ความลับที่ซ่อนอยู่ใน iPad ของครอบครัว

ความลับที่ซ่อนอยู่ใน iPad ของครอบครัว

Gavin

5.0
ความคิดเห็น
195
ชม
10
บท

ข้อความ iMessage สุดสยิวบน iPad ของครอบครัว คือรอยร้าวแรกในชีวิตที่สมบูรณ์แบบของฉัน ฉันคิดว่าลูกชายวัยรุ่นกำลังมีปัญหา แต่ผู้ใช้นิรนามใน Pantip กลับชี้ให้เห็นความจริงอันน่าขนลุก ข้อความนั้นไม่ได้ส่งถึงเขา แต่ส่งถึง ‘อาร์ม’ สามีของฉันที่อยู่กินกันมานานถึงยี่สิบปี การทรยศครั้งนี้กลายเป็นการสมรู้ร่วมคิด เมื่อฉันบังเอิญได้ยินพวกเขาคุยกัน พวกเขากำลังหัวเราะเรื่องที่อาร์มไปมีอะไรกับครูแนะแนวสาวสุด ‘คูล’ ที่โรงเรียนของลูกชาย “แม่น่าเบื่อจะตายไป พ่อ” ลูกชายฉันพูด “ทำไมพ่อไม่เลิกกับแม่ แล้วไปอยู่กับครูเขาซะล่ะครับ” ลูกชายของฉันไม่ใช่แค่รู้เห็น แต่เขากำลังเชียร์ให้คนใหม่มาแทนที่ฉัน ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบของฉันเป็นเรื่องโกหก และฉันก็เป็นแค่ตัวตลกในเรื่องนี้ แล้วข้อความจากทนายคนหนึ่งใน Pantip ก็จุดไฟขึ้นในซากปรักหักพังของหัวใจฉัน “รวบรวมหลักฐาน แล้วเผาโลกทั้งใบของมันให้เป็นจุล” นิ้วของฉันนิ่งสนิทขณะพิมพ์ตอบกลับ “บอกมาเลยว่าต้องทำยังไง”

บทที่ 1

ข้อความ iMessage สุดสยิวบน iPad ของครอบครัว คือรอยร้าวแรกในชีวิตที่สมบูรณ์แบบของฉัน

ฉันคิดว่าลูกชายวัยรุ่นกำลังมีปัญหา แต่ผู้ใช้นิรนามใน Pantip กลับชี้ให้เห็นความจริงอันน่าขนลุก ข้อความนั้นไม่ได้ส่งถึงเขา แต่ส่งถึง ‘อาร์ม’ สามีของฉันที่อยู่กินกันมานานถึงยี่สิบปี

การทรยศครั้งนี้กลายเป็นการสมรู้ร่วมคิด เมื่อฉันบังเอิญได้ยินพวกเขาคุยกัน พวกเขากำลังหัวเราะเรื่องที่อาร์มไปมีอะไรกับครูแนะแนวสาวสุด ‘คูล’ ที่โรงเรียนของลูกชาย

“แม่น่าเบื่อจะตายไป พ่อ” ลูกชายฉันพูด “ทำไมพ่อไม่เลิกกับแม่ แล้วไปอยู่กับครูเขาซะล่ะครับ”

ลูกชายของฉันไม่ใช่แค่รู้เห็น แต่เขากำลังเชียร์ให้คนใหม่มาแทนที่ฉัน ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบของฉันเป็นเรื่องโกหก และฉันก็เป็นแค่ตัวตลกในเรื่องนี้

แล้วข้อความจากทนายคนหนึ่งใน Pantip ก็จุดไฟขึ้นในซากปรักหักพังของหัวใจฉัน “รวบรวมหลักฐาน แล้วเผาโลกทั้งใบของมันให้เป็นจุล”

นิ้วของฉันนิ่งสนิทขณะพิมพ์ตอบกลับ

“บอกมาเลยว่าต้องทำยังไง”

บทที่ 1

อลิสา วงศ์วิวัฒน์ POV:

เบาะแสแรกที่บ่งบอกว่าชีวิตอันสมบูรณ์แบบในหมู่บ้านจัดสรรของฉันเป็นเรื่องโกหกที่สร้างขึ้นอย่างประณีต ไม่ใช่คราบลิปสติกหรือกลิ่นน้ำหอมที่ไม่คุ้นเคย แต่มันคือข้อความ iMessage ที่สว่างวาบขึ้นมาอย่างใสซื่อบน iPad ที่ใช้ร่วมกันในครอบครัว

ฉันกำลังทำความสะอาดหลังอาหารเย็น กลิ่นน้ำยาทำความสะอาดกลิ่นเลมอนยังคงอบอวลอยู่ในอากาศ อาร์ม สามีสถาปนิกชื่อดังของฉัน กำลังไปดูงานที่เชียงใหม่ ส่วนเจมส์ ลูกชายวัยสิบหกของเรา ควรจะอยู่ข้างบนเพื่ออ่านหนังสือเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย บ้านทั้งหลังเงียบสงบ มีเพียงเสียงเครื่องล้างจานที่ดังหึ่งๆ อยู่เบาๆ

