เมื่อดาราสาวต้องกลายเป็นคุณหนูสามตระกูลเว่ย เรื่องวุ่นวายจึงบังเกิด ไหนต้องหาเงิน ไหนต้องรับมือกับคนขี้อิจฉา ไหนจะมีน้องชายจอมแสบที่ชอบก่อเรื่องให้ ไหนจะมียอดบัณฑิตแห่งต้าซานมาตามเกี้ยว เป็นเว่ยหย่งฮวาไม่ง่ายนัก แต่นางจะฝ่าทุกวิกฤตพร้อมมีชื่อเสียงเลื่องลือ!
"ท่านหญิง?"
อู๋ซือหนิงประหลาดใจที่พบหญิงสาวอยู่หน้าบ้านตนโดยไม่แจ้งล่วงหน้า แต่เป็นความประหลาดใจที่รู้สึกดี
"อู๋ซือหนิง ข้ามีเรื่องอยากวานให้ท่านช่วย" ในหมู่คนที่สนิทตอนนี้นางรู้สึกวางใจเขามากที่สุด อาจจะมากกว่าเซียนซูอิงด้วยซ้ำ
เห็นท่านหญิงทำสีหน้าเคร่งเครียดอู๋ซือหนิงก็ขมวดคิ้วตามแล้วเชิญนางเข้าไปด้านใน เว่ยหย่งฮวาเล่าความคิดบางอย่างให้เขาฟัง ลอบสังเกตสีหน้าของผู้ฟังไปด้วยว่าเขามีท่าทีอย่างไรต่อความคิดของนาง แต่อู๋ซือหนิงไม่ได้มีท่าทีต่อต้านหรือขัดแย้งในใจใด ๆ แสดงออกมาเลย นั่นทำให้นางวางใจที่จะเล่าต่อ
"ท่านคิดว่าเรื่องนี้พอจะช่วยเหลือข้าได้หรือไม่"
"ในเมื่อเป็นคำขอของท่านหญิงข้าย่อมไม่ปฏิเสธที่จะช่วยเหลือ และนี่เป็นผลดีต่อคุณชายเว่ยด้วย" เขาตกปากรับคำ
"เรื่องนี้ขอร้องท่านคนเดียวก็ดูจะหนักมือเกินไป ข้าคิดว่าจะไปขอให้จะสหายอีกคนช่วยด้วยเหมือนกัน"
"ใครหรือ"
"เผิงป๋อเฟิง"
บุรุษตรงหน้าขมวดคิ้วทันที คุณหนูสามไม่รู้มาก่อนว่าสองคนนี้ไม่ถูกกัน แต่เรื่องนี้นางไม่วางใจจะให้เขารับมือคนเดียว ในมุมมองของสตรีผู้หนึ่งแล้วก็เป็นเรื่องที่หนักหนาอยู่ การโยนภาระที่นางต้องการใส่มือบุรุษที่สนิทสนมกันในระดับหนึ่งเพียงคนเดียวดูจะเป็นการเอาแต่ใจมากไปหน่อย
เมื่อเห็นสีหน้ากังวลใจของนาง อู๋ซือหนิงก็กระแอมไอแล้วปรับสีหน้าเป็นปกติ
"ท่านหญิงเชิญว่าต่อเถอะ"
"ดูเหมือนท่านจะลำบากใจ"
"ท่านหญิงคิดมากเกินไป ข้าสบายดี ทำตามใจท่านหญิงเถิด"
"เห็นชัดอยู่ว่าท่านไม่สบายใจที่จะทำ อย่าพูดเอาใจข้าไปหน่อยเลย แบบนั้นไม่เป็นผลดีกับข้าเลยนะ หากท่านเอาอกเอาใจข้าอยู่แบบนี้หากวันใดทำผิดขึ้นมาใครจะรั้งข้าได้"
"..."
