Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
37.9K
ชม
23
บท

จางหยู่เสวียน เดิมทีเป็นสตรีปากร้ายและถูกผีพนันเข้าสิงจนไม่ใส่ใจลูกและสามีที่เกิดอุบัติเหตุจนพิการไป สตรีนางนั้นก็เริ่มทอดทิ้งสามีแล้วเลือกที่จะทอดสะพานให้บัณฑิตหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง จนทำให้ภรรยาของเขาเกิดความหึงหวงผลักนางตกน้ำจนพบจุดจบที่น่าอดสู ทว่าเมื่อจางหยู่เสวียน นักฆ่าสาว เจ้าของรหัสหมายเลข 13 ในองค์กรนักฆ่าระดับโลกมีเหตุให้ถูกฆ่าตาย เนื่องจากไม่ยอมสังหารคนดี เธอจึงได้รับโอกาสใหม่จากสวรรค์เพื่อตอบแทนความดีครั้งนี้ในการมาเกิดใหม่ในร่างคนอื่นในยุคจีนโบราณ ทว่าเจ้าของร่างเดิมนั้นทำตัวเหลวแหลก ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของครอบครัว จนถึงขนาดคิดขายลูกกิน นักฆ่าสาวที่ข้ามเวลามาจากอนาคตจึงต้องทำทุกทางเพื่อแก้ไขเรื่องราวที่ยุ่งเหยิงนี้ ก่อนที่จะมีจุดจบเลวร้ายไม่ต่างไปจากเจ้าของร่างเดิม ชีวิตใหม่ครั้งนี้ นางจะใช้มันอย่างดีเพื่อดูแลครอบครัวนี้ให้มีความสุข และลบแผลใจแย่ๆ ให้หมดไปจากทุกคนในครอบครัว "ท่านแม่จะทิ้งเราเหรอ!" ไม่รู้เด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นกันอยู่ด้านนอกเข้ามาได้ยินที่ประโยคไหน เข้าใจว่าผู้เป็นแม่จะออกไปและไม่กลับมาอีก สองพี่น้องกอดหมับที่ขามารดาคนละข้าง ทิ้งน้ำหนักลงพื้นเต็มที่ หากจะไปพวกเขาจะเกาะหนึบนางไปเช่นนี้ "ท่านแม่อย่าทิ้งข้าเลยนะเจ้า" ซ่งอวี้หลานร้องไห้โฮ น้ำตาทะลักออกจนชายชุดนางชุ่มในเวลาไม่กี่พริบตา ทางด้านซ่งหยวนหมิงก็รู้สึกว่าจะแพ้ไม่ได้ เลยกลั้นใจบีบน้ำตาจนหน้าแดง เห็นลูกทุ่มเทช่วยเขาขนาดนี้ ซ่งอี้หนานก็คุกเข่าลง ประคองมือนางไว้ไม่ปล่อย ใบหน้าคมคายจากมุมมองที่สูงกว่า ทำให้เขาดูคล้ายสุนัขตัวโต "ข้า เอ่อ" จางหยู่เสวียนพูดไม่ออก

บทที่ 0 บทนำ ภารกิจสุดท้าย...

จางหยู่เสวียนเป็นชื่อที่เธอตั้งให้ตัวเอง แต่องค์กรเรียกเธอว่าหมายเลข 13

“เป้าหมายต่อไป” ซองเอกสารสีน้ำตาลถูกวางลงตรงหน้า เธอหรี่ตามองโดยไม่พูดอะไร หญิงสาวปฏิเสธงานที่องค์มอบหมายให้ไม่ได้อยู่แล้ว หยิบซองสีน้ำตาลมาถือไว้แล้วก็โค้งให้ผู้บังคับบัญชา มีเพียงความเงียบขานตอบเขา

จางหยู่เสวียนถูกองค์นักฆ่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่จำความได้

เธอได้รับการฝึกวิธีสังหารเป้าหมายมาทุกรูปแบบ ถูกเคี่ยวเข็ญ

ให้เชี่ยวชาญในทุกสาขาอาชีพเพื่อความแนบเนียนยามแฝงตัว ปัจจุบันจางหยู่เสวียนอายุยี่สิบหกปีแล้ว แต่ก็ยังไม่หลุดพ้นจากองค์กรนี่สักที

ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าตัวเองถูกเลี้ยงมาให้เป็นสัตว์ประหลาด ผ่านร้อนหนาวมาหลายครั้ง เธอย่อมตื่นรู้สักวันว่ามือตัวเองเปื้อนเลือดเกินจะย้อมมันให้เป็นสีเทาดังเช่นคนธรรมดา

เป้าหมายต่อไปของเธอคือผู้ได้ชื่อว่าหมอเทวดาที่อาศัยอยู่กลางกรุงปักกิ่ง ราคาค่าหัวหลายหมื่นล้านหยวนเพียงเพราะไปขัดหูขัดตาลูกค้าในครั้งนี้เข้าจึงถูกสั่งเก็บ ด้วยการบ่มเพาะขององค์กร

จางหยู่เสวียนไม่ผูกมิตรกับใครนอกเวลางาน เธอมีปฏิสัมพันธ์

กับผู้คนเพื่องาน ดังนั้นการพูดคุยกับคนไข้ที่มารอรักษาก็เป็นไปเพื่องาน เพียงจางหยู่เสวียนแสร้งทำตัวน่าสงสารว่าตกงานมานานและ

ของานทำ จะเป็นแค่คนทำความสะอาดก็ได้ หมอเทวดาผู้มีใจเมตตาก็ตอบรับให้เธอเป็นผู้ช่วยทันที

“หมอฟ่านคะ คนไข้คนสุดท้ายกลับไปแล้วค่ะ”

เธอเดินมาบอกเขาหลังปิดคลินิกซอมซ่อนี่เรียบร้อย เพราะฝีมือของผู้ชายคนนี้ทำให้ถูกผู้มีอิทธิพลขัดขวางจนทำงานได้ลำบาก และงานของเธอคือจบชีวิตเขา

“ขอบคุณนะ พึ่งมาทำงานได้สองวันแต่เธอดูคล่องแคล่วมากเลยล่ะ ช่วยได้เยอะจริงๆ”

จางหยู่เสวียนยิ้มตอบและไม่ได้กล่าวอะไรกลับไป

คลินิกซอมซ่อนี่อยู่ในตรอกลึก ผู้คนไม่พลุกพล่าน แม้แต่ตอนกลางวันคนยังหลีกเลี่ยงเส้นทางเพราะสัญจรลำบาก ไม่มีที่ไหนเหมาะแก่การลอบสังหารเท่านี้แล้ว กับดักที่เธอวางเอาไว้เพื่อฆ่า ไม่จะชั้นที่สอง สาม สี่ หรือห้า ก็ต้องสำเร็จสักทาง

“ผู้ช่วยจาง”

“คะ?”

“ถ้าจะฆ่าผม ขอเลื่อนเป็นวันพรุ่งนี้ได้ไหม มีคนไข้ที่ต้องผ่าตัดให้ได้ก่อนน่ะ” จางหยู่เสวียนตกใจจนตาเบิกโพลง เธอทำผิดพลาดไปที่ตรงไหน ทำไมเขาถึงจับได้

“เสียงฝีเท้า”

"..."

“เสียงฝีเท้าของคุณไม่มีเลยน่ะ เป็นคนของโลกฝั่งนั้นใช่ไหม ผมก็เผชิญชีวิตแบบนี้มาพักใหญ่แล้ว พอรู้อะไรบ้างเหมือนกัน”

“ไม่หนีเหรอคะ” ในเมื่อรู้ตัวแล้ว ทำไมถึงยังยอมให้เธออยู่ใกล้ ๆ ล่ะ แถมยังบอกออกมาให้เธอระวังเขาอีก

“ผมหนีคุณไม่พ้นหรอก หากคุณลงมือจริง ๆ ผมไม่ทันมีโอกาสร้องขอชีวิตด้วยซ้ำล่ะมั้ง”

แม้เขาจะพึ่งอายุสามสิบกว่า แต่ก็ผ่านร้อนผ่านหนาวในแง่ประสบการณ์ชีวิตมาไม่น้อย ตอนเจอเธอครั้งแรกเขายังไม่มั่นใจ