ฉันหยิบ iPad จากเคาน์เตอร์กลางครัว ตั้งใจจะเช็คสภาพอากาศสำหรับวิ่งตอนเช้า แต่การแจ้งเตือนก็ปรากฏขึ้นมาแล้ว เป็นข้อความพรีวิวที่ทำให้อากาศในปอดของฉันเย็นยะเยือก

จากเบอร์ที่ไม่รู้จัก: เมื่อคืนมันบ้ามาก หยุดคิดถึงห้องที่โรงแรมไม่ได้เลยนะ คุณติดค้างรอบสองกับฉัน...เร็วๆ นี้ด้วย ตามด้วยอีโมจิหน้าขยิบตา หยดน้ำ แล้วก็...มะเขือยาว

หัวใจฉันเต้นรัวอยู่ในอกเหมือนนกที่ตื่นตระหนกและหาทางออกไม่เจอ

ความคิดแรกของฉัน ซึ่งเป็นสัญชาตญาณของคนเป็นแม่ พุ่งตรงไปที่เจมส์ ลูกชายของฉัน ลูกชายที่น่ารัก บางครั้งก็บึ้งตึง แต่ท้ายที่สุดก็เป็นเด็กดี เขากำลัง...ไปยุ่งกับใครอยู่หรือเปล่า ใครบางคนที่แก่กว่า ความคิดนั้นเหมือนถังน้ำโคลนเย็นๆ ที่ถูกสาดใส่หัวฉัน คำว่า ‘ห้องที่โรงแรม’ มันฟังดูเป็นผู้ใหญ่และน่ารังเกียจเหลือเกิน

ฉันทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้บาร์ ขาอ่อนแรงกะทันหัน เจมส์เป็นเด็กดี แต่เขาก็อายุสิบหก เด็กผู้ชายวัยสิบหกมักทำอะไรโง่ๆ ตามแรงขับของฮอร์โมน ในหัวฉันวาดภาพผู้หญิงแก่กว่าที่จ้องจะจับเด็กจากร้านหนังสือที่เขาทำงานพาร์ทไทม์

ฉันต้องการคำปรึกษา แต่ฉันคุยกับเพื่อนไม่ได้ มันน่าอายเกินไป รู้สึกเหมือนเป็นความล้มเหลวของตัวเอง ฉันจึงทำในสิ่งที่คนสิ้นหวังในยุคดิจิทัลทำกัน ฉันหันไปพึ่ง Pantip

ฉันเจอกระทู้ในห้องชานเรือนที่ฉันแอบเข้าไปอ่านคำแนะนำเรื่องการรับมือกับลูกวัยรุ่นอยู่เป็นครั้งคราว ฉันใช้แอคหลุม ตั้งกระทู้เล่าสถานการณ์ นิ้วสั่นขณะพิมพ์ ฉันเล่าแบบคลุมเครือ

“เจอข้อความสยิวในอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกันค่ะ สงสัยว่าลูกชาย (16) น่าจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมกับคนที่แก่กว่า ในข้อความพูดถึง ‘ห้องที่โรงแรม’ ด้วย ตอนนี้กลัวมาก ไม่รู้จะเริ่มคุยกับลูกยังไงดี ขอคำแนะนำด้วยค่ะ”

ความคิดเห็นหลั่งไหลเข้ามาอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่แสดงความเห็นใจ แนะนำวิธีคุยกับลูกไม่ให้เหมือนกล่าวหา เป็นคำแนะนำมาตรฐานในเว็บบอร์ดสำหรับพ่อแม่

แล้วความคิดเห็นหนึ่งก็กระแทกเข้ามาในความรู้สึกของฉันอย่างจัง

สมาชิกหมายเลข 4815162342: “เดี๋ยวนะคะ คุณแม่คิดว่าเป็นลูกชายเหรอคะ”

ฉันกะพริบตามองหน้าจอ นั่นหมายความว่ายังไง ก็ต้องเป็นลูกชายสิ จะเป็นใครไปได้อีกล่ะ

ฉันพิมพ์ตอบกลับด้วยความรู้สึกปกป้องตัวเอง “ใช่ค่ะ แล้วจะเป็นใครได้อีกล่ะคะ”

ผู้ใช้อีกคน ชื่อ ‘คุณแม่สายดาร์ก’ เข้ามาเสริม “ลองอ่านข้อความอีกทีดีๆ ค่ะ การใช้คำ ‘คุณติดค้างรอบสองกับฉัน’ ฟังดูเหมือนวัยรุ่นพูดเหรอคะ หรือฟังดูเหมือนคนที่ชอบควบคุมมากกว่า”

ห้องทั้งห้องพลันรู้สึกเย็นลง ฉันเลื่อนกลับขึ้นไปอ่านกระทู้ของตัวเอง อ่านคำที่ฉันพิมพ์ซ้ำอีกครั้ง คุณติดค้างฉัน...

