Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
สะใภ้ป้ายเเดง

สะใภ้ป้ายเเดง

dxsong

4.5
ความคิดเห็น
22.5K
ชม
43
บท

จะทำยังไงเมื่อตื่นมาต้องมีคู่หมั้นเเถมยังเป็นคนที่หน้าเกรงขามที่สุด มีคู่หมั้นทั้งทีทำไมต้องเป็นคนนี้ด้วยชีวิตคู่จะเป็นยังไงเมื่อมีคู่หมั้นอย่าง เปรม ปรเมศ เเล้วคนอย่างเปรม ปรเมศจะสนอะไรใครล่ะ เเบบนี้ผมต้องทำยังไง?

บทที่ 1 01 สะใภ้ป้ายเเดง

8.00 น.

กริ้งงง! กริ้ง~ กริ้ง~

โว้ยยยอะไรวะเนี่ยนี่มันวันหยุดไม่ใช่หรือไงทำไมถึงได้มีคนโทรจิกตั้งเเต่เช้าด้วย ผมบ่นในใจในขณะที่มือรีบคว้านหาโทรศัพท์ที่กำลังส่งเสียงดังจนรบกวนเวลานอนของผม ให้ตายสิถ้าไม่ใช่ธุระด่วนผมจะโกรธยันลูกบวชเลยคอยดู!

“ฮัลโหล! นี่เเกอยู่ไหนไอ้น้องเวร!!” เดี๋ยวนะ! พี่สาวโทรมาตอนนี้เนี่ยนะ?

“เฮ้ ใจเย็นสิ” ผมตอบกลับไปในขณะที่หลับตาอยู่

“ฉันถามว่าอยู่ไหน รู้ไหมนี่มันกี่โมงเเล้ว!” บ้าจริงจะรบกวนเวลานอนคนอื่นไปถึงไหนนี่มันเรื่องบ้าอะไรวะ

“เมฆก็อยู่คอนโดสิ เเล้วตอนนี้ก็เช้าอยู่ถ้าจะให้ไปธุระที่ไหนให้ ขอบอกเลยว่าไม่!” โทรมาเเต่ละทีคงมีไม่กี่อย่างไม่ใช้ไปโน้นก็ใช้ทำนี่

“นี่เเกลืมไปเเล้วหรือไงเมฆ ลุกไปเเต่งตัวเดี๋ยวนี้!”

“ลืม?” นี่ผมลืมอะไรไปหรือว่าผมเรียนมากไปจนจำอะไรไม่ได้เลย

“งั้นฉันจะบอกเเกเป็นครั้งสุดท้าย เเล้วช่วยลากสังขารเน่าๆของเเกมาเร็วๆด้วย” ผมได้ยินเสียงจริงจังของพี่สาวเเล้วชักใจไม่ดีหรือจะมีเรื่องไม่ดี?

“วันนี้วันเสาร์ใช่มันคือวันหยุดเเก เเต่ไม่ใช่วันนี้เพราะเเกต้องไปกับคุณเปรมไงไอ้น้องเวร!!”

“เวรเเล้ว!!” ผมเด้งตัวลุกตื่นเต็มตาทันทีผมเพ้าไรยุ่งหมดตอนนี้ไม่ใช่เวลาตกใจมันคือเวลาซวย ซวยเเน่ๆไอ้เมฆ!

“ใช่! เวรเเน่ๆคุณเปรมรอเเกที่ร้านดูชุดตอนนี้จะครึ่งชั่วโมงเเล้ว”

“เจ้ คะ..คือเมฆไม่ไปได้ไหม”ใช่ เขาคือเปรม ปรเมศ คนที่ใครๆต้องก้มหัวให้เเต่ผมกลับลืมนัดตั้งเเต่วันเเรก

“หยุดความกลัวเเล้วรีบไปเเต่งตัว เเกจะไปเป็นสะใภ้บ้านเขาเเต่กลับสายตั้งเเต่วันเเรกฉันจะเเก้ตัวให้เเกยังไงดีห๊ะ!?” เสียงเจ้บ่นออกมาไม่หยุดหูผมมันไม่ได้ฟังเสียงบ่นเลยสักนิดในหัวคิดเเต่จะเเก้ตัวยังไง ถ้าเจอเเล้วเขาจะเป็นยังไงมันหยุดคิดไม่ได้จริงๆ

“เมฆเเกฟังฉันอยู่รึป่าว?”

