ไฟแค้นเผาผลาญใจรัก

ไฟแค้นเผาผลาญใจรัก

Gavin

5.0
ความคิดเห็น
993
ชม
22
บท

ฉันคือผู้ช่วยส่วนตัวของธีรภัทร ทายาทหนุ่มผู้เยือกเย็น แต่เมื่ออยู่กันตามลำพัง เขาจะเรียกฉันว่า "คุณหนูของผม" ด้วยน้ำเสียงที่ทำให้ฉันสั่นสะท้าน ฉันยอมจมดิ่งในความสัมพันธ์ลับๆ นี้อย่างโง่งม เพราะคิดว่ามันคือความรัก จนกระทั่งวันเกิดของฉัน เขาทิ้งให้ฉันรอเก้อทั้งคืน เพื่อไปอยู่กับดวงทิพย์ น้องสาวบุญธรรมผู้บอบบางของเขา หัวใจของฉันแตกสลาย เมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นและเครื่องมือทางธุรกิจของเขาและพ่อของฉันเอง ฉันถูกตัดขาดจากครอบครัว ถูกอายัดบัตรเครดิตจนสิ้นเนื้อประดาตัว และที่เลวร้ายที่สุดคือฉันต้องเสียลูกในท้องไป เพราะเขาเลือกที่จะปกป้องดวงทิพย์แทนที่จะเป็นฉัน ดวงทิพย์ยังเยาะเย้ยฉันว่า ที่จริงแล้วฉันเป็นแค่ตัวแทนของน้องสาวอีกคนที่ตายไป และธีรภัทรก็แอบถ่ายคลิปวิดีโอของเราไว้เพื่อแบล็กเมล์ฉัน ความรักและความไว้ใจที่ฉันมีให้พังทลายลงไม่เหลือชิ้นดี ในคืนนั้น ฉันจึงตัดสินใจเผาเพนต์เฮาส์ที่เคยเป็นรังรักของเราให้วอดวาย โอนเงินทุกบาททุกสตางค์คืนให้เขา แล้วซื้อตั๋วเครื่องบินเที่ยวแรกเพื่อหนีไปจากนรกขุมนี้ให้ไกลที่สุด

บทที่ 1

ฉันคือผู้ช่วยส่วนตัวของธีรภัทร ทายาทหนุ่มผู้เยือกเย็น แต่เมื่ออยู่กันตามลำพัง เขาจะเรียกฉันว่า "คุณหนูของผม" ด้วยน้ำเสียงที่ทำให้ฉันสั่นสะท้าน ฉันยอมจมดิ่งในความสัมพันธ์ลับๆ นี้อย่างโง่งม เพราะคิดว่ามันคือความรัก

จนกระทั่งวันเกิดของฉัน เขาทิ้งให้ฉันรอเก้อทั้งคืน เพื่อไปอยู่กับดวงทิพย์ น้องสาวบุญธรรมผู้บอบบางของเขา

หัวใจของฉันแตกสลาย เมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นและเครื่องมือทางธุรกิจของเขาและพ่อของฉันเอง

ฉันถูกตัดขาดจากครอบครัว ถูกอายัดบัตรเครดิตจนสิ้นเนื้อประดาตัว และที่เลวร้ายที่สุดคือฉันต้องเสียลูกในท้องไป เพราะเขาเลือกที่จะปกป้องดวงทิพย์แทนที่จะเป็นฉัน

ดวงทิพย์ยังเยาะเย้ยฉันว่า ที่จริงแล้วฉันเป็นแค่ตัวแทนของน้องสาวอีกคนที่ตายไป และธีรภัทรก็แอบถ่ายคลิปวิดีโอของเราไว้เพื่อแบล็กเมล์ฉัน

ความรักและความไว้ใจที่ฉันมีให้พังทลายลงไม่เหลือชิ้นดี

ในคืนนั้น ฉันจึงตัดสินใจเผาเพนต์เฮาส์ที่เคยเป็นรังรักของเราให้วอดวาย โอนเงินทุกบาททุกสตางค์คืนให้เขา แล้วซื้อตั๋วเครื่องบินเที่ยวแรกเพื่อหนีไปจากนรกขุมนี้ให้ไกลที่สุด

บทที่ 1

ธีรดา กุลวงศ์ POV:

