จากยอดรักที่ถูกทิ้ง สู่ราชินีมาเฟีย

จากยอดรักที่ถูกทิ้ง สู่ราชินีมาเฟีย

Gavin

5.0
ความคิดเห็น
578
ชม
28
บท

ตอนฉันอายุแปดขวบ พี่ธาม มหรรณพ ดึงฉันออกมาจากกองเพลิงที่คร่าชีวิตครอบครัวของฉันไป สิบปีเต็มที่เจ้าพ่อผู้ทรงอิทธิพลคนนั้นเป็นทั้งผู้ปกป้องและโลกทั้งใบของฉัน แล้ววันหนึ่ง เขาก็ประกาศหมั้นกับผู้หญิงคนอื่นเพื่อผนึกสองอาณาจักรแห่งโลกมืด เขาพาหล่อนกลับมาบ้านและประกาศว่าหล่อนคือ ‘นายหญิง’ คนต่อไปของตระกูลมหรรณพ ต่อหน้าทุกคน คู่หมั้นของเขาสวมปลอกคอโลหะราคาถูกลงบนคอฉัน เรียกฉันว่าเป็น ‘สัตว์เลี้ยง’ ของพวกเขา พี่ธามรู้ว่าฉันแพ้ เขาก็แค่มองด้วยสายตาเย็นชา แล้วสั่งให้ฉันรับมันไว้ คืนนั้น ฉันนอนฟังเสียงเขากับหล่อนบนเตียงเดียวกันผ่านกำแพงห้อง ในที่สุดฉันก็เข้าใจว่าคำสัญญาที่เขาเคยให้ไว้ตอนฉันยังเด็กเป็นแค่เรื่องโกหก ฉันไม่ใช่ครอบครัวของเขา ฉันเป็นแค่สมบัติของเขา หลังจากสิบปีแห่งความภักดี ความรักที่ฉันมีให้เขาก็แหลกสลายเป็นเถ้าถ่าน ดังนั้นในวันเกิดของเขา วันที่เขาเฉลิมฉลองอนาคตใหม่ของตัวเอง ฉันจึงเดินออกจากกรงทองของเขาไปตลอดกาล เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวลำหนึ่งกำลังรอรับฉันไปหาพ่อที่แท้จริงของฉัน...ศัตรูตัวฉกาจของเขา

บทที่ 1

ตอนฉันอายุแปดขวบ พี่ธาม มหรรณพ ดึงฉันออกมาจากกองเพลิงที่คร่าชีวิตครอบครัวของฉันไป

สิบปีเต็มที่เจ้าพ่อผู้ทรงอิทธิพลคนนั้นเป็นทั้งผู้ปกป้องและโลกทั้งใบของฉัน

แล้ววันหนึ่ง เขาก็ประกาศหมั้นกับผู้หญิงคนอื่นเพื่อผนึกสองอาณาจักรแห่งโลกมืด

เขาพาหล่อนกลับมาบ้านและประกาศว่าหล่อนคือ ‘นายหญิง’ คนต่อไปของตระกูลมหรรณพ

ต่อหน้าทุกคน คู่หมั้นของเขาสวมปลอกคอโลหะราคาถูกลงบนคอฉัน เรียกฉันว่าเป็น ‘สัตว์เลี้ยง’ ของพวกเขา

พี่ธามรู้ว่าฉันแพ้ เขาก็แค่มองด้วยสายตาเย็นชา แล้วสั่งให้ฉันรับมันไว้

คืนนั้น ฉันนอนฟังเสียงเขากับหล่อนบนเตียงเดียวกันผ่านกำแพงห้อง

ในที่สุดฉันก็เข้าใจว่าคำสัญญาที่เขาเคยให้ไว้ตอนฉันยังเด็กเป็นแค่เรื่องโกหก ฉันไม่ใช่ครอบครัวของเขา ฉันเป็นแค่สมบัติของเขา

หลังจากสิบปีแห่งความภักดี ความรักที่ฉันมีให้เขาก็แหลกสลายเป็นเถ้าถ่าน

ดังนั้นในวันเกิดของเขา วันที่เขาเฉลิมฉลองอนาคตใหม่ของตัวเอง ฉันจึงเดินออกจากกรงทองของเขาไปตลอดกาล

เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวลำหนึ่งกำลังรอรับฉันไปหาพ่อที่แท้จริงของฉัน...ศัตรูตัวฉกาจของเขา

