รับ(ลับ)ฉบับมาดาม

รับ(ลับ)ฉบับมาดาม

ชนิตร์นันท์

5.0
ความคิดเห็น
1.7K
ชม
34
บท

#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา

บทที่ 1 EP.01

ฉันชื่อ ‘ทราย’ ค่ะ ใครๆ ก็บอกว่าฉันเป็นคนสวย เพราะหน้าตาคมขำตามแบบฉบับสาวไทย ทำให้ฉันเด่นสะดุดตาที่สุด ยามอยู่ในวงล้อมของคนยุโรป

แม้ปีนี้ฉันจะอายุ 30 แล้วก็ตาม แต่ความสวยของฉันก็ไม่ได้ลดลงเลย ฉันว่ามันเพิ่มขึ้นตามอายุเสียด้วยสิ เพราะในแต่ละปี ฉันยิ่งมองเห็นความสวยที่เพิ่มขึ้นๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด นั่นอาจเป็นเพราะร่างกายนี้ได้รับการดูแลมากขึ้นก็ได้

จากเด็กสาวบ้านนอก เนื้อตัวกระดำกระด่างไม่เคยได้แต่งแต้มเครื่องสำอางใดๆ ลงไป แต่เมื่อความโชคดีมาเยือน เงินทองที่มีเข้ามาอย่างมากมาย ทำให้ฉันรู้จักที่จะให้ความสุขกับร่างกายนี้

เครื่องสำอางประทินผิวชั้นดีจึงถูกนำมาแต่งแต้ม ผิวคล้ำด่างดำถูกขัดสีฉวีวรรณจนกลายเป็นผิวสีน้ำผึ้งเดือน 5 เส้นผมดำยาวสยายถูกจัดแต่งเป็นทรงสวย แม้แต่รูปร่างก็ได้รับการดูแลให้ยิ่งสวยงาม โดยเฉพาะทรวดทรงองค์เอวที่ยังคงเต่งตึงนี่แหละ ผู้ชายคนไหนไม่สนใจก็ให้รู้ไปสิ แต่จากสายตาของพวกเขาที่มองดูฉัน ฉันว่า... ฉันภูมิใจนะ

‘34-24-35 สูงร้อยกว่าๆ ชอบม่ะๆ’ นั่นไม่ใช่สัดส่วนของฉันหรอกค่ะ เพราะฉันน่ะสะบึมกว่านั้นมาก ’36-24-38 สูง 160 เซนติเมตร’ นี่สิ ที่สามีฉันชอบและติดใจตั้งแต่แรกเห็น

อกอวบอิ่มที่แน่นเต่งตึงพร้อมสำหรับให้เขาซุกหน้าลงไปคลึงเคล้น เอวคอดกิ่วที่เขามักทาบฝ่ามือลงไปยามต้องการดึงฉันเข้าหาตัว และสะโพกทอร์นาโดขนาดมหึมาที่เขาชอบให้ฉันส่ายร่อนโยกไหวตามจังหวะอารมณ์ที่ต้องการไปให้ถึง ยิ่งทำให้เขาครวญครางได้มากเท่าไร ฉันก็ยิ่งภูมิใจกับรูปร่างของตัวเองมากขึ้น

แต่ที่ ‘เคิร์ก’ สามีของฉันชอบมากที่สุดก็คือ ‘ริมฝีปาก’ ของฉันค่ะ เพราะเขาชมเสมอว่าฉันน่ะปากสวย และจะสวยมากที่สุดก็ยามที่ริมฝีปากเคลือบสีชมพูสดของฉันอ้าออกกว้าง และกลืนกินดุ้นขนาดใหญ่ของเขาเข้าไป

แม้จะเข้าได้เพียงครึ่งลำ แต่นั่นก็ทำให้เขาครางได้นะ เพราะลิ้นของฉันไม่ได้อยู่เฉยนี่คะ ทุกจังหวะพลิ้วไหวสะบัดไปตามใจปรารถนา นั่นน่ะเคล็ดลับที่ฉันฝึกปรือจนชำนาญ และก็ทำให้เคิร์กปลดปล่อยเสียงครางกระเส่าจนทะยานขึ้นสวรรค์มานับครั้งไม่ถ้วน