“อะ..อืมฟังอยู่” ปากขยับเเต่ในใจจะร้องไห้เเล้ว

“ฉันให้เวลาเเก 20 นาที เดี๋ยวฉันจะไปรับที่คอนโดเเล้วจะไปส่ง เเค่นี้” ติ๊ด! เชี่ยยเเล้ว ผมรีบลุกเข้าห้องน้ำจัดการตัวเองให้เรียบร้อยทันที

ผมจัดการตัวเองเสร็จผ่านไปครึ่งชั่วโมงรถพี่สาวผมก็มารับที่คอนโด ผมรีบเปิดประตูขึ้นไปทันที

“เจ้ เลื่อนไม่ได้หรือไง บอกว่าผมปวดท้องก็ได้” พยายามหาวิธีเเก้ปัญหาเพราะตอนนี้ไม่อยากเจอเขาจริงๆ

“เเกคิดว่าเขาเป็นใคร จะเชื่อเด็กอย่างแกรึไง”

“เเล้วทำไมต้องเป็นผมด้วย ผมยังเรียนไม่จบเลยนะ” ให้ตายสิผมยังเรียนอยู่เเต่กลับต้องมาเเต่งงานเข้าบ้านตระกูลใหญ่เนี่ยนะ? บ้าเเล้วต้องมีอะไรผิดพลาดเเน่ๆ

“หยุดคิดหยุดพูดสักที นั่งไปเงียบๆจะถึงเเล้ว” คำว่าจะถึงเล่นเอาหายใจไม่ทั่วท้องเลย ผมจะโดนว่าเป็นเด็กไม่มีความรับผิดชอบไหม “ลงไปได้เเล้วถึงเเล้ว อย่าลืมขอโทษคุณเปรมด้วย”

“จะ..เจ้” จะหันไปขอร้องสักหน่อยดูสีหน้าเเล้ว เฮ้อ “อืม รู้เเล้วน่า” ผมมองร้านขนาดใหญ่ก่อนจะก้าวเท้าลงจากรถ เเหมลงเเป๊ปเดียวขับออกไปไวเลยนะ

@ร้านJ

ร้านก็กว้างเกินเเล้วผมจะรู้ไหมวะว่าคุณเปรมไรนั้นอยู่ตรงไหน จะให้เดินหาให้ทั่วก็คงไม่ใช่เเล้วไหม สายตาผมกวาดมองไปรอบๆไม่มีใครโดดเด่นที่จะเป็นเขาคนนั้นเลย เดินหาจนจะทั่วเเล้วอยู่ไหนของเขาหรือว่าจะกลับไปเเล้ววะ? นั้นสิคนอย่างเขาคงไม่มานั่งรออะไรเเบบนี้หรอก หมุนตัวจะเดินกลับชนเข้ากับเเผงอกใครคนหนึ่งเข้า

“อ่ะ! ขอโทษครับ”ผมรีบกล่าวคำขอโทษไปทันที

“นี่เหรอสะใภ้ที่จะเเต่งเข้าบ้านฉัน?”

เสียงเข้มพูดออกมาเเค่ฟังน้ำเสียงก็เล่นเอาผมขนลุกไปทั้งตัว ใช่เเล้วนี่เเหละเขา เปรม ปรเมศ

“คะคือ เมฆขอโทษครับ เมื่อคืนเมฆปวดท้องมากๆ เลยมาสายนิดหน่อย” ผมแก้ตัวออกไปโดยที่ไม่มองดวงตาสีนิลของเขาเลยเเม้เเต่นิดเดียว

“ฉันให้เธอพูดอีกที”

ชิบหาย!ใช่เขาไม่ใช่คนที่ใครจะมาหลอกเขาได้ ซวยเเล้วไอ้เมฆ

“เมฆลืมครับ” ผมตอบกลับไปทันที มือบีบเข้าหากันเเน่นเป็นวันเเรกที่กดดันสิ้นดี

“เมฆตื่นสาย ขอโทษที่โกหกครับ” ผมกัดปากแน่นเมื่ออีกคนยังคงเงียบ

“ถ้ามีอีกครั้ง..”เขาเงียบไปผมเงยหน้าขึ้นมองเขากลับต้องนิ่งค้างทันทีกับสายตาที่จ้องมองผมเหมือนสายตาเขาไม่เคยละจากผมเลย “เธอเจอดีเเน่”

“คะครับ เข้าใจเเล้ว” ตอบกลับยังเสียงสั่นเลยไอ้เมฆเอ้ย ต่อไปจะอยู่ได้ไหมวะ

“รีบไปจัดการในส่วนของเธอ” ผมลืมไปเลยว่าต้องไปลองชุด มันต้องใช้เวลานิจะให้นั่งรอก็กดดันเปล่าๆ

