เธอถูกจ้างให้แย่งชิงชายคนหนึ่ง ทว่าหญิงคนนั้นเสียใจจนฆ่าตัวตาย เธอจมอยู่กับความเสียใจจนกระทั่งได้พบกับเขา ชายผู้เอื้อมมือมาปลุกปลอบและทำลาย
“ฉันให้สิบล้าน ตกลงไหม!”
อิงดาวนางเอกละครชื่อดังในปัจจุบัน ด้วยใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโต แพขนตางอน จมูกโด่งรั้น ริมฝีปากบางระเรื่อสีชมพูด ผิวขาวนวล ทำให้เธอกลายเป็นที่พูดถึงได้ไม่ยาก ที่สำคัญบทละครส่งให้เธอนั้นกลายเป็นขวัญใจชั่วข้ามคืน
“แน่ใจเหรอคะที่จะให้ฉันขนาดนี้ แค่เรื่องแย่งผู้ชายคนหนึ่งมา” ต่อให้ไม่อยากทำ แต่เธอจำต้องรับงานนี้ไว้ เพราะน้องชายกำลังป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงต้องทำการรักษาตัว
เงินที่ได้มา ก็แทบไม่ได้ใช้จ่ายอะไรนอกจากให้น้องได้รับการรักษาอย่างดีที่สุด
“ใช่ แค่แย่งผู้ชายคนนี้มาเท่านั้นเอง” ผู้ว่าจ้างยืนยันหนักแน่น
อิงดาวมองใบหน้าชายในมือถือ เขาเป็นคนหน้าตาค่อนข้างดี ดูสุภาพมีหรือจะมาชอบคนอย่างเธอ ที่สำคัญการแย่งคนรักคนอื่น ไม่ใช่ทางเลยสักนิด ถ้าไม่ติดว่ามูลค่าที่ได้นั้นมหาศาลทำให้เธอต้องยื่นมือมารับไว้อย่างเสียไม่ได้ อย่างไรชีวิตเธอน้องก็สำคัญที่สุด
คนถูกว่าจ้างเม้มริมฝีปากครุ่นคิดหนัก ยังไม่ได้แต่งงานกันคงไม่มีปัญหาอะไร
“ก็ได้ค่ะ ฉันรับงานนี้!”
“ฉันจะจ่ายให้ก่อนห้าล้าน งานเสร็จรับอีกห้าล้าน เป็นอันตกลงตามนี้นะ” ผู้ว่าจ้างบอก
“ตกลงค่ะ”
สาวิตรีหยิบกระเป๋าขึ้นสะพายไหล่ แล้วเดินออกนอกร้านกาแฟ อิงดาวมองตามแล้วระบายลมหายใจ เธอไม่ได้ตั้งใจเลย ถ้าหากไม่จำเป็นจริงๆ คงเลือกทางที่ถูกที่ควรมากกว่านี้
รถยนต์จอดเทียบหน้าโรงพยาบาล พยาบาลสาวก้าวออกมาแล้วระบายยิ้ม เธอเป็นสาวผิวน้ำผึ้ง รูปร่างบอบบาง วงหน้าคมเหมือนแขก ดวงตากลมโต เธอเปิดประตูขึ้นนั่ง ตรงคนขับมีชายรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาว หน้าตาสุภาพส่งยิ้มให้แล้วเคลื่อนรถออก
ศิรินภาเหลือบมองไปยังหน้ารถ เห็นรูปดาราสาวกำลังโด่งดังติดอยู่ เธออมยิ้มแล้วแกล้งช้อนสายตามอง
“ไม่ว่าที่ไหนก็มีรูปดาราคนนี้เต็มไปหมดเลยนะคะ ดูท่าคุณจะชอบมากเลย” ศิรินภาแกล้งแซว
“ก็เหมือนชอบดาราทั่วไปนั่นแหละครับนภา” เขาหัวเราะแผ่ว
เธอยิ้มบางๆ “ค่า นภาเข้าใจ”
อัครวุฒิยิ้มให้คนรัก แล้วขับเคลื่อนรถออกเพื่อเดินทางกลับบ้าน รถแล่นมาจนถึงหน้าบ้าน อัครวุฒิจอดรถแล้วเดินไปเปิดประตูรั้ว ก่อนขับรถเข้าสู่ด้านใน สองร่างเดินเคียงกันเข้าด้านใน ศิรินภารีบเข้าครัวเพื่อเตรียมอาหารสำหรับค่ำคืนนี้ ระหว่างทำร่างบางถูกโอบกอดจากด้านหลัง หญิงสาวหันมายิ้มกว้าง รู้สึกมีความสุขที่มีแฟนที่รักและเอาใจใส่ขนาดนี้
“อยากให้ถึงเดือนหน้าเร็วๆ จังเลยนภา” เขาบอกแฟนสาว แล้วจับให้เธอหันมาสบตา
“ทำไมคะ”
“ผมอยากแต่งงานกับคุณเร็วๆ น่ะสิ”
คนฟังหัวเราะแผ่ว “จะบ้าเหรอคะ แต่งเร็วจะไปเตรียมงานทันได้ยังไง”
ติ๊งต่อง!
