ก็แค่เขาไม่รัก

ก็แค่เขาไม่รัก

buablue

5.0
ความคิดเห็น
37
ชม
10
บท

เธอแต่งงานกับเขามา2ปี วันนี้เธอท้องแล้ว ตั้งใจจะบอกข่าวดีกับเขา แต่รักแรกของเขากลับมาและเขาก็ขอหย่ากับเธอทันที " 2ปีที่อยู่ด้วยกันมา คุณไม่เคยรักฉันสักนิดเลยเหรอ ถ้าอย่างนั้น ลูกในท้องของฉันคุณก็ไม่จำเป็นต้องรู้หรอก "

บทที่ 1 หย่ากันเถอะ

"ยินดีด้วยค่ะคุณตั้งครรภ์ได้8สัปดาห์แล้วจะฝากท้องเลยไหมค่ะ"

คุณหมอบอกด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม มาณวิกาดีใจเธอแต่งงานมา2ปี ไม่คิดว่าวันนี้จะท้องแล้ว ที่ผ่านมาเธอกินยาคุมมาตลอดเลยไม่ท้อง แต่พักหลังๆงานยุ่งก็เลยลืมกินบ้างอะไรบ้าง เธอเองก็รู้สึกว่าตัวเองมีอาการผิดปกติแปลกๆ เวียนหัวบ่อย ง่วงนอนอยากจะนอนตลอดเวลา อารมณ์ก็ขึ้นๆลงๆ เดือนที่แล้วประจำเดือนของเธอก็ไม่มา แต่เธอคิดว่าคงเพราะเครียดและพักผ่อนน้อย พอเดือนนี้ไม่มาอีก ชักจะแปลกๆแล้วหล่ะ จึงได้ไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจ ผลปรากฎว่าขึ้น2ขีด แต่เพื่อความแน่ใจก็เลยมาตรวจที่โรงพยาบาลอีกรอบ

"ค่ะฝากเลย"

เมื่อหมอยืนยันว่าเธอท้องก็ฝากท้องทันที เสร็จเรื่องแล้วก็แวะซื้อของบำรุงลูกน้อย ทั้งขนม นม ของกินที่เธอชอบ และซื้อพวกของสดอีกหลายอย่าง ตั้งใจจะทำอาหารที่อัครพลชอบให้เขากิน ก่อนกลับบ้าน มาณวิกาส่งข้อความทางไลน์ไปบอกอัครพล

"เย็นนี้คุณกลับบ้านเร็วหน่อยได้ไหม ฉันจะทำอาหารไว้รอคุณ แล้วก็มีเรื่องจะบอกคุณด้วย"

ผ่านไปสักพักข้อความก็ขึ้นว่า อ่านแล้วเขาตอบกลับมาสั้นๆว่า

"อืม"

ช่วงเย็นอัครพลกลับมาบ้าน มาณวิกากำลังจัดอาหารอยู่บนโต๊ะ มีป้าแมวแม่บ้านคอยช่วยเมื่อจัดจานเสร็จ ก็ถอยออกไปอย่างรู้งาน มาณวิกาตักอาหารใส่จาน ให้อัครพลอย่างเอาใจ

"ผัดเปรี้ยวหวาน ของโปรดของคุณ กินเยอะๆนะคะ"

อัครพลตักเข้าเข้าปากกินไป1คำ แล้วหยิบน้ำมาดื่ม ก่อนจะพูดขึ้นมา

"ผมว่าเราหย่ากันเถอะ"

เหมือนสายฟ้าฟาดลงมากลางใจของมาณวิกามันเจ็บจนชาไปหมด เธอรู้ว่าสักวันต้องมีวันนี้ทั้งที่เธอเตรียมใจไว้แล้ว แต่พอถึงเวลาจริงๆกลับเจ็บจนพูดไม่ออก

"คุณก็รู้ว่าที่เราแต่งงานกันเพราะอะไร ผมไม่อยากไห้คุณต้องเสียเวลาไปมากกว่านี้ จริงอยู่ที่เราต่างก็ให้สัญญากับคุณปู่ ว่าจะอยู่ด้วยกันจนครบ3ปีก่อน แล้วค่อยหย่า ถึงจะหย่าตอนนี้ หรือรออีกจนครบ3ปี ก็ต้องหย่าอยู่ดี ผม "

"เข้าใจแล้วเอาตามที่คุณว่านั่นแหละ คุณว่างวันไหนก็นัดวันมาเลย"

