วิวาห์สับเปลี่ยนเจ้าสาว

วิวาห์สับเปลี่ยนเจ้าสาว

B.J.BEN

5.0
ความคิดเห็น
2.9K
ชม
28
บท

โปรย วิวาห์สับเปลี่ยนเจ้าสาว แรกเริ่มเดิมทีเขาทั้งโกรธทั้งเสียหน้าที่โดนลบเหลี่ยมลูบคม แต่งงานกับอีกคนแต่กลับได้อีกคนมานอนร่วมเตียงในคืนเข้าหอ หญิงสาวที่มีฐานะต่ำสุดในบ้าน ไม่ต่างจากคนรับใช้ แต่ถูกเรียกว่าเป็นทายาทอีกคนของตระกูล แต่เวลาผ่านไปทุกอย่างกลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อเขาทั้งหวงแหนและห่วงเธอเป็นที่สุด

บทที่ 1 1

“นี่มันอะไรกัน ทำแบบนี้ได้ยังไงห้ะ” เสียงที่ดังขึ้นทำให้ร่างของกรจักรลุกจากเตียงด้วยอาการปวดหัวอย่างรุนแรง

เขารู้สึกรำคาญเสียงแว้ด ๆ ที่ดังอยู่ข้างเตียงไม่น้อย จึงลืมตามองอย่างหงุดหงิด

“แม่ค้าปากตลาดที่ไหนมาแว้ด ๆ อยู่ตรงนี้นี่”

“คุณจักรแหกตาดูสิคะว่านี่ใคร” ธีรยากระชากเสียงถามด้วยสีหน้าโมโห

“พูดกันดีๆ หน่อยคุณยา” เกดกนกไม่ชอบประโยคของธีรยาเลยแม้แต่น้อย

กรจักรขยับกายไปมา แล้วมองทุกคนก่อนจะมองไปบนเตียงกว้างที่เขานอนอยู่

เมื่อวานเขาแต่งงานและเข้าห้องหอที่นี่ แต่เจ้าสาวกลับไม่ใช่เทวิกาอย่างที่ควรจะเป็น

แต่กลับเป็นใบบัวสาวใช้ในบ้านอย่างนั้นเหรอ

สติสตังของกรจักรกลับมาอีกครั้งพร้อมด้วยความตกใจ

“เฮ้ย! เธอมาอยู่บนเตียงของฉันได้ยังไงกัน” กรจักรกระชากเสียงถาม

ใบบัวส่ายหน้าไปมา ก้มหน้าก้มตาไม่พูดอะไร เขาเองรับรู้ว่าเธอเป็นใบ้ตามคำบอกเล่าของคนในบ้าน

“เราคงต้องคุยกันยาวนะคะ” ธีรยาเอ่ยขึ้น หันไปมองหน้าเกดกนกอย่างเอาเรื่อง เกดกนกเองได้แต่ถอนใจพรืดใหญ่

“ตาจักร สวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วออกไปคุยกัน” เกดกนกพูดเสียงเฉียบ สีหน้าของเกดกนกไม่มีความแตกตื่นเลยแม้แต่น้อย นางเป็นคนชัดเจน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็พร้อมรับทุกสถานการณ์

“คุณแม่ผม...” กรจักรได้แต่งุนงง ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าตัวเองมาอยู่ในห้องหอกับใบบัวได้อย่างไรกัน

“หนูบัวแต่งเนื้อแต่งตัวซะ เดี๋ยวคงต้องคุยกันยาว” เกดกนกพูดเสียงเรียบสีหน้าเอ็นดูหญิงสาวตรงหน้าพอสมควร

กรจักรสบถยาวเหยียด ทำเอาใบบัวถึงกับสะดุ้ง ชายหนุ่มลุกจากเตียงไปแต่งตัว ในขณะที่ใบบัวได้แต่ลนลานด้วยความหวาดกลัว

ทุกคนมาพร้อมกันที่ห้องโถงใหญ่ของตัวบ้านด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ใบบัวนั่งก้มหน้างุดอยู่กับพื้น

เธอรู้อยู่เต็มอกว่าเรื่องราวทุกอย่างต้องเป็นแบบนี้เพราะอะไร แต่เธอพูดไม่ได้ บอกใครก็ไม่ได้ด้วย ไม่อย่างนั้นเธอต้องตายแน่ ๆ

เพราะมารดาคือเมียน้อยของณัฐ ท่านมาหลอกมารดาของเธอว่ายังไม่มีภรรยา จนตั้งท้อง แต่สุดท้ายก็มีภรรยาอยู่แล้วคือธีรยา

