Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
จากสิ้นสุดสู่การเริ่มต้นใหม่

จากสิ้นสุดสู่การเริ่มต้นใหม่

Merlist

5.0
ความคิดเห็น
325
ชม
2
บท

โนแอล ซิกแกทรีซ์ แพทย์ชาวฝรั่งเศสที่เดินทางมายังอุษาคเนย์ในศตวรรษที่สิบเจ็ดเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ในฐานะแพทย์ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในอโยธยาจนกระทั่งเรื่องประหลาดเกิดขึ้นในพระนคร

บทที่ 1 เริ่มต้นใหม่หรือสิ้นสุด

‘สำหรับไพ่ทาโรต์Death คนส่วนใหญ่มักคิดว่ามันมีความหมายไม่ดีนักเพราะเกี่ยวข้องกับความตาย แต่ทว่าความหมายของมันนั้นสื่อถึงการสิ้นสุดบางอย่างโดยมีการเริ่มต้นของอีกสิ่งหนึ่ง’

คำทำนายนี้แม้เขาจะไม่ได้เชื่อถือมันนักแต่มันก็เกี่ยวข้องกับชีวิตของเขาในตอนนี้อยู่ไม่น้อย หันมองไปยังอีกฟากสายน้ำที่ไหลอย่างสงบนิ่งนั้นพบกับเปลวเพลิงเผาไหม้บ้านเรือนผู้คนต่างแตกตื่นชุลมุนวุ่นวาย หมอดูผู้นั้นปรากฏตัวขึ้นมาพูดเรื่องนั้นก่อนที่ยมฑูตขี่ม้าบนไพ่จะปรากฏตัวมาต่อหน้าเขา

ภาพนหัวถูกตัดวูบไปเขาตื่นขึ้นมาบนพื้นหลังจากที่เผลอหลับไปกับการทำงานอันแสนเหน็ดเหนื่อย มันเป็นความฝันที่ฝันซ้ำๆ มาตั้งแต่พบหมอดูไพ่ทาโรต์ที่ฝรั่งเศสครั้งล่าสุดซึ่งเขาไม่เคยเชื่อมันเลยแม้แต่ครั้งเดียว

ตุบ!

“ฮ่าๆๆ พลาดท่าแล้ว” เสียงของเด็กน้อยคนหนึ่งแต่งชุดเปลือยท่อนบนแตกต่างจากเขาได้หยอกล้อกับเขาในตอนนั้นนำเอาแท่งไม้ในมือของตนแทงใส่เขาด้วยแรงทั้งหมดที่มีทำให้หัวของเขาเหวี่ยงไปชนกับกองกระดานชนวนที่ถูกกระแทกจนล่วงตกลงมาบนพื้นบ้างหล่นลงมาโดนหัวเขาจนมึนไปหมด

ร่างสูงสมส่วนตามแบบฉบับของชาวตะวันตก ผิวสีขาวคล้ำและแห้งคล้ายว่าไม่ได้รับการดูแลที่ดีนัก เสื้อผ้านั้นแตกต่างจากเด็กน้อยที่เปลือยท่อนบนเพราะเขาสวมเสื้อผ้าแบบชาวตะวันตกที่แม้จะดูโทรมเล็กน้อย ใบหน้าหล่อเหลาหากแต่มีเค้าลางแห่งความเจ็บปวดอยู่บนนั้น รูปหน้ารีของเขาดูซูบผอมเล็กน้อยนัยน์ตาสีอำพันที่รับกับกรอบตาทรงอัลมอนด์ทำให้เขาเป็นคนที่หน้าตาดีอยู่

“เกิดอะไรขึ้นรึ อ้ายจันทร์” เขาในตอนนี้มึนงงไปหมดเขาหันไปเห็นเด็กน้อยจึงพูดภาษาไทยด้วยสำเนียงที่ไม่คล่องนัก

“น้าเธียรบอกให้มาปลุกหมอน่ะสิ คงมีเรื่องให้หมอช่วยอีก” จันทร์รีบพูดกับเขา

“น้าเธียร…อ้อ!” โนแอลพยายามที่จะนึกภาพของคนคนนั้นแต่ถึงอย่างไรความจำของเขาก็ไม่ได้ดีนักทั้งยังเป็นภาษาที่ไม่คุ้นเคยอีกเขาเองก็มาอยู่ที่นี่ได้เพียงสัปดาห์เดียวเขาใช้เวลาหลายวินาทีจนอีกฝ่ายปรากฏตัวขึ้นมา