เสียงกริ่งหน้าบ้านทำเอาสองคนชะงัก เขาคลายอ้อมกอดแล้วเดินออกมา เปิดประตูรั้ว เห็นหน้าคนมาเยือนชายหนุ่มชะงักอ้าปากค้าง สีหน้าตื่นตะลึง
“อิงดาว..” เขาละเมอ
เธอเสยผมแล้วยิ้มยั่ว จนทำเอาอีกฝ่ายละสายตาไม่ได้ เหงื่อผุดซึมใบหน้ายิ่งส่งให้ดาราสาวดูผุดผาดงดงามจนใจสั่น
“เอ่อ.. ขอโทษนะคะ ใช่บ้านคุณมัลลิการ์ไหม” เธอแสร้งถาม แล้วขมวดคิ้ว
คนถูกถามส่ายหน้าเหมือนคนละเมอ เธออมยิ้ม
“ถ้างั้นขอบคุณมากนะคะ” อิงดาวบอก แล้วหันกายเดินออกมา ก่อนหันกลับไปมอง แล้วยิ้มกว้าง เดินกลับมาหาเขาอีกครั้ง “คุณชื่ออะไรคะ”
“ผมอัครวุฒิครับ เรียกวุฒิเฉยๆ ก็ได้”
“ฉันอิงดาวนะคะ” ยื่นมือออกมาให้เขาจับ อัครวุฒิมองมือก่อนเอื้อมจับ
อิงดาวรับรู้ได้ถึงอาการสั่น มือนั่นเย็นเฉียบราวกับแช่น้ำแข็งมา
“เอาไว้เจอกันนะคะ” หญิงสาวก้าวออกมาแล้วขึ้นรถขับเคลื่อนออกไป
อัครวุฒิเดินละเมอเข้าบ้าน จนแฟนสาวต้องสะกิดมองหน้าเขาด้วยความสงสัย
“ใครมาเหรอคะ”
“อิงดาว”
คนฟังชะงัก จ้องมองด้วยความสงสัย อิงดาวงั้นเหรอ ทำไมต้องมาที่บ้านด้วย ว่าที่เจ้าบ่าวเธอกำลังละเมออะไรหรือเปล่า คนตัวเล็กยิ้มบางๆ แล้วตบไหล่หนา
“ไปทานข้าวกันเถอะค่ะ ฉันอนุญาตให้แค่ฝันถึงนะคะ แต่อย่าฝันนานต้องอยู่กับความเป็นจริงบ้าง” พูดจบเธอกลับเข้าครัวแล้วจัดเตรียมอาหารไว้ทานทันที
อัครวุฒิจอดรถริมบาทวิถี มองดูแฟนเดินเข้าโรงพยาบาล เขาขับรถออกจากบริเวณนั้นเพื่อเดินทางไปทำงานที่ระยองต่อ ชายหนุ่มมองนาฬิกาใกล้เวลานัดแล้ว เขามีอาชีพเป็นช่างถ่ายภาพนิตยสารชื่อดัง พบนักแสดงนางแบบมากหน้าหลายตา แต่ไม่เคยรู้สึกชอบพอใครเท่าอิงดาวมาก่อน เขาเคยเห็นผลงานเพื่อนๆ แต่ไม่เคยสัมผัสพูดคุยกับเธอเลย
รถจอดลงเมื่อถึงสถานที่ถ่ายภาพ ทีมงานเคลียร์ทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว อัครวุฒิหยิบกล้องออกมาแล้วเดินตรงไปยังชายหาด นางแบบในชุดว่ายน้ำบิกินี่สวมผ้าคลุมตาข่ายสีขาวทับหันมาสบตา ชายหนุ่มชะงักดวงตาจดจ้องภาพนั้นราวกับต้องมนต์สะกด ไม่คิดว่าวันนี้จะได้พบกันอีก สองเท้าก้าวเดินอย่างระมัดระวังภายในสั่นไหวอย่างรุนแรง เพราะความปลาบปลื้มภายใน
