Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
น้องเล็กตัวใหญ่

น้องเล็กตัวใหญ่

Xmaniac

5.0
ความคิดเห็น
136
ชม
5
บท

"แล้วพี่ชอบตอนโดนเด็กเอาไหม"

บทที่ 1 น้องเล็กตัวใหญ่ 1

เวลาเกือบหกโมงเย็น

ณ ป้ายรถโดยสารประจำทางหน้าวิทยาลัยเทคโนโลยีและการอาชีพแห่งหนึ่ง จากที่ผู้คนพลุกพล่านในช่วงเย็นหลังเลิกการสอบ ค่อยบางตาลงเพราะวันนี้เป็นวันสอบ งดเว้นการเรียนภาคค่ำ อีกทั้งสายฝนเริ่มโปรยปราย ฟ้าใสเริ่มมืดมัว เมฆก้อนดำทับตะวัน ทำให้แสงสีทองจางหายไปจากขอบฟ้า

ท่ามกลางความเงียบงัน มีร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น เธอสวมเครื่องแบบของระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงหรือ ปวส. ผมสลวยดำขลับถูกรวบตึงไว้เรียบร้อย อวดให้เห็นใบหน้ารูปไข่สวยหวานแต่นัยน์ตาของเธอดูเศร้าเหลือเกิน

ทิชา คือชื่อของหญิงสาวสวยวัยยี่สิบปีผู้นี้ เธอเรียนแผนกการบัญชี ชั้น ปวส.ปีที่สอง และเธอนั่งอยู่ตรงนี้ตั้งแต่สอบเสร็จตอนบ่ายสามโมงครึ่งเพราะนัดกับแฟนหนุ่มที่ชื่อ แทนไท หรือแทน แผนกช่างอิเล็กทรอนิกส์ ชั้น ปวส.ปีที่สองเอาไว้ว่าจะไปกินมื้อเย็นกันหลังสอบ

แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ยังไม่มา...

แทนไทเป็นหนุ่มเนื้อหอม เขาย้ายมาจากกรุงเทพฯ ตอนเข้าชั้น ปวส.ปีที่สอง ด้วยความขาวสูง หน้าตาดี ปากหวาน เลยกลายเป็นหนุ่มฮอตของวิทยาลัยอย่างรวดเร็ว

ทิชาเองก็แอบมองแทนไทเช่นที่สาว ๆ หลายคนแอบมอง เขาเป็นคนเฟรนด์ลี่ ยิ้มเก่ง คุยเก่ง ขี้อ้อน ครบสูตรของผู้ชายเจ้าชู้ที่รู้ว่าจะทำอย่างไรผู้หญิงจึงจะใจอ่อน และทันทีที่เขาเข้ามาจีบ เธอเองก็ตกลงปลงใจอย่างรวดเร็ว

แต่ตลอดมาที่คบหากัน เขามักจะทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ ผลุบ ๆ โผล่ ๆ เวลาอยู่ด้วยกันก็มักจะปิดมือถือ บางทีนัดแล้วก็ไม่มาเสียดื้อ ๆ ก่อนจะหาเหตุผลมาแก้ตัวในคราวนี้ที่เจอกันอยู่ร่ำไป แล้วเธอที่ตั้งธงเอาไว้ว่าจะไม่ใจอ่อนก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับลูกอ้อนเสียทุกที

จริง ๆ แล้วความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ไม่ราบรื่นเอาเสียเลย ทิชาระแคะระคายเข้าหูอยู่เรื่อยว่าเขาแอบไปคบคนโน้นคนนี้ แอบไปกินข้าวกับคนอื่น แต่เมื่อไม่มีหลักฐานและเขาเองก็ไม่ยอมรับ ทั้งยังยืนยันว่ารักเธอเพียงคนเดียว ทิชาก็ไปไหนไม่รอด

แต่บางทีเธอก็เหนื่อย เหนื่อยเหลือเกินที่ต้องมานั่งคิดมากและร้องไห้อยู่คนเดียวบ่อย ๆ อย่างเช่นวันนี้ที่เธอนั่งรอมาเป็นเวลาชั่วโมงกว่าแล้ว แต่ก็ไม่มีแม้เงาของเขา

