เธอต้องหมั้นหมายกับหลานชายของเขา แต่เพราะประสบอุบัติเหตุทำให้เกิดผลข้างเคียงกลายเป็นผู้หญิงอ้วนสุดแสนอัปลักษณ์ หลานชายของเขาจึงขอถอนหมั้น แต่เธอไม่คิดว่าเขาผู้มีศักดิ์เป็นอาจะเป็นคนหมั้นหมายกับเธอแทน คุณอาหนุ่ม เพื่อนรุ่นน้องของบิดามารดาที่เธอแอบชอบมานานหลายปีแล้ว ในที่สุดจะได้เป็นสามีของเธอจริงๆ
“คนนี้เหรอแกว่าที่คู่หมั้นท่านประธาน อ้วนจัง น่าเกลียดที่สุด เห็นว่านิสัยเสียด้วยนะ” เสียงซุบซิบนินทาของพนักงานระหว่างที่ฟองแก้วกำลังเดินเข้าไปในบริษัททำให้เธอหันขวับไปมอง พนักงานสองคนนั้นรีบหลบตาเดินหนี แต่ฟองแก้วเดินไปดักหน้าเอาไว้ในทันที
“เมื่อกี้เธอนินทาฉันเหรอ” ฟองแก้วถามตรง ๆ พนักงานสองคนนั้นก็รีบปฏิเสธเป็นพัลวัน
“เปล่านะคะ”
“กล้าพูดแต่ไม่กล้ายอมรับ แปลกดีนะ” ฟองแก้วเดินเข้าหาด้วยสีหน้าเอาเรื่อง พนักงานทั้งสองถอยหนีด้วยท่าทีหวาดกลัว
“พวกเราไม่ได้ว่าคุณฟองแก้วจริง ๆ ค่ะ”
เพียะ!!! ใบหน้าของสองพนักงานหันไปตามแรงตบ
“นี่คุณกล้าตบพวกเราอย่างนั้นเหรอ”
“ตบพวกคุณต้องใช้ความกล้าด้วยเหรอ ไม่เคยมีใครนินทาฉันในระยะเผาขนแบบนี้มาก่อน ไม่อยากทำงานอยู่ที่นี่แล้วใช่ไหม”
“พวกเราไม่ได้เอ่ยชื่อเสียงหน่อย จะร้อนตัวทำไม”
เพียะ! ใบหน้าของสองสาวหันไปตามแรงตบอีกรอบ
“ตกใจอะไร เพิ่งโดนตบไปเมื่อกี้ไม่ใช่เหรอ”
“นี่เธอ เป็นแค่นักศึกษาฝึกงาน กล้าดียังไงมาทำร้ายพนักงานในบริษัท พวกเราจะไปแจ้งความ”
“ได้ แจ้งเลย เสียค่าปรับไม่กี่บาท ฉันมีเงินจ่าย แต่พวกเธอถูกไล่ออกจากงานคุ้มใช่ไหม”
“นี่ขู่กันเหรอ”
“ค่ะอาตรี” แค่กดรับและเอ่ยชื่อว่าที่คู่หมั้นของตัวเอง ทำเอาสองสาวหน้าตาเลิ่กลั่ก
“ถึงไหนแล้ว” ปลายสายเอ่ยถามกลับมา
“กำลังเดินเข้าไปในบริษัทค่ะแต่เจอเข้ากับพนักงานสองคนเสียก่อน”
“พวกเราขอโทษ พวกเราไม่ได้ตั้งใจ” สองสาวรีบเอ่ยขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ บริษัทดี ๆ สวัสดิการดีๆ และเงินเดือนดีๆ แบบนี้หายาก แถมยังมีเงินสะสมเอาไว้ในยามเกษียณดียิ่งกว่าข้าราชการอีก สองสาวสำนึกว่าปากไม่ดี จึงรีบกลับลำอย่างรวดเร็ว
“ไม่มีอะไรค่ะอาตรี อีกไม่กี่นาทีถึงห้องทำงานอาตรีค่ะ” สองสาวได้ยินแบบนั้นก็ผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งใจ
“ถ้าฉันได้ยินอีก ฉันไล่พวกเธอออก” ฟองแก้วเอ่ยขึ้น ทำเอาสองสาวรีบขอโทษขอโพยอีกครั้ง ก่อนที่จะรีบเดินหนี ฟองแก้วมองตามไปอย่างเอาเรื่อง คนแบบเธอตาต่อตาฟันต่อฟัน ไม่ยอมให้ใครมาพูดจาดูถูกดูแคลนได้ง่ายๆ เพราะเธอเองก็ไม่เคยทำไม่ดีแบบนั้นกับใครเหมือนกัน
เธอก้มมองสภาพของตัวเอง ก็ยอมรับว่าตัวเองอ้วนจริงๆ นั่นแหละ แต่เธออ้วนเพราะประสบอุบัติเหตุหลังจากพักรักษาตัวอยู่หลายเดือนและฟื้นตัวก็อ้วนอย่างที่เห็น
วันนี้เธอมาฝึกงานที่บริษัทว่าที่คู่หมั้น ตรีธารเป็นประธานบริษัทจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่และร่ำรวยติดอันดับต้น ๆ ของประเทศ
