รักร้อนอ้อนพี่สาว

รักร้อนอ้อนพี่สาว

จินต์พิชา

5.0
ความคิดเห็น
1.2K
ชม
30
บท

เพราะอุบัติเหตุทำให้เธอเสียคนรักไปถึงสองคน ใครใครต่างก็กล่าวหาว่าเธอมีดวงกินผัว เธอไม่อยากสูญเสียใครไปอีกแล้วจึงปิดตายหัวใจ และยอมอยู่อย่างเหงาๆ จนกระทั่งชายหนุ่มรุ่นของที่เคยแอบชอบเธอเข้าในชวิวิตอีกครั้ง ความจริงใจของเขาทำให้เธอยอมเปิดใจอีกครั้ง และเขาก็ทำให้เธอตกลงไปในหลุมสวาทอันเร่าร้อนอย่างถอนตัวไม่ขึ้น

บทที่ 1 คืนถิ่น

ฉัตรกล้ายืนมองป้ายยินดีต้อนรับที่ติดอยู่ด้านหน้าโรงเรียนมัธยมประจำอำเภอแห่งหนึ่ง 10 ปีแล้วที่เขาไม่ได้มาเหยียบโรงเรียนแห่งนี้อีกเลย มันคงเป็นเวลาที่นานมากสำหรับใครหลายๆ คนแต่สำหรับชายหนุ่มวัย 27 ปีแล้ว เขาคิดว่ามันเพิ่งผ่านไปไม่นานเขายังจำเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนแห่งนี้ได้ดี แม้จะมาเรียนที่นี่แค่หนึ่งปี แต่ก็มีความทรงจำมากมายเกิดขึ้นที่นี่

วันนี้เขากลับมาอีกครั้งโรงเรียนเก่าอีกครั้ง เพราะทางโรงเรียนจัดงานคืนสู่เหย้าเพื่อหารายได้เป็นทุนการศึกษาให้กับนักเรียนและจ้างอาจารย์ชาวต่างชาติมาสอนเพิ่ม

ชายหนุ่มได้รับการติดต่อจากเพื่อนที่เรียนมัธยมด้วยกันให้มาร่วมงานด้วย ซึ่งนี่ไม่ใช่ปีแรกที่ทางโรงเรียนจัดงานแต่มันเป็นปีแรกที่เขาว่างและกลับมาเย็นถิ่นเก่าอีกครั้ง

“ไอ้กล้านั่นมึงใช่ไหม” เสียงเรียกทำให้ฉัตรกล้าหันไปตามเสียงแล้วเขาก็ยิ้มเมื่อเห็นว่าคนที่เรียนเขานั้นคือเพื่อนสนิทคนหนึ่ง

“เฮ้ย! ไอ้อั๋นไม่ได้เจอกันนานยังหล่อเหมือนเดิมเลยนะมึง” เขารีบเดินเข้าไปกอดณัฐพลเพื่อนรักที่มักจะโทรศัพท์คุยกันอยู่บ่อยๆ แต่ไม่ได้เจอกันมาเกือบจะสองปีแล้ว

“มึงก็ว่าไปกล้า กูยังหล่อไม่ได้เท่าครึ่งของมึงเลย แล้วนี่มาถึงนานหรือยังทำไมไม่เดินเข้าไปทางไหนวะ ไอ้เสกกับไอ้ป๊อบรออยู่ข้างใน”

“กูเพิ่งมาถึงเมื่อกี้นี้ ลงจากรถแล้วก็เพิ่งจะเดินมาถึงหน้าโรงเรียน แล้วมึงล่ะเพิ่งมาถึงเหมือนกันเหรอ”

“กูมาถึงนานแล้วแต่ไปเอาของที่รถมา เข้าข้างในกันเถอะ ตามกูมาทางนี้เลยพวกนั้นกำลังรอมึงอยู่”

ฉัตรกล้าก็เดินตามณัฐพลไปยังสนามฟุตบอลของโรงเรียนซึ่งตอนนี้เต็มไปด้วยโต๊ะเรียงกันอยู่นับร้อยโต๊ะ”

“ได้งานใหญ่เหมือนกันนะ”

