การเสียสละของเธอ ความเกลียดชังอันมืดบอดของเขา

การเสียสละของเธอ ความเกลียดชังอันมืดบอดของเขา

Gavin

5.0
ความคิดเห็น
14
ชม
18
บท

เจ้านายของฉัน อคิน เตชะดำรงกุล บังคับให้ฉันบริจาคไขกระดูกให้คู่หมั้นของเขา เพราะเธอกลัวว่าการผ่าตัดจะทำให้เธอมีแผลเป็น เจ็ดปีเต็มที่ฉันทำหน้าที่ผู้ช่วยส่วนตัวให้กับเด็กหนุ่มที่ฉันเติบโตมาด้วยกัน ชายผู้ซึ่งบัดนี้เกลียดชังฉันเข้ากระดูกดำ แต่คู่หมั้นของเขา ฮาร์เปอร์ ต้องการมากกว่าไขกระดูกของฉัน... เธอต้องการให้ฉันหายไปจากชีวิตของเขา เธอจัดฉากใส่ร้ายว่าฉันทำของขวัญมูลค่าหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทแตก และอคินก็บังคับให้ฉันคุกเข่าลงบนเศษคริสตัลที่แหลกละเอียดจนเลือดอาบหัวเข่า เธอใส่ร้ายฉันอีกครั้งว่าพยายามทำร้ายร่างกายเธอในงานเลี้ยงกาลา เขาจึงสั่งจับฉันเข้าห้องขัง ที่ซึ่งฉันถูกซ้อมจนน่วมไปทั้งตัว จากนั้น เพื่อลงโทษฉันเรื่องคลิปหลุดที่ฉันไม่ได้เป็นคนปล่อย เขาก็ลักพาตัวพ่อแม่ของฉันไป เขาบังคับให้ฉันดูภาพที่ท่านทั้งสองถูกแขวนอยู่บนเครนของตึกระฟ้าที่ยังสร้างไม่เสร็จ สูงจากพื้นหลายสิบเมตร เขาโทรศัพท์หาฉัน เสียงของเขาเย็นชาและแฝงความสะใจ “ได้บทเรียนหรือยัง ขวัญข้าว พร้อมจะขอโทษรึยังล่ะ” ขณะที่เขาพูด เชือกก็ขาดสะบั้น พ่อกับแม่ร่วงหล่นลงไปในความมืดมิด ความสงบนิ่งอันน่าสะพรึงกลัวเข้าครอบงำฉัน รสคาวเลือดคละคลุ้งในปาก เป็นอาการของโรคร้ายที่เขาไม่เคยรู้ว่าฉันเป็น เขาหัวเราะร่วนอยู่ปลายสาย เสียงนั้นช่างโหดร้ายและน่ารังเกียจ “ถ้ามันเจ็บปวดมากนักก็กระโดดลงไปจากดาดฟ้านั่นซะสิ มันคงเป็นจุดจบที่เหมาะสมกับเธอดี” “ได้” ฉันกระซิบตอบ แล้วฉันก็ก้าวออกจากขอบตึก ทิ้งตัวลงสู่ความว่างเปล่า

บทที่ 1

เจ้านายของฉัน อคิน เตชะดำรงกุล บังคับให้ฉันบริจาคไขกระดูกให้คู่หมั้นของเขา เพราะเธอกลัวว่าการผ่าตัดจะทำให้เธอมีแผลเป็น

เจ็ดปีเต็มที่ฉันทำหน้าที่ผู้ช่วยส่วนตัวให้กับเด็กหนุ่มที่ฉันเติบโตมาด้วยกัน ชายผู้ซึ่งบัดนี้เกลียดชังฉันเข้ากระดูกดำ แต่คู่หมั้นของเขา ฮาร์เปอร์ ต้องการมากกว่าไขกระดูกของฉัน... เธอต้องการให้ฉันหายไปจากชีวิตของเขา

เธอจัดฉากใส่ร้ายว่าฉันทำของขวัญมูลค่าหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทแตก และอคินก็บังคับให้ฉันคุกเข่าลงบนเศษคริสตัลที่แหลกละเอียดจนเลือดอาบหัวเข่า เธอใส่ร้ายฉันอีกครั้งว่าพยายามทำร้ายร่างกายเธอในงานเลี้ยงกาลา เขาจึงสั่งจับฉันเข้าห้องขัง ที่ซึ่งฉันถูกซ้อมจนน่วมไปทั้งตัว

จากนั้น เพื่อลงโทษฉันเรื่องคลิปหลุดที่ฉันไม่ได้เป็นคนปล่อย เขาก็ลักพาตัวพ่อแม่ของฉันไป

เขาบังคับให้ฉันดูภาพที่ท่านทั้งสองถูกแขวนอยู่บนเครนของตึกระฟ้าที่ยังสร้างไม่เสร็จ สูงจากพื้นหลายสิบเมตร เขาโทรศัพท์หาฉัน เสียงของเขาเย็นชาและแฝงความสะใจ