มารดาของเธอรู้เข้าก็เสียใจมากจึงพาเธอหนีไป แต่มารดาโชคร้ายเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย จึงพาเธอมาฝากให้ณัฐเลี้ยงดูในฐานะลูกสาวอีกคนในวัยสิบขวบ หลังจากนั้นความเลวร้ายก็เกิดขึ้น คนในบ้านทุกคนเกลียดเธอ กดขี่ข่มเหง ใช้งานเยี่ยงทาส บิดาก็ไม่ได้สนใจนัก อาจเพราะต่อหน้าธีรยาแกล้งทำดีกับเธอกลบความชั่วร้ายของตัวเอง

และสิ่งที่ทำให้เธอทุกข์ใจมากที่สุดก็คือการโดนตราหน้าว่าเป็นลูกเมียน้อย

มารดาไม่ได้อยากจะเป็นเมียน้อยใคร แต่เพราะความเห็นแก่ตัวของบิดาที่มาหลอกลวงว่ายังโสด ไม่มีพันธะและยังไม่แต่งงาน ทำให้มารดาหลงเชื่อว่ารักจริงหวังแต่ง

เธอไม่ได้รับการเลี้ยงดูในฐานะลูกอีกคน แต่ถูกเลี้ยงดูในฐานะคนใช้ แตกต่างจากเทวิกา ลูกสาวเพียงคนเดียวที่เกิดจากภรรยาหลวง ได้รับการดูแลอย่างดีประดุจดั่งเจ้าหญิง ทั้งเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ อาหารการกิน การศึกษาที่ดี ตรงกันข้ามกับเธอโดยสิ้นเชิง

ธีรยาเกลียดชังเธอมาก ไม่พอใจก็ตบตีทำร้าย ทั้งยังไม่ชอบเสียงพูดเสียงร้องของเธอ ถ้าเธอยิ่งร้องขอความช่วยเหลือหรือพูดออกมา ก็จะโดนหนัก นั่นจึงทำให้ใบบัวพูดน้อยลงเรื่อย ๆ จนเธอไม่ชอบพูดคุยกับใคร ทำเหมือนตัวเองไม่มีตัวตนในบ้านหลังนี้

“เอาล่ะ ฉันจะไม่อ้อมค้อมนะคะคุณเกด ในเมื่อลูกชายของคุณเข้าห้องหอกับใบบัวแทนที่จะเป็นลูกสาวของฉัน ลูกชายของคุณก็ต้องรับใบบัวเป็นเมีย” ธีรยาพูดแบบตรงประเด็นไม่อ้อมค้อม

“ได้ยังไง ผมแต่งงานกับเทวิกา จะให้รับคนใช้เป็นเมียนี่นะ” กรจักรโวยวาย

เทวิกาสวย การศึกษาดี มีชาติตระกูล เขายอมรับว่าถูกใจ แต่ไม่ถึงกับรักใคร่เพราะไม่ได้คบหากัน

ปู่ของเขาที่ป่วยหนักอยู่ที่โรงพยาบาลอยากตอบแทนบุญคุณตระกูลไกรวิทย์ จึงมีคำมั่นสัญญาแต่งงานกันระหว่างหลานทั้งสอง เนื่องด้วยตระกูลไกรวิทย์ของคุณปู่เมฆาเคยมีบุญคุณช่วยเหลือปู่สิงหลของเขาเอาไว้

ความช่วยเหลือนั้นเป็นเงินก้อนหนึ่งที่ช่วยพยุงกิจการของครอบครัว จนตอนนี้บ้านของเขาร่ำรวยขึ้นมาก็เพราะเงินก้อนนั้น

คุณปู่สอนเขาว่ามีบุญคุณต้องทดแทนมีแค้นต้องชำระ ดังนั้นเขาจึงต้องเข้าพิธีแต่งงานกับคู่หมั้นที่คุณปู่หมั้นเอาไว้นานแล้ว แต่ไม่เคยคบหากันมาก่อน

แต่เพราะคำมั่นสัญญามันสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด และปู่ของเขากำลังนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล อาการไม่ค่อยดี การทำตามความต้องการของท่านเป็นครั้งสุดท้ายทำให้เขาต้องสละโสดในครั้งนี้

เงินที่ปู่ของเขาเคยได้รับการช่วยเหลือจากปู่ของเทวิกาเป็นจำนวนเงินที่ไม่มากนักเมื่อเทียบกับสมัยนี้ แต่ปู่ของเขาก็ถือว่าเป็นบุญคุณครั้งใหญ่ จึงให้เขาจัดสินสอดมาให้หลานสาวของปู่เมฆาจำนวนมาก ด้วยเงินสดสิบล้านบาท เครื่องเพชรเครื่องทองและรถยนต์อีกหนึ่งคัน

