Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
3.8K
ชม
33
บท

‘หากหัวใจปราศจากความแค้น คงไร้แล้วซึ่งลมหายใจ’ สำหรับหล่อน เขาคือชายชุดดำ บอดี้การ์ดหน้านิ่งของพ่อ เคร่งขรึม เก๊กหล่อ หมางเมินใส่ราวหล่อนไม่สำคัญ ก็แน่ล่ะ เพราะพี่สาวเขากำลังจะมาเป็นเมียใหม่ของพ่อ แต่มีเหรอที่หล่อนจะยอม นารีมีรูปเป็นทรัพย์ฉันใด หล่อนก็พร้อมจะลงทุนเพื่อสิ่งที่ได้มา ภายใต้แว่นดำนั้น หล่อนต้องรู้ให้ได้ว่า ‘หัวใจ’ หรือเปล่าที่ซุกซ่อนอยู่ แต่สำหรับเขา... หล่อนคือ เหยื่อ! ที่ความแค้นจะได้เอาคืน

บทที่ 1 EP.01

เสียงประกาศจากรถหาเสียงดังกระหึ่มไปทั่วทั้งชุมชนทำให้ชาวบ้านร้านตลาดออกมายืนอยู่ด้านข้างถนนเพื่อมองดูผู้สมัครเข้าชิงตำแหน่งนายกเทศบาลประจำตำบลแห่งนี้

บนด้านหลังรถกระบะคันโก้ ‘นายนารถ นฤปนาท’ นักการเมืองท้องถิ่นอดีตนายกฯ 3 สมัย ลงชิงตำแหน่งอีกครั้ง

นารถใส่เสื้อแจ็คเก็ตสีขาวด้านหลังมีโลโก้ชื่อพรรคและเบอร์ผู้สมัคร ลำคอคล้องพวงมาลัยดอกดาวเรืองสีเหลืองสด ใบหน้าเขายิ้มแย้ม ดวงตาภายใต้กรอบแว่นใสบ่งบอกถึงความเป็นมิตรและจิตใจดีอยู่เสมอ

“สวัสดีครับพ่อแม่พี่น้อง สวัสดีครับ สวัสดีครับ อ้าว! สวัสดี สวัสดี ทิด! สวัสดี ป้า! สวัสดี”

เขาโบกไม้โบกมือให้กับชาวบ้านทั่วไป ทั้งคนไม่คุ้นหน้า คนคุ้นเคย และคุ้นหน้าคุ้นตากันดีอยู่แล้วพร้อมร้องทักทายยกมือไหว้ เพราะทำงานอยู่ในพื้นที่นี้มานานนับ 10 ปี ทำให้รู้จักชาวบ้านเสียมากกว่ารู้จักญาติพี่น้องของตนเองเสียอีก ด้วยภาพลักษณ์นักการเมืองจิตใจดี คนซื่อ มือสะอาด ก็ยิ่งทำให้ชาวบ้านทั้งรักทั้งบูชาท่านอดีตนายกฯ 3 สมัย อย่างที่คิดจะเปลี่ยนใจเลือกคนใหม่ได้ยาก เรียกได้ว่าหาเสียงพอเป็นพิธีเพราะนอนมาชัดๆ

ทว่าการรักษาภาพลักษณ์กลับเป็นสิ่งที่จำเป็นเพราะโครงการใหญ่ในภายภาคหน้าจะต้องได้รับความยินยอมของชาวบ้าน ยิ่งเชื่อใจ อะไรอะไรก็ยิ่งจะง่าย

และเมื่อรถเคลื่อนมาถึงหน้าบ้านที่เป็นแหล่งชุมชนมีคนอยู่เยอะ รถบิ๊กอัพก็จอดอย่างรู้งาน

นารถลงจากรถยกมือรับไหว้เหล่าชาวบ้านที่ต่างมาให้กำลังใจ บางคนก็ยื่นดอกไม้ให้ บางคนก็เอาพวงมาลัยมาคล้องคอ บางคนเข้ามาจับมือเอ่ยคำพูดชื่นชมให้กำลังใจ

“ท่านครับ ขอให้ท่านได้เป็นนายกฯ สมัยที่สามนะครับ”

“ท่านต้องได้แน่นอนครับ”

“ท่านครับ นี่บ้านผมครับ ท่อน้ำตรงนี้น้ำไม่ระบายเลยครับ ฝนตกหน่อยน้ำก็ท่วมครับ”

“อ้อๆๆ นิรยะ”

“ท่านคะ ปีนี้ลูกหนูจะเข้ามอสี่ ฝากท่านด้วยนะคะ”