โนแอลเห็นชายหนุ่มผู้นี้แล้วนึกออกทันทีผมสีดำของเขาถูกจัดอย่างดีหน้าตาเองก็ดีชนิดที่ว่าคงมีหญิงสาวติดพันมากนักร่างสูงคล้ายชาวตะวันตก เธียรเป็นบุตรชายของขุนนางในหมู่บ้านแห่งนี้โดยเจ้าตัวเองก็รับราชการเช่นกันเขาเองก็ไม่ได้รู้ตำแหน่งของอีกฝ่ายดีเนื่องจากว่าตอนได้ยินชื่อตำแหน่งแล้วรู้สึกมึนหัวกับภาษาต่างถิ่นแต่อย่างไรเจ้าตัวก็ดูไม่ได้สนใจตำแหน่งและชอบมีเรื่องกับผู้อื่นแต่ลึกๆ แล้วเป็นคนดีและเพราะพูดภาษาฝรั่งเศสได้บ้างเจ้าตัวก็เป็นล่ามที่ดีทีเดียว

“นี่ลืมกันแล้วรึหมอ…เอาเถอะ มีเรื่องอยากจะให้ช่วยหน่อยคงไม่เป็นการเสียเพลาหมอนักหรอก แล้วอ้ายจันทร์น้าบอกให้มาตามหมอทำไมห้องเละแบบนี้เจ้าจันทร์เดี๋ยวโบยเสียหรอก” เธียรบ่นออกมาในขณะที่เด็กน้อยรีบวิ่งออกไปทันทีก่อนที่จะโดนดุไปมากกว่านี้

“มีเรื่อง…? ”

“เรื่องนี้พิลึกนัก เมื่อเช้าเขามาขอความช่วยเหลือเรือนบอกว่าพบศพของไพร่ในเรือนพระยาหทัยญพินาศคล้ายมิได้ตายโดยปกตินักคล้ายถูกใครบางคนฆ่าตาย” เธียรรีบลากเขาลงเรือไปออกจากหมู่บ้านล่องสู่แม่น้ำเจ้าพระยายังคงสงบนิ่งพระนครเองก็เหมือนกับครั้งแรกที่โนแอลเห็นมัน

“แล้วฆาตกร ถูกจับแล้ว” เขากำลังพูดต่อแต่อีกฝ่ายเองก็ทำได้เพียงส่ายหน้าปฏิเสธ

“ยังลอยนวล”

“แต่เรายื่นมือไปยุ่งเกี่ยวจะดีเหรอ ไม่แน่อาจจะเกิดอันตรายก็ได้ พวกพี่เป็นขุนนางเป็นที่รู้จักมากกว่าคนทั่วไปทั้งยังมีครอบครัว…ให้ข้าไปเองอาจจะสะดวกกว่า อ้างว่าเป็นหมอที่จ้างมาไม่ได้เกี่ยวข้อง” เขาตอบกลับไปแบบนั้นแต่อีกฝ่ายไม่เอาด้วย

“ที่พูดไปเองก่อนหน้านี่ข้าขอย้อนเถอะ หากว่าครอบครัวหมอรู้เข้า…”

“ข้าไม่มีครอบครัว” เป็นอันสิ้นสุดการโต้เถียงเธียรเพียงแค่นิ่งพักหนึ่งแต่สำหรับโนแอลภาพในตอนมาที่นี่กลับเข้ามาในหัวย้อนนึกถึงตอนที่เขามาถึงที่นี่เป็นครั้งแรก

“แล้วกลามัวร์ ถึงจะเกิดเรื่องโชคร้ายแต่หากเขามองลงมาพบว่าหมอเป็นอันตราย…” เธียรถามออกมาคล้ายยิ่งย้ำภาพความทรงจำของเขาให้ชัดเจนมากขึ้น