บทที่ 1

มุมมองของฟ้า:

ฉันได้เรียนรู้ว่าชีวิตของฉันจบสิ้นลงแล้วในวันที่พี่ธาม มหรรณพ ประกาศหมั้นกับผู้หญิงคนอื่น

มันไม่ใช่เสียงกระซิบในโถงทางเดินที่โอ่อ่าและว่างเปล่าของคฤหาสน์มหรรณพ ไม่ใช่คำสารภาพเงียบๆ ในยามวิกาล แต่มันคือพาดหัวข่าว ตัวอักษรสีดำสนิทบนหน้าจอโทรศัพท์ของฉัน การแจ้งเตือนข่าวที่สั่นอยู่บนเคาน์เตอร์หินอ่อนราวกับแมลงใกล้ตาย

*ธาม มหรรณพ เจ้าพ่อแห่งตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในกรุงเทพฯ เตรียมเข้าพิธีวิวาห์กับ ไอริณ เวชพิพัฒน์ เพื่อผนึกสองอาณาจักรแห่งโลกมืด*

ตัวอักษรพร่าเลือน โลกของฉันแคบลงเหลือเพียงโทรศัพท์ในมือ น้ำหนักเย็นเยียบของมันกลายเป็นสมอที่หนักอึ้งอย่างน่าตกใจในทะเลแห่งความไม่เชื่อ นี่ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดแน่ๆ เป็นแค่เกมการเมือง เป็นเรื่องโกหกที่สร้างขึ้นเพื่อล่อศัตรูออกมา มันจะเป็นเรื่องจริงไปไม่ได้

เพราะพี่ธามเป็นของฉัน

เขาเป็นของฉันมาตั้งแต่อายุแปดขวบ ฉันยังจำเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนั้นได้ กลิ่นฉุนของควันและความกลัวที่อัดแน่นอยู่ในปอด ตระกูลวรโชติ ครอบครัวของฉัน กำลังถูกทำลายล้าง และฉันเป็นเพียงเศษซากความเสียหายที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง แล้วเขาก็ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางเปลวเพลิง เด็กหนุ่มวัยสิบหกปีที่มีดวงตาคมกริบและเย็นชาเหมือนโลกที่เขาบัญชาการ เขาใช้ร่างของตัวเองโถมทับร่างฉัน ปกป้องฉันจากความร้อนและเลือดที่สาดกระเซ็นไปทั่วผนัง

เขากระซิบข้างเรือนผมฉัน น้ำเสียงห้าวแต่หนักแน่น "เธอปลอดภัยแล้ว ต่อไปนี้เธอคือคนของมหรรณพ"

สิบปีเต็มที่คำสัญญานั้นเป็นดั่งศาสนาของฉัน ในกรงทองที่ปูด้วยหินอ่อนและรายล้อมไปด้วยบอดี้การ์ดเงียบขรึม พี่ธามคือโลกทั้งใบของฉัน เขาคือคนที่ซื้อโคมไฟให้ตอนฉันอายุสิบขวบเพราะฝันร้ายไม่ยอมหยุด โคมไฟแมวเซรามิกตัวเล็กๆ ที่ส่องแสงนวลตาไม่กะพริบ "มันจะช่วยไล่ปีศาจไปให้พ้น" เขาพูด มือใหญ่ของเขาอ่อนโยนขณะเสียบปลั๊กให้

แน่นอนว่าเขาเองนั่นแหละคือปีศาจ ฉันรู้ดี โลกทั้งใบก็รู้ แต่เขาเป็นปีศาจของฉัน และเขาคอยกันปีศาจตัวอื่นๆ ให้ออกไปให้พ้น

แล้วในวันเกิดอายุสิบเจ็ดปีของฉัน ฉันก็ทำเรื่องโง่ที่สุดที่เด็กผู้หญิงในสถานะอย่างฉันจะทำได้ ฉันเขียนจดหมายถึงเขา คำสารภาพที่พรั่งพรูออกมาเป็นประโยคซื่อๆ จากใจจริง เปื้อนรอยหยดเลือดของฉันเองเพื่อเพิ่มความดราม่าแบบวัยรุ่น ฉันบอกเขาว่าฉันรักเขา

ฉันพบจดหมายฉบับนั้นถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยนับพันชิ้นในถังขยะนอกห้องทำงานของเขา คืนนั้นเขาต้อนฉันจนมุมในห้องสมุด ร่างสูงใหญ่ของเขากักขังฉันไว้กับชั้นหนังสือปกหนัง ดวงตาของเขาลุกโชนด้วยความเดือดดาลอย่างที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน

"อย่ามารักฉันเด็ดขาด ฟ้า" เขาคำราม น้ำเสียงต่ำและอันตราย "ถ้าเธอรักฉัน เธอจะต้องตาย เข้าใจไหม?"

