เจ้าสาวของชเยศ

เจ้าสาวของชเยศ

B.J.BEN

5.0
ความคิดเห็น
1.1K
ชม
23
บท

โปรย เจ้าสาวของชเยศ เพราะเธอช่วยพี่สาวให้หนีไป คีติกาจึงต้องแต่งงานกับว่าที่พี่เขยของตัวเอง ทำให้เขาโกรธมาก จากที่เธอคิดว่าเขาจะยกเลิกการแต่งงาน เขากลับแต่งงานและรับเธอเป็นเมียแทน ตัวอย่างบางช่วงบางตอน “ฉันไม่อยากเป็นเมียคุณ” “อยากไม่อยากก็เป็นไปแล้ว” เขาไม่ยอมปล่อยเธอไปแน่ ชเยศมองหญิงสาวอย่างเอาเรื่อง ทำเอาคีติกาต้องเม้มปากเข้าหากันเมื่อเห็นท่าทีของเขา “ฉันไม่ได้ขู่ แต่ฉันเอาจริง อยากเข้าไปในนอนในคุกก็เอาสิ คนแบบฉันสามารถทำให้เธอเข้าไปนอนในคุกได้สบาย ๆ หรือเธออยากจะลองดู” “อย่ามาขู่นะ ฉันไม่กลัวคุณหรอก” “ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้ขู่ หรือจะลอง” “ก็ได้ อยากได้อะไรก็บอก ฉันจะดูแลคุณก็ได้ แต่ไม่ใช่ในฐานะเมียคุณนะ แต่ฐานะที่ฉันทำให้คุณเจ็บตัวก็แล้วกัน” เสียงเธออ่อนลง เธอไม่ควรลองดีกับเขา นี่สิถึงจะถูก รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี เคยมีคนสอนเธอเอาไว้ “ฉันปวดฉี่” “คะ” เธอมองหน้าเขาแล้วกัดปากตัวเอง ก่อนหน้านี้เพิ่งเช็ดตัวเสร็จ และเมื่อกี้เพิ่งกินข้าว นี่จะเข้าห้องน้ำอีกแล้ว ป้อนข้าวไม่เท่าไหร่ แต่เช็ดตัวนี่สิ คนบ้าเรียกให้เธอไปถอดเสื้อผ้าให้ พอเธอไม่ทำ เขาก็จัดการแก้ผ้าตัวเองเสียเลย น่าอายที่สุด ไอ้คนบ้าลามก! เธอด่าเขาอยู่ในใจ “ค่ะ” เธอรับคำ พลางกัดฟันกรอด จัดการพาเขาเข้าห้องน้ำ “ฉันรอคุณอยู่ข้างนอกนะ” “ห้ามไปไหนไกลล่ะ เดี๋ยวเรียกแล้วไม่ได้ยิน” “คุณก็รีบทำธุระให้เสร็จสิ” เธอหันหลังให้เขา พลางทำหน้าเมื่อย “เสร็จแล้ว เธอมาช่วยฉันหน่อย” “ช่วยอะไร” “ก็มาก่อนสิ” “ว้าย! อะไรของคุณนี่” เธอร้องขึ้นเมื่อเดินเข้าไปหาเขาก็ยังอยู่ในสภาพไม่เรียบร้อย “ช่วยล้างอนาคอนด้าให้ฉันหน่อย” “ก็ล้างเองสิ ไอ้บ้า คุณนี่มั่นหน้ามากนะ เรียกของตัวเองว่าอนาคอนด้า โหย... ไอ้หนอนชาเขียว” “หน็อย... เธอว่าฉันเป็นหนอนชาเขียวอย่างนั้นเหรอ คอยดูหนอนชาเขียวอย่างฉันจะทำให้เธอครางได้ไหม” “ไอ้บ้า ไอ้ลามก ฉันไม่ยอมเป็นเมียคุณหรอก” “ก็ลองดูกันไป” เขากระชากเธอมาหา ก่อนจะพูดชิดใบหน้านวลเนียนของเธอ คีติกาดิ้นหนีเขาก็กดเธอไปกับผนังห้องน้ำก่อนจะบดจูบเธออย่างดุเดือด เพียะ! เสียงตบดังขึ้น ใบหน้าของเขาหันไปตามแรงตบ เขาก็ดึงเธอมากอดจูบอย่างดุเดือดอีกรอบ เธอก็ตบเขาอีกรอบ “ชอบตบจูบก็ไม่บอก” เขาจับเธออุ้มขึ้นพาดบ่า ความจริงอาการของเขาดีขึ้นมากแล้ว สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ตั้งนานแล้ว แต่ที่เขายังอยู่โรงพยาบาลเพราะอยากแกล้งคีติกา “ไอ้บ้า! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ” เธอกรีดร้องดีดดิ้นเมื่อเขากดเธอลงไปบนเตียงนอนของโรงพยาบาล “ไม่ปล่อย มีปัญญาดิ้นก็ดิ้นไปสิ” “ไหนคุณบอกว่ายังปวดหัวอยู่ไง” เขาบอกว่ายังป่วยอยู่ ต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกหลายวัน แล้วนี่อะไรกัน “ฉันป่วยน่ะใช่ แต่ฉันก็อยากปราบพยศเธอ” “โอ๊ย!” ชเยศร้องเสียงหลงเมื่อโดนกัดเข้าที่บ่า “นึกว่าจะหนีรอดอย่างนั้นเหรอ โอ๊ย!” ชเยศร้องอีกรอบ รอบนี้เขาโดนเข่ากระแทกเข้าที่กล่องดวงใจ “สมน้ำหน้า” แนวนิยาย นิยายรักโรแมนติกหวานละมุน ซาบซึ้งตรึงใจ ตลกเบาสมอง พ่อแง่แม่งอน ตบจูบ พระนางชอบกัดกันเอาชนะกัน จบแบบสุขนิยม น่ารักไม่เครียด...

