บ่วงรักสัญญาร้าย

บ่วงรักสัญญาร้าย

พาวิจิตร

5.0
ความคิดเห็น
9.2K
ชม
246
บท

จุดเริ่มต้นมันเกิดขึ้นจากความผิดพลาด~~ เพียงเพราะแค่เอกสารฉบับเดียวเท่านั้นที่ฉันดันเซ็นผิด!! ใครจะไปคิดว่ามันจะนำพาชีวิตของฉันให้ผกผันอย่างที่ใครก็ไม่อาจจะคาดเดาได้...

บทที่ 1 ตอนที่ 1 ลักพาตัว

อุ๊บ!!

“อี๊ดดดด อ่อย อัน นะ อ่อย อัน”

อึก...อึก!!

“อ่อยยย อันนนนน...~~”

และนั่นก็เป็นภาพความทรงจำสุดท้ายของฉันที่เกิดขึ้น ก่อนที่สติของฉันจะดับวูบไป โดยที่ฉันทำได้เพียงแค่ตั้งคำถามตัวเองในใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับฉัน...

เฮือกกก ~~

“แฮ่ก แฮ่ก แค่ก แค่ก เฮือก...” ทันทีที่ฉันฟื้นคืนสติ ฉันก็รีบหอบเอาอากาศเข้าหายใจให้เต็มปอดอย่างกับคนที่เพิ่งฟื้นขึ้นจากการสำลักน้ำ

"โอ๊ย...มึนหัวจัง" ฉันพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะพยายามรวบรวมสติที่เบลอจากฤทธิ์ยาสลบให้กลับมา

และเมื่อสติสัมปชัญญะของฉันได้ฟื้นคืนตัวจนแทบจะเป็นปกติแล้ว ภาพความทรงจำก่อนที่ตัวเองจะสลบลงไปก็ทำให้ฉันถึงกับเบิกตากว้างขึ้นมาด้วยความตกใจ พร้อมกับออกอาการลุกลี้ลุกลนหลังเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองถูกลักพาตัวมา

"ทะ...ที่ไหน...ที่นี่มันที่ไหน"

ฉันใช้สายตากวาดมองไปทั่วบริเวณโดยรอบจนพบว่าตัวเองได้ถูกจับมายังสถานที่ที่เหมือนกับโกดังเก็บของแห่งหนึ่ง ก่อนที่คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันอย่างอัตโนมัติ พร้อมกับสมองที่พานึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น...

ความทรงจำที่ฉายโชว์เข้ามาในโสตประสาททีละฉากทีละตอนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ได้ฉายภาพหลังจากที่ฉันเลิกงานวันสุดท้ายก่อนหยุดสุดสัปดาห์ ฉันที่ตั้งใจจะไปเดินเล่นหาของกินที่ตลาดนัดใกล้ ๆ ที่ทำงานดั่งที่เคยทำเป็นประจำ อีกทั้งความรู้สึกที่ฉันยังจำได้ดีถึงความอยากกินลูกชิ้นร้านโปรด ความตั้งใจที่มุ่งมั่นตั้งแต่ก่อนเลิกงานทำให้ฉันเดินจ้ำเท้าไปอย่างเร่งรีบ พร้อมกับก้มหน้าหาเศษเหรียญที่อยู่ในกระเป๋าไปพร้อมกัน

โดยไม่ทันได้เอะใจเลยว่า...การเดินไปตลาดนัดของฉันในวันนี้มันจะเป็นเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของฉันไปตลอดกาล...

"เอ...อยู่ไหนน๊า ~~" ฉันงึมงำกับตัวเองหลังจากก้มคว้านหาเศษเงินในกระเป๋าไม่เจอสักที

และในจังหวะเพียงแค่เสี้ยวนาทีนั้นเอง ในขณะที่ฉันกำลังก้ม ๆ เงย ๆ หาเศษเหรียญในกระเป๋าอยู่นั้น ฉันที่ไม่ทันได้คาดคิดว่าวันนี้เส้นทางที่ฉันกำลังเดินไปมันจะมีอันตรายซ่อนอยู่ อีกทั้งยังไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างจนไม่ทันได้สังเกตว่าบัดนี้ที่ข้างกายของฉันได้ถูกเหล่าชายฉกรรจ์ตัวใหญ่ตรงเข้ามาประชิดตัว

"อ่ะ...นี่พวกคุณ" ในขณะที่ฉันกำลังจะออกปากร้องทักออกไปตามสัญชาตญาณการเอาตัวรอดที่รับรู้ได้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น ปากที่ยังไม่ทันได้ส่งเสียงโวยวายหรือกรีดร้องขอความช่วยเหลือใด ๆ ออกไปก็กลับถูกผ้าผืนบางโป๊ะเข้ามาที่ใบหน้า โดยปฏิกิริยาการตอบสนองของร่างกายเจ้ากรรมก็ดันเผลอสูดดมสารที่อยู่บนผ้าผืนนั้นเข้าไปเต็มปอดอย่างไม่รู้ตัว

"อ่ะ...อื้ออออ..." และสิ่งที่ฉันสูดดมเข้าไปนั้นก็ได้ทำให้ฉันถึงกับภาพตัดไปแทบจะในทันที...โดยที่ฉันทำได้แค่ส่งเสียงอู้อี้เป็นสิ่งสุดท้ายอยู่ในลำคอ...

