Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
กะบี่ท่านแม่ทัพแทงข้าไม่ตายหรอก

กะบี่ท่านแม่ทัพแทงข้าไม่ตายหรอก

ElGSi

5.0
ความคิดเห็น
4
ชม
13
บท

“ฮวาหลวน ลูกต้องช่วยงานเย็บปักของตระกูล” “ไม่มีทางหรอกแม่”ของมีคมสำหรับผม มันคือไวอากร้าน่ะสิ!แต่ใครจะไปคิดว่า…“ขนาดเกิดใหม่ ยังโดนสั่งให้เย็บผ้าอีก!”“ไม่ทำ ตัดนิ้ว” แม่ทัพใหญ่แม้จะทำเสียงดุ

บทที่ 1 น้องใกล้แล้ว

┏━━━━━❂❂━━━━━┓

บทที่ ๑

┗━━━━━❂❂━━━━━┛

หนังสือทั้งเล่มหนาเล่มบางเป็นร้อยๆเล่มเบียดแน่นกันอยู่บนชั้นติดผนัง บอกเล่าทั้งภูมิปัญญาและความรู้ของ…ผม?

สต๊อป! รู้นะว่าคิดอะไรกัน รสนิยมของผมไม่ทำเรื่องแบบนั้นแน่

“พี่ฮวาหลวน เอาแต่อ่านอะไรแบบนั้นอยู่ได้ทั้งวันทั้งคืน”

“น้องจะไปรู้อะไร ไม่ใช่ทุกคนจะเข้าถึงความลึกซึ้งได้แบบพี่หรอกนะ นี่น่ะโดจินเรื่องใหม่ที่พี่ชายเธอเพิ่งไปสอยมาเลย”

“พี่บ้า!!! เลิกภูมิใจกับอะไรบ้าๆ แล้วลงไปช่วยงานข้างล่างเดี๋ยวนี้!”

ตัวอาคารเป็นแบบสามชั้น ชั้นบนสุดเป็นบ้าน ชั้นหนึ่งชั้นสองเป็นสำนักงาน ไม่สิ บ้านผมน่ะเป็นโรงงานรับปักไหม ระบบหัตถกรรมร้อยเปอร์เซ็นต์

ใครๆก็คงคิดว่าบ้านนี้ชอบเย็บปักเหมือนกันหมด อืมก็ไม่ผิด ถ้าไม่นับผม

“โอ้ว นางเอกเรื่องนี้แซ่บมาก เสียดายโง่ไปหน่อย หน่อยแบบเกินเยียวยาแล้ว”

“จะเอาแบบนี้ใช่ไหม”

ตีมึนไม่ได้ยิน ใครจะไปรู้จักน้องสาวผมดีเท่าผมไม่มีแล้ว เดี๋ยวก็เดินออกไปเอง

“พ่อกับแม่บอกว่าถ้าพี่ไม่ลงไป หักค่าขนม!”

ผมตกใจสะดุ้งโหยง

หักค่าขนม!

โดจินเรื่องใหม่ที่จะวางขายอาทิตย์หน้าสองเรื่อง อาทิตย์ถัดไปอีกสองเรื่อง ไหนจะเล่มลิมิเต็ดอิดิชั่น แนวSM อีก

ผมต้องลงแดงตายแน่ๆ เหล่าตัวละครในหนังสือจะต้องร้องไห้

“ไม่ได้นะ งั้นพี่จะเอาเงินที่ไหนไปซื้อคอลเล็กชั่นต่อไป”

ยัยน้องสาวเหนื่อยใจจนถอนหายใจแรง แต่คนที่เด้งตัวขึ้นมายืนขู่ฟ่อๆไม่รู้ว่าหล่อนเป็นอะไร น้องสาวเลยช่วยตอบให้

“โอตาคุแบบนี้สิบปีก็ไม่มีเพื่อนหรอก”

“อึก”

สายตาคมมองลงต่ำไปสนใจจุดกลางลำตัว ทำเอาต้องบิดตัวหนีอัตโนมัติ น้องผมกลายเป็นโรคจิตไปแล้ว

รู้สึกเหมือนถูกน้องสาวตัวเองลวนลาม จนขนลุกซู่ไปหมด

รักเสื้อผ้าที่ใส่ตอนนี้ขึ้นมาเลย

“มะ มองอะไรของเธอ”

“ฉันมั่นใจ หนอนพี่…เน่า-ตาย-แน่”

นะ หนอน เน่า อะไรนะ

หมายความว่า…

เธอดูดวงได้ เห็นอนาคตหรืออะไร จู่ๆมาทักกันแบบนี้

“คงต้องฝากเรื่องทายาทไว้กับน้องซะแล้ว”

“อย่ามา…ดูถูกพี่นะ” อันหลังไม่ใช่ไม่เต็มใจพูดนะ แค่พอจะเถียงก็ถูกความจริงตีแสกหน้าจนน็อกหงายหลังไปเท่านั้น

≪•◦ ❈ ◦•≫

เพราะเป็นบริษัทขนาดกลาง เลยรู้ดีว่ามีพนักงานรวมๆกันเป็นร้อยคน แต่ว่าให้ตายหนึ่งในนั้นก็ไม่มีผม

“มีที่ไหนครอบครัวนักเย็บมือทอง แต่ลูกชายโตจนเรียนจบมหาลัยแล้วกลับไม่เคยแตะเข็มกับผ้าเลยสักแอะ ใช้ไม่ได้”

“มีน้องเก่งๆ พ่อแม่ก็เก่งมากๆ เว้นผมไว้คนก็ได้นิครับ”

ส่ายหัวไม่เอารัวๆ ไม่เอาเด็ดขาด

“ถึงจะไม่สนใจแต่วันนี้คนขาด ลูกต้องมาช่วยงานปักของธุรกิจเรา”

คุณแม่พูดเด็ดขาด คงไม่ใจอ่อนง่ายๆ แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยใจอ่อนง่ายอยู่แล้ว

“แม่ไม่รู้อะไร ยังไงผมก็ไม่ทำ”

“อาหลวน!”