ฉันรู้ดีว่าความสัมพันธ์ของเรามันซับซ้อน

ต่อหน้าคนอื่น ฉันคือผู้ช่วยส่วนตัวที่ไร้เดียงสาของ ธีรภัทร จงรักษ์ ทายาทหนุ่มผู้เยือกเย็นแห่งอาณาจักรเจริญรักษ์ แต่เมื่อประตูห้องปิดลง เขาจะเรียกฉันว่า "คุณหนูของผม" ด้วยน้ำเสียงที่ทำให้ทุกอณูของฉันสั่นสะท้าน และครอบครองฉันอย่างเร่าร้อน

คืนแล้วคืนเล่า ฉันจมดิ่งในความรักที่เขาหยิบยื่นให้ ไม่เคยสงสัยเลยว่าเบื้องหลังสายตาเย็นชาคู่นั้นจะซ่อนแผนการและผลประโยชน์ทางธุรกิจไว้อย่างลึกซึ้ง

"ธีรดา..." เสียงของธีรภัทรยังคงก้องอยู่ในหูของฉัน เสียงกระซิบยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความปรารถนา ตอนนั้นฉันคิดว่ามันคือความรัก

แต่ในความเป็นจริง มันคือหนี้ชีวิตที่เขาต้องชดใช้ให้กับ ดวงทิพย์ จงรักษ์ น้องสาวบุญธรรมผู้บอบบางของเขา

ฉันไม่เคยรู้เลยว่า ทั้งหมดนี้เป็นเพียงฉากละครที่เขากำกับขึ้นมา เพื่อควบคุมฉัน เพื่อตระกูลของฉัน และเพื่อแก้แค้นใครบางคน

"พรุ่งนี้เตรียมตัวให้พร้อม" เสียงของธีรภัทรในตอนเช้าแตกต่างจากยามค่ำคืนลิบลับ "จะมีประชุมสำคัญกับผู้บริหารระดับสูงหลายฝ่าย เธอต้องอยู่ข้างฉันตลอดเวลา"

ฉันพยักหน้า พยายามซ่อนร่องรอยความอ่อนเพลียจากการถูกเขาครอบครองเมื่อคืน

"คุณภัทรครับ มีข้อความเข้าครับ" โชเฟอร์ยื่นโทรศัพท์ให้เขา ธีรภัทรเหลือบมอง หน้าจอที่สว่างขึ้นเผยให้เห็นชื่อ "ดวงทิพย์" พร้อมข้อความสั้นๆ "มารับหน่อยค่ะ คิดถึง"

รอยยิ้มจางๆ ปรากฏบนมุมปากของเขา ก่อนที่เขาจะรีบเก็บโทรศัพท์ลง และหันมาพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงที่ต่างไปจากเดิม

"ธีรดา เอกสารที่ฉันให้เตรียมไว้เมื่อวานเรียบร้อยดีนะ"

ฉันมองใบหน้าของเขาที่กลับมาเย็นชาอีกครั้ง ความรู้สึกเย็นวาบแล่นไปทั่วร่าง

ทั้งที่เพิ่งผ่านค่ำคืนอันเร่าร้อนมาด้วยกัน แต่เขากลับไม่มีร่องรอยของความผูกพันใดๆ เหลืออยู่เลย

หัวใจของฉันกระตุกวูบ ภาพความทรงจำเมื่อสิบปีก่อนผุดขึ้นมาในหัว

ฉันยังจำค่ำคืนนั้นได้ดี ค่ำคืนที่ฉันพยายามจะเข้าใกล้ธีรภัทรเป็นครั้งแรก

ในงานฉลองครบรอบบริษัทของพ่อ ณรงค์ กุลวงศ์ ฉันในวัย 18 ปี พยายามรวบรวมความกล้าเดินเข้าไปหาธีรภัทร ทายาทหนุ่มที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ

เขาดูโดดเด่นท่ามกลางผู้คน ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชา ดวงตาคมกริบราวกับเหยี่ยว

"คุณภัทรคะ" ฉันเรียกเขาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเล็กน้อย

เขาหันมามองฉันอย่างไม่แยแส "มีอะไร"

"เอ่อ...คุณภัทรจำฉันได้ไหมคะ ฉันธีรดา ลูกสาวเจ้าสัวณรงค์ค่ะ"

เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย "จำได้" น้ำเสียงของเขาราบเรียบจนฉันรู้สึกเจ็บปวด

ฉันพยายามยิ้ม "คืนนี้คุณภัทรดู...โดดเด่นมากเลยนะคะ"

เขาไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่จิบไวน์ในมืออย่างสงบ

ความเงียบที่อึดอัดทำให้ฉันแทบจะวิ่งหนีไปให้พ้นจากตรงนั้น

แต่แล้ว อยู่ๆ เขาก็หันมามองฉันตรงๆ "เธออยากให้ฉันพูดอะไร"

คำถามนั้นทำให้ฉันอึ้งไปชั่วขณะ

"ฉันไม่ชอบคนอ้อมค้อม ถ้ามีอะไรก็พูดมาตรงๆ"

หัวใจของฉันเต้นรัว ฉันไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกไปดี

สุดท้าย ฉันก็เลือกที่จะหันหลังให้กับเขา และเดินจากมาด้วยความผิดหวัง

ฉันกลับมาที่โต๊ะของพ่อณรงค์ด้วยความรู้สึกเจ็บปวด

"เป็นอะไรไปธีรดา ทำไมหน้าตาไม่ดีเลย" พ่อถามขึ้น

ฉันได้แต่ส่ายหน้า "ไม่มีอะไรค่ะพ่อ"

ฉันมองกลับไปยังจุดที่ธีรภัทรยืนอยู่ เขาไม่ได้มองมาที่ฉันเลยแม้แต่น้อย

คืนนั้นฉันนอนไม่หลับ ภาพใบหน้าเย็นชาของเขายังคงติดตา

ฉันรู้ดีว่าธีรภัทรไม่ใช่ผู้ชายที่จะอ่อนโยนกับใครได้ง่ายๆ แต่ฉันก็ยังหวังว่าสักวันเขาจะเห็นฉันในสายตาของเขาบ้าง

เวลาผ่านไป ฉันพยายามอยู่ใกล้เขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในฐานะผู้ช่วยส่วนตัว

ฉันเรียนรู้ที่จะสังเกตทุกการเคลื่อนไหวของเขา ทุกสีหน้าและแววตา

ฉันเริ่มรู้ว่าเขาชอบกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล ชอบทำงานในความเงียบ และไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายเรื่องส่วนตัว

จนกระทั่งคืนหนึ่ง หลังจากงานเลี้ยงธุรกิจที่กินเวลานานจนดึกดื่น

ฉันเผลอหลับไปในรถของเขา

เมื่อตื่นขึ้นมา ฉันก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องนอนของธีรภัทร

แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในห้อง ฉันมองเห็นธีรภัทรกำลังยืนอยู่ข้างหน้าต่าง

"คุณภัทรคะ..." ฉันเรียกเขาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า

เขาหันมามองฉัน ดวงตาของเขาดูมืดมิดกว่าปกติ

"เธอตื่นแล้วเหรอ"

ฉันพยักหน้าอย่างงงๆ "ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ"

"เธอเมาจนหลับไปในรถ ฉันเลยพามาพักที่นี่"

หัวใจของฉันเต้นรัว ฉันรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัว

"ฉัน...ฉันไม่เป็นไรแล้วค่ะ ขอกลับบ้านนะคะ"

เขาไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่เดินเข้ามาหาฉันช้าๆ

ฉันรู้สึกได้ถึงอันตรายที่แผ่ออกมาจากตัวเขา

"คุณภัทรคะ..."

เขาเอื้อมมือมาจับใบหน้าของฉัน นิ้วโป้งของเขาลูบไล้ริมฝีปากของฉันเบาๆ

"เธอกลัวฉันเหรอ"

ฉันส่ายหน้าช้าๆ "เปล่าค่ะ"

"ดี" เขาพูดสั้นๆ ก่อนจะโน้มตัวลงมาจูบฉัน

จูบของเขาร้อนแรงและเร่าร้อน จนฉันแทบจะยืนไม่ไหว

ฉันไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ฉันตอบรับจูบของเขาไปในคืนนั้น

ฉันหลงใหลในสัมผัสของเขา หลงใหลในความปรารถนาที่เขามีให้ฉัน

คืนนั้นเราเป็นของกันและกัน

และนับตั้งแต่นั้นมา ความสัมพันธ์ลับๆ ของเราก็เริ่มต้นขึ้น

เราใช้เวลาค่ำคืนด้วยกันอย่างเร่าร้อน แต่ในตอนเช้า เขาก็จะกลับไปเป็นธีรภัทรคนเดิม ผู้บริหารหนุ่มผู้เยือกเย็นและสุขุม