ฉันเข้าใจ แต่ฉันไม่เชื่อ มันรู้สึกเหมือนเป็นบททดสอบ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่บิดเบี้ยวในการปกป้องฉัน

ตอนนี้ ขณะที่จ้องมองใบหน้าของไอริณ เวชพิพัฒน์ ที่ยิ้มอยู่ข้างๆ เขา มือของหล่อนวางอยู่บนแขนเขาอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ ฉันถึงได้รู้ มันไม่ใช่บททดสอบ มันคือคำทำนาย

เขาพาหล่อนมาที่คฤหาสน์ในเย็นวันนั้น ฉันกำลังยืนอยู่บนบันไดใหญ่ตอนที่พวกเขาเดินเข้ามา ไอริณคือทุกสิ่งที่ฉันไม่ได้เป็น สูง สง่างาม มีความงามแบบเฉียบคมที่พร้อมจะต่อสู้ หล่อนเคลื่อนไหวราวกับเป็นเจ้าของที่นี่อยู่แล้ว

สายตาของพี่ธามมองมาที่ฉัน ไม่มีความอบอุ่น ไม่มีการขอโทษ มีเพียงคำสั่งที่เรียบเฉยและเย็นชา

"ฟ้า" เขาพูด เสียงก้องกังวานไปทั่วโถงทางเข้าที่ใหญ่โต "นี่ไอริณ ต่อไปนี้เธอต้องเรียกหล่อนว่านายหญิงคนต่อไปของบ้านมหรรณพ"

คำพูดนั้นเหมือนหมัดที่ชกเข้าที่ท้อง นายหญิง...ตำแหน่งที่ควรจะเป็น...

รอยยิ้มของไอริณคืออาวุธ "ยินดีที่ได้เจอนะจ๊ะ นกขมิ้นตัวน้อยที่พี่ธามขังไว้อย่างดีในกรงทอง"

มือของฉันเย็นเฉียบ ฉันรู้สึกได้ถึงสายตาของบอดี้การ์ดทุกคน ทุกสายตาของคนรับใช้จับจ้องมาที่ฉัน ฉันเป็นคนตระกูลวรโชติตามสายเลือด เป็นคนของมหรรณพด้วยความเมตตา เป็นหมาจรจัดที่เขาเก็บมาจากซากปรักหักพังของศัตรู และตอนนี้ ราชินีตัวจริงก็ได้มาถึงเพื่อทวงบัลลังก์ของหล่อนแล้ว

คืนนั้น ฉันขังตัวเองอยู่ในห้องนอน จ้องมองเงาสะท้อนของตัวเอง ผมสีทองสว่างยาวสลวยถึงกลางหลัง พี่ธามเคยชอบผมของฉันมาก เขาเคยบอกว่ามันเป็นสิ่งเดียวที่บริสุทธิ์ในโลกของเขา

ฉันเดินเข้าไปในห้องน้ำ เจอกรรไกรตัดกิ่งไม้ที่ใช้ในสวน แล้วกำปอยผมสีทองบริสุทธิ์นั้นไว้ในมือ

ฉับ

มันร่วงลงสู่พื้นกระเบื้องเย็นเยียบ กลายเป็นสิ่งไร้ชีวิต

ฉับ ฉับ ฉับ

ฉันไม่หยุดจนกระทั่งมันหายไปหมด ถูกตัดออกเป็นช่อๆ ไม่เท่ากัน แหว่งวิ่นรอบใบหู ฉันดูเหมือนสัตว์ป่า เหมือนคนที่พังทลาย

ฉันเดินออกไปที่ระเบียง ลมกลางคืนที่หนาวเย็นกัดผิวบริเวณต้นคอที่เพิ่งถูกเปิดเปลือย จากกระเป๋าเสื้อที่ซ่อนไว้ ฉันหยิบบุหรี่ที่ขโมยมาจากลูกน้องคนหนึ่งออกมา มือฉันสั่นขณะจุดมัน ความรู้สึกแสบร้อนที่ไม่คุ้นเคยของควันกระทบเข้าที่ลำคอ ฉันไอจนน้ำตาไหล

