ร้านแพรลับของคุณหนูสาม เล่ม 2 (จบ)

ร้านแพรลับของคุณหนูสาม เล่ม 2 (จบ)

หลิ่งฟาง//พิมพ์สีทอง

5.0
ความคิดเห็น
1.1K
ชม
23
บท

เมื่อดาราสาวต้องกลายเป็นคุณหนูสามตระกูลเว่ย เรื่องวุ่นวายจึงบังเกิด ไหนต้องหาเงิน ไหนต้องรับมือกับคนขี้อิจฉา ไหนจะมีน้องชายจอมแสบที่ชอบก่อเรื่องให้ ไหนจะมียอดบัณฑิตแห่งต้าซานมาตามเกี้ยว เป็นเว่ยหย่งฮวาไม่ง่ายนัก แต่นางจะฝ่าทุกวิกฤตพร้อมมีชื่อเสียงเลื่องลือ!

บทที่ 1 แผนซ้อนแผน

"ท่านหญิง?"

อู๋ซือหนิงประหลาดใจที่พบหญิงสาวอยู่หน้าบ้านตนโดยไม่แจ้งล่วงหน้า แต่เป็นความประหลาดใจที่รู้สึกดี

"อู๋ซือหนิง ข้ามีเรื่องอยากวานให้ท่านช่วย" ในหมู่คนที่สนิทตอนนี้นางรู้สึกวางใจเขามากที่สุด อาจจะมากกว่าเซียนซูอิงด้วยซ้ำ

เห็นท่านหญิงทำสีหน้าเคร่งเครียดอู๋ซือหนิงก็ขมวดคิ้วตามแล้วเชิญนางเข้าไปด้านใน เว่ยหย่งฮวาเล่าความคิดบางอย่างให้เขาฟัง ลอบสังเกตสีหน้าของผู้ฟังไปด้วยว่าเขามีท่าทีอย่างไรต่อความคิดของนาง แต่อู๋ซือหนิงไม่ได้มีท่าทีต่อต้านหรือขัดแย้งในใจใด ๆ แสดงออกมาเลย นั่นทำให้นางวางใจที่จะเล่าต่อ

"ท่านคิดว่าเรื่องนี้พอจะช่วยเหลือข้าได้หรือไม่"

"ในเมื่อเป็นคำขอของท่านหญิงข้าย่อมไม่ปฏิเสธที่จะช่วยเหลือ และนี่เป็นผลดีต่อคุณชายเว่ยด้วย" เขาตกปากรับคำ

"เรื่องนี้ขอร้องท่านคนเดียวก็ดูจะหนักมือเกินไป ข้าคิดว่าจะไปขอให้จะสหายอีกคนช่วยด้วยเหมือนกัน"

"ใครหรือ"

"เผิงป๋อเฟิง"

บุรุษตรงหน้าขมวดคิ้วทันที คุณหนูสามไม่รู้มาก่อนว่าสองคนนี้ไม่ถูกกัน แต่เรื่องนี้นางไม่วางใจจะให้เขารับมือคนเดียว ในมุมมองของสตรีผู้หนึ่งแล้วก็เป็นเรื่องที่หนักหนาอยู่ การโยนภาระที่นางต้องการใส่มือบุรุษที่สนิทสนมกันในระดับหนึ่งเพียงคนเดียวดูจะเป็นการเอาแต่ใจมากไปหน่อย

เมื่อเห็นสีหน้ากังวลใจของนาง อู๋ซือหนิงก็กระแอมไอแล้วปรับสีหน้าเป็นปกติ

"ท่านหญิงเชิญว่าต่อเถอะ"

"ดูเหมือนท่านจะลำบากใจ"

"ท่านหญิงคิดมากเกินไป ข้าสบายดี ทำตามใจท่านหญิงเถิด"

"เห็นชัดอยู่ว่าท่านไม่สบายใจที่จะทำ อย่าพูดเอาใจข้าไปหน่อยเลย แบบนั้นไม่เป็นผลดีกับข้าเลยนะ หากท่านเอาอกเอาใจข้าอยู่แบบนี้หากวันใดทำผิดขึ้นมาใครจะรั้งข้าได้"

"..."