"ซึ้งในน้ำใจที่ใต้เท้าอู๋นึกถึงจิตใจข้า และข้ารู้สึกขอบคุณมาก ๆ แต่ท่านอย่าทำแบบนี้เลย"
บุรุษตรงหน้าทำสีหน้าประหลาดใจอีกครั้งก่อนจะระบายยิ้มออกมา
"ข้าเข้าใจแล้ว ขออภัยท่านหญิงด้วย"
เว่ยหย่งฮวากลับไปที่จุดเริ่มต้นเพื่ออธิบายใหม่อีกครั้ง เมื่อเห็นพ้องต้องกันแล้วก็เดินทางไปหาเผิงป๋อเฟิงเพื่อขอความร่วมมือ
"คุณหนู ทำแบบนี้จะดีหรือเจ้าคะ ข้าไม่สบายใจเลย" หนิงชิงชิงไม่รู้รายละเอียดวิธีการของนางแต่ก็พอรู้ว่าคุณหนูของตนจะทำอะไร ซึ่งไม่ว่าจะแบบไหนนางก็ไม่สบายใจอยู่ดี
"จะให้เขาคิดได้ก็ต้องใช้วิธีที่รุนแรงแบบนี้เท่านั้น น้องชายข้ายังอยู่ในวัยหลงระเริงได้ง่าย ขนาดตอนนี้เขายังคิดว่าไม่เป็นไรอยู่เลย เช่นนั้นก็ต้องใช้ไม้แข็งกับเขาเสียหน่อยแล้ว"
"แต่ข้าเป็นห่วงคุณหนูนะเจ้าคะ"
"มีอู๋ซือหนิงกับเผิงป๋อเฟิงช่วยหนุนหลังอยู่ ไม่เป็นไรหรอก"
สาวใช้คนสนิทถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความจำยอม ในเมื่อคุณหนูของนางต้องการเช่นนี้ก็มีแต่ต้องให้ความร่วมมือเท่านั้นแล้ว ได้แต่หวังว่าแผนการนี้จะสำเร็จในเร็ววัน นางจะได้หายใจโล่งเสียที
สองนายบ่าวเดินอย่างเชื่องช้าไปตามถนนทางกลับบ้าน บรรยากาศยามเย็นค่อนข้างเปล่าเปลี่ยวอย่างน่าประหลาด แต่ก็เป็นจังหวะเหมาะให้ลงมือเหลือเกิน หลังจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนางก็ได้แต่เชื่อใจสหายสองคนที่ได้ขอความช่วยเหลือไปเท่านั้น หวังไม่ให้มีความผิดพลาดเกิดขึ้นแม้สักนิดเดียว
เว่ยหย่งฮวาไม่มีวรยุทธ์ การสัมผัสถึงอันตรายมีเพียงสัญชาตญาณเท่านั้นที่บอกได้ และสัญชาตญาณระวังภัยของนางที่ไม่เคยได้จับดาบถือกระบี่ก็เบาบางเสียจนวิสัยทัศน์มืดมิดไปแล้วจึงพึ่งรู้ตัว
เสียงร้องของหนิงชิงชิงดังอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ เบาลงตามระยะห่างที่มากขึ้น นางถูกอุ้มขึ้นพาดบ่าและตอนนี้อาจจะโผไปตามหลังคาอยู่ ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมพวกจอมยุทธ์ถึงชอบวิ่งข้ามหลังคาบ้านคนอื่น เพราะนางที่โดนแบกมาด้วยไม่รู้สึกสนุกเลยสักนิด เวียนหัวเทียนแทบคลื่นไส้แล้ว
เว่ยอวี่หยุน ถ้าข้ารอดไปได้เจ้าโดนดีแน่!
