"แล้วพี่ชอบตอนโดนเด็กเอาไหม"
เวลาเกือบหกโมงเย็น
ณ ป้ายรถโดยสารประจำทางหน้าวิทยาลัยเทคโนโลยีและการอาชีพแห่งหนึ่ง จากที่ผู้คนพลุกพล่านในช่วงเย็นหลังเลิกการสอบ ค่อยบางตาลงเพราะวันนี้เป็นวันสอบ งดเว้นการเรียนภาคค่ำ อีกทั้งสายฝนเริ่มโปรยปราย ฟ้าใสเริ่มมืดมัว เมฆก้อนดำทับตะวัน ทำให้แสงสีทองจางหายไปจากขอบฟ้า
ท่ามกลางความเงียบงัน มีร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น เธอสวมเครื่องแบบของระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงหรือ ปวส. ผมสลวยดำขลับถูกรวบตึงไว้เรียบร้อย อวดให้เห็นใบหน้ารูปไข่สวยหวานแต่นัยน์ตาของเธอดูเศร้าเหลือเกิน
ทิชา คือชื่อของหญิงสาวสวยวัยยี่สิบปีผู้นี้ เธอเรียนแผนกการบัญชี ชั้น ปวส.ปีที่สอง และเธอนั่งอยู่ตรงนี้ตั้งแต่สอบเสร็จตอนบ่ายสามโมงครึ่งเพราะนัดกับแฟนหนุ่มที่ชื่อ แทนไท หรือแทน แผนกช่างอิเล็กทรอนิกส์ ชั้น ปวส.ปีที่สองเอาไว้ว่าจะไปกินมื้อเย็นกันหลังสอบ
แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ยังไม่มา...
แทนไทเป็นหนุ่มเนื้อหอม เขาย้ายมาจากกรุงเทพฯ ตอนเข้าชั้น ปวส.ปีที่สอง ด้วยความขาวสูง หน้าตาดี ปากหวาน เลยกลายเป็นหนุ่มฮอตของวิทยาลัยอย่างรวดเร็ว
ทิชาเองก็แอบมองแทนไทเช่นที่สาว ๆ หลายคนแอบมอง เขาเป็นคนเฟรนด์ลี่ ยิ้มเก่ง คุยเก่ง ขี้อ้อน ครบสูตรของผู้ชายเจ้าชู้ที่รู้ว่าจะทำอย่างไรผู้หญิงจึงจะใจอ่อน และทันทีที่เขาเข้ามาจีบ เธอเองก็ตกลงปลงใจอย่างรวดเร็ว
แต่ตลอดมาที่คบหากัน เขามักจะทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ ผลุบ ๆ โผล่ ๆ เวลาอยู่ด้วยกันก็มักจะปิดมือถือ บางทีนัดแล้วก็ไม่มาเสียดื้อ ๆ ก่อนจะหาเหตุผลมาแก้ตัวในคราวนี้ที่เจอกันอยู่ร่ำไป แล้วเธอที่ตั้งธงเอาไว้ว่าจะไม่ใจอ่อนก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับลูกอ้อนเสียทุกที
จริง ๆ แล้วความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ไม่ราบรื่นเอาเสียเลย ทิชาระแคะระคายเข้าหูอยู่เรื่อยว่าเขาแอบไปคบคนโน้นคนนี้ แอบไปกินข้าวกับคนอื่น แต่เมื่อไม่มีหลักฐานและเขาเองก็ไม่ยอมรับ ทั้งยังยืนยันว่ารักเธอเพียงคนเดียว ทิชาก็ไปไหนไม่รอด
แต่บางทีเธอก็เหนื่อย เหนื่อยเหลือเกินที่ต้องมานั่งคิดมากและร้องไห้อยู่คนเดียวบ่อย ๆ อย่างเช่นวันนี้ที่เธอนั่งรอมาเป็นเวลาชั่วโมงกว่าแล้ว แต่ก็ไม่มีแม้เงาของเขา
เพราะคำว่ารักคำเดียว คำคำนั้นมันทำให้หญิงสาวคนหนึ่งที่ทั้งสวย เรียนเก่ง ดูดีเพียบพร้อม กลับต้องกลายเป็นคนโง่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าและไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง
“ขอโทษนะครับ”
เสียงหนึ่งดังขึ้น ทิชาสะดุ้งแล้วรีบหันไปตามเสียงเพราะหวังว่าจะเป็นใบหน้าของคนที่เธอรออยู่
แต่ไม่ใช่...