"ซึ้งในน้ำใจที่ใต้เท้าอู๋นึกถึงจิตใจข้า และข้ารู้สึกขอบคุณมาก ๆ แต่ท่านอย่าทำแบบนี้เลย"

บุรุษตรงหน้าทำสีหน้าประหลาดใจอีกครั้งก่อนจะระบายยิ้มออกมา

"ข้าเข้าใจแล้ว ขออภัยท่านหญิงด้วย"

เว่ยหย่งฮวากลับไปที่จุดเริ่มต้นเพื่ออธิบายใหม่อีกครั้ง เมื่อเห็นพ้องต้องกันแล้วก็เดินทางไปหาเผิงป๋อเฟิงเพื่อขอความร่วมมือ

"คุณหนู ทำแบบนี้จะดีหรือเจ้าคะ ข้าไม่สบายใจเลย" หนิงชิงชิงไม่รู้รายละเอียดวิธีการของนางแต่ก็พอรู้ว่าคุณหนูของตนจะทำอะไร ซึ่งไม่ว่าจะแบบไหนนางก็ไม่สบายใจอยู่ดี

"จะให้เขาคิดได้ก็ต้องใช้วิธีที่รุนแรงแบบนี้เท่านั้น น้องชายข้ายังอยู่ในวัยหลงระเริงได้ง่าย ขนาดตอนนี้เขายังคิดว่าไม่เป็นไรอยู่เลย เช่นนั้นก็ต้องใช้ไม้แข็งกับเขาเสียหน่อยแล้ว"

"แต่ข้าเป็นห่วงคุณหนูนะเจ้าคะ"

"มีอู๋ซือหนิงกับเผิงป๋อเฟิงช่วยหนุนหลังอยู่ ไม่เป็นไรหรอก"

สาวใช้คนสนิทถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความจำยอม ในเมื่อคุณหนูของนางต้องการเช่นนี้ก็มีแต่ต้องให้ความร่วมมือเท่านั้นแล้ว ได้แต่หวังว่าแผนการนี้จะสำเร็จในเร็ววัน นางจะได้หายใจโล่งเสียที

สองนายบ่าวเดินอย่างเชื่องช้าไปตามถนนทางกลับบ้าน บรรยากาศยามเย็นค่อนข้างเปล่าเปลี่ยวอย่างน่าประหลาด แต่ก็เป็นจังหวะเหมาะให้ลงมือเหลือเกิน หลังจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นนางก็ได้แต่เชื่อใจสหายสองคนที่ได้ขอความช่วยเหลือไปเท่านั้น หวังไม่ให้มีความผิดพลาดเกิดขึ้นแม้สักนิดเดียว

เว่ยหย่งฮวาไม่มีวรยุทธ์ การสัมผัสถึงอันตรายมีเพียงสัญชาตญาณเท่านั้นที่บอกได้ และสัญชาตญาณระวังภัยของนางที่ไม่เคยได้จับดาบถือกระบี่ก็เบาบางเสียจนวิสัยทัศน์มืดมิดไปแล้วจึงพึ่งรู้ตัว

เสียงร้องของหนิงชิงชิงดังอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ เบาลงตามระยะห่างที่มากขึ้น นางถูกอุ้มขึ้นพาดบ่าและตอนนี้อาจจะโผไปตามหลังคาอยู่ ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมพวกจอมยุทธ์ถึงชอบวิ่งข้ามหลังคาบ้านคนอื่น เพราะนางที่โดนแบกมาด้วยไม่รู้สึกสนุกเลยสักนิด เวียนหัวเทียนแทบคลื่นไส้แล้ว

เว่ยอวี่หยุน ถ้าข้ารอดไปได้เจ้าโดนดีแน่!