ฉันไม่บริสุทธิ์อีกต่อไป ฉันไม่ใช่ของเขาอีกต่อไป ฉันไม่เหลืออะไรเลย และเมื่อคุณไม่เหลืออะไร คุณก็ไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว

ฉันอัดควันเข้าปอดอีกครั้ง ปล่อยให้มันแผ่ซ่านไปทั่วร่าง และให้คำสัญญากับเส้นขอบฟ้าของกรุงเทพฯ ที่ไร้ความปรานี ฉันจะออกไปจากที่นี่ให้ได้ หรือไม่ก็ตายไปซะ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ Gavin

ข้อมูลเพิ่มเติม
การจากลาครั้งที่เก้าสิบเก้า

การจากลาครั้งที่เก้าสิบเก้า

วัยรุ่น

5.0

ครั้งที่เก้าสิบเก้าที่ ‘เจต’ ทำให้ฉันใจสลาย คือครั้งสุดท้ายของเรา เราสองคนเคยเป็นคู่รักดาวเด่นของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ รัชดา อนาคตของเราถูกวางแผนไว้อย่างสวยหรูว่าจะเข้าเรียนที่จุฬาฯ ด้วยกัน แต่แล้วในช่วงปีสุดท้ายของม.ปลาย เขากลับไปหลงรักผู้หญิงคนใหม่ที่ชื่อ ‘แคท’ เรื่องราวความรักของเรากลายเป็นละครน้ำเน่าราคาถูกที่น่าเบื่อหน่าย เต็มไปด้วยการทรยศของเขาและการขู่ว่าจะเลิกอย่างไร้ความหมายของฉัน ในงานเลี้ยงจบการศึกษา แคท ‘บังเอิญ’ ดึงฉันตกลงไปในสระว่ายน้ำกับเธอ เจตกระโดดลงไปช่วยโดยไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว เขากลับว่ายผ่านฉันที่กำลังตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอดไปอย่างไม่ใยดี แล้วโอบแขนรอบตัวแคทก่อนจะพาเธอขึ้นจากสระอย่างปลอดภัย ขณะที่เขาช่วยพยุงเธอขึ้นจากสระ ท่ามกลางเสียงเชียร์ของเพื่อนๆ เขาหันกลับมามองฉันที่ตัวสั่นเทา มาสคาร่าไหลเป็นทางสีดำอาบแก้ม “ชีวิตเธอ ไม่ใช่ปัญหาของฉันอีกต่อไป” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหมือนน้ำในสระที่ฉันกำลังจะจมดิ่งลงไป คืนนั้นเอง บางสิ่งในตัวฉันก็แตกสลายลงอย่างสมบูรณ์ ฉันกลับบ้าน เปิดโน้ตบุ๊ก และคลิกปุ่มยืนยันสิทธิ์เข้าศึกษาต่อ ไม่ใช่ที่จุฬาฯ กับเขา แต่เป็นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ คนละฟากฝั่งของกรุงเทพฯ