ฉันรักเขาอย่างหมดใจ ไม่ว่าเขาจะแสดงออกว่ารักฉันหรือไม่ก็ตาม

ฉันเคยคิดว่าความรักของฉันจะเปลี่ยนเขาได้

แต่ฉันคิดผิดมาตลอด

จนกระทั่งวันเกิดของฉัน

ฉันเตรียมจัดงานเล็กๆ ที่คอนโดของฉัน หวังว่าเขาจะมา

ฉันรอเขา รอแล้วรอเล่า

แต่เขาก็ไม่มา

ฉันพยายามโทรหาเขา แต่เขาก็ไม่รับสาย

จนกระทั่งเพื่อนของฉันส่งรูปมาให้ดู

เป็นรูปของธีรภัทรกำลังยืนอยู่ข้างดวงทิพย์ ในงานเปิดตัวสินค้าใหม่ของบริษัท

พวกเขายิ้มให้กัน ดวงทิพย์จับแขนของธีรภัทรอย่างสนิทสนม

หัวใจของฉันแตกสลายในวินาทีนั้น

ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้สำคัญสำหรับเขาเลย

ฉันเป็นแค่ของเล่นยามค่ำคืน เป็นแค่ผู้ช่วยส่วนตัวที่เขาใช้ประโยชน์

ฉันรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบพังทลายลงตรงหน้า

ฉันทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนนิ่งอยู่กลางห้องที่เต็มไปด้วยของตกแต่งวันเกิด

ความรู้สึกเจ็บปวดแล่นไปทั่วร่าง จนฉันแทบจะหายใจไม่ออก

ฉันรู้สึกเหมือนถูกหักหลัง ถูกหลอกใช้ และถูกทอดทิ้ง

ฉันไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี

ฉันเดินเข้าไปในห้องนอน หยิบรูปถ่ายของเราสองคนขึ้นมามอง

ภาพที่เรากอดกันอย่างมีความสุข ภาพที่เราจูบกันอย่างดูดดื่ม

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงภาพลวงตาใช่ไหม

ฉันกำรูปถ่ายในมือแน่น จนมันยับยู่ยี่

น้ำตาไหลอาบแก้มอย่างห้ามไม่อยู่

ฉันร้องไห้จนตัวโยน ร้องไห้ราวกับจะขาดใจ

ทำไมเขาถึงทำกับฉันแบบนี้

ทำไมเขาถึงหลอกลวงฉัน

ฉันล้มตัวลงนอนบนเตียง ปล่อยให้น้ำตาไหลรินออกมาอย่างไม่หยุดหย่อน

ฉันไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดขนาดนี้มาก่อน

ฉันเกลียดเขา เกลียดความหลอกลวงของเขา

ฉันเกลียดตัวเองที่โง่เง่า รักเขาอย่างหมดใจ

ฉันนอนร้องไห้อยู่บนเตียงนานแค่ไหนไม่รู้

จนกระทั่งฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถทนอยู่ในสภาพนี้ได้อีกต่อไป

ฉันต้องทำอะไรสักอย่าง

ฉันลุกขึ้นจากเตียง เดินไปยังกระจกเงา

มองตัวเองในกระจกเงา ใบหน้าที่บวมเป่ง ดวงตาแดงก่ำ

ฉันไม่เหลืออะไรเลย

ไม่มีเขา ไม่มีความรัก และไม่มีศักดิ์ศรี

แต่ฉันยังมีชีวิต

ฉันจะไม่ยอมให้เขาทำลายฉันได้อีกต่อไป

ฉันจะเปลี่ยนตัวเอง

ฉันจะแข็งแกร่งขึ้น

ฉันจะทำให้เขาเสียใจที่ทิ้งฉันไป

ฉันเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อผ้าที่แพงที่สุดออกมาใส่

ฉันหยิบกุญแจรถ และเดินออกจากคอนโด

ฉันขับรถไปยังบ้านตระกูลกุลวงศ์ บ้านที่ฉันเคยคิดว่าเป็นบ้านของฉัน

เมื่อไปถึง ฉันพบว่าแม่เลี้ยง พรไพลิน และลูกติด รุ่งรัตน์ กำลังจัดงานเลี้ยงฉลองอะไรบางอย่างอยู่

พวกเขามองมาที่ฉันด้วยสายตาแปลกใจ

"อ้าว ธีรดา ทำไมมาสภาพนี้ล่ะ" พรไพลินถามขึ้นอย่างเยาะเย้ย

ฉันไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่เดินตรงไปยังพ่อณรงค์ที่กำลังยืนคุยกับแขกอยู่