แต่พอเห็นเธอทำงานแค่วันเดียวก็ปักใจเชื่อทันทีว่าเธอแฝงตัวมา

และสิ่งเดียวที่เขาจับเธอได้คือเสียงฝีเท้า นักฆ่าคนอื่นก่อนหน้านี้หรือพวกอันธพาลข้างถนน เผยพิรุธออกมาชัดเจน ผู้ช่วยจางคือคนที่มีฝีมือที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมา

“สองวันนี้ช่วยไปได้หลายคน ผมพอใจมากแล้วล่ะ ถึงจะอยากทำต่อไปอีกหน่อยก็เถอะ แต่ขอแค่เคสผ่าตัดพรุ่งนี้ก็ได้”

“เอาอย่างนั้นก็ได้ค่ะ”

แค่หนึ่งวัน เธอผ่อนผันวันตายให้ได้อยู่แล้ว หมอฟ่านหนีรอดมาได้จนป่านนี้ องค์กรคงไม่เร่งรัดเธอนักหรอกมั้ง อีกอย่างที่เธอไม่ลอบสังหารครั้งเดียวให้จบๆ เพราะอยากเห็นว่าเขาเป็นคนดีแค่ไหน ทว่ายิ่งเห็นยิ่งรู้สึกลำบากใจที่จะลงมือฆ่าคนดี ๆ แบบนี้ แต่

จางหยู่เสวียนลืมไปว่า องค์กรจะไม่เคลื่อนไหวนอกเหนือรายละเอียดว่าจ้าง หากต้องการต้องจ่ายเพิ่มเป็นสองเท่า

จางหยู่เสวียนนั่งประจำเคาน์เตอร์ตัวเดิม มองแสงแดด

ยามบ่ายที่เริ่มอ่อนแสงลง ห้องผ่าตัดที่กำลังดำเนินการ และคลินิกหมอเทวดาที่ร้างคนไข้ ที่ว่ามาทำให้เธอหายใจไม่ทั่วท้องรู้สึกหัวใจกระตุก สถานการณ์ผิดปกตินี้จะเป็นอะไรนอกจากองค์กรถือว่าเธอทำงานพลาด

จางหยู๋เสวียนกลับไปนอนคิดอยู่ทั้งคืน ว่าจะทำอย่างไรกับสถานการณ์เช่นนี้ดี ที่เธอยอมปล่อยเพราะไม่อยากให้หมอจิตใจดีคนนี้ตาย เทียบกับเธอที่พรากชีวิตคนอื่นมานับไม่ถ้วน หมอฟ่านคือ

ผู้ต่อแสงไฟแห่งชีวิตที่ใกล้ดับ ไม่นานคำตอบก็มาให้เธอยืนยัน

ชายหนุ่มคนหนึ่งในชุดทะมัดทะแมงสีดำเกือบทั้งตัวยิ้มให้ผู้ช่วยสาวจนตาหยีโค้ง

“ผมไม่สบาย คุณหมอว่างไหมครับ”

“ไม่ค่ะ วันนี้คลินิกปิดแล้ว” จางหยู่เสวียนวางมือลงบนต้นขาตัวเอง เลิกชายกระโปรงขึ้นจนสัมผัสได้ถึงโลหะเย็นเหยียบที่แนบ

ผิวกาย

“น่าเสียดายจังครับ ขอพบสักนิดก็ไม่ได้เหรอ เป็นหมอที่ได้ชื่อว่าไม่เมินใครก็ตามที่มาขอความช่วยเหลือนี่ ใช่ไหมล่ะ หมายเลขสิบสาม!”

จางหยู่เสวียนปามีดสั้นเล่มหนึ่งใส่เขาก่อน มันทะลุกระจกหน้าร้านจนแตกไปฝั่งหนึ่งพร้อมกับลูกดอกที่เฉียดหน้าเธอ หญิงสาวยืนตั้งรับรอการโจมตีครั้งต่อไป ช่องว่างของหนีบทั้งสี่หนีบไว้ด้วยมีดสั้นคู่ใจ

“ยังใช้ของน่าเบื่อแบบนั้นอยู่อีกเหรอครับ เป็นรุ่นเก่าก็แบบนี้” อีกฝ่ายไหวไหล่ก่อนจะหยิบปืนเก็บเสียงออกมา จางหยู่เสวียนถอยหลังไปแล้วพลิกตัวไปอีกด้านของห้องทันที เธอไม่ลืมจะปิดประตูแล้วเอาเก้าอี้มาขัดกลอนไว้

“อ้าว ผู้ช่วยจาง ผมเสร็จ...”