สิ้นกระบวนการทางสมองประมวลภาพเหตุการณ์ที่เกิดจนครบถ้วน ฉันถึงกับหัวใจเต้นสั่นระรัวด้วยความหวาดกลัวทันที ภาพความจำที่ตอกย้ำให้ฉันเข้าใจถึงสถานการณ์คับขันที่ตัวเองกำลังเผชิญอยู่นั้น ส่งผลทำให้ดวงตากลมโตสวยเบิกกว้าง พร้อมกับปากที่ร้องโวยวายลั่นออกไปตามสัญชาตญาณของความกลัวที่เกิดขึ้นของมนุษย์

"กรี๊ดดดดด~~ นะ...นี่พวกนายจับฉันมาทำไม ปล่อยฉันไปนะไอ้พวกบ้า!!” เสียงโหวกเหวกโวยวายของฉันดังขึ้นทันที พร้อมกับตัวเองที่พยายามหยัดตัวลุกขึ้นยืน แต่ทว่า...กลับถูกชายร่างกำยำหน้าถมึงทึงที่ยืนอยู่ไม่ไกลกดไหล่เอาไว้ไม่ให้ขยับได้ดั่งใจปรารถนา

“เหอะ...ฟื้นสักทีนะ ปล่อยให้กูรอได้ตั้งนาน”

และเสียงเยือกเย็นทุ้มกังวานที่ถูกส่งออกมาจากร่างของคนคนหนึ่ง เสียงที่ฟังดูทรงอำนาจอย่างบอกไม่ถูก ช่างเป็นเสียงที่ทำให้ฉันถึงกับเงียบลงแทบจะในทันที

ฉันค่อย ๆ หันหน้ามองไปยังต้นทางของเจ้าของเสียงที่เปล่งออกมาเมื่อครู่ แต่น่าแปลกตรงที่...ทั้งที่แม้ว่าใจของฉันกำลังร้อนรนอยากจะรู้ความจริงถึงเหตุผลที่เขาลักพาตัวฉันมามากแค่ไหน แต่ทว่า...สัญชาตญาณข้างในของฉันมันกลับบอกว่าฉันไม่ควรต่อรองหรือกวนประสาทคนตรงหน้าในเวลานี้

และทันทีที่สมองสั่งการออกมาอย่างนั้น สายตาของฉันก็หลุบมองต่ำอย่างอัตโนมัติทันที โดยไม่ลืมที่จะมองไปยังผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าอย่างระมัดระวัง สายตาของฉันมองตรงเริ่มพินิจพิจารณาตัวตนของเขาไล่จากปลายเท้าขึ้นไปยังศีรษะ ภาพรองเท้าหนังสัตว์ชั้นดีราคาแพงหูฉี่ที่ไขว่ห้างกระดิกเป็นจังหวะอยู่ตรงหน้าทำให้ฉันรู้ได้ทันทีว่าคนคนนี้ต้องเป็นหัวหน้าของพวกคนที่จับตัวฉันมาอย่างแน่นอน

"หึ...อยากเห็นหน้าจังว่าเป็นไอ้ตาถั่วที่ไหนมาจับคนผิดตัวได้เนี้ย...เดี๋ยวแม่จะแจ้งความให้เข็ด" ฉันงึมงำพร้อมกับเลื่อนสายตามองสูงขึ้นไป

แล้วภาพกางเกงสูทสีดำสนิทที่ทาบทับอยู่บนร่าง มันช่างดูรับเข้ากับสัดส่วนของขาอันเรียวยาวคู่นั้นที่กำลังไขว่ห้างอยู่ จนฉันเผลอแอบคิดเอาเองว่า...นี่ขนาดว่าเขายังไม่ยืนเต็มความสูงยังดูหุ่นดีขนาดนี้ ถ้าได้เห็นเขาเต็ม ๆ ตาเขาจะดูดีมากขนาดไหน

(หึ๊ยยยย...มันใช่เวลาไหมเนี้ยยัยลิน...ตั้งสติ ๆ)