“คุณเปรมกลับก่อนเลยก็ได้ครับ เมฆว่ามันคงอีกนนาน” พูดเเค่นี้ถึงกับจ้องหน้าเลยเหรอวะ หรือเราพูดอะไรไม่เข้าหูคนหวังดีนะเนี่ยกลัวจะรอนาน

“มันเป็นหน้าที่ฉัน ฉันจะรอ” โอเคคงไม่มีใครขัดใจเขาหรอก

ผมลองชุดเเละเลือกอะไรไปเรื่อยๆทั้งยืนทั้งหมุนเมื่อยขาไปหมดแล้วง่วงก็ง่วง อยากนอนด้วย หิวด้วยขอบ่นหน่อยเหอะอะไรเยอะเเยะไปหมด มือผมปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีขาวออก เพราะนี่คือชุดสุดท้ายเเล้วที่ผมลองในที่สุดจะได้กลับไปนอนสักที เสื้อเชิ้ตสีขาวตกลงไหล่ขาวก่อนทีจะถอดมันออกมือชะงักทันที

“เสร็จรึยัง?”

ให้ตายสิเขาเข้ามาตอนไหนผมรีบดึงเสื้อใส่อีกครั้งเเต่กระดุมนี่สิกลัดยังไงให้ทัน

“กะใกล้เเล้วครับ คุณเปรมออกไปรอข้างนอกก็ได้ครับ” ทำไมเสียงต้องสั่น เเล้วทำไมเขาเดินเข้ามาบอกให้รอข้างนอกไง

“ทำไม ฉันรอเธอในนี้ไม่ได้?” ผมกัดปากแน่นในขณะที่เขายืนซ้อนหลังผมเเผงอกกว้างกระทบกับเเผ่นหลังผมรับรู้ถึงร่างกายตัวเองที่สั่นทันที

“หื้ม? ว่าไง” เขาก้มลงกระซิบข้างหูพร้อมกับเเขนเเกร่งที่เข้ามาโอบเอว

“อะเอ่อ ขยับออกไปได้ไหมครับจะเปลี่ยนชุด” ตอบกลับไปเสียงสั่น

“หึ ยังไงฉันก็ต้องเห็นมากกว่านี้” เขาก้มลงจูบไหล่ผมเบาๆ

“หรือว่าไม่จริง?”

“ปะ..ปล่อยก่อนครับ” ผมสะดุ้งทันทีเมื่อริมฝีปากอีกคนประทับลงบนไหล่ขาวของผม มือเล็กพยายามเเกะเเขนแกร่งที่โอบรอบเอวผมเเน่นปลายนิ้วเริ่มถูวนตามหน้าท้องไปมา

“อ๊ะ! คุณเปรม!” เขาหมุนตัวผมให้หันหน้าเข้าหาผมตกใจจนเผลอสบตากับเขา ใบหน้าเเบบนี้เหมือนสร้างมาเพื่อเขาโดยเฉพาะทั้งปาก จมูก เเละดวงตาที่ไม่อาจละสายตานั้นมันทำให้ผมตั่วสั่นจนเเทบจะล้มพับลงกับพื้นถ้าไม่ติดที่ว่ามีเเขนของใครอีกคนประครองร่างของผมไว้อยู่

“หึ กลัวงั้นเหรอ” ริมฝีปากอีกคนขยับพูดจนจะชิดกับต้นคอ นิ้วยาวบีบเบาๆตามคางของผม

“ไม่ดีมั้งถ้าเมียจะกลัวผัวเเบบนี้”

มือเรียวจับขยุ้มเสื้ออีกคนไว้เเน่นผมเริ่มกลัวเขาเเล้วจริงๆไม่คิดเลยว่าเขาจะอันตรายขนาดนี้มือใหญ่บีบปลายคางผมให้เเหงนขึ้นให้สายตาผมอยู่ระดับเดียวกับสายตาของเขา

“จะทะ..อื้อ!” ริมฝีปากหนากดจูบลงอย่างเร็วปลายนิ้วเเกร่งบีบคางผมจนปวดริมฝีปากหนาบดขยี้ดูดกัดตามขอบปากล่างจนผมเผยปากออกจังหวะนั้นลิ้นร้อนของอีกคนเข้ามาดูดตวัดลิ้นเล็กดูดดึงจนเกิดเสียง

“อ่ะ..อื้อ” เหมือนจะขาดใจเก่งไปเเล้วเขาเก่งเกินไปมือผมทุบอกเขาไปหลายทียิ่งผมทุบเขายิ่งกดริมฝีปากดูดดึงเเรงขึ้นอีกเท่าตัวตอนนี้ขาผมเหมือนจะไม่ไหวเเล้วมันจะล้มพับให้ได้เลยให้ตายสิ

