5.0
ความคิดเห็น
416
ชม
14
บท

ดับความ ‘ร้อน’ ด้วย ‘เร่าร้อน’ ยิ่งกว่า ‘หนูดี’ สาวใสวัย 30 ที่เพิ่งแต่งงานยังไม่ถึงปี ให้มานั่งฟังยืนฟังคนเขาทดลองกันทุกวันทุกเวลามันจะไหวเรอะ และทั้ง ‘เอกพล’ สามีของเธอก็งานยุ้งยุ่ง! ชะมัด เจออย่างนี้หนูดีทำไงดีล่ะ เวลาเครื่องมันร้อนมากๆ เข้า จะหาอะไรผ่อนคลาย หรือถึงเวลาแล้วที่ต้องดับ ‘ร้อน’ ด้วยความ ‘เร่าร้อน’ ยิ่งกว่า ว่าแต่เอกพลจะเล่นกับเมียมั้ยล่ะงานนี้ หรือใครจะเป็นฝ่ายเล่นใครกันแน่ เพราะเอกพลเองก็เครียดกับงานหลายๆ อยากผ่อนคลายอารมณ์กับเมียจนจะแย่ ติดที่ว่าเมียรักนั้นก็แสนอาย จะแตะจะต้องเธอแต่ละครั้ง หนูดีก็อายม้วนต้วน ทั้งที่เขาอยากจะกระแทกใส่เธอไม่ยั้ง

บทที่ 1 EP.01

หลังจาก ‘รัชนี’ แห่ง ‘รักต้องแรด!’ ใช้ความ ‘แรด’ ได้เป็นประโยชน์สุดๆ เธอเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้ได้บอสสุดหล่อมาครอบครอง สุดท้ายบอสก็ชวนคุณเลขาขึ้นไปนอนดีดดิ้นบนโต๊ะทำงานจนได้ แถมยังขยันทดลองสินค้ากันอยู่บ่อยครั้งซะด้วย

งานนี้ก็เดือดร้อน ‘หนูดี’ น่ะสิ สาวใสวัย 30 ที่เพิ่งแต่งงานยังไม่ถึงปี ให้มานั่งฟังยืนฟังคนเขาทดลองกันทุกวันทุกเวลามันจะไหวเรอะ และทั้ง ‘เอกพล’ สามีของเธอก็งานยุ้งยุ่ง! ชะมัด เจออย่างนี้หนูดีทำไงดีล่ะ

เวลาเครื่องมันร้อนมากๆ เข้า จะหาอะไรผ่อนคลาย หรือถึงเวลาแล้วที่ต้องดับ ‘ร้อน’ ด้วยความ ‘เร่าร้อน’ ยิ่งกว่า ว่าแต่เอกพลจะเล่นกับเมียมั้ยล่ะงานนี้ หรือใครจะเป็นฝ่ายเล่นใครกันแน่ เพราะเอกพลเองก็เครียดกับงานหลายๆ อยากผ่อนคลายอารมณ์กับเมียจนจะแย่ ติดที่ว่าเมียรักนั้นก็แสนอาย จะแตะจะต้องเธอแต่ละครั้ง หนูดีก็อายม้วนต้วน ทั้งที่เขาอยากจะกระแทกใส่เธอไม่ยั้ง

++++++

ดวงตารีเล็กที่อยู่ภายใต้กรอบแว่นใสกรอกขึ้นบนราวกับไม่พอใจอะไรหรือใครบางคน เพราะสิ่งที่หวังไว้กลับไม่เป็นดังคาด ก่อนลมหายใจจะพรั่งพรูออกมาอย่างระบายความอึดอัดที่มันบีบคั้นอยู่ภายในร่างกายของเธอนี้ เพราะหวังว่าเมื่อกลับถึงบ้าน เธอจะเห็นรถยนต์ของเขาจอดอยู่ แต่... ไม่มี

สิ่งที่ ‘หนูดี’ ทำได้ก็คือ ลงมาจากรถด้วยอาการกระฟัดกระเฟียดเต็มที่ เพราะไม่ได้อยู่ในสายตาของใครให้มองอีกแล้ว เธอไม่ได้อยู่ที่ออฟฟิศจึงต้องรักษากิริยาให้เรียบร้อยและดูดีดูภูมิฐานน่าเชื่อถือ

แต่ขณะนี้เธอจอดรถอยู่หน้าบ้านชั้นเดียวสีขาวสไตล์โมเดิล บนพื้นที่กว้าง 150 ตารางวา ซึ่งเป็นเรือนหอของเธอและ ‘เอกพล’ สามีหนุ่มใหญ่ผู้มีอาชีพทนายความ