เสียงฝีเท้าดังตึงตังขึ้นบันไดมาด้านบน ก่อนจะจบด้วยเสียงปังและเสียงลูกบิดประตู ก็จะไม่ให้ผมฮึดฮัดแบบนี้ได้ยังไง

“กลับมาอ่านที่ค้างไว้ดีกว่า แม่นะแม่ ไม่เข้าใจกะ ย้ากกกก อะไรกันเนี่ย ชะ ชั้น ชั้น”

เรื่องใจร้ายแบบนี้ฝีมือพ่อกับแม่แน่นอน

หนังสือที่สะสมมาเป็นสิบปี เงินที่จิ้กแม่จิ้กน้องไปซื้อทั้งที่รู้ว่ามันแพงกว่าค่าขนม

“ด-โดจินของผมหายเกลี้ยงเลย!”

พอนึกย้อนเรื่องราวป๊อบปี้เลิฟในสมัยเรียน ผมยังจำได้ดี เด็กชายคนหนึ่งในวัยประถมที่ไม่รู้จะทำอย่างไรกับคนที่ชอบ นอกจาก…ทำตัวสต็อกเกอร์

และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้น สู่จิตใจนักอ่านโดจินแฟนพันธุ์แท้ เพราะโดจินเล่มแรกที่ผมได้ชิมลางคือเล่มที่ผู้หญิงคนนั้นทำตกไว้ยังไงล่ะ

เนื้อหาที่ทำเอาตาค้างนอนไม่หลับ การได้จับเล่มแรกแปลว่าจะได้จับเล่มต่อไป นี่สิ…พรหมลิขิต

สุภาษิตว่า ทำตกเท่ากับ ‘ทิ้ง’

ผมก็เลยเก็บเข้าคลังได้อย่างสบายใจ

ตระกูลของพ่อทำงานเย็บปักมาตั้งแต่รุ่นปู่ ยิ่งคุณนายภรรยาคว้าตำแหน่งแชมป์ปักผ้าระดับประเทศมาได้ ครอบครัวก็เลยได้จริงๆจังๆกับกิจการหัตถกรรมเต็มตัว ใช่ แม่ผมนั่นแหละ

ทั้งยังคาดหวังให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอย่างผมรับช่วงต่อเหมือนมีลูกคนเดียว

งัดเอาทุกกลวิธี ทั้งเคี่ยวทั้งเข็ญ หาข้ออ้างสารพัด ถึงยังไงก็มีน้องสาวอยู่ทั้งคน

แต่ผมน่ะตั้งปณิธานไว้แล้วว่า ไม่

ไม่ใช่ว่าผมไม่เข้าใจพวกท่าน แต่ว่ามันจะ ‘ไอ้นั่น’ นะสิ

‘ไอ้นั่น’ สิ่งที่พ่อกับแม่ก็ยังไม่รู้ ตัวแปรที่ทำให้ผมไม่สุงสิงกับใคร ความลับสุดยอดที่ห้ามโป๊ะตลอดชีวิต

ต่อให้เอามีดมาง้างปากก็ต้องเก็บงำเอาไว้ให้ได้

≪•◦ ❈ ◦•≫

คุณแม่ช่วยหยิบของที่ผมลงมาตามหาขึ้นมาทันที

“เห็นไหมว่านี่อะไร”

เห็น เบ้าลูกตาแทบจะกระเด็นออกมาเลยล่ะแม่

ก็หนังสือสุดรักสุดหวงเล่มโปรดที่ถูกเจ้าของอ่านจนเยิน กับรูปหน้าปกสุดสยิวมันลอยอยู่เหนือไฟเทียนไขบนโต๊ะเย็บผ้าของพนักงานตัวหนึ่ง

“แม่ นั่นมันของผมนะ เอาคืนมา”

คนฟังยกยิ้มอย่างเป็นต่อดูเจ้าเล่ห์ ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นนี่แหละ

คุณแม่ผู้เคยเป็นสปอนเซอร์หลักอย่างเป็นทางการ

คิดไม่ถึงว่าจำใช้ไฟเทียนที่ตั้งไว้ให้ลนเข็มเย็บผ้ามาเผาคัมภีร์สวรรค์ประโลมโลกประโลมใจของผม

ยอมไม่ได้!

“เรียนรู้งานเย็บปัก”

“บอกแล้วไงว่าไม่เอา ใครอยากทำก็ทำไปสิครับ น้องสาวผมก็ทำได้ดี คุณแม่ยังต้องการอะไรอีก”

ตอบตาแข็ง มือกำหมัดแน่นจนเจ็บ ถ้าเป็นแบบนี้ก็ต้อง…

ใช้สองขาวิ่งเข้าไปหมายจะแย่ง

อีกนิดเดียว

วืด!

ไม่ทันคนเอาสิ่งนั้นไปกอดไว้ราวกับอ่านใจได้

“งั้นถ้าแม่มอบตำแหน่งทายาทกิจการให้ลูกดูแลสิ้นเดือนนี้ล่ะ”

“ไม่เอา”

“จะทำไม่ทำ ไม่งั้นคงมีคนแถวนี้บอกลาชีวิตกับกองหนังสือมาสืบทอดกิจการสิ้นเดือนแน่ๆ ลูกว่าไหม”

ที่แท้แม่ก็คิดแผนมาหมดแล้ว

พวกพนักงานที่เฝ้าดูเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ มองจ้องแบบพร้อมขยับที่ให้ไปนั่งข้างๆตามสะดวก แต่ผมหันหลังวิ่งขึ้นห้อง

ถึงจะยอมลองดูสักครั้งเพราะมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่…

“เป็นตายยังไงก็ปักตรงนั้นไม่ได้เด็ดขาด”

≪•◦ ❈ ◦•≫

ปวดใจจริงๆ

ห้องนอนที่มีเตียงอุ่นสบาย แต่คนนอนไม่สบาย

ผมพลิกไปพลิกมา ไม่ได้โกรธอะไรแม่ แต่กลุ้มเรื่องอื่น อยากปาหนังสือเล่มหนาในมือทิ้ง ได้แต่เดินอ่อนแรงเอามันไปวางบนโต๊ะไม้ริมห้องแทน

“น้องสาวเอาหนังสือภาพต้นแบบการเย็บปักอะไรนี่มาให้ นี่ก็คืนวันศุกร์แล้ว เหลือเวลาแค่เสาร์อาทิตย์ ทันที่ไหน!!!”