“ปะปล่อย อื้อ” เขาผละออกจากริมฝีปากผมที่น่าจะบวมแดงด้วยการจูบก่อนจะขยับปลายจมูกสูดดมตามซอกคอขาวริมฝีปากหนากดจูบตามลำคอฟันคมขบกัดตามรอยจูบไล่ลงมาตามไหล่ขาวเนียน ตอนนี้ทั้งรอยดูดรอยฟันประปรายตามลำคอขาวถึงจะปกปิดเเค่ไหนก็คงเห็นอยู่ดี ขาเล็กเหมือนจะไม่มีเเรงล้มพับนั่งลงกับพื้นทันที

“อึก! ทะทำไมต้องผม” ใช่ทำไมต้องผมที่ต้องมาเเต่งงานกับคนเเบบเขา ไม่ใช่เลยสักนิดผมถามออกไปทั้งเสียงสั่นๆนี่เเหละ

“นั้นสินะ ทำไมต้องเธอ”

ร่างสูงใหญ่ก้มลงมาพร้อมกับปลายนิ้วที่ถูตามคอขาวลูบตามร่องรอยที่แดงช้ำจนเห็นรอยฟันได้ชัด

“เเล้วฉันมันไม่ดีตรงไหน หื้ม?”

ร้ายกาจคนคนนี้ร้ายกาจจริงๆดวงตาสีนิลจ้องมองผมเหมือนไม่พอใจในสิ่งที่ผมถามไป ทำไมล่ะผมจะสงสัยไม่ได้เลยหรือไง อยู่ๆผมต้องมาเเต่งงานกับเขา เขาทั้งเพอร์เฟคสาวๆเหรอเหอะเเค่กระดิกนิ้วคงวิ่งมาหาเป็นเเถวเเล้วมั้ง

“เอาล่ะเด็กดีลุกขึ้นสักทีฉันไม่ว่างพอจะมามองเธอนั่งเเบบนี้ทั้งวันหรอกนะ” มือใหญ่ลูบตามแก้มขาวพร้อมกับตบเรียกสติเบาๆทำให้ผมหลุดออกจากความคิดทั้งหมดทันที

“ออกไปก่อนผมจะเเต่งตัว” ผมบอกออกไปในขณะที่มือเล็กๆของผมกระชับเสื้อสีขาวไว้เเน่น

“10 นาที” หื้ม? อะไร 10 นาทีผมขมวดคิ้วสงสัยทันที

“ฉันคงเห็นเธอในสภาพที่ดีกว่านี้” พูดจบร่างสูงใหญ่เดินออกไปโดยไม่สนใจคนที่นั่งตรงนี้เลยสักนิด เกินไปเเล้วเขาทำเกินไปเเล้ว!

ผมรีบจัดการกับตัวเองทันทีทั้งตัวยังสั่นไม่หายเลยให้ตายสินี่คือครั้งเเรกที่เจอกันนะทำไมร้ายขนาดนี้ เเล้วไอ้รอยบ้านี่ทำไงให้หายไอ้เสื้อที่ผมใส่มาวันนี้ก็ปิดไม่มิดด้วยสิ ชีวิตนายเมฆา จบสิ้นเเล้ว เเต่งตัวเสร็จผมรีบก้าวเท้าออกจากห้องเเต่งตัวอย่างรวดเร็ว

“สะเสร็จเเล้วครับ” ผมมองร่างสูงใหญ่ที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์เขาลุกขึ้นยืนพร้อมกับกระดิกนิ้วเป็นเชิงบอกให้ผมเดินไปหา คิดว่าไงเหอะก็ต้องไปสิครับใครจะกล้าขัดใจเขา ไอ้ขาเจ้ากรรมนี่ทำไมต้องสั่นด้วยก็เเค่เดินไปหาเองทำเป็นสั่นไปได้

“ดะเดี๋ยวครับ!” พอผมเดินไปยืนข้างเขาเเขนเเกร่งก็โอบเอวผมเข้าไปใกล้จนหน้าผมจมอยู่กับอกเเกร่ง ทำไมเขาตัวสูงใหญ่ขนาดนี้

“อะไร?” เขาก้มลงถามผมอย่างท่าทีสบายเนี่ยนะ?