และในขณะที่ฉันกำลังสำรวจผู้ชายมาดสุขุมที่นั่งสง่าอยู่ตรงหน้าอยู่นั้น เขาที่เหมือนจะรู้ตัวว่ากำลังถูกฉันพินิจพิจารณาร่างกายของเขาอย่างเสียมารยาท และคงด้วยความไม่พอใจที่ตนเองถูกจับจ้องไม่วางตาแบบนั้น เขาถึงกลับปล่อยพลังเสียงทำลายล้างโสตประสาทใส่หูฉันทันที

“มึงมองพอหรือยัง...ห๊ะ!!” เสียงเข้มที่ตวาดลั่นถึงกับทำให้ฉันสะดุ้งโหยง จนเผลอเงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของเสียงด้วยความตกใจ

(คุณพระคุณเจ้า...หล่อมาก...คนอะไรหล่อวัวตายควายล้ม หล่อลากกระชากมดลูกจริง ๆ หล่อแบบไร้ซึ่งแรงต้านทาน ใบหน้าคมเข้มที่มีสันกรามขึ้นชัดเจน หนวดและเคราที่ขึ้นปกคลุมแบบชายตะวันออกกลาง ช่างรับกับริมฝีปากหยักหนาที่ถ้าหากยกยิ้มขึ้นคงทำให้ผู้หญิงที่ได้เห็นต่างหลอมละลายราบเป็นหน้ากลองแน่ อีกทั้งจมูกที่โด่งขึ้นเป็นสันสวยที่แม้แต่ผู้หญิงอย่างฉันยังต้องอิจฉา โดยเฉพาะดวงตาสีน้ำตาลคาราเมลประกายวาวโรจน์คู่นั้นช่างเข้ากันกับคิ้วหนาทรงสวยเสียเหลือเกิน...แม่เจ้า...นี่ยังไม่รวมความผิวที่ว่าขาวดูสุขภาพดี...เฮ้อออ...ช่างเป็นใบหน้าและรูปร่างที่เป็นดั่งเทพประทานสร้างสรรค์อย่างแท้จริง) ฉันที่มองไปยังคนตรงหน้าตาค้าง พร้อมกับสรรเสริญเขาในใจ

แต่ในขณะที่ฉันกำลังตกตะลึงในความหล่อเหลาของคนตรงหน้าอยู่นั้น ฉันที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวเลยว่า ณ เวลานี้ไม่ใช่แค่ฉันเพียงคนเดียวแล้วเท่านั้นที่ตาค้างตกตะลึงในรูปร่างหน้าตาของเขา แต่ทว่า...ตัวของคนตรงหน้าเองเขาก็กำลังตกตะลึงพรึงเพริดมองตาค้าง หลังจากได้เห็นฉันอย่างเต็มตาไม่ต่างกัน...

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ พาวิจิตร

ข้อมูลเพิ่มเติม
พ่ายเกมสวาท

พ่ายเกมสวาท

โรแมนติก

5.0

เมื่อความเสียใจมันทำให้เธออยากลอง!!! "เรามาลอง...กันไหมค่ะ" ประโยคบ้าระห่ำที่ฉันพูดกับคนแปลกหน้าในคืนนั้น ฉันไม่นึกว่ามันจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของชีวิต... เส้นทางชะตาชีวิตที่เล่นตลก เพราะคำพูดเพียงประโยคเดียว... การโดนทรยศ และ การเจอกันโดยบัญเอิญ จนทำให้เกิดการเดิมพันท้าทายเล่นเกมบ้าๆ กันขึ้นมา โดยที่สาวเจ้าไม่รู้ตัวเลยว่า...มันจะนำพาให้ชีวิตเธอเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล!!! ------------------------------------------------------------------------------------------------ ...เธอจำต้องอยู่ต่อไป หรือ ตายเพื่อชดใช้เวรกรรม...ที่ตัวเองเป็นคนสร้างขึ้น ------------------------------------------------------------------------------------------------ เรื่องย่อ: เอลิซ : หญิงสาวแสนสวยที่แสนซื่อจนถูกคนที่รัก "หักหลัง" จนทำให้ชีวิตของเธอปัดเป๋ และเพียงเพราะเธอแค่ต้องการที่จะประชดชีวิตเท่านั้น แต่การกระทำนั้นก็ดันพาเธอหลงเข้าไปยังเกมสวาทที่เธอเป็นผู้เดิมพัน เซฟ : ชายหนุ่มผู้มั่งคั่งร่ำรวยติดอันดับต้นๆ ของประเทศ เจ้าของธุรกิจทั้งขาวและเทา เบื้องหลังเขาคือมาเฟียอันดับหนึ่ง เขาที่โชคชะตานำพามาให้เจอกับหญิงสาวคนนั้นแถมยังถูกท้าทายจากเกมเดิมพันอันล่อแหลม และมีหรือที่ผู้ชายอย่างเขาจะยอมปฏิเสธ ฝากกดติดตามและเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ ⚠️คำเตือน⚠️ เนื้อเรื่องนี้เหมาะสำหรับคนที่อายุ 18 ปีขึ้นไป มีฉากติดเรท เนื้อหาไม่เหมาะสม ความรุนแรงเพศ และการใช้ภาษา ซึ่งต้องใช้วิจารณญาณในการอ่าน ที่สำคัญเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น!!!

