5.0
ความคิดเห็น
7.1K
ชม
45
บท

เรื่อง...คุณหมอสะดุดรัก คำโปรย พริ้งพราวเพื่อนลากให้ไปเที่ยวผับแต่เธอดันถูกยาปลุกเซ็กเข้า แล้วบังเอิญมาเจอกับเขา คุณหมอหนุ่มวัย35ปี แล้วคุณหมอจะมีวิธีช่วยเธออย่างไร... แนะนำตัวละคร วายุภักษ์ ภักดีวัฒนากุล (วายุ) อายุ 35 ปี เขาเป็นผู้ชาย ขี้เล่น อารมณ์ดี และที่สำคัญเขายิ้มเก่งมากๆ วายุเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลสาขาที่เชียงใหม่และยังพ่วงด้วยตำแหน่งคุณหมอโรคหัวใจ เขาเป็นลูกชายคนโตของ เจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่มีสาขาอยู่หลายแห่งของประเทศไทย วายุมีความจำเป็นต้องย้ายมาจากสาขาที่เชียงใหม่ เพราะน้องชายที่ประจำอยู่เกิดอุบัติเหตุ วายุเลยมาประจำอยู่สาขาที่กรุงเทพแทนเป็นการชั่วคราว กมลเนตร ธนพัฒน์ธาดา (พริ้งพราว) หญิงสาวบริสุทธิ์ อายุ 24 ปี ทำงานในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพ และเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้เธอกับเขาอยู่ด้วยกันและค่อยๆ สนิทกัน เหนือเมฆ ภักดีวัฒนากุล (เมฆ) น้องชายคนเดียวของวายุ ตั้งแต่เขาประสบอุบัติเหตุเดินไม่ได้ เขาก็กลายเป็นคนอารมณ์ร้อน พยาบาลพิเศษที่จ้างมาดูแล ไม่มีใครสามารถอยู่กับเขาได้ จนได้มาเจอกับ...ข้าวหอม ศศินาทิพย์ คงเจริญ (ข้าวหอม) พยาบาลจบใหม่ เธออยู่ในช่วงทดลองงาน ถูกทางโรงพยาบาลขอร้องให้ไปดูแลคนป่วยที่บ้านตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีเงื่อนไข และเงื่อนไขนั้นทำให้เธอยอมตอบตกลงรับทำงานนี้ @@@@@@

บทที่ 1 ตอนที่1

ตอนที่1

วายุภักษ์ ภักดีวัฒนากุล คุณหมอหนุ่มไฟแรง เขาเป็นคุณหมอรักษาทางด้านโรคหัวใจ และยังพ่วงตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดสาขาที่เชียงใหม่อีกด้วย

"สวัสดีครับ คุณหมอ" คนไข้เอ่ยทักทายคุณหมอหนุ่ม ที่มาดูแลเขาอย่างดีเป็นประจำทุกวัน

"สวัสดีครับ วันนี้ดีขึ้นกว่าเมื่อวานมั้ยครับ" คุณหมอวายุกำลังเดินตรวจคนไข้ยามเช้าเป็นประจำในทุกๆวัน ก่อนที่วายุจะลงไปตรวจคนไข้รายใหม่ วายุจะต้องมาตรวจผู้ป่วยในก่อนเสมอ ถึงคุณหมอวายุจะเป็นคุณหมอที่รักษาคนไข้แล้ว เขายังต้องนั่งโต๊ะผู้บริหารโรงพยาบาลแห่งนี้อีกด้วย

"ดีขึ้นมากเลยครับคุณหมอ" คนไข้ที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยตอบคำถามคุณหมอหนุ่มแล้วยิ้มให้

"เก่งอย่างนี้อีกสองวันก็กลับบ้านได้แล้วมั้งครับ" คุณหมอวายุก็ยิ้มให้คนไข้เช่นกัน วายุเป็นผู้บริหารที่ไม่เคยถือตัวกับคนไข้ของเขา เขาเป็นคนใจดี ลูกน้องต่างรักไข้

"ครับ ผมก็อยากกลับบ้านจะแย่แล้วครับ" คนป่วยก็อย่างนี้แหละ อยากจะกลับแต่บ้านซึ่งคุณหมอก็เข้าใจ แต่ก็คงต้องรอให้หายดีก่อนเขาถึงจะอนุญาตให้กลับได้