“ทำไมต้องโอบด้วยครับ” ปากเวรถามอะไรไร้สาระอีกแล้วอยากโดนอีกไง

“เเล้วทำไมฉันจะโอบไม่ได้?” ดวงตาสีนิลจ้องมองสบตาผมทำให้ผมเกร็งจนเผลอขยุ้มชายเสื้อราคาเเพงของเขา

“ในเมื่อทั้งตัวของเธอมันเป็นของฉัน” ปฎิเสธไม่ได้จริงๆในเมื่อผมคือคนในปกครองของเขาไปแล้ว

เผลอคิดอะไรไปตั้งมากมายรู้ตัวอีกทีก็โดนโอบเอวออกมาจากร้านเเล้วตั้งเเต่เมื่อไหร่วะเนี่ย เดี๋ยวนะเเล้วเขาจะพาไปไหนอยู่ๆก็เอามายัดในรถเเบบนี้ aston martin คันนี้คงจะลากใครขึ้นมาก็ได้ทั้งนั้นสินะ คนระดับเขาคงอยากทำอะไรคงเป็นเรื่องง่ายไปหมด เเม้กระทั่งเอาผมมานั่งในรถคันหรูคันนี้อย่างง่ายดาย

ปึ๊ก! เสียงปิดประตูรถเมื่อร่างกายอันสูงใหญ่ของเขาเข้ามานั่งข้างกายผมเป็นที่เรียบร้อย

“เราจะไปไหนกันครับ เมฆมีธุระต่อนะ” ผมพูดออกไปก็เเน่สิตอนบ่ายผมมีทำรายงานกับเพื่อนที่มหาลัย

“ที่ไหน?” นี่เขาจะไม่ตอบใช่ไหมว่าเขาจะพาผมไปไหนผมไม่มีเวลามานั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถเขาหรอกนะ

“ที่มหาลัยครับ” ผมได้ยินเขาตอบกลับเเต่ อืม อะไรของเขาวะเขาควรปล่อยผมกลับไปทำรายงานไม่ใช่ไงให้ตายสิไม่ใช่ตบไฟเลี้ยวเข้ามาในโรงเเรมหรูขนาดนี้

“ใส่ซะ” เขาโยนอะไรมาบนตักผมเหมือนจะเป็นเสื้อกันหนาวเเต่เเค่รู้ยีห้อเเละราคาก็น่าจะหนาวเเล้วจริงๆเเต่ไม่เข้าใจให้มาทำไมอากาศร้อนขนาดนี้ ผมยังคงขมวดคิ้วสงสัย

“หรืออยากโชว์ว่าเพิ่งโดนอะไรมา?”

มือเล็กรีบยกปิดทันทีก่อนจะรีบสวมเสื้อกันหนาวเเล้วรูดซิปขึ้นจนสุด

“เธอใส่เเบบนี้ก็น่ารักดี” ว่าจบปากหนาก็กดจูบบนกลุ่มผมนิ่มเเล้วลงจากรถไปมีเเต่ผมนี่เเหละนั่งนิ่งอยู่ตรงนี้

“จะให้ฉันไปอุ้มลงมารึไง” ได้ยินเเค่นั้นผมรีบลงมาอย่างรวดเร็วให้ตายสิเสื้อเขานี่ไซส์อะไรวะอยู่บนตัวผมทำไมมันลงมาถึงต้นขาขนาดนี้ บ่นไปก็เดินตามร่างสูงใหญ่ไปเงียบๆ

“สวัสดีครับคุณเปรมทางเราได้จัดตามที่คุณต้องการเเล้วครับ ชั้นบนสุดเชิญครับ” เสียงพนักงานพูดออกมาก่อนจะเดินนำไป

“เดินดีๆ” อ่าผมคงเหม่ออีกเเล้วสินะทำไมเสียงเขาน่ากลัวเเบบนี้ เเขนเเกร่งเข้ามาโอบเอวผมไว้เเน่นผมอดประหม่าไม่ได้จนเผลอกัดปากตัวเองเเน่น

“อ่ะ! คุณเปรม!” ผมตกใจอยู่ๆเจ้าของร่างใหญ่ก็ดันผมชิดผนังลิฟต์ นี่เราไม่ได้อยู่กันเเค่สองคนนะเขากล้าทำแบบนี้ได้ยังไง!

“ชู่วว”ปลายนิ้วหนาจรดริมฝีปากบางเล็กเหมือนบอกกลายๆว่าให้เงียบ

“อย่ากัดปาก ถ้าอยากให้มันเเตกฉันขอเป็นคนทำมันเอง”

“มะ..ไม่กัดแล้วครับ” อันตรายเขาอันตรายมากเกินไปจริงๆ ผมได้ยินเสียง หึ ในลำคอเขาพร้อมกับเสียงลิฟต์ที่เปิดออกพอดีมือเล็กรีบดันเเผงอกกว้างออกห่างทันที

“เชิญครับ” ผมหันไปมองวิวรอบๆบอกได้เลยว่าตรงนี้สวยงามมากจริงๆตึกที่สูงเหยียดฟ้าขนาดนี้ผมเคยไปก็ตั้งหลายที่เเต่เเปลกทำไมที่นี่ผมไม่เคยรู้จักเลย