ความคิดเห็นที่ 3: “แล้วเรื่องโรงแรมด้วยค่ะ โรงแรมส่วนใหญ่ต้องใช้บัตรเครดิตแล้วก็ต้องอายุเกิน 20 ถึงจะเช็คอินได้ เด็กอายุ 16 ที่ได้เงินเดือนจากร้านหนังสือจะไปเปิดห้องโรงแรมเพื่อพลอดรักได้เหรอคะ”

ลมหายใจฉันสะดุด ไม่ ไม่ได้หรอก บัตรเดบิตของเจมส์มีวงเงินจำกัดแค่วันละพันห้า ซึ่งฉันเป็นคนตั้งเอง เขายังบ่นเรื่องนี้ไม่หยุด เขาจะซื้อน้ำอัดลมในโรงหนังยังต้องโดนบ่นเลย นับประสาอะไรกับห้องโรงแรม

ในหัวฉันมีแต่ความคิดปฏิเสธ มันไร้สาระสิ้นดี พวกเขาเป็นคนแปลกหน้าบนอินเทอร์เน็ตที่กำลังสร้างเรื่องเพ้อเจ้อ

แต่เมล็ดพันธุ์แห่งความสงสัยได้ถูกหว่านลงแล้ว มันเป็นเมล็ดพันธุ์พิษเล็กๆ แต่ก็เริ่มแตกหน่อแล้ว ความคิดเห็นยังคงหลั่งไหลเข้ามา เป็นตรรกะที่เย็นชาและหนักแน่นซึ่งค่อยๆ กะเทาะโลกที่ฉันสร้างขึ้นอย่างสวยงามให้พังทลาย

“จขกท. คะ ในบ้านมีผู้ชายคนอื่นอีกไหม”

คำถามนั้นค้างอยู่บนหน้าจอ เหมือนคำกล่าวหาที่หยาบคาย นิ้วของฉันลอยอยู่เหนือคีย์บอร์ด

อาร์ม

อาร์มของฉัน ผู้ชายที่ชงกาแฟมาให้ฉันบนเตียงทุกเช้า ผู้ชายที่นิตยสารยกย่องว่าเป็นสามีและพ่อในอุดมคติ เป็นสถาปนิกผู้มีวิสัยทัศน์ที่ยังหาเวลาไปดูการแข่งขันฟุตบอลของลูกชายได้เสมอ ผู้ชายที่ฉันรักมาตลอดยี่สิบปี

ความคิดนี้มันน่าหัวเราะจนฉันเกือบจะหลุดขำออกมา เป็นเสียงหัวเราะที่ขมขื่นและว่างเปล่า

แต่กระทู้ใน Pantip กลับมีชีวิตชีวาขึ้นมาเอง พวกนักสืบไซเบอร์กำลังต่อจิ๊กซอว์ที่ฉันไม่เคยรู้ว่ามีอยู่จริง

แล้วความคิดเห็นยอดนิยมก็ปรากฏขึ้น ความคิดเห็นที่ทำให้พื้นใต้เท้าฉันหายวับไป

ทนายไข่ดาว: “จขกท. ครับ แล้วอีโมจิมะเขือยาวล่ะครับ นั่นไม่ใช่แค่สยิวนะ แต่มันมักจะใช้กับ...ยาเพิ่มสมรรถภาพสำหรับผู้ชาย โดยเฉพาะยาเม็ดสีฟ้า เด็กอายุ 16 ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยานั่นเลย แต่ผู้ชายวัย 40 ที่พยายามจะตามเด็กสาวให้ทันน่ะ...”

หน้าจอพร่ามัว เลือดในกายฉันเย็นเฉียบ เป็นความเย็นที่ค่อยๆ คืบคลานจากปลายนิ้วไปทั่วทั้งร่าง ไวอากร้า ยาเม็ดสีฟ้า อีโมจิมะเขือยาว

มันเป็นไปไม่ได้

อาร์ม

ภาพตรงหน้ากลับมาชัดเจนอีกครั้ง พร้อมกับความกระจ่างใหม่ที่น่าสะพรึงกลัว ความไร้สาระแปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัวที่ข้นคลั่กและจุกคอ ท้องไส้ฉันปั่นป่วน ฉันรู้สึกคลื่นไส้อย่างรุนแรงจนต้องเกาะขอบเคาน์เตอร์ไว้เพื่อไม่ให้ตัวเองงอตัวลง

เขาอยู่เชียงใหม่ ฉันบอกตัวเอง เขาไปประชุม

เสียงประตูหน้าเปิดทำให้ฉันสะดุ้ง เสียงกุญแจกระทบกันในถ้วยใส่ของข้างประตู

“สา พี่กลับมาแล้ว! เซอร์ไพรส์!”

เสียงของอาร์ม อบอุ่นและคุ้นเคย ดังก้องมาจากโถงทางเข้า เขากลับมาก่อนกำหนดหนึ่งวัน

เขาเดินเข้ามาในครัว ใบหน้าหล่อเหลาของเขาปรากฏรอยยิ้มกว้างที่มีเสน่ห์ เขายังสวมชุดเดินทาง เป็นเบลเซอร์สั่งตัดกับกางเกงยีนส์ราคาแพง ภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบของผู้ชายที่ประสบความสำเร็จกลับสู่บ้านที่สมบูรณ์แบบของเขา

“พี่เคลียร์งานเสร็จเร็ว เลยอดใจรอเจอสองคนที่พี่รักที่สุดไม่ไหว” เขาพูด พลางวางกระเป๋าเอกสารลงแล้วดึงฉันเข้าไปกอด เขามีกลิ่นโคโลญจน์ราคาแพงและกลิ่นจางๆ ที่ปลอดเชื้อของเครื่องบิน เขาจูบที่กลางศีรษะฉัน “คิดถึงนะ”