“เออปีนี้จัดใหญ่กว่าทุกปีปกติมีโต๊ะแค่ 50 โต๊ะแต่ปีนี้มันครบรอบ 70 ปีของโรงเรียนด้วยก็เลยขายโต๊ะมากหน่อย” ณัฐพลเขาอธิบายให้ฉัตรกล้าฟังเพราะเขาไม่เคยมางานที่โรงเรียนจัดขึ้นเลย

“กูไม่ได้มาที่นี่นานเลยคุณครูเก่าๆ อยู่บ้างไหมวะ”

“ก็พอมีอยู่นะแต่บางคนก็ย้ายไปที่อื่นบ้างเกษียณไปก็มีเยอะเดี๋ยวกูจะพามึงไปเจอครูวิไลก็แล้วกัน กูบอกครูว่ามึงจะมาครูเขาก็เลยอยากจะเจอมึงอยู่เหมือนกัน”

“โอ้โห..แม่วิไลจำกูได้ด้วยเหรอวะ”

“จำได้สิก็มึงมันลูกรักเขาไง เด็กหลังห้องแม่งไม่เคยตั้งใจเรียนแถมหลับตลอดแต่ดันสอบได้คะแนนเต็มวิชาของแก แกก็เลยจำได้นั่นไงครูวิไลอยู่ตรงนั้นพอดีเลย” ณัฐพลรีบเดินนำฉัตรกล้าไปหาครูวิไลที่กำลังยืนต้อนรับศิษย์เก่าอยู่ที่ประตูทางเข้าอีกทาง

“สวัสดีครับครู”

“สวัสดีจ้ะ นี่ใครกันนะ” ครูวิไลขยับแว่นแล้วก็ยิ้มกว้างเมื่อเห็นจำได้รางๆ ว่าผู้ชายคนนี้คือใคร

“โตขึ้นแล้วหล่อขึ้นเยอะเลยนะ นายกล้า”

“ครูจำผมได้เหรอครับ”

“จำได้สิก็เธอมันเด็กที่ชอบหลับในเวลาเรียนแต่พอสอบทีไรก็ทำคะแนนดีตลอดแต่น่าเสียดายที่เรียนแค่ปีเดียวก็ย้ายไปเรียนที่อื่นแล้วเป็นยังไงบ้างสบายดีไหม”

“ผมสบายดีครับละครับ”

“ก็สบายตามอายุ ปีหน้าครูก็จะเกษียณแล้ว”

“ผมนึกว่าครูอายุสัก 50 นะครับ”

“ยังปากหวานเหมือนเดิมเลยนะ”

“ผมพูดจริงนะครับ ครูยังดูไม่แก่เลย”

“เพื่อนเรานี่มันปากหวานจริงๆ นะนายอั๋น”

“ก็มันช่างประจบแบบนี้ไงล่ะครูถึงไม่กล้าดุมัน”

“ก็จริงนะ จะดุทีไรก็ทำประจบทุกที แล้วนี่นึกยังไงถึงมางานนี้ล่ะ ทางโรงเรียนจัดงานมาหลายปีแล้วครูไม่เคยเห็นเธอมาเลยนึกว่าจะลืมโรงเรียนเก่านี้ไปแล้วเสียอีก”

“อีกไม่ได้ลืมหรอกครับผมไม่ค่อยว่าง ก็เลยได้แต่ฝากเงินมาช่วยโรงเรียน”

“ครูรู้ ครูถึงอยากเจอเธอไง ตัวไม่มาแต่ฝากเงินมาทุกปีคุณครูใหม่ๆ ก็อยากจะรู้จักพี่เราเหมือนกันนะ ถ้าพรุ่งนี้ไม่ไปไหนก็มาที่โรงเรียนสิ ครูจะได้แนะนำให้ครูท่านอื่นรู้จัก”

“เอาไว้โอกาสหน้าดีกว่าครับครูผมมีงานต้องทำอีกเยอะเลย”

“อย่างนั้นเหรอไม่เป็นไร เอาไว้โอกาสหน้าคงได้มาเจอ”

“กันผมคงได้มาเจอครูบ่อยๆ ครับ”

“หมายความว่ายังไงจะย้ายกลับมาอยู่ที่นี่เหรอ แล้วจะอยู่กับใครล่ะ” ครูวิไลรู้ว่ายายของชายหนุ่มนั้นเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว

“หรอกครับพอดี ผมต้องมาดูงานก่อสร้างอาคารของโรงเรียนเอกชนในจังหวัดครับ”

“โครงการนั้นหลายร้อยล้านเลย ได้คุมงานโครงการใหญ่ๆ แบบนี้เงินเดือนน่าจะสูงล่ะสิ”

“ก็พอประมาณครับ”

ฉัตรกล้าและณัฐพลไม่ได้คุยต่อเพราะมีแขกคนอื่นเดินเข้ามาครูวิไลก็ต้องรีบไปต้อนรับ

ชายหนุ่มเดินตามณัฐพลไปรวมกลุ่มกับเพื่อนคนอื่นที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว

“ไอ้กล้าโผล่หัวมาได้สักทีนะมึง” เสกสรรทักทายเป็นคนแรก แม้จะไม่เจอกันนานหลายปีแต่เวลาเจอกันสรรพนามที่เรียกก็ยังคงเหมือนเดิม

“ถึงกูจะไม่เคยโผล่หัวมาที่กูก็ส่งเงินมาให้ทุกปีเลยนะ”

“ก็มึงมันรวยนี่หว่า” วสันต์ที่นั่งอยู่ก่อนแล้วพูดขึ้นบ้าง เขารู้ดีว่าฐานะทางบ้านของเพื่อนไม่ธรรมดาเลย

“แล้ววันนี้พวกเรามากันแค่นี้เหรอวะ” ฉัตรกล้ามองเก้าอี้ที่ว่างอีกสี่หัวแล้วถาม

“เออมีกันแค่สี่คนนี่แหละ โต๊ะอื่นเขามีกันเต็ม”

“อ้าว..แล้วคนที่เหลือไปไหน”

“มันก็เหมือนมึงไงส่งแต่เงินมาแต่ตัวไม่เคยมา ยังว่าดีที่ปีนี้มีมึงมาเพิ่มนะ ปีที่แล้วพวกกูมีกันอยู่สามคนอายเขาฉิบหายเลย”

“มึงจะอายทำไมวะ วันหลังมึงก็ชวนผู้หญิงมานั่งด้วยสิ”

“ไม่ล่ะ ขืนพามาที่นี่เดี๋ยวผู้หญิงเขาจะรู้วีรกรรมตอนเด็ก กูไม่อยากให้เขารู้” วสันต์ปฏิเสธ

“ก็มึงเป็นซะอย่างนี้ไงผู้หญิงเขาถึงได้กลัว” ฉัตรกล้าพูดแล้วก็หัวเราะเพราะตอนเรียนวสันต์นั้นเป็นหัวโจกที่สร้างเรื่องไว้มากมายเหลือเกิน