“ชอบรึไง?” ผมสะดุ้งเซไปข้างหลังเล็กน้อยเเผ่นหลังผมปะทะกับอกแกร่งทันที

“เเค่บอกว่าชอบ ตึกนี้จะเป็นของเธอทันทีภายใน10 วิ” นั้นสินะคนอย่างเขาทำได้อยู่เเล้วเเต่เเบบนี้มันเกินไปแล้วเเค่ผมชอบเนี่ยนะ

“เมฆไม่ได้อยากได้” ผมตอบกลับไปทันที

“ฉันไม่ได้ให้ฟรี ทุกสิ่งจากฉันมันต้องเเลก”

“เมฆไม่มีอะไรจะมาเเลกหรอกครับ” นั้นสินะจะให้เงินเขาเหรอ อย่างเขาคงไม่ต้องการหรอกมั้ง

“เเน่นอนว่าเธอมี” อะไรวะที่บอกว่ามี?

“หลังจากนี้เธอมีสิ่งที่ฉันต้องการเเน่นอน”

เป็นครั้งเเรกที่ผมนั่งทานข้าวกับเขาบอกไม่ถูกทั้งอึดอัดเเละสิ่งที่เขาพูดมันคืออะไรเเต่ผมก็เลิกคิดแล้วล่ะยังไงผมก็ต้องอยู่กับเขาอยู่ดี พอออกมาจากโรงเเรมหรูกะจะขอเเยกกับเขาเลยเพราะต้องไปทำงานต่อที่มหาลัย

“งั้นเเยกเลยนะครับ เมฆจะไปทำงานต่อ”

“ขึ้นรถ” อะไรของเขาบอกว่าจะไปทำงานยังจะให้ไปไหนด้วยอีก

“ตะเเต่” โอเคไม่ต้องมองเเบบนั้นจะพาไปไหนก็ไปเลยเถียงอะไรไม่ได้อยู่เเล้วนิผมรีบก้าวขึ้นรถปิดประตูทันที

ผมเตรียมใจไว้เเล้วล่ะว่าวันนี้คงไม่ได้ไปช่วยเพื่อนเเน่นอนเดี๋ยวค่อยไลน์บอกพวกมันก็ได้ เฮ้อ เอาเเต่ใจจริงๆว่าเเล้วผมก็หยิบโทรศัพท์มากดบอกเพื่อนทันที

“คุยไรนักหนา” คุยไรล่ะก็ใครที่ทำให้ต้องผิดนัดเพื่อนเนี่ย

“ก็เมฆจะบอกเพื่อนว่าไปไม่ได้เเล้ว”

“แหกตาดูซะ” ผมรีบเงยหน้ามองทันที นี่มหาลัยผมนิ จะมาส่งมันพูดยากรึไง!

“อ้าว เมฆไม่ทันมองทางไม่คิดว่าคุณเปรมจะให้มา”

“อืม กี่โมง” อะไรกี่โมงของเขา อ๋อกลับกี่โมงสินะ

“อ๋อ เมฆน่าจะเสร็จตอนประมาณทุ่มนี่เเหละครับ ปกติเพื่อนไปส่งอยู่เเล้ว”

“คนนั้น?” ผมมองตรงไปที่ต้นไม้ต้นใหญ่อ่าไม่ใช่หรอก นั่นน่ะรุ่นพี่ที่ตามจีบผมต่างหากใครจะกล้าบอกว่ะว่ามีคนตามจีบ

“ไม่ใช่หรอกครับ คนนั้นรุ่นพี่ครับ”

“หึ งั้นเหรอ”

“งั้นเมฆไปก่อนนะครับ สวัสดีครับ อ้อ! เเล้วก็ขอบคุณอาหารมื้อนี้ด้วยนะครับ” ผมยกมือไหว้ก่อนจะยิ้มออกมาด้วยความจริงใจเเล้วก้าวเท้าลงจากรถ

“เดี๋ยว!” เท้าชะงักทันทีผมหมุนตัวกลับไปผมอาจจะลืมของบางอย่างสินะเเต่เขาเดินลงตามมาทำไม?

