บัวรินที่รัก

บัวรินที่รัก

Hidden Sweet

5.0
ความคิดเห็น
304
ชม
11
บท

ไอ้แคล้วหนุ่มบ้านไร่ลูกชายกำนัน แอบชอบน้องบัวรินลูกสาวพ่อค้าร้านก๋วยเตี๋ยว แต่เธอไม่เคยชายตาแลเขาเลย ไอ้แคล้วจึงตัดสินใจจับน้องบัวรินทำเมีย....

บทที่ 1 ตอนที่ 1

เรื่องมันมีอยู่ว่า...

วาสนาคนอย่างไอ้แคล้ว เกิดมายี่สิบสามปียังไม่เคยได้พบกับความรักและความเสียวที่แท้จริงเลย

เรื่องเสียวที่พบเจอครั้งล่าสุด คือ... เมื่อคืนนี้จากหนังโป๊และมือของตัวเอง ประสบการณ์เสียว ไม่เป็นที่น่าจดจำ เพราะไม่เคยมีสักครั้งที่แคล้วจะสมหวังกับใครสักคนด้วยความรัก มีแค่ความพลั้งเผลอ และความแอบรักฝ่ายเดียวเท่านั้น

ถึงอย่างนั้นแคล้วยังมีความหวังในเรื่องความรัก ประสบการณ์รักที่เคยผิดหวัง เขาเคยแอบชอบผู้หญิงคนหนึ่ง เทียวไล้เทียวขื่อและได้ขอคบหาด้วยแต่ท้ายที่สุดเขาก็ได้เจอว่าเธอนอกใจ

ทว่าเขาก็ไม่คิดจะยอมทิ้งคำว่ารักแม้จะถูกปฏิเสธมาแล้วครั้งหนึ่ง เขาก็ยังเพียรที่จะหาคนรัก แม้ว่าการเปิดใจในรักครั้งแรกจะไม่สมหวัง และถูกทรยศหักหลังอย่างไร้เยื่อใยก็ตาม

ปัจจุบัน คนที่แคล้วชอบพอ เธอชื่อว่า “บัวริน"

สาวสวยวัยสิบแปดปีลูกสาวของ “น้าแนว” ที่เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวที่หน้าไซต์งานก่อสร้างบนที่ดินของพ่อกำนันดวงดี บิดาบังเกิดเกล้าของแคล้วนั่นเอง ที่กำลังสร้างหอพักเอาไว้ให้คนเช่า กำนันดวงดีจึงให้แคล้วมาเป็นหัวหน้าคุมงาน

บัวริน... เธอเป็นสาวสวย รูปร่างผอมบางน่าทนุถนอมแต่ถึงอย่างนั้นบัวรินมีสิ่งหนึ่งที่เด่นสะดุดตา ก็คือหน้าอกหน้าใจไฟหน้าใหญ่ ๆ กลมกลิ้งของเธอนั่นเอง

อย่าหาว่ามีแต่ไอ้แคล้วเลยที่ไม่อาจจะละสายตาได้ พวกหนุ่ม ๆ อีกหลายคนก็พากันตกหลุมพรางความงดงามของสองประทุมมานั้นเช่นกัน

ในยามที่แคล้วมาอุดหนุนซื้อก๋วยเตี๋ยวที่ร้านของเธอ แคล้วพยายามที่จะจับจ้องมองสบตากับเธอ เขาพยายามส่งสายตาว่าตัวเองนั้น มีความรู้สึกดี ๆ ให้

แต่ทว่าบัวรินก็ไม่ได้ทอดสะพานให้เขาแต่อย่างใด แคล้วได้แต่เศร้า เขาเอาแต่คิดว่า... เป็นเพราะตัวเองเป็นคนอับโชคใช่ไหม?

หรือบัวรินคิดแต่เพียงว่า เขาเป็นเพียงลูกชายของพ่อกำนันดวงดี ที่มีฐานะทางบ้านดีเท่านั้น หรือคิดแต่เขาไม่ได้ทำงานทำการ ได้แต่รอเกาะพ่อกิน

อีกอย่างเขาเคยใช้ชีวิตเสเพลสำราญไปวัน ๆ อาจจะทำให้เธอเข้าใจผิดก็เป็นได้

หรือว่า... แคล้วหน้าตาบ้าน ๆ ไม่มีอะไรโดดเด่นในสายตามองเธอกันแน่ แคล้วได้แต่ครุ่นคิด

เพราะว่า... คู่แข่งแต่ละคนที่มาจีบบัวรินนั่น บางคนมีดีกรีเสียด้วย

แคล้วคิดว่า... บางทีบัวรินอาจจะมีใจเอนเอียงไปให้ทางหนุ่มผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่มีดาวติดบนบ่า คนที่มีตำแหน่งและเพิ่งจบนายร้อยมาหมาด ๆ เสียมากกว่า เช่นสารวัตรฉัตรชัย