เขาผละออก รอยยิ้มของเขาจางลงเมื่อสังเกตเห็นสีหน้าของฉัน “เฮ้ เป็นอะไรรึเปล่า หน้าซีดเหมือนเห็นผีเลย”

เขาชูกล่องเล็กๆ สวยหรูจากร้านช็อกโกแลตชื่อดังในเชียงใหม่ “พี่ซื้อดาร์กช็อกโกแลตคาราเมลของโปรดมาฝากด้วยนะ”

แววตาของเขาเต็มไปด้วยความห่วงใย ดวงตาสีน้ำตาลอบอุ่นคู่เดิมที่มองฉันข้ามโต๊ะอาหารมานับพันครั้ง ดวงตาของสามีฉัน พ่อของลูกฉัน

คนโกหก

ฉันฝืนยิ้มออกมาอย่างอ่อนแรง รู้สึกว่าใบหน้าตัวเองแข็งทื่อและแปลกแยก “แค่...เหนื่อยน่ะค่ะ วันนี้ยาวนานมาก”

เขาวางกล่องช็อกโกแลตลงบนเคาน์เตอร์แล้วโอบแขนรอบตัวฉันจากด้านหลัง วางคางลงบนไหล่ฉัน สัมผัสของเขาที่เคยเป็นความสบายใจ ตอนนี้กลับรู้สึกเหมือนกรงขัง “น่าสงสารจัง งั้นขึ้นไปแช่น้ำอุ่นสิ เดี๋ยวข้างล่างพี่จัดการเอง เดี๋ยวพี่ขึ้นไปนวดหลังให้ด้วย” เขารู้ใจฉัน เขารู้ดีว่าต้องพูดอะไร

ฉันปล่อยให้เขากอดฉันอีกครู่หนึ่ง เป็นการทดสอบครั้งสุดท้ายที่สิ้นหวัง ฉันเอนศีรษะพิงอกเขา จังหวะการเต้นของหัวใจเขาเป็นเสียงกลองที่สม่ำเสมอและหลอกลวงอยู่ด้านหลังฉัน

“ไม่เป็นไรค่ะ” ฉันกระซิบ พลางผละตัวออกมาก่อนที่ฉันจะแตกสลาย “ดีใจที่คุณกลับมาแล้ว”

เขาบีบไหล่ฉัน การแสดงของเขายอดเยี่ยมไร้ที่ติ “ไปเถอะน่า พี่ขอร้อง เดี๋ยวพี่ขึ้นไปทักเจมส์เอง”

ขณะที่เขาเดินขึ้นบันไดไป ฉันเดินไปที่กระเป๋าเอกสารของเขาที่วางทิ้งไว้ข้างเคาน์เตอร์ มือฉันสั่น ฉันรู้สึกผิด รู้สึกละอายใจในความหวาดระแวงของตัวเอง นี่คืออาร์ม อาร์มของฉัน

เขาเคยยื่นโทรศัพท์ให้ฉันตอนขับรถกลับจากสนามบินครั้งหนึ่ง ตอนที่แบตฉันหมด “ใช้ของพี่สิที่รัก เช็คอะไรก็ได้เลย” เขาไม่มีอะไรต้องปิดบัง โทรศัพท์ของเขาเหมือนหนังสือที่เปิดกว้าง มีแต่อีเมลเรื่องงานกับข้อความจากแม่ของเขา

ฉันบังคับตัวเองให้หยุด ฉันกำลังหวาดระแวง กลายเป็นบ้าเพราะพวกเกรียนคีย์บอร์ด

ฉันตัดสินใจจะจัดกระเป๋าให้เขา เป็นหน้าที่ของภรรยาทั่วไป เป็นหนทางที่จะทำให้รู้สึกปกติอีกครั้ง ฉันหิ้วกระเป๋าเดินทางของเขาเข้าไปในห้องซักรีด ฉันรูดซิปช่องหลัก ดึงเสื้อเชิ้ตกับชุดสูทของเขาออกมา กลิ่นโคโลญจน์ที่คุ้นเคยของเขาฟุ้งไปทั่วห้องเล็กๆ

แล้วฉันก็รูดซิปช่องด้านหน้า

มือของฉันสัมผัสกับอะไรบางอย่างเล็กๆ สี่เหลี่ยม เป็นซองฟอยล์

ฉันดึงมันออกมา

โลกของฉันหยุดหมุน

มันคือซองถุงยางอนามัย ยี่ห้อหรู ราคาแพงลิบลิ่วที่เขาไม่เคยใช้กับฉัน และฉันก็ตระหนักขึ้นมาพร้อมกับคลื่นความคลื่นไส้ระลอกใหม่ว่ามันเป็นยี่ห้อเดียวกับที่ฉันเคยเจอตกอยู่ที่ก้นตะกร้าผ้าของเจมส์เมื่อเดือนก่อน แล้วก็ปัดความคิดนั้นทิ้งไปว่าเป็นแค่การทดลองของวัยรุ่น

เข่าฉันอ่อนแรง ฉันทรุดลงกับพื้น ซองฟอยล์เย็นเฉียบอยู่ในฝ่ามือ ห้องหมุนคว้าง อากาศทั้งหมดถูกดูดออกจากปอดของฉัน ความคิดเห็นใน Pantip ดังก้องอยู่ในหัว ผู้ชายวัย 40 ที่พยายามจะตามเด็กสาวให้ทัน...