บทที่ 1 1

ชเยศฟื้นขึ้นมาบนเตียงของโรงพยาบาล โดยมีผ้าสีขาวพันเอาไว้บนศีรษะ

เขากวาดสายตามองไปรอบห้องก็สะดุดเข้ากับร่างของเจ้าสาวหมาดๆ ที่เขาเพิ่งแต่งงานด้วย

เธอเองก็ดีใจที่เขาฟื้นขึ้นมาเช่นกัน แต่เขานี่สิปวดหัวจนแทบระเบิด

“คุณเป็นยังไงบ้าง” เธอเอ่ยถามอย่างกระตือรือร้น ถ้าเขาตายไป เธอติดคุกแน่

“ฉันยังไม่ตาย” เขาเอ่ยตอบออกมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ก่อนจะหลับตาลงเพราะปวดหัว

“ปากดี” เธอเบ้หน้าใส่เขา

“ฉันจะแจ้งความข้อหาทำร้ายร่างกาย”

“ก็คุณอยากมาปลุกปล้ำฉันก่อนทำไม”

เธอช่วยให้พี่สาวหนีไปกับคมฉกรรจ์เพราะสงสารในชะตากรรมของพี่สาวที่ต้องแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก และเธอก็เคารพรักคมฉกรรจ์เป็นอันมาก เพราะเขาเคยช่วยชีวิตเธอเอาไว้ในตอนเด็ก สิ่งไหนที่จะตอบแทนเขาได้ เธอจึงช่วยเขาอย่างเต็มที่ ดังนั้นเธอจึงให้เขาลักลอบเข้ามาพาตัวพี่สาวออกไปจากห้องนอน โดยการวางยาสลบ ในขณะที่เธอปลอมตัวเป็นพี่สาวเข้าพิธีแต่งงานกับชเยศแทน

เธอคิดว่าชเยศไม่ได้ตัวพี่สาวของเธอ เขาก็คงยกเลิกงานแต่ง แต่ไม่ใช่อย่างนั้น เขายังคงแต่งงานต่อไป อาจเพราะรักษาหน้า เธอคิดไปอีกทางหนึ่ง พอเสร็จงานก็คงแยกย้าย แต่ที่ไหนได้ เขาแก้แค้นเธอ ที่เธอช่วยให้คมฉกรรจ์พาพี่สาวเธอหนีไป จะเข้ามาปลุกปล้ำเธอ ทวงสิทธิ์ว่าเป็นสามีแต่งงานกันแล้ว เธอต่อสู้ก็เลยเอาโคมไฟฟาดหัวเขาจนหัวแตก