และที่ทำให้เธอเดือดปุดๆ แข่งกับแสงแดดยาม 6 โมงเย็นที่ไม่เย็นตามคำเรียก แต่กลับยังคงส่องแสงเจิดจ้าให้เธอหงุดหงิดเพิ่มขึ้นนั้นก็คือ ภายในโรงจอดรถนั้นไม่มีรถของเอกพลจอดอยู่ต่างหาก

ทั้งที่เขาสัญญากับเธอเป็นมั่นเหมาะว่าเย็นนี้เขาจะกลับมาให้ทันกินข้าวเย็นด้วยกัน หลังจากที่เอกพลผิดนัดหลายต่อหลายครั้ง เพราะเขาเห็นงานสำคัญกว่า

‘พี่ถึงบ้านก่อนหนูดีแน่จ้ะ เดี๋ยวพี่ทำกับข้าวรอนะ รับรองว่าอร่อยสุดๆ พี่อยากให้หนูดีกิน... ให้อิ่ม’

เสียงที่กรอกผ่านโทรศัพท์มา เธอยังรับรู้ได้ถึงความสะท้านที่ปลายน้ำเสียง และนั่นยิ่งทำให้เธอหวังว่าอาหารมื้อเย็นที่จะถึงนั้น จะเป็นอาหารจานร้อนที่เธออยากเสิร์ฟให้เขาด้วยความเต็มใจ แต่เมื่อมาเจอกับความว่างเปล่า จะไม่ให้โมโหได้ยังไงล่ะ

“อึ๊ย... คนบ้า! ไหนว่าถึงบ้านก่อนไง อึ๊ย...”

หนูดีบ่นไปเปิดประตูรั้วไปด้วย เพราะถ้าเป็นวันอื่นเธอจะไม่โมโหเลยที่เอกพลผิดนัด เพราะเข้าใจในงานของสามีดีว่า การพินิจพิเคราะห์เพื่อหาช่องทางที่จะทำให้ลูกความพ้นผิดหรือได้รับโทษที่เหมาะสมที่สุดนั้น บางครั้งการค้นหาหลักฐานเหล่านี้ก็ต้องใช้เวลามาก

โดยเฉพาะเอกพลนั้นเป็นคนที่จริงจังในการทำงาน มากเสียจนบางครั้งก็ลืมเวลาส่วนตัวไป เพราะเหตุนี้จึงทำให้ไฟรักของเธอและเขาไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ทั้งที่เอกพลนั้นจัดได้ว่าเป็นคน ‘นิ่งเป็นหลับ ขยับเป็นเอา’ ก็ว่าได้ แต่นั่นก็เป็นเพียง 3 เดือนแรกแห่งการแต่งงานเท่านั้นนะ

เพราะหลังจากที่เขาย้ายไปทำงานกับสำนักงานทนายความ เวลาแห่งความเร่าร้อนก็ดูจะถูกจำกัดไปจนเหลือน้อยเต็มที ส่วนตัวเธอเล่า...

แต่ก่อนว่ามีรัชนีเป็นเพื่อนสาวทึนทึกด้วยกัน พอเธอแต่งงานกับเอกพล เธอก็คิดว่าเธอนั้นโชคดีหนักหนาที่ได้ลงจากคานเสียที ส่วนคนที่ยังค้างอยู่บนคานและไม่เห็นวี่แววว่าจะมีใครทอดสะพานไปหา ก็มีเพียงรัชนีคนเดียวเท่านั้น แต่แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อนล่ะ มันเกิดวิปริตอาเพศอะไรขึ้น

เมื่อจู่ๆ รัชนีก็ลุกขึ้นมาแต่งองค์ทรงเครื่อง เปลี่ยนตัวเองจากสาวทึนทึกเป็น ‘แรด’ ตัวแม่ ทั้งยังสร้างสะพานคอนกรีตเสริมใยเหล็กทอดลงมาตรงหน้าบอสสุดหล่อของเธออีกด้วย สุดท้ายคนที่ต้องทนเร่าร้อน สะบัดร้อนสะบัดหนาวไม่เว้นแต่ละวัน ก็คือตัวเธอเอง

เพราะแค่ต้องอดรนทนรอให้เอกพลเจียดเวลามาจุดไฟให้ลุกโชติช่วงก็ว่าลำบากมากพอแล้ว แต่ที่เลวร้ายยิ่งไปกว่านั้นก็คือ เธอต้องมาอดทนและนั่งรับรู้อยู่ตลอดเวลาว่า ภายในออฟฟิศของบอสนั้น รัชนีและบอส ทำอะไรกันอยู่บ้าง

