Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
สัญญารักซาตานร้าย

สัญญารักซาตานร้าย

รินวรส

5.0
ความคิดเห็น
35.7K
ชม
90
บท

‘ยัยหนูมิ้นท์ ยัยกระต่ายตื่น… ฉันไม่รู้ว่าเธอกำลังยิ้ม ร้องไห้ หรือหัวเราะ เมื่อได้เห็นสร้อยเส้นนี้ เธอจำได้ไหมว่ามันเป็นสร้อยที่เธออยากได้และฉันเคยจะซื้อให้แต่เธอไม่ยอมรับมัน (ที่เธอเคยบอกว่า มันราคาแพงเกินไป มิ้นท์รับไม่ได้) แต่วันนี้มันเป็นของเธอแล้วนะ ได้โปรดเถอะนะมายมิ้นท์ ฉันขอร้อง... ช่วยเก็บมันไว้ได้ไหม หากเธอไม่อยากได้มันแล้ว ก็ช่วยเก็บมันเอาไว้ให้ฉันที รอวันที่ฉันกลับมา เธอคงสงสัยสินะว่า... ฉันกำลังจะไปไหน เวลานี้... ตอนที่เธอกำลังอ่านจดหมายฉบับนี้ ฉันคงกำลังอยู่ที่ไหนสักแห่งบนท้องฟ้าที่กว้างใหญ่นี้ มินตรา... ฉันขอโทษ ฉันไม่อาจทนลาจากเธอด้วยตัวเองได้ ฉันกลัวว่าฉันจะทำใจไม่ได้หากต้องเอ่ยลาเธอด้วยตัวเอง ตอนนี้ฉันกำลังไปฝรั่งเศส ไปทำหน้าที่หลานชายที่ดีของคุณย่า ฉันหวังเพียงว่า...เธอจะเข้าใจฉัน เวลานี้เธอคงกำลังดีใจสินะ ที่ไม่ต้องคอยอยู่ใกล้รับใช้เจ้านายเจ้าอารมณ์อย่างฉันอีกต่อไป มินตรา...มายมิ้นท์...หนูมิ้นท์ของฉัน รอฉันนะ รอวันที่ฉันกลับมา ฉันสัญญาว่า...ฉันจะกลับมาบอกรักเธอ และฟังคำตอบจากเธอด้วยตัวฉันเอง ว่า...เธอเองก็รักฉัน เหมือนที่ฉันรักเธอ ฉันหวังว่าวันที่ฉันกลับมา...ฉันจะเห็นเธอสวมสร้อยเส้นนี้ไว้แทนคำตอบว่า เธอเองก็รักฉัน ลาก่อน...มายมิ้นท์ หนูมิ้นท์ของฉัน นายน้อยจอมโหดของเธอ (ฉันรู้นะว่าเธอชอบเรียกฉันแบบนี้ ยัยกระต่ายตื่น) ส่วนเบเกอรี่นี่ฉันยกให้เธอ ค่อยๆกินทีละชิ้นนะ อย่างน้อยมันอาจทำให้เธอคิดถึงฉันบ้างเวลาที่เธอกินเบเกอรี่พวกนี้ เพราะว่า แต่ละชิ้นมันเป็นตัวแทนของความคิดถึงที่ฉันมีให้เธอ ...มายมิ้นท์

บทที่ 1 ตอนที่ 1

“ปล่อยมิ้นท์ค่ะ” เสียงหวานออกสั่นนิดๆ เอ่ยราวต้องการออกคำสั่งให้อีกฝ่ายทำตาม แต่ทว่าน้ำเสียงนั้นกลับคล้ายอ้อนวอนร้องขอเสียมากกว่า คนฟังกระตุกยิ้มอย่างเป็นต่อกับท่าทีราวกลัวเขาเสียหนักหนานั้น

“ช่วยบอกเหตุผลดีๆ สักข้อสิมิ้นท์... ว่าทำไมฉันถึงต้องปล่อยเธอ” เสียงทุ้มกร้าวกังวานขึ้นราวต้องการข่มขวัญให้อีกฝ่ายหวาดหวั่น

“นายน้อย!” เสียงหวานที่เอ่ยขานนามนั้นออกสั่นน้อยๆ ยามอุทานด้วยความตื่นตระหนก หญิงสาวไม่รู้จะจัดการกับสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่นี้อย่างไร ในเมื่อใจหนึ่งเฝ้าถวิลหา แต่ใจหนึ่งกลับสั่งให้ถอยห่างเขา

“เธออยากให้ฉันปล่อยเธอจริงๆหรือมิ้นท์” เจ้าของเสียงนั้นเชยคางมนให้เธอจำต้องแหงนเงยใบหน้าขึ้นสบตาเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขาทั้งสองข้างแทบสิ้นเรี่ยวแรงหยัดยืนเมื่อความหวามไหวก่อเกิดขึ้นยามประสานสบกับดวงตาหวานหยดที่จับจ้องมองมา

