Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ดังสายใย กำไลคล้องรัก

ดังสายใย กำไลคล้องรัก

ปิ่นหยก

5.0
ความคิดเห็น
1.6K
ชม
29
บท

นางหนีความยากลำบากเข้ามาในเมืองหลวงฉางอัน เพื่อขายตัวเองเป็นสาวใช้ในจวนท่านแม่ทัพ แต่ทว่า ท่านแม่ทัพผู้นี้เมตตาสาวใช้อย่างนางยิ่งนัก จนกระทั่งทำให้ฮูหยินใหญ่ในจวนมิพอใจสาวใช้อย่างนาง จูจูจะทำอย่างไรให้มีชีวิตที่ปลอดภัยในจวนท่านแม่ทัพนี้ ร่วมเป็นกำลังใจให้จูจูนะเจ้าคะ

บทที่ 1 1

เรือนร่างอรชนนอนที่เตียงไม้เก่า ใบหน้าขาวซีดราวกับกระดาษ หนึ่งบุรุษ หนึ่งสตรีเฝ้ามองอย่างใจจดใจจ่อเหตุใดบุตรสาวของพวกเขายังไม่ฟื้น จมน้ำจนศีรษะกระแทกกับโขดหินได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก

“ท่านพี่เหตุใดจูจูยังมิฟื้นเจ้าคะ” มารดาของจูจู หรือนางสวี เอ่ยถามสามีอย่างหลงซาน เขาทอดสายตามองดูจูจู แล้วถอนหายใจ หลงซานไม่ตอบเพียงแต่กอดภรรยาไว้

เสียงผู้ใดมาร่ำไห้แถวนี้ แพรขนตาผีเสื้อกระพือขึ้นมา ภาพนั้นช่างเลือนรางยิ่งนัก จากเลือนรางค่อยแปรผันเป็นภาพชัดเจน หนึ่งสตรี หนึ่งบุรุษ วัยกลางคนยิ้มให้นาง

“จูจูฟื้นแล้ว” สตรีนางนั้นเรียก นางว่าจูจู

หญิงสาวที่ถูกเรียกว่าจูจู พลันตกใจ ที่แห่งนี้ที่ไหนกัน นางกวาดสายตามองดูรอบๆเรือนเก่าโทรมแห่งนี้ ทำไมนางถึงได้ปวดศีรษะยิ่งนัก มือสองข้างกุมศีรษะอย่างเจ็บปวด

“ลูกแม่ ไม่เป็นไรแม่อยู่นี่” นางสวีพลันกอดบุตรสาว

“ทำไมข้าจำอะไรไม่ได้เลย” จูจูบอกกับมารดา

“โธ่ เจ้าพลัดตกน้ำ จากนั้นศีรษะกระแทกอย่างแรง ไม่แปลกที่จะจำอะไรไม่ได้” นางสวีหันไปสบตากับหลงซาน

จูจูพลันมองใบหน้าของนางสวี ในเมื่อเขาบอกว่าเป็นมารดาของนาง ทำไมนางถึงไม่ได้รู้สึกผูกพันธ์แม้แต่น้อย

ที่แท้นางชื่อจูจูหรอกหรือ แต่ทำไมนางไม่คุ้นเคยกับชื่อนี้จริงๆ “ลูกพ่อในที่สุดเจ้าก็ฟื้นเสียที ทำให้ข้ากับแม่เจ้าตกใจ นึกว่าจะสูญเสียเจ้าไปแล้ว” กล่าวจบ หลงซานกับนางสวีพลันร่ำไห้ราวกับพายุสายฝนหลั่งรินลงมา