ชิ้นส่วนต่างๆ เข้าที่ด้วยเสียงดัง ‘คลิก’ ที่น่าสะอิดสะเอียนและเป็นที่สิ้นสุด

ไม่ใช่เจมส์

มันไม่เคยเป็นเจมส์เลย

มันคือสามีของฉัน

โทรศัพท์ของฉันที่วางทิ้งไว้บนเคาน์เตอร์สั่นขึ้นมา การแจ้งเตือนใหม่จาก Pantip ฉันคลานไปหามัน ร่างกายสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้

เป็นข้อความส่วนตัวจาก ‘ทนายไข่ดาว’

“ผมเป็นทนายความคดีหย่าร้างนะครับ ถ้าสัญชาตญาณของคุณบอกว่าเป็นสามี ก็จงเชื่อมัน และถ้าใช่ อย่าเพิ่งเผชิญหน้ากับเขา รวบรวมหลักฐาน แล้วเผาโลกทั้งใบของมันให้เป็นจุล”

สายตาของฉันคมชัดขึ้น ความคลื่นไส้ลดลง ถูกแทนที่ด้วยความสงบนิ่งเยือกเย็น น้ำตาที่กำลังจะไหลรินแข็งตัวอยู่ในท่อน้ำตา

ฉันมองซองถุงยางในมือ ฉันคิดถึงลูกชายที่อยู่ข้างบน กำลังได้รับการต้อนรับจากพ่อที่หลอกลวงและเจ้าเล่ห์ของเขา ฉันคิดถึงชีวิตยี่สิบปีของฉันที่เป็นเรื่องโกหก

ฉันปลดล็อกโทรศัพท์ นิ้วของฉันนิ่งสนิทแล้วตอนนี้ ฉันกลับเข้าไปในแอป Pantip และตอบกลับทนายคนนั้น

“บอกมาเลยว่าต้องทำยังไง”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ Gavin

ข้อมูลเพิ่มเติม
จาก ภรรยาผู้ถูกทอดทิ้ง สู่ ทายาทหญิงผู้ทรงอำนาจ

จาก ภรรยาผู้ถูกทอดทิ้ง สู่ ทายาทหญิงผู้ทรงอำนาจ

มหาเศรษฐี

5.0

ชีวิตแต่งงานของฉันพังทลายลงในงานกาลาการกุศลที่ฉันเป็นคนจัดขึ้นมาเองกับมือ วินาทีหนึ่ง ฉันคือภรรยาผู้มีความสุขและกำลังตั้งครรภ์ของเก้า สุวรรณกิจ เจ้าพ่อวงการเทคโนโลยี วินาทีต่อมา หน้าจอโทรศัพท์ของนักข่าวคนหนึ่งก็ประกาศให้โลกรู้ว่าเขากับพราว นิธิวัฒน์ รักแรกในวัยเด็กของเขา กำลังจะมีลูกด้วยกัน ฉันมองข้ามห้องไป เห็นพวกเขาสองคนยืนอยู่ด้วยกัน มือของเก้าวางอยู่บนท้องของพราว นี่ไม่ใช่แค่การนอกใจ แต่มันคือการประกาศต่อสาธารณะที่ลบตัวตนของฉันและลูกในท้องของเราให้หายไป เพื่อปกป้องการเปิดขายหุ้น IPO มูลค่าหลายหมื่นล้านของบริษัท เก้า แม่ของเขา หรือแม้กระทั่งพ่อแม่บุญธรรมของฉันเอง ก็ร่วมมือกันหักหลังฉัน พวกเขาย้ายพราวเข้ามาอยู่ในบ้านของเรา บนเตียงของฉัน ปฏิบัติกับเธอราวกับเป็นราชินี ในขณะที่ฉันกลายเป็นนักโทษ พวกเขาตราหน้าว่าฉันเป็นคนสติไม่ดี เป็นภัยต่อภาพลักษณ์ของครอบครัว พวกเขาใส่ร้ายว่าฉันนอกใจ และกล่าวหาว่าลูกในท้องของฉันไม่ใช่ลูกของเขา คำสั่งสุดท้ายนั้นโหดร้ายเกินกว่าจะคิดฝัน...ให้ฉันไปทำแท้ง พวกเขาขังฉันไว้ในห้องและนัดวันผ่าตัดเรียบร้อย พร้อมขู่ว่าจะลากฉันไปที่นั่นถ้าฉันขัดขืน แต่พวกเขาทำพลาดไปอย่างหนึ่ง... พวกเขายอมคืนโทรศัพท์ให้ฉันเพื่อหวังจะปิดปากฉันไว้ ฉันแสร้งทำเป็นยอมแพ้ แล้วใช้โอกาสสุดท้ายโทรออกไปยังเบอร์ที่ฉันเก็บซ่อนไว้มานานหลายปี... เบอร์โทรศัพท์ของพ่อผู้ให้กำเนิดของฉัน อนันต์ ธีรวงศ์ ประมุขของตระกูลที่ทรงอิทธิพลมากพอที่จะเผาโลกทั้งใบของสามีฉันให้มอดไหม้เป็นจุณได้