“อืม... นิรยะ”

“ท่านครับ นี่ลูกสาวผม ปีนี้จบปริญญาตรีแล้วครับ อยากให้ทำงานใกล้บ้าน”

“อืม... นิรยะ”

“ท่านคะ ปีนี้ถนนเข้าบ้านเราคงได้ลาดยางสักที”

“ใช่ๆ ผมก็คาดหวังว่าจะเป็นอย่างนั้น นิรยะ”

ทุกข้อร้องเรียน ทุกข้อแสดงความคิดเห็น คนที่นารถจะหันไปหาก็คือ... ‘นิรยะ’ คนสนิทของเขา เป็นสัญญาณว่าให้เก็บข้อมูลทุกอย่าง และเจ้าของใบหน้าหล่อเข้ม นิ่ง และดูดุ ก็พยักหน้าน้อยๆ ว่ารับทราบ

เพียงชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตและกางเกงสแล็คดำทั้งชุดปรายตามอง คนที่ยืนรายล้อมรอบตัวนารถก็รีบบอกความต้องการและรีบถอยห่างอย่างเร็วเพราะต่างรู้กิตติศัพท์ของนิรยะดี

ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่านิรยะเข้ามาอยู่กับนารถเมื่อไร รู้แค่ว่าเมื่อ 5 ปีก่อนที่นารถโดนถล่มยิงจากคู่อริ นิรยะคือคนที่พานารถฝ่าวงล้อมดงกระสุนรอดตายมาได้ จากนั้นเขาก็ได้กลายเป็นมือขวาคนสนิทตามประกบนารถไปทุกที่ ที่ใดมีนารถน้อยนักที่จะไม่เห็นนิรยะ แต่หากไม่มีนิรยะก็ยังมีเหล่าลูกน้องคนสนิทที่ว่ากันว่าเขาคัดเลือกมาเองกับมือ

หากนารถเป็นสิงโตเฒ่าเจ้าป่า นิรยะก็เป็นสิงห์หนุ่มที่พร้อมขย้ำทุกคนที่เข้ามากล้ำกรายนายของเขา

นารถยังคงเดินทักทายชาวบ้านในชุมชน เขาไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธทุกคำร้องขอ เพียงแต่บอกให้นิรยะบันทึก เพราะเป็นอันรู้กฎกันดีว่าไม่ควรให้คำสัญญิงสัญญาใดๆ กับชาวบ้าน ไม่ใช่ว่าไม่อยากทำให้ตามคำร้องขอ แต่เป็นเพราะไม่ได้อยู่ในที่รโหฐาน แต่เป็นที่สาธารณะ ดังนั้นการรับปากหรือยืนยันตามสิ่งที่ร้องขอจะกลายเป็นการหาเสียงที่ผิดกฎและหากฝ่ายตรงกันข้ามต้องการเอาสิ่งนี้มาเล่นงาน นั่นจะกลายเป็นฝ่ายนารถที่แพ้ฟาวล์ตั้งแต่ยกแรก

“จดไว้ให้ครบนะนิรยะ อย่าให้ขาดตกสักคนหนึ่ง”

“ครับท่าน ไม่ต้องห่วงครับ”

เสียงกว้างกังวานของนารถที่เอ่ยกับนิรยะดั่งจะกำชับให้คนสนิทรอบคอบอย่าทิ้งขว้างความต้องการของชาวบ้าน ทว่ากลับจงใจให้คนที่อยู่ด้านข้างได้ยินชัดเช่นกัน แค่นั้นชายชาวบ้านที่มาร้องขอความช่วยเหลือก็ตาวาวขึ้นด้วยความดีใจ เมื่อได้รู้ว่าสิ่งที่ขอไปนั้นท่านอดีตนายกฯ ใส่ใจ และเมื่อขบวนหาเสียงเคลื่อนไปข้างหน้า ชายชาวบ้านก็รีบป้องปากกระซิบบอกคนที่อยู่ด้านข้างโดยเร็ว

“ท่านนายกฯ นารถกำชับคุณนิให้จดเรื่องเดือดร้อนของพวกเราทุกคนแล้ว ท่านบอกด้วยนะว่าอย่าให้ขาดตกสักคนหนึ่ง”

จากนั้นปากต่อปากก็ป้องกันไป สีหน้าชาวบ้านคือความหวัง และสีหน้าของนารถก็คือความหวังเช่นกัน ส่วนสีหน้าของนิรยะคือราบเรียบดังเดิม

