Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เนเฟอร์ติตี รักนี้ชั่วนิรันดร์

เนเฟอร์ติตี รักนี้ชั่วนิรันดร์

aksaramanee

5.0
ความคิดเห็น
369
ชม
95
บท

เมมนอน ราชองครักษ์หลวงแห่งฟาโรห์รามเสสมหาราช ผู้มีหัวใจรักมั่นคงต่อเจ้าฟ้าหญิงเนเฟอร์ติตี หากเมื่อถูกหักหลัง รักจึงกลายกลับ เป็นความเคียดแค้นชิงชังอย่างมิอาจเลี่ยง เนเฟอร์ติตี เจ้าฟ้าหญิงแห่งนครธีปส์ พระราชธิดาในฟาโรห์รามเสสและพระมเหสีเอกเนเฟอร์ตารี พระชนมายุ ๑๗ ชันษา หัวใจของนางมอบไว้แด่ราชองรักษ์หลวงเมมนอนผู้เดียวเท่านั้น “เมมนอน…เกิดอะไรขึ้น…ท่านบาดเจ็บ” “อย่ามาแสร้งว่าท่านเป็นห่วงเป็นใยข้าเจ้าหญิงเนเฟอร์ติตี !” เมมนอนคำรามลั่นพร้อมทั้งดึงข้อพระบาททั้งสองจนร่างทั้งร่างของเจ้าหญิงเซเข้าหาร่างสูงใหญ่ เนเฟอร์ติตีสั่นไปหมดด้วยไม่เคยเห็นชายหนุ่มโกรธมากขนาดนี้ หากดูเหมือนทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้ว เขาไม่สนใจแม้แต่น้ำพระเนตรของเจ้าหญิงซึ่งเคยเป็นที่รัก มีแต่จะเดือดดาลและบีบข้อพระหัตถ์แรงขึ้น “เมมนอน…. ท่านเป็นอะไรไป ข้าเจ็บ!” “เนเฟอร์ติตี…ท่านคงรู้เห็นกับรามเสสส่งคนไปกำจัดข้าในการเดินทางครั้งนี้ แสร้งทำดีให้ข้าไปอาบูซิมเบลแล้วตลบหลังด้วยการส่งนักฆ่าขึ้นไปบนเรือหลวง เท่านั้นไม่พอ พวกท่านอำมหิตนักแม้แต่ทหารที่ไปกับข้าก็ไม้ละเว้นชีวิตเพื่อให้ใครๆเข้าใจว่านี่เป็นการปล้นสะดมต์ บอกข้าสิเนเฟอร์ติตี…บอกข้าว่าหัวใจของท่านทำด้วยอะไรถึงได้โหดร้ายยิ่งกว่าอนูบิส!” “หยุดปรักปรำข้าเดี่ยวนี้! ข้าไม่รู้ไม่เห็นสิ่งใดที่ท่านกล่าวมา ท่านน่าจะรู้ว่าข้ามิเคยคิดจะทำอะไรเช่นนั้น” เสียงนางอ่อนลงในตอนท้ายราวจะบอกให้รู้ว่าความอาลัยนั้นยังติดลึกในใจมากเหลือเกิน หากสำหรับราชองครักษ์หนุ่มกลับคิดตรงกันข้าม เนเฟอร์ติตีก็เหมือนน้ำผึ้งอาบยาพิษ นางแสร้งทำให้เขาสงสารเพื่อคิดจะพล่าผลาญวิญญานของเขาในภายหลัง “ข้าเคยหลงเชื่อพวกท่าน ยอมมอบชีวิตและความภักดีแก่องค์สมมติเทพแห่งอมุน-รา เป็นนายทหารที่ยอมตายแทนองค์เหนือหัวได้ทุกเวลา... และสำหรับท่าน ข้าก็ได้มอบความรักอย่างชายคนหนึ่งที่พึงรักหญิงเดียวอย่างสุดหัวใจ หากแต่สิ่งที่ข้าได้กลับคืนก็แค่คำลวงและความทรยศหักหลัง ท่านจงรู้ไว้ว่าข้าหมดสิ้นแล้วซึ่งความไว้วางใจ ระหว่างท่านกับข้าให้มันเหมือนสายน้ำไนล์ที่ไหลไปไม่มีวันหวนคืน!”

บทที่ 1 ตอนที่ 1

ใต้เวิ้งฟ้าอันสุกสกาวและพราวพร่างด้วยหมู่ดาวราวเปล่งรัศมีแข่งกันบนผืนกำมะหยี่สีนิลเหนือเมืองธีบส์นครหลวงแห่งอาณาจักรอียิปต์อันไพศาลราวอยู่ในแดนสรวง แสงสว่างจากคบไฟยังคงสาดประกายตามทางเดินในตำหนักหลวงที่มีทหารยามคอยเฝ้าระแวดระวังในราตรีอันเงียบสงบภายในมหาราชวังอันโอ่อ่าแห่งนี้

แม้ย่ำค่ำบรรยากาศจากเบื้องบนจะลดต่ำลงแล้วหากทว่าละอองไอร้อนจากผืนทรายเบื้องนอกยังคงขับไออุ่นโอบล้อมรอบพระราชวังอยู่มิคลาย

นางสนมวัยกลางคนยังคงเดินเข้าออกภายในห้องบรรทมของตำหนักชั้นในซึ่งเจ้าของยังยืนมองเหม่อที่ริมระเบียงออกไปยังสายนทีแห่งไนล์ที่ยังคงไหลเอื่อยอยู่เบื้องนอก เนเฟอร์ติตีทรงหันไปทอดพระเนตรพระนม คูอิต เป็นบางครั้งและทรงแย้มพระโอษฐ์บ้างด้วยพึงใจ

