป แล้วหาคนรักแรกของเขา ผู้ชายที่ไม่รักนวลสงวนตัวก็เหมือนสิ่งไร้ค่า ผู้ชายที่เธอเคยอ่อนข้อให้แต่ก็ไม่สนใจเธอ งั้นเธอไม่ต้องการแล้ว จึงขอหย่าทันที ฮั่วเยี่ยนสือไม่สนใจ ซูหว่านหนิงกลับเข้าสู่วงการบันเทิงและเฉิดฉาย รักแรกในอุดมคติชอบแกล้งอ่อนแองั้นเหรอ งั้นก็ให้เธอเผยธาตุแท้จริงให้ทุกคนได้เห็น อดีตสามีที่เป็นคนปากแข็งที่สุด "เมื่อเธอเบื่อแล้วเธอจะกลับมาหาฉัน" แต่ภรรยาที่เคยเต็มใจทำทุกอย่างให้เขานั้นไม่กลับมาอีกแล้ว ไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จในอาชีพเท่านั้น แต่ยังมีคนมากมายมาตามจีบเธออีก ดาราระดับโลกแสดงความรักอย่างแรงกล้า ผู้บริหารบริษัทสื่อพยายามทุกวิถีทางเพื่อทำให้เธอยิ้ม แม้แต่ทายาทเศรษฐีอันดับหนึ่งก็ต้องการเธอเท่านั้น จากนั้นฮั่วเยี่ยนสือเริ่มตระหนก เปลี่ยนจากคนเย็นชากลายเป็นคนที่คอยติดตามไม่ห่าง ใช้ทุกวิถีทางเพื่อตามจีบภรรยา ซูหว่านหนิงไม่แม้แต่จะมอง "เมื่อก่อนคุณเฉยเมยกับฉัน ตอนนี้คุณไม่คู่ควรกับฉันแล้ว" ฮั่วเยี่ยนสือขอร้องเธออย่างบ้าคลั่ง "หนิงหนิง เราแต่งงานใหม่เถอะ" ซูหว่านหนิงแสดงท่าทางหยิ่ง "คุณฮั่ว ฉันไม่เคยกลับไปหาของที่ทิ้งไปแล้ว"

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

Davin Howson
5.0

ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

Arvin Bikoff
5.0

หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
รักติดเรท 2
1

บทที่ 0 บทนำ

08/04/2024

2

บทที่ 1 เคาท์ดาวน์

08/04/2024

3

บทที่ 2 คลอเคลีย 1

08/04/2024

4

บทที่ 3 คลอเคลีย 2

08/04/2024

5

บทที่ 4 เคล้ารัก

08/04/2024

6

บทที่ 5 อยากรับผิดชอบ 1

08/04/2024

7

บทที่ 6 อยากรับผิดชอบ 2

08/04/2024

8

บทที่ 7 สวยบนคาน 1

08/04/2024

9

บทที่ 8 อดีตที่ไม่เคยจำ 1

09/04/2024

10

บทที่ 9 อดีตที่ไม่เคยจำ

09/04/2024

11

บทที่ 10 ขอขึ้นคานแบบมีค่า 1

09/04/2024

12

บทที่ 11 ขอขึ้นคานแบบมีค่า 2

09/04/2024

13

บทที่ 12 ขอขึ้นคานแบบมีค่า 3

09/04/2024

14

บทที่ 13 โสดจะนอนกับใครก็ได้ 1

09/04/2024

15

บทที่ 14 โสดจะนอนกับใครก็ได้ 2

09/04/2024

16

บทที่ 15 ฉันว่าเราหยุดทุกอย่างจะดีกว่า 1

09/04/2024

17

บทที่ 16 ฉันว่าเราหยุดทุกอย่างจะดีกว่า 2

09/04/2024

18

บทที่ 17 ทางไหนลูกคิดว่าดีก็จงเลือกทางนั้น 1

09/04/2024

19

บทที่ 18 ทางไหนลูกคิดว่าดีก็จงเลือกทางนั้น 2

09/04/2024

20

บทที่ 19 อี๋! เสียท่าให้ปลิงทะเลตัวดำอีกแล้ว 1

09/04/2024

21

บทที่ 20 อี๋! เสียท่าให้ปลิงทะเลตัวดำอีกแล้ว 2

09/04/2024

22

บทที่ 21 ซ่านเสียวพิซซ่า

09/04/2024

23

บทที่ 22 ผู้ชายก้นแน่น

09/04/2024

24

บทที่ 23 ฤกษ์สะดวก 1

09/04/2024

25

บทที่ 24 ฤกษ์สะดวก 2

09/04/2024

26

บทที่ 25 อะไรยังไงถึงได้มากับปลิงทะเลน้ำลึก 1

09/04/2024

27

บทที่ 26 อะไรยังไงถึงได้มากับปลิงทะเลน้ำลึก 2

09/04/2024

28

บทที่ 27 ตอนพิเศษ วิวาห์สีเลือด 1

09/04/2024

29

บทที่ 28 ตอนพิเศษ วิวาห์สีเลือด 2

09/04/2024

30

บทที่ 29 พิเศษกว่า ส่องดูปลิงทะเล

09/04/2024