เพราะคำว่ารักคำเดียว คำคำนั้นมันทำให้หญิงสาวคนหนึ่งที่ทั้งสวย เรียนเก่ง ดูดีเพียบพร้อม กลับต้องกลายเป็นคนโง่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าและไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง

“ขอโทษนะครับ”

เสียงหนึ่งดังขึ้น ทิชาสะดุ้งแล้วรีบหันไปตามเสียงเพราะหวังว่าจะเป็นใบหน้าของคนที่เธอรออยู่

แต่ไม่ใช่...

หากเป็นชายคนหนึ่งที่ตัดผมรองทรงสูงเรียบร้อย ใบหน้าคมเข้ม สวมแว่น จมูกโด่ง ริมฝีปากเต็มอิ่มได้รูปแบบผู้ชาย โดยเฉพาะดวงตาของเขาที่แม้จะมีแว่นตาปกปิด หากแพขนตางอนระยับชนิดผู้หญิงยังอายประดับอยู่มันยังส่งแววหวานมาให้ ยิ่งยามที่เขายิ้ม ลักยิ้มที่สองแก้มนั่นยิ่งมีเสน่ห์และเขากำลังยิ้มให้กับเธอ

เขาอยู่ในชุดเสื้อนักเรียนสีขาว กางเกงสีดำ ซึ่งเป็นเครื่องแบบนักเรียนมัธยมปลายที่อยู่ฝั่งตรงข้ามถนน

“มีอะไรเหรอคะน้อง” ทิชาถามขึ้น กล้าใช้สรรพนามนั้นเพราะคิดว่าอย่างไรเสียเธอที่อยู่ชั้น ปวส.ปีที่สอง จะต้องอายุมากกว่าเด็กมัธยมหกที่โตที่สุด อายุไม่น่าเกินสิบแปดสิบเก้าอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าตัวเขาจะสูงใหญ่มากก็ตาม สูงจนเธอต้องแหงนคอตั้ง ดูแล้วน่าจะสูงกว่าแทนไทแฟนของเธอด้วยซ้ำ

เขาทรุดตัวลงนั่งยอง ๆ ตรงหน้าเธอ กระนั้นความขายาวตัวใหญ่ของเขาก็ทำให้ความสูงของทั้งคู่เกือบจะเท่ากันอยู่แล้ว

“ผมมองมาจากฝั่งโน้นเห็นพี่นั่งนิ่ง ๆ อยู่คนเดียวนานแล้ว ฝนก็ตก พี่ยังไม่ไปไหน ก็เลยเป็นห่วงครับ” เขาพูดแล้วจ้องมองมาที่เธอ ก่อนจะยิ้มจนตาโต ๆ หยีลง ลักยิ้มที่แก้มปรากฎขึ้น เป็นยิ้มที่สดใสเหลือเกินจนทิชาอดจะยิ้มออกมาด้วยไม่ได้

“ขอบคุณนะ แต่พี่ไม่เป็นไรหรอก”

“ทะเลาะกับแฟนเหรอครับ” เขาถามมาตรง ๆ เธออึกอักก่อนตอบออกไป

“เปล่าหรอกค่ะ จริง ๆ นัดกันไว้แต่เขายังไม่มา อาจจะติดธุระอะไรกะทันหัน”

“แต่ถ้าเขาติดธุระก็ควรจะส่งข้อความหรือว่าโทรมาบอกพี่ก่อนนะครับ ไม่ใช่มาปล่อยให้พี่นั่งรออย่างไร้จุดหมายแบบนี้ รอนานแค่ไหนแล้วครับ”

“ก็... ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดี๋ยวพี่ก็กลับแล้ว”

“โทรหาเขาหรือยัง”

“โทรแล้วแต่ติดต่อไม่ได้ค่ะ”

“แฟนพี่นี่ใจร้ายจัง ปล่อยให้ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ น่ารัก ๆ มานั่งรอคนเดียวแบบนี้ได้ยังไง แถมฝนก็ลงเม็ดด้วยเดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก” เขาพูดออกมาและจ้องหน้าเธอตรง ๆ สายตาคม ๆ คู่นั้นทำให้เธอต้องก้มหลบ