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม
วิวาห์คลั่งรัก

วิวาห์คลั่งรัก

สมัยใหม่

5.0

เมื่อโชคชะตาบังคับให้เขาและเธอซึ่งเป็นคู่กัดต้องกลายเป็นคู่แต่งงานแบบสายฟ้าแลบ! ระหว่างอดีตที่เต็มไปด้วยการปะทะคารม กับปัจจุบันที่ต้องใช้ชีวิตร่วมชายคา... เรื่องวุ่น ๆ จึงเริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่แปรงสีฟันยันหัวใจ เขา...ผู้ชายเจ้าเล่ห์ ขี้แกล้ง และขี้หวงอย่างหนัก เธอ...หญิงสาวปากแข็ง ขี้ประชด แต่แอบอ่อนโยนในทุกความใส่ใจ จากบ้านไม้ริมคลอง กลายเป็นสนามรักและสงครามขนาดย่อม ที่ไม่มีใครยอมใคร แต่หัวใจสองดวงกลับเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด... เพราะบางที...โชคชะตาอาจไม่ได้บังคับ แต่มันอาจกำลังพาเขาและเธอ... กลับมายังที่ที่เรียกว่า "บ้าน" ด้วยกัน

คู่หมั้นไร้เสน่หา

คู่หมั้นไร้เสน่หา

โรแมนติก

5.0

เมื่อข่าวฉาวบิดเบือนเปลี่ยนหญิงสาวให้กลายเป็นคนที่เขาเกลียด และเมื่อคำสัญญาเก่าของผู้ใหญ่ พาเธอกลับมาในฐานะ ‘คู่หมั้น’ ที่เขาไม่ต้องการ ลลิล สาวสวยผู้สง่างามและเข้มแข็ง ต้องเผชิญแรงกดดันจากคนในครอบครัว รวมถึง กวิน ชายหนุ่มผู้เย็นชา ผู้มองเธอด้วยสายตาดูแคลน…แต่ไม่อาจละสายตาได้เลย ในความเงียบงันระหว่างพวกเขา...กลับมี ‘หัวใจ’ ที่ค่อย ๆ เรียนรู้กันอย่างไม่รู้ตัว จากความเข้าใจผิด กลายเป็นความผูกพัน จากการดูแคลน กลายเป็นการปกป้อง และจาก ‘คู่หมั้นไร้เสน่หา’ กลายเป็น ‘ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารัก’

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

Thalia Frost
5.0

กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...

โซ่ผูกรัก

โซ่ผูกรัก

ดอกอ้อลู่ลม
5.0

"ไปเอาเด็กออกซะ" "ธีร์" ฉันไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดนี้จากปากของเขา "ได้ยินไหม ไปเอาเด็กออกซะ" "เราทำไมได้ลูกไม่ผิดเราทำร้ายแกไม่ได้" "แต่ฉันไม่ต้องการเด็กและก้ไม่ต้องการเธอแล้วด้วย" " ธีร์อย่าบังคับให้เราทำแบบนี้เราขอร้องเด็กในท้องแกคือลูกของเรานะ แกอยู่ในนี้" ฉันพยายามเอามือของเขามาจับที่หน้าท้องของฉันเผื่อเขาจะสัมผัสได้ถึงลูกแต่เขากลับสะบัดมือออกอย่างไม่ใยดี "ฉันบอกว่าไงว่าฉันไม่ต้องการเด็กและตอนนี้ฉันก็ไม่ต้องการเธอด้วย ไปเอาเด็กออกซะจากนั้นเธอกับฉันเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกสี่ปีที่ผ่านมาฉันจะชดเชยเป็นเงินให้" เขาพูดพร้อมกับหยิบเงินในกระเป๋าทั้งหมดที่มีแล้วโยนใส่หน้าฉัน "ไม่เราไม่ต้องการเงินเราแค่ต้องการธีร์ต้องการลูก ขอร้องล่ะอย่าใจร้ายกับเรากับลูกเลยนะเราขอร้อง ฮึก ฮึก" ฉันร้องไห้พร้อมกับก้มลงกราบแทบเท้าเขาเพื่อขอร้อความเห็นใจ "เราอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ธีร์ ฮึก ฮึก ฮืออออ แต่ถ้าธีร์จะบังคับให้เราทำร้ายลูกเราขอตายพร้อมกับลูกเลยดีกว่า" ฉัพยายามหาคำพูดเพื่อให้เขาเห็นใจแต่ดูเหมือนเขาจะไม่เห็นใจเลยสักนิดทำไมเขาใจร้ายได้ขนาดนี้ "นั่นมันเรื่องของเธอจะอยู่หรือจะตายก็เรื่องของเธอ"

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

Apogean Spark
5.0

【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