"พ่อคะ หนูมีเรื่องจะคุยด้วยค่ะ" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

พ่อณรงค์มองมาที่ฉันอย่างงงๆ "มีอะไร"

"หนูจะขอแยกตัวออกจากตระกูลกุลวงศ์ค่ะ"

คำพูดของฉันทำให้ทุกคนในห้องเงียบกริบ

พ่อณรงค์มองมาที่ฉันด้วยความตกใจ "ธีรดา นี่เธอพูดอะไรออกมา"

"หนูพูดจริงค่ะ หนูไม่ขอรับอะไรจากตระกูลนี้อีกต่อไปแล้ว"

พรไพลินหัวเราะเบาๆ "ฮ่าๆๆๆ ดูสิคะคุณณรงค์ ลูกสาวคุณคงเสียสติไปแล้ว"

ฉันหันไปมองพรไพลินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง

"ฉันยังไม่เสียสติหรอกค่ะ แต่ฉันเพิ่งจะตาสว่างต่างหาก"

พ่อณรงค์เดินเข้ามาหาฉัน "ธีรดา เธอจะทำแบบนี้กับพ่อไม่ได้นะ"

"ทำไมจะทำไม่ได้คะ พ่อเองก็ไม่ได้รักหนูจริงจังอยู่แล้วนี่คะ พ่อแค่เห็นหนูเป็นเครื่องมือทางธุรกิจเท่านั้น"

คำพูดของฉันทำให้พ่อณรงค์หน้าซีด

"ธีรดา!"

"พอเถอะค่ะพ่อ หนูเหนื่อยแล้ว หนูไม่อยากอยู่ในตระกูลที่เต็มไปด้วยความหลอกลวงแบบนี้อีกต่อไปแล้ว"

ฉันหันหลังให้พ่อณรงค์ และเดินตรงไปยังประตูทางออก

"ธีรดา! เธอจะไปไหน!" พ่อณรงค์ตะโกนไล่หลังฉันมา

"หนูจะไปในที่ที่ไม่มีใครรู้จักหนู จะไปในที่ที่หนูสามารถเป็นตัวของตัวเองได้"

ฉันเดินออกจากบ้านมาด้วยความรู้สึกสะใจเล็กน้อย

แต่ในใจลึกๆ แล้ว ฉันก็รู้สึกเจ็บปวดไม่แพ้กัน

ฉันกำลังทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันเคยมี เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่

ฉันไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ฉันก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมัน

ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายฉันได้อีกต่อไปแล้ว

ฉันจะอยู่ด้วยตัวเอง และฉันจะแข็งแกร่งขึ้น

ฉันจะทำให้ทุกคนเสียใจที่เคยดูถูกฉัน

ฉันเดินไปที่รถของฉัน และขับออกไปจากบ้านตระกูลกุลวงศ์อย่างรวดเร็ว

ทิ้งไว้เบื้องหลังคือความวุ่นวายและเสียงตะโกนของพ่อณรงค์

ฉันไม่รู้ว่าฉันจะไปที่ไหน แต่ฉันรู้ว่าฉันจะไม่กลับมาที่นี่อีกแล้ว

ฉันจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ ชีวิตที่ไม่มีธีรภัทร ชีวิตที่ไม่มีตระกูลกุลวงศ์

ฉันจะใช้ชีวิตของฉันเอง

และฉันจะมีความสุขให้ได้

ฉันขับรถไปเรื่อยๆ โดยไม่มีจุดหมาย

จนกระทั่งฉันรู้สึกเหนื่อยล้าเต็มที

ฉันจอดรถข้างทาง และเดินลงไปยืนอยู่ริมหน้าผา

มองดูท้องทะเลสีครามที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา

ลมทะเลพัดแรงจนผมของฉันปลิวไสว

ฉันหลับตาลง ปล่อยให้น้ำตาไหลรินออกมาอย่างเงียบๆ

"ฉันจะไม่มีวันให้อภัยคุณ ธีรภัทร" ฉันกระซิบกับตัวเองเบาๆ "และฉันจะทำให้คุณเสียใจที่ทำกับฉันแบบนี้"

ฉันตัดสินใจแล้ว

ฉันจะสู้เพื่อตัวเอง

ฉันจะไม่ยอมแพ้อีกต่อไป

ฉันลืมตาขึ้นอีกครั้ง ดวงตาของฉันเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น

ฉันจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ ชีวิตที่แข็งแกร่งกว่าเดิม