“ถ้าพี่เป็นแฟนผม ผมจะไม่มีวันปล่อยให้พี่ต้องเศร้าแบบนี้เลย”

“เอ่อ...” เธออึกอัก ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับสถานการณ์ปุบปับที่เกิดขึ้นข้างหน้านี้ดี

จู่ ๆ ก็มีเด็กมอปลายมาพูดจาแบบนี้ด้วย

พรึ่บ !

ทิชารู้สึกว่ามีอะไรคลุมลงมาบนตัว ก้มลงมองก็พบว่าเป็นเสื้อนักเรียนของอีกฝ่าย เงยหน้ามองเห็นเขายืนขึ้น ท่อนบนเปลือยเปล่าเพราะถอดเสื้อนักเรียนมาคลุมให้เธอ

เพราะเขายืนอยู่ตรงหน้าไม่เกินสองฟุต ระดับสายตาเลยมองเห็นเด่นชัดทั้งแผงอกและหน้าท้อง

เด็กมอปลายมีซิกแพกด้วยเหรอวะ !?

“น้อง เอาเสื้อคืนไปเหอะ” เธอเบือนหน้าหนีแล้วรีบหยิบเสื้อส่งคืนให้ แต่เขาส่ายศีรษะและยิ้มจนตาหยีเช่นเคย

“ผมมีเสื้อนักเรียนหลายตัว ให้พี่ไปสักตัวคงไม่เป็นไร”

“แต่ว่า...”

“เอาเหอะ ฝนกำลังตก พี่ใส่เสื้อขาวแล้วมันเปียก”

เขาก้มลงต่ำมาใกล้ ๆ ใบหน้าของเธอแล้วลดเสียงลง

“เสื้อมันเปียกแล้วมองเห็นเสื้อใน”

เธอพยักหน้าหงึกหงัก อดจะหน้าแดงกับคำพูดของเขาไม่ได้

ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อ รถ SUV เจ็ดที่นั่งก็เข้ามาจอดเทียบที่หน้าป้ายรถ กระจกถูกลดลง แล้วเด็กมอปลายชายอีกสี่ห้าคนในนั้นก็พยายามโผล่หน้าออกมายิ้มแฉ่ง ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว

“เฮ้ยวิน จะไปได้ยังเนี่ย ไอ้พวกนั้นโทรมาเร่งแล้วว่ารอที่สนามฟุตซอล มัวแต่โชว์แมนสาวอยู่นั่นแหละ”

“นี่มึงจะถอดเสื้อถอดผ้าตรงนี้เลยเหรอวะ”

“เฮ้ย พูดอะไรให้เกียรติพี่เขาด้วย” เด็กหนุ่มคนนั้นว่า และพวกเพื่อน ๆ ในรถก็เงียบปากลงทันทีก่อนจะยกมือขึ้นไหว้และประสานเสียง

“ขอโทษค้าบ” ก่อนเขาจะหันมาหาเธออีกครั้ง

“พี่จะกลับบ้านเลยไหม ผมจะไปส่ง”

ทิชาส่ายศีรษะทันทีเพราะเห็นคนเต็มรถ

“ไม่ดีกว่า”

“ไอ้แวนเพื่อนผมมันขับรถคล่อง พ่อให้ขับตั้งแต่อายุสิบห้าเพราะช่วยงานโรงน้ำแข็งที่บ้าน มันโอเค ปลอดภัย” เขาพูดต่อเพราะกลัวว่าเธอจะกังวลเรื่องความปลอดภัย หญิงสาวยิ้ม

“ไม่เป็นไรจ้ะ”

“พี่ยังจะรอเหรอ”

“คือ... ขอนั่งอีกสักพัก เดี๋ยวก็จะไปแล้ว”

เขายืนนิ่งอยู่ชั่วอึดใจเหมือนกำลังชั่งใจอะไรบางอย่าง สุดท้ายก็ยิ้มออกมา ตัดสินใจได้ว่าควรไปจากตรงนี้