เคิร์กเป็นชาวอังกฤษวัย 38 ปี เขาตัวใหญ่มาก... คุณนึกภาพโฉมงามกับเจ้าชายอสูรสิคะ นั่นแหละเขาล่ะ ตัวเขาใหญ่เหมือนยักษ์ ‘ดุ้น’ ของเขาก็เลยใหญ่ตามความคาดเดาของหลายๆ คนล่ะค่ะ ไม่อยากจะคุยว่าน้องๆ ม้าเลยนะ พูดไปก็อายปาก ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเขา สิ่งที่ฉันกลัวมากที่สุดก็คือเจ้านี่แหละ

ฉันกับเคิร์กเจอกันที่พัทยาเมื่อ 10 ปีก่อน เขามาเที่ยวเมืองไทย ส่วนฉันน่ะเหรอก็ทำงานน่ะสิ เด็กสาวจากบ้านนอกอย่างฉัน เรียนไม่สูงแต่อยากได้เงินเดือนเยอะ อาชีพไหนที่ทำเงินได้มาก ฉันทำทั้งนั้นแหละ มีครอบครัวต้องดูแลนี่คะ และนักเต้นรูดเสาก็เป็นอาชีพที่ฉันเลือก

แม้เครื่องแบบทำงานของฉันจะไม่ต่างจากเสื้อในกางเกงใน แต่เงินเดือนเริ่มต้นที่ 15,000 บาทไม่รวมทิป ทั้งยังเลือกได้ว่าจะไปกับลูกค้าหรือไม่ไปก็ได้ เพราะทางร้านไม่ได้บังคับ แค่เต้นให้เซ็กซี่ไม่หนักหนาหรอก ยังไงก็ดีกว่าที่ฉันจะไปเป็นเด็กเสิร์ฟ ที่ต้องเปลืองตัวให้ผู้ชายทั้งไทยและเทศมาลูบคลำ

จะว่าไปฉันก็ให้ลูบๆ คลำๆ บ้างล่ะนะ แต่นั่นก็มีลิมิตและก็ตามจำนวนเงินค่าจับแต่ละครั้งด้วย ใครให้มากก็ได้จับจุดที่ต้องการ แต่ก็แค่จับล่ะนะ เพราะฉันยังไม่เคยตกลงปลงใจกับลูกค้าสักคน และคงเป็นบุพเพอาละวาดที่ทำให้ฉันกับเคิร์กมาเจอกัน

ฝรั่งตัวสูงใหญ่เหมือนยักษ์ที่มานั่งจ้องฉันอยู่ทุกคืน เขาจ้องอย่างเดียวจริงๆ ค่ะ เพราะฉันกับเขาไม่เคยได้พูดอะไรกันเลย ก็เขาไม่ได้เรียกฉันนี่คะ แค่มองและก็ฝากทิปไว้เท่านั้น แต่ทิปหนักคืนละหมื่นก็ทำให้ฉันหวั่นไหวพอตัวเชียวล่ะ

คุณคิดดูสิ ฝรั่งบ้าที่ไหนจะมาฝากทิปให้ฉันทุกวันโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน แต่เคิร์กเป็นแบบนั้นจริงๆ ค่ะ จาก 1 วัน ก็เพิ่มเป็น 1 สัปดาห์ นั่นก็ทำให้ฉันเสียสมาธิในการเต้นไปมาก เพราะเงิน 7 หมื่นบาท ที่ฉันเอามาโปรยบนเตียงนอนทำให้ฉันมีความสุขจริงๆ

เคิร์กยังคงมานั่งจ้องฉันทุกวัน จนบรรดาเพื่อนสาวนักเต้นของฉัน เชียร์ให้ฉันเข้าไปคุยกับเขาก่อน เพราะทุกคนอยากรู้ว่าทิปหนักอย่างนี้เขาหวังอะไรหรือเปล่า หรือจะเก็บเอาไว้ทบต้นทบดอกคราวหลัง ก็ให้บอกกันมาตรงๆ ฉันจะได้เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ว่าอาจต้องเจอกับของใหญ่สักวัน