“พวกเราพบกันที่โบสถ์เขาบอกว่าข้าเป็นน้องชายเพราะข้าโดนรังแกจากนักบวชคนอื่น แต่หลังจากถูกผู้คนในหมู่บ้านขับไล่เพราะเราไม่รับศาสนาเขาก็ได้พบรักกับไวเคานท์เตสผู้หนึ่งแต่เพราะฐานะที่แตกต่างจึงมิอาจรักกันเมื่อโดนจับได้จึงจำต้องหนีมาที่นี่เพราะอาจจะถูกฆ่าจากที่พวกเราไร้ศาสนา แท้จริงไม่มีใครรู้ว่าเราเป็นพี่น้องกันหรือไม่” เขาตอบกลับอีกฝ่ายไปในตอนนั้นพวกเขาก็เป็นพี่น้องกันมาตลอดแม้ในใจลึกๆ พ่อแม่ของเด็กกำพร้าทั้งคู่อาจไม่ใช่คนเดียวกันไม่มีสิ่งใดเชื่อมถึงกันเลย

ย้อนกลับไปตอนนั้นเรือที่เขาสัญจรกำลังแล่นเข้ามาเรื่อยๆ นั้นได้ปะทะกับเรืออีกลำหนึ่งถูกโจมตีจนเรือแตกผู้คนบนเรือบ้างเสียชีวิตบ้างบาดเจ็บแตกต่างกันไป โนแอลแบกร่างที่เปื้อนไปด้วยเลือดของพี่ชายตนขึ้นมาจากน้ำเขาพยายามที่จะรักษาชีวิตอีกฝ่ายไว้โดยไม่แม้แต่จะสนใจว่าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นกับตน ภาพที่โจรสลัดบนเรือถือปืนเดินเข้ามาหาเขานั้นไม่ได้ทำให้รู้สึกหวาดกลัวใดๆ

“ฟื้นสิ กลามัวร์…” เขาในตอนนั้นรู้ดีว่าพี่ชายของตนตายไปแล้วแต่เขายังอยากจะพยายามรักษาต่อไปเผื่อว่าอีกฝ่ายจะฟื้นขึ้นมาในตอนนั้นร่างของใครคนหนึ่งเดินเข้ามาช่วยเขา ชายหนุ่มชาวสยามที่กำลังทุบตีโจรสลัดเหล่านั้นด้วยศิลปะป้องกันตัวที่มีเฉพาะตนก่อนที่อีกฝ่ายจะลากเอาเขาออกไปจากตรงนั้น

“รีบหนีได้แล้ว มากับพวกเรา” คนคนนั้นเอ่ยออกมาแต่ตอนนั้นเขากลับมิได้มีความตั้งใจมากพอที่จะมีชีวิตต่อ

“ทิ้งข้าไว้แล้วรีบไป” เขาพูดออกไปแบบนั้นพยายามเข้าไปหาร่างของพี่ชายที่สิ้นลมหายใจอยู่ตรงหน้าแต่อีกฝ่ายไม่ยอมแพ้ในการลากคอเขาและพาหนีมาสำเร็จ

ตอนนั้นเขาถึงได้รู้จักอีกฝ่ายเธียรได้พาเขากลับมายังที่เรือนของบิดาตน หรือนี่จะเป็นการสิ้นสุดที่แท้จริงสำหรับการเริ่มต้นใหม่นี้เขาต้องสูญเสียสิ่งเหล่านี้คือการสิ้นสุดที่แท้จริงที่ไม่อาจยอมรับได้ น้ำตาที่ไหลอย่างเชื่องช้าทำให้นึกขุ่นข้องใจ เขาควรเริ่มต้นใหม่จริงๆหรือตายให้มันจบๆไปเสียที

“อย่าหันกลับไปมอง…” เสียงของเธียรตอนนั้นกล่าวกับเขาไม่คิดว่าเธียรจะเป็นบุตรชายของขุนนางที่ติดต่อกับพี่ชายของเขาไว้ตั้งแต่แรกทำให้การที่เขามาอยู่ที่นี่เป็นเรื่องเหมาะสม

เขาเสียใจที่กลามัวร์จากไปและยึดติดกับเหตุการณ์ที่เขาไม่อาจช่วยกลามัวร์ได้เขาใช้ชีวิตอยู่อย่างว่างเปล่าเป็นแพทย์ประจำตัวขุนนางทำตามหน้าที่ให้ดีที่สุด เธียรและจันทร์ได้เข้าช่วยเขาไว้จากความรู้สึกย่ำแย่ที่เกิดขึ้นเขาจึงมีแรงที่จะพยายามก้าวผ่านมันไปให้ได้