ทั้งเสียงซี้ดซ้าดครางกระเส่าของคนทั้งคู่ที่ดังเล็ดลอดออกมาระหว่างการโทรศัพท์เพื่อสอบถามเรื่องงาน เสียงโต๊ะทำงานเสียดสีกับพื้นดังเอี๊ยดอ๊าด เสียงดังคล้ายคนปรบมือ ทั้งที่เธอรู้ว่าไม่ใช่อีกนั่น เพราะบอสกับรัชนีจะปรบมืออะไรกันเป็นจังหวะอย่างนั้น โดยเฉพาะบางช่วงของเสียงนั้นมันคือความแฉะชื้นที่เนื้อไปสัมผัส โอว... นั่นมันจังหวะเนื้อกระทบเนื้อชัดๆ

อย่างนี้จะไม่ให้เธอโกรธเอกพลได้ยังไง ในเมื่อเธอร้อนไปหมดแล้ว ทั้ง ‘ร้อนจนแฉะ’ และ ตอนนี้มันก็ ‘ร้อนจนแสบ’ ไปทั้งร่างกายและหัวใจ เพราะระหว่างขับรถออกจากออฟฟิศตรงมาบ้าน เธอก็บริ้วอารมณ์ตัวเองมาเต็มที่

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ชนิตร์นันท์

ข้อมูลเพิ่มเติม
คนงานบ้านนายฝรั่ง

คนงานบ้านนายฝรั่ง

โรแมนติก

5.0

หากนาไม่แล้ง ข้าวไม่แห้งตาย ‘เดช’ ก็ไม่คิดจะหอบเอา ‘ฟ้า’ เมียรักเข้ามาทำงานในเมืองกรุง แต่ความจนทำให้เลือกไม่ได้ และงานดี เงินดี เจ้านายเห็นใจ ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ทว่า... หากรู้ว่ามาแล้วจะต้องเสียเมียให้นายฝรั่ง เดชเลือกที่จะไม่มาเสียยังดีกว่า แต่... เสียแล้วคือเสียเลย สิ่งเดียวที่จะชดเชยความแค้นก็คือ ‘เมียนาย’ คุณผู้หญิงเร่าร้อน เร่งเร้า รุนแรง และมากครั้งเท่าที่ต้องการ เดชไม่รู้แล้วว่านั่นคือการแก้แค้นหรือรางวัล +++++ ‘เดช’ พา ‘ฟ้า’ เมียรักมาทำงานที่บ้านนายฝรั่ง แต่ ‘คริส’ นายฝรั่งกินเมียเขาไปแล้ว และยังเอาดุ้นยาวใหญ่มาล่อให้ฟ้าติดใจ จนฟ้ากินไม่อิ่มไม่พอ อยากได้อะไรที่เทียบเท่า เขาก็เลยแอบกิน ‘โรส’ เมียของนายฝรั่ง แก้แค้นให้สาสม แต่แค้นช่างแสนหวานและฉ่ำชุ่ม จนเขาต้องกินซ้ำๆ ยิ่งได้กินพร้อมๆ กับพี่โชค เขาก็ยิ่งเมามัน และแน่นอนว่าโรสชอบ ในขณะที่นายฝรั่งกระหยิ่มยิ้มที่ได้กินเมียเขา เดชกลับสุขและยิ้มกว้างยิ่งกว่า เพราะเขาได้กิน ‘คุณหนูแพทตี้’ คุณหนูช่างร่านร้อนไม่ต่างจากแม่ แน่นอนว่าเขาชวนพี่โชคมากินด้วย