“มิ้นท์... ” หญิงสาวพยายามสรรหาคำตอบที่ดีที่สุดแต่จนแล้วจนรอดเสียงหวานก็หลุดเอ่ยได้แค่นามของตัวเองเท่านั้นเมื่ออีกฝ่ายยิงคำถามกระชั้นชิดหนักเข้าราวต้องการไล่ต้อนให้เธออับจนหนทางหลบหนี

“บอกฉันสิมิ้นท์... ว่าเธอพูดออกมาจากใจเธอจริงๆ ” เจ้าของเสียงทุ้มกระซิบสั่งอีกครั้งแต่ครั้งนี้เขาโน้มใบหน้าคมต่ำลงจนริมฝีปากแทบชิดติดกัน หญิงสาวพยายามทัดทาน แต่ทว่าก็ได้เพียงแค่ขานนามเท่านั้น

“นายน้อย...อื้อ! ” เสียงหวานถูกกลืนหายไปเมื่อริมฝีปากอวบอิ่มถูกครอบครองอย่างเอาแต่ใจจากเจ้านายหนุ่ม ภาคินใช้ฝ่ามือแข็งแรงบีบบังคับศีรษะทุยได้รูปให้แหงนเงยรับจุมพิตลงทัณฑ์จากเขา ริมฝีปากหยักเคล้าคลึงซึมซับความหอมหวานให้สมกับที่โหยหามานานปี

มินตราพยายามผลักไสร่างหนาให้ออกห่างแต่ทว่ายิ่งดิ้นกลับยิ่งเปิดทางให้เจ้านายหนุ่มประชิดตัวได้ง่ายขึ้น กำปั้นเล็กๆ ที่กระหน่ำทุบแผงอกกว้างค่อยๆคลายลงเมื่อถูกรุกเร้าหนักขึ้น

หญิงสาวเผลอครางผะแผ่วสองแขนโอบรัดต้นคอเจ้านายหนุ่มแน่นเมื่อฝ่ามือหนาลูบไล้แผ่นหลังบางเบาก่อนที่จะหยุดลงตรงเอวคอดแล้วดึงรั้งโอบร่างบางให้แนบชิด

เสียงครางเบาๆ ในลำคอของชายหนุ่มแสดงความพึงพอใจเมื่อแรงต่อต้านของคนในอ้อมกอดหมดสิ้น สองร่างกอดรัดกันแนบแน่นราวกลัวว่าอีกฝ่ายจะหลุดลอยไป

“นายน้อย... ” หญิงสาวพยายามเค้นเสียงเรียกอย่างยากเย็นเมื่อริมฝีปากอิ่มเป็นอิสระ

“หืม... ” ภาคินหยุดชะงักเพียงเสี้ยววินาทีเมื่อได้ยินเสียงเรียกที่ออกอาการแหบพร่าของคนในอ้อมกอด

จมูกโด่งจรดลงตรงซอกคอตามติดด้วยริมฝีปากร้อนๆ ร่างบางในอ้อมกอดเกิดอาการสั่นสะท้านขึ้นมาทันที ภาคินเดินหน้าต่ออย่างรวดเร็วเมื่ออารมณ์หนุ่มกระเจิดกระเจิง แขนแข็งแรงโอบกระหวัดช้อนร่างน้อยลอยละลิ่ว สองเท้าก้าวยาวตรงไปยังโซฟามุมห้อง

ชายหนุ่มทิ้งร่างนุ่มนิ่มบนโซฟาด้วยแรงอารมณ์ปรารถนาแต่แฝงด้วยความอ่อนโยน แต่กระนั้นไม่วายสร้างความตระหนกตกใจให้หญิงสาวที่บัดนี้ดวงตากลมโตเบิกกว้างราวกระต่ายน้อยกำลังตื่นตกใจ หญิงสาวขยับจะลุกขึ้นหลีกหนีแต่ไม่ไวเท่าร่างหนาที่ทาบทับตามลงมา

“นายน้อย!” หญิงสาวรีบท้วงเสียงสั่นเมื่อทั้งปากและจมูกของเจ้านายหนุ่มทำท่าจะฝากฝังรอยเสน่หาลงตรงเนินอกอิ่ม ฝ่ามือน้อยๆ ผลักดันใบหน้าคมเข้มไว้ได้ทันท่วงที