แต่หัวเด็ดตีนขาดยังไงฉันก็ไม่คุยก่อนหรอกค่ะ แม้จะอยากรู้มากกว่าใครก็ตาม เพราะภาษาอังกฤษงูๆ ปลาๆ อย่างฉันจะไปคุยกันรู้เรื่องได้ยังไงล่ะ และที่สำคัญฉันขอกินแค่แตงกวาจิ้มน้ำพริก มากกว่าจะกินแตงล้านลูกใหญ่ขนาดนั้น เพราะหากเขาใหญ่ตามที่ฉันคาดคิดไว้จริง นั่นอาจเป็นของแสลงของฉันก็ได้

แต่ก็คงเป็นบุพเพฯ จริงๆ นั่นแหละ เพราะสุดท้ายแล้วเขาก็เป็นฝ่ายมาคุยกับฉันก่อน ภาษาไทยกระท่อนกระแท่นที่เขาจดใส่กระดาษเป็นภาษาคาราโอเกะและนำมาพูดกับฉัน นั่นทำให้ฉันประทับใจที่สุด และฉันก็ได้รู้ว่าที่เขาไม่พูดกับฉันเลย เพราะรู้ว่าคงคุยกันไม่รู้เรื่องน่ะสิ เขาเลยไปซุ่มเรียนภาษาไทยแบบเร่งด่วน! เพื่อที่จะได้คุยกับฉัน

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ชนิตร์นันท์

ข้อมูลเพิ่มเติม
คนงานบ้านนายฝรั่ง

คนงานบ้านนายฝรั่ง

โรแมนติก

5.0

หากนาไม่แล้ง ข้าวไม่แห้งตาย ‘เดช’ ก็ไม่คิดจะหอบเอา ‘ฟ้า’ เมียรักเข้ามาทำงานในเมืองกรุง แต่ความจนทำให้เลือกไม่ได้ และงานดี เงินดี เจ้านายเห็นใจ ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ทว่า... หากรู้ว่ามาแล้วจะต้องเสียเมียให้นายฝรั่ง เดชเลือกที่จะไม่มาเสียยังดีกว่า แต่... เสียแล้วคือเสียเลย สิ่งเดียวที่จะชดเชยความแค้นก็คือ ‘เมียนาย’ คุณผู้หญิงเร่าร้อน เร่งเร้า รุนแรง และมากครั้งเท่าที่ต้องการ เดชไม่รู้แล้วว่านั่นคือการแก้แค้นหรือรางวัล +++++ ‘เดช’ พา ‘ฟ้า’ เมียรักมาทำงานที่บ้านนายฝรั่ง แต่ ‘คริส’ นายฝรั่งกินเมียเขาไปแล้ว และยังเอาดุ้นยาวใหญ่มาล่อให้ฟ้าติดใจ จนฟ้ากินไม่อิ่มไม่พอ อยากได้อะไรที่เทียบเท่า เขาก็เลยแอบกิน ‘โรส’ เมียของนายฝรั่ง แก้แค้นให้สาสม แต่แค้นช่างแสนหวานและฉ่ำชุ่ม จนเขาต้องกินซ้ำๆ ยิ่งได้กินพร้อมๆ กับพี่โชค เขาก็ยิ่งเมามัน และแน่นอนว่าโรสชอบ ในขณะที่นายฝรั่งกระหยิ่มยิ้มที่ได้กินเมียเขา เดชกลับสุขและยิ้มกว้างยิ่งกว่า เพราะเขาได้กิน ‘คุณหนูแพทตี้’ คุณหนูช่างร่านร้อนไม่ต่างจากแม่ แน่นอนว่าเขาชวนพี่โชคมากินด้วย

