ปาวานีห์ราตรี

ณ เมืองเอดูกัส ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ที่อยู่ห่างไกล จากความเจริญทั้งหมด เมืองเล็กๆแห่งนี้ มีความสงบ และร่ำรวยจากทรัพยากร ของตัวเองที่มีค่ามหาศาล เช่นพวกอัญมณี น้ำมัน ประชาชนที่นี่ยังคงมีทั้งที่นับถือศาสนาและบูชาแม่มด ตามความเชื่อของบรรพบุรษ ที่เล่าสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น

“เทย์เลอร์ ลูกตัดสินใจดีแล้วใช่ไหม ที่จะหมั้นกับฟารีย์” ออการ์ถามลูกชายอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

“แน่ใจสิครับพ่อ นอกจากฟาเลย์ลูกก็ยังไม่เคยสนิทสนมกับผู้หญิงคนไหนในเมืองนี้เลย” ลูกชายยืนยัน

“ถ้าอย่างนั้น พ่อก็สบายใจ เพราะใครๆในเมืองนี้ เขาต่างก็รู้กันว่า บรรพบุรุษของฟารีย์เป็นแม่มดที่เก่งกาจ” ออการ์เล่า

“มันคงเป็นแค่อดีตแล้ว ตอนนี้โลกเราก้าวไกลไปมาก ผมเชื่อว่าฟารีย์เธอก็เป็นแค่ผู้หญิงที่สวยที่สุดในเมืองนี้ก็เท่านั้น”เทย์เลอร์ไม่เชื่อเรื่องที่ชาวบ้านพากันเล่าจากรุ่นสู่รุ่นกันมา

“ถ้าอย่างนั้นพ่อจะได้ไปคุยกับทางครอบครัวของฟารีย์ ที่บนภูเขาสูง เพื่อกำหนดวันที่แน่นอน”

ฟารีย์เธอเกิดในครอบครัว ที่ถูกเล่าขานตำนานมาว่า เป็นตะกูลแห่งแม่มด อีกทั้งเป็นตระกูลที่แสนร่ำรวยจากการเป็นเจ้าของอัญมณีมากมาย ที่บางชิ้นไม่สามารถประเมินค่าได้

ผู้หญิงในตระกูลนี้ ส่วนมากไม่แต่งงาน มีเพียงไม่กี่คน ที่ได้มีครอบครัว เพราะผู้ชายในหมู่บ้านต่างพากันกลัวเรื่องเล่าแห่งตระกูลแม่มดนี้

เทย์เลอร์ชายหนุ่มผู้ชอบการผจญภัยเป็นที่สุดวันหนึ่ง เขาเดินทางไปบนภูเขาสูง ซึ่งเป็นที่อยู่ของตระกูลของฟารีย์ เมื่อเขากับเธอได้พบกัน ความงามของหญิงสาว ทำให้ชายหนุ่มตกหลุมรัก จนเอ่ยปากขอเธอหมั้นหมาย

“พ่อครับ ผมขอไปด้วยได้ไหม” ชายหนุ่มอยากเจอฟารีย์อีกครั้ง หลังเจอเขาเมื่อครั้งนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย

“ถ้าลูกต้องการแบบนั้นก็ได้ เตรียมตัวให้พร้อม เราจะออกเดินทางกลางดึกคืนนี้ เพื่อให้พระอาทิตย์โผล่พ้นฟ้า เมื่อเราใกล้ถึงภูเขาสูงลูกนั้น”