“มีอะ..อื้ม!” มือใหญ่บีบท้ายทอยเล็กเบาๆริมฝีปากหนากดจูบบดขยี้ริมฝีปากแดงเล็กทันทีดูดดึงขอบปากบนสลับล่างไปมาจนบวมเจ่อเเล้วผละออก

“นี่สำหรับพวกที่มันกล้าจะหวัง”

ดวงตาสีนิลจ้องมองใครอีกคนที่จงใจจะให้เห็นฉากนี้โดยเฉพาะปลายนิ้วใหญ่ลูบวนริมฝีปากที่บวมเจ่อไปมาด้วยความพอใจ

“เเล้วฉันจะมารับ”

พูดเเค่นั้นร่างสูงใหญ่ก็ขับรถออกไปทันที ให้ตายสิลืมไปได้ไงว่าไม่ได้มีเขาเเค่สองคนผมหันไปดูต้นไม้ต้นนั้นกลับไม่มีใครอยู่ซะเเล้ว หวังว่าคงไม่มีใครเห็นนะ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ dxsong

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

The devil's Lover  เล่ห์รักยัยตัวร้าย

The devil's Lover เล่ห์รักยัยตัวร้าย

Me'JinJin
5.0

ภีม ภีมวัจน์ อภิรักษ์วัฒนกุล ทายาทรุ่นที่ 3 แห่ง AK Group นักธุรกิจหนุ่มที่ได้รับรางวัลผู้บริหารหน้าใหม่ไฟแรงถึง 4 ปีซ้อน อายุ 26 ปี หล่อ รวย รักสนุกแต่ไม่คิดจะหยุดที่ใคร ใบหน้าหล่อเหลาที่แสนเย็นชาคือเสน่ห์ที่ดึงดูดสาวๆให้เข้ามาพัวพันกับเขาอยู่เสมอ ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าจบลงเพียงชั่วข้ามคืนเพียงเพราะเขายังไม่เจอคนที่ ถูกใจ จนกระทั่งวันหนึ่งที่โชคชะตาเล่นตลกให้เขาได้พบกับเธอ แม่สาววันไนท์ที่ใช้ลิปสติกเขียนบนใบหน้าของเขาด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย แถมยังเซ็นเช็คให้เขาถึงหนึ่งร้อยล้านบาทพร้อมยิ้มมุมปากบอกเขาว่าคือ ค่าตัว หลังจากวันนั้นเขาได้แต่ I told พระแม่ว่าขออย่าให้ได้พบ ได้เจอกับผู้หญิงคนนี้อีกเลยแต่ใครเลยจะรู้ว่าพระแม่ไม่แยแสต่อคำขอร้องของเขาด้วยซ้ำถึงได้ส่ง ตัวแม่ ตัวมัม มาล่อลวงหัวใจของ เขาให้สั่นไหวและตกหลุมรักเธอจนโงหัวไม่ขึ้น กอหญ้า การต์รวี พิสิฐกุลวัตรดิลก / เกียรติมงคลรัตน อายุ 21 ปี ลูกสาวฝาแฝดคนเล็กของแก้มใส พิสิฐกุลวัตรดิลก สาวน้อยแสนแสบและแสนซน ใครดีมาเธอดีตอบ ใครร้ายมาเธอฟาดกลับคืนหมดไม่สนลูกใครหน้าไหนทั้งนั้น ตัวแม่ ตัวมัมเรื่องความใจกล้า เสียตัวแล้วเสียไปเธอไม่เสียใจแถมเธอยังใจดีเซ็นเช็คค่าตัวให้เขาถึงหนึ่งร้อยล้านบาท พร้อมภาวนาต่อพระแม่ว่าเธอ I told ผู้ชายคนนี้พียงคนเดียวเท่านั้น และใช่พระแม่เห็นใจและเข้าใจเธอถึงได้ส่งเธอให้มาเจอกับเขา ผู้ชายปากร้ายแต่หน้าตาหล่อเหลาที่ทำให้เธอหลงเสน่ห์ของเขาจนอยากจะชวนขึ้นเตียงวันละหลายหน จากความคิดที่เพียงแค่อยากเล่นสนุกกลับกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ยากจะตัดใจและเธอเองก็ไม่เคยคิดที่จะตัดใจ ถ้าเธอล่อลวงหัวใจของเขามาเป็นของเธอไม่ได้ก็อย่ามาเรียกเธอว่าตัวแม่ตัวมัมอีกเลย คำเตือน ⚠️ Trigger Warning นิยายเรื่องนี้มีเนื่อหาการร่วมเพศอย่างชัดเจนรบกวนผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการเสพ

คุณนายยอมหย่าแล้ว

คุณนายยอมหย่าแล้ว

Calv Momose
4.9

หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"