ปุ!

กลอนประตูหลุดไปต่อหน้าต่อหมอฟ่าน เขายืนอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจางหยู่เสวียนจะหันมาคว้ามือเขาให้วิ่งออกไปด้านหลังพร้อมกัน

“เกิดอะไรขึ้นครับ!” ดีว่าการผ่าตัดผ่านไปด้วยดีและเขาส่งคนไข้กลับทางด้านหลังไปพักหนึ่งแล้ว

“พวกเราโดนไล่ล่า ไม่มีอะไรมากกว่านั้นค่ะ”

“ทะ ทำไมล่ะครับ ก็ในเมื่อคุณจะฆ่าผมอยู่แล้วนี่”

“พวกเขาถือว่าฉันเป็นคนทรยศแล้วค่ะ”

“อะไรนะครับ!?”

“ช่วยเงียบด้วยค่ะ อยากให้ไอ้เด็กเมื่อวานซืนนั้นหาตัวเจอง่ายๆ หรือไง”

หมอฟ่านหุบปากตามคำสั่งทันที จางหยู่เสวียนกระชากเหวี่ยงร่างผู้ชายที่ตัวสูงกว่าเธอได้สบายมาก หลังแย่งรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดไว้แถวนั้นมาโดยไม่ถามความสมัครเจ้าของรถที่ยืนรออาหาร เธอก็บิดคันเร่งออกมาทันที การขับขี่ฉวัดเฉวียนเฉียดตายบนท้องถนนทำให้หัวใจหมอเทวดาวัยสามสิบกลางๆ หน้าซีด อ้อนวอนต่อพระเจ้า

เมื่อเธอสั่งให้หมอบเขาก็ทำตามทันทีอย่างว่าง่าย กระสุนปืนเฉือนใบหูเขาไปเล็กน้อย ความรู้สึกเจ็บแปลบจี๊ด ๆ ทำให้เจ้าตัวแอบนิ่วหน้า

จางหยู่เสวียนจับมอเตอร์ไซค์เอียงลาดจนหัวเข่าขนานพื้นเข้าโค้ง เสียงเครื่องยนต์และสายลมปะทะกันจนไม่ได้ยินอะไรอื่น ดวงตาใต้แว่นกันลมหรี่ลงเมื่อมีรถวิ่งสวนมาจากทางด้านหน้าแล้วจงใจเบียดเธอ หมายเลขสิบสามกัดฟันกรอด ใช้ฟันถอดสลักระเบิดทำมือแล้วโยนใส่รถคันนั้น

เธอบิดคันเร่งแรงขึ้นจนมาถึงสะพานข้ามแม่น้ำสายยาวแห่งหนึ่งในมณฑล ไม่มีเวลาแม้แต่ให้โล่งอกเมื่อมอเตอร์ไซค์ดัดแปลงขับปาดหน้าเธอไปดักรอ จางหยู่เสวียนหักหลบกะทันเข้าไปในป่าอีกฝั่ง เพราะสถานการณ์คับขันทำให้เธอไม่ทันคิดว่าปิดทางหนีตัวเอง

เธอทิ้งพาหนะที่ขโมยมาแล้วกระชากหมอฟ่านให้ออกมาจากตรงนั้น เธอไม่รอให้เขาตั้งสตินานนัก เวลาแบบนี้ยืนอยู่กับที่มีแต่ตาย

“หมอฟ่าน ฉันคิดว่าอาจไม่รอด แต่ถ้ารอดไปได้ก็อย่าหาเรื่องเสี่ยงตายอีกล่ะ!” หญิงสาวตะโกนบอกแข่งกับเสียงลม ถึงคนธรรมดาจะสัมผัสไม่ได้ แต่เธอรู้ได้เลยว่ามีจิตสังหารพุ่งมาทิ่มแทงเธอจนหลังแทบพรุน