ใจจะสลาย

วันจันทร์วันทำงาน วันทำงานคือมีพนักงาน งั้นถ้าทำไม่เสร็จก็ต้องไปนั่งกลางดงพนักงาน แล้วจะปกปิด ‘ไอ้นั่น’ ไม่ไหวน่ะสิ

แค่ผุดภาพจำลองขึ้นสมองก็รู้ได้ทันทีว่าชื่อของตัวเองต้องมีคำว่าโรคจิตต่อท้ายแน่

“ไม่เป็นไร ยังพอมีเวลา มึงทำได้เว้ย ฮวาหลวน”

≪•◦ ❈ ◦•≫

ความมืดไม่น่ากลัว…ไม่จริง

ตีห้าก็แค่เวลาเช้ากว่าปกตินิดหน่อย…เช้ามาก ก็ปกติตื่นเก้าโมง

ถึงอย่างนั้นก็มั่นใจว่าจะไม่จ้ะเอ๋ใครสักคน

ยิ่งกว่าโจรก็ผมนี่แหละ

สองเท้าย่องเบาไปที่ชั้นหนึ่ง แผนกเย็บปัก ยังไงถึงจะเหมือนโจรแค่ไหน แต่โจรมันไม่ไปยกเค้าบ้านตัวเองแบบผมหรอก

ถ้าพ่อแม่และน้องสาวมาเห็นผมทำอะไรแบบนี้ คงได้ตอกย้ำซ้ำเติมให้มุดดินหนีแน่

“เอ๊ะ ประตูเปิดไม่ออก” พอเหลือบมองข้างๆก็เห็นป้ายประกาศตัวโตๆว่า “หยุดเสาร์อาทิตย์”

อะไรเนี่ย เอามาติดหน้าประตูแผนกแบบนี้ก็มีด้วย

“ทำตัวเป็นโจรไปได้”

“น้อง!”

คนมองอย่างรำคาญใจโผล่มาทั้งชุดนอนจากทางด้านหลัง

โจรย่องเบาถูกจับได้ซะแล้ว นี่กูย่องดังไปเหรอ ไม่หรอกน้องหูดีเกินไปมากกว่า ไม่น่าบังเอิญแน่ๆ

มาผิดจังหวะเกิน ว่าจะแอบเข้าไปเงียบๆแท้ๆ

ช่วยไม่ได้ ถือโอกาสขอกุญแจจากน้องเลยแล้วกัน

“พี่บ้า ประตูหลังก็มี”

ประตูหลัง?

จริงด้วย เพิ่งนึกออกว่ามีประตูหลังเชื่อมกับห้องเย็บปักด้วยนี่

≪•◦ ❈ ◦•≫

ผ่านไปหนึ่งวัน งานเย็บปักตามหนังสือภาพที่กองเป็นภูเขาทำให้ผมนั่งจุ้มปุ๊กที่โต๊ะตัวหนึ่งริมประตูไม่ได้ไปไหน รู้แล้วว่าทำไมพวกคนงานที่เข้ามาเทรนงานใหม่ๆพากันโอดครวญแทบจะร้องขอชีวิต

เดี๋ยวนะ แล้วผมจะไหวไหมเนี่ย

ยังดีที่น้องสาวต้องเอาข้าวน้ำมาให้ทุกมื้อ

อย่างน้อยๆก็ไม่ต้องกลัวหิวตายล่ะนะ แค่ถูกงานทับตายเอง ฮือ

“ไม่เข้าใจเลยว่าพี่ทุ่มเทอะไรขนาดนี้” น้องสาวที่มาส่งข้าวยามเช้าวันอาทิตย์ยืนกอดอกมองพี่ชายที่ไม่รู้ว่าจะรู้ตัวหันไปกินข้าวที่วางให้ข้างๆตอนไหน “ไม่กินไม่นอนเอาแต่ปักผ้า พี่ตายแน่”

พอไม่มีสัญญาณตอบกลับ หล่อนก็จากไปแบบไม่พอใจกันสุดๆ

ใครเป็นคนทำกันน้า

ผ่านไปแป๊บๆ วันจันทร์ก็มาถึงซะแล้ว

“เอาข้าวมาให้ เดี๋ยวพนักงานก็มาเข้างานแล้ว พี่ฮวาหลวนกินข้าวเสร็จแล้วไปอาบน้ำหน่อยนะ ตัวเหม็นหึ่งไปหมด”

อีกนิดเดียว เหลืออีกนิดเดียว

“ไม่ได้ ต้องเร่งมือแล้ว ไม่มีเวลากินแล้ว”

ไม่สนใจอะไร สองมือยิ่งเร่งปักเข็มลงไปบนผ้าที่ถูกขึง ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงน้องสาวตะโกนเรียกแล้วก็พูดอะไรไม่รู้ด้วยน้ำเสียงตกใจสุดขีด

“พี่… $%^&%#”

ลายปักสุดท้ายที่แค่เก็บงานก็จะปิดเล่ม ถึงจะไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่ แต่ผมว่าพ่อแม่ต้องเห็นใจบ้างแหละ