คาดโทษน้องชายที่ทำให้ต้องเปลืองแรงเสร็จก็ทำใจยอมรับชะตากรรมต่อ นางถูกอุ้มกระเตงไปถึงไหนต่อไหนไม่ทราบเพราะมีถุงกระสอบคลุมลำตัวท่อนบนไว้ อากาศก็น้อยนิดจึงไม่มีเวลาไปสนใจอะไรอื่นนอกจากชีวิตตัวเอง

ไม่นานร่างของนางก็ถูกวางกระแทกลงบนพื้นฟาง พวกมันจับนางมัดมือไพล่หลังไว้ก่อนจะเอาถุงที่คลุมหัวไว้ออก

"พวกเจ้าเป็นใคร ต้องการอะไร!?" คำถามมาตรฐานสำหรับเหยื่อโจรลักพาตัวใช่ไหมล่ะ นางว่าตอนนี้ฝีมือการแสดงของตนก็ยังไม่ตกนะ

"คุณหนูใจเย็น ๆ เดี๋ยวตัวจะมีริ้วรอยเอาได้"

"พะ เจ้าจะทำอะไรจับข้ามาทำไม"

"เก็บเสียงไว้ทำอย่างอื่นดีกว่า ตอนนี้คุณหนูเป็นของพวกข้าแล้วรู้ตัวหรือไม่"

"ไม่รู้!" นางตะคอกกลับ

กฎหมายบ้านเมืองนี้ควรแก้ไขอย่างด่วน พวกโจรนี่มั่นใจมาจากไหนว่านางเป็นของพวกมัน ต่อให้มีสัญญาซื้อขายจากน้องชายของนางจริงแต่เขาไม่มีสิทธิ์มอบชีวิตใครให้คนอื่นนอกจากชีวิตของตัวเอง นอกจากกฎหมายควรปรับปรุงแล้วการศึกษาก็ควรปรับปรุงอย่างด่วนเช่นกัน

วันนี้จะมีอะไรทำให้ข้าโมโหไปมากกว่าน้องชายตัวเองอีก

"รออยู่เฉย ๆ เถอะเดี๋ยวจะมีคนเอาอาหารมาให้ตามเวลา"

พวกมันพูดไว้แค่นั้นแล้วก็ออกไป ปิดประตูขังนางไว้ในโรงนา

เว่ยอวี่หยุนรอดตัวจากการถูกจับหักแขนแล้วก็เดินกลับบ้านสบายใจ แต่พอมาถึงจวนคนในบ้านกลับวุ่นวายไปหมด ใจของเด็กหนุ่มเริ่มไม่ดี

"เกิดอะไรขึ้นเหรอ"

หนิงชิงชิงเห็นเขาเพิ่งมาถึงก็รีบทำตามที่นัดแนะไว้กับคุณหนู แม้ใจจะกระวนกระวายอยากจะโวยวายก่อนหน้าหนี้แล้วที่พวกมันอาจหาญลักตัวคุณหนูไปต่อหน้าต่อตานาง แต่นางได้แต่อดกลั้นทำตามคำสั่งรอเวลาเหมาะสมเท่านั้น

"คุณชายน้อย คุณหนูเจ้าค่ะ คุณหนูถูกลักพาตัว"

"ถะ ถูกลักพาตัว เป็นไปได้อย่างไร!"

"ไม่ทราบว่าเป็นพวกไหนเหมือนกันเจ้าค่ะ อยู่ ๆ ก็มาพาตัวคุณหนูไปเลย ข้าจึงรีบกลับมาขอความช่วยเหลือแต่นายท่าน..."

"ท่านพ่อทำไม"

"นายท่านไม่แจ้งทางการบอกให้เก็บเงียบไว้เจ้าค่ะ"

"อะไรนะ คนหายทั้งคนทำไมทำแบบนี้!?"

"นายท่านเกรงว่าคุณหนูจะเสื่อมเสียชื่อเสียงเจ้าค่ะ โดนจับตัวไปเช่นนี้ไม่รู้จะโดนทำอะไรบ้าง หรือหากปลอดภัยกลับมาก็ไม่พ้นตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน นายท่านจึงให้ปิดเงียบเรื่องนี้เอาไว้ก่อนแล้วดำเดินการอย่างลับๆ"

"อะ อ๋อ งั้นก็คงจะไม่เป็นอะไร ท่านพ่อลงมือเองแล้วนี่" เว่ยอวี่หยุนหลบสายตาคนสนิทของพี่สาว ไม่กล้ามองหน้านางตรงๆ และไม่กล้ามองไปทางบิดาด้วย ได้ยินแต่เสียงผู้เป็นพ่อสั่งการแต่จับใจความไม่ได้