“ได้บทเรียนหรือยัง ขวัญข้าว พร้อมจะขอโทษรึยังล่ะ”

ขณะที่เขาพูด เชือกก็ขาดสะบั้น พ่อกับแม่ร่วงหล่นลงไปในความมืดมิด

ความสงบนิ่งอันน่าสะพรึงกลัวเข้าครอบงำฉัน รสคาวเลือดคละคลุ้งในปาก เป็นอาการของโรคร้ายที่เขาไม่เคยรู้ว่าฉันเป็น

เขาหัวเราะร่วนอยู่ปลายสาย เสียงนั้นช่างโหดร้ายและน่ารังเกียจ “ถ้ามันเจ็บปวดมากนักก็กระโดดลงไปจากดาดฟ้านั่นซะสิ มันคงเป็นจุดจบที่เหมาะสมกับเธอดี”

“ได้” ฉันกระซิบตอบ

แล้วฉันก็ก้าวออกจากขอบตึก ทิ้งตัวลงสู่ความว่างเปล่า

บทที่ 1

เข็มสำหรับเจาะไขกระดูกทั้งหนาและเย็นเฉียบ

ขวัญข้าว ศิริวัฒนานอนอยู่บนเตียงของโรงพยาบาลที่ปลอดเชื้อ เปลือยแผ่นหลัง เธอไม่ได้มองเครื่องมือแพทย์ชิ้นนั้น แต่สัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของมัน คำมั่นสัญญาของความเจ็บปวดที่กำลังจะมาถึง

แพทย์อธิบายขั้นตอนอีกครั้งด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่มันไม่ได้ทำให้ความจริงที่โหดร้ายลดน้อยลงเลย มันจะเจ็บมาก เจ็บปวดแสนสาหัส

อคิน เตชะดำรงกุล ยืนหันหลังให้เธออยู่ริมหน้าต่าง เขาสูงสง่าในชุดสูทสั่งตัดราคาแพงกว่ารถยนต์ของเธอทั้งคัน เขามองออกไปนอกหน้าต่าง ทอดสายตาไปยังเมืองหลวง ราวกับราชาผู้ครอบครองอาณาจักร คู่หมั้นของเขา ฮาร์เปอร์ หิรัญวงศ์ ประสบอุบัติเหตุ เธอต้องการไขกระดูกเพื่อรักษาชีวิต แต่เธอก็ทนไม่ได้กับความคิดที่จะมีรอยแผลเป็นบนผิวที่สมบูรณ์แบบของเธอ

ดังนั้น เขาจึงหันมาหาขวัญข้าว

ผู้ช่วยส่วนตัวของเขา ผู้หญิงที่เขาเชื่อว่าทำได้ทุกอย่างเพื่อเงิน

ปลายเข็มแหลมคมแทงทะลุผิวหนังของเธอ

ขวัญข้าวกัดริมฝีปากล่างแน่นจนได้รสคาวเลือด เธอปฏิเสธที่จะส่งเสียงร้องออกมา เธอจะไม่ทำให้เขาสมหวัง ร่างกายของเธอเกร็งแข็ง กล้ามเนื้อทุกมัดกรีดร้องเมื่อเข็มเจาะลึกลงไปเรื่อยๆ ค้นหาไขกระดูกในกระดูกสะโพกของเธอ

ความเจ็บปวดนั้นลึกและบดขยี้จนแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่าง เธอหลับตาแน่น เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นบนหน้าผาก

เธอยังคงเงียบงัน มันเป็นสิ่งเดียวที่เธอเหลืออยู่

หลังจากผ่านไปราวชั่วนิรันดร์ ในที่สุดมันก็จบลง แพทย์ปิดแผลให้เธอ สัมผัสของเขาราบเรียบเป็นมืออาชีพและห่างเหิน

ขวัญข้าวค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งอย่างเจ็บปวด แผ่นหลังของเธอปวดตุบๆ ไม่หยุด เธอสวมเสื้อผ้าด้วยมือที่สั่นเทา

ในที่สุดอคินก็หันกลับมา ใบหน้าของเขายังคงหล่อเหลาเช่นเคย แต่ดวงตาของเขาเย็นชา ว่างเปล่าจากความอบอุ่นที่เคยมีให้เธอโดยสิ้นเชิง

“เสร็จแล้วเหรอ” เขาถามเสียงเรียบ

ขวัญข้าวพยักหน้า ไม่ไว้ใจเสียงของตัวเอง เธอแค่อยากให้เรื่องนี้จบลงเสียที อยากจะไปจากที่นี่

“ข้อตกลงของเรา” เธอเปล่งเสียงออกมาอย่างยากลำบาก เสียงแหบพร่า “ถือว่าสิ้นสุดแล้วใช่ไหมคะ”

เธอหมายถึงสัญญา ข้อตกลงที่บิดเบี้ยวซึ่งผูกมัดเธอไว้กับเขา งานนี้ การทรมานไม่รู้จบในแต่ละวันที่ต้องอยู่ใกล้เขา