แหมะๆ

ภาพตรงหน้าพร่าเบลอ เลือดสองสามหยดตกลงเปื้อนผ้าในมือย้อมสีขาวเป็นดวง ผมมัวแต่เร่งมือจนไม่รับรู้ถึงความปกติใดๆ

อีกนิด…เดียว ใกล้แล้ว อีก…

≪•◦ ❈ ◦•≫

ที่นี่ที่ไหน นี่มันอะไรกันเนี่ย

ผมมั่นใจว่าตัวเองนั่งปักผ้าอยู่ถึงเมื่อกี้แล้วทำไมมายืนก้าวขาขึ้นรถม้าอยู่นี่ล่ะ

“เอ๊ะ นี่มัน…ชุดโบราณ ร่างกายก็…”

ไม่เพียงเท่านั้น ชุดที่ใส่ดันเป็นชุดจีนโบราณผมเผ้าถูกรวบไปมัดด้านหลัง ถึงไม่ได้ส่องกระจกผมก็ไม่ได้คิดไปเอง

ร่างกายนี่ไม่ใช่ของกู

ถ้างั้นร่างของกูล่ะ

เดาว่านี่ผมคงทะลุมิติมาอยู่ในยุคโบราณสักยุค เพราะแค่มองไปข้างหน้าจวนใหญ่ก็เห็นคหบดีกับภรรยาคู่หนึ่งกำลังยืนมองมาอย่างกังวล

ยังดีที่ดูแล้วน่าจะมาเกิดเป็นลูกหลานขุนนางล่ะวะ

“เฟิงหมิง ดูแลตัวเองดีๆนะลูก!”

“แม่ทัพเทียนผู้มีจิตใจเมตตา หากลูกคนรองของข้าทำสิ่งใดผิดพลาด ข้าหวังว่าท่านจะให้อภัย”

“แม่ทัพเทียน?”

พอมองไปที่คนถูกเรียก เขากลับนั่งนิ่งจนคู่สามีภรรยามองหน้ากันสีหน้าเครียดขึง ผมก็ยังไม่เข้าใจอะไรแต่ก็เข้าไปนั่งเอ๋อฝั่งตรงข้ามก่อน

หืม? แสดงว่าร่างนี้ชื่อ เฟิงหมิง แต่เฟิงหมิงที่ว่านิสัยยังไง จะไปที่ไหน

มันวุ่นวายขนาดที่ต้องเอาคนน่ากลัวอย่างแม่ทัพอะไรนี่มาด้วยเหรอ

“ฟู่ว” ผ่อนลมหายใจ

ช่างมัน ยังไงก็คงไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่านี้หรอก

“ไปสนามรบ!”

นั่นไง ถูกใจใช่เลย

ก็บ้าแล้ว!!!!

“สนาม…ส-สนามรบ เขาบอกว่าส-สนามรบ!”

คนขับรถม้าพูดก่อนตวัดสายบังเหียนเป็นสัญญาณเคลื่อนตัว นี่ผมต้องไปสถานที่เสียงตายแบบนั้นเหรอ ยุคสมัยนี้เขากำลังรบกันรึไง แล้วรบกันแบบใด๋ถึงต้องส่งคนแต่งตัวดูคุณช๊ายคุณชายอย่างผมไปที่นั่น

จังหวะนี้หันไปหาพ่อแก้วแม่แก้วขอความช่วยเหลือผ่านช่องหน้าต่าง แต่ไม่ทันได้อ้าปากกว้างเอ่ยอะไร สีหน้าคนหน้าจวนก็พากันปวดใจจะร้องไห้ทั้งคู่

ยังดีที่ยังโบกมือลาปุลกปุลกทั้งน้ำตา

ดีก็บ้าแล้ว เผลอโบกตอบซะได้

พ่อกับแม่อย่าเพิ่งเสียใจ พวกท่านมาช่วยผมก๊อน!

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ElGSi

ข้อมูลเพิ่มเติม
เบียร์จะกินไวน์

เบียร์จะกินไวน์

นิยายวาย

5.0

ไวน์ นักศึกษาปี 2 เดือนคณะผู้ปฏิญาณตนว่าจะโสดตลอดไป เจ้าของใบหน้าหล่อออกหวานนิดๆแบบเกาหลี คนที่วันๆอยู่กับการวิ่งไปแย่งคอมตัวแรงเพื่อดูหุ้นไม่ก็จมหัวอยู่ที่ร้านหมูกะทะ เรื่องโน่นนี่ไม่สนก็จริง แต่ใครอย่ามาปากหมาใส่แล้วกัน แปลงร่างเป็นพิตบูทันที เบียร์ เอกอินเตอร์บริหาร คุณชายตระกูลดังขี้รำคาญ ใบหน้าหล่อคมที่ใครๆก็บอกว่าควรขึ้นตำแหน่งเดือนมหาลัย คุณชายที่ขับรถหรู ใช้ของแบรนด์เนมทั้งตัว แต่ติดที่ปากเสีย ขี้เหวี่ยง ไม่คบค้าสมาคมกับใคร ขู่ได้แม้กระทั่งอธิการบดี ꧁{★… ★}꧂ ไอ้ผู้ชายปากหมานั่นใครวะ หยิ่งฉิบหาย พอแหย่เขาแล้วเขาไม่เล่นด้วย ไวน์เลยตามตอแยทุกวิถีทาง แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้คิดอะไรนะ ด่าเขาปาวๆ บอกแค่จะเอาของมาคืน! เบียร์เห็นก็เลยแก้เผ็ด วุ่นวายดีนัก ตีหัวรวบเข้าบ้านเลยแล้วกัน “อย่าดื้อ หมอสั่ง” “หรือวะ หมอสั่งให้กูอยู่กับมึงนานขนาดนี้เลย?” ฟอด!!! คุณตำรวจ มีคนลวนลาม! “ไอ้เห้เบียร์!!” ꧁{★… ★}꧂ Trigger Warning ***สำหรับนักอ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน*** นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาติดเรท 18+ คำหยาบคาย และฉากไม่เหมาะสม. โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน. *พฤติกรรมบางอย่างไม่ควรลอกเลียนแบบ

