Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
142
ชม
14
บท

ฉันเป็นแฟนเขา เราเป็นแฟนกัน แต่ทำไมล่ะ...ทำไมเขาไม่เคยแคร์ฉันเลย....

บทที่ 1 chapter 01 | nc 18+

ณ คอนโดมิเนียมราคาแพง ภายในห้องนอนสุดหรูบนเตียงคิงไซส์ขนาดใหญ่ ขณะนี้มีสองร่างกำลังละเลงบทรักอันเร่าร้อนกันอยู่ เสียงครวญครางของทั้งคู่ที่ดังระงมไปทั่วทั้งห้อง โดยที่ไม่สนใจเลยว่าคนข้างนอกจะได้ยินมั้ย

“อ๊ะ..อ๊ะ...อ๊ะ...อืออ...ว..วิน แรงไป” เสียงครางหวานๆ ของซินดี้นั้นไม่ได้ทำให้กวินทร์ผ่อนแรงลงสักนิด

“อ่าาส์..ตอดแรงสัส..ซีดดดดส์”

“อืออ อ่ะ อะ”

“ฮึ่ม แน่นจริงๆ”

“ล..ลึกไปเกินไป”

พั่บ พั่บ พั่บ!

“อื้ออ อ๊ะ อ๊ะ”

“อ่าาาส์”

สำหรับซินดี้นั้นเซ็กส์ของกวินทร์ มันทั้งรุนแรงและสุดแสนจะเร่าร้อนเหลือเกิน แต่ถึงอย่างนั้นร่างสูงก็พยายามอ่อนโยนกับคนตัวเล็กสุดๆ แล้วนะ ถ้าจะโทษก็ต้องโทษเจ้าลูกชายของเขานี่แหละที่มีขนาดใหญ่โตเกินมาตรฐานเอง หึ!

สวบ! สวบ!

“อะ อะ อืออ”

“เอามันส์ชิป”

“อ๊ะ ว...วินน”

“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ”

“ซี๊ดดดดดส์ อ่าาาส์ เสียวหัว” ใบหน้าหล่อเงยหน้าครางซี๊ดด้วยความกระสันไม่ต่าง เนื่องจากร่องรักอันคับแคบของซินดี้นั้นรัดแน่นเกินไปจนท่อนเอ็นของเขาแทบขาด

“อ่าาา”

“อื้ออ อื้มม”

จ๊วบ จ๊วบ! ริมฝีปากหนาบดจูบริมฝีปากอิ่มอย่างรุนแรง จนคนตัวเล็กนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ กำปั้นเล็กทุบอกแกร่งดัง ปึก! ปึก! หวังจะให้คนตัวสูงถอนจูบออก แต่เขากลับนิ่งไม่สนใจยังคงกระหน่ำจูบต่อไปลิ้นร้อนดูดดึงลิ้นเล็กอย่างดูดดื่ม

ส่วนซินดี้นั้นจากตอนแรกผลักไส ตอนนี้กลับเคลิบเคลิ้มไปกับคนมากประสบการณ์อย่างกวินทร์จนได้ คนตัวเล็กจูบตอบกลับไปอย่างไม่ประสีประสา ทั้งที่ก็โดนเขาจูบอยู่บ่อยครั้งก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะชินเสียที ไม่นานนักกวินทร์ก็ถอนปากออกจากริมฝีปากอิ่มที่ตอนนี้บวมเจ่อไม่รอให้คนตัวเล็กได้กล่าวอะไรร่างสูงก้มลงไปหาอกอวบทันที

ก่อนลิ้นร้อนจะจัดการดูดและเลียไปทั่วหน้าอกอวบนั่น จนมันวาววับไปด้วยน้ำลาย

“อะ อ่ะ อ๊ะ”