เจ้าพวกนั้นทำจริงหรือนี่

"คุณชายน้อยเป็นอะไรไปเจ้าคะ"

"ปะ เปล่า ไม่มีอะไร"

"คุณชายดูไม่ทุกข์ร้อนใจเลยนะเจ้าคะ หรือว่ามีวิธีอะไรดีๆ ในใจ" หนิงชิงชิงจี้ถาม

ต่อให้นี่เป็นเรื่องที่เตรียมการไว้แล้ว แต่นางก็อดไม่พอใจคุณชายน้อยผู้นี้ไม่ได้ หากนางไม่ไปบังเอิญได้ยินเข้า หากคุณหนูไม่ได้ขอร้องคนอื่นไว้ก่อน หากเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง ๆ โดยไม่มีการรับมือ สถานการณ์จะเลวร้ายยิ่งกว่านี้จนใจนางแทบแตกสลายเลยทีเดียว จริงอยู่ว่าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันนอกจากฐานะเจ้านายกับผู้ติดตามรับใช้ แต่นางก็รักคุณหนูของนางมากจนรู้สึกอดที่จะโกรธไม่ได้

ที่คุณหนูเคยย้ำนักหนาว่าให้น้องชายออกห่างจากการพนันก่อนจะถือไว้ที่เหมาะสม นางเข้าใจแล้ว

เรื่องที่เว่ยหย่งฮวาถูกลักพาตัวไปยังคงปิดเงียบนานถึงสามวัน คนที่ทำตัวนิ่งเฉยได้ตลอดเพราะวางใจในผู้เป็นพ่อ ตอนนี้เริ่มนั่งไม่ติดที่ เว่ยอวี่หยุนเครียดจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ กังวลถึงพี่สาวที่หายตัวไป เขากลับไปที่โรงพนันแต่ก็ไม่พบคนพวกนั้นเลยสักครั้ง ราวกับว่าเถ้าแก่จงใจหลบหน้าเขาอยู่ นอกจากไม่ให้พบแล้วยังโดนไล่ออกมา

เด็กหนุ่มมีสีหน้าหมองคล้ำจากการอดหลับอดนอน

"เป็นห่วงข้า แต่ก็ไม่ยอมบอกท่านพ่อเนี่ยนะ"

เว่ยหย่งฮวาแกะเม็ดบัวกินด้วยความหน่ายใจ ฟังหนิงชิงชิงเล่าให้ฟังแล้วก็รู้ได้เลยว่าน้องชายของนางยังไม่โตพอจะกล้ายืดอกรับ ตอนนี้ไม่ยอมพูดว่ายังกลัวโดนลงโทษอยู่เลย สงสัยว่าสกุลเว่ยจะเลี้ยงน้องชายคนเล็กแบบไข่ในหินเกินไปแล้ว

นางที่เป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวยังใช้ชีวิตทรหดมากกว่าอีก กับพี่หญิงที่เป็นญาตินั้นก็เช่นกัน พี่หญิงของนางยังมีวิชาทวนติดตัวด้วยซ้ำไป ผิดกับเว่ยอวี่หยุนที่ต่อยตีธรรมดายังจะแพ้เขาเลย

"สงสัยถ้ากลับไปได้ข้าต้องเข้มงวดกับเขาหน่อยแล้ว"

"คุณหนู ทำไมยังต้องทนอยู่ในโรงนาแบบนี้อีกเจ้าค่ะ"

"อยู่แบบนี้ก็สบายดี เจ้าไม่ชอบหรือ"

สาเหตุที่คุณหนูสามยังลอยชายอยู่ได้นั้นเพราะนางได้ตกลงกับเจ้าของโรงพนันตั้งแต่เมื่อสามวันก่อนแล้ว ดีอยู่ที่ว่าเขาพูดคุยเข้าใจง่าย ไม่อย่างนั้นนางคงกังวลใจอยู่บ้าง แม้จะนัดแนะกับอู๋ซือหนิงและเผิงป๋อเฟิงด้านความช่วยเหลือเอาไว้แล้วก็ตาม