หากเป็นชายคนหนึ่งที่ตัดผมรองทรงสูงเรียบร้อย ใบหน้าคมเข้ม สวมแว่น จมูกโด่ง ริมฝีปากเต็มอิ่มได้รูปแบบผู้ชาย โดยเฉพาะดวงตาของเขาที่แม้จะมีแว่นตาปกปิด หากแพขนตางอนระยับชนิดผู้หญิงยังอายประดับอยู่มันยังส่งแววหวานมาให้ ยิ่งยามที่เขายิ้ม ลักยิ้มที่สองแก้มนั่นยิ่งมีเสน่ห์และเขากำลังยิ้มให้กับเธอ
เขาอยู่ในชุดเสื้อนักเรียนสีขาว กางเกงสีดำ ซึ่งเป็นเครื่องแบบนักเรียนมัธยมปลายที่อยู่ฝั่งตรงข้ามถนน
“มีอะไรเหรอคะน้อง” ทิชาถามขึ้น กล้าใช้สรรพนามนั้นเพราะคิดว่าอย่างไรเสียเธอที่อยู่ชั้น ปวส.ปีที่สอง จะต้องอายุมากกว่าเด็กมัธยมหกที่โตที่สุด อายุไม่น่าเกินสิบแปดสิบเก้าอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าตัวเขาจะสูงใหญ่มากก็ตาม สูงจนเธอต้องแหงนคอตั้ง ดูแล้วน่าจะสูงกว่าแทนไทแฟนของเธอด้วยซ้ำ
เขาทรุดตัวลงนั่งยอง ๆ ตรงหน้าเธอ กระนั้นความขายาวตัวใหญ่ของเขาก็ทำให้ความสูงของทั้งคู่เกือบจะเท่ากันอยู่แล้ว
“ผมมองมาจากฝั่งโน้นเห็นพี่นั่งนิ่ง ๆ อยู่คนเดียวนานแล้ว ฝนก็ตก พี่ยังไม่ไปไหน ก็เลยเป็นห่วงครับ” เขาพูดแล้วจ้องมองมาที่เธอ ก่อนจะยิ้มจนตาโต ๆ หยีลง ลักยิ้มที่แก้มปรากฎขึ้น เป็นยิ้มที่สดใสเหลือเกินจนทิชาอดจะยิ้มออกมาด้วยไม่ได้
“ขอบคุณนะ แต่พี่ไม่เป็นไรหรอก”
“ทะเลาะกับแฟนเหรอครับ” เขาถามมาตรง ๆ เธออึกอักก่อนตอบออกไป
“เปล่าหรอกค่ะ จริง ๆ นัดกันไว้แต่เขายังไม่มา อาจจะติดธุระอะไรกะทันหัน”
“แต่ถ้าเขาติดธุระก็ควรจะส่งข้อความหรือว่าโทรมาบอกพี่ก่อนนะครับ ไม่ใช่มาปล่อยให้พี่นั่งรออย่างไร้จุดหมายแบบนี้ รอนานแค่ไหนแล้วครับ”
“ก็... ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดี๋ยวพี่ก็กลับแล้ว”
“โทรหาเขาหรือยัง”
“โทรแล้วแต่ติดต่อไม่ได้ค่ะ”
“แฟนพี่นี่ใจร้ายจัง ปล่อยให้ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ น่ารัก ๆ มานั่งรอคนเดียวแบบนี้ได้ยังไง แถมฝนก็ลงเม็ดด้วยเดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก” เขาพูดออกมาและจ้องหน้าเธอตรง ๆ สายตาคม ๆ คู่นั้นทำให้เธอต้องก้มหลบ
“ถ้าพี่เป็นแฟนผม ผมจะไม่มีวันปล่อยให้พี่ต้องเศร้าแบบนี้เลย”
“เอ่อ...” เธออึกอัก ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับสถานการณ์ปุบปับที่เกิดขึ้นข้างหน้านี้ดี
จู่ ๆ ก็มีเด็กมอปลายมาพูดจาแบบนี้ด้วย
พรึ่บ !
ทิชารู้สึกว่ามีอะไรคลุมลงมาบนตัว ก้มลงมองก็พบว่าเป็นเสื้อนักเรียนของอีกฝ่าย เงยหน้ามองเห็นเขายืนขึ้น ท่อนบนเปลือยเปล่าเพราะถอดเสื้อนักเรียนมาคลุมให้เธอ
เพราะเขายืนอยู่ตรงหน้าไม่เกินสองฟุต ระดับสายตาเลยมองเห็นเด่นชัดทั้งแผงอกและหน้าท้อง
เด็กมอปลายมีซิกแพกด้วยเหรอวะ !?