ภาคินชะงักงันเมื่อถูกฝ่ามือบางขวางกั้น ชายหนุ่มเงยใบหน้าหล่อเหลาขึ้น ดวงตาคู่คมจ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมโตคู่นั้น คิ้วเข้มยกสูงขึ้นแทนคำถามอย่างสงสัย เมื่อเห็นแววตาสั่นระริกอย่างหวาดวิตกของคนในอ้อมกอด ชายหนุ่มได้แต่ถอนหายใจเก็บกลั้นอารมณ์ปรารถนาที่คุกรุ่นไว้ ทั้งที่แทบระเบิดอยู่รอมร่อ

เจ้านายหนุ่มตัดใจดันตัวออกห่างอย่างขัดใจ ร่างหนาขยับถอยมานั่งอีกด้านหนึ่งของโซฟาหลังจากฉุดดึงร่างน้อยให้ลุกนั่งเรียบร้อย สายตาคมยังคงจับจ้องดวงหน้ากลมมนไม่วางตา ไม่ว่าจะกี่เดือนกี่ปีที่จากลาดวงหน้าจิ้มลิ้มนี้ก็ยังคงตามติดตรึงใจไม่เสื่อมคลาย

มินตราก้มหน้างุดหลบสายตาคมกล้าที่จ้องมองมา หญิงสาวทั้งขัดเขินและอับอายกับสัมผัสร้อนแรงที่เพิ่งยุติลงไม่ถึงนาทีที่ผ่านมา แม้จะเคยใกล้ชิดแต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่จะแนบแน่นเท่าครั้งนี้มาก่อน หญิงสาวรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งใบหน้าและลำคอ แผ่นหลังเกิดอาการเย็นวูบวาบ จุมพิตร้อนแรงราวต้องการลงทัณฑ์ให้เธอตระหนักมันช่างต่างกันกับจุมพิตวาบหวามเมื่อคราแรกสิ้นเชิง

สัมผัสแรกที่เคยแนบชิดมันเต็มไปด้วยความโหยหาอิ่มอุ่นความอิ่มเอมหวานซึ้งลึกๆ ในใจ แต่ทว่าสัมผัสครานี้กลับสร้างความตระหนกหวั่นไหว หัวใจดวงน้อยไหวระริกราวกระต่ายน้อยกำลังตกอยู่ในอุ้งบาทราชสีห์ อาการจู่โจมรวดเร็วร้อนแรงอย่างไม่ทันตั้งตัวสร้างความกังวลกึ่งกลัวกึ่งวาบหวาม ยิ่งถูกรุกเร้าหนักเข้าหัวใจสาวแทบกระเจิง หากเธอไม่มีสติพอที่จะยับยั้งมินตราไม่อยากคิดว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นนับจากวินาทีนั้น

“จะไปไหน นั่งลง!” เสียงเข้มกังวานขึ้นเมื่อร่างน้อยขยับลุกขึ้นเตรียมหลีกหนี

ร่างบางสะดุ้งชะงักงันเมื่อถูกออกคำสั่งดุดัน มินตราค่อยๆหย่อนกายลงบนโซฟาตามคำสั่งอย่างว่าง่าย แต่ทว่าขยับห่างออกไปยังโซฟาอีกตัวด้านตรงข้าม ใบหน้างามก้มหลบสายตาคมกล้าที่จ้องมาไม่วางตา สมองอันน้อยนิดเวลานี้พยายามคิดหาวิธีหลีกหนีจากเจ้านายหนุ่ม

“นี่! จะรังเกียจอะไรฉันขนาดนั้นมายมิ้นท์ ขยับมานี่! มานั่งตรงนี้!” ภาคินตบฝ่ามือลงบนโซฟาตรงที่ว่างข้างกายประกอบคำสั่งเมื่อเห็นอาการหวาดผวาของอีกฝ่าย

“มิ้นท์เปล่ารังเกียจนายน้อย แต่ว่า... ” มินตราพยายามอธิบายหน้าตาตื่น

“ไม่มีแต่... หรือจะให้ฉันไปนั่งตรงนั้นแทน”

“มะ...ไม่ต้องค่ะ มิ้นท์ไปนั่งตรงนั้นเองค่ะ” มินตรารีบทำตามอย่างง่ายดายเมื่อเห็นว่าเจ้านายหนุ่มจะทำตามอย่างที่พูดจริง

จะให้เขามานั่งโซฟาตัวเดียวกันนั่นได้ยังไง แค่นั่งคนเดียวก็แทบไม่เหลือพื้นที่แล้ว หากเจ้านายหนุ่มไปนั่งด้วยอีกคน มินตราไม่อยากนึกภาพว่ามันจะแนบชิดแค่ไหน คิดแค่นี้หญิงสาวก็ขนลุกชันไปทั้งร่าง ลำคอแห้งผากกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น

“ขยับเข้ามาใกล้ๆซิ” ภาคินออกคำสั่งอีกรอบเมื่อเห็นร่างบางนั่งห่างออกไปเกือบช่วงแขน