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จินต์พิชา

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

พระชายาสารพัดพิษ

พระชายาสารพัดพิษ

เกาะครีต
5.0

"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

มาชาวีร์
4.5

เมื่อยมทูตหน้าใหม่ดึงวิญญาณมาผิดดวง เพื่อรักษาไว้ซึ่งสมดุลของโลกวิญญาณ หลินลู่ฉีผู้มีปราณมงคลในยุคปัจจุบัน จึงถูกส่งไปยังต่างโลก สวมร่างเด็กน้อยวัยสามขวบ ที่เพิ่งถูกงูกัดตายด้านหลังอารามเต๋า เจ้าอาวาสไม่อาจยอมรับวิญญาณสวมร่างได้ แต่เมื่อขับไล่วิญญาณร้ายออกจากร่างกายไม่ได้ จึงจำเป็นต้องขับไล่คน ออกจากอารามแทน ++++ "อนิจจาวาสนาเด็กน้อยได้ดับสิ้นลงแล้ว จี้คงเตรียมพิธีสวดส่งวิญญาณให้นางเถอะ" นักพรตเฒ่าสั่งการลูกศิษย์ตัวน้อย หันหลังหมายจะเดินกลับไปยังที่พักของตน "ขอรับท่านอาจารย์" จี้คงขานรับคำสั่ง หันไปเตรียมสิ่งของสำหรับทำพิธีสวดส่งวิญญาณผู้ตาย ทว่าผ่านไปเพียงอึดใจเดียว "อ๊ากกก ! มีผี !" เสียงกรีดร้องดังลั่น ร่างเล็ก ๆ ของเขาวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นอาจารย์ "จี้คงมีอะไร" "นะนางลืมตาขอรับท่านอาจารย์" เด็กน้อยชี้นิ้วสั่น ๆ ไปที่ศพบนพื้น "ว่าอย่างไรนะ" นักพรตเฒ่ารีบตรงไปคุกเข่าอยู่ด้านข้างศพ เห็นเปลือกตาของนางขยับไปมา ก่อนจะปรือลืมขึ้นอย่างลำบากยากเย็น "นี่มัน...เป็นไปไม่ได้" รีบคว้าข้อมือของเด็กน้อยมาจับชีพจรดู ดวงตาของนักพรตเฒ่ามืดมนลงในทันที แตะนิ้วทำนายชะตา นี่มันคือการสลับร่างเปลี่ยนวิญญาณ ดึงตัวลูกศิษย์ถอยหลังไปสามก้าว "ผีร้ายตนไหนกล้ามาสวมร่างคนตาย จงออกไปเสีย !" ผีร้ายที่ว่ากำลังมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า จำได้ว่าเธอกำลังขับรถกลับบ้าน ใช่แล้ว เกิดอุบัติเหตุขึ้น มีรถบรรทุกเสียหลัก พุ่งมาชนรถของเธอ จากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบไป ท่าทางเหม่อลอยไร้สติของนางทำนักพรตเฒ่าหวาดระแวงในทันที เตรียมหยิบยันต์ป้องกันภูตผีออกมา ขณะที่เด็กน้อยยกฝ่ามือของตัวเองขึ้นเพ่งมองอย่างประหลาดใจ ดวงตาคู่กลมน้อยกลอกกลิ้งไปมาอย่างสับสน นิ้วมือสั้น ๆ นี่มันอะไร ขยับปลายเท้าเข้าหากัน ขาก็สั้น พลิกฝ่ามือตัวเองไปมา สีหน้าคล้ายคนอยากร้องไห้ นี่มันโลกถล่มใส่หัวของเธอหรืออย่างไรกัน เปรี๊ยะ ! ยันต์ขับไล่ภูตผีถูกปาใส่นางสุดแรง ก่อนที่มันจะปลิวร่อนลงไปกองอยู่บนพื้น ยันต์ไม่เกิดการเผาไหม้ ผีร้ายยังคงอยู่ในร่างกายของเด็กน้อย "เจ้า ๆ ๆ ออกไปจากร่างของนางเดี๋ยวนี้ !" นักพรตเฒ่าชี้นิ้วพร้อมดึงยันต์สายฟ้าฟาดออกมาอีกแผ่น นี่นับเป็นยันต์ที่ทรงพลังที่สุดของเขาแล้ว รีบปาใส่เด็กน้อยสุดแรง เปรี๊ยะ ! ทว่าไร้ผลอยู่ดี... ตาเฒ่านี่เล่นตลกอะไรกัน... [นิยาย3เล่มจบ 252ตอน]