หลายวันมานี้จูจูใช้ชีวิตอยู่ในเรือนเก่าโทรมแห่งนี้ นางรู้แต่ว่าบิดามารดาของนางมีอาชีพตัดฟืนขาย เรือนที่พวกนางอาศัยอยู่ตั้งอยู่บนภูเขาที่มาหนาหมอกทึบ มารดาบอกว่านางอายุสิบหกปีแล้วแต่ทว่าดื้อซุกซนราวกับเด็กน้อย ชอบไปเล่นน้ำตามลำธารแล้วพลัดตกลงไปในน้ำลึก จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น ตอนนี้นางสวีห้ามนางไปที่ลำธาร กระนั้นจูจูจำต้องอยู่ในแห่งนี้ นางสวียังสอนจูจูให้ถักทอถุงหอมหลากสีเพื่อนำไปจำหน่ายในเมืองหลวงฉางอัน กระนั้นชีวิตจูจูจึงไม่ค่อยเบื่อหน่ายเพราะนางถักทอถุงหอมทั้งวัน

พริบตาเดียวก็สองปีผ่านไป หลังผ่านพ้นปีใหม่ จูจูก็อายุสิบแปดปีแล้ว นางสวีกับหลงซานรักบุตรสาวคนนี้มาก สองสามีภรรยาลงทุนซื้ออาภรณ์สีชมพูลายดอกเหมยให้บุตรสาวอย่างจูจู

ภายในค่ำคืนนี้ นางสวีลงแรงทำกับข้าวให้บุตรสาวกับสามีกินอย่างสุดฝีมือ น้ำแกงแดงหมูตุ๋นนั่นเอง วางบนโต๊ะกลมเก่าๆ กับข้าวตั้งสามอย่าง สามคนพ่อแม่ลูกกินข้าวกันอย่างมีความสุข

หลังกินข้าวอิ่มจูจูเก็บสำรับไปล้างแล้วกลับมานั่งที่เก้าอี้ไม้เหมือนเดิม

สองสามีภรรยามองหน้ากัน “คืนนี้แม่มีสิ่งของมอบให้เจ้า” จูจูได้ยินกระนั้นก็ตาโตราวกับไข่ห่าน ท่านแม่มีอะไรมอบให้นางกันนะ

“ท่านพี่ ไปหยิบมาให้ลูกเลยนะ” นางสวีไม่อยากลุกจากเก้าอี้ จึงสั่งสามี หลงซานผู้รักภรรยามากจึงเดินตรงไปที่ตู้ จูจูพลันมองบิดาเดินถือผ้าสีแดงออกมา

อาภรณ์หรูหราเชียวนะ หรือว่าท่านแม่จะให้นาง

“ท่านแม่”

หลงซานนั่งลงแล้งวางอาภรณ์สีแดงไว้บนโต๊ะ

“ชอบหรือไม่ ผ้าต่วนผืนนี้ แพงยิ่งนัก แม่เก็บเงินตั้งหลายเดือนกับพ่อเจ้า ซื้อของขวัญให้เจ้า” จูจูมองอย่างซึ้งใจ

“ขอบคุณท่านพ่อท่านแม่ มากเจ้าค่ะ”

นางรู้สึกชอบอาภรณ์ผืนนี้ยิ่งนัก

“เจ้าชอบก็ดีแล้ว ปีนี้เจ้าอายุสิบแปดปี แม่ขอให้ลูกแม่มีความสุข” นางสวีอวยพรบุตรสาว จูจูยิ้มให้มารดาอย่างอ่อนโยน

“พ่อก็เช่นกันนะลูก”

นางมีความสุขจริงๆ ที่บิดามารดาใส่ใจ ถึงเพียงนี้ ในคืนนั้นหิมะตกลงมาอย่างหนัก ทั้งสามคนรีบปิดประตูเรือนทันที จากนั้นก็นอนเตียงใครเตียงมัน จูจูนอนห่มผ้าห่มฟังเสียงหิมะตกด้านนอก คืนวันคล้ายวันเกิดนางหิมะตกอีก กะว่าจะคุยกับท่านพ่อท่านแม่จนถึงรุ่งสางเสียหน่อย…