ฉันจะทำให้ทุกคนเห็นว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอที่ยอมให้ใครมาเหยียบย่ำได้ง่ายๆ

และฉันจะทำให้ธีรภัทรเสียใจไปตลอดชีวิตที่ทิ้งฉันไป

ฉันจะกลับมา และฉันจะแข็งแกร่งกว่าเดิม

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ Gavin

ข้อมูลเพิ่มเติม
จากอดีตสู่ชีวิตใหม่ที่อบอุ่น

จากอดีตสู่ชีวิตใหม่ที่อบอุ่น

โรแมนติก

5.0

"รุ่ง! เธอยังไม่เสร็จอีกเหรอ? พัชราปวดท้องมากเลยนะ!" เสียงตะคอกของชัชชัยดังลั่นสำนักงานเขต ฉันมองดูชายคนรักที่กำลังประคองน้องสาวบุญธรรมของฉันด้วยความห่วงใย ภาพความทรงจำอันโหดร้ายในชาติที่แล้วไหลย้อนกลับมาตอกย้ำความเจ็บปวด ในวาระสุดท้ายของชีวิตก่อน เมื่อรถพุ่งเข้ามาชนเรา เขากลับเลือกผลักฉันออกไปรับแรงกระแทก เพื่อปกป้องพัชราไว้ในอ้อมกอด ปล่อยให้ฉันนอนจมกองเลือดอย่างโดดเดี่ยว แม้แต่ลูกชายแท้ๆ ของฉันยังพูดใส่หน้าศพแม่ว่า "น้าพัชดีกว่าแม่" ความรักและความภักดีของฉันช่างไร้ค่าสิ้นดี "รุ่ง! รีบๆ เซ็นสิ ฉันจะพาพัชราไปนั่งพัก" เขาโยนเอกสารทะเบียนสมรสใส่หน้าฉันด้วยความรำคาญ ฉันหยิบปากกาขึ้นมา แววตาที่เคยโง่เขลาเปลี่ยนเป็นว่างเปล่า ในช่อง 'ชื่อคู่สมรส' ฉันไม่ได้เขียนชื่อตัวเอง แต่บรรจงเขียนชื่อ "พัชรา เจริญสุขสกุล" ลงไปแทน อยากรักกันมากใช่ไหม? ได้... ชาตินี้ฉันจัดให้

ชาติภพนี้ขอไม่เป็นเมียจำยอม

ชาติภพนี้ขอไม่เป็นเมียจำยอม

โรแมนติก

5.0

"เธอรู้ตัวไหมว่าเธอทำให้ฉันต้องแต่งงานกับคนที่ฉันไม่ได้รัก!" เสียงเย็นชาของเขาบาดลึกเข้ามาในใจฉันเหมือนคมมีดที่กรีดแทงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉันลืมตาขึ้นมาอย่างงุนงง ในหัวยังคงปวดร้าว ภาพสุดท้ายที่จำได้คือความเจ็บปวดที่กัดกินจนฉันเลือกที่จะจบชีวิตตัวเองลง แต่ตอนนี้ฉันกลับมาอยู่ที่นี่ ในห้องนอนที่คุ้นเคย ห้องนอนที่เต็มไปด้วยความทรงจำทั้งสุขและทุกข์กับผู้ชายตรงหน้า ศรัณย์พรยืนอยู่ตรงนั้น ดวงตาของเขาเย็นชาไร้ความรู้สึก ใบหน้าหล่อเหลาที่เคยทำให้ฉันหลงใหลบัดนี้กลับเป็นเหมือนน้ำแข็งที่ไม่มีวันละลายให้ฉันได้สัมผัส เขาไม่ใช่ผู้ชายที่ฉันรู้จักอีกต่อไปแล้ว เขาเป็นเพียงเปลือกนอกที่เหลือไว้ให้ฉันเจ็บปวด ฉันมองศรัณย์พร เขายังคงหนุ่มแน่นและหล่อเหลาเหมือนเดิม อายุยี่สิบเจ็ดปีที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและพลังในการสร้างสรรค์ แต่แววตาของเขาที่มองมาที่ฉันมันเต็มไปด้วยความเกลียดชังและผิดหวัง ฉันจำได้ทุกอย่าง จำได้ถึงความเจ็บปวดที่ต้องทนอยู่กับความเย็นชาของเขาในชาติที่แล้ว จำได้ถึงคำพูดที่เขาใช้ทำร้ายจิตใจฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า และจำได้ถึงวันที่ฉันจากไปอย่างโดดเดี่ยว