“ถ้าพี่ยืนยันอยากจะรอผมก็จะไม่กวนใจ หวังว่าแฟนพี่จะคิดได้และไม่ทำให้พี่เสียใจอีก แต่อยากจะบอกไว้อย่าง ตรงไหนไม่สบายใจพี่ก็ควรเดินออกมานะครับ”

เธอยิ้มและพยักหน้า

“อืม ขอบใจนะ”

“เอาเสื้อผมคลุมหัวไว้ จะได้ไม่เปียกมาก”

เธอพยักหน้าหงึกหงัก เขาเดินกลับไปที่รถแล้วยื่นหน้าออกมาทางหน้าต่าง ส่งยิ้มตาหยี โบกมือให้เธอ และเพื่อน ๆ ของเขาก็ทำตาม

“บ๊ายบายค้าบ พี่คนสวย” ทิชายิ้ม ยกมือขึ้นโบกตอบ

“บ๊ายบายจ้า”

แล้วรถยนต์คันนั้นก็เคลื่อนออกไป ห่างไปเรื่อย ๆ จนลับตา แต่ทิชาเองก็ยังรู้สึกดีกับรอยยิ้มของพวกเขาโดยเฉพาะเจ้าของเสื้อ

เธอหยิบเสื้อนักเรียนตัวใหญ่ที่คลุมกายเอาไว้มาดู

มาวิน ญัศวาหะ

คือชื่อเจ้าของเสื้อ

“ขอบใจนะมาวิน” เธอพูดกับเสื้อ

นั่งอยู่อีกไม่ถึงห้านาทีเธอก็ตัดสินใจเดินออกมาจากตรงนั้น โดยมีคำพูดของเด็กมอปลายตัวใหญ่นั้นก้องอยู่ในหัว

‘ตรงไหนไม่สบายใจพี่ก็ควรเดินออกมา’

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ Xmaniac

ข้อมูลเพิ่มเติม
ขออีกครั้ง (ซีรีส์หลงเมีย)

ขออีกครั้ง (ซีรีส์หลงเมีย)

โรแมนติก

5.0

โปรย : " ขออีกครั้งได้ไหม " " หมายถึงโอกาสเหรอคะ " " ก็ โอกาสด้วย อย่างอื่นด้วย " เธอยิ้ม ขยับเข้าไปหาแล้วกระซิบข้างหูเขาเบา ๆ " อย่างอื่นนี่คืออะไรเหรอคะ " ลมหายใจอุ่น ๆ เป่าลงที่ซอกคอ และเธอตั้งใจแตะริมฝีปากให้ถากบนใบหูของเขา เพียงเท่านั้นเลือดหนุ่มก็เดือดพล่านเหลือเกินแล้ว " พูดได้เหรอ " " ถ้าไม่อยากพูด ทำเลยก็ได้ " ++++++++++++ มาเซ้ นางเอกเราสู้คนค่ะคุณขา หมายเหตุ : แมธธิว พระเอกของเรื่องนี้ เป็นตัวละครหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทจากเรื่อง คุณแสนร้าย , น้องนุ่ง , เล่ห์ร้อน ทุกเรื่องจะมีตัวละครทั้งสี่ปรากฏในเรื่อง แต่เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวข้อง สามารถอ่านแยกกันได้ แต่ถ้าจะให้ม่วนจอยครบสูตรก็ฝากทั้งสี่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ++++++++++++++++++++++++ 4 เรื่อง 4 รส 4 หนุ่ม ดังนี้ 1. คุณแสนร้าย (แสนสราญ + หนึ่งฤทัย) 2. ขออีกครั้ง (แมธธิว + พราวด์ ) 3. น้องนุ่ง (เอกบุรุษ + เขมิรา) 4. เล่ห์ร้อน (เขมมะ + ขนม)

คุณแสนร้าย (ซีรีส์หลงเมีย)

คุณแสนร้าย (ซีรีส์หลงเมีย)