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ชนิตร์นันท์

ข้อมูลเพิ่มเติม
คนงานบ้านนายฝรั่ง

คนงานบ้านนายฝรั่ง

โรแมนติก

5.0

หากนาไม่แล้ง ข้าวไม่แห้งตาย ‘เดช’ ก็ไม่คิดจะหอบเอา ‘ฟ้า’ เมียรักเข้ามาทำงานในเมืองกรุง แต่ความจนทำให้เลือกไม่ได้ และงานดี เงินดี เจ้านายเห็นใจ ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ทว่า... หากรู้ว่ามาแล้วจะต้องเสียเมียให้นายฝรั่ง เดชเลือกที่จะไม่มาเสียยังดีกว่า แต่... เสียแล้วคือเสียเลย สิ่งเดียวที่จะชดเชยความแค้นก็คือ ‘เมียนาย’ คุณผู้หญิงเร่าร้อน เร่งเร้า รุนแรง และมากครั้งเท่าที่ต้องการ เดชไม่รู้แล้วว่านั่นคือการแก้แค้นหรือรางวัล +++++ ‘เดช’ พา ‘ฟ้า’ เมียรักมาทำงานที่บ้านนายฝรั่ง แต่ ‘คริส’ นายฝรั่งกินเมียเขาไปแล้ว และยังเอาดุ้นยาวใหญ่มาล่อให้ฟ้าติดใจ จนฟ้ากินไม่อิ่มไม่พอ อยากได้อะไรที่เทียบเท่า เขาก็เลยแอบกิน ‘โรส’ เมียของนายฝรั่ง แก้แค้นให้สาสม แต่แค้นช่างแสนหวานและฉ่ำชุ่ม จนเขาต้องกินซ้ำๆ ยิ่งได้กินพร้อมๆ กับพี่โชค เขาก็ยิ่งเมามัน และแน่นอนว่าโรสชอบ ในขณะที่นายฝรั่งกระหยิ่มยิ้มที่ได้กินเมียเขา เดชกลับสุขและยิ้มกว้างยิ่งกว่า เพราะเขาได้กิน ‘คุณหนูแพทตี้’ คุณหนูช่างร่านร้อนไม่ต่างจากแม่ แน่นอนว่าเขาชวนพี่โชคมากินด้วย

รับ(ลับ)ฉบับมาดาม

รับ(ลับ)ฉบับมาดาม

โรแมนติก

5.0

#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา

รักต้องห้าม

รักต้องห้าม

โรแมนติก

5.0

รักต้องห้าม เป็นนิยายที่ขับเคลื่อนด้วยความรักและเซ็กซ์! ประเภทที่ว่า ‘รักแล้วทำอะไรก็ไม่ผิด’ หรือ ‘ด้วยความสมยอม’ ‘นิชชา’ หญิงสาวที่มีความหลงใหลให้กับคนที่ไม่คู่ควร ทว่า... หากใจมันหลงไปแล้ว หล่อนจะทำยังไง ถอยห่าง หรือ ก้าวเข้าหา ในเมื่อหัวใจร่ำร้อง และ กายเนื้อต้องการ +++++ ‘นีรนุช’ ลูกสะใภ้ตระกูลใหญ่ที่สามีไม่ค่อยมีเวลาให้ แต่หล่อนก็พยายามเป็นสะใภ้ เป็นเมีย และแม่ที่ดีของลูก ทว่าสิ่งที่พลาดไปแล้วหล่อนกลับลืมไม่ได้ มันฝังใจ ลึกแน่น และพร้อมจะเรียกร้อง +++++ ‘นันทิยา’ ม่ายสาวไฮโซ ตั้งแต่สามีตายจาก หล่อนไม่คิดจะแต่งงานใหม่ เพราะไม่อยากให้ใครมาทำลายความทรงจำดีๆ ของหล่อนกับสามี แต่ความอยากที่ไม่ปรานีใคร ก็ทำให้นันทิยาร้อนรุ่ม +++++ ‘มีนา’ เข็ดกับรักครั้งแรกจนไม่คิดจะมีใครอีก แต่แล้วความรักก็หวนมาให้เจ็บแสบและซาบซ่าน และครั้งนี้ไม่ได้มาเพียง 1 แต่มาถึง 2 หล่อนควรทำอย่างไร ในเมื่อคนหนึ่งก็รัก แต่อีกคนก็หวั่นไหว