อคินเข้าใจผิด หรือบางทีเขาอาจจะเลือกที่จะเข้าใจผิด

เขาล้วงเข้าไปในเสื้อสูทและหยิบสมุดเช็คออกมา เขาตวัดปากกาเขียนตัวเลข ฉีกเช็คออกมา แล้วยื่นให้เธอ

“นี่” เขาพูด ริมฝีปากเหยียดเป็นรอยยิ้มเยาะ “ค่าตัวของเธอ เธอนี่มันเก่งเรื่องขายชิ้นส่วนของตัวเองจริงๆ นะ ขวัญข้าว”

คำพูดนั้นทิ่มแทงเธอเจ็บปวดยิ่งกว่าเข็มเล่มไหนๆ

เธอมองเช็คในมือ สลับกับใบหน้าของเขา ใบหน้าที่เธอเคยรักมาตั้งแต่เด็ก ใบหน้าที่บัดนี้มองเธอด้วยความรังเกียจเดียดฉันท์

มือของเธอสั่นเทาขณะเอื้อมไปรับมัน ปลายนิ้วของเธอสัมผัสกับนิ้วของเขา และเขาก็ชักมือกลับราวกับถูกของร้อน

เธอรับเช็คมา เธอต้องการเงิน ต้องการมันอย่างที่สุด

เธอพับมันอย่างระมัดระวังแล้วใส่ลงในกระเป๋า ก้มหน้าลงเพื่อซ่อนน้ำตาที่กำลังจะไหลริน เธอหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องไปโดยไม่พูดอะไรอีก

ทันทีที่ประตโรงพยาบาลปิดลง อากาศเย็นของกรุงเทพฯ ก็สัมผัสผิวของเธอ เธอพิงกำแพง ความเจ็บปวดที่แผ่นหลังและความร้าวรานในหัวใจหลอมรวมเป็นน้ำหนักที่เกินจะทานทน

มันไม่ได้เป็นแบบนี้เสมอไป

เคยมีช่วงเวลาหนึ่งก่อนที่จะมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง ก่อนที่จะมีความเกลียดชัง

ช่วงเวลาที่อคิน เตชะดำรงกุล ไม่ใช่มหาเศรษฐีเลือดเย็น แต่เป็นเพียงแค่อคิน... อคินของเธอ

เขาเข้ามาในครอบครัวของเธอในฐานะเด็กในอุปการะ เด็กชายเงียบขรึมและฉลาดหลักแหลมที่ถูกโลกทอดทิ้ง ครอบครัวศิริวัฒนารับเขาเข้ามา รักเขาเหมือนลูกแท้ๆ เขาเป็นดาวเด่นของครอบครัวเล็กๆ ที่มีความสุขของพวกเขา เขากับขวัญข้าวเติบโตมาเหมือนพี่น้อง แต่ความผูกพันของพวกเขาลึกซึ้งกว่านั้น มันคือความรักที่เก็บซ่อนไว้ในใจซึ่งเบ่งบานอยู่ใต้ร่มเงาของต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ที่พวกเขาปลูกด้วยกันในสวนหลังบ้าน

เขาคือเด็กหนุ่มอนาคตไกล เก่งกาจในทุกสิ่ง ถูกกำหนดมาเพื่อความยิ่งใหญ่ ส่วนขวัญข้าวเป็นเงาของเขา เป็นเพื่อนคู่คิด เป็นผู้เก็บรอยยิ้มของเขาไว้ ในที่ส่วนตัว เขาเป็นเพียงเด็กผู้ชายที่รักครอบครัวของเธอ และรักเธอ

โลกที่สมบูรณ์แบบของพวกเขาพังทลายลงในวันที่พ่อผู้ให้กำเนิดของเขาปรากฏตัว

กรณ์ เตชะดำรงกุล เป็นชื่อที่น่าเกรงขามในโลกเทคโนโลยี ยักษ์ใหญ่ผู้ไร้ความปรานีที่มองผู้คนเป็นเพียงเบี้ยบนกระดาน เขาต้องการลูกชายอัจฉริยะของเขากลับคืน และเขาจะไม่หยุดยั้งเพื่อให้ได้มา

เขาเริ่มต้นด้วยการทำลายครอบครัวของขวัญข้าว พ่อแม่ของเธอถูกไล่ออกจากงานอย่างมีเงื่อนงำ พ่อของเธอ ชายผู้ซื่อสัตย์และดีงาม ถูกใส่ร้ายในคดีทำร้ายร่างกายที่เขาไม่ได้ก่อ แม่ของเธอตกเป็นเหยื่อของอุบัติเหตุชนแล้วหนี "อุบัติเหตุ" ที่ทำให้ท่านพิการและต้องทนทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดอยู่ตลอดเวลา

กรณ์ยื่นทางเลือกที่เป็นไปไม่ได้ให้ขวัญข้าว เขาเสนอเงินให้เธอยี่สิบล้านบาท

“รับเงินไป” เขาพูดด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ “แล้วไปบอกลูกชายฉันว่าเธอไม่เคยรักเขา บอกเขาว่าเธอเลือกเงินก้อนนี้แทนที่จะมีอนาคตกับเขา หรือจะมองดูครอบครัวของเธอล่มสลายไปต่อหน้าต่อตา”