ย้อนกลับไปสักเล็กน้อยเมื่อสามวันก่อนตอนเย็นหลังจากที่นางถูกพาตัวมา

"คุณหนูช่างมีกรรมหนัก มีน้องชายน้องชายก็ไม่รักเอาเสียเลย"

"เป็นกรรมของข้าจริงๆ" นางพูดเสียงยานคาง จีบปากจีบคอจะน่าหมั่นไส้ ท่าทางไม่เหมือนคนที่หวาดกลัวก็โดนลักพาตัวมาสักนิด

"ได้ยินชื่อเสียงของท่านหญิงมาบ้าง ไม่นึกว่าจะทำให้ประหลาดใจได้ถึงขนาดนี้"

"งั้นก็รู้ไว้เสียตอนนี้เลยว่าจะทำให้ประหลาดใจได้มากกว่านี้อีก"

"น่าสนใจ ท่านหญิงจะแลกเปลี่ยนกับข้าอย่างนั้นหรือ"

"ใครต้องแลกเปลี่ยนกับใครกันแน่ สัญญาของเจ้าของน้องชายข้าไม่มีประโยชน์อะไร เขายังอายุไม่ถึงที่จะทำสัญญาซื้อขายอะไรกับใครได้ด้วยตัวเอง สิ่งที่เจ้าให้น้องข้าประทับตราเป็นโมฆะไปตั้งนานแล้ว"

"..."

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเถ้าแก่ก็หัวเราะออกมาเสียงดัง

"หลักแหลมยิ่ง เจ้าหนูนั่นยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ"

"ระวังปากหน่อย ถึงเขาจะเป็นน้องชายที่น่าตีของข้า แต่ก็ไม่ใช่ว่าใครจะมาดูหมิ่นเหยียดหยามเขาได้ ยกเว้นว่าข้าจะทำเอง"

"ดี แววตาแน่วแน่ดีมาก เช่นนั้นท่านหญิงจะเสนออะไรให้ข้าล่ะ"

"อย่าพูดให้ขำหน่อยเลย เจ้าสิต้องเป็นคนยื่นข้อเสนอให้ข้า ตอนนี้ตัวเองเสียเปรียบยังไม่รู้ตัวอีก"

เถ้าแก่โรงพนันสะอึก เริ่มรู้สึกขุ่นเคืองในใจขึ้นมา แต่ท่าทางของสตรีผู้นี้ดูน่าสนใจเกินไปจนเขาอยากรู้ว่ามันจะลงเอยอย่างไร

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ หลิ่งฟาง//พิมพ์สีทอง

ข้อมูลเพิ่มเติม
วาสนาของบุรุษผู้นั้นที่อกหักสิบครั้งก็ไม่ยอมแพ้

วาสนาของบุรุษผู้นั้นที่อกหักสิบครั้งก็ไม่ยอมแพ้

โรแมนติก

5.0

ทั่วทั้งแคว้นอ้ายคงมีเพียงบุรุษเช่นหัวหน้ากลุ่มต้าหยางเท่านั้นที่ยอมแต่งเข้าบ้านภรรยา เพราะนั่นมันเท่ากับว่าเขายอมอยู่ใต้บารมีของภรรยา และยอมให้ภรรยาเป็นใหญ่ ทว่าบุรุษที่อกหักมาสิบครั้งอย่างเขา ไม่อยากจะอกหักเป็นครั้งที่สิบเอ็ดแล้วนี่นา อีกทั้งคุณหนูใหญ่กู้หลินฟางเองก็ใจตรงกัน เรื่องธรรมเนียมอะไรนั่นก็ช่างมันเถิด เทียนจื่อซานแทบจะถูกเรียกว่าเป็นบุรุษอาภัพในรัก ด้วยเพราะเวลาไปเกี้ยวสตรีบ้านไหน จุดจบก็หนีไม่พ้นการถูกปฏิเสธ จนกระทั่งเขาได้มาเจอกับกู้หลินฟาง ไม่แน่ใจว่าเป็นเมตตาจากท่านเทพบนสวรรค์ หรือเทพมารต้องการให้เขาทำลายสถิติอกหักอีกครั้งกันแน่ แต่เขา... เทียนจื่อซานไม่ขอยอมแพ้ และจะเกี้ยวคุณหนูใหญ่กู้หลินฟางอีกสักครั้ง