หมอเทวดาฟังที่เธอพูดได้ไม่ถนัดนัก แต่ก็พอจับใจความได้ แค่วิ่งตามผู้หญิงคนนี้ให้ทันก็หอบแล้ว เงาทั้งสองร่างวิ่งฝ่าพุ่มไม้

จนโดนกิ่งของมันถากผิวจนเป็นแผลไปหลายครั้ง แต่จางหยู่เสวียน

ก็ไม่คิดลดความเร็วฝีเท้าตอนนี้ลง

“ทำไมถึงปกป้องผมล่ะ” หมอฟ่านคิดว่าถ้าไม่ถามตอนนี้ก็คงไม่มีโอกาสถามแล้ว

“...ถ้าคุณเป็นหมอเถื่อน รีดไถค่ารักษา โกงเงินค่ายาหรืออะไรที่สารเลวกว่านั้น ฉันจะฆ่าคุณอย่างไม่ลังเล ตัวฉันที่พรากชีวิตคนอื่นมาตลอดไม่อยากทำให้คนดี ๆ ต้องตายไปมากกว่านี้ เหตุผลก็เท่านั้น”

"..."

“แต่ฉันคงฝีมือตก เป็นแค่เครื่องมือรุ่นเก่าอย่างที่ไอ้เด็กนั่นบอก” น่าเสียดายที่เธอเป็นฝ่ายถูกต้อนจนมุม หลังจากนี้แล้วแต่โชคชะตากำหนด หากเธอต้องตายก็คงไม่เป็นไร หวังว่าหมอฟ่านจะรอดไปได้เท่านั้นพอ

เธอหยุดยืนอยู่ริมฝา สิ้นสุดทางให้หนีแล้ว...

“ขอบคุณที่เป็นเป้าหมายคนสุดท้ายของฉันค่ะ โชคดีนะคะ”

เธอผลักเขาตกลงไปในแม่น้ำสายใหญ่ของเมืองโดยไม่รอ

ฟังคำยินยอมก่อนจะโดดลงไปตาม ทว่าสัมผัสเจ็บแปลบจากแผ่นหลังฝั่งซ้ายทำให้เธอต้องนิ่วหน้า คิดว่าหนีพ้นแล้วเชียว แค่เสี้ยววินาที

ก็ยังดีแท้ ๆ

พลาดท่าโดนยิงเสียได้!

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ หลิ่งฟาง//พิมพ์สีทอง

ข้อมูลเพิ่มเติม
วาสนาของบุรุษผู้นั้นที่อกหักสิบครั้งก็ไม่ยอมแพ้

วาสนาของบุรุษผู้นั้นที่อกหักสิบครั้งก็ไม่ยอมแพ้

โรแมนติก

5.0

ทั่วทั้งแคว้นอ้ายคงมีเพียงบุรุษเช่นหัวหน้ากลุ่มต้าหยางเท่านั้นที่ยอมแต่งเข้าบ้านภรรยา เพราะนั่นมันเท่ากับว่าเขายอมอยู่ใต้บารมีของภรรยา และยอมให้ภรรยาเป็นใหญ่ ทว่าบุรุษที่อกหักมาสิบครั้งอย่างเขา ไม่อยากจะอกหักเป็นครั้งที่สิบเอ็ดแล้วนี่นา อีกทั้งคุณหนูใหญ่กู้หลินฟางเองก็ใจตรงกัน เรื่องธรรมเนียมอะไรนั่นก็ช่างมันเถิด เทียนจื่อซานแทบจะถูกเรียกว่าเป็นบุรุษอาภัพในรัก ด้วยเพราะเวลาไปเกี้ยวสตรีบ้านไหน จุดจบก็หนีไม่พ้นการถูกปฏิเสธ จนกระทั่งเขาได้มาเจอกับกู้หลินฟาง ไม่แน่ใจว่าเป็นเมตตาจากท่านเทพบนสวรรค์ หรือเทพมารต้องการให้เขาทำลายสถิติอกหักอีกครั้งกันแน่ แต่เขา... เทียนจื่อซานไม่ขอยอมแพ้ และจะเกี้ยวคุณหนูใหญ่กู้หลินฟางอีกสักครั้ง