อัครพลสบตาของมาณวิกา ดวงตาของเธอคลอไปด้วยหยาดน้ำตาแลดูน่าสงสาร อกข้างซ้ายของเขาก็เกิดบีบรัดขึ้นมา เขาลังเลสับสน แต่เมื่อคิดอีกที ในเมื่อเราไม่ได้รักกัน อยู่ด้วยกันไป ก็มีแต่จะทำไห้เธอเสียเวลา เขาไม่อยากจะเห็นแก่ตัวรั้งเธอเอาไว้ เขาหวังว่าเธอ จะได้เจอคนดีๆที่รักเธอ สร้างครอบครัวที่อบอุ่นด้วยกัน

" อืม ผมจะนัดวันอีกที ผมจะไห้เงินคุณ50ล้าน กับพูลวิลลาที่หัวหิน "

เขารู้ว่าเธอชอบทะเล ตั้งแต่แต่งงานกันมา เธอเคยขอไห้เขาพาไปเที่ยวทะเล แต่เขาก็ยังไม่ว่าง ยังไม่มีโอกาสได้พาไปสักที พูลวิลลาหลังนั้น หวังว่าเธอคงจะชอบ

หลายเดือนก่อนเขาได้ไห้ลูกน้อง หาซื้อที่ติดทะเลและสร้างพูลวิลล่าหลังนั้น เพื่อไห้เป็นของขวัญกับเธอโดยเฉพาะ ทีแรกตั้งใจจะไห้เป็นของขวัญวันเกิด โดยเขาจะพาเธอไปพักสัก2-3คืน เพื่อฉลองวันเกิดไห้เธอด้วย แต่ต้องเปลี่ยนมาเป็นของขวัญวันหย่าแทน ไม่เป็นไรถือว่าเป็นของขวัญเหมือนกัน

"ฉันไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น"

ทั้งคู่เงียบอยู่นานไม่มีใครพูดอะไร บรรยากาศเต็มไปด้วยความอึดอัด

"ไหนคุณบอกว่า มีเรื่องจะบอกกับผม"

" ไม่มีอะไร มันไม่สำคัญหรอก "

แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมา อัครพลกดรับสาย

"ฮัลโหล อืม ผมรู้แล้ว กำลังจะไป"

"ผมมีธุระต้องรีบไป คุณกินต่อเถอะ ผมอาจจะกลับดึกๆหน่อย เรื่องข้อตกลงการหย่า คุณก็คิดดูอีกทีแล้วกัน ถ้าอยากจะได้อะไรเพิ่มคุณก็เขียนเอาไว้เลย เดียวผมจะไห้ทนายจัดการไห้"

พูดจบก็หันหลังเดินออกไป อัครพลไปนานแล้ว แต่มาณวิกายังคงนั่งอยู่ที่เดิม คิดทบทวนถึงเรื่องของเขากับเธอ

เธอแต่งงานกับเขามา2ปีกว่า ตามคำขอร้องของคุณปู่ ปู่ของเขากับปู่ของเธอเป็นเพื่อนรักกัน คุณปู่ธนาเป็นโรคหัวใจ ก่อนปู่ของเธอตายได้มอบหัวใจไห้กับปู่ธนา พร้อมทั้งฝากฝังเธอด้วย มาณวิกาไม่มีใครเหลือตัวคนเดียว อุบัติเหตุในครั้งนั้นนอกจากปู่ของเธอแล้ว พ่อของเธอที่อยู่ในรถคันเดียวกัน ก็เสียชีวิตพร้อมคุณปู่ด้วย ก่อนปู่จะตายได้เคยพูดกับปู่ธนาว่าถ้าท่านตาย จะมอบหัวใจไห้กับคุณปู่ธนาเพื่อนรัก ทั้งยังทำหนังสือมอบหัวใจ ไห้เป็นลายลักษณ์อักษรอีก

ปู่ธนาช่วยจัดการงานศพ และรับเธอมาอยู่ด้วย ตอนนั้นเธอเรียนอยู่มหาลัยปีสุดท้าย เธอปฏิเสธที่จะมาอยู่ด้วยที่คฤหาสถ์ของคุณปู่ ทรัพย์สมบัติที่ปู่กับพ่อของเธอทิ้งเอาไว้ ก็มากพอมีกินมีใช้ไปตลอดชีวิต แต่ปู่ธนาไม่เห็นด้วยอ้างว่าเธอเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวอันตราย อีกทั้งรับปากปู่ของเธอเอาไว้ ว่าจะดูแลเธออย่างดี