โรแมนติก

5.0

เธอไม่ได้ชอบเบา ๆ หรอก ฉันรู้ดี... โปรย : จากเด็กในบ้านที่มีสัมพันธ์กันลับ ๆ วันหนึ่งเธอตัดสินใจโบยบินไปจากอ้อมอก ตอนนั้นเขาพึ่งรู้หัวใจตัวเอง เขาหวง เขาหึง เขาคิดถึง เขาคลั่งแทบบ้า และจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอคืนมา ! ตัวอย่าง : " คุณแสนมีธุระอะไรคะ " ใบหน้าหล่อเหลาที่เรียบเฉยยกยิ้มมุมปากทันทีที่ได้ยินคำถามนั้น " พูดจาดูห่างเหินจังนะ " " คุณทราบได้ยังไงคะว่าหนึ่งอยู่ที่นี่ " " ก็แค่บังเอิญผ่านมา " " บังเอิญแน่เหรอคะ " " แน่สิ ทำไมล่ะ ที่นี่มันร้านกาแฟที่ลูกค้าที่ไหนจะมาซื้อก็ได้ทั้งนั้น รวมถึงฉันด้วย " " หนึ่งจะปิดร้านแล้วค่ะ " " ใจดำจังนะ ออกมาไม่บอกไม่กล่าว รีบอะไรขนาดนั้น " คราวนี้เธอเงียบ เขาจึงยิงคำถามต่อ " เห็นน้าละมุนบอกว่าวันที่ขนของมีหนุ่มไปรับ " คำพูดนั้นทำให้เธอเชิดหน้าขึ้น " ค่ะ แฟนหนึ่งเอง หนึ่งย้ายมาอยู่กับเขาที่นี่ " เธอเน้นย้ำคำว่า ที่นี่ ให้เขาได้ยินชัด ๆ เขานิ่งไปชั่วขณะก่อนจะยิ้มออกมา " แต่ตอนนี้ร้านดูเงียบ ๆ แฟนไม่อยู่เหรอ " " คุณแสนจะสั่งอะไรไหมคะ ถ้าไม่สั่งหนึ่งขออนุญาตเชิญกลับ เพราะหนึ่งต้องปิดร้าน " " นี่เป็นแม่ค้ายังไงจะไล่ลูกค้าออกจากร้าน ใจร้ายจังนะ " เธอยืนจ้องเขาเขม็ง คิ้วได้รูปขมวดนิด ๆ อย่างหงุดหงิด แสนสราญนึกสนุกที่ได้เห็นท่าทีแข็งกร้าวต่อต้าน และคนสันดานเสียอย่างเขาก็ชอบที่จะเอาชนะเสียด้วยสิ " อยากได้เครื่องดื่ม " " รับอะไรดีคะ " " นมสด " " นมสดไม่มีค่ะ เมนูตามนี้เลย " เธอผายมือไปยังป้ายเมนูไม้แบบมินิมอลน่ารักที่มีรายชื่อเครื่องดื่มอยู่บนนั้น แต่เขาไม่ได้มองตามไปที่นั่น สายตากรุ้มกริ่มจ้องอยู่ที่อกอวบ แม้มีเสื้อยืดสีขาวสกรีนชื่อร้านห่อหุ้มอีกทั้งผ้ากันเปื้อนทับอีกชั้น แต่เธอก็ยังรู้สึกถึงความร้อนผ่าวที่เกิดขึ้นภายในทรวงเพียงถูกเขาจ้อง " มีสิ เต็มปากเต็มคำดีเสียด้วย " หมายเหตุ : คุณแสน พระเอกของเรื่องนี้ เป็นตัวละครหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทจากเรื่อง ขออีกครั้ง , น้องนุ่ง , เล่ห์ร้อน ทุกเรื่องจะมีตัวละครทั้งสี่ปรากฏในเรื่อง แต่เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวข้อง สามารถอ่านแยกกันได้ แต่ถ้าจะให้ม่วนจอยครบสูตรก็ฝากทั้งสี่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ++++++++++++++++++++++++ 4 เรื่อง 4 รส 4 หนุ่ม ดังนี้ 1. คุณแสนร้าย (แสนสราญ + หนึ่งฤทัย) 2. ขออีกครั้ง (แมธธิว + พราวด์ ) 3. น้องนุ่ง (เอกบุรุษ + เขมิรา) 4. เล่ห์ร้อน (เขมมะ + ขนม)