เช้าวันต่อมาแสงอาทิตย์ส่องลงมาอย่างเจิดจ้า จูจูรีบตื่นขึ้นมาหุงหาอาหารไว้บิดามารดาทันที ดูเหมือนว่าวันนี้บิดาคงต้องออกไปตัดฟืนคนเดียวกระมัง

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ปิ่นหยก

ข้อมูลเพิ่มเติม
ข้าอยากเป็นภรรยาเจ้า

ข้าอยากเป็นภรรยาเจ้า

โรแมนติก

5.0

เซียวหรูอวี้กับโอวหยางหลิงหลง เรื่องข้ามภพข้ามชาติมาเป็นชายาอ๋อง เรื่องข้าอยากเป็นภรรยาเจ้า เป็นเรื่องบุตรสาวของเซียวหรูอวี้ คือท่านหญิงเปยเปยกับอวครักษ์จาง เรื่องราวระหว่างท่านหญิงกับองครักษ์ที่มีความรักให้กัน คนทั้งคู่จะได้มีวาสนาได้ครองรักกันหรือไม่? ................................................................................................................................................................ ใต้น้ำ ชายหนุ่มกอดหญิงสาวไว้ ริมฝีปากรีบประกบปากนาง ทั้งคู่มองหน้ากันแม้จะอยู่ใต้น้ำ เขาต้องต่อลมหายใจให้นาง ถ้าขืนโผล่หน้าขึ้นไปพวกมันอาจซุ่มอยู่ก็เป็นได้ การประกบริมฝีปากอยู่ใต้น้ำช่างเนิ่นนานเหลือเกิน พรึ่บ! ในที่สุดทั้งคู่ก็โผล่หัวออกมาจากใต้น้ำ หญิงสาวหายใจเฮือกใหญ่ “ข้าหนาว พาข้าขึ้นฝั่งที” ชายหนุ่มไม่รอช้า เขาพานางขึ้นฝั่ง เขาพานางขึ้นฝั่งแล้วเข้าไปในถ้ำ โชคดีในถ้ำเหมือนจะมีคนเคยมาพักที่นี่ ทิ้งฟืนไว้จำนวนมาก หญิงสาวนั่งตัวสั่น นางหนาวเหลือเกิน “เจ้าถอดเสื้อผ้าออกเถอะ” ชายหนุ่มหันไปบอกหญิงสาว แต่ในมือยังคงก่อไฟ เป่ยเป่ยได้ยินดังนั้นก็ปลดอาภรณ์สีแดงเพลิงออกเหลือเพียงแค่เอี๊ยมสีชมพู หญิงสาวนั่งผิงไฟอย่างเขินอาย จีนโบราณ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

โรแมนติก

5.0

เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"