รับ(ลับ)ฉบับมาดาม

รับ(ลับ)ฉบับมาดาม

โรแมนติก

5.0

#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา

หนังสือที่คุณอาจชอบ

มงกุฎเลือด

มงกุฎเลือด

Tepui Frost
5.0

ในชาติก่อน นางได้ต่อสู้เพื่อประเทศชาติเป็นเวลาห้าปี แต่ความดีความชอบทางการทหารกลับถูกน้องหญิงยึดไป คู่หมั้นที่นางรักหมดใจนั้นกลับนิ่งเฉยและร่วมมือกับอีกฝ่ายผลักนางตกลงสู่ห้วงลึกจนต้องเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจในคืนที่หนาวเย็น หลังจากได้เกิดใหม่ นางสาบานว่าจะทำให้ทุกคนที่รังแกนางได้รับผลกรรมที่สาสม เมื่อเผชิญหน้ากับครอบครัวที่เสแสร้งและผู้ชายเจ้าชู้ นางยิ้มเยาะ : ความดีความชอบทางทหาร? รางวัล? คู่หมั้น? เอาไปให้หมด นางหันหลังกลับและคุกเข่าในงานเลี้ยงในวังอย่างน่าตกใจโดยชี้ตรงไปยังมุมมืดที่มีอ๋องอวี้นั่งอยู่บนรถเข็น“ขอฝ่าบาททรงโปรดพระราชทานการสมรสระหว่างหม่อมฉันกับอ๋องอวี้เพคะ” ทุกคนต่างตกตะลึง อ๋องอวี้เซียวจือ ขาทั้งสองข้างใช้การไม่ได้และมีนิสัยเย็นชา เป็นคนที่ทุกคนหลีกเลี่ยงเสมือนปีศาจที่มีชีวิต ทุกคนหัวเราะเยาะนางว่าคงบ้าไปแล้ว ถึงรนหาที่ตายเช่นนี้ แต่ไม่มีใครรู้ว่านางเห็นถึงความโดดเด่นและพลังที่ซ่อนอยู่ลึกในตัวชายคนนี้ นางช่วยให้เขาฟื้นฟูความแข็งแกร่งและรักษาขาที่เป็นพิการ เขาสัญญาว่าจะให้ชีวิตที่มั่นคงแก่นางและเป็นที่พึ่งที่แข็งแกร่งที่สุดให้นาง เมื่อน้องหญิงที่แอบอ้างนำความดีความชอบทางทหารของนางไปอวดความเก่งกล้า และแม่แท้ ๆ ยังคงใช้กลอุบายควบคุมชะตากรรมของนาง… นางและอ๋องอวี้ร่วมมือกันวางแผนอย่างรอบคอบทุกขั้นตอน เปิดโปงกลโกงและแสดงความกล้าหาญในสนามรบ! จนกระทั่งอ๋องอวี้ยืนขึ้นได้อีกครั้งและมีอำนาจครอบครองราชสำนัก จนกระทั่งนางแสดงตราประทับที่แท้จริงข และให้ทหารทั้งหลายยอมรับ ทุกคนเพิ่งรู้สึกตระหนักว่า คนที่พวกเขาเคยทิ้งไปไม่ต่างจากขยะนั้น ทั้งคู่ได้จับมือกันแล้วครองแผ่นดินไว้ด้วยแล้ว