ท่านอ๋องสามีข้าเป็นบ้า

ท่านอ๋องสามีข้าเป็นบ้า

โรแมนติก

5.0

เหมยลี่ อายุ 25 ปี คุณหนูผู้ร่ำรวย สาวตากลมตัวเล็กผิวขาวมาดซีอีโอนุ่มนิ่ม เธอใช้เงินบัลดาลทุกอย่างตามใจ ไม่แคร์โลก ใครจะรู้ว่าภายใต้หน้ากากของซีอีโอสาวสุดเพอร์เฟค จะเต็มไปด้วยเรื่องราวของนิยายในหัว แถมมีอยู่เรื่องเดียวซะด้วย งานนี้งานการไม่ทำมันแล้ว มู่จิน พระเอกนิยายติงต๊อง ที่ฆ่าเมียตัวเองตายในคืนเข้าหอ ชายหนุ่มร่างใหญ่เจ้าของเรือนผมดำยาวและสันกรามทรงเสน่ห์ เขามีประวัติความเป็นมาหรือเรื่องราวของเขาเป็นมาอย่างไร ไม่มีผู้ใดรู้ได้ เขาเบื่อหน่ายโลกใบนี้เต็มทน ชีวิตคนสำหรับเขาก็เป็นเพียงเศษหญ้าเท่านั้น ꧁⊱ ⊰꧂ เพราะถูกรถชนตายตอนที่เพิ่งอ่านนิยายจบรอบที่ 99 ยังไม่ครบร้อย พอลืมตามาก็อยู่ในร่างตัวประกอบ ไม่ใช่นางเอกไม่พอยังต้องแต่งงานกับคนบ้า 'เหมยลี่' คนนี้เลยต้องพยายามฆ่าเจ้าบ่าวในห้องหอ ก่อนที่เธอจะถูกเขาฆ่าตามบทในนิยายอีกครั้ง แต่แล้ว ความพยายามของเธอก็ไร้ค่า เธอตายอีกครั้งแล้วไม่ได้กลับโลกเดิม แต่ย้อนกลับมาที่คืนเข้าหอ ทว่าทำไมรอบนี้คุณพระเอกเจ้าบ่าวมองเธอตาเยิ้มขนาดนั้นล่ะเนี่ย ꧁⊱ ⊰꧂ Trigger Warning ***สำหรับนักอ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน*** นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาติดเรท 18+ คำหยาบคาย และฉากไม่เหมาะสม. โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน. *พฤติกรรมบางอย่างไม่ควรลอกเลียนแบบ*

ก็บอกว่าไม่ใช่พระรองไงฟ้ะ

ก็บอกว่าไม่ใช่พระรองไงฟ้ะ

นิยายวาย

5.0

เตียวเฉิน ก่อนตายเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่ในโลกใหม่ เขาเป็นพระรองมาดแมนแม้ตัวจะไม่มีกล้ามแซงหน้าพระเอก ในเมื่อเกิดมาหล่อ รวย หน้าตาการศึกษาดี แต่ข้างในวิญญาณไม่มีความรู้สักกะติ๊ด เขาจึงพยายามใช้สมองอันน้อยนิดหาหนทางรอด ด้วยการ มุดโพลงหมาลอดออกไปเป็นขอทานเสียเลย มู่จิน พระเอกของโลกใบนี้ นักธุรกิจและผู้มีอำนาจที่สุดในเมือง ชายหุ่นกล้ามที่ชอบใส่สูทผูกไทป์ แล้วหมกตัวอยู่แต่ในบ้าน สีหน้าของเขาเยือกเย็นตลอดเวลา อะไรๆในโลกก็น่ารำคาญไปหมด ยกเว้นวันที่เห็นตัวอะไรปีนเข้าบ้าน ꧁{★… ★}꧂ เกิดใหม่ก็ต้องดิ้นรนหนีออกจากบ้าน พอนึกไปแล้ว เข้าร่างพระรองมาได้ไม่กี่เดือน แต่เดี๋ยก็ถึงเวลาที่พระเอกนายเอกเขาก็จะเจอกันแล้ว ผมก็ชิงหนีออกไปเป็นขอทานก่อนน่ะสิ เรื่องอะไรจะอยู่รอแบดเอ็น เอ๊ะ ผู้ชายที่เปลื่อยกายนั่นหน้าคุ้นๆ ทำไมบ้านที่ผมปีนกำแพงเข้าไปมันดันเป็นบ้านพระเอกล่ะ ซวยแล้ว งั้นตีเนียนไม่รู้ไม่ชี้ก่อนแล้วกัน ทั้งที่ตั้งใจจะอยู่ที่นี่อีกนิดเดียวแท้ๆ พวกคนใช้เองก็บูลลี่กันอยู่ได้ ผมมั่นใจว่าพระเอกต้องโยนผมออกไปในไม่ช้า เขาน่ะระแวงผมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่... แปลกๆ นะ ขอทานแล้วได้เสื้อผ้า อาหาร เพชรพลอย ที่แปลกกว่าคือ พอผมอาละวาทพังบ้าน เกิดอะไรขึ้นรู้ไหม เจ้าของบ้านซื้อเฟอร์ใหม่มาให้พังเพิ่มน่ะสิ วันๆหัวจะปวด เขาจับผมมัดตั้งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในห้องทำงาน แล้วก็เอาแต่นั่งครุ่นคิดว่าพรุ่งนี้จะเอาอะไรมาให้ตอนผมขอทานดี ผมนี่ขมวดคิ้วเลย ꧁{★… ★}꧂