ที่คฤหาสถ์เธอได้พบกับอัครพลครั้งแรก หัวใจก็เต้นผิดจังหวะ ยิ่งได้เห็นหน้าเขาทุกวันก็ยิ่งหวั่นไหว นานวันเข้าเธอก็รู้ตัวว่าหลงรักเขาเข้าไห้แล้ว อัครพลอายุมากกว่าเธอ3ปี เขาทำงานในบริษัทของตระกูล นั่งในตำแหน่งท่านประธาน หล่อ สูงโปร่ง สุขุม สีหน้ามีแต่ความเย็นชาราวกับเจ้าชายน้ำแข็ง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำไห้ความหล่อของเขาลดลงแม้แต่น้อย

หลังจากที่คุณปู่ทำการผ่าตัดหัวใจเสร็จ คุณปู่ได้เรียกไห้เธอกับอัครพลเข้าไปคุยและขอไห้ทั้ง2แต่งงานกัน เพื่อที่อัครพลจะได้ดูแลมาณวิกา เธอรู้ดีว่าเขาไม่ได้รักเธอเป็นเธอที่รักเขาข้างเดียว และเธอก็รู้ว่าในใจของเขามีใคร ผู้หญิงคนนั้น รักเดียวในใจของเขา

เธอรู้มาว่าเขา2คนคบกันตอนเรียนมหาลัย พอเรียนจบอัครพลขอเธอแต่งงาน แต่ถูกปฏิเสธผู้หญิงไปเรียนต่อต่างประเทศและได้เป็นนางแบบ แถมยังมีข่าวว่าคบหากับผู้กำกับชาวอังกฤษ ผู้ซึ่งผลักดันไห้เธอเข้าสู่วงการ เขาเสียใจมากเสียศูนย์ไปพักใหญ่

ด้วยเหตุนี้ด้วยแหละมั้ง คุณปู่ถึงได้ขอไห้เขาแต่งงานกับเธอ เพราะหวังว่าเขา จะกลับมาเป็นคนเดิม ตั้งใจทำงาน

"ปู่รู้ว่าหนูรักตาอัค ถึงตอนนี้มันยังไม่ได้รักหนู แต่ปู่เชื่อว่าความน่ารักของหนู จะทำไห้ตาอัครรักหนูได้ในสักวัน "

มาณวิกาคิดถึงคำพูดของคุณปู่แล้วเกิดขมขื่นในใจ ทีแรกเธอก็เข้าข้างตัวเองคิดอย่างนั้น แต่เธอต้องยอมรับความจริง ว่าเธอไม่มีความสามารถ เปลี่ยนใจให้เขามารักเธอได้ ในใจของเขาไม่มีที่ว่างให้เธอ เธอไม่มีวันเอาชนะคนในใจของเขาได้

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ buablue

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

Arvin Bikoff
5.0

หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”

ตำนานตาม่วง

ตำนานตาม่วง

Wald Bridges
5.0

"เธอคือผู้ฝึกสัตว์ร้ายที่มีดวงตาสีม่วงอันเป็นเอกลักษณ์ในศตวรรษที่ 24 เมื่อเธอเกิดใหม่เป็นหญิงตั้งครรภ์ ดวงตาของเธอถูกขุดออก การฝึกฝนของเธอถูกทำลาย ตัวตนของเธอถูกพรากไป และลูกชายของเธอถูกไอ้สารเลวและผู้หญิงใจร้ายแย่งชิงไป! จะทนกับสิ่งนี้ได้อย่างไร! จากนั้นเธอใช้ชีวิตกับลูกสาว ปราบสัตว์ร้ายทั้งหมดด้วยดวงตาสีม่วงของเธอ จัดการทุกคนที่หาเรื่องพวกเขา และในที่สุดก็พบกับราชาเทพชั่วร้ายที่พาลูกชายของเธอไปจนได้ ลูกตัวน้อย ""แม่ มีผู้ชายคนหนึ่งที่บอกว่าตราบใดที่หนูเรียกเขาว่าพ่อ เขาจะมอบภูเขาทองคำให้หนู"" ผู้หญิง ""ถามเขาหน่อยว่าเขามีอีกไหม ฉันสามารถเรียกเขาว่าพ่อได้ด้วยนะ"" ราชาเทพกัดฟัน ""สาวน้อย ลูกทั้งสองเป็นของฉัน และตัวเธอก็เป็นของฉันด้วย"""