เพื่อช่วยพวกเขา เพื่อปกป้องอคินจากพิษร้ายของพ่อเขา เธอจึงตัดสินใจ

เธอยืนอยู่ต่อหน้าอคิน เด็กหนุ่มที่เธอรักมากกว่าชีวิต และเอ่ยคำพูดที่โหดร้ายที่สุดเท่าที่เธอเคยพูดมา

“ฉันเลือกเงินยี่สิบล้านบาทนะอคิน คุณจะให้อะไรฉันได้มากกว่านี้ล่ะ”

แววตาของเขาในตอนนั้น... ความเจ็บปวดรวดร้าวที่แตกสลาย... คือบาดแผลที่เธอต้องแบกรับไปตลอดชีวิต

เขาเชื่อเธอ เขาจากไปโดยไม่หันกลับมามอง หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะแก้แค้นผู้หญิงที่เลือกเงินมากกว่าเขา

เจ็ดปีผ่านไป

อคินกลับมา ไม่ใช่ในฐานะเด็กหนุ่มอกหักอีกต่อไป แต่เป็นมหาเศรษฐีที่สร้างตัวเองขึ้นมา เย็นชาและโหดเหี้ยมยิ่งกว่าพ่อของเขาเอง และเขากลับมาเพื่อแก้แค้น

เขาทำให้เธอเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของเขา ที่นั่งแถวหน้าเพื่อดูชีวิตใหม่ของเขา คู่หมั้นคนใหม่ของเขา และความโหดร้ายที่สร้างสรรค์อย่างไม่สิ้นสุดของเขา ทุกวันคือการทรมานครั้งใหม่ คือการย้ำเตือนถึง "การทรยศ" ของเธอ

ขวัญข้าวหยิบเช็คออกจากกระเป๋าแล้วมองดูตัวเลข มันเป็นเงินจำนวนมาก

มากพอสำหรับค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้นของพ่อแม่เธอ

และมากพอสำหรับค่ารักษาของเธอเองด้วย

สิ่งที่อคินไม่รู้ สิ่งที่ไม่มีใครรู้ คือขวัญข้าว ศิริวัฒนา กำลังจะตาย

มะเร็งเม็ดเลือดขาวระยะสุดท้าย หมอบอกว่าเธอมีเวลาอีกไม่กี่สัปดาห์ หรืออาจจะหนึ่งเดือนถ้าโชคดี

เงินก้อนนี้ไม่ใช่เพื่ออนาคตที่เธอไม่มี มันมีไว้เพื่อให้พ่อแม่ของเธอสุขสบายในช่วงเวลาสั้นๆ ที่เธอเหลืออยู่เพื่อดูแลพวกท่าน

เธอเดินไปยังสวนสาธารณะเล็กๆ ที่เงียบสงบและนั่งลงบนม้านั่ง เธอมองเช็คอีกครั้ง แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

เธอเปิดข้อความ แชทกับอคินถูกปักหมุดไว้บนสุด รูปโปรไฟล์ของเขาเป็นโลโก้บริษัทที่ดูเย็นชา ส่วนของเธอยังคงเป็นรูปต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ในสวนหลังบ้านของพ่อแม่

ประวัติการแชทมีแต่ข้อความจากฝั่งเธอฝ่ายเดียว เต็มไปด้วยข้อความที่เธอพิมพ์แต่ไม่เคยส่ง

อคิน วันนี้ฝนตก จำได้ไหมว่าเราเคยใช้ร่มคันเดียวกัน

ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ของเราโตขึ้นเยอะเลยนะ ใกล้จะถึงวันเกิดของมันแล้ว

วันนี้เห็นคุณในข่าวด้วย คุณดูเหนื่อยๆ นะ

มันเป็นความพยายามเล็กๆ น้อยๆ ที่น่าสมเพชเพื่อเชื่อมรอยร้าวที่ห่างกันถึงเจ็ดปีแห่งความเงียบงันและความเกลียดชัง

เธอพิมพ์ข้อความใหม่ นิ้วของเธอเก้งก้าง

อคิน ฉันขอโทษ

เธอจ้องมองคำพูดนั้น ภาพตรงหน้าพร่ามัว

เธอขอโทษเรื่องอะไรกันแน่ เรื่องที่ทำร้ายหัวใจเขาเหรอ เรื่องที่ช่วยครอบครัวของเธอเหรอ หรือเรื่องที่ยังรักเขาอยู่

เธอลบข้อความนั้นทิ้ง มันไร้ประโยชน์ เขามองไม่เห็นมันอยู่ดี เขาบล็อกเธอไปหลายปีแล้ว

ความเจ็บปวดที่แผ่นหลังคือเครื่องเตือนใจถึงเรื่องราวในวันนี้อย่างต่อเนื่อง มันคือภาพสะท้อนทางกายภาพของบาดแผลในจิตวิญญาณของเธอ