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ยั่วรักกับดักสวาท

ยั่วรักกับดักสวาท

โรแมนติก

5.0

เธอหวังไป ‘ยั่ว’ ให้เขาตื่น แต่กับดักสวาทที่สร้างขึ้น เธอดันติดเสียเอง เมื่อ ‘ดอกเตอร์’ หนุ่มสุดเคร่งขรึม ถูกล้วงความลับจาก ‘สาวใช้’ สุดอึ๋มกระแทกใจ ในข้อหาแสนจะโหดร้ายกับความหล่อ ‘เกย์’ หรือเปล่าที่เขาเป็น การพิสูจน์ในสิ่งที่ธรรมชาติเรียกร้อง ‘ทั้งวันและทั้งคืน’ คงเป็นคำตอบสำหรับเธอ ‘ยั่ว’ เท่านั้นที่ครองโลก ถ้าเขาแตะเธอเมื่อไร นั่นแหละคือคำตอบ แต่ ‘โอว... โน! ไม่นะ เธอไม่ได้อยากให้มันจบแบบนี้’ “อย่านะ! คุณผู้ชาย! อย่าทำบัวหล้า ขอร้องล่ะ บัวหล้ายอมแล้ว ยอมบอกแล้ว” แม้สมองจะยังช้าแต่สิ่งหนึ่งที่ระลึกได้นั่นคือ ‘อันตราย’ ไม่ว่าเขาจะเป็นอะไร เป็นเพศทางเลือกไหน แต่สิ่งหนึ่งที่เธอต้องระลึกเสมอก็คือ ‘เขาเป็นผู้ชาย!!’ “มันสายไปแล้วละบัวหล้า ฉันให้โอกาสเธอแล้ว เธอไม่คว้าไว้เอง อยากจะพิสูจน์ใช่ไหม ว่าฉันเป็นผู้ชายจริงหรือเปล่า ฉันจะให้เธอพิสูจน์ แต่ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวนะ แต่เป็นทั้งคืน เธอจะต้องพิสูจน์ให้ฉัน จนกว่าจะพอใจ”

อย่าพูดคำว่าไม่เคย

อย่าพูดคำว่าไม่เคย

โรแมนติก

5.0

“เราหย่ากันเถอะ”หนึ่งประโยคนี้ ทำให้ชีวิตการแต่งงานสี่ปีของฉินซูเหนียนกลายเป็นเรื่องตลก ในขณะนี้ ฉินซูเหนียนถึงตระหนักว่าสามีของเธอไม่เคยมีใจให้เธอ น้ำเสียงของเขาเย็นชา: "ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันมีเพียงหว่านหว่านอยู่ในใจ และคุณเป็นเพียงแผนชั่วคราวในการจัดการกับการแต่งงานในครอบครัวที่กำหนด" ด้วยความสิ้นหวัง ฉินซูเหนียนลงนามในใบหย่าอย่างไม่ลังเล ถอดผ้ากันเปื้อนของภรรยาที่ดีออก สวมมงกุฎของราชินีขึ้นมา และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ กลับมาอีกครั้ง เธอไม่ใช่คุณนายลี่ที่สวยแต่เปลือกอีกต่อไป แต่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่น่าทึ่งใจ เธอแสดงความสามารถต่อหน้าคนอื่นๆ และอดีตสามีที่หยิ่งก็ถามเธอว่า: "ฉินซูเหนียน นี่เป็นเคล็ดลับใหม่ของเธอในการดึงดูดฉันงั้นเหรอ" ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ประธานลึกลับก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและประกาศไปว่า "ดูให้ชัดเจน นี่คือคุณนายฟู่ คนอื่นห้ามเข้าใกล้เธอ" ฉินซูเหนียนถึงกับพูดไม่ออก อดีตสามีก็ตกตะลึงไปด้วย