“หึ เสียวมั้ย” กวินทร์หัวเราะในลำคอแล้วยังไม่วายแกล้งซินดี้ด้วยคำถามลามกนั่นอีก

ไม่มีคำตอบจากคนตัวเล็กตอนนี้มีแต่เสียงครางอือ อา ออกมาจากริมฝีปากบางซินดี้ไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว สมองน้อยๆ นั้นมันตื้อไปหมดยิ่งดวงตากลมโตตอนนี้คลอไปด้วยหยาดน้ำตา ยิ่งทำให้กวินทร์เร่งแรงกระแทกใส่ลึกกว่าเดิม ไหนจะปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อกำลังเผยออ้าร้องครวญครางนั้น มันทำให้เขาอดใจไม่ไหวจนต้องก้มลงมอบจูบให้ซินดี้อย่างดูดดื่ม

“อื้ออ อื้ม”

จ๊วบ! จ๊วบ!

หน้าอกอวบกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการขยับกระแทกจากร่างสูง มือหนาเองไม่ว่างเปล่าเขาเลื่อนบีบเคล้นคลึงเต้าอวบอิ่ม ยิ่งเม็ดบัวสีชมพูนั่นช่างน่าดูดจริงๆ มองแบบนี้แล้วยิ่งเอ็กซ์เข้าไปใหญ่ ปากหนาผละออกจากริมฝีปากอวบอิ่ม หันมาสนใจยอดอกแทนทั้งขบทั้งกัดทั้งดูดมันทำราวกับจะมีน้ำนมไหลออกมา

“อื้ออ อื้ออ วินน บ...เบา ซ...ซิน เจ็บ”

“หึ่มม....”

เนื่องจากซินดี้มีผิวขาวจัดพอจับนิดจับหน่อยผิวกายก็เกิดรอยแล้ว ในตอนนี้เองก็เช่นกันร่างกายของซินดี้แดงไปหมดทั้งเนื้อทั้งตัวมีแต่ร่องรอยสีกุหลาบ เพราะคนตัวสูงนั่นแหละที่เป็นคนทำมัน จนตอนนี้ผิวกายอันขาวนวลลายราวกับตุ๊กแกแล้ว!! ซึ่งเรื่องนี้กวินทร์รู้ดี...แต่เขาก็ยังคงทำมันอย่างไม่แคร์อะไรสักนิด

“ว..วิน ซิน จ..จะถึงแล้วว” สิ้นเสียงของคนตัวเล็ก กวินทร์ก็เร่งจังหวะกระแทกท่อนเอ็นใส่ร่องแคบให้เร็วและหนักหน่วงขึ้นไปอีก

พั่บ พั่บ พั่บ

“พร้อมกันนะ”

“อื้อออ”

“อะ อ่าาส์”

พั่บ พั่บ สวบ! สวบ!

“อะ อะ อะ อร้ายยยยย” ในที่สุดคนคนเล็กก็ไปถึงจุดสุดยอดก่อนไม่นานกวินทร์ก็ตามมาติดๆ

“ฮึ่มซีดดดดดดส์” กวินทร์หลั่งลูกๆ ทั้งหลายเข้าสู่ร่องแคบของซินดี้จนหมดทุกหยาดหยด

“อือปล่อยในอีกแล้วหรอ”

“.........” เงียบ คนตัวโตที่เหนื่อยจากกิจกรรมเมื่อครู่ตอนนี้ซุกหน้าลงบนอกอวบของซินดี้เรียบร้อย

“วิน ลุกไปได้แล้ว”

“อือ คนจะนอน”

“ก็ไปนอนดีๆ สิ ซินหนักนะแล้วก็เอาไอนั่นออกด้....อ๊ะ” พูดยังไม่ทันขาดคำกวินทร์แกล้งซินดี้ด้วยการดันแก่นกายเข้าไปหนักๆ ทีนึง โทษฐานพูดมากนัก!