เธอรู้ว่าเธอสมควรได้รับความเกลียดชังจากเขา เธอเป็นคนเลือกเอง

แต่บางครั้ง ในยามดึกสงัดที่ความเจ็บปวดทำให้นอนไม่หลับ เธอก็อดที่จะสงสัยไม่ได้

เขาเคยคิดถึงเธอบ้างไหม ตัวตนที่แท้จริงของเธอ เด็กผู้หญิงที่ปีนต้นไม้กับเขาและแบ่งปันความฝันใต้แสงดาว

หรือเธอเป็นเพียงภูตผีที่ถูกแทนที่ด้วยอสูรกายผู้หิวเงินที่เขาสร้างขึ้นในใจ

เธอเอนศีรษะไปด้านหลัง รู้สึกถึงคลื่นความอ่อนล้าที่ซัดสาดเข้ามา

มะเร็งคือหัวขโมยที่เงียบงัน มันขโมยพละกำลัง ลมหายใจ และชีวิตของเธอไป

เธอได้ติดต่อทนายความและจัดการทุกอย่างไว้แล้วสำหรับช่วงเวลาหลังจากที่เธอจากไป กองทุนสำหรับพ่อแม่ของเธอ งานศพที่เรียบง่ายและเงียบสงบ

เธอรู้สึกสงบอย่างน่าประหลาดใจ เหมือนได้รับการปลดปล่อย

การต่อสู้ใกล้จะจบลงแล้ว

เธอคิดถึงอคินเป็นครั้งสุดท้าย

ฉันรักคุณนะ เธอคิด คำพูดนั้นเป็นเหมือนคำอธิษฐานเงียบๆ ต่อพระเจ้าที่เธอไม่เชื่ออีกต่อไป ฉันรักคุณเสมอมา

ฉันขอโทษที่ต้องทิ้งคุณไว้กับความเกลียดชังนี้

เราหายกันแล้วนะ อคิน ฉันไม่ติดค้างอะไรคุณอีกแล้ว

เธอลุกขึ้นยืน ร่างกายปวดร้าว บาดแผลสดใหม่บนแผ่นหลังของเธอไม่ต่างจากบาดแผลเก่าในหัวใจ

ตอนนี้เธอชาชินกับความเย็นชาของเขาแล้ว มันเป็นความเจ็บปวดที่คุ้นเคย เป็นส่วนหนึ่งของการดำรงอยู่ของเธอในแต่ละวัน

เธอคือเรือที่กำลังจมลงสู่มหาสมุทรที่มืดมิดและหนาวเหน็บอย่างช้าๆ และไม่มีอะไรที่เธอสามารถทำได้เพื่อหยุดมัน

แต่ถึงแม้จะจมดิ่งลง ส่วนเล็กๆ ที่ดื้อรั้นในตัวเธอก็ปฏิเสธที่จะแตกสลายอย่างสมบูรณ์

มันคือส่วนที่ยังคงรักเด็กชายใต้ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์

ความรักที่พันผูกกับความเกลียดชังที่ลึกจนทำให้เธอหายใจไม่ออก

ความรักและความเกลียดชัง มันคือทั้งหมดที่เธอเหลืออยู่

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ Gavin

ข้อมูลเพิ่มเติม
รักต้องห้าม  โทสะของผู้ปกครอง

รักต้องห้าม โทสะของผู้ปกครอง

วัยรุ่น

5.0

สิบปีเต็มที่ฉันแอบรักภาคิน วงศ์วรานนท์ ผู้ปกครองของฉัน หลังจากครอบครัวของฉันล้มละลาย เขาก็รับฉันไปดูแลและเลี้ยงดูฉันจนโต เขาคือโลกทั้งใบของฉัน ในวันเกิดอายุสิบแปดปี ฉันรวบรวมความกล้าทั้งหมดเพื่อสารภาพรักกับเขา แต่ปฏิกิริยาของเขากลับเป็นความเกรี้ยวกราดอย่างที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน เขาปัดเค้กวันเกิดของฉันตกพื้นแล้วคำรามลั่น “สติแตกไปแล้วเหรอ? ฉันเป็นผู้ปกครองเธอนะ!” จากนั้นเขาก็ฉีกภาพวาดที่ฉันใช้เวลาวาดเป็นปีเพื่อเป็นคำสารภาพรักของฉันจนไม่เหลือชิ้นดี เพียงไม่กี่วันต่อมา เขาก็พาโคลอี้ คู่หมั้นของเขากลับมาบ้าน ผู้ชายที่เคยสัญญาว่าจะรอฉันโต ที่เคยเรียกฉันว่าดวงดาวที่สว่างไสวที่สุดของเขา ได้หายไปแล้ว ความรักที่ร้อนแรงและสิ้นหวังตลอดสิบปีของฉันทำได้เพียงแผดเผาตัวเอง คนที่ควรจะปกป้องฉันกลับกลายเป็นคนที่ทำร้ายฉันเจ็บปวดที่สุด ฉันก้มมองจดหมายตอบรับจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในมือ ฉันต้องไปจากที่นี่ ฉันต้องถอนรากถอนโคนเขาออกจากหัวใจ ไม่ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม ฉันยกโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ของพ่อ “พ่อคะ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “เอวาตัดสินใจแล้ว เอวาอยากไปอยู่กับพ่อที่กรุงเทพฯ ค่ะ”