สุดที่รักของจักรพรรดิ

สุดที่รักของจักรพรรดิ

โรแมนติก

5.0

หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

โรแมนติก

5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

หัวใจกรุ่นไอรัก

หัวใจกรุ่นไอรัก

โรแมนติก

5.0

อันนากำลังจะเดินตามรอยของแม่อย่างนั้นหรือ ไม่ใช่ซะหน่อย ก็แม่ของเธอหนีจากพ่อไป แล้วค่อยตั้งท้องไม่ใช่หรือ แต่ตัวเธอน่ะ ท้องแล้วค่อยหนีต่างหาก ท้องกับใครไม่ท้อง ดันท้องกับคนที่เห็นกันมาตั้งแต่เด็กอย่างนายแพทย์อาร์เธอร์นี่ยังไงเล่า เนื้อหาจากบางช่วงบางตอน “เดี๋ยวก็ได้โดนของแข็งนี่หรอก” อันนาเอ่ยถามทั้งที่ตัวเองยังพาดอยู่บนตัวของเขา “ของอะไรล่ะที่ว่าแข็งน่ะ” อาร์เธอร์มองสบตาคนที่เอ่ยวาจาท้าทายเขา ขยับขาตั้งชันขึ้นให้ได้มุม แล้วดันส่วนที่เป็นของแข็งของตัวเขาเองบดเบียดที่ท้องน้อยของคนอยากลองดีเน้น ๆ หนัก ๆ อันนาสะท้านเบา ๆ เมื่อรู้สึกได้ถึงของแข็งที่เขาบอก ตอนนั้นเองที่เกิดความคิดซุกซนอยากเอาชนะผุดขึ้นในหัว เธออยากจะผลักเขานอนลงนิ่ง ๆ แล้วเปิดดูให้รู้ไปเลยว่าอะไรที่มันแข็งได้ขนาดนั้น แต่ยังไม่ได้ทำอย่างที่ใจอยาก ก็จำต้องร้องเรียกเขาด้วยเสียงที่สั่นน้อย ๆ เพราะแรงบดเบียดจากเขาจริงจังมากขึ้น “อาร์ธ” อาร์เธอร์ไม่ตอบรับเธอด้วยคำพูดสักคำ แต่ดวงตาสีฟ้าของเขาดูเข้มแสงวาววับมากยิ่งขึ้น และเธอก็ไม่มีโอกาสได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น อันนาถูกมือของเขาวาดขึ้นตรงท้ายทอยอย่างแม่นยำ พร้อมกับดึงลงไปหา แล้วปากของเธอก็ถูกปากของอาร์เธอร์ทาบทับปิดลงอย่างพอดิบพอดี “อี๊” เธอขืนตัวหนี พร้อมกับร้องโวย ยกกำปั้นทุบลงที่อกแข็ง ๆ ของอาร์เธอร์ แต่แล้วกลับถูกเขาบดจูบหนักกว่าเดิม ลึกซึ้งกว่าเดิมเสียอีก เป็นจูบที่ไม่ให้เธอได้ตั้งตัวเอาเสียเลย

 เกิดใหม่เป็นแม่หม้ายที่สามีทิ้ง

เกิดใหม่เป็นแม่หม้ายที่สามีทิ้ง

โรแมนติก

5.0

ชาติภพก่อนนางต้องสูญเสียลูกและสามีเพราะคนร้ายกราดยิงในห้าง จนนางเลือกจบชีวิตโดยการฆ่าตัวตายตาม พอเกิดชาติใหม่ก็มาอาศัยร่างที่ใบหน้าเหมือนตัวเองแถมมีลูกสาวที่หน้าเหมือนลูกสาวภพก่อนแต่กลับถูกสามีทิ้งให้มาอยู่ลำพังบนเขาจนอดข้าวตาย นางที่ได้มาอาศัยร้าง สัญญาว่าจะดูแลบุตรสาวคนนี้ให้ดีที่สุด และหวังว่าจะเจอสามีนางในภพเช่นกัน หญิงหม้ายเช่นนางจะดูแลบุตรสาวด้วยตัวเอง... "ท่านแม่กอดเอวของท่านพ่อเอาไว้แบบนี้ห้ามปล่อยนะเจ้าคะ ถ้าท่านแม่กอดเอวท่านพ่อก็จะได้กอดถิงถิงไปด้วย" เสียงเล็กของสาวน้อยที่นั่งตรงกลางระหว่างเจินเป่าและเหนียงไป๋กล่าวบอกผู้เป็นมารดาด้วยน้ำเสียงแจ่มใส เหนียงไป๋จึงไม่มีทางเลือกต้องพยักหน้ารับและทำตามที่บุตรสาวบอกแต่โดยดี ******************* นิยายสนุก น่ารัก อบอุ่นหัวใจ ดีต่อสุขภาพ แวะมาอ่านกันเยอะๆ นะคะ