เมื่อรักดับ แค้นก็เริ่ม

เมื่อรักดับ แค้นก็เริ่ม

สยองขวัญ

5.0

วันที่พวกเขากำลังจะฝังร่างลูกชายวัยสี่ขวบของฉัน ลีโอ ที่ถูกรถชนแล้วหนี คนขับรถคันนั้น คาริน อัศวธนินท์ ก็ปรากฏตัวขึ้นที่หลุมศพของเขา เธอยิ้ม... โยนของเล่นชิ้นโปรดของลีโอลงไปในโลงศพที่เปิดอยู่ แล้วเรียกเขาว่า “เด็กซุ่มซ่าม” สามีของฉัน เดวิด ภัทรธำรง อัยการผู้ทรงอิทธิพล เสาหลักแห่งความเข้มแข็งของเมืองนี้ ยืนนิ่งเงียบอยู่ข้างๆ ส่วนฉัน นักข่าวสายสืบสวน รู้ดีว่าจะต้องทวงความยุติธรรมกลับมาให้ได้ ฉันมีหลักฐาน มีพยาน มีรางวัลศรีบูรพาการันตีผลงาน แต่คาริน อัศวินธนินท์ไม่เหมือนคนอื่น ผู้พิพากษาที่ต้องพึ่งพาอำนาจของพ่อเธอ ปัดตกทุกอย่าง เธอลอยนวลพ้นผิด แล้วเจ้าหน้าที่ศาลก็ขานชื่อฉัน “เอวา วรรณรักษ์ คุณถูกจับกุม” สามีของฉันเอง พ่อของลีโอ ฟ้องฉันในข้อหาประมาทเลินเล่อ เขาบิดเบือนความโศกเศร้าของฉัน การตามหาความจริงอย่างบ้าคลั่งของฉัน ให้กลายเป็นความหวาดระแวงหมกมุ่น เชอร์รี่ เพื่อนรักของฉัน ขึ้นให้การปรักปรำฉัน อ้างว่าฉันไม่มั่นคงทางอารมณ์ คณะลูกขุนตัดสินว่าฉันผิด... สามปีในเรือนจำความมั่นคงสูงสุด... เพียงเพราะเป็นแม่ที่กำลังเสียใจ เพียงเพราะสูญเสียลูกชายไป ฉันเสียลูกไปอีกคนในคุก... ความลับที่ฉันฝังกลบไว้ลึกสุดใจ ทำไม? ทำไมเขาถึงทำแบบนั้น? ทำไมเขาถึงหักหลังฉัน? วันที่ฉันถูกปล่อยตัว ฉันพบเขาที่หลุมศพของลีโอ พร้อมกับคารินและลูกชายของพวกเขา “แด๊ดดี้ เราไปกินไอติมกันได้รึยังคะ” คารินพูดเสียงออดอ้อน “เราต้องมาทักทายพี่ชายของลูกก่อนนะจ๊ะ” โลกทั้งใบของฉันพังทลาย... เขาไม่ใช่แค่ใส่ร้ายฉัน แต่เขาหาคนมาแทนที่ฉัน... และหาคนมาแทนที่ลูกชายของเรา

จาก ภรรยาผู้ถูกทอดทิ้ง สู่ ทายาทหญิงผู้ทรงอำนาจ

จาก ภรรยาผู้ถูกทอดทิ้ง สู่ ทายาทหญิงผู้ทรงอำนาจ

มหาเศรษฐี

5.0

ชีวิตแต่งงานของฉันพังทลายลงในงานกาลาการกุศลที่ฉันเป็นคนจัดขึ้นมาเองกับมือ วินาทีหนึ่ง ฉันคือภรรยาผู้มีความสุขและกำลังตั้งครรภ์ของเก้า สุวรรณกิจ เจ้าพ่อวงการเทคโนโลยี วินาทีต่อมา หน้าจอโทรศัพท์ของนักข่าวคนหนึ่งก็ประกาศให้โลกรู้ว่าเขากับพราว นิธิวัฒน์ รักแรกในวัยเด็กของเขา กำลังจะมีลูกด้วยกัน ฉันมองข้ามห้องไป เห็นพวกเขาสองคนยืนอยู่ด้วยกัน มือของเก้าวางอยู่บนท้องของพราว นี่ไม่ใช่แค่การนอกใจ แต่มันคือการประกาศต่อสาธารณะที่ลบตัวตนของฉันและลูกในท้องของเราให้หายไป เพื่อปกป้องการเปิดขายหุ้น IPO มูลค่าหลายหมื่นล้านของบริษัท เก้า แม่ของเขา หรือแม้กระทั่งพ่อแม่บุญธรรมของฉันเอง ก็ร่วมมือกันหักหลังฉัน พวกเขาย้ายพราวเข้ามาอยู่ในบ้านของเรา บนเตียงของฉัน ปฏิบัติกับเธอราวกับเป็นราชินี ในขณะที่ฉันกลายเป็นนักโทษ พวกเขาตราหน้าว่าฉันเป็นคนสติไม่ดี เป็นภัยต่อภาพลักษณ์ของครอบครัว พวกเขาใส่ร้ายว่าฉันนอกใจ และกล่าวหาว่าลูกในท้องของฉันไม่ใช่ลูกของเขา คำสั่งสุดท้ายนั้นโหดร้ายเกินกว่าจะคิดฝัน...ให้ฉันไปทำแท้ง พวกเขาขังฉันไว้ในห้องและนัดวันผ่าตัดเรียบร้อย พร้อมขู่ว่าจะลากฉันไปที่นั่นถ้าฉันขัดขืน แต่พวกเขาทำพลาดไปอย่างหนึ่ง... พวกเขายอมคืนโทรศัพท์ให้ฉันเพื่อหวังจะปิดปากฉันไว้ ฉันแสร้งทำเป็นยอมแพ้ แล้วใช้โอกาสสุดท้ายโทรออกไปยังเบอร์ที่ฉันเก็บซ่อนไว้มานานหลายปี... เบอร์โทรศัพท์ของพ่อผู้ให้กำเนิดของฉัน อนันต์ ธีรวงศ์ ประมุขของตระกูลที่ทรงอิทธิพลมากพอที่จะเผาโลกทั้งใบของสามีฉันให้มอดไหม้เป็นจุณได้