สายตาคมจ้องมองอย่างคนเจ้าเล่ห์ ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี มินตรา... มายมิ้นท์ของเขาก็ยังว่านอนสอนง่ายไม่เปลี่ยนแปลง ดูเหมือนหญิงสาวจะขาดความสามารถในการควบคุมตัวเองเวลาอยู่ใกล้เขา ไม่ว่าเขาจะพูดอะไร ทำอะไร หญิงสาวก็มักจะออกอาการหวาดผวาอยู่ตลอดเวลา ยิ่งทำให้เขาอยากแกล้งให้เธอตื่นตระหนกเล่น

แต่ทว่า... ความจริงแล้วเขาแค่อยากอยู่ใกล้ๆ ได้เห็นใบหน้าจิ้มลิ้ม ดวงตากลมโตที่ฉายแววขี้ตกใจคู่นั้น อาการงกๆเงิ่นๆ ทำอะไรไม่ค่อยถูกเวลาถูกเขาควบคุมออกคำสั่ง แม้กระทั่งรอยยิ้มสดใสที่แสดงอาการดีใจเวลาที่ได้ของถูกใจ เขาชอบความไร้เดียงสาของหญิงสาวที่แสดงออกมาอย่างเปิดเผยไม่เสแสร้ง

ดูเอาเถอะ! นี่ก็ทำท่ากลัวเขาเสียจนตัวสั่น เขาจะทำอย่างไรกับมายมิ้นท์ของเขาดีนะ

“มินตรา” ภาคินเรียกเสียงดุเข้มเมื่อเห็นอีกฝ่ายยังไม่ขยับ

“นายน้อย... มิ้นท์” มินตราเงยหน้ามองอย่างตกใจเมื่อสิ้นเสียงเรียกก็พบว่าร่างหนาขยับมานั่งใกล้ชิดติดเธอเสียแล้ว หญิงสาวมองไม่เห็นหนทางหลีกหนี ลมหายใจอุ่นๆ ที่รินรดตรงขมับสร้างความรู้สึกประหลาดล้ำให้ หญิงสาวมากมาย มินตราหลุบสายตาหลบต่ำลงเก็บซ่อนความรู้สึกวาบหวามที่เริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง

“ตกลงจะเล่นไล่จับกันอีกนานไหม มายมิ้นท์” เจ้าของเสียงทุ้มตวัดสายตาหลุบต่ำลงไปจับจ้องนิ่งนานที่เนินอกอิ่มด้วยสายตาพร่างพราวเต็มไปด้วยไฟเสน่หา

“ฉันจะทำยังไงกับเธอดีนะมินตรา... มายมิ้นท์... กระต่ายน้อยของฉัน ช่วยบอกหน่อยสิว่าฉันต้องทำยังไง” ภาคินเอ่ยถามราวรำพันอยู่กับตัวเอง

ปลายนิ้วแข็งแรงเชยคางมนให้หญิงสาวแหงนเงยใบหน้าจิ้มลิ้มขึ้นสบตาเขา ชายหนุ่มจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่งามอย่างค้นคว้า ในดวงตากลมโตคู่นั้นภาคินค้นพบแวววาบหวามวูบไหว ใบหน้าคมค่อยๆโน้มเข้าหาก่อนหยุดลงเมื่อปลายจมูกแทบจรดกัน

“นายน้อย... คือ... ” มินตราพยายามหาเหตุผล แต่ทว่าภาคินกลับยิ่งรุกเร้าถามต่อไม่ยอมให้หญิงสาวได้มีโอกาสหยุดคิด

“เธออยากให้ฉันปล่อยเธอไปจริงๆหรือมิ้นท์”

“มิ้นท์” หญิงสาวพยายามต้านทานอารมณ์หวามไหวที่ก่อตัวขึ้นอีกหน ยามนี้เธอรู้สึกราวมีกองไฟร้อนระอุกำลังปะทุอยู่ในอก แต่ทว่ามันกลับให้ความรู้สึกซาบซ่านวาบหวามมากกว่าที่จะทุกข์ทรมาน

“ช่วยตอบฉันหน่อยสิ เธอสวมสร้อยเส้นนี้ไว้ทำไม ในเมื่อเธออยากให้ฉันไปจากเธอจริงๆ ” ภาคินถามหลังจากที่เลื่อนสายตาคมลงมาตามปลายนิ้วเรียวที่ลากไล้แผ่วเบาจากปลายคางมนระเรื่อยลงมาตามลำคอระหงก่อนหยุดลงตรงสร้อยคอจี้รูปหัวใจที่อยู่เหนือเนินอกอิ่ม

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ รินวรส

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