ก็เด็กมันยั่ว Naughty boy

ก็เด็กมันยั่ว Naughty boy

สมัยใหม่

5.0

" ผมใหญ่ครับ " " ใหญ่นี่ ชื่อหรือสรรพคุณคะ " " ก็... ทั้งสองอย่างครับ " +++++++++++++++++++++++++++ " ผมอยากเอาคุณเป็นบ้าเลย " ดวงตาของมิถุนาเบิกกว้างเมื่อได้ยินประโยคนั้น ไม่คิดไม่ฝันว่าเขาจะพูดมันออกมาตรง ๆ อย่างไม่ให้เกียรติเธอแม้แต่นิด " ไอ้โรคจิต หยาบคาย ! " เธอผรุสวาทออกมาทั้งยังพยายามดิ้นรนผลักไสให้ตัวเองหลุดพ้นพันธนาการอันเป็นอ้อมแขนเหนียวแน่นนั้น และแน่นอนว่านอกจากไม่หลุดแล้วเขายังรัดเธอแน่นเข้าไปอีก " ปล่อยฉันนะ ! " " ก็คุณบอกให้ผมพูดเอง " " ใครจะไปรู้ว่าความคิดคุณจะทุเรศลามกขนาดนั้น " " มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ ธรรมชาติสร้างให้สัตว์เพศผู้เพศเมียสมสู่กันเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ ความต้องการทางเพศมันเป็นเรื่องปกติ หรือว่าคุณไม่เคยมีมัน " " ฉันมีคู่หมั้นแล้วและไม่ได้อยากดำรงเผ่าพันธุ์อะไรกับคนแบบคุณ ! " เขาหัวเราะเบา ๆ ต่างกับเธอที่ตาเขียวปั้ด อยากจะยกมือขึ้นตะกายหน้าหล่อ ๆ นั่นแทบบ้า ไอ้คนไร้มารยาท ! " เราไม่ต้องดำรงเผ่าพันธุ์อะไรทั้งนั้น " เขาเริ่มบทสนทนาต่อก่อนโน้มตัวไปกระซิบที่ข้างหูเธอเบา ๆ " แค่เอากันก็พอ " ++++++++++++++++++++++++++++++++++++ " ...แค่อยากจะมาทักทายคนคุ้นเคยเป็นการส่วนตัว " " ฉันไม่ใช่คนคุ้นเคยของนาย " " งั้นคุณเป็นคนคุ้นเคยของผมฝ่ายเดียวก็ได้ " " อย่ามากวนนะ ระวังจะโดนเอาคืน " " ก็เอาสิ จะเอาคืน เอาวัน หรือเอาทั้งวันทั้งคืนเลยก็ได้นะ ผมไม่ติด "

หนังสือที่คุณอาจชอบ

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

Davin Howson
5.0

ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"