ข้าไม่ใช่คนดีท่านอย่าได้หวัง

ข้าไม่ใช่คนดีท่านอย่าได้หวัง

จิรัฐติกาล
3.5

จางลี่สตรีเกิดมาพร้อมกับความเกลียดชัง บิดามารดาไม่รัก พี่สาวรังเกียจ รอบด้านทำร้ายร่างกาย ชาติภพนี้นางถูกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทำร้ายจนตาย เมื่อเกิดพบชาติใหม่อีกครั้ง นางก็ขอตอบแทบพวกเขาอย่างสาสม อย่าคิดว่าชาติภพนี้พวกเขาจะได้อยู่สุขสบาย นางในชาตินี้จะถนอมพวกเขาเป็นอย่างดี “ข้าไม่ใช่คนดี ท่านอย่าได้หวังว่าข้าจะดีเหมือนคนอื่น หากท่านปรารถนา พบสตรีที่ดีก็เชิญไปหาที่อื่น” บุรุษปริศนาที่ติดตามนางจะเลือกเส้นทางไหน แล้วนางจะตอบแทนพวกเขาเหล่านั้นเช่นไร รอพวกเขาหาคำตอบ แต่บอกได้เลยว่านางหาได้ใจดีเหมือนชาติที่แล้วไม่ “ข้าเตือนท่านแล้ว ว่าอย่าได้หวังว่าข้าจะเป็นคนดี”

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
สะใภ้ป้ายเเดง
1

บทที่ 1 01 สะใภ้ป้ายเเดง

24/02/2022

2

บทที่ 2 02 สะใภ้ป้ายเเดง

24/02/2022

3

บทที่ 3 03 สะใภ้ป้ายเเดง

24/02/2022

4

บทที่ 4 04 สะใภ้ป้ายเเดง

24/02/2022

5

บทที่ 5 05 สะใภ้ป้ายเเดง

24/02/2022

6

บทที่ 6 06 สะใภ้ป้ายเเดง

24/02/2022

7

บทที่ 7 07 สะใภ้ป้ายเเดง

24/02/2022

8

บทที่ 8 08 สะใภ้ป้ายเเดง

24/02/2022

9

บทที่ 9 09 สะใภ้ป้ายเเดง

24/02/2022

10

บทที่ 10 10 สะใภ้ป้ายเเดง

24/02/2022

11

บทที่ 11 11 สะใภ้ป้ายเเดง

07/03/2022

12

บทที่ 12 12 สะใภ้ป้ายเเดง

07/03/2022

13

บทที่ 13 13 สะใภ้ป้ายเเดง

07/03/2022

14

บทที่ 14 14 สะใภ้ป้ายเเดง

24/03/2022

15

บทที่ 15 15 สะใภ้ป้ายเเดง

24/03/2022

16

บทที่ 16 16 สะใภ้ป้ายเเดง

24/03/2022

17

บทที่ 17 17 สะใภ้ป้ายเเดง

24/03/2022

18

บทที่ 18 18 สะใภ้ป้ายเเดง

24/03/2022

19

บทที่ 19 19 สะใภ้ป้ายเเดง

24/03/2022

20

บทที่ 20 20 สะใภ้ป้ายเเดง

24/03/2022

21

บทที่ 21 21 สะใภ้ป้ายเเดง

21/04/2022

22

บทที่ 22 22 สะใภ้ป้ายเเดง

21/04/2022

23

บทที่ 23 23 สะใภ้ป้ายแดง

21/04/2022

24

บทที่ 24 24 สะใภ้ป้ายแดง

21/04/2022

25

บทที่ 25 25 สะใภ้ป้ายแดง

21/04/2022

26

บทที่ 26 26 สะใภ้ป้ายแดง

26/04/2022

27

บทที่ 27 27 สะใภ้ป้ายแดง

26/04/2022

28

บทที่ 28 28 สะใภ้ป้ายแดง

27/04/2022

29

บทที่ 29 29 สะใภ้ป้ายแดง

27/04/2022

30

บทที่ 30 30 สะใภ้ป้ายแดง

28/04/2022

31

บทที่ 31 31 สะใภ้ป้ายแดง

29/04/2022

32

บทที่ 32 32 สะใภ้ป้ายแดง

29/04/2022

33

บทที่ 33 33 สะใภ้ป้ายแดง

30/04/2022

34

บทที่ 34 34 สะใภ้ป้ายแดง

01/05/2022

35

บทที่ 35 35 สะใภ้ป้ายแดง

02/05/2022

36

บทที่ 36 36 สะใภ้ป้ายแดง (end)

03/05/2022

37

บทที่ 37 Special Park&Jay

04/05/2022

38

บทที่ 38 special คุณเเม่ลูกสาม

04/05/2022

39

บทที่ 39 Special ผมอยากมีน้อง

04/05/2022

40

บทที่ 40 Special สามเเสบอยากเที่ยว

05/05/2022