ย้อนเวลามายุค80พร้อมระบบทำฟาร์มแสนห่วย

ย้อนเวลามายุค80พร้อมระบบทำฟาร์มแสนห่วย

โรแมนติก

5.0

จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - -

ย้อนเวลามายุค80พร้อมระบบทำฟาร์มแสนห่วย เล่ม 2

ย้อนเวลามายุค80พร้อมระบบทำฟาร์มแสนห่วย เล่ม 2

โรแมนติก

5.0

จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - -

ย้อนเวลามายุค80พร้อมระบบทำฟาร์มแสนห่วย เล่ม 1

ย้อนเวลามายุค80พร้อมระบบทำฟาร์มแสนห่วย เล่ม 1

โรแมนติก

5.0

จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - - ตัวอย่างในเล่ม “ดูสิ ฉันจะได้อะไร” หลิวตานถูมืออย่างตื่นเต้น ก่อนจะบอกระบบว่าเริ่มสุ่มวงล้อ “ระบบเริ่มสุ่มวงล้อได้เลย” ทันใดนั้นหน้าจอโปร่งใสก็ปรากฏตรงหน้าเธอ ดวงตาคู่งามมองวงล้อสุ่มของรางวัลที่หมุนไปมาด้วยความประหม่า เพราะมันเป็นของรางวัลชิ้นแรกที่เธอคาดหวัง ไม่รู้มันจะสามารถทำอะไรได้บ้าง แต่ขอให้ช่วยสี่แม่ลูกได้ยิ่งดี   “เมล็ดพันธุ์ผักกาด?”  หลิวตานมองภาพตรงหน้าแล้วได้แต่น้ำตาตกในเมื่อของรางวัลที่แลกมากับการไปตัดหญ้ามาให้หมูคือเมล็ดพันธุ์ผักกาด! 

ชายพิการผู้นั้นที่ใครไม่เห็นค่านางจะเป็นภรรยาของเขาเอง

ชายพิการผู้นั้นที่ใครไม่เห็นค่านางจะเป็นภรรยาของเขาเอง

โรแมนติก

5.0

ไป่จวิ้นเดิมทีก็เป็นเพียงทหารชั้นผู้น้อย ที่ไม่น่าจะได้รับความสนใจอะไรในกองทัพ ทว่าเมื่อสงครามจบลง และกลับมาพร้อมชัยชนะ เขาจึงได้เงินรางวัลมาจำนวนหนึ่ง ส่วนหนึ่งเพื่อปลอบขวัญที่ต้องจากบ้านไปเป็นระยะเวลานาน อีกส่วนก็เป็นสินน้ำใจตอบแทนที่เขาต้องกลายเป็นคนที่ไม่ต่างจากคนพิการ เดินเหินไปไหนก็ไม่คล่องแคล่วเช่นเมื่อก่อน และเรื่องนี้ก็สร้างความกลัดกลุ้มให้กับมารดาของเขาอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะส่งเทียบดูตัวไปสักกี่ครั้งต่างก็ถูกปฏิเสธ ทว่ามีเพียงสตรียากจนที่เป็นเพียงบุตรสาวของชาวนาจน ๆ คนหนึ่งเท่านั้นที่ยินยอมแต่งเข้าสกุลไป่ แรกทีเดียวไป่จวิ้นไม่ใคร่จะชอบใจภรรยาของตนนัก ด้วยคิดว่านางยินยอมแต่งกับชายพิการเช่นเขาเพียงแค่เพราะเรื่องเงินทอง แต่ความอ่อนโยนและมุ่งมั่นที่จะดูแลเขาของ จางอวี๋จิง’กลับค่อย ๆ ละลายน้ำแข็งในใจของชายหนุ่มลงอย่างช้า ๆ ส่วนทางจางอวี๋จิง นางก็เริ่มมองเห็นความอบอุ่นของสามีที่นางไม่คิดว่าจะรักได้คนนี้เพิ่มขึ้นทุกวัน และนางก็ได้ตั้งปณิธานอันแน่วแน่ว่า จากนี้ไปจะขอเป็นภรรยาที่ซื่อสัตย์ต่อเขาไปจนชั่วชีวิต สามีของนางพิการเดินเหินไม่สะดวกแล้วอย่างไร นางจะขอเป็นแขนขาให้แก่เขาเอง