ย้อนเวลามายุค80พร้อมระบบทำฟาร์มแสนห่วย

ย้อนเวลามายุค80พร้อมระบบทำฟาร์มแสนห่วย

โรแมนติก

5.0

จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - -

ย้อนเวลามายุค80พร้อมระบบทำฟาร์มแสนห่วย เล่ม 2

ย้อนเวลามายุค80พร้อมระบบทำฟาร์มแสนห่วย เล่ม 2

โรแมนติก

5.0

จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - -

ย้อนเวลามายุค80พร้อมระบบทำฟาร์มแสนห่วย เล่ม 1

ย้อนเวลามายุค80พร้อมระบบทำฟาร์มแสนห่วย เล่ม 1

โรแมนติก

5.0

จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - - ตัวอย่างในเล่ม “ดูสิ ฉันจะได้อะไร” หลิวตานถูมืออย่างตื่นเต้น ก่อนจะบอกระบบว่าเริ่มสุ่มวงล้อ “ระบบเริ่มสุ่มวงล้อได้เลย” ทันใดนั้นหน้าจอโปร่งใสก็ปรากฏตรงหน้าเธอ ดวงตาคู่งามมองวงล้อสุ่มของรางวัลที่หมุนไปมาด้วยความประหม่า เพราะมันเป็นของรางวัลชิ้นแรกที่เธอคาดหวัง ไม่รู้มันจะสามารถทำอะไรได้บ้าง แต่ขอให้ช่วยสี่แม่ลูกได้ยิ่งดี   “เมล็ดพันธุ์ผักกาด?”  หลิวตานมองภาพตรงหน้าแล้วได้แต่น้ำตาตกในเมื่อของรางวัลที่แลกมากับการไปตัดหญ้ามาให้หมูคือเมล็ดพันธุ์ผักกาด! 

ชายพิการผู้นั้นที่ใครไม่เห็นค่านางจะเป็นภรรยาของเขาเอง

ชายพิการผู้นั้นที่ใครไม่เห็นค่านางจะเป็นภรรยาของเขาเอง

โรแมนติก

5.0

ไป่จวิ้นเดิมทีก็เป็นเพียงทหารชั้นผู้น้อย ที่ไม่น่าจะได้รับความสนใจอะไรในกองทัพ ทว่าเมื่อสงครามจบลง และกลับมาพร้อมชัยชนะ เขาจึงได้เงินรางวัลมาจำนวนหนึ่ง ส่วนหนึ่งเพื่อปลอบขวัญที่ต้องจากบ้านไปเป็นระยะเวลานาน อีกส่วนก็เป็นสินน้ำใจตอบแทนที่เขาต้องกลายเป็นคนที่ไม่ต่างจากคนพิการ เดินเหินไปไหนก็ไม่คล่องแคล่วเช่นเมื่อก่อน และเรื่องนี้ก็สร้างความกลัดกลุ้มให้กับมารดาของเขาอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะส่งเทียบดูตัวไปสักกี่ครั้งต่างก็ถูกปฏิเสธ ทว่ามีเพียงสตรียากจนที่เป็นเพียงบุตรสาวของชาวนาจน ๆ คนหนึ่งเท่านั้นที่ยินยอมแต่งเข้าสกุลไป่ แรกทีเดียวไป่จวิ้นไม่ใคร่จะชอบใจภรรยาของตนนัก ด้วยคิดว่านางยินยอมแต่งกับชายพิการเช่นเขาเพียงแค่เพราะเรื่องเงินทอง แต่ความอ่อนโยนและมุ่งมั่นที่จะดูแลเขาของ จางอวี๋จิง’กลับค่อย ๆ ละลายน้ำแข็งในใจของชายหนุ่มลงอย่างช้า ๆ ส่วนทางจางอวี๋จิง นางก็เริ่มมองเห็นความอบอุ่นของสามีที่นางไม่คิดว่าจะรักได้คนนี้เพิ่มขึ้นทุกวัน และนางก็ได้ตั้งปณิธานอันแน่วแน่ว่า จากนี้ไปจะขอเป็นภรรยาที่ซื่อสัตย์ต่อเขาไปจนชั่วชีวิต สามีของนางพิการเดินเหินไม่สะดวกแล้วอย่างไร นางจะขอเป็นแขนขาให้แก่เขาเอง