One night Stand แค่แฟนคืนเดียว

One night Stand แค่แฟนคืนเดียว

มหาเศรษฐี

5.0

นายนิโคลัส เคลดัลซ่าร์ คนสนิทมักเรียกเขาว่านิค อายุ 32 ปี เขาเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์น่าค้นหา ด้วยหน้าตาที่เป็นลูกครึ่งไทยอังกฤษ ยิ่งทำให้น่าหลงใหล เขามีรูปร่างสูงใหญ่กำยำ จมูกโด่งเป็นสันนัยน์ตาสีฟ้า สะกดทุกสายตาที่จ้องมอง เขามีน้องสาวหนึ่งคนชื่อนิโคล เมื่อบิดาเสียชีวิตลงด้วยโรคร้าย เขาจึงกลับมาดูแลและสานต่อธุรกิจที่เมืองไทย ครอบครัวของเขาทำเกี่ยวกับผลไม้แปรรูปหลายชนิด เขาเป็นชายหนุ่มที่สาวๆ ต่างก็หมายตา แต่ดูเหมือนว่าเขานั้นจะไม่เคยมองใคร นอกจากเธอผู้หญิงคนนั้น หล่อนขอให้เขาช่วยเป็นแฟนเธอแค่คืนเดียว โดยที่เขานั้นได้เสนอข้อแลกเปลี่ยน ด้วยการมีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับเธอ ภายใต้เงื่อนไขแค่วันไนท์สแตนด์ จบแล้วแยกทางไม่มีอะไรค้างคาใจ และที่เขานั้นต้องแปลกใจคือเธอยอมตกลงอย่างง่ายดาย ที่สำคัญกว่านั้นนิโคลัสยังได้เป็นผู้ชายคนแรกของเธอ นางสาวพริมโรส มารยาทงามเลิศ ทุกคนมักจะเรียกเธอว่าพิมพ์ เธออายุ 23 ปี เรียนมหา'ลัยปีสุดท้าย อีกไม่นานเดือนกว่าก็จะจบแล้ว เธอเป็นสาวสวยหุ่นเซ็กซี่ ลูกครึ่งไทยเยอร เธอถูกอบรมเลี้ยงดูแบบไทยแท้ มารดาของเธอสอนให้รักนวลสงวนตัว เมื่อนางเคยพลาดพลั้งมีอะไรกับบิดาของพริมโรสจนตั้งครรภ์ เพราะความรักทำให้คนตาบอด เมื่อมารดาของเธอได้รู้ความจริงว่าชายอันเป็นที่รักนั้น เขาแค่หลอกลวงหวังแค่เสพสมจากกายของเธอ เขาไม่ยอมรับทารกน้อยในครรภ์ แต่นางก็อดทนกล้ำกลืนเลี้ยงดูพริมโรสจนเติบใหญ่ ได้อย่างสง่างามเธอสวยอย่างมีคุณภาพและทรงคุณค่าในตัว แต่ทว่าทุกอย่างกลับซ้ำรอยเดิม เมื่อพริมโรสเสียใจที่แฟนหนุ่มคบหาดูใจกันมานานถึงเจ็ดปี ตั้งแต่สมัยมัธยมปลายจวบจนจะจบปริญญาตรี แค่เธอไม่ยอมชิงสุกก่อนห่าม เขากลับประชดด้วยการนอกกายนอกใจเธอ มิหนำซ้ำผู้หญิงคนนั้นคือเพื่อนสนิทของพริมโรส หญิงสาวเสียใจจนแทบเสียสติ และแล้วเธอก็ประชดแฟนเก่าด้วยการหาใครสักคนมาเป็นแฟน เธอหวังเพียงแค่อยากแสดงให้เขาได้รู้ว่าเธอนั้นไม่แคร์ จนกระทั่งเธอยอมตกปากรับคำ มีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับนิโคลัสผู้ชายที่พบกันในผับ ที่สำคัญเธอนั้นไม่รู้จักกับเขามาก่อน.. ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