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เจ้าสาว(ไม่)ปรารถนารัก

เจ้าสาว(ไม่)ปรารถนารัก

คุณธิดา
5.0

นุชพินตา ควรเป็นเจ้าสาวที่น่าอิจฉาที่สุดที่ได้แต่งงานกับ ปุลวัชร เจ้าบ่าวที่ทั้งหล่อ รวย เนื้อหอม เป็นเจ้าชายในฝันของสาวๆ ทั้งเมือง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าบ่าวในฝันนั้น...ทั้งไร้หัวใจ และไม่ได้รักเธอสักนิด! การแต่งงานที่ไร้รัก อยู่กันไปก็มีแต่เจ็บปวดเท่านั้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธ แม้จะต้องถูกเขาทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำอย่างไรหากใจที่ไม่คิดปรารถนารักกลับอยากได้ความรักจากเขา ------------------------------ “เธอเคยนอนกับผู้ชายหรือเปล่า” เขาถามออกมาจากปากร้าย ตอนที่เธอได้ยินถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าเขาจะถามตรง ๆ และในนาทีต่อมา นุชพินตาก็รู้สึกโกรธมาก หญิงสาวโต้เขากลับ “ทำไมผู้ชายดี ๆ การศึกษาดี ๆ ถึงได้พูดจาแบบนี้คะ มาพูดดูถูกกัน เมื่อกี้ก็หาว่าพวกเราขายตัว และตอนนี้ยังมากล่าวหาฉันอีกว่าฉันสำส่อน คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน ที่คุณเคยนอนด้วยหรือยังไงคะ” ความเจ็บปวดระบายออกมาทางสายตา เขาเป็นบ้าอะไรกันนี่ คำพูดแบบนี้มาจากสันดานข้างในหรือเพราะว่าเขาเมา “แล้วเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ” เขาย้ำอีกครั้ง จ้องสบตาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “ปากร้าย ประโยคนี้คุณไม่ควรถามออกมาด้วยซ้ำไป” จากที่เรียกเขาว่าพี่ปุ่น ชักขุ่นและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาเปลี่ยนสรรพนามที่คนฟังก็รู้ว่าห่างเหิน “ผู้หญิงที่ดี ๆ ที่ไหน จะตอบตกลงแต่งงานกันชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น” “แล้วมันยังไงคะ” นุชพินตาก็ไม่ยอมเหมือนกัน “เธออาจจะเป็นมือสองก็ได้” ‘เมื่อคืนเขาไปนอนที่ไหน แล้วไปนอนกับใคร’ ‘อ้อ… ก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ ดวงตาเศร้าลง เธอลุกขึ้นไปเปิดม่านหน้าต่าง และมองออกไปยังท้องทะเล แสงอาทิตย์กระทบกับระลอกคลื่นที่ไล่เรียงกันกระทบเข้าฝั่ง นุชพินตาถึงกับถอนหายใจดังเฮือก ‘ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ มาให้เขาย่ำยีเล่นใช่หรือไม่’ เฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ‘ยะหยาอย่าเสียใจไปเลยนะ เธอต้องทำตัวเองให้เข้มแข็ง แข็งแรงเถอะ ในเมื่อเธอก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน’ คำพูดปลอบโยนตัวเอง ‘ใช่… ฉันไม่ได้รักเขา และจะเกลียดเขาให้มากกว่านี้’ เธอตอกย้ำคำนี้เข้าไปในหัวใจของตัวเองด้วยความมุ่งมั่นและสายตาที่แน่วแน่ แม้จะรู้สึกเจ็บแน่นในหัวอก ------------------------------ “ฉันจะหย่ากับเธอ” เขาเอ่ยอย่างใจดำ หญิงสาวถึงกับใจหล่นวูบ เธอเม้มขบริมฝีปาก กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว นุชพินตาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว “นางผู้หญิงไร้ยางอาย แพศยาฉันเกลียดผู้หญิงหลายใจ ฉันเกลียดผู้หญิงที่นอกใจ ไปให้พ้นจากบ้านของฉัน ไปให้พ้นจากหน้าฉัน พรุ่งนี้จะให้ทนายทำใบหย่า” “พี่ปุ่นคะ” เธอยกมือขึ้นมาไหว้เขาปลก ๆ “เราสองคนเพิ่งแต่งงานกันเองนะคะ ยะหยาไม่อยากให้คุณลุงและคุณย่าเสียใจ” “แต่สิ่งที่เธอทำล่ะ มันน่าอาย แล้วเธอไม่ละอายบ้างเหรอ หน้าด้าน” เขามีอาการเสียใจ และหัวเสีย นุชพินตาเอง เธอไม่คิดว่าปุลวัชรจะปากร้ายด่าทอเธอได้ถึงเพียงนี้ “ฉันจะหย่ากับเธอแน่นอน เตรียมปากกาไว้เซ็นใบหย่าในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” พูดจบ เขาเดินเข้าไปใช้มือปัดแจกันที่อยู่ใกล้ และชกบานกระจกที่ใช้ตกแต่งอยู่ในห้องโถงด้วย จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน มือของปุลวัชรมีเลือดไหลซึม เขาจะเดินเข้าห้องทำงานและปิดประตูตามหลังดังโครม นุชพินตาตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เธอได้เห็น ความดีใจที่สามีจะกลับมา เธอจะบอกข่าวดีเขา และกินข้าวด้วยกัน ได้มลายหายไปสิ้น มีเพียงความเศร้าเข้ามาทับถมอยู่ในจิตใจของนุชพินตา แล้วหญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาปล่อยโฮ