ค่า เมียน้อย วัยสิบเก้า ของเขา

ค่า เมียน้อย วัยสิบเก้า ของเขา

โรแมนติก

5.0

คริสโตเฟอร์ อัศวโยธิน สามีของฉัน คือเพลย์บอยตัวพ่อที่ฉาวที่สุดในกรุงเทพฯ เขามีชื่อเสียงเรื่องการควงเด็กสาวอายุสิบเก้าเป็นฤดูกาล ตลอดห้าปีที่ผ่านมา ฉันเชื่อมาตลอดว่าฉันคือข้อยกเว้นที่สามารถทำให้เขาหยุดได้ ภาพลวงตานั้นพังทลายลง เมื่อพ่อของฉันต้องการการปลูกถ่ายไขกระดูก ผู้บริจาคที่เข้ากันได้สมบูรณ์แบบคือเด็กสาวอายุสิบเก้าชื่อไอริน ในวันผ่าตัด พ่อของฉันเสียชีวิต เพราะคริสเลือกที่จะนอนอยู่บนเตียงกับเธอ แทนที่จะพาเธอไปโรงพยาบาล การหักหลังของเขายังไม่จบแค่นั้น ตอนที่ลิฟต์ร่วง เขาดึงเธอออกไปก่อนแล้วทิ้งให้ฉันร่วงลงไป ตอนที่โคมระย้าถล่มลงมา เขาใช้ตัวเองบังร่างเธอแล้วก้าวข้ามฉันที่นอนจมกองเลือดไป เขายังขโมยของขวัญชิ้นสุดท้ายที่พ่อผู้ล่วงลับทิ้งไว้ให้ฉันไปให้เธอ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาเรียกฉันว่าคนเห็นแก่ตัวและไม่รู้จักบุญคุณ โดยไม่เคยรู้เลยว่าพ่อของฉันจากไปแล้ว ฉันจึงเซ็นใบหย่าเงียบๆ แล้วหายตัวไป วันที่ฉันจากมา เขาส่งข้อความมาหาฉัน "ข่าวดีนะ ผมหาผู้บริจาคคนใหม่ให้พ่อคุณได้แล้ว เราไปนัดวันผ่าตัดกันเถอะ"

