เขาเจอเธอเมื่อวันก่อน ทำให้เขาตกหลุมรักเธอในทันที เขาได้เจอเธออีกครั้งในสภาพบาดเจ็บและความจำเสื่อม โดยไม่รู้ว่าแท้ที่จริงเธอคือคู่หมั้นวัยเด็กของเขา แต่เพราะเขาตกหลุมรักเธอ จึงโกหกเธอไปว่าเขาคือสามี!
“ชุดนี้สวยไหมคะคุณแม่” น้ำเสียงหวานใสประดุจระฆังแก้วของลูกสาวเพียงคนเดียวของเอมอร พนัสโสภณ เศรษฐีนีที่ร่ำรวยที่สุดคนหนึ่ง ทำให้นางต้องหันไปมองด้วยรอยยิ้ม
“สวยมากจ้ะลูกสาวของแม่” หญิงสาววัยกลางคนที่ยังเป็นสาวสวยแม้จะอายุสี่สิบเศษเข้าไปแล้ว มองลูกสาวคนสวยด้วยสายตาชื่นชม
อรจิรา พนัสโสภณ สาวน้อยวัยยี่สิบ นักศึกษาสาว ดาวเด่นของมหาวิทยาลัยชื่อดังของปักษ์ใต้ เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของเจ้าสัวพงศ์ที่เสียชีวิตไปนานหลายปีแล้ว กับคุณเอมอร เจ้าของธุรกิจมากมายทางปักษ์ใต้ ทั้งบริษัทห้างร้าน รีสอร์ทและโรงแรมที่มีสาขาในหลายจังหวัด
“สวยมากจ้ะ ลูกสาวของแม่ใส่ชุดอะไรก็สวย” เอมอรเอ่ยชม เพราะลูกสาวของนางสวยจริง ๆ
“คุณแม่ก็สวยมากเลยค่ะ เวลาหนูไปไหนมาไหนกับคุณแม่ ใครๆ ก็บอกว่าเหมือนพี่สาวกับน้องสาว ไม่เหมือนแม่กับลูกเลยค่ะ” เธอเข้าไปกอดมารดาอย่างออดอ้อน
เอมอรเป็นสาวสวยที่ยิ่งอายุมากขึ้นก็ยิ่งสวย เพราะความสวยดั้งเดิม และความสวยจากการบำรุงรักษาตัวเองด้วย จึงทำให้หญิงวัยสี่สิบเศษคนนี้ยังดูไม่แก่เลยสักนิด เมื่อเปรียบเทียบกับผู้หญิงวัยเดียวกัน
“วันนี้ลุงโสภณจะมารับเราสองคนนะจ๊ะ” ประโยคของมารดาทำให้อรจิราหุบยิ้มแทบจะทันที
โสภณคือชายหนุ่มที่เคยมีบุญคุณช่วยเหลือมารดาของเธอเอาไว้ และหลังจากนั้นทั้งสองก็ยังติดต่อพูดคุยกันอยู่เรื่อย เธอเห็นความใกล้ชิดและสนิทสนมนั้นก็คิดว่ามารดาคงมีรักครั้งใหม่
จริง ๆ การที่มารดาจะมีรักครั้งใหม่ เธอก็ไม่ได้ติดขัดอะไร ยิ่งไม่ขัดขวางด้วยหากผู้ชายคนนั้นจะเป็นคนดี ด้วยว่ามารดามีฐานะ ย่อมมีผู้ชายเข้ามาจีบมากมายเป็นธรรมดา ทั้งรักจริงบ้างเพราะมารดาเป็นคนสวย หวังทรัพย์สมบัติบ้างเพราะมารดาไม่ใช่หญิงสาวแรกรุ่นแต่เป็นแม่หม้ายลูกติด
เอมอรนั้นรวยก็จริงแต่เก็บเนื้อเก็บตัวไม่ค่อยออกงานสังคม จึงไม่ค่อยมีใครรู้ว่าท่านร่ำรวย ส่วนใหญ่นั้นเอมอรจะใช้ชีวิตสุขสงบอยู่ในไร่ธารารัตน์
“ทำไมเราต้องไปรบกวนคุณลุงเขาด้วยล่ะคะ” อรจิราเอ่ยถามคล้ายจะเกรงใจ
“ไม่ได้รบกวนอะไรหรอกครับ ลุงยินดี” โสภณที่ลงมาจากรถเอ่ยขึ้น
“สวัสดีค่ะคุณน้า” วรดายกมือไหว้เอมอรด้วยกิริยาอ่อนช้อย
“เราไปกันเถอะครับ งานเลี้ยงกำลังจะเริ่มแล้วครับ” โสภณพูดอย่างสุภาพ ก่อนจะเปิดประตูรถให้อย่างสุภาพ