“น้อง เอาเสื้อคืนไปเหอะ” เธอเบือนหน้าหนีแล้วรีบหยิบเสื้อส่งคืนให้ แต่เขาส่ายศีรษะและยิ้มจนตาหยีเช่นเคย
“ผมมีเสื้อนักเรียนหลายตัว ให้พี่ไปสักตัวคงไม่เป็นไร”
“แต่ว่า...”
“เอาเหอะ ฝนกำลังตก พี่ใส่เสื้อขาวแล้วมันเปียก”
เขาก้มลงต่ำมาใกล้ ๆ ใบหน้าของเธอแล้วลดเสียงลง
“เสื้อมันเปียกแล้วมองเห็นเสื้อใน”
เธอพยักหน้าหงึกหงัก อดจะหน้าแดงกับคำพูดของเขาไม่ได้
ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อ รถ SUV เจ็ดที่นั่งก็เข้ามาจอดเทียบที่หน้าป้ายรถ กระจกถูกลดลง แล้วเด็กมอปลายชายอีกสี่ห้าคนในนั้นก็พยายามโผล่หน้าออกมายิ้มแฉ่ง ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว
“เฮ้ยวิน จะไปได้ยังเนี่ย ไอ้พวกนั้นโทรมาเร่งแล้วว่ารอที่สนามฟุตซอล มัวแต่โชว์แมนสาวอยู่นั่นแหละ”
“นี่มึงจะถอดเสื้อถอดผ้าตรงนี้เลยเหรอวะ”
“เฮ้ย พูดอะไรให้เกียรติพี่เขาด้วย” เด็กหนุ่มคนนั้นว่า และพวกเพื่อน ๆ ในรถก็เงียบปากลงทันทีก่อนจะยกมือขึ้นไหว้และประสานเสียง
“ขอโทษค้าบ” ก่อนเขาจะหันมาหาเธออีกครั้ง
“พี่จะกลับบ้านเลยไหม ผมจะไปส่ง”
ทิชาส่ายศีรษะทันทีเพราะเห็นคนเต็มรถ
“ไม่ดีกว่า”
“ไอ้แวนเพื่อนผมมันขับรถคล่อง พ่อให้ขับตั้งแต่อายุสิบห้าเพราะช่วยงานโรงน้ำแข็งที่บ้าน มันโอเค ปลอดภัย” เขาพูดต่อเพราะกลัวว่าเธอจะกังวลเรื่องความปลอดภัย หญิงสาวยิ้ม
“ไม่เป็นไรจ้ะ”
“พี่ยังจะรอเหรอ”
“คือ... ขอนั่งอีกสักพัก เดี๋ยวก็จะไปแล้ว”
เขายืนนิ่งอยู่ชั่วอึดใจเหมือนกำลังชั่งใจอะไรบางอย่าง สุดท้ายก็ยิ้มออกมา ตัดสินใจได้ว่าควรไปจากตรงนี้
“ถ้าพี่ยืนยันอยากจะรอผมก็จะไม่กวนใจ หวังว่าแฟนพี่จะคิดได้และไม่ทำให้พี่เสียใจอีก แต่อยากจะบอกไว้อย่าง ตรงไหนไม่สบายใจพี่ก็ควรเดินออกมานะครับ”
เธอยิ้มและพยักหน้า
“อืม ขอบใจนะ”
“เอาเสื้อผมคลุมหัวไว้ จะได้ไม่เปียกมาก”
เธอพยักหน้าหงึกหงัก เขาเดินกลับไปที่รถแล้วยื่นหน้าออกมาทางหน้าต่าง ส่งยิ้มตาหยี โบกมือให้เธอ และเพื่อน ๆ ของเขาก็ทำตาม
“บ๊ายบายค้าบ พี่คนสวย” ทิชายิ้ม ยกมือขึ้นโบกตอบ
“บ๊ายบายจ้า”
แล้วรถยนต์คันนั้นก็เคลื่อนออกไป ห่างไปเรื่อย ๆ จนลับตา แต่ทิชาเองก็ยังรู้สึกดีกับรอยยิ้มของพวกเขาโดยเฉพาะเจ้าของเสื้อ
เธอหยิบเสื้อนักเรียนตัวใหญ่ที่คลุมกายเอาไว้มาดู
มาวิน ญัศวาหะ
คือชื่อเจ้าของเสื้อ
“ขอบใจนะมาวิน” เธอพูดกับเสื้อ
นั่งอยู่อีกไม่ถึงห้านาทีเธอก็ตัดสินใจเดินออกมาจากตรงนั้น โดยมีคำพูดของเด็กมอปลายตัวใหญ่นั้นก้องอยู่ในหัว
‘ตรงไหนไม่สบายใจพี่ก็ควรเดินออกมา’
หนังสืออื่นๆ ของ Xmaniac
ข้อมูลเพิ่มเติม