ทุกครั้งที่เขาเห็นเวลาที่บัวรินคุยกับสารวัตรฉัตรชัย ทั้งแววตา รอยยิ้มและน้ำเสียงของเธอ เวลาคุยกับสารวัตรช่างแตกต่างจากที่พูดคุยกับแคล้วไปโดยสิ้นเชิง

แค่คิดแคล้วก็ขุ่นเคืองทำให้เขาเสียใจไปหลายวัน และยิ่งคิดลบ ๆ มันก็ปลุกความอคติของตัวเองออกมาจนได้ แคล้วรู้สึกไม่ค่อยสบอารมณ์เวลาที่เห็นภาพอย่างนั้น แม้จะชินตาแต่ไม่ชินที่หัวใจ

จนทำให้คิดอยากจะทำอะไรสักอย่างในเร็ววันนี้

คืนหนึ่งขณะที่บัวรินกำลังจะเก็บร้านเพื่อจะกลับบ้าน เพราะว่าที่ร้านขายดีมากจนของหมดเร็ว แถมมีลูกค้าจากไซต์งานก่อสร้างมาอุดหนุนทุกวันจนหมดเกลี้ยง

ช่วงนี้เป็นวันแรงงาน 1 พ.ค. ที่นี่ก็ให้คนงานหยุดงานได้ถึงห้าวัน

แคล้วทำทีมายืนที่หน้าไซต์งาน และบอกให้ทุกคนรีบพากันกลับบ้านและเดินทางดี ๆ

“กลับบ้านก่อนนะครับหัวหน้า”

“เออ ๆ กลับบ้านดี ๆ นะทุกคน เดินทางปลอดภัย”

เขาเอ่ยร่ำลาลูกน้อง แต่สายตาของเขาก็คอยชำเลืองมองไปที่ร้านของบัวรินอย่างไม่วางตา

วันนี้เป็นไงเป็นกัน แคล้วจะต้องสารภาพรักกับบัวรินให้จงได้ เขาจะเผยความรู้สึกแท้จริงกับเธอ

แคล้วเดินไปหาบัวรินถึงที่ร้าน เขาเผยยิ้ม

“บัวรินจ๊ะ แม่ค้าคนสวย วันนี้พี่แคล้วจะมาขอเหมาของกินที่ร้าน พอจะขายให้ได้ไหมจ๊ะ รวมถึงแม่ค้า... เอ่อ... น้องบัวรินด้วย” แคล้วไปเย้าแหย่เล่น

แต่บัวรินไม่เล่นด้วย เธอหันมามองเขาอย่างไม่พอใจ

"ร้านปิดแล้วจ้า ขายไม่ได้จริง ๆ จ้า แล้วเอ่อ... ฉันไม่ได้เป็นสาวขายตัวนะฮึ! พี่แคล้วเนี่ยพูดจาน่าเกลียดจริงๆ" เธอตอบค่อนแขวะแคล้วในท้ายประโยค และขึงตาใส่

“จะมาสารภาพรักสินะ เฮ้อ... พี่น่ะคงจะไม่มีปัญญาเลี้ยงน้องให้มีความสุขหรอกจ้า อย่ามามงมาเหมา อีกอย่างขอแค่พี่แคล้วมาอุดหนุนน้องทุก ๆ วันก็พอแล้วนะจ๊ะ” แม้จะไม่ชอบคำพูดก่อนหน้า แต่เธอก็ยังคงรักษามารยาท

แต่ทว่าท่าทางและน้ำเสียงที่บัวรินที่พูดกับเขานั้น ทำเอาหัวใจของแคล้วกระตุกวูบไหว ไม่ใช่อะไรเพราะแคล้วรู้สึกกรุ่นโกรธ เขามันน่ารังเกียจมากขนาดนั้นเลยเหรอ เธอถึงต้องพูดจาไม่ไว้หน้าเขาขนาดนี้

นี่เขาคือลูกชายกำนันดวงดีเชียวนะ!