อาณาจักรลับพันล้านของตัวแทนเขา

อาณาจักรลับพันล้านของตัวแทนเขา

โรแมนติก

5.0

เป็นเวลาห้าปีเต็ม ที่ฉันแอบปั้นแฟนของฉัน คิน จากนักดนตรีไส้แห้งให้กลายเป็นซีอีโอสายเทคชื่อดัง ฉันคือนางฟ้านิรนามที่ทุ่มเงินสร้างอาณาจักรทั้งหมดของเขา ขณะที่แกล้งทำตัวเป็นแค่แฟนสาวธรรมดาๆ ที่แทบจะจ่ายค่าเช่าห้องของตัวเองไม่ไหว แล้ววันหนึ่ง เขาก็พาแคทลียา ผู้หญิงในอดีตที่หน้าตาเหมือนฉันอย่างน่าขนลุกกลับมาที่บ้าน เธอเริ่มรุกรานชีวิตฉันอย่างช้าๆ และเลือดเย็น...ใส่เสื้อผ้าของฉัน ใช้ของของฉัน ขโมยความรักของเขาไปจากฉัน และเมื่อฉันลุกขึ้นสู้ในที่สุด เขาก็ตัดสินใจสั่งสอนบทเรียนให้ฉัน เขาสั่งคนมาจับตัวฉันไป มัดฉัน แล้วโยนฉันขึ้นไปบนเวทีประมูลใต้ดินสุดโสมม เขายืนดูจากเงามืด ปล่อยให้พวกผู้ชายหื่นกระหายประมูลร่างกายของฉัน ก่อนจะก้าวเข้ามาในวินาทีสุดท้ายเพื่อสวมบทฮีโร่ และลากฉันกลับไปอยู่ในที่ของฉัน เขาคิดว่าเขาทำลายฉันจนยับเยินแล้ว แต่แล้วเขาก็ปล่อยหมัดเด็ดสุดท้ายที่บดขยี้หัวใจฉันจนแหลกสลาย ด้วยการยอมรับความจริงที่ฉันไม่เคยคาดคิดมาก่อน "พายเป็นแค่ตัวแทน" เขาพึมพำกับแคทลียา โดยไม่รู้ว่าฉันได้ยิน "เพราะเธอหน้าเหมือนคุณ" เขาเชื่อว่าฉันคือผู้หญิงอ่อนแอที่ต้องพึ่งพาเขาไปตลอดชีวิต เขาไม่รู้เลยว่าในขณะที่เขาพูด ประโยคนั้นออกมา เอกสารหย่าของเราก็ถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดเบอร์ที่เขาไม่เคยรู้ว่ามีอยู่จริง "คีรินคะ" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่ง "พายพร้อมแล้ว เรามาแต่งงานกันเถอะค่ะ"

งานวิวาห์ของฉัน ไม่ใช่กับเธอ

งานวิวาห์ของฉัน ไม่ใช่กับเธอ

โรแมนติก

5.0

ห้าปีที่แล้ว ฉันช่วยชีวิตคู่หมั้นของฉันไว้บนภูเขาที่เชียงใหม่ อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้สายตาของฉันเสียหายอย่างถาวร—เป็นเหมือนเครื่องเตือนใจที่พร่าเลือนอยู่เสมอถึงวันที่ฉันเลือกเขาแทนที่จะเป็นดวงตาที่สมบูรณ์แบบของตัวเอง เขาตอบแทนฉันด้วยการแอบเปลี่ยนสถานที่จัดงานแต่งงานของเราจากเชียงใหม่ไปเป็นภูเก็ต เพราะแอนนี่ เพื่อนสนิทของเขาบ่นว่าที่นั่นหนาวเกินไป ฉันได้ยินเขากับหูตัวเองว่าเขาเรียกการเสียสละของฉันว่า “เรื่องดราม่าน้ำเน่า” และเห็นเขากับตาว่าเขาซื้อชุดราคาเกือบสองล้านบาทให้หล่อน ขณะที่ดูถูกชุดของฉัน ในวันแต่งงานของเรา เขาทิ้งให้ฉันรอที่แท่นพิธีเพื่อรีบไปอยู่ข้างๆ แอนนี่ที่เกิด “อาการแพนิค” ขึ้นมาได้ถูกจังหวะพอดิบพอดี เขามั่นใจเหลือเกินว่าฉันจะให้อภัยเขา เขามั่นใจแบบนั้นเสมอ เขาไม่ได้มองว่าการเสียสละของฉันคือของขวัญ แต่เป็นเหมือนสัญญาที่ผูกมัดให้ฉันต้องยอมจำนนต่อเขา ดังนั้น เมื่อในที่สุดเขาโทรเข้ามายังสถานที่จัดงานที่ว่างเปล่าในภูเก็ต ฉันจึงปล่อยให้เขาได้ยินเสียงลมภูเขาและเสียงระฆังโบสถ์ ก่อนที่ฉันจะเอ่ยปากพูด “งานแต่งของฉันกำลังจะเริ่มแล้ว” ฉันบอกเขา “แต่ไม่ใช่กับคุณ”