หนังสือที่คุณอาจชอบ

พิษรักร้าย Toxic Love

พิษรักร้าย Toxic Love

Kim Nayeol
5.0

"พี่ริก" นินิวเรียกคนที่เข้ามาในห้องเธอ ฉันอยากจะกรี๊ดและกัดลิ้นตัวเองให้ขาด ฉันลืมไปสนิทว่าริกเป็นคนที่เข้าออกคอนโดของเธอได้อย่างง่ายดาย "ออกไป ถ้าไม่อยากโดนข้อหาบุกรุกห้องคนอื่นในยามวิกาล" นินิวบอกริกมาเสียดังด้วยสีหน้าโกรธจัด ที่ริกเข้าห้องเธออย่างถือวิสะ "ไม่ไป ในเมื่อที่นี่คือห้องเมียฉัน ทำไมฉันต้องออก" ร่างสูงบอกมาด้วยเสียงแข็งด้วยความไม่พอใจ "ห้องฉันไม่ใช่ห้องของยัยโมเน่ เมียคนปัจจุบันของพี่ ถ้าพี่ยังหลงเหลือความเป็นคนอยู่บ้างก็ออกไปจากห้องฉันคะ" แต่ริกกับไม่สนใจคำพูดนินิวเลยซักนิด ร่างสูงเดินเข้ามาหาคนตรงหน้า นินิวที่เห็นเช่นนั้นถึงกับจับที่ชายผ้าขนหนูเอาไว้แน่นขึ้น เพราะคนตรงหน้านั่นดูอันตรายสำหรับเธอ "อย่านะพี่ริก เรื่องของเรามันจบไปแล้ว" นินิวบอกมาด้วยเสียงสั่นเพราะสายตาที่เขามองเธอมามันน่ากลัวมากจริงๆ "ชอบฉันไม่ใช่เหรอ เอาฉันแล้วจะไปอ่อยคนอื่น อีกทำไม ฉันเห็นเต็มสองตาว่าเธอจูบกับไอ้ไทม์" "ในเมื่อพี่เห็นเช่นนั้น พี่ก็เลิกยุ่งกับฉันเสียสิ ฉันจะอ่อยจะจูบกับใครมันก็เรื่องของฉันไหม ฉันบอกพี่ไม่กี่ร้อยครั้งแล้วว่าเราเลิกกันแล้ว เพราะพี่มันเลว ฉันเลยไม่อยากได้พี่แล้ว " นินิวบอกคนใจร้ายอย่างคนเหลืออด เธอระเบิดอารมณ์ใส่คนตรงหน้าอย่างไม่มีท่าทีเกรงกลัว สำหรับริกตอนนี้เธอมองเขาเป็นแค่เศษฝุ่นที่รู้สึกขยะแขยงยิ่งกว่าแมลงสาบ ริกถึงกับกัดฟันกอดด้วยความโกรธและโมโห เชตเรื่องหนุ่มๆวิศวะทั้ง 4 หนุ่มนะคะ พันธะร้ายนายวิศวะ เรียวตะ x เชอรีน (มีให้อ่านจบเรื่อง) พิษรักร้าย Toxic Love ริกกี้ x นินิว พลาดรักร้ายนายวิศวะ อรัณ x มิริณ คลั่งรักร้ายนายวิศวะ ริว x เจนิส โลกสวยไม่เหมาะกับนิยายเรื่องนี้ ข้ามไปได้เลยจ้า นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นตามจิตนาการของผู้แต่ง ห้ามขัดลอกเรียนแบบใดๆ ทั้งสิ้นเขียนขึ้นตามจิตนาการของผู้เขียนเท่านั้น นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหารุนแรงในบางตอน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน อายุต่ำกว่า 18 ปีควรได้รับคำแนะนำ

ข้าเก็บภรรยาได้ที่ชายหาด (ภาคต่อ สามีข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง)

ข้าเก็บภรรยาได้ที่ชายหาด (ภาคต่อ สามีข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง)

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

ชาติที่แล้วของไห่เฉิงเขาเป็นประมุขมารที่ไม่สมหวังในความรัก มาแสนภพแสนชาติ และภพชาติที่หนึ่งแสนของเขา มีเหตุให้ต้องทำลายดวงจิตมารของตนเอง และเหลือเสี้ยวดวงจิตเอาไว้เพียงน้อยนิด ดวงจิตที่เหลืออยู่เขาอ้อนวอนขอต่อมหาเทพขอให้เขาได้เกิดเป็นมนุษธรรมดา ที่สมหวังในความรักม่ีครอบครัวที่อบอุ่น และไม่ขอจดจำอดีตชาติของตัวเองอีกต่อไป เขาขอเริ่มต้นใหม่ในดินแดนมนุษย์และไม่ว่าจะเกิดอีกกี่ครั้งกี่ภพกี่ชาติ ขอให้เขาได้สมหวังในความรักทุกภพทุกชาติไป