ติวสวาท ปิศาจร้อนรัก

ติวสวาท ปิศาจร้อนรัก

มหาเศรษฐี

5.0

“คุณช่วยสอนเรื่องอย่างว่าให้ฉันได้ไหม?” “ห๊ะ?!” ทันทีที่เธอพูดจบ ออสตินก็อย่างตกใจจนเกือบจะพลัดตกเก้าอี้แล้วด้วย ไม่คาดคิดว่าเธอจะพูดเรื่องนี้กับเขา ออสติน เบรเดน ปิศาจหนุ่มผู้เจนจัดในเรื่องเริงรัก ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าจะได้ยินคำขอสุดพิศดารพันลึกจากปากของดรัลพร แก้วกานต์ เมื่ออยู่ๆ เธอก็บุกมาถึงห้องทำงานแล้วขอให้เขาช่วยรับหน้าที่ “ติวเตอร์” เพื่อสอน “บทเรียนพิศวาส” ให้เธอเป็น “ผู้หญิงเร่าร้อน” ในแบบที่เขาชอบ และเขาคงจะรับหน้าที่ดังกล่าว หากว่าเธอไม่ใช่น้องสาวของเพื่อนสนิท และเป็นคนที่เขาพยายามเก็บไม้เก็บมือให้อยู่ห่างจากเธอมาตลอด เพราะเขาดันรู้สึกอยากครอบครองเธอตั้งแต่เธออายุได้เพียงสิบสามปีเท่านั้น! ทว่าคนอย่างดรัลพรผู้มุทะลุมีหรือจะยอมให้เขาปฏิเสธคำขอเธอง่ายๆ เมื่อเธอยั่วยวนเขาด้วยท่าทีไม่ประสีประสาจนเขาต้องหลวมตัวตกปากรับคำว่าจะเป็น “คุณครูกิตติมศักดิ์” สอนบทเรียนแสนพิเศษนั้นให้กับเธอ เพียงแต่เธอต้องจ่ายค่าเล่าเรียนแพงลิบลิ่ว ด้วย “พรหมจรรย์” ที่เพียรรักษามานานของเธอ “คราวหลัง... อย่าได้คิดจะอ่อยผู้ชายคนอื่นอีก เข้าใจไหม?!” เขาถามเมื่อฟาดแส้ลงมาอีกครั้ง “แยกขาออกเดี๋ยวนี้!” “อื้อ!” ดรัลพรร้องอีกครั้งเมื่อเขาฟาดแส้ลงมาเพื่อเป็นการทำโทษและตักเตือนถึงผลของการขัดคำสั่งของเขา

เมียลับบำเรอแค้น

เมียลับบำเรอแค้น

มหาเศรษฐี

4.9

ตอนเธออยู่ทำร้ายจิตใจต่างๆ นานา ตอนเธอจากไป...เขาเหมือนคนกำลังจะตาย เขาเห็นเธอเป็นเพียงดอกไม้ริมทางที่จะเด็ดมาดอมดมเมื่อไหร่ก็ได้ และเหยียบย่ำน้ำใจเธออย่างแสนสาหัส ทำให้เธอเจ็บปวดกับคำว่า “เมียลับ” แต่ความทุกข์ทรมานที่ได้รับแลกกับความสุขของมารดา...พวงชมพูยอม ……………… “ได้ข่าวมาว่า ตอนที่ฉันไม่อยู่ เธอไปแรดกับผู้ชายคนอื่นใช่ไหม” คนถูกถามตัวสั่น ไม่กล้าสบตาร้อนแรงของปราณปวิชที่แทบจะประหารเธอทางสายตา “ฉันถามไม่ได้ยินหรือไง ตอบมา” พวงชมพูสะดุ้งสุดตัว ตัวเนื้อสั่นไปหมด ปากแข็งขึ้นมาราวกับถูกหินถ่วง “ฉันถามไม่ได้ยินหรือไง ฮะ” คราวนี้เสียงเขาตะเบ็งจนเธอสะดุ้ง ใบหน้าอาบไปด้วยความตกใจและหวาดกลัวเมื่อเห็นสีหน้าเขาตอนนี้ “ชม...ชมไปบ้านพี่ทัชมาค่ะ แต่เราไม่ได้มีอะไรกันอย่างที่คุณปราบเข้า...ว้าย!” มือใหญ่จับท่อนแขนเล็กไว้แน่น ก่อนเหวี่ยงร่างงามไปบนที่นอน “ฉันเคยบอกเธอแล้วใช่ไหมว่า ตราบใดที่เธอเป็นนางบำเรอของฉัน เธออย่าริอ่านไปร่านกับผู้ชายคนอื่น ในเมื่อไม่ฟัง เธอก็ต้องได้รับบทเรียน” ม่านตาพวงชมพูขยายกว้าง เมื่อเขาหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง “ไม่ค่ะ ไม่เอา ไม่เอาแบบนี้” พวงชมพูพูดเสียงสั่น กระเถิบตัวหนีเสือร้ายขี้โมโหที่พร้อมขย้ำตนให้ตายคาเตียง ทั้งที่รู้ว่า ไม่อาจหนีรอดจากเงื้อมมือเขาได้ “อยากเจ็บตัวเอง ช่วยไม่ได้” เขาคำรามเสียงเข้ม แววตาจ้องมองพวงชมพูประหนึ่งสัตว์ร้ายจ้องมองเหยื่อ ก้าวสามขุมไปหากวางน้อยที่กำลังหาทางเอาตัวรอด

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