ทะลุมิติมาอยู่ในร่างหญิงปัญญาอ่อนซ้ำยังต้องแต่งงานกับบุรุษใบ้

ทะลุมิติมาอยู่ในร่างหญิงปัญญาอ่อนซ้ำยังต้องแต่งงานกับบุรุษใบ้

แก้วใบเล็ก
5.0

โปรย: มาอยู่ในร่างหญิงปัญญาอ่อน ถูกตราหน้าว่าเป็นลูกโจรที่เคยเข่นฆ่าผู้คนไปทั่ว ซ้ำร้ายเขายังต้องการล้างแค้นแทนพ่อโดยใช้หัวใจเป็นเดิมพัน ........................ ไรต์มีนิยายพื้นบ้านมาฝากอีกแล้วค่า เน้นการใช้ชีวิตประจำวัน เนื้อเรื่องไม่หวือหวาส่วนใหญ่เกิดจากจินตนาการของไรต์มากกว่าเหตุการณ์ในยุคนั้น ใครชอบแนวนี้ไรต์ฝากกดหัวใจกดติดตามกันด้วยนะคะ หญิงสาวที่ตื่นมาตอนเช้าเพื่อเตรียมตัวไปรับพระราชทานปริญญาบัตร แต่กลับต้องย้อนไปอยู่ในยุค 60 ในร่างหญิงปัญญาอ่อนที่มีความทรงจำอันน้อยนิด มีพ่อเป็นอดีตโจรที่ขาพิการ ครอบครัวยากจน กับค่าแรงวันละเจ็ดบาท แล้วเช่นนี้เธอจะทำให้ครอบครัวกินอยู่อิ่มท้องได้อย่างไร พระเอกนางเอกเรื่องนี้มีการแก้แค้นเอาคืนไม่ได้เป็นคนดีบริสุทธิ์นะคะ ทุกคนโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เนื้อหาบางส่วน.... คำแก้วเดินออกมาถึงทางห้าแยกที่จะเลี้ยวเข้าหมู่บ้านสี่แจและหมู่บ้านอื่น ๆ ก็เจอกับชายฉกรรจ์สามคนยืนขวางอยู่ตรงหน้า คำแก้วเดินต่ออย่างไม่รู้สึกเกรงกลัว            “เฮ้ย! มีคนเดินมาทางนี้ว่ะ”            “ลูกพี่มันแบกหมูป่าตัวเบ้อเร่อมาด้วย”            “เอาของมีค่าทั้งหมดมาจากมันให้ได้”            “แต่มันเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เองนะลูกพี่”            “พ่อมึงสอนให้โจรอย่างพวกมึงใจดีกับพวกผู้หญิงเหรอวะ” คนที่เป็นหัวหน้าแก๊งตวาดเสียงดังจนคำแก้วต้องเงยหน้ามอง ดวงตากลมไหวสั่นเล็กน้อย เข้ามาสิจะใช้เครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตให้ ปืนก็มี มีดก็มี กลัวอะไรล่ะ หักแขนหักขาคนก็ได้ด้วย            “มะ ไม่ได้บอกครับ” คนที่เป็นลูกน้องตอบเสียงสั่น แล้วพวกมันก็ก้าวเท้าไปขวางหน้าคำแก้วไว้            “เอาของมีค่าจากตัวมึงมาให้หมด รวมถึงหมูป่าด้วย” ลูกน้องหนึ่งในสองคนพูดขึ้น แปลกใจที่ในกระบุงมีผลไม้หลายอย่างที่พวกเขาไม่เคยกิน            “ไม่มี” คำแก้วตอบเสียงห้วน มองชายทั้งสามด้วยแววตาไม่สะทกสะท้าน เธออยากเห็นโจรตัวเป็น ๆ วันนี้เธอก็ได้เห็นแล้ว พวกมันใช้ผ้าขาวม้าคลุมหน้าไว้ ยุคสมัยนี้ตำรวจคงทำอะไรคนพวกนี้ไม่ได้จริง ๆ            “ปากดีซะด้วย กูชอบว่ะ จะมีผู้หญิงสักกี่คนวะที่ไม่กลัวโจรอย่างพวกกู ฮ่า ๆ ๆ” เรืองว่าพลางหัวเราะเสียงลั่น ในมือถือปืนเคาะฝ่ามืออีกข้างเล่นไปพลาง ๆ แล้วสั่งลูกน้องเสียงเหี้ยม “จับตัวมันไว้”            ลูกน้องทั้งสองกรูเข้าไปจับตัวคำแก้วไว้ คำแก้วปล่อยหมูและกระบุงลงบนพื้นดิน            เรืองก้าวเท้ายาวเข้ามาใกล้ ดึงผ้าขาวม้าออกจากหน้าเธอ สายตาคมกริบมองใบหน้าเรียวเล็กของอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจเป็นที่สุด            “นี่มันลูกสาวคนโตของไอ้เสือเข้มนี่หว่า มึงกล้าออกมาป่าคนเดียวได้ยังไงวะ” เขาใช้ปลายกระบอกปืนเชยคางของคำแก้วขึ้น แล้วพิศมองใบหน้าเธอนิ่ง            คำแก้วจ้องตามันกลับอย่างไม่ลดละ โจรพวกนี้อาจจะเป็นพวกเดียวกันกับที่ทำร้ายพ่อของเธอก็เป็นได้ ถึงได้รู้จักเสือเข้ม            ชายรูปร่างสูงใหญ่ที่ยืนหลบอยู่ในพุ่มไม้ที่อยู่ไม่ไกลมากนักถึงกับเบิกตาโพลงเมื่อได้ยินว่าสาวน้อยคนที่เขาเดินตามออกมาจากป่าเป็นลูกของไอ้เสือเข้ม แต่เขาได้ยินมาว่าลูกสาวคนโตของเสือเข้มเป็นเด็กที่มีความบกพร่องทางปัญญาไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงเข้าป่าไปล่าสัตว์คนเดียวได้อย่างไม่รู้สึกเกรงกลัวสัตว์ป่า หรือแม้แต่โจรพวกนี้ได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งสงสัย ตัดสินใจไม่ผิดจริง ๆ ที่เดินตามเธอมา คราแรกเขาแค่อยากรู้ว่าเธอเป็นคนของหมู่บ้านไหนกันแน่ เพราะเขาไม่เคยเห็นหน้า และกลัวว่าเธอจะเป็นอันตรายจึงเดินตามมาอย่างเงียบ ๆ ไม่คิดว่าจะเป็นลูกสาวคนที่เขาตามหามานาน

พระชายาของข้าคนเดียว

พระชายาของข้าคนเดียว

Daryl Tudge
5.0

เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"

ไฟรักเร่าร้อน NC18++

ไฟรักเร่าร้อน NC18++

Me'JinJin
4.9

คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"

รักใหม่พันล้าน

รักใหม่พันล้าน

Hilarius Erikson
5.0

เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