ความลับของท่านประธาน

ความลับของท่านประธาน

ปีศาจชอนซา
5.0

นายพายุ ศิระภาคิณ อายุสามสิบปี นักธุรกิจหนุ่มประธานบริษัทส่งออกผ้าไทย วีรกรรมที่เขาทำไว้เมื่อสิบกว่าปีก่อน กำลังจะย้อนกลับมา เมื่อนางสาวแพรไหม โภสิกุล ดีไซเนอร์สาวอายุยี่สิบเก้าปี ได้ปรากฏตัวขึ้นหลังจากที่เธอนั้นหายออกไปจากมหาวิทยาลัย กว่าสิบปี โดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งทำให้ท่านประธานหนุ่มเริ่มอยากรู้ชีวิตของเธอ เมื่อครั้งหนึ่งเรือนร่างอันบอบบางอรชรเคยหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวกับเขามาแล้ว ถ้าหากเขาต้องการสานสัมพันธ์กับเธออีกครั้ง มันก็ไม่แปลกหากเธอนั้นยังโสดแพรไหมจะยังต้องการเขาอยู่หรือไม่ ในเมื่อเธอคิดว่าพายุนั้นเป็นแค่ผู้ชายที่พรากความบริสุทธิ์ไปจากเธอเท่านั้น ซึ่งเวลานี้เธอก็ยังคงมองเขาในด้านลบอยู่ดี แม้ว่าเวลาจะผ่านไปเป็นสิบปีแล้วก็ตาม "แม่ของหนูชื่ออะไร ตอนนี้อยู่ที่ไหน บอกฉันได้ไหม" พายุถามพร้อมกับจ้องลงไปที่ดวงตาแป๋วของเด็กหญิงตรงหน้า เมื่อเขามั่นใจว่าสายตาจะไม่โกหก "แม่ของหนูชื่อแพรไหม!" เด็กหญิงพูดออกมา พร้อมกับจ้องสายตาคมของผู้เป็นบิดาอย่างไม่กะพริบตา เพื่อยืนยันว่าเธอนั้นไม่ได้โกหก “ฮ่ะ!” พายุอุทานออกมาเสียงดัง ขณะที่หัวใจของเขานั้นเต้นแรง ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจที่สุดในชีวิต "ถ้าคุณไม่เชื่อ พาหนูไปตรวจดีเอ็นเอก็ได้นะคะ" เด็กหญิงพูดออกมาพร้อมกับมีใบหน้าที่เศร้าหม่น เมื่อเธอคิดว่าบิดาคงไม่เชื่อในสิ่งที่เธอนั้นพูดออกมา "ไม่จำเป็น!" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็ง เพื่อยืนกรานที่จะตรวจดีเอ็นเอ จนทำให้คนฟังนั้นหวาดกลัว เพราะใยไหมคิดว่าบิดานั้นไม่เชื่อใจเธอ "หนูขอโทษที่มารบกวน หนูขอตัวกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ" ใยไหมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอยกมือขึ้นไหว้ผู้เป็นบิดาอย่างนอบน้อม ประหนึ่งว่าจะไม่ได้เจอเขาอีกแล้วในชีวิตนี้ เมื่อเธอได้สัญญากับผู้เป็นมารดาเอาไว้ หากถูกปฏิเสธแล้วไซร้ จะขอกลับไปไม่กลับมาหาชายตรงหน้าอีกเลยตราบชั่วชีวิต "แล้วหนูจะไปไหน นั่งลงก่อนสิ" พายุพูดพร้อมกับจับร่างเล็กของลูกสาวนั่งลงข้าง ๆ อีกครั้ง "ที่บอกว่าไม่จำเป็น นั่นเป็นเพราะว่าพ่อเชื่อว่าหนูเป็นลูกของพ่อโดยไม่ต้องตรวจดีเอ็นเอ!" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ใยไหมไม่รอช้าโผเข้าไปกอดผู้เป็นบิดาอีกครั้งในทันที ก่อนจะร้องไห้ออกมาเพราะความดีใจ "ไม่ร้องนะครับคนเก่งของพ่อ" พายุพูดพร้อมทั้งเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาที่แก้มใสของลูกสาวออกจนสิ้น ในขณะที่ตัวของเขาเองก็น้ำตาคลอเช่นกัน "หนูขอเรียกพ่อว่าคุณป๋านะคะ" เสียงเจี๊ยวจ๊าวพูดออกมาอย่างรื่นหู คุณป๋าที่เด็กหญิงพูดนั้น ทำให้พายุอดที่จะหัวเราะออกมาอย่างชอบใจไม่ได้ "ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! ทำไมถึงต้องเรียกพ่อว่าคุณป๋าด้วยละ หืม" พายุเอ่ยถามลูกสาวออกมา ขณะที่เขายังคงกอดเด็กหญิงเอาไว้ ด้วยความรักความผูกพันของสายใยระหว่างพ่อลูก ที่มันพันผูกจนมาสามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ "มาดาม ไม่ชอบให้หนูมีพ่อ หนูก็จะมีคุณป๋าแทนยังไงล่ะคะ" คำตอบของลูกสาวทำให้พายุยิ้มไม่หุบครั้งแล้วครั้งเล่า เธอช่างเป็นเด็กฉลาดและร่าเริง ผิดกับแพรไหมมารดาของเธอ ที่ชอบทำหน้าเหมือนแบกโลกทั้งใบเอาไว้ตลอดเวลา "ทำไมถึงเรียกแม่ว่ามาดาม ตอนนี้แม่แต่งงานไปแล้วหรือยัง" เวลานี้พายุลุ้นคำตอบจากลูกสาว หรือแพรไหมจะแต่งงานกับฝรั่งตาน้ำข้าวไปแล้ว ใยไหมถึงได้เรียกเธอว่ามาดาม "แม่ยังไม่มีใคร มีแค่ลุงดนัยที่ชอบมาข้องแวะ แต่หนูไม่ชอบเขาเลย เพราะเขาชอบทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของมาดามอยู่เรื่อย" คำตอบของลูกสาวช่างอิ่มเอมใจ เมื่อแพรไหมไม่มีใครเขาก็พร้อมจะสานสัมพันธ์ แต่งานนี้คงจะยากหากผู้ชายคนนั้นมาข้องแวะ แต่เขามีลูกสาวที่ยืนเคียงข้างแล้วจะกลัวอะไร "ถ้าพ่ออยากจะจีบแม่ต้องทำยังไง" "โอ้! เจ๋งเป้งมากค่ะคุณป๋า เดี๋ยวหนูจะช่วยเอง" ใยไหมพูดออกมาด้วยความดีใจ นั่นคือสิ่งที่เธอปรารถนามาแสนนาน อยากให้บิดามารดาได้ลงเอยกันสักที "ลูกรับปากพ่อแล้วน๊า... " พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่น่ารัก "แต่เราต้องมาทำข้อตกลงกันก่อนค่ะ คุณป๋า" ใยไหม ผละออกจากอกกว้างของผู้เป็นบิดา พร้อมกับหยิบคุกกี้ตรงหน้าเข้าปาก "หิวหรือยัง ไปทานข้าวก่อนดีไหม" พายุเอ่ยถามออกมาด้วยความห่วงใย เมื่อเห็นลูกสาวนั้นหยิบคุกกี้เข้าปากคำโต "เดี๋ยวค่อยไปทานก็ได้ค่ะ แต่เราต้องมาทำข้อตกลงกันก่อน เรื่องที่หนูเป็นลูกสาวของคุณป๋า ห้ามให้ใครรู้ ทุกอย่างจะเป็นความลับระหว่างเราได้ไหมคะ" พายุทำหน้าสงสัยกลับไปให้เด็กหญิง เธอกำลังคิดจะทำอะไร ใครหลายคนคงดีใจหากได้เป็นลูกสาวของท่านประธาน "ทำไมเป็นลูกสาวพ่อมันไม่ดีตรงไหนเหรอ ลูกถึงไม่อยากให้ใครรู้" พายุเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความน้อยใจ เมื่อลูกสาวไม่อยากให้ใครรับรู้ว่าเขาเป็นบิดาของเธอ "เป็นลูกสาวของป๋าดีที่สุดแล้ว แต่หนูไม่อยากให้ใครมองมาดามในทางไม่ดี ทุกคนต้องรู้แน่ สาเหตุที่มาดามต้องออกจากมหา'ลัยกลางคัน" คำบอกเล่าของใยไหมเป็นเหมือนดังคมหอก ที่ทิ่มแทงเข้ามาในหัวใจของพายุ เด็กหญิงตรงหน้าช่างมีความคิดแบบผู้ใหญ่ เธอถูกเลี้ยงมาแบบไหนทำไมถึงได้ฉลาดอย่างนี้ แพรไหมคงดูแลอบรมลูกสาวมาอย่างดี ต่างจากเขาผู้เป็นบิดาที่ไม่เคยได้เหลียวแล "พ่อขอโทษนะ ที่ไม่เคยได้ดูแลหนูเลย ต่อจากนี้ไปพ่อจะไม่ทิ้งหนูกับแม่ให้อยู่กันตามลำพังอีกแล้ว" คำพูดของผู้เป็นบิดากำลังทำให้เด็กหญิงหัวใจพองโต เธอดีใจที่ผู้เป็นพายุไม่ปฏิเสธ แถมเขายังคิดที่จะสานสัมพันธ์กับมาดามของเธออีกครั้ง คงไม่มีอะไรทำให้เด็กหญิงมีความสุขเท่าสิ่งนี้มาก่อนเลยในชีวิต "ก่อนอื่นคุณป๋า ต้องจีบมาดามให้ติดก่อน หนูบอกเลยว่างานหิน มาดามดื้อจะตาย ขนาดลุงดนัยตามจีบหลายปี มาดามยังปฏิเสธทุกครั้ง แต่ลุงดนัยก็ตื้ออยู่ได้" ใยไหมพูดพร้อมกับทำหน้างอ ออกมาได้อย่างน่ารัก "ป๋ามีลูกสาวคอยช่วยจะกลัวอะไร ไปทานข้าวกันดีกว่า เดี๋ยวป๋าจะไปส่งที่บ้าน" พายุพูดออกมาด้วยสายตาที่มีความหวัง เขาคงไม่ต้องใช้นักสืบ ในเมื่อโชคชะตากำหนดให้หญิงสาวเดินเข้ามาในชีวิตของเขาเอง แถมอยู่ดี ๆ ก็ได้ลูกสาวมาหนึ่งคน ที่น่ารักซะจนทำให้เขานั้นอยากไว้หนวด