ค่า เมียน้อย วัยสิบเก้า ของเขา

ค่า เมียน้อย วัยสิบเก้า ของเขา

โรแมนติก

5.0

คริสโตเฟอร์ อัศวโยธิน สามีของฉัน คือเพลย์บอยตัวพ่อที่ฉาวที่สุดในกรุงเทพฯ เขามีชื่อเสียงเรื่องการควงเด็กสาวอายุสิบเก้าเป็นฤดูกาล ตลอดห้าปีที่ผ่านมา ฉันเชื่อมาตลอดว่าฉันคือข้อยกเว้นที่สามารถทำให้เขาหยุดได้ ภาพลวงตานั้นพังทลายลง เมื่อพ่อของฉันต้องการการปลูกถ่ายไขกระดูก ผู้บริจาคที่เข้ากันได้สมบูรณ์แบบคือเด็กสาวอายุสิบเก้าชื่อไอริน ในวันผ่าตัด พ่อของฉันเสียชีวิต เพราะคริสเลือกที่จะนอนอยู่บนเตียงกับเธอ แทนที่จะพาเธอไปโรงพยาบาล การหักหลังของเขายังไม่จบแค่นั้น ตอนที่ลิฟต์ร่วง เขาดึงเธอออกไปก่อนแล้วทิ้งให้ฉันร่วงลงไป ตอนที่โคมระย้าถล่มลงมา เขาใช้ตัวเองบังร่างเธอแล้วก้าวข้ามฉันที่นอนจมกองเลือดไป เขายังขโมยของขวัญชิ้นสุดท้ายที่พ่อผู้ล่วงลับทิ้งไว้ให้ฉันไปให้เธอ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาเรียกฉันว่าคนเห็นแก่ตัวและไม่รู้จักบุญคุณ โดยไม่เคยรู้เลยว่าพ่อของฉันจากไปแล้ว ฉันจึงเซ็นใบหย่าเงียบๆ แล้วหายตัวไป วันที่ฉันจากมา เขาส่งข้อความมาหาฉัน "ข่าวดีนะ ผมหาผู้บริจาคคนใหม่ให้พ่อคุณได้แล้ว เราไปนัดวันผ่าตัดกันเถอะ"

งานวิวาห์ของฉัน ไม่ใช่กับเธอ

งานวิวาห์ของฉัน ไม่ใช่กับเธอ

โรแมนติก

5.0

ห้าปีที่แล้ว ฉันช่วยชีวิตคู่หมั้นของฉันไว้บนภูเขาที่เชียงใหม่ อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้สายตาของฉันเสียหายอย่างถาวร—เป็นเหมือนเครื่องเตือนใจที่พร่าเลือนอยู่เสมอถึงวันที่ฉันเลือกเขาแทนที่จะเป็นดวงตาที่สมบูรณ์แบบของตัวเอง เขาตอบแทนฉันด้วยการแอบเปลี่ยนสถานที่จัดงานแต่งงานของเราจากเชียงใหม่ไปเป็นภูเก็ต เพราะแอนนี่ เพื่อนสนิทของเขาบ่นว่าที่นั่นหนาวเกินไป ฉันได้ยินเขากับหูตัวเองว่าเขาเรียกการเสียสละของฉันว่า “เรื่องดราม่าน้ำเน่า” และเห็นเขากับตาว่าเขาซื้อชุดราคาเกือบสองล้านบาทให้หล่อน ขณะที่ดูถูกชุดของฉัน ในวันแต่งงานของเรา เขาทิ้งให้ฉันรอที่แท่นพิธีเพื่อรีบไปอยู่ข้างๆ แอนนี่ที่เกิด “อาการแพนิค” ขึ้นมาได้ถูกจังหวะพอดิบพอดี เขามั่นใจเหลือเกินว่าฉันจะให้อภัยเขา เขามั่นใจแบบนั้นเสมอ เขาไม่ได้มองว่าการเสียสละของฉันคือของขวัญ แต่เป็นเหมือนสัญญาที่ผูกมัดให้ฉันต้องยอมจำนนต่อเขา ดังนั้น เมื่อในที่สุดเขาโทรเข้ามายังสถานที่จัดงานที่ว่างเปล่าในภูเก็ต ฉันจึงปล่อยให้เขาได้ยินเสียงลมภูเขาและเสียงระฆังโบสถ์ ก่อนที่ฉันจะเอ่ยปากพูด “งานแต่งของฉันกำลังจะเริ่มแล้ว” ฉันบอกเขา “แต่ไม่ใช่กับคุณ”