คาดโทษน้องชายที่ทำให้ต้องเปลืองแรงเสร็จก็ทำใจยอมรับชะตากรรมต่อ นางถูกอุ้มกระเตงไปถึงไหนต่อไหนไม่ทราบเพราะมีถุงกระสอบคลุมลำตัวท่อนบนไว้ อากาศก็น้อยนิดจึงไม่มีเวลาไปสนใจอะไรอื่นนอกจากชีวิตตัวเอง
ไม่นานร่างของนางก็ถูกวางกระแทกลงบนพื้นฟาง พวกมันจับนางมัดมือไพล่หลังไว้ก่อนจะเอาถุงที่คลุมหัวไว้ออก
"พวกเจ้าเป็นใคร ต้องการอะไร!?" คำถามมาตรฐานสำหรับเหยื่อโจรลักพาตัวใช่ไหมล่ะ นางว่าตอนนี้ฝีมือการแสดงของตนก็ยังไม่ตกนะ
"คุณหนูใจเย็น ๆ เดี๋ยวตัวจะมีริ้วรอยเอาได้"
"พะ เจ้าจะทำอะไรจับข้ามาทำไม"
"เก็บเสียงไว้ทำอย่างอื่นดีกว่า ตอนนี้คุณหนูเป็นของพวกข้าแล้วรู้ตัวหรือไม่"
"ไม่รู้!" นางตะคอกกลับ
กฎหมายบ้านเมืองนี้ควรแก้ไขอย่างด่วน พวกโจรนี่มั่นใจมาจากไหนว่านางเป็นของพวกมัน ต่อให้มีสัญญาซื้อขายจากน้องชายของนางจริงแต่เขาไม่มีสิทธิ์มอบชีวิตใครให้คนอื่นนอกจากชีวิตของตัวเอง นอกจากกฎหมายควรปรับปรุงแล้วการศึกษาก็ควรปรับปรุงอย่างด่วนเช่นกัน
วันนี้จะมีอะไรทำให้ข้าโมโหไปมากกว่าน้องชายตัวเองอีก
"รออยู่เฉย ๆ เถอะเดี๋ยวจะมีคนเอาอาหารมาให้ตามเวลา"
พวกมันพูดไว้แค่นั้นแล้วก็ออกไป ปิดประตูขังนางไว้ในโรงนา
เว่ยอวี่หยุนรอดตัวจากการถูกจับหักแขนแล้วก็เดินกลับบ้านสบายใจ แต่พอมาถึงจวนคนในบ้านกลับวุ่นวายไปหมด ใจของเด็กหนุ่มเริ่มไม่ดี
"เกิดอะไรขึ้นเหรอ"
หนิงชิงชิงเห็นเขาเพิ่งมาถึงก็รีบทำตามที่นัดแนะไว้กับคุณหนู แม้ใจจะกระวนกระวายอยากจะโวยวายก่อนหน้าหนี้แล้วที่พวกมันอาจหาญลักตัวคุณหนูไปต่อหน้าต่อตานาง แต่นางได้แต่อดกลั้นทำตามคำสั่งรอเวลาเหมาะสมเท่านั้น
"คุณชายน้อย คุณหนูเจ้าค่ะ คุณหนูถูกลักพาตัว"
"ถะ ถูกลักพาตัว เป็นไปได้อย่างไร!"
"ไม่ทราบว่าเป็นพวกไหนเหมือนกันเจ้าค่ะ อยู่ ๆ ก็มาพาตัวคุณหนูไปเลย ข้าจึงรีบกลับมาขอความช่วยเหลือแต่นายท่าน..."
"ท่านพ่อทำไม"
"นายท่านไม่แจ้งทางการบอกให้เก็บเงียบไว้เจ้าค่ะ"
"อะไรนะ คนหายทั้งคนทำไมทำแบบนี้!?"