“นี่อัครวุฒิครับ ที่จะมาถ่ายภาพให้คุณอิงดาว” ผู้กำกับแนะนำ
“สวัสดีค่ะ” เธอระบายยิ้ม “เจอกันอีกแล้วนะคะ”
ชายหนุ่มชะงัก ไม่คิดว่าคนสวยจะจำตนได้ด้วย
“จำผมได้ด้วยเหรอครับ”
“จำได้สิคะ วันนั้นฉันหลงทางไปเจอคุณที่บ้านไงคะ”
อัครวุฒิยิ้มเขิน ก่อนทีมงานจะพากันมาตามให้ถ่ายแบบ เพราะดวงอาทิตย์กำลังให้แสงสวย ช่างภาพรัวถ่ายเมื่อนางเอกสาวโพสต์ท่า แสงสะท้อนผ่านเรือนร่าง เผยให้เห็นทรวดทรงน่ามอง อัครวุฒิกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น หนึ่งชั่วโมงต่อมาการถ่ายภาพจบลง อิงดาวเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า มือถือของเธอดังขึ้น
“ค่ะคุณสาวิตรี” เธอกรอกเสียง
“ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง”
“เรียบร้อยดีค่ะ อีกไม่นานเกินรอแน่นอน”
สาวิตรียกยิ้มพึงพอใจ “ขอบคุณมาก ฉันวางสายก่อนนะคะ” ตัดสายออกแล้วมองมือถือแววตาแข็งกร้าว ความเจ็บแค้นในอกอีกไม่นานจะได้รับการชำระ
อิงดาวมองตนเองในกระจก แล้วหยิบเสื้อผ้าจัดการเปลี่ยนชุด ออกมานอกห้องแต่งตัวเห็นร่างสูงยืนอยู่ เธอก้าวมาหาแล้วหยุดมอง เขาหันมาสบตาพอดี สีหน้าคนมองแดงขึ้น หญิงสาวยิ้มทักทาย
“อ้าวคุณอัครวุฒิ!”
เขายกมือเกาศีรษะ “เรียกผมวุฒิเฉยๆ ก็ได้ครับ”
“อ๋อค่ะคุณวุฒิ มายืนรอใครเหรอคะ” พูดจบ เธอแสร้งกวาดตามองรอบๆ
“ผมมารอคุณอิงดาวน่ะครับ”
เธอกระตุกยิ้มมุมปาก “เรียกดาวเฉยๆ ก็ได้นะคะ”
“ครับคุณดาว”
“ว่าแต่มารอดาวมีอะไรหรือเปล่าคะ”
อัครวุฒิอึกอักเล็กน้อย “ผมขอแลกไลน์กับคุณดาวได้ไหม”
อิงดาวชะงักเล็กน้อย แล้วฉีกยิ้มกว้าง
“ได้สิคะ” เธอบอกเบอร์โทรให้กับเขา พร้อมกับเมมเบอร์ของอัครวุฒิไว้
“ขอบคุณมากนะครับ”
“ถ้าอย่างนั้นดาวขอตัวก่อนนะคะ พอดีมีงานอีกที่หนึ่ง”
“ได้ครับ”
หนังสืออื่นๆ ของ vanalak
ข้อมูลเพิ่มเติม