คู่หมั้นที่ทิ้งเธอให้ตาย

คู่หมั้นที่ทิ้งเธอให้ตาย

โรแมนติก

5.0

สัญญาณแรกที่บ่งบอกว่าฉันกำลังจะตาย ไม่ใช่พายุหิมะ ไม่ใช่ความหนาวเหน็บที่กัดกินลึกถึงกระดูก แต่มันคือแววตาของคู่หมั้นของฉัน ตอนที่เขาบอกว่าเขายกผลงานทั้งชีวิตของฉัน ซึ่งเป็นหลักประกันเดียวที่จะทำให้เรารอดชีวิตไปให้ผู้หญิงคนอื่น “เค้กหนาวจะตายอยู่แล้ว” เขาพูดเหมือนกับว่าฉันกำลังไร้เหตุผล “คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญนี่ คุณรับมือได้อยู่แล้ว” จากนั้นเขาก็เอาโทรศัพท์ดาวเทียมของฉันไป ผลักฉันลงไปในหลุมหิมะที่ขุดไว้อย่างลวกๆ แล้วทิ้งฉันไว้ให้ตายตรงนั้น เค้ก แฟนใหม่ของเขาปรากฏตัวขึ้น เธอห่มผ้าห่มอัจฉริยะผืนที่เป็นประกายของฉันไว้อย่างอบอุ่น เธอยิ้มขณะที่ใช้ขวานน้ำแข็งของฉันเอง กรีดทำลายชุดของฉัน ซึ่งเป็นเกราะป้องกันพายุชั้นสุดท้าย “เลิกดราม่าสักที” เขาพูดกับฉัน น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรังเกียจขณะที่ฉันนอนรอความตายอย่างหนาวเหน็บ พวกเขาคิดว่าได้เอาทุกอย่างไปจากฉันแล้ว พวกเขาคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายชนะ แต่พวกเขาไม่รู้เรื่องสัญญาณฉุกเฉินลับที่ฉันเย็บซ่อนไว้ในแขนเสื้อ และด้วยแรงเฮือกสุดท้ายที่มี ฉันได้เปิดใช้งานมัน

ไม่เป็นตัวแทนอีกแล้ว ราชินีกลับมา

ไม่เป็นตัวแทนอีกแล้ว ราชินีกลับมา

โรแมนติก

5.0

ห้าปีเต็มที่ฉันเป็นคู่หมั้นของเจตน์พัฒน์ วงศ์วิริยะ ห้าปีที่ในที่สุดพี่ชายของฉันก็ปฏิบัติต่อฉันเหมือนน้องสาวที่พวกเขารัก แล้วฝาแฝดของฉัน หทัย—คนที่ทิ้งเขาไว้หน้าแท่นพิธี—ก็กลับมาพร้อมกับเรื่องโกหกว่าเป็นมะเร็ง แค่ห้านาที เขาก็แต่งงานกับเธอ พวกเขาเชื่อทุกคำโกหกของเธอ ตอนที่เธอพยายามจะฆ่าฉันด้วยแมงมุมพิษ พวกเขาก็หาว่าฉันดราม่า ตอนที่เธอใส่ร้ายว่าฉันทำลายงานเลี้ยงของเธอ พี่ชายก็เฆี่ยนฉันจนเลือดอาบ พวกเขาเรียกฉันว่าตัวแทนไร้ค่า เป็นแค่คนคั่นเวลาที่มีใบหน้าเหมือนเธอ ฟางเส้นสุดท้ายขาดลงตอนที่พวกเขาจับฉันมัดกับเชือกแล้วปล่อยให้ห้อยต่องแต่งอยู่ริมหน้าผา รอวันตาย แต่ฉันไม่ตาย ฉันปีนกลับขึ้นมา จัดฉากการตายของตัวเอง แล้วหายตัวไป พวกเขาอยากได้ผีนักใช่ไหม ฉันก็จะจัดให้

เจ็ดปี แห่งการหลอกลวงสี่ปี

เจ็ดปี แห่งการหลอกลวงสี่ปี

โรแมนติก

5.0

เบาะแสแรกที่บ่งบอกว่าชีวิตฉันเป็นเรื่องหลอกลวงคือเสียงครางจากห้องนอนแขก สามีที่แต่งงานกันมาเจ็ดปีไม่ได้อยู่บนเตียงของเรา เขาอยู่กับเด็กฝึกงานของฉัน ฉันค้นพบว่าภัทร สามีของฉัน แอบคบชู้กับขวัญข้าวมาสี่ปีแล้ว เด็กสาวมากความสามารถที่ฉันคอยชี้แนะและจ่ายค่าเทอมให้ด้วยตัวเอง เช้าวันต่อมา เธอนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารเช้าของเราในเสื้อเชิ้ตของเขา ขณะที่เขากำลังทำแพนเค้กให้เรา เขายังโกหกฉันซึ่งๆ หน้า สัญญาว่าจะไม่มีวันรักใครอื่น ก่อนที่ฉันจะมารู้ว่าเธอท้องกับเขา—ลูกที่เขาปฏิเสธที่จะมีกับฉันมาตลอด คนสองคนที่ฉันไว้ใจที่สุดในโลกร่วมมือกันทำลายฉัน ความเจ็บปวดนี้มันเกินกว่าที่ฉันจะทนอยู่กับมันได้ มันคือการทำลายล้างโลกทั้งใบของฉัน ฉันจึงโทรหานักประสาทวิทยาเกี่ยวกับการทดลองของเขา ซึ่งเป็นกระบวนการที่ไม่อาจย้อนกลับได้ ฉันไม่ได้ต้องการแก้แค้น ฉันแค่อยากจะลบทุกความทรงจำเกี่ยวกับสามีของฉัน และเป็นผู้เข้ารับการทดลองคนแรกของเขา

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ไฟรักเร่าร้อน NC18++

ไฟรักเร่าร้อน NC18++

Me'JinJin
4.9

คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

Thalia Frost
5.0

กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...