ยัยตัวร้ายกับนายแบดบอย NC18++

ยัยตัวร้ายกับนายแบดบอย NC18++

Me'JinJin
4.5

กาย กันต์ธีร์ พิสิฐกุลวัตรดิลก ฉายาราชาแห่งคณะวิศวกรรมศาสตร์ หนุ่มหล่อแห่งคณะวิศวกรรมศาสตร์เอกคอมพิวเตอร์ ปี 4 เขาหล่อ เขาเฟียร์ส เขาเฟี้ยว เขาซ่าส์ แต่โคตรทะลึ่ง และสุดแสนจะทะเล้น จีบหญิงไม่เก่ง แต่ผมเยเก่งนะครับที่สำคัญผมโสดสนิท!!แต่อยู่ดีๆดันมาเสียหัวใจให้กับยัยตัวร้ายแบบเธอ!!!อลิส อังสุมาลิน "รักนะไอ้ต้าวลิส" อลิส อังสุมาลิน ฐิศานันตกุล นิเทศศาสตร์ ปี 2 เธอสวย เธอเซ็กซี่ เจ้าแม่แห่ง Sex appeal ปากไม่แดงไม่มีแรงเดิน ใครดีมาเธอดีตอบ ใครร้ายมาเธอตบ!!หลงรักกายหนุ่มหล่อแสนเจ้าเล่ห์ที่อยู่ๆก็มาจูบปากเธอ แถมเล่นเกินเบอร์เรียกเธอว่าเมีย!! น่ารักเบอร์นี้อลิสยินดีตกหลุมรักจ้ะพี่จ๋า ชาตินี้ไม่ได้พี่กายเป็นผัว อลิสจะโสดคอยดู!!ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก🥰มารยาหญิงร้อยเก้าเล่มเกวียนงัดมาให้หมด ☺️☺️ "รักนะน้อนพี่กาย"

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