"งั้นหมอขอให้คนไข้หายไวๆนะครับ บ่ายๆหมอจะขึ้นมาดูอาการอีกรอบนะครับ" วายุใส่ใจคนไข้ของเขาดีเสมอ ดีแบบนี้ทุกคน เพราะโรงพยาบาลของเขานั้นเน้นบริการดีเยี่ยม ซึ่งเขาก็เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกน้องทุกคนในโรงพยาบาลได้ดูเป็นตัวอย่างอีกด้วย

"ขอบคุณ คุณหมอมากนะครับที่ดูแลผมเป็นอย่างดี" โรงพยาบาลของเขานั้นเป็นโรงพยาบาลเอกชน คนที่เดินเข้ามารักษาต้องควักเงินในกระเป๋าจ่ายเองไม่เหมือนกับโรงพยาบาลของรัฐบาล เพราะฉะนั้นการให้บริการรักษาคนไข้ด้วยหัวใจของความเป็นหมอ ต้องดีที่สุดและมาก่อนทุกสิ่งเสมอ

"มันเป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้ว ไม่ต้องเกรงใจนะครับ" วายุเอ่ยกับคนไข้ของเขาอย่างยิ้มแย้มและเป็นกันเอง

"ครืดดดด ครืดดดด ครืดดดด" เสียงโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อกาวสีขาวของคุณหมอวายุดังขึ้น

"งั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ" คุณหมอวายุเดินออกจากตรงนั้นเพื่อไปรับสายเมื่อสักครู่นี้ที่โทรเข้ามา

"สวัสดีครับคุณแม่" เขากรอกเสียงลงไปในมือถือราคาแพง ที่หยิบขึ้นมาจากกระเป๋าแล้วกดรับ มันเป็นสายจากคุณแม่ของเขานั่นเอง

"วายุหรือลูก"

"ครับคุณแม่มีอะไรหรือเปล่าครับ เสียงคุณแม่แปลกๆ นะครับวันนี้" วายุรู้สึกได้จากน้ำเสียงของคุณแม่ของเขาที่ฟังดูแล้วเหมือนเสียงจะสั่นๆ

"เมฆเกิดอุบัติเหตุน่ะลูก ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล" เหนือเมฆคือน้องชายเพียงคนเดียวของวายุ ที่ดูแลโรงพยาบาลสาขาที่กรุงเทพ ส่วนสาขาอื่นจะเป็นคุณเดชากรเป็นคนดูแล ท่านก็คือคุณพ่อของเขานั่นเอง

"แล้วไอ้เมฆเป็นอะไรมากหรือเปล่าครับคุณแม่" วายุเริ่มใจไม่ดีที่น้องชายเพียงคนเดียวของเขาเกิดอุบัติเหตุ

"เห็นคุณพ่อบอกว่าขาข้างซ้าย กระดูกร้าว ส่วนอื่นไม่ได้เป็นอะไรมาก" คุณแม่ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล วายุรู้สึกได้ แต่สำหรับคนเป็นหมออย่างเขา วายุคิดว่าไม่น่าจะร้ายแรงอะไรมากนัก ถ้าตามที่คุณแม่พูดนะ

"กระดูกร้าวคงเดินไม่ได้นานเลยนะครับคุณแม่" มันก็อยู่ที่ว่าร้าวมากร้าวน้อย ดีที่ไม่แตกหรือหักก็บุญมากแล้ว

"วายุจะลงมาเยี่ยมน้องหน่อยมั้ยลูก"

"ไปครับๆ งั้นพรุ่งนี้ผมจะออกเดินทางสายๆคงถึงครับ" จากเชียงใหม่ไปกรุงเทพนั่งเครื่องแป๊บเดียวก็ถึง

"ถ้างั้น ค่อยคุยรายละเอียดกันนะลูก แม่ขอไปดูน้องก่อน"

"ครับ สวัสดีครับ" แล้วคุณหมอวายุก็วางสายของคุณแม่ของเขาไป จากนั้นวายุก็เดินมาหาผู้ช่วยของเขาที่ห้องทำงาน