เกมรัก เกมธุรกิจ ฉันจะเอาคืน

เกมรัก เกมธุรกิจ ฉันจะเอาคืน

โรแมนติก

5.0

ในคืนส่งท้ายปีเก่าที่ควรจะเต็มไปด้วยความสุข ฉันกลับเห็นธวัชชัย คู่หมั้นที่คบกันมาสิบปี กำลังกอดนิชานันท์ 'น้องสาว' ที่เขาอ้างว่าบริสุทธิ์ใจอย่างแนบแน่น ริมฝีปากของเขาประทับลงบนหน้าผากเธออย่างอ่อนโยน ท่าทางที่เคยเป็นของฉันคนเดียว แต่เมื่อฉันถามถึงความสัมพันธ์นั้น เขากลับตวาดใส่ว่าฉัน "คิดมาก" และ "งี่เง่า" ที่ไปหึงน้องสาวของเพื่อนที่ตายไปแล้ว ในวันที่ฉันป่วยหนักจนติดเชื้อในกระแสเลือดนอนพะงาบๆ อยู่ที่โรงพยาบาล เขากลับทิ้งฉันไว้ลำพังเพื่อไปปลอบนิชานันท์ที่แค่ "กลัวเสียงฟ้าร้อง" ซ้ำร้ายเขายังทำอาหารใส่กุ้งที่ฉันแพ้อย่างรุนแรงให้นิชานันท์กิน โดยไม่สนใจว่าฉันจะรู้สึกอย่างไร ภาพในโซเชียลมีเดียที่นิชานันท์ป้อนข้าวเขาอย่างสนิทสนม ตอกย้ำความจริงที่ว่าตลอดสิบปีที่ผ่านมา ฉันเป็นเพียงเครื่องมือสร้างภาพลักษณ์ และเป็น "ของตาย" สำหรับเขา ความรักและความทุ่มเทของฉันถูกตอบแทนด้วยการทรยศหักหลังที่เจ็บปวดที่สุด พอกันทีกับความโง่เขลา ฉันเช็ดน้ำตาแล้วหยิบโทรศัพท์กดโทรหา "เอกภพ" คู่แข่งทางธุรกิจตัวฉกาจของเขา "ฉันมีข้อเสนอเกี่ยวกับหุ้นของเกียรติชัย กรุ๊ป... และฉันต้องการยกเลิกงานแต่งงานเดี๋ยวนี้" งานนี้ฉันจะไม่จากไปเงียบๆ แต่จะทำให้เขารู้ซึ้งถึงคำว่า "สูญเสียทุกอย่าง" มันเป็นยังไง

ศักดิ์ศรีที่หายไป...ฉันจะทวงคืน

ศักดิ์ศรีที่หายไป...ฉันจะทวงคืน

โรแมนติก

5.0

ฉันยอมทิ้งอนาคตที่สดใส ลาออกจากงานในฝันเพื่อมาช่วย 'ธีทัต' สามีสร้างธุรกิจจากศูนย์จนร่ำรวยมหาศาล หวังเพียงจะได้สร้างครอบครัวที่อบอุ่นด้วยกัน แต่สิ่งที่ได้รับตอบแทนคือการหักหลังตลอด 7 ปี เขาพา 'ปิยาภรณ์' รุ่นน้องหน้าซื่อใจคดเข้ามาในบ้าน ยกย่องเชิดชูเธอราวกับเจ้าหญิง เขาตราหน้าว่าฉันเป็นภรรยาที่จืดชืด ไร้ค่า เทียบไม่ได้กับเมียน้อยที่แสนอ่อนหวานและเอาใจเก่ง ในวันที่ฉันจับได้และเกิดปากเสียง เขาผลักฉันล้มกระแทกพื้นอย่างแรงจนเลือดไหลอาบขา ลูกน้อยในครรภ์ที่ฉันเฝ้ารอหลุดลอยไป แต่เขากลับเมินเฉยต่อความเจ็บปวดของฉัน เลือกที่จะอุ้มเมียน้อยที่แค่แกล้งสำออยไปโรงพยาบาล ทิ้งให้ฉันนอนจมกองเลือดและน้ำตาเพียงลำพัง วินาทีนั้น ความรักโง่ๆ ตลอดสิบปีได้ตายไปจากใจ ฉันเพิ่งตาสว่างว่าสำหรับเขา ฉันเป็นแค่บันไดที่เขาใช้เหยียบขึ้นไปแล้วถีบหัวส่ง ฉันลุกขึ้นปาดน้ำตา เซ็นใบหย่าทิ้งไว้ และจัดการโอนทรัพย์สินจอมปลอมคืนให้เขาจนหมดเกลี้ยง "เชิญพวกคุณเสวยสุขกันให้พอ เพราะจากวินาทีนี้ไป ฉันคนใหม่จะกลับมาทวงคืนศักดิ์ศรี และทำให้พวกคุณรู้ซึ้งว่า... การสูญเสียทุกอย่างมันรสชาติเป็นยังไง"