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน

รักซ้ำรอย

รักซ้ำรอย

มาชาวีร์
4.9

“ก่อนทำเรื่องนี้พี่ขอถามน้องภาสักข้อได้ไหม” ธาวิศพูดแล้วก้าวเท้าเข้าไปหาคนบนเตียง “ได้ค่ะ” นิภาก้มหน้ายามตอบ ธาวิศทิ้งสะโพกลงนั่งด้านข้าง พร้อมกับดันปลายคางของหญิงสาวให้ขึ้นมองหน้าเขา “น้องภาเต็มใจใช่ไหม” แววตาของคนถูกถามสั่นระริกไปมา ปากจิ้มลิ้มก็ขยับขึ้นลงเหมือนคนคิดไม่ออกว่าควรตอบอย่างไร “น้องภาพี่ถามว่าเต็มใจใช่ไหม หรือว่าถูกคุณยายบังคับ” คราวนี้ธาวิศเน้นน้ำหนักเสียงมากขึ้นกว่าเดิม “ภาเต็มใจค่ะ” หญิงสาวตอบเขาแล้ว แต่เป็นคำตอบที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจในตัวเอง “ไม่ได้ถูกบังคับแน่นะ” “ค่ะ ภาไม่ได้ถูกบังคับ ภาเต็มใจค่ะพี่ภูมิ” ธาวิศกัดฟันกรอดในคำตอบที่เขาไม่ปรารถนาจะได้ยิน ออกแรงผลักหน้าอกนิภาจนล้มลงไปนอนอยู่บนเตียง ปลดกระดุมเสื้อนอนของตนเองออกทีละเม็ด โดยที่สายตาก็ยังจดจ้องอยู่กับคนตรงหน้า “ระหว่างเรามันจะไม่มีความผูกพันอะไรกันทั้งนั้น เราทำเรื่องนี้ก็เพื่อคุณยาย เสร็จจากนี้ไปพี่ก็จะกลับกรุงเทพฯ ไปใช้ชีวิตกับคนรักของพี่ตามเดิม ภายังรับได้อยู่ใช่ไหม” ชายหนุ่มพูดจบก็ทิ้งเสื้อนอนลงบนพื้น คนบนเตียงก็ยังเม้มริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น คำตอบไม่มาสักทีเขาเลยต้องเลิกคิ้วขึงตาใส่ “ค่ะภารับได้” คำพูดที่เปล่งออกมาช่างเบาหวิว คงไม่ต่างไปจากอารมณ์ของคนพูด “รับได้ก็ดี อย่ามาเรียกร้องอะไรทีหลังก็แล้วกัน ไม่งั้นพี่เอาตายแน่” ธาวิศทาบร่างตัวเองลงบนลำตัวของนิภา มองจุดหมายแรกที่จะเริ่มต้นทำรัก ประทับจูบลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มของหญิงสาว สัมผัสแรกของทั้งคู่ช่างตราตรึงในความรู้สึก จากที่จะจูบเพียงแผ่วเบากลายเป็นแทรกลึกดูดดื่มขึ้นตามอารมณ์ (รักซ้ำรอย)

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
รักร้อนอ้อนพี่สาว
1

บทที่ 1 คืนถิ่น

14/09/2024

2

บทที่ 2 ชอบก็จีบ

14/09/2024

3

บทที่ 3 อยากเห็นเธอยิ้ม

14/09/2024

4

บทที่ 4 รู้สึกเหมือนอกหัก

14/09/2024

5

บทที่ 5 มันก็แค่ความเชื่อ

14/09/2024

6

บทที่ 6 ภารกิจแรก

14/09/2024

7

บทที่ 7 คนนี้จริงจัง

14/09/2024

8

บทที่ 8 ผู้หญิงดวงกินผัว

14/09/2024

9

บทที่ 9 จำไม่ได้

14/09/2024

10

บทที่ 10 ต้อนรับ

14/09/2024

11

บทที่ 11 แก้ตัวไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น

14/09/2024

12

บทที่ 12 ขออยู่คนเดียว

14/09/2024

13

บทที่ 13 คว้าโอกาส

14/09/2024

14

บทที่ 14 ตกใจ

14/09/2024

15

บทที่ 15 ยินดีรับฟัง

14/09/2024

16

บทที่ 16 ต้องใช้ความจริงใจ

14/09/2024

17

บทที่ 17 ไม่อยากเสียใครไปอีก

14/09/2024

18

บทที่ 18 ให้เวลาพอแล้ว nc

14/09/2024

19

บทที่ 19 ความรู้สึกที่ขาดหาย nc

14/09/2024

20

บทที่ 20 ไม่มีสถานะ ขอแค่มีความสุข

14/09/2024

21

บทที่ 21 ต้องซ้ำ จะได้คุ้นเคย nc

14/09/2024

22

บทที่ 22 หลงสวาทเด็ก

14/09/2024

23

บทที่ 23 หิวข้าว

14/09/2024

24

บทที่ 24 โอกาสทอง nc

14/09/2024

25

บทที่ 25 แบบนี้มันอึดอัด

14/09/2024

26

บทที่ 26 อบอุ่น

14/09/2024

27

บทที่ 27 ทุกอย่างมันเร็วไปหมด

14/09/2024

28

บทที่ 28 หรือดวงกินผัวมันจะจริง

14/09/2024

29

บทที่ 29 มันไม่ใช่อุบัติเหตุ

14/09/2024

30

บทที่ 30 ตอนจบ

14/09/2024