"คุณโจ เดี๋ยวคุณช่วยจองตั๋วไปกรุงเทพให้ผมหน่อยนะครับ ขอเป็นพรุ่งนี้ตอนสายๆ ก็ได้" โจเป็นเลขาคอยดูแลงานเรื่องเอกสารช่วยวายุอีกแรง เป็นทั้งเพื่อน ผู้ช่วย คนสนิทและอะไรอีกหลายๆอย่าง แล้วแต่สถานะการณ์ที่วายุอยากจะให้โจเป็น

"พอใช้งานนี่พูดเพราะเลยนะครับคุณหมอ" คำว่าคุณโจ วายุเอาไว้เรียกเวลางาน ส่วนไอ้โจเอาไว้เรียกตอนมันกวนตีน มันคือเลขาหนุ่มอายุเพียง 30 ปี เท่านั้น วายุเป็นคนขี้เล่นแต่ถ้าเป็นเวลางานเขาก็จะทำเต็มที่และดีที่สุดด้วย

"เออ...จัดการให้ด้วย คุณโจครับฝากดูแลงานทางนี้สักอาทิตย์นะครับ" ไหนๆ ก็ใช้งานมันแล้ว ใช้ต่ออีกหน่อยแล้วกัน

"นั่นไงว่าแล้ว พูดเพราะแบบนี้ใช้งานเพิ่มนี่เอง" โจพูดอย่างรู้ทัน เขามักจะชอบพูดเล่นเป็นกันเองแบบนี้เป็นประจำ ถึงโจจะเป็นลูกน้องแต่วายุก็ไม่เคยถือสา เพราะโจทำงานดีแล้วก็เป็นคนที่ไว้ใจได้คนหนึ่ง

"เดี๋ยวเพิ่มโบนัทให้สามเท่า" มุขเดิมๆ ที่วายุมักจะใช้เวลาให้โจช่วยทำงานที่นอกเหนือจากงานประจำ

"คุณหมอมีอะไรจะใช้ผมอีกมั้ยครับ สั่งมาได้เลยนะครับผมยินดี" แล้วมันก็ใช้ได้ผลเหมือนเดิมแบบนี้ทุกครั้งไป

"อือ...ขอบใจมากถ้ามีอีกแล้วจะบอก" จากนั้นวายุก็เดินออกจากห้องทำงานเพื่อไปดูแลคนไข้ของเขาต่อ

ทางด้านกมลเนตร ธนพัฒน์ธาดา หรือ พริ้งพราว

เธอเป็นพนักงานข้อมูลในโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังในกรุงเทพ โรงพยาบาลนี้มีกฎต่างๆมากมาย เพื่อให้การบริการให้แก่คนไข้ได้รับการบริการที่พึงพอใจที่สุด ทำให้ในทุกๆวันพริ้งพราวต้องกลับห้องพักไปด้วยความเหนื่อยล้าสุดๆ

เธอเป็นคนต่างจังหวัด ถูกเลี้ยงดูมาโดยป้าแท้ๆของเธอ ส่วนพ่อแม่นั้นท่านได้เสียชีวิตไปตั้งแต่พริ้งพราวยังเรียนไม่จบมัธยมด้วยซ้ำ แล้วเธอก็ไม่มีพี่น้องจะมีก็แต่ครอบครัวของป้าเท่านั้น

เธอเช่าห้องอยู่กับเพื่อนสองคน พักหลังๆเพื่อนของเธอเริ่มมีแฟน กลับมาบ้างไม่กลับมาบ้าง พริ้งพราวเป็นคนกลัวผี ถึงจะรู้ว่ามันไม่มีอยู่จริงแต่เธอก็กลัวอยู่ดี

"ฮาโหล ต้นหอมวันนี้กลับห้องหรือเปล่า" พริ้งพราวโทรหาเพื่อนที่พักอยู่ด้วยกัน เพราะเธออยากรู้ว่าคืนนี้เพื่อนของเธอจะกลับมานอนด้วยหรือเปล่า ก็เธอกลัวผี ถ้าเพื่อนของเธอไม่กลับมาแสดงว่าเธอก็ต้องนอนคนเดียวอย่างกลัวๆ