เถ้าถ่านรัก จุดไฟแค้น ขึ้นมา

เถ้าถ่านรัก จุดไฟแค้น ขึ้นมา

โรแมนติก

5.0

"ปาริชาติ ส่งกำไลหยกของเธอมาให้ลลิตาซะ" คำสั่งเย็นชาของพุฒิ สามีที่ฉันรักหมดหัวใจ ดังขึ้นเพื่อทวงของดูต่างหน้าชิ้นสุดท้ายของแม่ฉัน ไปให้กับแฟนเก่าที่กลับมาทวงคืนทุกอย่าง เขาไม่เพียงทำลายกำไลหยกจนแตกละเอียด แต่ยังบังคับให้ฉันถ่ายเลือดให้ลลิตาจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ความโหดร้ายถึงขีดสุดเกิดขึ้นในวันที่คฤหาสน์ระเบิด พุฒิเลือกอุ้มลลิตาหนีออกไป ทิ้งให้ฉันนอนรอความตายในกองเพลิงเพียงลำพัง วินาทีนั้น ความรักของฉันมอดไหม้ไปพร้อมกับเปลวไฟ ฉันหนีรอดออกมาได้และสาบานกับตัวเองว่า "ปาริชาติคนเดิมได้ตายไปแล้ว" ฉันหนีไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่อังกฤษ ส่วนพุฒิที่เพิ่งตาสว่างและรู้ความจริงว่าลลิตาเป็นคนวางระเบิด ได้กลับไปลงโทษหญิงชั่วอย่างสาสม ก่อนจะตามมาคุกเข่าอ้อนวอนขอคืนดีกับฉัน เขาร้องไห้แทบขาดใจ ท่ามกลางดอกไม้ไฟที่เขาจุดเพื่อง้อฉัน แต่ฉันกลับยืนกอดกับผู้ชายคนใหม่ แล้วมองเขาด้วยสายตาว่างเปล่า "เราหย่ากันตั้งแต่วินาทีที่คุณทิ้งฉันไว้ในกองไฟแล้วค่ะ คุณพุฒิ"

สิบปีที่ทุ่มเท แลกความเจ็บปวด

สิบปีที่ทุ่มเท แลกความเจ็บปวด

โรแมนติก

5.0

ฉันทุ่มเททุกอย่างตลอดสิบปีเพื่อปั้นสามีของฉัน เจษฎากร จากนักแสดงข้างถนนจนกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ แต่แล้วฉันก็พบว่าเขาแอบคบชู้กับดุจดาว ดาราสาวที่ฉันเป็นคนเลือกมากับมือ มานานหลายปีแล้ว เขาไม่เพียงแต่ดูถูกเหยียดหยามฉัน แต่ยังใช้เงินที่เราร่วมกันหามาซื้อบ้านและรถหรูให้ผู้หญิงคนนั้น ที่เลวร้ายที่สุดคือ ตอนที่ฉันกำลังตั้งท้อง เขาสั่งให้คนมาทำร้ายฉันจนแท้งลูก ทำลายทั้งร่างกายและจิตใจของฉันจนย่อยยับ ความรักและความไว้ใจที่ฉันมีให้พังทลายลงในพริบตา ฉันไม่ใช่เปมิกาคนเดิมที่เคยอ่อนแออีกต่อไปแล้ว ฉันจึงวางแผนแก้แค้นอย่างเลือดเย็นที่สุด ฉันจะทำให้เขาสูญเสียทุกอย่าง ทั้งชื่อเสียง เงินทอง และอนาคต เหมือนที่เขาเคยทำลายชีวิตของฉัน

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

Apogean Spark
5.0

【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

Arvin Bikoff
5.0

หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”

คุณสามีเป็นผู้พิการ

คุณสามีเป็นผู้พิการ

Devocean
4.9

"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