จาก ภรรยาผู้ถูกทอดทิ้ง สู่ ทายาทหญิงผู้ทรงอำนาจ

จาก ภรรยาผู้ถูกทอดทิ้ง สู่ ทายาทหญิงผู้ทรงอำนาจ

มหาเศรษฐี

5.0

ชีวิตแต่งงานของฉันพังทลายลงในงานกาลาการกุศลที่ฉันเป็นคนจัดขึ้นมาเองกับมือ วินาทีหนึ่ง ฉันคือภรรยาผู้มีความสุขและกำลังตั้งครรภ์ของเก้า สุวรรณกิจ เจ้าพ่อวงการเทคโนโลยี วินาทีต่อมา หน้าจอโทรศัพท์ของนักข่าวคนหนึ่งก็ประกาศให้โลกรู้ว่าเขากับพราว นิธิวัฒน์ รักแรกในวัยเด็กของเขา กำลังจะมีลูกด้วยกัน ฉันมองข้ามห้องไป เห็นพวกเขาสองคนยืนอยู่ด้วยกัน มือของเก้าวางอยู่บนท้องของพราว นี่ไม่ใช่แค่การนอกใจ แต่มันคือการประกาศต่อสาธารณะที่ลบตัวตนของฉันและลูกในท้องของเราให้หายไป เพื่อปกป้องการเปิดขายหุ้น IPO มูลค่าหลายหมื่นล้านของบริษัท เก้า แม่ของเขา หรือแม้กระทั่งพ่อแม่บุญธรรมของฉันเอง ก็ร่วมมือกันหักหลังฉัน พวกเขาย้ายพราวเข้ามาอยู่ในบ้านของเรา บนเตียงของฉัน ปฏิบัติกับเธอราวกับเป็นราชินี ในขณะที่ฉันกลายเป็นนักโทษ พวกเขาตราหน้าว่าฉันเป็นคนสติไม่ดี เป็นภัยต่อภาพลักษณ์ของครอบครัว พวกเขาใส่ร้ายว่าฉันนอกใจ และกล่าวหาว่าลูกในท้องของฉันไม่ใช่ลูกของเขา คำสั่งสุดท้ายนั้นโหดร้ายเกินกว่าจะคิดฝัน...ให้ฉันไปทำแท้ง พวกเขาขังฉันไว้ในห้องและนัดวันผ่าตัดเรียบร้อย พร้อมขู่ว่าจะลากฉันไปที่นั่นถ้าฉันขัดขืน แต่พวกเขาทำพลาดไปอย่างหนึ่ง... พวกเขายอมคืนโทรศัพท์ให้ฉันเพื่อหวังจะปิดปากฉันไว้ ฉันแสร้งทำเป็นยอมแพ้ แล้วใช้โอกาสสุดท้ายโทรออกไปยังเบอร์ที่ฉันเก็บซ่อนไว้มานานหลายปี... เบอร์โทรศัพท์ของพ่อผู้ให้กำเนิดของฉัน อนันต์ ธีรวงศ์ ประมุขของตระกูลที่ทรงอิทธิพลมากพอที่จะเผาโลกทั้งใบของสามีฉันให้มอดไหม้เป็นจุณได้