"นายท่านเกรงว่าคุณหนูจะเสื่อมเสียชื่อเสียงเจ้าค่ะ โดนจับตัวไปเช่นนี้ไม่รู้จะโดนทำอะไรบ้าง หรือหากปลอดภัยกลับมาก็ไม่พ้นตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน นายท่านจึงให้ปิดเงียบเรื่องนี้เอาไว้ก่อนแล้วดำเดินการอย่างลับๆ"
"อะ อ๋อ งั้นก็คงจะไม่เป็นอะไร ท่านพ่อลงมือเองแล้วนี่" เว่ยอวี่หยุนหลบสายตาคนสนิทของพี่สาว ไม่กล้ามองหน้านางตรงๆ และไม่กล้ามองไปทางบิดาด้วย ได้ยินแต่เสียงผู้เป็นพ่อสั่งการแต่จับใจความไม่ได้
เจ้าพวกนั้นทำจริงหรือนี่
"คุณชายน้อยเป็นอะไรไปเจ้าคะ"
"ปะ เปล่า ไม่มีอะไร"
"คุณชายดูไม่ทุกข์ร้อนใจเลยนะเจ้าคะ หรือว่ามีวิธีอะไรดีๆ ในใจ" หนิงชิงชิงจี้ถาม
ต่อให้นี่เป็นเรื่องที่เตรียมการไว้แล้ว แต่นางก็อดไม่พอใจคุณชายน้อยผู้นี้ไม่ได้ หากนางไม่ไปบังเอิญได้ยินเข้า หากคุณหนูไม่ได้ขอร้องคนอื่นไว้ก่อน หากเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง ๆ โดยไม่มีการรับมือ สถานการณ์จะเลวร้ายยิ่งกว่านี้จนใจนางแทบแตกสลายเลยทีเดียว จริงอยู่ว่าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันนอกจากฐานะเจ้านายกับผู้ติดตามรับใช้ แต่นางก็รักคุณหนูของนางมากจนรู้สึกอดที่จะโกรธไม่ได้
ที่คุณหนูเคยย้ำนักหนาว่าให้น้องชายออกห่างจากการพนันก่อนจะถือไว้ที่เหมาะสม นางเข้าใจแล้ว
เรื่องที่เว่ยหย่งฮวาถูกลักพาตัวไปยังคงปิดเงียบนานถึงสามวัน คนที่ทำตัวนิ่งเฉยได้ตลอดเพราะวางใจในผู้เป็นพ่อ ตอนนี้เริ่มนั่งไม่ติดที่ เว่ยอวี่หยุนเครียดจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ กังวลถึงพี่สาวที่หายตัวไป เขากลับไปที่โรงพนันแต่ก็ไม่พบคนพวกนั้นเลยสักครั้ง ราวกับว่าเถ้าแก่จงใจหลบหน้าเขาอยู่ นอกจากไม่ให้พบแล้วยังโดนไล่ออกมา
เด็กหนุ่มมีสีหน้าหมองคล้ำจากการอดหลับอดนอน
"เป็นห่วงข้า แต่ก็ไม่ยอมบอกท่านพ่อเนี่ยนะ"
เว่ยหย่งฮวาแกะเม็ดบัวกินด้วยความหน่ายใจ ฟังหนิงชิงชิงเล่าให้ฟังแล้วก็รู้ได้เลยว่าน้องชายของนางยังไม่โตพอจะกล้ายืดอกรับ ตอนนี้ไม่ยอมพูดว่ายังกลัวโดนลงโทษอยู่เลย สงสัยว่าสกุลเว่ยจะเลี้ยงน้องชายคนเล็กแบบไข่ในหินเกินไปแล้ว
นางที่เป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวยังใช้ชีวิตทรหดมากกว่าอีก กับพี่หญิงที่เป็นญาตินั้นก็เช่นกัน พี่หญิงของนางยังมีวิชาทวนติดตัวด้วยซ้ำไป ผิดกับเว่ยอวี่หยุนที่ต่อยตีธรรมดายังจะแพ้เขาเลย
"สงสัยถ้ากลับไปได้ข้าต้องเข้มงวดกับเขาหน่อยแล้ว"
"คุณหนู ทำไมยังต้องทนอยู่ในโรงนาแบบนี้อีกเจ้าค่ะ"
"อยู่แบบนี้ก็สบายดี เจ้าไม่ชอบหรือ"
สาเหตุที่คุณหนูสามยังลอยชายอยู่ได้นั้นเพราะนางได้ตกลงกับเจ้าของโรงพนันตั้งแต่เมื่อสามวันก่อนแล้ว ดีอยู่ที่ว่าเขาพูดคุยเข้าใจง่าย ไม่อย่างนั้นนางคงกังวลใจอยู่บ้าง แม้จะนัดแนะกับอู๋ซือหนิงและเผิงป๋อเฟิงด้านความช่วยเหลือเอาไว้แล้วก็ตาม
ย้อนกลับไปสักเล็กน้อยเมื่อสามวันก่อนตอนเย็นหลังจากที่นางถูกพาตัวมา
"คุณหนูช่างมีกรรมหนัก มีน้องชายน้องชายก็ไม่รักเอาเสียเลย"
"เป็นกรรมของข้าจริงๆ" นางพูดเสียงยานคาง จีบปากจีบคอจะน่าหมั่นไส้ ท่าทางไม่เหมือนคนที่หวาดกลัวก็โดนลักพาตัวมาสักนิด
"ได้ยินชื่อเสียงของท่านหญิงมาบ้าง ไม่นึกว่าจะทำให้ประหลาดใจได้ถึงขนาดนี้"
"งั้นก็รู้ไว้เสียตอนนี้เลยว่าจะทำให้ประหลาดใจได้มากกว่านี้อีก"
"น่าสนใจ ท่านหญิงจะแลกเปลี่ยนกับข้าอย่างนั้นหรือ"
"ใครต้องแลกเปลี่ยนกับใครกันแน่ สัญญาของเจ้าของน้องชายข้าไม่มีประโยชน์อะไร เขายังอายุไม่ถึงที่จะทำสัญญาซื้อขายอะไรกับใครได้ด้วยตัวเอง สิ่งที่เจ้าให้น้องข้าประทับตราเป็นโมฆะไปตั้งนานแล้ว"
"..."