เธอตกใจมากกลัวเขาตาย จึงรีบเรียกให้บิดามารดาเอารถออกเพื่อพาเขามาโรงพยาบาล และโชคดีที่เขาไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่หัวแตกเท่านั้น

แต่ปากไม่ได้แตกตามไปด้วย ถึงยังปากดีอยู่แบบนี้

“จำไม่ได้หรือไงว่าเธอแต่งงานกับฉันแล้ว เธอเป็นเมียฉัน ฉันจะนอนกับเมียมันผิดตรงไหน”

“ผิดสิ เพราะฉันกับคุณไม่ได้รักกัน คนที่คุณจะแต่งงานด้วยคือพี่สาวของฉัน”

“อ้อ... รู้ด้วยใช่ไหมว่าคนที่ฉันจะแต่งงานด้วยคือพี่สาวของเธอ เธอก็ยังจะช่วยให้คมฉกรรจ์พาคีตาหนีไป”

“ฉัน...” เธออึกอัก ยอมรับว่าทำแบบนั้นจริงๆ ตอนทะเลาะกับเขา เธอเผลอคายความลับนี้ออกมา ไม่น่าเลยจริงๆ ถ้าเธอทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เขาก็ไม่รู้หรอกว่าใครเป็นคนช่วยคมฉกรรจ์พาพี่สาวของเธอหนีไป

ปากพาจนแท้ๆ เลยยัยเพลิน

แต่ช่างหัวมัน เธอไม่ยอมรับผิดซะอย่าง ใครจะทำไม

“คุณนั่นแหละผิด พี่สาวของฉันรักอยู่กับพี่คม คุณก็ยังจะมาแย่งเขาไป ทำทุกวิถีทางบีบบังคับให้พี่สาวของฉันแต่งงานกับคุณ พี่คมพาพี่เพลงหนีไปน่ะถูกต้องแล้ว พี่เพลงจะได้ไม่ต้องแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ได้รักอย่างคุณ”

“อ้อ... เหรอ คนที่บีบบังคับพี่สาวของเธอคือพ่อแม่ของเธอไม่ใช่เหรอ ฉันก็แค่จีบ แต่คนที่ทำให้พี่สาวของเธอแต่งงานกับฉันคือพ่อแม่เธอนะคีติกา”

คีติกาเม้มปากเข้าหากัน เขาพูดก็ถูก บิดามารดาเล่นใหญ่ไฟกะพริบ ดราม่าน้ำตาแตก แถมยังยอมลงทุนโดนซ้อม แล้วพี่สาวที่รักพ่อแม่เหนือเกล้าเหนือหัวอย่างคีตาจะยอมทนให้พ่อแม่ลำบากอย่างนั้นเหรอ ไม่แน่นอน คีตาจึงเลยยอมตกลงแต่งงานกับชเยศ ในขณะที่คมฉกรรจ์เดินทางไปทำงานต่างจังหวัด และเธอก็ไม่ได้อยู่บ้านในช่วงนั้น

“ก็เพราะคุณมาจีบพี่สาวฉันไง พ่อแม่เลยบังคับพี่เพลง ถ้าคุณรู้ว่าพี่สาวของฉันมีคนที่รักอยู่แล้ว คุณมีคุณธรรมสักนิด ก็คงไม่คิดแย่งผู้หญิงของคนอื่นหรอก คุณเองก็หน้าตาดี การศึกษาดี ฐานะก็ดี คงไม่ขาดแคลนผู้หญิงหรอกใช่ไหม”

“ก็ใช่ ว่าฉันไม่ขาดแคลนผู้หญิง แต่ตอนนั้นฉันพบพี่สาวของเธอ ฉันก็ตกหลุมรักในทันที ก็เลยจีบ ใครจะไปรู้ล่ะว่าพี่สาวของเธอมีคนรักอยู่แล้ว พี่สาวของเธอก็ไม่ได้เอาป้ายมาแขวนคอไว้เสียหน่อยว่ามีว่าที่ผัวแล้ว”