รักต้องห้าม

รักต้องห้าม

โรแมนติก

5.0

รักต้องห้าม เป็นนิยายที่ขับเคลื่อนด้วยความรักและเซ็กซ์! ประเภทที่ว่า ‘รักแล้วทำอะไรก็ไม่ผิด’ หรือ ‘ด้วยความสมยอม’ ‘นิชชา’ หญิงสาวที่มีความหลงใหลให้กับคนที่ไม่คู่ควร ทว่า... หากใจมันหลงไปแล้ว หล่อนจะทำยังไง ถอยห่าง หรือ ก้าวเข้าหา ในเมื่อหัวใจร่ำร้อง และ กายเนื้อต้องการ +++++ ‘นีรนุช’ ลูกสะใภ้ตระกูลใหญ่ที่สามีไม่ค่อยมีเวลาให้ แต่หล่อนก็พยายามเป็นสะใภ้ เป็นเมีย และแม่ที่ดีของลูก ทว่าสิ่งที่พลาดไปแล้วหล่อนกลับลืมไม่ได้ มันฝังใจ ลึกแน่น และพร้อมจะเรียกร้อง +++++ ‘นันทิยา’ ม่ายสาวไฮโซ ตั้งแต่สามีตายจาก หล่อนไม่คิดจะแต่งงานใหม่ เพราะไม่อยากให้ใครมาทำลายความทรงจำดีๆ ของหล่อนกับสามี แต่ความอยากที่ไม่ปรานีใคร ก็ทำให้นันทิยาร้อนรุ่ม +++++ ‘มีนา’ เข็ดกับรักครั้งแรกจนไม่คิดจะมีใครอีก แต่แล้วความรักก็หวนมาให้เจ็บแสบและซาบซ่าน และครั้งนี้ไม่ได้มาเพียง 1 แต่มาถึง 2 หล่อนควรทำอย่างไร ในเมื่อคนหนึ่งก็รัก แต่อีกคนก็หวั่นไหว

หนังสือที่คุณอาจชอบ

บังเอิญหรือพรหมลิขิต

บังเอิญหรือพรหมลิขิต

Irita Sarkar
5.0

เธอเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่ต้องประสบเคราะห์กรรมสูญเสียแม่ไปตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่มีวันอยู่เป็นสุขเลย พ่อแท้ ๆ และแม่เลี้ยงของเธอบังคับให้เธอแต่งงานกับชายที่เธอไม่รักแทนน้องสาวต่างมารดาของเธอ เธอไม่ยอมแพ้ต่อชะตากรรมของตน ในวันแต่งงาน เธอหนีออกจากบ้านไปและได้มีอะไรกับชายแปลกหน้าคนหนึ่งในคืนนั้น หลังจากนั้นเธอก็พยายามจะหนีไปแต่สุดท้ายก็ถูกพ่อเธอหาจนพบ และหนีไม่รอดชะตากรรมที่จะต้องแต่งงานแทนน้องสาว เธอจะพบว่าชายที่เคยมีอะไรกับเธอในคืนนั้นก็คือสามีของเธอหรือไม่ และเขานั้นจะรู้ว่าเธอเป็นแค่เจ้าสาวปลอมหรือไม่ ตลอดจนความลับเบื้องหลังของสามีคนจนจะเป็นเช่นไร ติดตามไปด้วยกันเลย

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

เมียแต่งท่านประธาน [ตอนง้อเฮียหอนหนักม้าก]

เมียแต่งท่านประธาน [ตอนง้อเฮียหอนหนักม้าก]