“สวิงของต้นกับอ้อ” ฉบับครบรอบ 13

“สวิงของต้นกับอ้อ” ฉบับครบรอบ 13

Saranon Writer
5.0

“สวิงของต้นกับอ้อ” ถูกเขียนขึ้นในวันที่ 10 เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2555 โดยลงในเว็บไซต์ Sudswing ที่ปัจจุบันปิดตัวถาวรไปนานแล้ว แต่เชื่อว่ายังอยู่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คน ซึ่งหากนับเวลาแล้วก็ครบรอบ 13 ปี พอดี ณ วันที่กำลังเริ่มต้นลงฉบับพิเศษของนิยายเรื่องนี้ โดยมีการปรับปรุงเนื้อหาในแต่ละตอนให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น รวมถึงการรวมตอนพิเศษและตอนที่หายไปเอามาไว้ในเรื่องนี้ สำหรับไรต์แล้ว “สวิงของต้นกับอ้อ” คือลูกคนโตและลูกรักที่นำพาให้ไรต์ก้าวมาเป็นนักเขียนอย่างเต็มตัวในนิยายสายอีโรติกแนวสวิงกิ้ง NTR, Cuckold, 3P, นิยายแนวเมียสาวเหงารัก รวมถึงแนวที่สามีอยากเห็นภรรยาของตัวเองไปมีอะไรกับชายอื่น ยังไงขอฝากนิยาย “สวิงของต้นกับอ้อ” ฉบับครบรอบ 13 ปีนี้ เอาไว้ให้นักอ่านได้ติดตามกันด้วย ขอบคุณสำหรับทุกการสนับสนุนที่ทำให้ไรต์ยังคงเดินต่อไปได้บนถนนสายตัวอักษรนี้ครับ

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

Apogean Spark
5.0

【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”

รักซ้ำรอย

รักซ้ำรอย

มาชาวีร์
4.9

“ก่อนทำเรื่องนี้พี่ขอถามน้องภาสักข้อได้ไหม” ธาวิศพูดแล้วก้าวเท้าเข้าไปหาคนบนเตียง “ได้ค่ะ” นิภาก้มหน้ายามตอบ ธาวิศทิ้งสะโพกลงนั่งด้านข้าง พร้อมกับดันปลายคางของหญิงสาวให้ขึ้นมองหน้าเขา “น้องภาเต็มใจใช่ไหม” แววตาของคนถูกถามสั่นระริกไปมา ปากจิ้มลิ้มก็ขยับขึ้นลงเหมือนคนคิดไม่ออกว่าควรตอบอย่างไร “น้องภาพี่ถามว่าเต็มใจใช่ไหม หรือว่าถูกคุณยายบังคับ” คราวนี้ธาวิศเน้นน้ำหนักเสียงมากขึ้นกว่าเดิม “ภาเต็มใจค่ะ” หญิงสาวตอบเขาแล้ว แต่เป็นคำตอบที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจในตัวเอง “ไม่ได้ถูกบังคับแน่นะ” “ค่ะ ภาไม่ได้ถูกบังคับ ภาเต็มใจค่ะพี่ภูมิ” ธาวิศกัดฟันกรอดในคำตอบที่เขาไม่ปรารถนาจะได้ยิน ออกแรงผลักหน้าอกนิภาจนล้มลงไปนอนอยู่บนเตียง ปลดกระดุมเสื้อนอนของตนเองออกทีละเม็ด โดยที่สายตาก็ยังจดจ้องอยู่กับคนตรงหน้า “ระหว่างเรามันจะไม่มีความผูกพันอะไรกันทั้งนั้น เราทำเรื่องนี้ก็เพื่อคุณยาย เสร็จจากนี้ไปพี่ก็จะกลับกรุงเทพฯ ไปใช้ชีวิตกับคนรักของพี่ตามเดิม ภายังรับได้อยู่ใช่ไหม” ชายหนุ่มพูดจบก็ทิ้งเสื้อนอนลงบนพื้น คนบนเตียงก็ยังเม้มริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น คำตอบไม่มาสักทีเขาเลยต้องเลิกคิ้วขึงตาใส่ “ค่ะภารับได้” คำพูดที่เปล่งออกมาช่างเบาหวิว คงไม่ต่างไปจากอารมณ์ของคนพูด “รับได้ก็ดี อย่ามาเรียกร้องอะไรทีหลังก็แล้วกัน ไม่งั้นพี่เอาตายแน่” ธาวิศทาบร่างตัวเองลงบนลำตัวของนิภา มองจุดหมายแรกที่จะเริ่มต้นทำรัก ประทับจูบลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มของหญิงสาว สัมผัสแรกของทั้งคู่ช่างตราตรึงในความรู้สึก จากที่จะจูบเพียงแผ่วเบากลายเป็นแทรกลึกดูดดื่มขึ้นตามอารมณ์ (รักซ้ำรอย)

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