หนังสือที่คุณอาจชอบ

กุหลาบในเปลวไฟ

กุหลาบในเปลวไฟ

Wes Longworth
3.5

หลังจากแต่งงานมาสามปี ฮั่วเป่ยอวี๋ไม่เพียงแต่เย็นชากับเสิ่นเจียงหนานเท่านั้น แต่ยังคบชู้ ทำให้เสิ่นเจียงหนานผิดหวังมาก เขาก็แค่ชายเจ้าชู้นี่เอง หลังจากหย่ากันอย่างเด็ดขาด เธอก็มุ่งหน้าไปทำงาน ในฐานะนักออกแบบชั้นนำ แพทย์ผู้อัศจรรย์ และแฮ็กเกอร์เก่งๆ เธอเชี่ยวชาญหลายๆ ด้านและกลายเป็นเจ้าหญิงที่ทุกคนชื่นชมและเป็นที่ต้องการ ในที่สุด ฮั่วเป่ยอวี๋ก็ตระหนักถึงสิ่งที่เขาสูญเสียไปและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาชนะใจเธอ แต่เขากลับเห็นเธอจัดงานแต่งงานแห่งศตวรรษร่วมกับชายอีกคน เมื่องานแต่งงานของคนสองคนถูกถ่ายทอดสดบนป้ายโฆษณาที่ใหญ่ที่สุดในโลก-- เผ๋ยเหยียนหลี่สวมแหวนให้เธอ และประกาศให้โลกได้รับรู้อย่างท่วมท้น "เสิ่นเจียงหนานเป็นภรรยาของผมและเธอเป็นสมบัติล้ำค่าสำหรับผม ใครกล้ามาแตะต้อง ต้องเจดีแน่!"

ทัณฑ์สวาทเมียบำเรอ

ทัณฑ์สวาทเมียบำเรอ

เทียนธีรา
5.0

เมื่อเด็กที่อยู่ในอุปการคุณของผู้เป็นบิดาทำท่าว่าจะเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นแม่เลี้ยงของเขา ภาคิม วัชรอาชา ผู้ชายที่แสนจะหยิ่งยโสจึงยอมไม่ได้ สู้ให้บิดามีนางบำเรอเป็นร้อยเหมือนกับนางในฮาเร็มของสุลต่านยังจะดีเสียกว่าให้เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างนั้นมาร่วมสกุล เขาสลัดคู่ควงทุกคนทิ้งแทบจะทันทีแล้วหันมามุ่งมั่นกับการกำจัดว่าที่แม่เลี้ยงและจัดการลงทัณฑ์ผู้หญิงไม่เจียมตัวให้รู้สำนึกว่าอย่างมากเธอก็เป็นได้แค่ ‘นางบำเรอ’ เท่านั้น วิโรษณา ดุษยา เพื่อตอบแทนบุญคุณของผู้มีพระคุณ สาวน้อยไร้เดียงสาจึงต้องยอมตกเป็น ‘เมียบำเรอ’ ของผู้ชายกักขฬะไร้หัวใจโดยไม่ยอมปริปากบ่น และไม่แม้แต่จะเรียกร้องความสมเพชใดๆ จากเขา เพราะรู้ว่าในสายตาของซาตานร้าย ผู้หญิงข้างถนนอย่างเธอมีค่าไม่ต่างอะไรกับขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้น “คุณภาคิม ได้โปรดอย่าทำกับปุ้มแบบนี้” “ฉันมีสิทธิ์ลงโทษเธอตามวิธีของฉันวิโรษณา” เสียงเขาแหบกระเส่า วิโรษณาดิ้นอย่างกระสับกระส่าย ทำไมเขาไม่ลงโทษเธอด้วยการเฆี่ยนตี หรือให้อดข้าวอดน้ำ ขังไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันก็ได้ เขาไม่รู้หรือไงว่าทำแบบนี้ร่างกายของเธอปั่นป่วนและกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยความทรมานอันแสนวาบหวาม ลิ้นร้อนดั่งไฟนาบจุมพิตทั่วทุกอณูเนื้อของดอกไม้แสนฉ่ำหวาน ก่อนจะแทรกลิ้นชื้นเข้าไปรุกรานความอ่อนนุ่มที่นิ้วเรียวของเขาได้สัมผัสมาแล้วก่อนหน้านี้ สาวน้อยพยายามตั้งสติไม่ปล่อยการกระทำไปตามอารมณ์เร่าร้อนที่กำลังรู้สึกอยู่ แต่ลิ้นอุ่นจัดของคนแสนชำนาญก็แทรกลึกเข้าไปในความอ่อนนุ่มกลางกายด้วยจังหวะอันร้ายกาจอย่างไม่หยุดหย่อน ใบหน้าสวยแดงซ่านด้วยอารมณ์ร้อนแรง มือเล็กจิกลงบนที่นอนและขยุ้มจนยับย่นเพื่อระบายความซ่านสยิวที่กำลังโรมรันกายสาวอย่างหน่วงหนัก ร่างบางกระตุกไหว คิ้วสวยขมวดนิ่วด้วยอารมณ์สะท้านซ่าน หลงใหลไปกับสัมผัสของเขาจนเผลอยกสะโพกขยับไปมาเบาๆ ปลายลิ้นหนาลากถูไถขึ้นลงตามกลีบกุหลาบแสนสวยที่เปียกชุ่มไปด้วยความฉ่ำหวาน สองขาเรียวสั่นระริกๆ เมื่อชายหนุ่มเริ่มออกแรงกดปลายลิ้นแตะต้องแรงขึ้น