“พรุ่งนี้พี่แคล้วก็ค่อยกลับมาใหม่เถิดจ๊ะ ฉันจะเก็บร้าน พี่อย่ามาเกะกะเลย” บัวรินไม่ได้ให้ความหวังแคล้วเลยสักนิด

แคล้วเอาแต่ขบฟันกลั้นความรู้สึก และยังคงไม่ไปไหน เขายังคงมองดูเธอเก็บร้านอยู่ตรงนั้น

ในหัวคิดถึงเรื่องที่จะทำอย่างไรจะชนะใจของเธอได้ แต่ทว่า... บัวรินไม่ได้สนใจ และออกจะแสดงอาการเกลียด ราวกับแคล้วเป็นคนร้ายที่ก่ออาชญากรรม

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ซีไซต์
5.0

องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้

เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา

เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา

Roana Javier
4.9

ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

มาชาวีร์
4.5

เมื่อยมทูตหน้าใหม่ดึงวิญญาณมาผิดดวง เพื่อรักษาไว้ซึ่งสมดุลของโลกวิญญาณ หลินลู่ฉีผู้มีปราณมงคลในยุคปัจจุบัน จึงถูกส่งไปยังต่างโลก สวมร่างเด็กน้อยวัยสามขวบ ที่เพิ่งถูกงูกัดตายด้านหลังอารามเต๋า เจ้าอาวาสไม่อาจยอมรับวิญญาณสวมร่างได้ แต่เมื่อขับไล่วิญญาณร้ายออกจากร่างกายไม่ได้ จึงจำเป็นต้องขับไล่คน ออกจากอารามแทน ++++ "อนิจจาวาสนาเด็กน้อยได้ดับสิ้นลงแล้ว จี้คงเตรียมพิธีสวดส่งวิญญาณให้นางเถอะ" นักพรตเฒ่าสั่งการลูกศิษย์ตัวน้อย หันหลังหมายจะเดินกลับไปยังที่พักของตน "ขอรับท่านอาจารย์" จี้คงขานรับคำสั่ง หันไปเตรียมสิ่งของสำหรับทำพิธีสวดส่งวิญญาณผู้ตาย ทว่าผ่านไปเพียงอึดใจเดียว "อ๊ากกก ! มีผี !" เสียงกรีดร้องดังลั่น ร่างเล็ก ๆ ของเขาวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นอาจารย์ "จี้คงมีอะไร" "นะนางลืมตาขอรับท่านอาจารย์" เด็กน้อยชี้นิ้วสั่น ๆ ไปที่ศพบนพื้น "ว่าอย่างไรนะ" นักพรตเฒ่ารีบตรงไปคุกเข่าอยู่ด้านข้างศพ เห็นเปลือกตาของนางขยับไปมา ก่อนจะปรือลืมขึ้นอย่างลำบากยากเย็น "นี่มัน...เป็นไปไม่ได้" รีบคว้าข้อมือของเด็กน้อยมาจับชีพจรดู ดวงตาของนักพรตเฒ่ามืดมนลงในทันที แตะนิ้วทำนายชะตา นี่มันคือการสลับร่างเปลี่ยนวิญญาณ ดึงตัวลูกศิษย์ถอยหลังไปสามก้าว "ผีร้ายตนไหนกล้ามาสวมร่างคนตาย จงออกไปเสีย !" ผีร้ายที่ว่ากำลังมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า จำได้ว่าเธอกำลังขับรถกลับบ้าน ใช่แล้ว เกิดอุบัติเหตุขึ้น มีรถบรรทุกเสียหลัก พุ่งมาชนรถของเธอ จากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบไป ท่าทางเหม่อลอยไร้สติของนางทำนักพรตเฒ่าหวาดระแวงในทันที เตรียมหยิบยันต์ป้องกันภูตผีออกมา ขณะที่เด็กน้อยยกฝ่ามือของตัวเองขึ้นเพ่งมองอย่างประหลาดใจ ดวงตาคู่กลมน้อยกลอกกลิ้งไปมาอย่างสับสน นิ้วมือสั้น ๆ นี่มันอะไร ขยับปลายเท้าเข้าหากัน ขาก็สั้น พลิกฝ่ามือตัวเองไปมา สีหน้าคล้ายคนอยากร้องไห้ นี่มันโลกถล่มใส่หัวของเธอหรืออย่างไรกัน เปรี๊ยะ ! ยันต์ขับไล่ภูตผีถูกปาใส่นางสุดแรง ก่อนที่มันจะปลิวร่อนลงไปกองอยู่บนพื้น ยันต์ไม่เกิดการเผาไหม้ ผีร้ายยังคงอยู่ในร่างกายของเด็กน้อย "เจ้า ๆ ๆ ออกไปจากร่างของนางเดี๋ยวนี้ !" นักพรตเฒ่าชี้นิ้วพร้อมดึงยันต์สายฟ้าฟาดออกมาอีกแผ่น นี่นับเป็นยันต์ที่ทรงพลังที่สุดของเขาแล้ว รีบปาใส่เด็กน้อยสุดแรง เปรี๊ยะ ! ทว่าไร้ผลอยู่ดี... ตาเฒ่านี่เล่นตลกอะไรกัน... [นิยาย3เล่มจบ 252ตอน]

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