“ถ้าไม่เงียบ จะไม่ได้นอน” แสร้งพูดออกมาด้วยน้ำเสียงดุ ซินดี้เห็นดังนั้นก็รีบเงียบปากทันที ได้แต่นอนนิ่งตัวแข็งทื่อเป็นหิน และด้วยร่างกายซึ่งเหนื่อยบวกเพลียจากกิจกรรมรักเมื่อครู่มากอยู่แล้วไม่นานนักก็หลับไปในที่สุด

กวินทร์เห็นซินดี้หลับไปแล้วก็ถอนแก่นกายออกจากร่างบางแล้ว จูบซับหน้าผากมนของซินดี้ไปทีนึง ก่อนขยับกายลุกขึ้นเต็มความสูงและเดินเข้าห้องน้ำไป สักพักก็ออกมาพร้อมกับกะลังมังใบเล็กพร้อมน้ำอุ่นในนั้นและผ้าขาวบางหนึ่งผืน เขาเดินมานั่งระหว่างขาซินดี้และค่อยๆ จับแยกขาออก

ก่อนจะบรรจงเช็ดทำความสะอาดกลีบกุหลาบซึ่งจากเดิมเคยเป็นสีชมพูแต่ตอนนี้กลายเป็นแดงเข้มไปแล้ว พอทำทุกอย่างเสร็จก็ก้มจูบริมฝีปากอิ่มอย่างแผ่วเบา แล้วเดินเอาอุปกรณ์ทุกอย่างไปเก็บและกลับเข้ามานอนข้างคนรัก ก่อนจะค่อยๆ ดึงซินดี้เข้ามากอดไว้แนบอกหลังจากนั้นก็เข้าสู่ห้วงนิทราตามคนตัวเล็กไปติดๆ

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

โชคชะตาของพระชายา

โชคชะตาของพระชายา

Raff Madison
3.8

ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"

ยั่วรักภรรยาในนาม

ยั่วรักภรรยาในนาม

คุณธิดา
5.0

อินทุภาคือคนที่แม่เลือกให้มาเป็นภรรยาในนามของเขา ซึ่งคนที่เขารัก แม่ไม่ปลื้ม ธีรุตม์รักแม่มากและไม่อยากขัดใจ แต่เขาเอาความผิดหวังทั้งหมดโยนไปที่อินทุภา ยั่วรักภรรยาในนาม ไม่รู้ใครจะยั่วใคร ------------ ธีรุตม์เผยยิ้มหยัน ๆ ออกมาจากมุมปาก ดวงตาของเฉยชาไม่ต่างกัน เป็นอาการที่บอกอีกฝ่ายว่า เขาไร้ซึ่งความรักต่อเธอ “คุณรุตคะ ถ้าคุณจะด่าจะว่าอิน เอาไว้พรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ” คนตัวโตที่กำลังไม่พอใจใช้มือถึงบานประตูให้ปิดสนิท เขาเดินหน้าเข้าหา และมาหยุดอยู่ที่ปลายเตียง ในหัวใจของอินทุภาร้อนรุ่มเต้นรัว “ฉันบอกเธอกี่ครั้งแล้วว่าอย่าพยายาม ไม่ต้องเสนอหน้ามาทำอะไรให้ฉันทั้งนั้น แค่ฉันยอมแต่งงานกับเธอ ใช่ว่าเธอจะเป็นเมียอย่างที่เธอต้องการนะ เธอไม่ต้องเสนอหน้า ไม่ต้องมาทำหน้าที่ภรรยาอะไรทั้งนั้น เพราะฉันไม่ต้องการ อีกอย่างฉันทนไม่ได้ที่ต้องกล้ำกลืนกินของสวะพวกนั้นลงไปในท้อง เพราะมันเป็นมือของคนชั้นต่ำแบบเธอทำมัน” อินทุภาถึงกับหน้าเสียลงทันที ธีรุตม์ช่างเก่งที่จะใช้คำพูดทำร้ายจิตใจของเธอนัก

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