ไม่กี่สัปดาห์ก่อนงานแต่งงาน คู่หมั้นของฉัน ลืมฉันไปคนเดียว

ไม่กี่สัปดาห์ก่อนงานแต่งงาน คู่หมั้นของฉัน ลืมฉันไปคนเดียว

โรแมนติก

5.0

งานแต่งงานของฉันกับอีธาน รัตนภาคิน เหลืออีกแค่ไม่กี่สัปดาห์ เจ็ดปีที่ผ่านมา ฉันมั่นใจเหลือเกินว่าอนาคตของเราจะสมบูรณ์แบบ แต่แล้ว อีธานก็อ้างว่าตัวเอง “ความจำเสื่อมเฉพาะส่วน” จากอุบัติเหตุที่ศีรษะ เขาจำทุกคนได้หมดยกเว้นฉัน ฉันพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เขากลับมาจำได้ จนกระทั่งได้ยินวิดีโอคอลของเขา “โคตรอัจฉริยะเลยว่ะ” เขาโอ้อวดกับเพื่อน อาการความจำเสื่อมของเขาเป็นแค่เรื่องโกหก เป็น “ใบเบิกทาง” ให้เขาได้ไปไล่ตามโคลอี้ วรินทร์ทิพย์ เน็ตไอดอลชื่อดังก่อนแต่งงาน หัวใจฉันแหลกสลาย แต่ก็แสร้งทำเป็นเชื่อต่อไป ฉันต้องทนเห็นเขาจีบโคลอี้อย่างเปิดเผย ทนดูรูปเซลฟี่เย้ยหยันของพวกเขาสองคน เขาหัวเราะเยาะความทุกข์ของฉัน และเลือกที่จะไปดูแลโคลอี้ที่แกล้งเจ็บป่วย หลังจากอุบัติเหตุที่เขาเป็นคนก่อ เขาทิ้งฉันที่บาดเจ็บไว้ข้างหลัง แล้วเลือกส่งโคลอี้ไปโรงพยาบาลก่อน เขายังพยายามจะตัดฉันออกจากความช่วยเหลือทางการเงินอีกด้วย ทำไมคู่หมั้นของฉันถึงกลายเป็นปีศาจที่เลือดเย็นและเจ้าเล่ห์ได้ขนาดนี้ การหักหลังของเขาทำลายความทรงจำดีๆ ทุกอย่างจนหมดสิ้น ฉันรู้สึกเหมือนคนโง่ที่ไปเชื่อใจคนโหดร้ายไร้หัวใจแบบนั้น ความหน้าด้านของเขาทำให้ฉันโลกหมุน แต่ฉันจะไม่ยอมเป็นเหยื่อของเขา แทนที่จะแตกสลาย แผนการอันเยียบเย็นก็ก่อตัวขึ้นในใจ ฉันจะทิ้งตัวตนเดิม แล้วกลายเป็นโอลีเวีย จันทรวงศ์ ฉันจะหายตัวไป ทิ้งเขา ทิ้งอดีต และทิ้งแหวนหมั้นของเขาไว้ข้างหลังตลอดกาล เพื่อทวงอิสรภาพของฉันกลับคืนมา

การคิดบัญชีอันขมขื่น ของภรรยา

การคิดบัญชีอันขมขื่น ของภรรยา

โรแมนติก

5.0

ฉันกับภวินท์ สามีของฉัน เราคือคู่รักที่สมบูรณ์แบบที่สุดในกรุงเทพฯ ใครๆ ก็เรียกเราว่าคู่รักทองคำ แต่ชีวิตแต่งงานที่ใครๆ ต่างอิจฉากลับเป็นเรื่องหลอกลวง เราไม่มีลูก เพราะเขามีภาวะทางพันธุกรรมที่หายากมาก เขาอ้างว่าผู้หญิงคนไหนก็ตามที่อุ้มท้องลูกของเขาจะต้องตาย เมื่อพ่อของเขาที่กำลังจะสิ้นใจเรียกร้องทายาท ภวินท์ก็เสนอทางออก...แม่อุ้มบุญ ผู้หญิงที่เขาเลือกคืออารยา เธอคือฉันในเวอร์ชันที่เด็กกว่า สดใสกว่า ทันใดนั้น ภวินท์ก็ยุ่งตลอดเวลา เขาต้องคอยดูแลเธอระหว่าง "กระบวนการทำเด็กหลอดแก้วที่ยากลำบาก" เขาลืมวันเกิดฉัน เขาลืมวันครบรอบของเรา ฉันพยายามจะเชื่อเขา จนกระทั่งฉันบังเอิญได้ยินเขาคุยกับเพื่อนๆ ที่งานเลี้ยง เขาสารภาพกับเพื่อนว่าความรักที่เขามีให้ฉันคือ "ความผูกพันที่ลึกซึ้ง" แต่กับอารยา มันคือ "ไฟ" และ "ความเร่าร้อน" เขากำลังวางแผนจัดงานแต่งงานลับๆ กับเธอที่ภูเก็ต ในวิลล่าสุดหรูที่เขาเคยสัญญาว่าจะพาฉันไปฉลองวันครบรอบ เขากำลังจะมอบงานแต่งงาน ครอบครัว และชีวิตให้เธอ...ทุกสิ่งที่เขาปฏิเสธฉัน โดยใช้คำโกหกเรื่องภาวะทางพันธุกรรมร้ายแรงเป็นข้ออ้าง การทรยศหักหลังมันสมบูรณ์แบบเสียจนฉันรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าอย่างแรง คืนนั้นเมื่อเขากลับมาถึงบ้าน พร้อมกับคำโกหกเรื่องไปทำงานต่างจังหวัด ฉันยิ้มและสวมบทบาทภรรยาที่แสนดีต่อไป เขาไม่รู้ว่าฉันได้ยินทุกอย่าง เขาไม่รู้ว่าในขณะที่เขากำลังวางแผนชีวิตใหม่ ฉันก็ได้วางแผนหนีของฉันไว้แล้ว และที่แน่ๆ เขาไม่รู้ว่าฉันเพิ่งโทรหาบริษัทที่เชี่ยวชาญเรื่องเดียว...การทำให้คนหายตัวไป