"พราวนอนก่อนเลยนะ เรายังไม่รู้เลยว่าจะกลับหรือเปล่า วันนี้เรามาเที่ยว พราวสนใจมั้ย" ต้นหอมมักจะเอ่ยชวนพริ้งพราวไปเที่ยวด้วยกันเสมอ แต่พริ้งพราวก็ปฏิเสธทุกครั้งไป เพราะเธอไม่ชอบไปเที่ยว ในแบบที่เพื่อนของเธอชอบไปสักเท่าไหร่

"ไม่ล่ะ ต้นหอมเที่ยวให้สนุกเถอะ" ต้นหอมเป็นคนชอบเที่ยวกลางคืนแบบนี้คงไปเที่ยวผับอีกตามเคย วันนี้คงทิ้งให้พริ้งพราวต้องนอนคนเดียวอีกแล้ว กลัวก็กลัวเอาวะ รีบอาบน้ำแล้วนอนดีกว่าหลับให้ไวๆ พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ มะนาวสีชมพู

ข้อมูลเพิ่มเติม
พ่อม่ายกับยัยพี่เลี้ยง

พ่อม่ายกับยัยพี่เลี้ยง

โรแมนติก

5.0

เรื่อง...พ่อม่ายกับยัยพี่เลี้ยง คำโปรย...นักธุรกิจหนุ่มลูกติด มีปมชีวิตความใสซื่อและความดีของเธอทำให้เขาสนใจ ส่วนลูกชายที่ไม่ยอมไปโรงเรียนเพราะโดนเพื่อนล้อว่าไม่มีแม่ อยากได้เธอมาเป็นแม่ซึ่งเขาก็เห็นด้วยกับลูกชายเช่นกัน แนะนำตัวละคร คุณอาทิตย์ เจริญเดชาพงษ์ (คุณอาทิตย์) หนุ่มหล่อรวย เป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้ากลางใจเมือง และยังมีธุรกิจ ผลิต นำเข้า และส่งออก เกี่ยวกับสิ่งอิเล็กทรอนิกส์ รายใหญ่ที่สุดในประเทศอีกด้วย แต่อาทิตย์เขามีลูกติดชื่อน้องเกียร์เป็นเด็กผู้ชายอายุสามขวบ แม่เสียชีวิตตอนคลอดน้องเกียร์ออกมาได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เพราะเธอเสียเลือดมาก นันทิชา มงคลสวัสดิ์ (มิรา) หญิงสาวที่พึ่งเรียนจบมาใหม่ๆ เธอตกงาน ที่บ้านกำลังลำบาก เธอออกหางานทำเพราะต้องส่งน้องเรียน น้องเธออยู่มัธยมต้น เป็นผู้หญิงชื่อลิลิน พ่อแม่เสียไปนานแล้ว เหลือกันอยู่แค่สองคนพี่น้อง โดยได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านถึงรอดมาถึงทุกวันนี้ได้

อลเวงหัวใจพบรัก

อลเวงหัวใจพบรัก

โรแมนติก

5.0

เรื่อง...อลเวงหัวใจพบรัก คำโปรย รู้ทั้งรู้ว่าเป็นแค่การแสดง แต่ทุกครั้งที่เธอถูกเนื้อต้องตัว นอกจากเขาจะเสียเงิน ยังเหมือนถูกเธอลวนลามอีกด้วย (เรื่องราวจะอลเวงขนาดไหน ใครได้กำไร ใครขาดทุน ติดตามได้ในเรื่องนะคะ) แนะนำตัวละคร ปราโมทย์ (ปราชญ์) อายุ 32 ปี เจ้าของโรงแรมชื่อดังของจังหวัด เขาหล่อ รวย จึงไม่แปลกที่จะมีสาวๆเข้ามามากมาย แต่เขาไม่ต้องการ จึงอยากหาไม้กันหมาสักคน มากันผู้หญิงพวกนั้นออกไป เมธาวี (เมล์) อายุ 22 ปี พนักงานใหม่ที่เพิ่งรับเข้ามาทำงานในโรงแรม เธอสวย น่ารัก ขี้งก ความสามารถเรื่องงานไม่มี แต่เรื่องใช้ปากเธอถนัด @@@@@@ นิยายรัก ฟีลกู๊ด ฟินๆ เหมือนเดิมค่ะ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