คุณหนูปกปิดตัวตนไม่ได้แล้ว

คุณหนูปกปิดตัวตนไม่ได้แล้ว

Critter
5.0

เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ร้านแพรลับของคุณหนูสาม เล่ม 2 (จบ)
1

บทที่ 1 แผนซ้อนแผน

21/10/2024

2

บทที่ 2 กลับตัวกลับใจ

21/10/2024

3

บทที่ 3 เผิงป๋อเฟิง

21/10/2024

4

บทที่ 4 ตามเกี้ยวว่าที่ภรรยา

21/10/2024

5

บทที่ 5 เทศกาลล่าสัตว์

21/10/2024

6

บทที่ 6 ปฏิเสธอย่างจริงจัง

21/10/2024

7

บทที่ 7 สารภาพความในใจ

21/10/2024

8

บทที่ 8 หมั้นหมาย

21/10/2024

9

บทที่ 9 ชุดนางระบำต่างแดน

21/10/2024

10

บทที่ 10 เทศกาลเก็บเกี่ยว

21/10/2024

11

บทที่ 11 จับคู่ให้พี่ใหญ่

21/10/2024

12

บทที่ 12 ขอแต่งงาน

21/10/2024

13

บทที่ 13 งานมงคลสมรส

21/10/2024

14

บทที่ 14 กาลเวลาผันผ่าน

21/10/2024

15

บทที่ 15 เจ้าก้อนแป้งคนที่สอง

21/10/2024

16

บทที่ 16 พาเจ้าก้อนแป้งเดินตลาด

21/10/2024

17

บทที่ 17 พรสวรรค์ของบุตรชาย

21/10/2024

18

บทที่ 18 องค์หญิงเสวียนฉู่

21/10/2024

19

บทที่ 19 เจรจาการค้าขาย

21/10/2024

20

บทที่ 20 เตรียมตัวเดินทาง

21/10/2024

21

บทที่ 21 เดินทางไปต่างเมือง

21/10/2024

22

บทที่ 22 ความคลั่งรักของสามี

21/10/2024

23

บทที่ 23 บทส่งท้าย ครอบครัวสมบูรณ์

21/10/2024