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา

เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา

Roana Javier
4.9

ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

เกาะครีต
4.9

วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม

คุณนายยอมหย่าแล้ว

คุณนายยอมหย่าแล้ว

Calv Momose
4.9

หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
บ่วงรักสัญญาร้าย
1

บทที่ 1 ตอนที่ 1 ลักพาตัว

12/10/2024

2

บทที่ 2 ตอนที่ 2 คนค้ำประกัน

13/10/2024

3

บทที่ 3 ตอนที่ 3 เป็นหนี้ก็ต้องใช้!!

15/10/2024

4

บทที่ 4 ตอนที่ 4 ค้ำประกันให้ผัว!!

15/10/2024

5

บทที่ 5 ตอนที่ 5 ลูกหนี้ตัวจริง

16/10/2024

6

บทที่ 6 ตอนที่ 6 เมียขัดดอก!!

16/10/2024

7

บทที่ 7 ตอนที่ 7 ครอบครัวแตกสลาย

17/10/2024

8

บทที่ 8 ตอนที่ 8 ผู้หญิงคนใหม่ของ...

17/10/2024

9

บทที่ 9 ตอนที่ 9 เล่นชู้!!

18/10/2024

10

บทที่ 10 ตอนที่ 10 เมียที่ถูกต้องตามกฎหมาย

19/10/2024

11

บทที่ 11 ตอนที่ 11 ธาตุแท้!!

23/10/2024

12

บทที่ 12 ตอนที่ 12 อันตราย!!

23/10/2024

13

บทที่ 13 ตอนที่ 13 คุกคาม!!

23/10/2024

14

บทที่ 14 ตอนที่ 14 หนีเอาตัวรอด...

23/10/2024

15

บทที่ 15 ตอนที่ 15 สูญเสียเพื่อปกป้อง

23/10/2024

16

บทที่ 16 ตอนที่ 16 วันที่หลุดพ้น

23/10/2024

17

บทที่ 17 ตอนที่ 17 รู้ใจ

24/10/2024

18

บทที่ 18 ตอนที่ 18 หาเรื่อง!!

25/10/2024

19

บทที่ 19 ตอนที่ 19 ชีวิตใหม่

25/10/2024

20

บทที่ 20 ตอนที่ 20 บริษัท SBTeir

26/10/2024

21

บทที่ 21 ตอนที่ 21 บริษัท DLKK

26/10/2024

22

บทที่ 22 ตอนที่ 22 จุดเปลี่ยน...

28/10/2024

23

บทที่ 23 ตอนที่ 23 ไปใช้หนี้!!

28/10/2024

24

บทที่ 24 ตอนที่ 24 เริ่มต้นสัญญาร้าย

28/10/2024

25

บทที่ 25 ตอนที่ 25 งานแรก'หนึ่งล้าน'

29/10/2024

26

บทที่ 26 ตอนที่ 26 มีคนเล่นตุกติก!!

29/10/2024

27

บทที่ 27 ตอนที่ 27 กลั่นแกล้ง

29/10/2024

28

บทที่ 28 ตอนที่ 28 เล่นกับเหยื่อ

29/10/2024

29

บทที่ 29 ตอนที่ 29 เหยื่อตัวแสบ!!

29/10/2024

30

บทที่ 30 ตอนที่ 30 ถอด...ชิ้นละล้าน

30/10/2024

31

บทที่ 31 ตอนที่ 31 มาถอดตรงนี้

30/10/2024

32

บทที่ 32 ตอนที่ 32 ไม่ใส่จ่ายเพิ่ม!!

30/10/2024

33

บทที่ 33 ตอนที่ 33 ปลุกบางอย่างให้ตื่นขึ้น

31/10/2024

34

บทที่ 34 ตอนที่ 34 จูบลดหนี้

01/11/2024

35

บทที่ 35 ตอนที่ 35 หลับคาอก

01/11/2024

36

บทที่ 36 ตอนที่ 36 อยากเอาทำเมีย

02/11/2024

37

บทที่ 37 ตอนที่ 37 แก้ผ้า!!

02/11/2024

38

บทที่ 38 ตอนที่ 38 ใหญ่เกินไปไหม...

04/11/2024

39

บทที่ 39 ตอนที่ 39 เกือบไป...

04/11/2024

40

บทที่ 40 ตอนที่ 40 ตัวละครลับ...

04/11/2024