เมื่อมาถึงงานเลี้ยง อรจิราเดินอยู่ในงานเลี้ยงอย่างเบื่อหน่าย เมื่อเห็นว่าโสภณคอยตามดูแลมารดาของเธอไม่ยอมห่าง เธอไม่ไว้ใจโสภณและลูกติดของเขา แต่เพราะต่อหน้ามารดาเขาดูแลมารดาของเธอดี การพูดถึงโสภณกับวรดาในทางที่ไม่ดีจะทำให้มารดาไม่สบายใจเสียเปล่า ๆ
“น้องอรครับ ทำไมมายืนอยู่คนเดียวล่ะครับ”
“พี่ธี” เธออุทานอย่างดีใจที่ได้เจอกับธีรัชที่นี่
ธีรัชเป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่เธอสนิทที่สุด งานเลี้ยงที่น่าเบื่อหน่ายนี้หายเบื่อไปได้ในทันทีที่ได้เจอเขา
“อรเบื่อๆ น่ะค่ะ” เธอเหลือบไปมองมารดาที่มีโสภณคอยอยู่ดูแลใกล้ ๆ ก็มุ่ยหน้าเล็กน้อย
“ปกติน้าเอมไม่ค่อยออกงาน วันนี้คิดยังไงครับ”
“เขาคงอยากมากับ... ช่างมันเถอะค่ะ” เธอไม่อยากเอ่ยถึงโสภณอีก
“น้าเอมมาออกงานก็ดีเหมือนกันนะครับ”
“ทำไมคะ”
“พี่ก็จะได้เจออรด้วยไง”
“หือ... อยากเจออรเหรอคะ ไปหาที่ไร่สิคะหรือไปหาที่มหาวิทยาลัยก็ได้”
“พี่ไปหาน้องอรที่มหาวิทยาลัย น้องอรก็อยู่กับเพื่อน ไปหาที่ไร่น้องอรก็เอาแต่เลี้ยงม้า คนงานเยอะไปหมด”
“นึกว่าพี่ธีอยากขี่ม้า อรเลยพาไปขี่ม้าไงคะ” เธอรู้ว่าธีรัชจีบเธอ แต่เธอให้เขาได้เพียงแค่ตำแหน่งพี่ชายเท่านั้น แต่กระนั้นเขาก็ยังเป็นพี่ชายที่เธอสนิทด้วยมากที่สุดนั่นเอง
บิดาของธีรัชทำงานอยู่ที่โรงแรมที่มารดาของเธอเป็นหุ้นส่วนใหญ่ ถือว่าเป็นคนเก่าแก่ที่ไว้ใจได้
“วันนี้น้องอรสวยมากเลยนะครับ”
“ปากหวานนะคะนี่” เธอยิ้มให้เขา
“น้องอรครับ ดีใจจังเลยครับที่ได้เจอ” เชาวลิตเข้ามาเอ่ยทักทายอรจิราด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดีค่ะพี่เชาวน์” เชาวลิตเป็นพี่รหัสของเธอ เขาเองก็ตามจีบเธออยู่เหมือนกัน เห็นหญิงสาวที่หมายตาทักทายชายหนุ่มอีกคนก็ทำให้ธีรัชรู้สึกเซ็งอยู่ไม่น้อย
“ดีใจจังเลยครับที่ได้เจอน้องอรที่นี่” ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรกันต่อ ก็มีหนุ่มอีกคนเข้ามาทักทายเอมอร หลังจากนั้นหนุ่ม ๆ ก็เข้ามารุมมาตุ้มอรจิรากันใหญ่ เพราะเธอเป็นสาวสวยของงาน แถมยังเป็นลูกสาวของคุณเอมอร เศรษฐีนีผู้ร่ำรวยผู้เก็บตัว นานๆ จะได้เจอหล่อนออกงานสักที
“อรขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” อรจิรารีบเอ่ยขอตัวเมื่อเห็นว่าหนุ่ม ๆ ทำท่าจะวางมวยกันเพราะแย่งคุยกับเธอ
ประโยคนั้นทำให้หนุ่มหลายคนเงียบกริบเพราะถูกเบรก เนื่องจากกำลังเกทับกันอยู่ อรจิราจึงอาศัยจังหวะนั้นหนีมาเข้าห้องน้ำเสียเลย
หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN
ข้อมูลเพิ่มเติม