สวยเก่งอย่างฉันไม่ง้อคุณหรอก

สวยเก่งอย่างฉันไม่ง้อคุณหรอก

Amye Hochschild
5.0

ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ

รักซ้ำรอย

รักซ้ำรอย

มาชาวีร์
4.9

“ก่อนทำเรื่องนี้พี่ขอถามน้องภาสักข้อได้ไหม” ธาวิศพูดแล้วก้าวเท้าเข้าไปหาคนบนเตียง “ได้ค่ะ” นิภาก้มหน้ายามตอบ ธาวิศทิ้งสะโพกลงนั่งด้านข้าง พร้อมกับดันปลายคางของหญิงสาวให้ขึ้นมองหน้าเขา “น้องภาเต็มใจใช่ไหม” แววตาของคนถูกถามสั่นระริกไปมา ปากจิ้มลิ้มก็ขยับขึ้นลงเหมือนคนคิดไม่ออกว่าควรตอบอย่างไร “น้องภาพี่ถามว่าเต็มใจใช่ไหม หรือว่าถูกคุณยายบังคับ” คราวนี้ธาวิศเน้นน้ำหนักเสียงมากขึ้นกว่าเดิม “ภาเต็มใจค่ะ” หญิงสาวตอบเขาแล้ว แต่เป็นคำตอบที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจในตัวเอง “ไม่ได้ถูกบังคับแน่นะ” “ค่ะ ภาไม่ได้ถูกบังคับ ภาเต็มใจค่ะพี่ภูมิ” ธาวิศกัดฟันกรอดในคำตอบที่เขาไม่ปรารถนาจะได้ยิน ออกแรงผลักหน้าอกนิภาจนล้มลงไปนอนอยู่บนเตียง ปลดกระดุมเสื้อนอนของตนเองออกทีละเม็ด โดยที่สายตาก็ยังจดจ้องอยู่กับคนตรงหน้า “ระหว่างเรามันจะไม่มีความผูกพันอะไรกันทั้งนั้น เราทำเรื่องนี้ก็เพื่อคุณยาย เสร็จจากนี้ไปพี่ก็จะกลับกรุงเทพฯ ไปใช้ชีวิตกับคนรักของพี่ตามเดิม ภายังรับได้อยู่ใช่ไหม” ชายหนุ่มพูดจบก็ทิ้งเสื้อนอนลงบนพื้น คนบนเตียงก็ยังเม้มริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น คำตอบไม่มาสักทีเขาเลยต้องเลิกคิ้วขึงตาใส่ “ค่ะภารับได้” คำพูดที่เปล่งออกมาช่างเบาหวิว คงไม่ต่างไปจากอารมณ์ของคนพูด “รับได้ก็ดี อย่ามาเรียกร้องอะไรทีหลังก็แล้วกัน ไม่งั้นพี่เอาตายแน่” ธาวิศทาบร่างตัวเองลงบนลำตัวของนิภา มองจุดหมายแรกที่จะเริ่มต้นทำรัก ประทับจูบลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มของหญิงสาว สัมผัสแรกของทั้งคู่ช่างตราตรึงในความรู้สึก จากที่จะจูบเพียงแผ่วเบากลายเป็นแทรกลึกดูดดื่มขึ้นตามอารมณ์ (รักซ้ำรอย)

คุณหมอร้ายหวงแหนรัก

คุณหมอร้ายหวงแหนรัก

นศามณี
5.0

"ทำไม นอนกับผมมันแย่ขนาดนั้นเลยหรอคุณถึงได้กลัวว่าผมจะทำอะไรคุณอีก ผมรุนแรงกับคุณหรือยังไง งั้นผมคงต้องรีบทำใหม่เพื่อแก้ตัว" "คุณหมอ!" เมรีญาหันไปจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง พร้อมกับตำหนิเขาในใจที่กล้าพูดเรื่องแบบนั้นออกมาอย่างหน้าไม่อาย "ว่าไง ตอบมาสิว่าผมทำให้คุณไม่ประทับใจหรอถึงต้องตั้งเงื่อนไขบ้าๆ นี้ขึ้นมา" เวทัสถามด้วยค วามโมโห ถ้าเป็นสองข้อแรกเขาพอเข้าใจและรับได้ แต่สำหรับข้อสามต่อให้เขารับปากเธอตอนนี้ในอนาคตเขารู้ตัวดีว่าคนอย่างเขาต้องผิดสัญญาแน่นอน เขาไม่มีทางห้ามใจตัวเองไม่ให้ยุ่งกับเธอได้! "ทำไมคุณมันเข้าใจอะไรยากแบบนี้ ฉันบอกแล้วไงคะว่าฉันไม่อยากนึกถึงเรื่องพวกนั้นอีก" หญิงสาวพยายามอธิบายกับชายหนุ่มด้วยเหตุผล แม้จะรู้ดีว่าคนข้างๆ เริ่มไม่มีเหตุผลกับเธอแล้ว "ผมไม่สัญญา" เวทัสตอบกลับทันทีพร้อมกับสต๊าทรถออกจากโรงแรมด้วยความไม่พอใจ

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