ในช่วงเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาเขานั้นมันยากเย็นที่จะผ่านมันไปจนมาถึงตอนนี้ที่เขาเริ่มชินชากับสถานที่แห่งนี้ไม่คิดว่าตนนั้นจะอยู่มาได้เนิ่นนานเช่นนี้ถึงอย่างไรในตอนนี้คงช่วยไม่ได้อีกแล้วเขาจำเป็นต้องทำหน้าที่ของตนต่อไป นี่คือการเริ่มต้นใหม่ของเขาเอง

“ขอโทษนะหมอ ไม่น่าพูดเลย” อีกฝ่ายในตอนนี้ตกใจกับสีหน้าของเขาอยู่มากไม่นึกว่าเขาจะพลั้งปากพูดออกไปลืมนึกไปว่าอีกฝ่ายนั้นรู้สึกแย่กับเรื่องนี้มากเพียงใด

“ถึงแล้วนี่ใกล้กว่าที่ข้าคิด” โนแอลทำเป็นเปลี่ยนเรื่องถึงอย่างไรเขาก็ไม่ได้คิดเรื่องที่อีกฝ่ายเถียงกับเขาเมื่อครู่นักอย่างน้อยก็โดนตัดเบี้ยอย่างมากก็หางานใหม่ทำ แต่มาคิดดูเขายังไม่ชินชากับมาตราวัดบนแผนที่เรือนของพระยาหทัยญพินาศหรือกระทั่งแผนที่เดินทางของคนที่นี่ คงต้องใช้เวลาอีกสักพักคิดดูแล้วแม่น้ำเจ้าพระยาก็ดูสวยดีอยู่เหมือนกันเหม่อชมวิวสักพักก็รีบตามขึ้นเรือนไปไม่อยากให้อีกฝ่ายรอนาน

บนเรือนของพระยาหทัยญพินาศเสียงกรีดร้องด้วยความกลัวของเด็กสาวคนหนึ่งดังออกมา ไพรินทร์เด็กสาวอายุเพียงสิบสี่ปีที่นอนอยู่บนเตียงนี้รับรู้ได้ถึงความรู้สึกบางงอย่างที่ใกล้เข้ามาคล้ายมองเห็นสัญลักษณ์แห่งความตายมาจากแขกของบิดาที่ชัดมากขึ้นเรื่อยๆ มาจากทั้งสองคนนั้น

ภาพความทรงจำที่เด็กหญิงได้เห็นนั้นรู้ว่าหากบอกพวกเขาไปจะนำพวกเขาไปสู่ความตายในเวลาต่อมาทำได้เพียงอยู่เงียบๆ ในห้องแม้วิญญาณที่มีเพียงเด็กสาวมองเห็นนี้ทำให้รู้สึกหวาดกลัว พวกมันตามหลอกหลอนนางอยู่แบบนั้นแม้ว่าบิดาจะเป็นห่วงแต่หากเล่าไปก็กลัวเพียงเขาอาจจะวิปลาสไปกับนางด้วย

แต่เด็กสาวเผลอตัวกรีดร้องไปแล้วผู้คนคงแห่กันมาที่นี่และถูกประณามว่าวิปลาสอีก สุดท้ายพวกเขาก็อาจจะตายโดยที่นางช่วยอะไรไม่ได้ เหมือนกับบ่าวที่น่าสงสารคนนั้น ตั้งแต่นางเห็นปีศาจที่ฆ่าบ่าวผู้นั้นนางกลับมองเห็นวิญญาณและความตายของผู้อื่นอยู่ไม่ขาดแม้บิดาจะให้หมอผีมาทำพิธีก็ไม่อาจช่วยได้รู้เพียงแต่ว่านางอาจจะวิปลาสก็ได้

“คนเหล่านั้นจักโดนปีศาจฆ่าตาย ปีศาจอยู่ที่นี่ขี่ม้าไปทั่วพระนครแล้วผู้คนจักต้องตายเป็นแน่” ไพรินทร์กล่าวออกมาด้วยท่าทางสั่นกลัวในตอนนั้นรอเพียงอีกฝ่ายเปิดประตูเข้ามาประณามนางจากนั้นก็เป็นไปตามโชคชะตา

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

Odey Jagoe
5.0

เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

Charlton Buccafusco
5.0

ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

ไม่เป็นทาสรักอีกต่อไป

ไม่เป็นทาสรักอีกต่อไป

Frannie Bettuzzi
5.0

คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

เกาะครีต
4.9

วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