ตั้งแต่ทรงพระเยาว์จวบจนบัดนี้พระนางมีประชนมายุเต็มสิบเจ็ดชันษาแล้ว คูอิต ก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่ของนางมิเคยบกพร่อง นางได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยจากฟาโรห์รามเสสและพระนางเนเฟอร์ตารีซึ่งเป็นพระชนกและพระชนนีให้ดูแลทุกอย่างนับแต่ลืมพระเนตรจวบจนบรรทมนั่นแล้ว

ฟ้าหญิงแห่งธีบส์ภายใต้ฉลองพระองค์อันเป็นพระภูษาทอจากด้ายปอเป็นลินินเนื้อบางยาวกรอมพระบาทขับพระฉวีสีน้ำผึ้งให้เปล่งปลั่งใต้แสงสีอำพันของคบเพลิง พระขัตติยาในขวบปี ๑๗ ชันษางดงามราวดอกไม้เบ่งบานในโอเอซิสกลางทะเลทรายด้วยพระพักตร์รูปไข่ล้อมกรอบดวงเนตรกลมโตใต้พระขนงลาดโก่งดุจคันศรรับกับพระนาสิกโด่งงามกลางพระปรางอิ่มและริมโอษฐ์หนาได้รูป พระเกศาประกายทองแดงนั้นได้รับการถ่ายทอดมาจากพระบิดาสะท้อนความเงางามยามต้องแสงเงินยวง

“ถึงเพลาบรรทมแล้วนะเพคะ องค์หญิง”

คูอิตคุกเข่าลงกับพื้นหินเยียบเย็นขณะใช้ปลายนิ้วบรรจงจัดแต่งชายพระภูษาเบาบางอย่างบรรจง

“เรายังไม่ง่วงเลย คูอิต...เราอยากยืนชื่นชมความงามของแม่น้ำในยามค่ำคืนเช่นนี้”

“พระองค์ยังมีเวลาชื่นชมความงามนี้ได้ในอีกหลายราตรี หม่อมฉันเกรงว่าหากมิทรงยอมเข้าบรรทม พระมารดาอาจกริ้วที่คูอิตปฏิบัติหน้าที่ได้หละหลวม”

“คูอิตชอบอ้างเสด็จแม่เสียเรื่อย เราโตเป็นสาวออกป่านนี้ ก็ยังเห็นว่าเราเป็นเด็ก”

”องค์หญิงเนเฟอร์ติตีเพคะ...ไม่ว่าพระชมมายุของพระองค์จะเพิ่มขึ้นอีกกี่ชันษา พระมเหสีเนเฟอร์ตารีก็ยังทรงเห็นว่าพระองค์ยังทรงเยาว์อยู่เช่นนั้น แม้แต่หม่อมฉันเองก็มิเคยเห็นว่าเจ้าหญิงผู้เลอโฉมของหม่อมฉันจะแตกต่างไปสักเท่าใดจากวันวาน”

“เราไม่เคยได้ออกไปนอกราชวังหลวงเลย คูอิต...ข้างนอกนั่นคงกว้างไกล ดูสายน้ำไนล์คล้ายกำลังโบกมือให้เราออกไปค้นหา เจ้าจะทำอะไรก็ทำไปก่อนเถิด เราอยากมีเวลาเพียงครู่ชื่นชมความงามในยามราตรี...แค่ไม่ถึงชั่วยามก่อนเราจะเข้านอน”

“เพคะ...”

พระนมก้มหน้ารับบัญชาก่อนถอยออกไปขณะที่เจ้าหญิงแรกรุ่นยังทรงทอดพระเนตรข้ามเวิ้งฟ้าที่ลาดลงไปบรรจบกับผืนธาราอันอุดมสมบูรณ์ซึ่งหล่อเลี้ยงดินแดนสองฟากฝั่งลุ่มน้ำไนล์มานับพันปี เนเฟอร์ติตียังทรงคาดหวังถึงความฝันอันงดงามเบื้องหลังกำแพงหินแห่งมหาวิหารของนครธิบส์ นางคือธิดาผู้เป็นที่รักยิ่งของฟาโรห์รามเสสที่สองซึ่งประสูติแต่พระนางเนเฟอร์ตารีมเหสีเอก ความรักเป็นล้นพ้นจากพระราชบิดามิเคยให้พระฉวีผุดผาดนั้นได้สัมผัสกับไอดินและรอยทรายแม้เพียงสักหน

หากแต่นั่นคือทั้งหมดที่นางปรารถนา ความนึกคิดของเจ้าหญิงองค์หนึ่งยังติดลึกอยู่ในห้วงกาลแห่งเสรีภาพไม่เว้นแม้แต่ความรักที่ก็ยังทรงเฝ้ารอ ใครคนนั้น ด้วยความหวัง วันหนึ่งนางอาจพบรักแท้จาก ใครสักคน ที่มิใช่เจ้าชายต่างเมืองดังที่พระบิดาเคยวาดวันเวลาแห่งอนาคต

“คูอิต...อย่าลืมดอกไม้และเครื่องหอมเสียเล่า พรุ่งนี้เราจะนำไปบูชาเทพอมุน ราที่วิหารคาร์นัค”

เสียงตรัสนั้นราวล่องลอยอยู่ในสายลมและยังเพียงความเงียบงันที่ทำให้นางรับรู้ถึงสิ่งผิดปกติ

“คูอิต...”

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ aksaramanee

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