“คุณนี่มัน” เธอขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ปากร้าย ปากจัดยิ่งกว่าผู้หญิงก็นายชเยศนี่แหละ เธอไม่เคยพบเคยเจอคนบ้าอะไรเถียงเก่งแถเก่งเหมือนเขามาก่อนเลย

“ฉันทำไม”

“ปากดีแบบนี้คุณคงดูแลตัวเองได้แล้ว และฉันขอบอกตรงนี้เลยว่าฉันจะไม่ยอมเป็นเมียคุณเด็ดขาด” เธอ

กับเขาเจอกันเป็นทะเลาะกัน ถ้าให้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ คงทะเลาะกันตายแน่ ๆ ที่สำคัญก็คือเธอไม่ชอบหน้าเขาเอามากๆ

“ถ้าเธอขืนก้าวออกไปจากห้องนี้ รับรองได้เลยว่าฉันจะให้คนของฉันแจ้งความข้อหาทำร้ายร่างกายแน่ ๆ ที่สำคัญก็คือเธอเป็นเมียฉันแล้ว ยังไงก็ต้องดูแลผัว มันเป็นหน้าที่และเป็นการชดใช้กับสิ่งที่เธอทำกับฉัน”

“ฉันไม่อยากเป็นเมียคุณ”

“อยากไม่อยากก็เป็นไปแล้ว อีกอย่างพี่สาวเธอหนีไปกับชายอื่น ฉันคงไม่เอาของเหลือเดนของใครแน่ แต่คนที่ฉันจะเอาก็คือเธอนี่แหละ เธอต้องชดใช้กับสิ่งที่เธอทำเอาไว้กับฉัน” เขาไม่ยอมปล่อยเธอไปแน่ ชเยศมองหญิงสาวอย่างเอาเรื่อง ทำเอาคีติกาต้องเม้มปากเข้าหากันเมื่อเห็นท่าทีของเขา

“ฉันไม่ได้ขู่ แต่ฉันเอาจริง อยากเข้าไปในนอนในคุกก็เอาสิ คนแบบฉันสามารถทำให้เธอเข้าไปนอนในคุกได้สบาย ๆ หรือเธออยากจะลองดู”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม
วิวาห์คลั่งรัก

วิวาห์คลั่งรัก

สมัยใหม่

5.0

เมื่อโชคชะตาบังคับให้เขาและเธอซึ่งเป็นคู่กัดต้องกลายเป็นคู่แต่งงานแบบสายฟ้าแลบ! ระหว่างอดีตที่เต็มไปด้วยการปะทะคารม กับปัจจุบันที่ต้องใช้ชีวิตร่วมชายคา... เรื่องวุ่น ๆ จึงเริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่แปรงสีฟันยันหัวใจ เขา...ผู้ชายเจ้าเล่ห์ ขี้แกล้ง และขี้หวงอย่างหนัก เธอ...หญิงสาวปากแข็ง ขี้ประชด แต่แอบอ่อนโยนในทุกความใส่ใจ จากบ้านไม้ริมคลอง กลายเป็นสนามรักและสงครามขนาดย่อม ที่ไม่มีใครยอมใคร แต่หัวใจสองดวงกลับเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด... เพราะบางที...โชคชะตาอาจไม่ได้บังคับ แต่มันอาจกำลังพาเขาและเธอ... กลับมายังที่ที่เรียกว่า "บ้าน" ด้วยกัน