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเถ้าแก่ก็หัวเราะออกมาเสียงดัง
"หลักแหลมยิ่ง เจ้าหนูนั่นยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ"
"ระวังปากหน่อย ถึงเขาจะเป็นน้องชายที่น่าตีของข้า แต่ก็ไม่ใช่ว่าใครจะมาดูหมิ่นเหยียดหยามเขาได้ ยกเว้นว่าข้าจะทำเอง"
"ดี แววตาแน่วแน่ดีมาก เช่นนั้นท่านหญิงจะเสนออะไรให้ข้าล่ะ"
"อย่าพูดให้ขำหน่อยเลย เจ้าสิต้องเป็นคนยื่นข้อเสนอให้ข้า ตอนนี้ตัวเองเสียเปรียบยังไม่รู้ตัวอีก"
เถ้าแก่โรงพนันสะอึก เริ่มรู้สึกขุ่นเคืองในใจขึ้นมา แต่ท่าทางของสตรีผู้นี้ดูน่าสนใจเกินไปจนเขาอยากรู้ว่ามันจะลงเอยอย่างไร
บทที่ 1 แผนซ้อนแผน
21/10/2024
บทที่ 2 กลับตัวกลับใจ
21/10/2024
บทที่ 3 เผิงป๋อเฟิง
21/10/2024
บทที่ 4 ตามเกี้ยวว่าที่ภรรยา
21/10/2024
บทที่ 5 เทศกาลล่าสัตว์
21/10/2024
บทที่ 6 ปฏิเสธอย่างจริงจัง
21/10/2024
บทที่ 7 สารภาพความในใจ
21/10/2024
บทที่ 8 หมั้นหมาย
21/10/2024
บทที่ 9 ชุดนางระบำต่างแดน
21/10/2024
บทที่ 10 เทศกาลเก็บเกี่ยว
21/10/2024
บทที่ 11 จับคู่ให้พี่ใหญ่
21/10/2024
บทที่ 12 ขอแต่งงาน
21/10/2024
บทที่ 13 งานมงคลสมรส
21/10/2024
บทที่ 14 กาลเวลาผันผ่าน
21/10/2024
บทที่ 15 เจ้าก้อนแป้งคนที่สอง
21/10/2024
บทที่ 16 พาเจ้าก้อนแป้งเดินตลาด
21/10/2024
บทที่ 17 พรสวรรค์ของบุตรชาย
21/10/2024
บทที่ 18 องค์หญิงเสวียนฉู่
21/10/2024
บทที่ 19 เจรจาการค้าขาย
21/10/2024
บทที่ 20 เตรียมตัวเดินทาง
21/10/2024
บทที่ 21 เดินทางไปต่างเมือง
21/10/2024
บทที่ 22 ความคลั่งรักของสามี
21/10/2024
บทที่ 23 บทส่งท้าย ครอบครัวสมบูรณ์
21/10/2024
หนังสืออื่นๆ ของ หลิ่งฟาง//พิมพ์สีทอง
ข้อมูลเพิ่มเติม