ทายาทลับของเขา  การหลบหนีของเธอ

ทายาทลับของเขา การหลบหนีของเธอ

โรแมนติก

5.0

สามีทิ้งฉันไปในคืนที่สำคัญที่สุดในอาชีพการงานของฉัน—นิทรรศการศิลปะเดี่ยวครั้งแรกของฉันเอง ฉันเจอเขาในข่าว กำลังใช้ตัวเองบังผู้หญิงอีกคนจากแสงแฟลชของกล้องนับร้อย ขณะที่คนทั้งแกลเลอรีจ้องมองโลกของฉันที่พังทลายลงต่อหน้าต่อตา ข้อความของเขาคือการตบหน้าฉันฉาดใหญ่อย่างเย็นชาครั้งสุดท้าย: "เคธี่ต้องการฉัน เธอไม่เป็นไรหรอก" หลายปีที่ผ่านมา เขาเรียกงานศิลปะของฉันว่า "งานอดิเรก" โดยลืมไปว่ามันคือรากฐานของบริษัทพันล้านของเขา เขาทำให้ฉันกลายเป็นอากาศธาตุ ฉันจึงโทรหาทนายพร้อมกับแผนการที่จะใช้ความยโสโอหังของเขาย้อนกลับมาเล่นงานตัวเขาเอง "ทำเอกสารหย่าให้ดูเหมือนแบบฟอร์มสละสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาที่น่าเบื่อ" ฉันบอกเธอ "เขาจะเซ็นทุกอย่างเพื่อไล่ฉันออกจากออฟฟิศของเขา"

การหลอกลวงห้าปี การชดใช้ตลอดชีวิต

การหลอกลวงห้าปี การชดใช้ตลอดชีวิต

สยองขวัญ

5.0

ฉันคืออลินา ธีรโชติ ทายาทที่หายสาบสูญไปนานของตระกูลดัง ในที่สุดก็ได้กลับบ้านหลังจากต้องระหกระเหินในบ้านเด็กกำพร้ามาทั้งชีวิต พ่อแม่รักและเอ็นดูฉัน สามีทะนุถนอมฉัน ส่วนผู้หญิงที่พยายามทำลายชีวิตฉันอย่างคีรติก็ถูกขังอยู่ในโรงพยาบาลบ้า ฉันปลอดภัย ฉันเป็นที่รัก ในวันเกิดของฉัน ฉันตัดสินใจจะไปเซอร์ไพรส์ไอศูรย์ สามีของฉันที่ออฟฟิศ แต่เขาไม่อยู่ที่นั่น ฉันตามไปเจอเขาที่แกลเลอรี่ส่วนตัวแห่งหนึ่งอีกฟากของกรุงเทพฯ เขายืนอยู่กับคีรติ เธอไม่ได้อยู่ในโรงพยาบาลบ้า เธอดูสดใสเปล่งปลั่ง กำลังหัวเราะอย่างมีความสุขขณะยืนอยู่ข้างๆ สามีของฉันและลูกชายวัยห้าขวบของพวกเขา ฉันมองผ่านกระจกใส เห็นไอศูรย์ก้มลงจูบเธอ เป็นจูบที่แสนคุ้นเคยและเต็มไปด้วยความรักแบบเดียวกับที่เขาเพิ่งจูบฉันเมื่อเช้านี้ ฉันแอบเข้าไปใกล้ขึ้นและได้ยินบทสนทนาของพวกเขา คำขอของฉันที่อยากไปเที่ยวสวนสนุกในวันเกิดถูกปฏิเสธ เพราะเขาสัญญาไว้แล้วว่าจะเหมาสวนสนุกทั้งสวนให้กับลูกชายของพวกเขา ซึ่งเกิดวันเดียวกับฉัน “ยัยนั่นซาบซึ้งที่มีครอบครัวจนเราพูดอะไรก็เชื่อไปหมด” ไอศูรย์พูด น้ำเสียงของเขาเจือความเหยียดหยามที่โหดร้ายจนฉันแทบหยุดหายใจ “น่าสมเพชชะมัด” โลกทั้งใบของฉัน—พ่อแม่ที่แสนดีซึ่งคอยให้เงินทุนสนับสนุนชีวิตลับๆ นี้ สามีผู้ทุ่มเท—เป็นเพียงเรื่องโกหกที่ดำเนินมานานถึงห้าปี ฉันเป็นแค่ตัวตลกที่พวกเขาจับมาเล่นละครตบตา โทรศัพท์ของฉันสั่น เป็นข้อความจากไอศูรย์ที่ส่งมาขณะที่เขายืนอยู่กับครอบครัวที่แท้จริงของเขา “เพิ่งประชุมเสร็จ เหนื่อยมากเลย คิดถึงนะ” คำโกหกง่ายๆ นั่นคือฟางเส้นสุดท้าย พวกเขาคิดว่าฉันเป็นแค่เด็กกำพร้าผู้น่าสงสารที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อแลกกับความรัก และจะควบคุมยังไงก็ได้ พวกเขาคิดผิด และกำลังจะได้รู้ว่าผิดมหันต์แค่ไหน

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

Thacher
5.0

ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

เกาะครีต
4.9

วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

Apogean Spark
5.0

【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”

เมียผมน่ารักจัง

เมียผมน่ารักจัง

Penn Tofallis
4.9

กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"

รอยรักรอยร้าว

รอยรักรอยร้าว

Del Goodman
5.0

เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