คู่หมั้นไร้เสน่หา

คู่หมั้นไร้เสน่หา

โรแมนติก

5.0

เมื่อข่าวฉาวบิดเบือนเปลี่ยนหญิงสาวให้กลายเป็นคนที่เขาเกลียด และเมื่อคำสัญญาเก่าของผู้ใหญ่ พาเธอกลับมาในฐานะ ‘คู่หมั้น’ ที่เขาไม่ต้องการ ลลิล สาวสวยผู้สง่างามและเข้มแข็ง ต้องเผชิญแรงกดดันจากคนในครอบครัว รวมถึง กวิน ชายหนุ่มผู้เย็นชา ผู้มองเธอด้วยสายตาดูแคลน…แต่ไม่อาจละสายตาได้เลย ในความเงียบงันระหว่างพวกเขา...กลับมี ‘หัวใจ’ ที่ค่อย ๆ เรียนรู้กันอย่างไม่รู้ตัว จากความเข้าใจผิด กลายเป็นความผูกพัน จากการดูแคลน กลายเป็นการปกป้อง และจาก ‘คู่หมั้นไร้เสน่หา’ กลายเป็น ‘ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารัก’

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ตามเธอไม่เคยทัน

ตามเธอไม่เคยทัน

Crepuscular Glyph
5.0

หลินหลั่งเยี่ยน เป็นลูกสาวที่ได้รับการฝึกฝนอย่างลับๆ จากรัฐ เป็นสาวอัจฉริยะที่ทุกคนในองค์กรอิจฉา มีความสามารถทางการต่อสู้สูงและไม่ยอมใคร แต่มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ว่าพ่อแม่ของเธอเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเด็ก ทำให้เธอต้องใช้ชีวิตอยู่กับน้องสาวฝาแฝดของเธอเพียงลำพัง หลังจากผ่านไปเจ็ดปี ในที่สุดรัฐก็อนุมัติอิสรภาพให้เธอ หัวใจของหลินเหลิงเหยียนเต้นระรัวด้วยความคาดหวัง ขณะที่เธอกำลังเดินทางกลับบ้าน แต่เธอกลับต้องพบว่าป้าของเธอใช้ชีวิตอย่างหรูหราในบ้านพักของพ่อแม่ผู้ล่วงลับ ขณะที่น้องสาวของเธอเองกลับถูกบังคับให้นอนในคอกสุนัขและกินของเหลือ ทันใดนั้น เธอพลิกโต๊ะอาหารด้วยความโกรธ ป้าข่มขู่? เธอใช้วิธีการที่เด็ดขาดถอนตัวจากการร่วมมือ จนบริษัทของป้าพังทลายลงอย่างรวดเร็ว! การกลั่นแกล้งในโรงเรียน? เธอปลอมตัวเป็นน้องสาว เข้าไปในโรงเรียนและตัดสินใจสู้ไฟด้วยไฟ จากนั้นเธอก็ถ่ายทอดสดตอนพวกอันธพาลคุกเข่าร้องขอความเมตตา ถูกเยาะเย้ยเรื่องตัวตน? หลินหลั่งเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา“ใช่ ฉันก็แค่คนธรรมดา” ในวินาทีถัดมา ครอบครัวที่มีชื่อเสียงมายืนยันว่า“เธอคือลูกสาวคนโตของเรา!” สถาบันวิจัยแห่งชาติ “พวกเราคือเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอ!” …… ซือฮานเฟิง ผู้เป็นผู้นำของตระกูลลึกลับ ไม่เคยปรากฏตัวในสายตาสาธารณชน ข่าวลือว่าเขาเป็นคนเยือกเย็นและไร้ความปรานี บางคนเคยเห็นเขายืนสูบบุหรี่ในสถานการณ์ที่น่ากลัว และบางคนก็เห็นเขาฆ่าคนโดยไม่กระพริบตา แต่ต่อมากลับมีคนเห็นว่าเขาไล่ตามหลินหลั่งเยี่ยนจนถึงมุมกำแพง ดวงตาเต็มไปด้วยความเศร้าและความไม่พอใจ “หลั่งเยี่ยน ฉันช่วยเธอจัดการพวกนั้นแล้ว เธอควรจะอยู่เป็นเพื่อนกับฉันบ้างไหม?” “เราไม่ใช่แค่พันธมิตรหรือ?” หลินหลั่งเยี่ยนพูดอย่างงงงวย ซือฮานเฟิงถอนหายใจลึกๆ แล้วจูบเบาๆ บนริมฝีปากของเธอ “ตอนนี้ล่ะ”

สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง

สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