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ทางใหม่ เริ่มใหม่

ทางใหม่ เริ่มใหม่

Beckett Grey
4.5

ซ่งจิ่งถังรักฮั่วอวิ๋นเซินอย่างลึกซึ้งนานถึงสิบห้าปี แต่ในวันที่เธอคลอดลูกกลับตกอยู่ในอาการโคม่า ขณะที่ฮั่วอวิ๋นเซินกระซิบข้างหูเธออย่างอ่อนโยนว่า "ถังถัง อย่าฟื้นขึ้นมาอีกเลย สำหรับฉัน เธอไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว" ซ่งจิ่งถังเคยคิดว่าสามีของเธอเป็นคนอ่อนโยนและรักใคร่ตัวเอง แต่จริงๆ แล้วเขามีแต่ความเกลียดชังและใช้ประโยชน์จากเธอเท่านั้น และลูกๆ ที่เธอเสี่ยงชีวิตให้กำเนิด กลับเรียกหญิงสาวคนอื่นว่า 'แม่' ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อหน้าที่เตียงคนไข้ของเธอ เมื่อซ่งจิ่งถังฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอทำคือการตัดสินใจหย่าขาดอย่างเด็ดขาด! แต่หลังจากหย่าแล้ว ฮั่วอวิ๋นเซินจึงเริ่มตระหนักว่า ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเต็มไปด้วยเงาของซ่งจิ่งถัง หญิงคนนี้กลายเป็นความเคยชินของเขา เมื่อพบกันอีกครั้ง ซ่งจิ่งถังปรากฏตัวในที่ประชุมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เธอเปล่งประกายจนทุกคนต้องหันมามอง หญิงคนนี้ที่เคยมีแต่เขาในใจ บัดนี้กลับไม่แม้แต่จะมองเขาอีก ฮั่วอวิ๋นเซินคิดว่าเธอแค่ยังโกรธอยู่ ถ้าเขาเอ่ยปากพูดนิดหน่อย ซ่งจิ่งถังจะต้องกลับไปหาเขาแน่นอน เพราะเธอรักเขาหมดหัวใจ แต่ต่อมา ในงานหมั้นของผู้นำคนใหม่ของตระกูลเพ่ย เขาเห็นซ่งจิ่งถังสวมชุดแต่งงานหรูหรา ยิ้มอย่างเปี่ยมสุขและกอดแน่นเพ่ยตู้พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ฮั่วอวิ๋นเซินอิจฉาจนแทบคลั่ง เขาตาแดงก่ำและบีบแก้วจนแตก เลือดไหลไม่หยุด...

หย่าแล้วก็ไม่ต้องขอคืนดี

หย่าแล้วก็ไม่ต้องขอคืนดี

Chandra Spin
5.0

... ในวันครบรอบแต่งงาน ฮั่วเยี่ยนสือ สามีผู้มั่งคั่งทิ้งเธอไป แล้วหาคนรักแรกของเขา ผู้ชายที่ไม่รักนวลสงวนตัวก็เหมือนสิ่งไร้ค่า ผู้ชายที่เธอเคยอ่อนข้อให้แต่ก็ไม่สนใจเธอ งั้นเธอไม่ต้องการแล้ว จึงขอหย่าทันที ฮั่วเยี่ยนสือไม่สนใจ ซูหว่านหนิงกลับเข้าสู่วงการบันเทิงและเฉิดฉาย รักแรกในอุดมคติชอบแกล้งอ่อนแองั้นเหรอ งั้นก็ให้เธอเผยธาตุแท้จริงให้ทุกคนได้เห็น อดีตสามีที่เป็นคนปากแข็งที่สุด "เมื่อเธอเบื่อแล้วเธอจะกลับมาหาฉัน" แต่ภรรยาที่เคยเต็มใจทำทุกอย่างให้เขานั้นไม่กลับมาอีกแล้ว ไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จในอาชีพเท่านั้น แต่ยังมีคนมากมายมาตามจีบเธออีก ดาราระดับโลกแสดงความรักอย่างแรงกล้า ผู้บริหารบริษัทสื่อพยายามทุกวิถีทางเพื่อทำให้เธอยิ้ม แม้แต่ทายาทเศรษฐีอันดับหนึ่งก็ต้องการเธอเท่านั้น จากนั้นฮั่วเยี่ยนสือเริ่มตระหนก เปลี่ยนจากคนเย็นชากลายเป็นคนที่คอยติดตามไม่ห่าง ใช้ทุกวิถีทางเพื่อตามจีบภรรยา ซูหว่านหนิงไม่แม้แต่จะมอง "เมื่อก่อนคุณเฉยเมยกับฉัน ตอนนี้คุณไม่คู่ควรกับฉันแล้ว" ฮั่วเยี่ยนสือขอร้องเธออย่างบ้าคลั่ง "หนิงหนิง เราแต่งงานใหม่เถอะ" ซูหว่านหนิงแสดงท่าทางหยิ่ง "คุณฮั่ว ฉันไม่เคยกลับไปหาของที่ทิ้งไปแล้ว"

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