Happy ที่โสดอีกครั้ง

Happy ที่โสดอีกครั้ง

STARMOON PTE. LTD.
4.9

แต่งงานกันเป็นเวลาสามปี เสิ่มชูคิดว่าต่อให้ป๋อมู่เหนียนจะใจแข็งสักแค่ไหนก็ควรจะอ่อนลงได้ด้วยความรักที่เธอมีกับเขามาโดยตลอด แต่เมื่อเขาบังคับให้เธอคุกเข่าลงในหอบรรพบุรุษของตระกูล เสิ่มชูถึงตระหนักว่าแท้ที่จริง ผู้ชายคนนี้ไม่มีหัวใจ คนที่ไม่มีหัวใจ เธอยังจะอาลัยอาวรณ์อยู่อีกทำไม? ดังนั้น เมื่อป๋อมู่เหนียนขอให้เธอเลือกระหว่างการคุกเข่าและการหย่าร้าง เสิ่มชูจึงเลือกการหย่าร้างไปโดยไม่ได้ลังเล เธอยังสาวยังสวยอยู่เช่นนี้ ทำไมจะต้องมาเสียเวลากับไอ้ผู้ชายคนนี้ด้วย!มิสู้กลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลจะดีกว่า

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

หงส์ขย่มมังกร(นิยายรักสำหรับผู้ใหญ่)

หงส์ขย่มมังกร(นิยายรักสำหรับผู้ใหญ่)

ซีไซต์
5.0

รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
คุณหมอสะดุดรัก
1

บทที่ 1 ตอนที่1

24/11/2024

2

บทที่ 2 ตอนที่ 2

24/11/2024

3

บทที่ 3 ตอนที่ 3

24/11/2024

4

บทที่ 4 ตอนที่ 4

24/11/2024

5

บทที่ 5 ตอนที่ 5

24/11/2024

6

บทที่ 6 ตอนที่ 6

24/11/2024

7

บทที่ 7 ตอนที่ 7

24/11/2024

8

บทที่ 8 ตอนที่ 8

24/11/2024

9

บทที่ 9 ตอนที่ 9

24/11/2024

10

บทที่ 10 ตอนที่ 10

24/11/2024

11

บทที่ 11 ตอนที่ 11

24/11/2024

12

บทที่ 12 ตอนที่ 12

24/11/2024

13

บทที่ 13 ตอนที่ 13

24/11/2024

14

บทที่ 14 ตอนที่ 14

24/11/2024

15

บทที่ 15 ตอนที่ 15

24/11/2024

16

บทที่ 16 ตอนที่ 16

24/11/2024

17

บทที่ 17 ตอนที่ 17

24/11/2024

18

บทที่ 18 ตอนที่ 18

24/11/2024

19

บทที่ 19 ตอนที่ 19

24/11/2024

20

บทที่ 20 ตอนที่ 20

24/11/2024

21

บทที่ 21 ตอนที่ 21

24/11/2024

22

บทที่ 22 ตอนที่ 22

24/11/2024

23

บทที่ 23 ตอนที่ 23

24/11/2024

24

บทที่ 24 ตอนที่ 24

24/11/2024

25

บทที่ 25 ตอนที่ 25

24/11/2024

26

บทที่ 26 ตอนที่ 26

24/11/2024

27

บทที่ 27 ตอนที่ 27

24/11/2024

28

บทที่ 28 ตอนที่ 28

24/11/2024

29

บทที่ 29 ตอนที่ 29

24/11/2024

30

บทที่ 30 ตอนที่ 30

24/11/2024

31

บทที่ 31 ตอนที่ 31

24/11/2024

32

บทที่ 32 ตอนที่ 32

24/11/2024

33

บทที่ 33 ตอนที่ 33

24/11/2024

34

บทที่ 34 ตอนที่ 34

24/11/2024

35

บทที่ 35 ตอนที่ 35

24/11/2024

36

บทที่ 36 ตอนที่ 36

24/11/2024

37

บทที่ 37 ตอนที่ 37

24/11/2024

38

บทที่ 38 ตอนที่ 38

24/11/2024

39

บทที่ 39 ตอนที่ 39

24/11/2024

40

บทที่ 40 ตอนที่ 40

24/11/2024