สนพ. อิ่มรัก
5.0

ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

มาชาวีร์
4.4

เมื่อยมทูตหน้าใหม่ดึงวิญญาณมาผิดดวง เพื่อรักษาไว้ซึ่งสมดุลของโลกวิญญาณ หลินลู่ฉีผู้มีปราณมงคลในยุคปัจจุบัน จึงถูกส่งไปยังต่างโลก สวมร่างเด็กน้อยวัยสามขวบ ที่เพิ่งถูกงูกัดตายด้านหลังอารามเต๋า เจ้าอาวาสไม่อาจยอมรับวิญญาณสวมร่างได้ แต่เมื่อขับไล่วิญญาณร้ายออกจากร่างกายไม่ได้ จึงจำเป็นต้องขับไล่คน ออกจากอารามแทน ++++ "อนิจจาวาสนาเด็กน้อยได้ดับสิ้นลงแล้ว จี้คงเตรียมพิธีสวดส่งวิญญาณให้นางเถอะ" นักพรตเฒ่าสั่งการลูกศิษย์ตัวน้อย หันหลังหมายจะเดินกลับไปยังที่พักของตน "ขอรับท่านอาจารย์" จี้คงขานรับคำสั่ง หันไปเตรียมสิ่งของสำหรับทำพิธีสวดส่งวิญญาณผู้ตาย ทว่าผ่านไปเพียงอึดใจเดียว "อ๊ากกก ! มีผี !" เสียงกรีดร้องดังลั่น ร่างเล็ก ๆ ของเขาวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นอาจารย์ "จี้คงมีอะไร" "นะนางลืมตาขอรับท่านอาจารย์" เด็กน้อยชี้นิ้วสั่น ๆ ไปที่ศพบนพื้น "ว่าอย่างไรนะ" นักพรตเฒ่ารีบตรงไปคุกเข่าอยู่ด้านข้างศพ เห็นเปลือกตาของนางขยับไปมา ก่อนจะปรือลืมขึ้นอย่างลำบากยากเย็น "นี่มัน...เป็นไปไม่ได้" รีบคว้าข้อมือของเด็กน้อยมาจับชีพจรดู ดวงตาของนักพรตเฒ่ามืดมนลงในทันที แตะนิ้วทำนายชะตา นี่มันคือการสลับร่างเปลี่ยนวิญญาณ ดึงตัวลูกศิษย์ถอยหลังไปสามก้าว "ผีร้ายตนไหนกล้ามาสวมร่างคนตาย จงออกไปเสีย !" ผีร้ายที่ว่ากำลังมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า จำได้ว่าเธอกำลังขับรถกลับบ้าน ใช่แล้ว เกิดอุบัติเหตุขึ้น มีรถบรรทุกเสียหลัก พุ่งมาชนรถของเธอ จากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบไป ท่าทางเหม่อลอยไร้สติของนางทำนักพรตเฒ่าหวาดระแวงในทันที เตรียมหยิบยันต์ป้องกันภูตผีออกมา ขณะที่เด็กน้อยยกฝ่ามือของตัวเองขึ้นเพ่งมองอย่างประหลาดใจ ดวงตาคู่กลมน้อยกลอกกลิ้งไปมาอย่างสับสน นิ้วมือสั้น ๆ นี่มันอะไร ขยับปลายเท้าเข้าหากัน ขาก็สั้น พลิกฝ่ามือตัวเองไปมา สีหน้าคล้ายคนอยากร้องไห้ นี่มันโลกถล่มใส่หัวของเธอหรืออย่างไรกัน เปรี๊ยะ ! ยันต์ขับไล่ภูตผีถูกปาใส่นางสุดแรง ก่อนที่มันจะปลิวร่อนลงไปกองอยู่บนพื้น ยันต์ไม่เกิดการเผาไหม้ ผีร้ายยังคงอยู่ในร่างกายของเด็กน้อย "เจ้า ๆ ๆ ออกไปจากร่างของนางเดี๋ยวนี้ !" นักพรตเฒ่าชี้นิ้วพร้อมดึงยันต์สายฟ้าฟาดออกมาอีกแผ่น นี่นับเป็นยันต์ที่ทรงพลังที่สุดของเขาแล้ว รีบปาใส่เด็กน้อยสุดแรง เปรี๊ยะ ! ทว่าไร้ผลอยู่ดี... ตาเฒ่านี่เล่นตลกอะไรกัน... [นิยาย3เล่มจบ 252ตอน]

พระชายาของข้าคนเดียว

พระชายาของข้าคนเดียว

Daryl Tudge
5.0

เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