รักร้ายจอมทระนง

รักร้ายจอมทระนง

มาชาวีร์
5.0

“แหวนไปไหน” “คะ” หญิงสาวรีบหดมือหนีในทันที “พี่ถามว่าแหวนไปไหน” คริษฐ์ยังย้ำคำถามเดิมแล้วจ้องหน้าคู่หมั้นสาวแบบไม่พอใจ “คืออยู่ที่ออฟฟิศมันต้องล้างแก้วกาแฟบ่อย ๆ รุ้งก็เลยถอดเก็บเอาไว้ค่ะกลัวมันจะสึกเสียก่อน” คำตอบของหญิงสาวค่อยทำให้คริษฐ์รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย “ถ้าถอดออกพี่จะถือว่ารุ้งขอถอนหมั้นพี่นะ” “ก็ไม่ได้ถอนสักหน่อย แค่ถอดเก็บเอาไว้เฉย ๆ” “งั้นก็ใส่เสียสิ เดี๋ยวนี้เลย” คริษฐ์ถลึงตาใส่แกมบังคับ “ใส่ก็ใส่ค่ะ” คนพูดตัดพ้อเล็กน้อย แล้วหันไปหยิบกระเป๋าด้านข้างมาเปิดเพื่อหยิบแหวนหมั้นของตนออกมาสวมใส่ จากนั้นก็หันหลังมือให้เขาดู “พอใจหรือยังคะ” “ดี” “ว่าแต่พี่คริษฐ์มานั่งรอรุ้งทำไมคะ มีธุระสำคัญหรือเปล่า” หญิงสาววกมาหาคำถามแรกที่เธออยากรู้ แต่เขาดันจุดประเด็นเรื่องแหวนขึ้นมาแทรกเสียก่อน “แม่ให้พี่มาหาคู่หมั้นตัวเองบ้าง” ฟังเขาพูดแล้วรุ้งพรายชักเครียดขึ้นมาหน่อย ๆ “ถ้าคุณป้าพิมพ์ไม่บอกพี่คริษฐ์ก็คงไม่มาหารุ้งใช่ไหมคะ” “แล้วทำไมรุ้งถึงไม่ไปหาพี่เองบ้างล่ะ” “ก็รุ้งกลัวพี่คริษฐ์รำคาญ” บทสนทนาสิ้นสุดลงด้วยความเงียบด้วยกันทั้งสองฝ่าย คริษฐ์ถอนหายใจเบา ๆ ส่วนรุ้งพรายก็ก้มหน้าต่ำลง ทำไมถึงได้รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก “พี่ไลน์หาอ่านแล้วทำไมไม่ตอบ” คริษฐ์เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนหลังจากเงียบมาเกือบหนึ่งนาที “พอดีรุ้งมาอ่านตอนดึกแล้วไม่อยากรบกวนพี่คริษฐ์ค่ะ” “ตอบมาสักคำก็ยังดี อย่าทำเหมือนพี่ไม่มีตัวตนนะรุ้ง จำเอาไว้ด้วยว่าพี่เป็นคู่หมั้นของรุ้ง” “มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้นะคะพี่คริษฐ์” “อะไรกันที่ว่าไม่น่าจะเป็นแบบนี้” “รุ้งว่าเราถอนหมั้นกันดีกว่าไหมคะ ดูพี่คริษฐ์อึดอัดกับการหมั้นของเราเหลือเกิน ขนาดจะมาหารุ้งก็ต้องให้คุณป้าพิมพ์บังคับมาเลย” “แม่ไม่ได้บังคับพี่” “ไม่บังคับก็เหมือนบังคับนั่นแหละค่ะ ตั้งแต่ตอนเด็กแล้วพี่ คริษฐ์แทบไม่เคยขัดใจคุณป้าพิมพ์ได้เลย ถ้ามันเหนื่อยและยุ่งยากมากรุ้งขอถอนหมั้นไปเลยก็ได้ค่ะ” รุ้งพรายดึงแหวนออกจากนิ้วนางข้างซ้าย แล้ววางแหมะอยู่ตรงหน้าของเขา คริษฐ์มองแหวนมองคนแล้วอารมณ์ของเขาก็เดือดดาลขึ้น บทจะอยากได้ก็วิ่งตามติดเป็นเงา บทจะสลัดทิ้งก็ง่าย ๆ แบบนี้เหรอรุ้งพราย “ใส่กลับไปเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มแทบจะกัดฟันพูดออกมา “ไม่ค่ะ อ๊ะ! พี่คริษฐ์จะทำอะไรรุ้งไม่ใส่” รุ้งพรายถูกคริษฐ์กระชากมือมาแล้วจัดการสวมแหวนกลับที่เดิม “ใส่แล้วห้ามถอด ห้ามทำให้แม่พี่เสียใจรู้ไหม” “พี่คริษฐ์!” (รักร้ายจอมทระนง)

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