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

ห้ามหย่า

ห้ามหย่า

Bronson Heiss
5.0

ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

Davin Howson
5.0

ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"

สวยเก่งอย่างฉันไม่ง้อคุณหรอก

สวยเก่งอย่างฉันไม่ง้อคุณหรอก

Amye Hochschild
5.0

ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ข้ามภพมามีสามีพิการ
1

บทที่ 0 บทนำ ภารกิจสุดท้าย...

05/03/2025

2

บทที่ 1 ข้ามภพมามีสามีพิการและลูกอีกสองคน

05/03/2025

3

บทที่ 2 ขอโอกาสอีกครั้ง...

05/03/2025

4

บทที่ 3 สามีหวาดระแวง

05/03/2025

5

บทที่ 4 ขึ้นเขาหลังบ้าน

05/03/2025

6

บทที่ 5 มิติสวรรค์

05/03/2025

7

บทที่ 6 จัดการกับหมูป่า

05/03/2025

8

บทที่ 7 เข้าเมืองครั้งแรก

05/03/2025

9

บทที่ 8 ซื้อของไปฝากครอบครัว

05/03/2025

10

บทที่ 9 นางอาจไม่ใช่ภรรยาคนเดิม

05/03/2025

11

บทที่ 10 ความสัมพันธ์เริ่มดีขึ้น

05/03/2025

12

บทที่ 11 นางมีหมาเป็นของตัวเองแล้ว

05/03/2025

13

บทที่ 12 เปิดกิจการของตัวเอง

05/03/2025

14

บทที่ 13 มีคนมาหาเรื่อง

05/03/2025

15

บทที่ 14 ตอบแทนบุญคุณ

05/03/2025

16

บทที่ 15 ถูกทรยศ

05/03/2025

17

บทที่ 16 ซื้อทาส

05/03/2025

18

บทที่ 17 ติดหนี้บุญคุณอีกครั้ง

05/03/2025

19

บทที่ 18 ขึ้นเขาไป๋อวี้

05/03/2025

20

บทที่ 19 เปิดเผยความจริง

05/03/2025

21

บทที่ 20 บทส่งท้าย ครอบครัวสมบูรณ์แบบ

05/03/2025

22

บทที่ 21 ตอนพิเศษ ขอกอดเจ้าอีกสักหลาย ๆ ครั้ง

05/03/2025

23

บทที่ 22 ตอนพิเศษ 2 เหล่าหัวผักกาดน้อย

05/03/2025