“สวัสดีค่ะคุณฟองแก้ว ท่านประธานรออยู่ด้านในนะคะ” รดาเอ่ยขึ้นในทันทีที่ฟองแก้วเดินเข้าไปหน้าห้องของเจ้านายหนุ่ม
“ค่ะพี่รดา” ฟองแก้วเอ่ยอย่างสุภาพเพราะรู้จักรดาเป็นอย่างดี บิดามารดาของเธอกับตรีธารสนิทสนมกันเป็นอย่างดี
ฟองแก้วเดินเข้าไปในห้องทำงานหรูหราของตรีธารด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำ
ที่เขาเป็นคู่หมั้นของเธอเพราะตกกระไดพลอยโจน จริง ๆ คนที่เธอต้องหมั้นด้วยคือตรีทศหลานชายของเขา แต่ทศไม่อยากหมั้นกับเธอเพราะเธออ้วนน่าเกลียด แต่เขากับเธอต้องรักษาความสัมพันธ์ของตระกูลเอาไว้ ทำให้เขาต้องหมั้นหมายกับเธอแทนหลานชาย
มีข้อตกลงกันว่าหมั้นให้ญาณินซึ่งก็คือมารดาของเขาสบายใจเพราะท่านอยากรักษาคำมั่นสัญญาระหว่างตระกูลที่คุณปู่ที่จากไปได้ให้เอาไว้ หลังจากนั้นทั้งตรีธารและเธอก็จะถอนหมั้นกันในวันที่เหมาะสม
“สวัสดีค่ะอาตรี” ฟองแก้วยกมือไหว้ตรีธารอย่างสุภาพ เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากเอกสารตรงหน้าเลย แต่ปากก็เอ่ยให้เธอนั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของเขา
“นั่งสิ”
“ขอบคุณค่ะ”
“วันนี้มาทำงานวันแรกใช่ไหม” ตรีธารเอ่ยถามอย่างเป็นงานเป็นการ เขาทำตัวเป็นผู้ใหญ่ที่ดีกับเธอเสมอ
สถานะของเธอกับเขาคือว่าที่คู่หมั้น แต่เขาปฏิบัติกับเธอเหมือนญาติผู้ใหญ่กับหลานสาวเสียมากกว่า อาจเพราะเขาเป็นเพื่อนรุ่นน้องของบิดามารดา และเคยเป็นอาหนุ่มของอดีตผู้ชายที่เกือบจะหมั้นหมายกับเธอนั่นเอง
“ค่ะคุณอา”
“เดี๋ยวอาจะให้รดาพาไปที่แผนกนะ” เขาเอ่ยอย่างเป็นงานเป็นการเช่นเดิม ท่าทีจริงจังกับการทำงานจนเธอนึกเกร็ง ตรีธารไม่ใช่คนที่เธอจะแหย่หรือพูดเล่นได้เลย เขาเป็นคนเคร่งขรึมติดจะเย็นชาเสียด้วยซ้ำ กระนั้นเธอก็ยังคิดว่าเขาใจดีและใส่ใจกับทุกคนเสมอ
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฟองไม่อยากให้เป็นที่จับตามองน่ะค่ะ จริง ๆ ฟองฝึกงานที่อื่นก็ได้นะคะ ถ้าทำให้คุณอาต้องลำบากใจ”
“ไม่ได้ลำบากอะไร พ่อแม่ของเธอฝากเธอเอาไว้กับอา อายินดีและเต็มใจให้เธอมาฝึกงานที่บริษัทของอา” ประโยคของเขาทำให้เธอน้อยใจวูบขึ้นมาในอก เพราะบิดามารดาฝากเธอเอาไว้กับเขาแค่นั้นเอง ไม่อย่างนั้นเขาก็คงไม่ดูแลเธอแบบนี้
ในขณะที่เธอแอบดีใจลึกๆ ที่จะได้หมั้นกับเขา แต่เขาไม่ได้ดูยินดียินร้ายอะไรเลย เธอจึงคิดว่าไม่รู้จะหมั้นกันทำไม บางทีเธอก็งงเหมือนกัน ถ้าหลานชายของเขาไม่อยากหมั้นกับเธอ ก็ต่างคนต่างแยกย้ายไม่ดีกว่าหรือไง ทำไมเขาจะต้องมาหมั้นแทน เธอคิดว่าให้แต่ละคนไปมีชีวิตที่ดีเป็นของตัวเองจะดีกว่า ถึงอย่างนั้นความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลก็ยังคงดีเหมือนเดิมนี่นา ก็แค่ไม่ได้ดองกันแค่นั้นเอง
หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN
ข้อมูลเพิ่มเติม